ความคิดเห็นที่ 1 ตื่นได้แล้วครับ เช้าแล้ว จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 1 มี.ค. 52 08:45:18 A:125.27.163.184 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทักษิณไม่มีวันรีเทิร์นแล้ว  ยอมรับความเป็นจริงเถอะ จากคุณ : ดับอนาถ - [ 1 มี.ค. 52 08:58:29 A:125.24.47.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทันทีที่มีการยึดอำนาจโครงการแรกที่ถูกยกเลิก คือ โครงการ กรอ. กองทุนเพื่อการศึกษาผูกติดกับรายได้ในอนาคต ภายใต้นโยบายโครงการ หากอยากเรียน เรียนได้ ต้องได้เรียน เยาวชนของเราทุกคนหากมีศักยภาพทางสมองที่จะเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ จะมีโอกาสได้เรียนทันที โดยกู้ยืมเงินมาเรียน เมื่อเรียนจบไปทำงานมีรายได้ถึงเกณฑ์ 15,000 บาท จึงเริ่มหักเงินชำระหนี้...โครงการนี้ใช้เงินหมุนเวียนกองทุนใน 5 ปีแรกประมาณ 70,000 ล้านบาทต่อปี หากโครงการนี้ดำเนินต่อไปเยาวชนไทยก็ไม่ต้องไปรอเมตตาจากทุนนั่น ทุนนี่ อีกต่อไป...แต่ถูกยกเลิกโครงการทันทีโดยรัฐอำมาตย์อ้างว่าไม่มีเงินงบประมาณ ทั้งๆที่ใช้เงินไม่ถึง 1% ของงบประมาณ แค่ตัดงบซื้ออาวุธเพียงเล็กน้อยก็ทำโครงการนี้ได้แล้ว...แต่ที่ต้องล้มโครงการเพราะรับไม่ได้กับการที่ลูกชาวบ้านจะได้โอกาสทางการศึกษา เท่าเทียมกับชนชั้นสูง โดยที่อำมาตย์ไม่ได้รับบุณคุณจากลูกชาวบ้านเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าโครงการนี้ดำเนินไป บรรดาทุนทั้งหลายก็หมดความหมาย ไม่มีลูกคนยาก คนจน ไปกราบกรานร้องขออีกต่อไป.....และโครงการ นร.ทุนนั่น ทุนนี่ จึงกลับมามีบทบาทในแวดวงการศึกษาอีกครั้ง หลังยกเลิกโครงการ แต่มีเด็กเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นที่ได้รับโอกาส และที่สำคัญต้องแบกบุณคุณเจ้าของทุนทั้งหลายไปทั้งชีวิต ที่แหละคือสิ่งที่สังคมอำมาตย์ปราถนา จึงไม่แปลกใจที่ทักกี้ คือ คนเลวในสายตาของคนเหล่านี้ เลวเพราะคิดไปให้โอกาสกับลูกชาวบ้าน มาเท่าเทียมกันกับชนชั้นสูง....เลวจริงหรือ? จากคุณ : tumtungkha - [ 1 มี.ค. 52 09:04:18 A:125.24.20.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วย ท่านทำให้คนจนมีโอกาสต้องกำจัดทิ้ง(มือที่มองไม่เห็น) จากคุณ : คนบางรัก (sengw) - [ 1 มี.ค. 52 09:13:36 A:58.8.19.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ท่านทักษิณจะกลับมาหรือไม่ มิสำคัญ แต่ประชาชนต้องเป็นใหญ่เท่านั้นเราถึงจะได้ประชาธิปไตยคืนมา คห1และ2 จริงไหม หรือคุณอยากเป็นทาสก็จงอยู่แบบเดิมๆๆแต่ผมไม่ผมจะต่อสู้เพื่อลูกหลานในยุคต่อไปจะได้เป็นไทเสียที จากคุณ : คนบางรัก (sengw) - [ 1 มี.ค. 52 09:19:46 A:58.8.19.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 พวกที่พอใจกับสภาพไพร่ทาส ในเวลานี้มีสองแบบครับ 1. ได้รับประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม ในสภาพเช่นนี้ เช่น การเอื้อประโยชน์ในธุรกิจระหว่างสกุล "อ๋อ" ด้วยกัน หรือคนรับใช้บางคน ที่ได้รับสิทธิ์พิเศษในสังคม เนื่องจากสภาพการเป็นคนใช้-คนใกล้ชิด 2. พวกรังเกียจความเปลี่ยนแปลง คิดกันอยู่เรื่อยว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว จะเปลี่ยนไปทำไม ถือว่าโชคดีนะครับที่พวกนี้เกิดมาเป็นคนแล้ว ไม่งั้นถ้าเกิดเป็นละมั่ง กระซู่ โคไพร ก็คงจะลำบากหน่อย เพราะพอใจจะกินหญ้าเช่นนี้ไปชั่วชีวิต แต่ทั้งนี้ ก็อย่าไปว่าเขาเลยครับ คนเราทุกคนมีความคิด ความเชื่อเป็นของตัวเอง เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ดังคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ว่าใดๆ ในโลก ล้วนอนิจจัง ... ผมเชื่อเสมอครับ โลกจะต้องวิวัฒน์ไป สังคมจะต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป ถ้าฝืนไม่ให้มันพัฒนา ที่สุด เขื่อนแตก มันจะเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และรุนแรง อย่างที่เขาเรียกว่า Revolution น่ะครับ หมายเหตุ: นิยาม คำว่าสกุลอ๋อ คือหมายความว่า ถ้าพูดนามสกุลนี้ปุ๊บ ทุกคนรู้จัก อาทิ พวก "ณ." ทั้งหลาย แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 09:32:52 จากคุณ : BigBertha - [ 1 มี.ค. 52 09:31:15 A:124.120.168.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปัจจุบันนี้ก็มีอยู่นี่ครับเวินกู้ยืม ส่วนไปต่างประเทศก็สมควรยกเลิกเถอะ เอาเงินของรัฐบาลไปให้ผู้ที่ไม่มีเงินกู้ยืมดีกว่าไปใช้ศึกษาที่ต่างประเทศ และไม่จำเป็น ที่สำคัญความเป็นทักษิณ เข้าตาจนมืดมัวไม่เห็นความดีของคนอื่นบ้าง ดูอย่างข้างล่างเป็นตัวอย่าง โครงการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นโครงการที่ริเริ่มจาก รัฐบาลของนายชวน ตามมติ ครม วันที่ 28 มีนาคม 2538 ครับ แล้วทักษิณเอามาลอก     เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2538 คณะรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี) มีมติ เห็นชอบในหลักการ โครงการจัดตั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยมีหน่วยงานหลัก ที่รับผิดชอบ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และ ทบวงมหาวิทยาลัย โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้บริหาร และจัดการเงินให้กู้ยืม และเริ่มให้นักเรียน นักศึกษา กู้ยืมได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2539 เป็นต้นมา บนพื้นฐานของหลักการว่า               "เพื่อให้เงินกู้ยืมแก่ นักเรียน นักศึกษา ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย สำหรับศึกษาต่อ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทั้งสายสามัญและสายอาชีวะ) จนถึงระดับปริญญาตรีในประเทศ รวมทั้ง การศึกษานอกระบบต่อเนื่องจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรและประเภทที่กระทรวงศึกษาธิการ กำหนด โดยนักเรียน นักศึกษาจะต้องชำระคืน พร้อมดอกเบี้ยอัตราต่ำ เมื่อจบการศึกษาแล้ว"               ภายหลังเมื่อรัฐเห็นความสำคัญ ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มากขึ้น จึงได้ออกพระราชบัญญัติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 และจัดตั้งสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ส่งผลให้การดำเนินงาน กยศ. มีความมั่นคงถาวรขึ้น วัตถุประสงค์ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา               1. เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แก่ผู้ที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย ซึ่งด้อยโอกาสทางการศึกษา อันจะมีส่วนสำคัญในการยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นการสนองตอบต่อนโยบายการกระจายรายได้               2. เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการศึกษาทางด้านอุปสงค์ โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการ รับภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของประชาชน ที่มาครับ http://www.studentloan.ktb.co.th/thai/about-gsl/main-about-bdu.htm จากคุณ : Pakpow - [ 1 มี.ค. 52 10:11:10 A:115.67.19.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอแล้วที่เอาสมบัติชาติไปขาย เอาเงินของชาติให้พม่ากู้ซื้อสินค้าของบริษัทนายกฯ เอาเมียมาซิกแซ็กซื้อสมบัติชาติ จนติดคุกเนี่ย ทำไมไม่พูดถึง...................... จากคุณ : Coppergold - [ 1 มี.ค. 52 10:18:15 A:124.121.85.251 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ทักษินผิดเพราะเค้าทุจริตการเมืองเพื่อผลประโยชน์พวกตัวเองครับ คนเค้าไม่ได้ทํารัฐประหารเพราะหมั่นไส้ในการทําความดีของเค้าหรอก จากคุณ : Bluesoda เปริ๊ยวจิ๊ด - [ 1 มี.ค. 52 10:20:00 A:125.24.205.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ท่าน คห. ที่ 7 ครับ กยศ.เป็นกองทุนที่มีตรรกะผิดอย่างสิ้นเชิง และทารุญมาก คุณไปศึกษาดีก่อนค่อยมาออกความเห็น ไปดูซิครับมีทฤษฎีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอะไรที่เยาวชนกู้เงินเพื่อการศึกษาแต่ต้องมาจบที่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถชำระหนีการศึกษาได้ตามกำหนด ทำเป็นกองทุนไฟแนนท์ไปได้...ตรรกะพื้นฐาน...คนมีฐานะไม่มีใครมากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของลูกหลานหรอกครับ ที่ต้องกู้เพราะลูกหลานมีความสามารถ แต่ขาดเงินทุน (ต้นทุนการศึกษาประเทศนี้สูงเหลือเกิน) จึงต้องกู้เพื่อมาเรียน เมื่อเรียนจบแล้วไม่มีใครสามารถการันตีได้หรอกครับว่าจะมีงานทำ และรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตนเอง ครอบครัว และชำระหนี้เพื่อการศึกษาขณะเรียน...เมื่อหารายได้มาชะหนี้ไม่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะถูกกดดัน ฟ้องร้อง ดำเนินคดี เพียงเพราะเป็นลูกหลานชาวบ้าน แต่ดันทลึ่งมากู้เงินเรียน แล้วไม่มีปัญหาใช้หนี้ใช่ไหม...ต่างกับแนวคิด กรอ.อย่างสิ้นเชิง จากคุณ : tumtungkha - [ 1 มี.ค. 52 10:27:12 A:125.24.20.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ตรูได้ประโยชน์จากรัฐบาลทักษิณมากที่สุดเกิดมา เกือบ 40 ปี มีรัฐบาลทักษิณดี่ที่สุด คนมันอิจฉาเลยหาเรื่องกลัวหมดวาสนากลัวคนไม่มาประจบประแจง  ถ้าเขาโกงทำไมฐานะเราดีขึ้น  ตอนนี้กำลังแย่วะ0 จากคุณ : dreamkururat - [ 1 มี.ค. 52 10:29:59 A:125.24.5.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตั้งกระทู้ ยังงี้ คิดยังงี้ เมื่อไหร ก็ ไม่สามารถ ส่งลูก ไป เรียน เมืองนอก หรอก ประเทศชาติ บอบช้ำมาเยอะ แล้ว มองโลก แบบ เข้าใจ ซะ บ้าง จากคุณ : คนไทย ในอินโดฯ - [ 1 มี.ค. 52 10:31:23 A:125.167.218.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา รัฐบาล ปชป.สมัยคุณชวนเป็นนายกนำมาใช้ครั้งแรก อย่าขี้ตู่อีกเลย รวมทั้งเงินยังชีพผู้สูงอายุ อาหารกลางวัน นมโรงเรียน เกิดสมัยชวนเป็นนายกนะ ช่วยจำบ้าง ไม่ใช่ของเทพทักษิณ คนเดียว นะครับ จากคุณ : มัสแตง - [ 1 มี.ค. 52 10:41:50 A:222.123.44.245 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไหนๆ ก็ไหนๆ ว่ากันต่อเลยล่ะกัน ท่าน คห.ที่ 8 ...ขายสมบัติชาติ ขายอะไรหรือครับ ที่ขายนั่นน่ะหุ้นในบริษัท ของครอบครัว และทุกวันนี้บริษัทก็ยังเป็นบริษัทของไทยอยู่นี่ครับ ไม่ได้แปลงสัญชาติไปไหนนี่...ที่น่าแปลกก็คือ คุณบุญชัย ขาย ดีแทค ปกติ ตระกูลชินของชินคอร์ป ขายชาติ....งง ครับ...ให้พม่ากู้น่ะครับ ย้ำว่าให้กู้ไม่ได้ให้เปล่า...หรือว่าการให้กู้เลว แต่ไปขอกู้ ดีเลิศ กันครับ...เมื่อกู้ไปแล้วก็เป็นสิทธิของเค้าในการพัฒนาโครงการ และบางส่วนเค้านำไปพัฒนาด้านสื่อสารโทรคมนาคม เค้าซื้อสินค้าต้นทุนทางไทยก็ถูกแล้วนี่ครับ หรือจะให้กู้เงินจากไทย แล้วไปซื้อของสิงคโปร ท่าน จขกท.จึงจะพอใจ (พม่าไม่ได้โง่เหมือนบางรัฐบาลในอดีตแถมสารขันฑ์นี่ครับที่กู้เงินต่างประเทศมาถากหญ้า)....เมียซิกแซกซื้อที่ดิน...ซิกแซกยังไงหรือครับ ก็เห็นเข้าประมูลซื้อปกติอย่างเปิดเผย รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อประมูลซื้อได้ก็ต้องไปโอนที่ดิน กฎหมายที่ดินบอกกรณีสมรส การทำนิติกรรมที่ดินต้องได้รับยินยอมจากคู่สมรส ก็แค่นั้น ผิดถึงต้องติดคุกกันเลย ไม่รู้สึกแปลกใจบ้างหรือครับ...ผิคจริยธรรมสรรหากันไปได้...แปลกดีไม๊ไม่มีกฎหมายห้ามเค้าประมูลซื้อ พอประมูลชนะไปโอนที่ มีกฎหมายบอกคู่สมรสต้องยินยอม พอคู่สมรสยินยอม บอกผิดจริยธรรมจำคุก 2 ปี ต้องอย่างน้าชวน น้าเทพ น้าหยัด ถึงจะมีจริธรรมงดงาม ไม่ต้องแสดงหลักฐานคู่สมรส เป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี...ใช่หรือไม่ จากคุณ : tumtungkha - [ 1 มี.ค. 52 10:47:56 A:125.24.20.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 กยศ...เกิดในสมัยบรรหารเป็นนายก เป็นกองทุนที่แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ไปสร้างปัญหาใหม่ กรอ....เป็นกองทุนในสมัยทักษิน เป็นโครงการที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงกับปัญหาที่สุด ถูกยกเลิกในสมัยสุรยุทธ จากคุณ : tumtungkha - [ 1 มี.ค. 52 10:52:49 A:125.24.20.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทักษิณผิด2ปี เพราะแสดงตัวว่าเป็นสามียอมให้เมียซื้อที่ดินที่ไม่ใครผิดไม่ใครเสียประโยชน์ แต่ทักษิณผิดคนเดียวต้องตามล่านำมาลงโทษ แต่โกงที่ดินป่าสงวนยายเที่ยง กลับมาได้ดีเหมือนเดิม จากคุณ : ขนมสาคู - [ 1 มี.ค. 52 11:04:23 A:124.120.7.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท ครับ ที่ผ่านมามีทุนไปต่างประเทศที่ทำให้ลูกรากหญ้าอย่างเพื่อนผมหลายคนไปเรียนเมืองนอกมาเยอะแล้วครับ กลับมาก็เจริญก้าวหน้ากว่าผม ไม่เพิ่งมีแค่ยุคทักษิณหรอกครับ ถ้าจะเอากันจริงๆผมว่าการศึกษามันแย่มานานแล้ว และยิ่งมายุคทักษิณ มีการเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย การเปลี่ยนแบบเรียน มันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่นโยบายเรียนใกล้บ้านแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นของใคร รัฐไม่ยอมรับความจริงว่าไม่มีปัญญาให้การศึกษาทุกคนจนถึงมหาวิทยาลัยได้ ดังนั้นทุกคนต้องพยายาม แค่การศึกษาพื้นฐานก็ไม่สามารถทำให้มีมาตรฐานเท่ากันก่อนถึงระบบแข่งขันได้ก็แย่แล้ว ยังจำได้ว่าเคยออกทีวีเป็นรายการเถียงกับเด็กว่าการศึกษาแต่ละโรงเรียนมาตราฐานเท่ากันหรือป่าว แล้วก็หาว่าเด็กคิดไปเอง ไอ้พวกงี่เง่าที่ออกรายการนั้นก็ยังรับราชาการต่อไปได้นั่นแหละที่วิบัติ ผมคงไม่ต้องบอกว่าสมัยรัฐบาลใครนะครับ เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นอะไรที่ดี แต่ควรมีการควบคุมค่าเล่าเรียนด้วย นี่กลายเป็นว่ากลายเป็นการค้าการศึกษา แล้วให้คนกู้มาเรียน ตลกครับ หลอกให้เป็นทาสตั้งแต่ยังไม่จบ มันจะต่างอะไรกับบัตรเครดิต ไม่ใช่ว่าพอมีให้กู้แล้วคิดแพงๆ แล้วผมจำได้ว่าทักษิณเป็นคนแรกๆที่บอกว่าเรียนฟรี 15 ปีเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : ยอดมือปราบ - [ 1 มี.ค. 52 11:05:26 A:192.168.50.34 X:58.8.85.169 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เฮ้อ อะไรก็ทักษิณ ๆๆ  สงสัยที่บ้านใส่กรอบรูปแล้วกราบไหว้วันละหลายๆหนมั๊ง   อะไรก็ไม่รู้ แต่ยุคทักษิณเป็นยุคที่สร้างกระแสการไม่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหาษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง อันนี้รับไม่ได้จริงๆ จากคุณ : บลูเจ - [ 1 มี.ค. 52 11:51:15 A:117.47.210.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมละเบื่อพวกที่ถูกล้างสมองมาแบบนี้ ผมจะบอกให้นะครับ คนเป็นยอดหญ้า(คนมีฐานะดี มีหน้าที่การงานดี อยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียงในสังคม) นะเขาจะไปกังวลทำไมที่รากหญ้าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นใครก็อยากอยู่ในสังคมที่ปลอดภัย สงบสุขทั้งนั้นละครับ คนที่เป็นยอดหญ้า เขามีโอกาสผ่านชีวิตในประเทศที่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เขารู้อยู่ครับว่าเมื่อไรรากหญ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น เขาก็จะสุขมากขึ้นด้วย เขาต้องการอยู่บ้านที่ไม่มีเหล็กดัด ไม่มีรั้วทึบ หรือกระทั่งไม่มีรั้วเสียด้วยซ้ำ จะไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องกังวลถูกจี้ ปล้น ปาหินใส่รถ ส่วนถ้าจะมองแบบคนขี้อิจฉาจริงๆ กลัวรากหญ้าจะมาเสมอตน ผมบอกให้นะครับ ใครคิดว่าแค่ได้ไปเรียนต่อนอกแล้วจะไล่ทันเศรษฐีกันง่ายๆ มันคงเป็นได้สัก ๑ ในร้อย ทุกวันนี้เด็กบางคณะในมหาลัยดังๆ ไปต่อนอกราวครึ่งคณะเสียด้วยซ้ำมัง จะเป็นนักธุรกิจใหญ่ถ้าครอบครัวไม่มีฐานทางธุรกิจคงไม่ง่าย จะเป็นนักการเมืองใหญ่ถ้าครอบครัวไม่มีฐานทางการเมืองก็คงไม่ง่าย จะเป็นข้าราชการใหญ่ถ้าไม่มีฐานทางอะไรสักอย่างก็คงไม่ง่าย ไม่มีใครเขาอิจฉารากหญ้าหรอกครับ แต่ยอมรับว่ายอดหญ้าเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้จ่ายเงินประชานิยมแบบนี้ของนายกทักษิณ มี ๒ ประเด็น ๑. การส่งเด็กไปเรียนระดับมัธยมในต่างประเทศ ลูกผมเองผมยังไงก็ไม่ส่งไป ความเสี่ยงมันมาก โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกแบบนายกอภิสิทธิ์คงไม่มีทางง่ายๆ อยู่เมืองนอกขนาดลูกคนรวยยังมีปัญหาทางสังคมมาก แถมทุนของนายกทักษิณยังให้ไปประเทศแบบเยอรมันที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษอีกต่างหาก ๒. การใช้เงินให้คุ้มค่า ผมพูดมาตลอดว่าถ้าจะส่งใครไปเรียนต่อนอก ต้องมองครูก่อน ทำไมไม่ให้ทุนครูให้เพียงพอก่อน แล้วค่อยลงไปถึงเด็ก ส่วนเรื่องทำมาหากิน ใครที่คิดว่ายอดหญ้า จะอิจฉาเงินกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน หรืออะไรทำนองนั้นก็บ้าแล้ว หารไปหารมาตกได้คนละไม่กี่หมื่น แถมเป็นเงินกู้อีกต่างหาก ยังไม่พอค่าไวน์ดีๆสักขวด เขาออกมาค้านก็เพราะห่วงว่ามันจะไปสร้างหนี้ให้ชาวบ้านซะมากกว่า ตอนนี้ใครที่กู้อยู่ก็คงตอบได้ ว่าตอนนี้ที่กู้ไปมันงอกเงยขึ้นมา หรือกลายเป็นหนี้มากกว่าเก่า ผมเองนะดูอาจสามารถ เห็นตอนนายกทักษิณหน้าหงาย ที่ชาวนาคนหนึ่งบอกว่าไม่เอาแล้ว หนี้เก่ายังไม่หมดเลย เมืองไทยนะ ไม่ใช่บังคลาเทศ ชาวนาส่วนใหญ่เข้าถึงแหล่งทุนอยู่แล้ว ทุกวันนี้ที่มาประท้วงที่ทำเนียบ หนี้ตกคนละเป็นแสนเป็นล้านทั้งนั้น ถมเงินกู้เข้าไป ถ้าไม่มีอะไรรองรับ ทั้ง โครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ำ ถนน ตลาด เทคโนโลยี ก็เหลือแต่หนี้ แต่ก็เข้าใจครับ ตอนนี้ก็ต้องล้างสมองกันแบบนี้ คนไล่นายกทักษิณตอนแรกก็ต้องโทษว่าเป็นพวกค้ายาบ้า หวยใต้ดิน พอคนมันเยอะขึ้น ไม่รู้จะโทษอะไรก็ว่าเป็นพวกขัดผลประโยชน์ธุรกิจ ราชการ ศาสนา พอคนมันเยอะขึ้นไม่รู้จะโทษอะไร ก็พาลมาเป็นเรื่องของชนชั้น มีสติเสียบ้างเถอะครับ คนเขารังเกียจนายกทักษิณไม่จบไม่สิ้น เพราะเรื่องแบบนี้ละครับ ไม่เคยดูว่าตัวเองผิดอะไร แถมปล่อยให้คนเชียร์ แต่งนิยายตอกลิ่มให้บ้านเมืองแตกแยก ไม่เคยห้ามปรามหรือทำความเข้าใจกับสังคม จากคุณ : Pom.com - [ 1 มี.ค. 52 12:11:20 A:124.120.218.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนไทยควรเบิก...ตา   เหนด้วยคะ   ผลงานเข้าตาประชาชนชาวรากหญ้า มากเกินไป เปนที่ไม่ปลื้มมากมาย............... ปล.   นู๋ไม่อยากเปนหนี้  จากมาร์คกู้ จากคุณ : ยัยโหดโครตน่ารัก - [ 1 มี.ค. 52 12:58:39 A:172.168.1.196 X:58.9.229.81 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #19 ยอดหญ้าส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความลำบากของรากหญ้าไงล่ะครับ ผมเจอมาเยอะ เพราะเคยอยู่ในสังคมทั้งสองแบบมีเพื่อน ทั้งรวยสุดๆแบบขับรถคันละหลายๆล้านใหม่เอี่ยมมาเรียนหนังสือ และจนสุดๆชนิดว่าต้องรับจ้างทั่วไปได้เงินเดือนนึงไม่ถึงพันไม่มีเวลาไปเรียนหนังสือ เพราะไม่หากินก็อดตาย มุมมองที่ยอดหญ้า(ทั่วไป)ไม่มีวันเข้าใจ คือมักจะมองโลกเป็นปรัชญา แต่ไม่ทำจริง ชอบคำพูดสวยหรู แต่ไม่ได้ผลจริง เห็นใจแต่ไม่ลงมือทำ สุดท้ายก็ปล่อยรากหญ้าอดตายไปโดยไม่ช่วยอะไร แล้วก็บ่นว่ารากหญ้าโง่เองเลยจน รากหญ้าขาดโอกาสตั้งแต่เกิดครับ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ขยัน หรือโง่หรอก แต่เขาไม่มีโอกาสได้เข้าถึงบริการจากภาครัฐได้เท่ากับยอดหญ้า ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาดีๆในภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการศึกษา เหมือนวิ่งแข่ง 100m ยอดหญ้า start ที่เส้น +10m แล้วรากหญ้า start ที่เส้น -20m น่ะครับ คือต่อให้ขยันมากยังไง ช่องว่างก็ยังเยอะมาก แถมรากหญ้าโดนบังคับให้วิ่งเท้าเปล่าแถมเลนมีกรวด ในขณะที่ยอดหญ้าใส่ Nike running shoe อย่างดีวิ่งบนลู่ยางสังเคราะห์นิ่มๆ นโยบายให้รากหญ้ามีกินที่ยอดหญ้ามองว่าฟุ่มเฟือยนั้น หากมองลึกๆแล้ว มันเหมือนประชานิยมฟุ่มเฟือย ฟังดูไม่ปรัชญา เพราะเหมือนให้ปลากิน แต่ไม่ได้สอนวิธีจับปลา แต่ยอดหญ้ามองข้ามข้อเท็จจริงไปอย่างนึง ก็เขายังไม่มีแม้แต่ปลาจะกิน แล้วจะมีแรงไปเรียนรู้วิธีจับปลาได้อย่างไร? เด็กหาเช้ากินค่ำ ถ้าไม่หากินก็อดตาย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนหนังสือ นโยบายประชานิยมช่วยตรงนี้แหละครับ ช่วยให้เขามีิกินก่อน พอเขาไม่อด เขาก็มีแรงจะพัฒนาตัวเองด้านอื่นๆต่อไป ในขณะที่ ปรัชญาสวยหรูของยอดหญ้า ชอบคิดว่านโยบายแบบนี้ สิ้นเปลืองเงิน ต้องสอนให้จับปลาเท่านั้น สอนๆๆๆๆๆๆ สอนใครล่ะครับ? ในเมื่อคนมันไม่มีจะกินจะมาเรียนอะไรได้? นี่แหละข้อแตกต่างระหว่างยอดหญ้ากับรากหญ้ากับมุมมองของนโยบายประชานิยม และความคิดสวยหรูของยอดหญ้านี่แหละ ที่จะกดให้รากหญ้าไม่มีวันพัฒนาขึ้นมาได้ ปรัชญาสวยหรูกินไม่ได้ครับ คนกำลังอดตายเขาไม่มีแรงมาฟังคุณพร่ำสอนถึงการสอนจับปลาหรอก ต้องให้ปลาเขากินก่อน แล้วค่อยสอนจับปลาต่อไป แต่ทว่าตลอดหลายสิบปีมานี้ ไม่มีใครเคยให้ปลาเขากิน(อย่างมากก็นานๆที) และก็ไม่มีใครสอนจับปลา แล้วคุณจะมาพร่ำบ่นว่าทำไมรากหญ้าไม่พัฒนาเสียทีได้อย่างไร ก็ในเมื่อตัวคุณเองน่ะแหละ ที่ขัดขวางโอกาสพัฒนาของเขาเองด้วยปรัชญาสวยหรูฟังดูดแต่ไม่เคยได้ผลจริง เพราะไม่มีใครทำ ป.ล. ผมล่ะขำตอนที่พธม.มาชุมนุม แล้วมีคนอ้างตัวว่าชั้นสูงหน้าที่การงานดี ออกมาพูดว่า นี่ทนลำบากเสี่ยงชีวิต มาชุมนุม ทั้งๆที่ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว เพื่อช่วยชาตินะเนี่ย ฟังแล้วขำมากๆ ก็เพราะคุณมันไม่ลำบากไงเลยมาชุมนุมได้ ไอ้คนที่เขาลำบากน่ะไม่มีเวลาไปชุมนุมหรอก และความลำบากในกาีรชุมนุมแบบนั่งฟังเพลงเพราะๆ อาหารอร่อยน่ะ(แบบท่านรมต.ยืนยัน)  มันลำบากน้อยกว่าออกไปในสวนในไร่แค่วันเดียวสักสิบเท่าเลยมั๊ง ฟังแล้วก็ขำยอดหญ้าทั้งหลาย ที่หลงตัวเอง คิดว่่าลำบาำกเพื่อชาติ เหอๆ ป.ล.2 เพิ่มอีกนิด ตอนทักษิณอยู่ ผมก็ด่าเขาไว้มาก เพราะหลายๆนโยบายมันผิดเพี้ยนไปจริงๆ แต่ทว่าตอนเขาไม่อยู่มันกลับแย่กว่าเดิม มาเจอคนที่ปากพูดศีลธรรม พูดปรัชญาไพเราะติดหู กล่อมยอดหญ้าไป แต่ไม่ทำงานปล่อยรากหญ้าอดตาย มันก็เลยทำให้ผมคิดได้ไงล่ะว่า มันไม่มีใคร perfect หรอก คนก่อนแม้จะมีด้านแย่เยอะ แต่ก็ยังดีกว่าคนใหม่มากๆ คนใหม่ที่มาจากพรรคเก่าๆ ยอดหญ้าหัวโบราณ ที่ไม่เคยเข้าใจความลำบากของรากหญ้า นโยบายแต่ละอย่างออกมาดูก็รู้เลย ฟังดูสวยหรู แต่ทำไม่ได้จริง และก็แค่เลียนแบบวิธีเก่าๆเดิมๆเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่มันไม่เคยได้ผลจริง ถ้าจะบอกว่าทักกี้เป็น tyrant ผมว่าคนออกไปไล่เขาและยึดอำนาจแทนน่ะ Tyrannosaurus rex เลยล่ะครับ(เจ้าแห่งtyrant เลยล่ะ เหอๆ ขออภัยถ้าไม่เข้าใจมุก) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 13:13:23 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 13:04:35 จากคุณ : ....4จุด - [ 1 มี.ค. 52 13:00:27 A:125.24.218.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ ....4จุด ผมว่าการที่คิดว่ายอดหญ้า ไม่เข้าใจปัญหารากหญ้า เท่านายกทักษิณ มาถึงเวลานี้มันน่าจะพิสูจน์ได้นะครับ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เงินต้นบวกดอกเบี้ยที่ลงไปในกองทุนหมู่บ้านนะคุ้มแค่ไหน ลองเจาะลึกดู ผมว่าตอนนี้เกินครึ่งมันกลายเป็นหนี้ คาราคาซังอยู่ ถ้าจะแจกปลาให้กิน ผมว่าแจกทางอ้อมแบบที่ทำอยู่ ไม่ว่าประกันราคาข้าว พืชผลก็น่าจะพอสมควรแล้ว และข้อสำคัญ ถ้าจะแจกคนจนจริงๆ ก็แจกไปเลยครับ เป็นเงินเอื้ออาทรอะไรก็ว่าไป เป็นเงินกู้นี่สุดท้ายชาวนาก็มีหนี้เพิ่ม คนได้กลายเป็นคนปล่อยเงินกู้ท้องถิ่น ส่วนกลไกเงินกู้ลงทุนจริงๆ ก็ปล่อยให้ใช้กลไก ธกส. ออมสิน ที่วิเคราะห์เป็นเรื่องเป็นราว ทุกวันนี้ขนาดวิเคราะห์ก็ยังมีหนี้เสียไม่น้อย เรื่องการทำให้ประชาชนเข้มแข็งนะ วิธีเก่าๆนะ ที่ว่าใช้ไม่ได้ผล มันจริงหรือ หรือว่ามันได้ผลแต่ขาดการสนับสนุนเต็มที่ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านนะเงินมหาศาลนะครับ พันธุ์ข้าวดีๆพันธุ์หนึ่ง ใช้งบวิจัยทางตรงทางอ้อมไม่เกินหนึ่งพันล้าน การจัดรูปที่ดิน ทำคลองชลประทานเข้านา ใช้งบต่อไร่ไม่เกินไร่ละหนึ่งแสนบาท เสีย ๑๐๐,๐๐๐ ล้าน ไปเรื่องเหล่านี้กระทบมาตลอด แล้วมาถึงวันนี้ ผมพูดตรงๆ ยอดหญ้าเขาไม่สนใจแล้วครับ ว่ารากหญ้าอยากจะเอาแสนล้านต่อไปทำอะไร เพราะเชื้อประชานิยมมันเข้าสิงทุกพรรค รวมทั้ง ปชป. แล้ว ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ไม่ต้องมาแต่งนิยายว่ารังเกียจทักษิณ เพราะกลัวรากหญ้ามีชีวิตที่ดีขึ้นเลยครับ จากคุณ : Pom.com - [ 1 มี.ค. 52 13:32:21 A:124.120.217.28 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 พวกที่กล่าวหาว่าท่านผิดมีคดีไหนบ้าง4ถึง5ปียังไม่มีคดีที่พวกโจรกล่าวหาแต่อย่าเอาคดีซื้อที่ดินมาคุยมันโชวร์โง่นะเพื่อน การทำนิติกรรมสามีภรรยาต้องเซ็นต์ยินยอม มันตามกฎหมายครับ ผิดที่เป็นคนดี อยากให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ไอ้พวกศักดินามันไม่ชอบให้คนจนมีกินจะได้กดขี่ได้ เราขอเป็นไทมิขอเป็นทาส ตอนนี้มันก็เหมือนกับตอนเลิกทาสพวกทาสบางพวกคิดว่าไปไหนไม่ได้ก็อยากเป็นทาสต่อ จากคุณ : คนบางรัก (sengw) - [ 1 มี.ค. 52 14:50:56 A:58.8.19.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 10   ท่าน คห. ที่ 7 ครับ กยศ.เป็นกองทุนที่มีตรรกะผิดอย่างสิ้นเชิง และทารุญมาก คุณไปศึกษาดีก่อนค่อยมาออกความเห็น ไปดูซิครับมีทฤษฎีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอะไรที่เยาวชนกู้เงินเพื่อการศึกษาแต่ต้องมาจบที่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถชำระหนีการศึกษาได้ตามกำหนด ทำเป็นกองทุนไฟแนนท์ไปได้...ตรรกะพื้นฐาน...คนมีฐานะไม่มีใครมากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของลูกหลานหรอกครับ ที่ต้องกู้เพราะลูกหลานมีความสามารถ แต่ขาดเงินทุน (ต้นทุนการศึกษาประเทศนี้สูงเหลือเกิน) จึงต้องกู้เพื่อมาเรียน เมื่อเรียนจบแล้วไม่มีใครสามารถการันตีได้หรอกครับว่าจะมีงานทำ และรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตนเอง ครอบครัว และชำระหนี้เพื่อการศึกษาขณะเรียน...เมื่อหารายได้มาชะหนี้ไม่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ก็จะถูกกดดัน ฟ้องร้อง ดำเนินคดี เพียงเพราะเป็นลูกหลานชาวบ้าน แต่ดันทลึ่งมากู้เงินเรียน แล้วไม่มีปัญหาใช้หนี้ใช่ไหม...ต่างกับแนวคิด กรอ.อย่างสิ้นเชิง มันคนละประเด็นกันแล้วมั้งท่าน การให้ช่วยเหลือการศึกษา กับการช่วยเหลือการทำงาน แยกแยะหน่อยท่าน หากรัฐบาลให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยดอกเบี้ยร้อยละ 1 หลังจากจบแล้วรัฐบาลต้องหางานให้ทำอีก หากไม่ได้งานก็ให้เงินไปลงทุน ขาดทุนก็มีเงินกู้ให้อีก ท่านคิดว่ามันเป็นตรรกะที่ถูกต้องหรือ เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาน่ะครับ หากไม่คืนแล้วรุ่นหลังก็ต้องใช้เงินอีก ส่วนผู้ที่ไม่ได้งานทำเขาก็มีกระบวนการผ่อนผันอยู่แล้วในกรณีนี้ก็ไปแจ้งเขา ผมคิดว่ามันก็พอสมควรมั้ง ดีกว่าให้ชาวบ้านไปเข้าใจกันว่าเงินแจกฟรี เงินทักษิณ ท่านลองไปหาดูซิว่ามีศาลตัดสินคนที่กู้ยืมไปแล้ว ล้มละลาย ติดคุกมีบ้าง หรือเปล่า  ความคิดเห็นที่ 15   กยศ...เกิดในสมัยบรรหารเป็นนายก เป็นกองทุนที่แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ไปสร้างปัญหาใหม่ กรอ....เป็นกองทุนในสมัยทักษิน เป็นโครงการที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงกับปัญหาที่สุด ถูกยกเลิกในสมัยสุรยุทธ จากคุณ : tumtungkha  - [ 1 มี.ค. 52 10:52:49 A:125.24.20.30 X: ]   คุณบรรหารเป็นนายกปีไหนครับ  หากไม่มีข้อมูลก็ดูข้างล่างได้น่ะ ชวน 1 เข้ารับตำแหน่ง 23 กันยายน 2535 - 13 กรกฎาคม 2538 บรรหาร เข้ารับตำแหน่ง 13 กรกฎาคม 2538  - 25 พฤศจิกายน 2539 พล.อ เชาวลิต เข้ารับตำแหน่ง 25 พฤศจิกายน 2539  - 9 พฤศจิกายน 2540 ชวน 2 เข้ารับตำแหน่ง 9 พฤศจิกายน 2540 - 9 พฤศจิกายน 2543 ทักษิณ 1 เข้ารับตำแหน่ง  17 กุมภาพันธ์ 2544  - 11 มีนาคม 2548    เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2538 คณะรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี) มีมติ เห็นชอบในหลักการ โครงการจัดตั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ผมคิดว่าท่านหาข้อมูลได้จาก Google ก็ได้น่ะ ถามว่าแก้ปัญหาได้หรือเปล่า มันเหมาะสำหรับคนที่มีความรับผิดชอบมากกว่าน่ะ ไปถามนักเรียนสมัยช่วงนั้นได้ จากคุณ : Pakpow - [ 1 มี.ค. 52 14:55:41 A:115.67.11.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ต้องดูอะไรมากถามว่า ก่อนที่ท่านนายกทักษิณจะมาเป็นนายกประเทศเป็นอย่างไร หลังจากท่านนายกทักษิณมาบริหารประเทศเป็นอย่างไร หลังยึดอำนาจท่านเป็นอย่างไร เท่านี้ก็คิดออกแล้วครับ ถ้าคิดไม่ออกต้องไปหาหมอแล้วว่าสมอฝ่อไปเท่าไหร่ หรือไม่ก็หยุดเสพ ASTV ไปหาขอมูลอีกด้านเพื่อเพิ่มเนื้อสมองนะครับ จากคุณ : คนบางรัก (sengw) - [ 1 มี.ค. 52 15:01:04 A:58.8.19.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท. ครับ ติดใจที่ท่านรจนามาว่า  .......ประชาชนชาวชนบทได้รับโอกาสในการ "การประกอบอาชีพและการศึกษา" เพราะรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้โอกาสเหล่านี้....ที่ผ่านมาถูกกดขี่ทุกด้าน....พรรค ปชป.(พรรคการเมืองเก่าแก่ บริหารประเทศนี้มาหลายรอบ...ทำอะไรกันอยู่..       เป็นข้อความที่ ออกจะเป็นข้อหาที่รุนแรงทีเดียว       อะไร กฎหมาย พรบ.ใด ที่แสดงว่า รัฐบาลเก่าๆ กดขี่กีดกัน การประกอบอาชีพและการศึกษาของประชาชน       จำได้อย่างแน่นอนว่า นายชวน ได้มีนโยบาย ให้มีโรงเรียนอนุบาลทุกอำเภอ    โดยในสมัยก่อน มีแต่ในจังหวัด ( บางจังหวัดด้วยซ้ำ )  และให้เด็กๆชั้นปฐม ได้ดื่มนมกันทุกๆคน และทุกวัน เนื่องจาก นายชวนเห็นว่า เด็ก จะเติบโต และสมองดี ต้องได้รีบโปรตีน ตั้งแต่วัยเด็ก   ทั้งจะเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมอีกด้วย     นโยบายเช่นนี้หรือ ที่จขกท. ว่า กีดกันการอาชีพและการศึกษา   ไม่ใช่นโยบายที่ดีเพื่อชาวชนบทหรอกหรือขอรับท่าน   รักใครเชียร์ใคร ไม่ว่ากันอยู่แล้ว  แต่ เมื่อเราต้องการความเป็นธรรม ตัวเราก็ต้องมีความเป็นธรรมในหัวใจเราด้วยจึงจะควร    หลายๆประการที่ ปชป. ไม่ดี ไม่เห็นด้วย  แต่ในเรื่องที่ดี ที่ถูกต้อง ควรสนับสนุน และต่อยอดให้เติบใหญ่ขึ้นเป็นประโยชน์แก่ประชาชนต่อๆไปอีก        อย่าเข้าตำรา "ได้เรือ.... ถีบ .... แพ  "  เลยครับ ทำเช่นนั้นไม่ใช่คนดีหรอก   ไม่มีเรือ ได้อาศัยแพมา พอได้เรือ ก็ด่าแพ  การเนรคุณใช่วิสัยคนดีครับ  ไม่ได้ว่าคุณ จขกท. ไม่ดีน้ะครับ  แต่อาจเผลอด้วยความรัก ทำให้ตาบอดไปได้บ้างเท่านั้นเอง หรือว่า กลอนพาไปก็ได้    ........."ทักษิณบังอาจติดอาวุธปัญญาให้ชาวรากหญ้า".....    ไม่ทราบว่า จขกท. จำได้บ้างหรือไม่ว่า  รัฐมนตรีศึกษาในสมัยท่านทักษิณนั้น ได้เปลี่ยนไปกี่คนต่อกี่คน  มีอายุการทำงานในตำแหน่งคนละกี่เดือน  อันแสดงถึงความใส่ใจในการศึกษาของชาติของนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดีทีเดียว   จำกันได้ไหมว่า กระทรวงศึกษา ในสมัยท่านทักษิณ ได้ถูกจัดไว้ในระดับความสำคัญเกรด อะไรเอ่ย  สำคัญเท่ากระทรวง คมนาคม  ?กระทรวง อุตสาหกรรม ?  จขกท. คงทราบดีแก่ใจ             การเปลี่ยนผู้บริหารกระทรวง ย่อม แสดงถึงนโยบายต้องการติดอาวุธทางปัญญาแก่เยาวชนของชาติ ชัดเจน  จริงไหมครับ จขกท.      รักใครเชียร์ ใคร ไม่ว่ากัน แล้วแต่ความคิด  แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน     ต้องการให้มองกันให้รอบและมีเหตุผล    ก่อนที่จะด่าใครต่อใคร          เราต้องการความยุติธรรม  คนอื่นเขาก็ต้องการเช่นเราเหมือนกัน จากคุณ : วอน (วอน) - [ 1 มี.ค. 52 15:07:12 A:192.168.0.17 X:125.27.250.132 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ท่าน คห.24 กองทุนที่เป็นประโยชน์จริงและสามารถแก้ปัญหาการศึกษาของชาติได้จริง คือ กองทุน กรอ. ที่ถูกรัฐบาลเฉพาะกาลยกเลิก ส่วนกองทุน กยศ.ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ แต่นั่นเป็นการสร้างปัญหาใหม่ทับปัญหาเก่า ครับ ครม.ชวนอนุมัติในหลักการ แล้วเริ่มเบิกเงินโครงการในสมัยไหมมิทราบ ผมยังจำได้ติดตา คุณบรรหารเป็นประธานเปิดงานมอบทุน...การที่อนุมัติหลักการแล้วมาอ้างว่าสำเร็จในยุคตัว น่าจะต้องทบทวนน่ะ เพราะมติ ครม.ใดๆ เมื่อรัฐบาลนั้นๆ พ้นวาระไปแล้ว หากรัฐบาลถัดมาไม่เห็นด้วยเค้าก็ออกมติ ครม.ยกเลิกหลักการเดิม ก็เห็นกันถมไป ผมจึงขอยืนยันไงครับว่า กยศ.เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลบรรหาร ส่วนกองทุน กรอ.เกิดในสมัยทักษิน และยกเลิกไปแล้วโดยรัฐบาลเฉพาะกาลสุรยุทธ จากคุณ : tumtungkha - [ 1 มี.ค. 52 15:07:30 A:125.24.20.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไหนๆ ก็ไหนๆ ว่ากันต่อเลยล่ะกัน ท่าน คห.ที่ 8 ...ขายสมบัติชาติ ขายอะไรหรือครับ ที่ขายนั่นน่ะหุ้นในบริษัท ของครอบครัว และทุกวันนี้บริษัทก็ยังเป็นบริษัทของไทยอยู่นี่ครับ ไม่ได้แปลงสัญชาติไปไหนนี่...ที่น่าแปลกก็คือ คุณบุญชัย ขาย ดีแทค ปกติ ตระกูลชินของชินคอร์ป ขายชาติ....งง ครับ...ให้พม่ากู้น่ะครับ ย้ำว่าให้กู้ไม่ได้ให้เปล่า...หรือว่าการให้กู้เลว แต่ไปขอกู้ ดีเลิศ กันครับ...เมื่อกู้ไปแล้วก็เป็นสิทธิของเค้าในการพัฒนาโครงการ และบางส่วนเค้านำไปพัฒนาด้านสื่อสารโทรคมนาคม เค้าซื้อสินค้าต้นทุนทางไทยก็ถูกแล้วนี่ครับ หรือจะให้กู้เงินจากไทย แล้วไปซื้อของสิงคโปร ท่าน จขกท.จึงจะพอใจ (พม่าไม่ได้โง่เหมือนบางรัฐบาลในอดีตแถมสารขันฑ์นี่ครับที่กู้เงินต่างประเทศมาถากหญ้า)....เมียซิกแซกซื้อที่ดิน...ซิกแซกยังไงหรือครับ ก็เห็นเข้าประมูลซื้อปกติอย่างเปิดเผย รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อประมูลซื้อได้ก็ต้องไปโอนที่ดิน กฎหมายที่ดินบอกกรณีสมรส การทำนิติกรรมที่ดินต้องได้รับยินยอมจากคู่สมรส ก็แค่นั้น ผิดถึงต้องติดคุกกันเลย ไม่รู้สึกแปลกใจบ้างหรือครับ...ผิคจริยธรรมสรรหากันไปได้...แปลกดีไม๊ไม่มีกฎหมายห้ามเค้าประมูลซื้อ พอประมูลชนะไปโอนที่ มีกฎหมายบอกคู่สมรสต้องยินยอม พอคู่สมรสยินยอม บอกผิดจริยธรรมจำคุก 2 ปี ต้องอย่างน้าชวน น้าเทพ น้าหยัด ถึงจะมีจริธรรมงดงาม ไม่ต้องแสดงหลักฐานคู่สมรส เป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี...ใช่หรือไม่ ให้give 3 คะแนน ขอบคุณที่อธิบายให้เราเข้าใจอย่างดี ไม่งั้นก็ไม่เข้าใจเรื่องเงินกู้พม่าสักที จากคุณ : DOGNAK - [ 1 มี.ค. 52 15:39:51 A:124.120.190.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 #22 วิธีเก่าได้ผลหรือเปล่า ผมว่า ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ผลงานจริงๆมันก็เห็นๆอยู่นะครับ ไม่ว่าการทำงานของราชการ การศึกษาต่อเนื่อง การเข้าถึงทุน พรรคเก่าแก่ก็พูดสวยหรูมานานแล้วผมก็จำได้ แต่ไม่เคยเห็นว่าเขาจะลงมือทำจริงๆเสียที เนื้อหาหลักการฟังดูดี แต่ไม่มีใครทำจริง มันก็ไม่มีผลอะไร คุณบอกทักษิณดันใช้วิธีอื่นที่มีจุดอ่อนเยอะ อันนี้ผมเห็นด้วยบางส่วน หลายๆโครงการมีจุดอ่อนที่ต้องการการปรับปรุง ไม่ว่าจะระบบ30บาท ที่บริหารเงินกันลำบาก เพราะหมอไม่ใช่นักบริหารแต่ดันโยนภาระให้หมอผอ.รพ. แต่เรื่องเพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบสุขภาพของคนจน อันนี้ดีจริงๆ ไม่ต้องหลอกตัวเองก็เห็นนอกจากปิดตา แต่คนที่มาแทนทักษิณ หรือฝ่ายที่ไล่ทักษิณน่ะ ได้เคยทำอะไรจริงจังบ้าง? แค่มาบอกว่าวิธีนั้นมีจุดอ่อน แต่ตัวเองดันใช้วิธีที่ห่วยกว่า หรือผลงานจริงออกมาแย่กว่า(เพราะดีแต่พูดแต่ไม่ทำ) แล้วจะพูดได้อย่างไรว่าทักษิณทำงานแย่? ในเมื่อเห็นๆอยู่ว่าผลงานฝ่ายตรงข้าม ทั้งช่วงคมช. และช่วงล่าสุด มันแย่แค่ไหน มีแต่นโยบายกระดาษที่ไม่มีการกำหนด indicator ชี้วัดอย่างจริงจัง ไม่มีกำหนด KPI ที่ทำจริงๆ ดีแต่เขียนมาเพื่อให้ครบหลักการ แล้วมันจะได้ผลไหม? ผมเองวัดจากประสิทธิผลของจริงไม่ใช่ในกระดาษ และเห็นๆแล้วว่า แสนล้านทุ่มลงไป แม้จะรั่วไหลไปบ้าง แต่มันก็พัฒนาขึ้นมาจริงๆ มีคนจำนวนไม่น้อยได้เข้าถึงโอกาสมากกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา ดีกว่าหมื่นล้านที่ไม่เคยตกถึงมือรากหญ้าอย่างแท้จริงนอกจากปรนเปรอกันเองในหมู่ชนที่อิงแอบอำนาจ และไม่เคยพัฒนาใครครับ คุณกลัว Tyrant ทักกี้ แต่กลับมองข้ามความน่ารังเกียจของ Tyrannosaurus rex ที่แย่กว่า แล้วยอมให้เขามายึดอำนาจง่ายๆ? ยอมให้เขากลับมาใช้อำนาจที่ไม่เคยพัฒนาประเทศเลยตลอดหลายสิบปีอีกครั้ง? นี่แหละที่แปลกใจว่าตกลงแล้ว คุณอยากให้รากหญ้าพัฒนาขึ้นมาจริงหรือเปล่า หรือแค่ยอดหญ้ารวยต่อไปแล้วปรนเปรอรากหญ้าด้วยคำพูดสวยหรูที่กินไม่ได้ ก็พอ? ส่วนประเด็นเรื่องใช้วาทกรรมของจขกท.มันผิดเพี้ยนไปบ้างอันนี้เห็นด้วย แต่ประเด็นหลักของเรืองที่ว่า ยอดหญ้าไม่เคยเข้าใจรากหญ้า และไม่คิดจะลงมือช่วยเหลือจริงๆ นอกจากคำพูดสวยหรูไว้ชมกันเอง อันนี้ผมเห็นด้วยกับจขกท. จากคุณ : ....4จุด - [ 1 มี.ค. 52 17:40:16 A:125.24.218.182 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ยังสนใจกลับมาอ่านความเห็นต่างๆ พบความเห็น ที่28 ตอนหตนึ่งว่า...........ให้พม่ากู้น่ะครับ ย้ำว่าให้กู้ไม่ได้ให้เปล่า...หรือว่าการให้กู้เลว .......       ขอเสริมนิดเดียว ว่า ไม่เป็นความเลวเหลวไหลอะไรหรอกครับ        การให้พม่ากู้เงินนั้นน่ะ      เพราะให้กู้ไม่ได้ให้เปล่า...หรือว่าการให้เพื่อนบ้าน กู้เงิน  จากสถาบันการเงิน ในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือกันผูกสัมพันธ์ กันให้แน่นแฟ้น  ไม่เลวทรามอะไรสักนิดเดียว  ไม่ขัดข้องด้วย        แต่ที่น่าเกลียด ไม่ใช่การสนับสนุนเงินกู้เพื่อให้พะม่าพัฒนาโทรคมนาคมหรอกครับ         มันสำคัญที่  ท่านนายกทักษิณที่รักของเรา  " เอาเงินงบประมาณ ที่เก็บจากประชาชนคนไทย ไปจ่าย ดอกเบี้ยเงินกู้ที่พะม่ากู้ไป "  แทนที่จะให้พะม่าจ่ายดอกเบี้ยเอง นี่ซิที่แปลก          เข้าใจว่าเป็นวัฒนธรรมใหม่เอี่ยม ทีไม่เคยมีประเทศไหนเขาทำกันมาก่อนเลย  ที่ให้กันเปล่า น่ะ เคยเห็นว่า มีแน่    แต่ที่ทั้งประกันเงินกู้ ทั้งจ่ายดอกเบี้ยแทนนี่   ใจดีเลิศไปหน่อยแล้วล่ะ  นโยบายเช่นนี้ ประชาชนที่เสียภาษี เพื่อให้รัฐบาลเอามาทนุบำรุงประเทศตน     สำหรับใครจะชอบก็ตาม แต่ขอ บอกตรงๆว่าตัวเอง  รับ และรัก ไม่ลงครับ จากคุณ : วอน (วอน) - [ 1 มี.ค. 52 18:13:27 A:125.27.250.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 10 ท่าน คห. ที่ 7 ครับ กยศ.เป็นกองทุนที่มีตรรกะผิดอย่างสิ้นเชิง และทารุญมาก คุณไปศึกษาดีก่อนค่อยมาออกความเห็น ไปดูซิครับมีทฤษฎีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอะไรที่เยาวชนกู้เงินเพื่อการ ศึกษาแต่ต้องมาจบที่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถชำระหนีการศึกษาได้ตามกำหนด ทำเป็นกองทุนไฟแนนท์ไปได้...ตรรกะพื้นฐาน...คนมีฐานะไม่มีใครมากู้ยืมเงิน เพื่อการศึกษาของลูกหลานหรอกครับ ที่ต้องกู้เพราะลูกหลานมีความสามารถ แต่ขาดเงินทุน (ต้นทุนการศึกษาประเทศนี้สูงเหลือเกิน) จึงต้องกู้เพื่อมาเรียน เมื่อเรียนจบแล้วไม่มีใครสามารถการันตีได้หรอกครับว่าจะมีงานทำ และรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตนเอง ครอบครัว และชำระหนี้เพื่อการศึกษาขณะเรียน...เมื่อหารายได้มาชะหนี้ไม่ได้ตามระยะ เวลาที่กำหนด ก็จะถูกกดดัน ฟ้องร้อง ดำเนินคดี เพียงเพราะเป็นลูกหลานชาวบ้าน แต่ดันทลึ่งมากู้เงินเรียน แล้วไม่มีปัญหาใช้หนี้ใช่ไหม...ต่างกับแนวคิด กรอ.อย่างสิ้นเชิง จากคุณ : tumtungkha ------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมจบจากกองทุนกู้ยืมรุ่นที่สอง และขณะนี้กำลังใช้หนี้เข้าปีที่ เจ็ดแล้ว... คุณต้องตระหนักว่า คุณกู้มาเรียน และตั้งใจเรียนครับ...เงินที่ใช้คือเงินอนาคตของคุณ คุณต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง วางแผนการใช้จ่าย ผมกู้คนเดียว ใช้กับน้องอีกคน จนจบปริญญาตรี แต่ กรอ. ไม่ได้สร้างความตระหนักให้นักเรียนเลย ดอกร้อยละ ๑ ต่อปี น้อยมากแล้ว โอกาสที่รัฐให้คุณก็มากแล้ว แต่คุณใช้โอกาสนั้นคุ้มค่าหรือยัง พวกคุณต้องถามต้วเองแล้วครับ ถ้าคุณไม่ประสบผลสำเร็จหลังจากเรียนจบ ด้วยเงินกู้ยืม พึ่งตัวเองบ้างครับ.. จากคุณ : centrino14 - [ 1 มี.ค. 52 19:27:38 A:125.24.167.62 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ ....4จุด วิธีเก่าของผม ก็คงเป็นเรื่องที่ผมพูดไว้นะครับ ถมเงินกู้เข้าไป ถ้าไม่มีอะไรรองรับ ทั้ง โครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ำ ถนน ตลาด เทคโนโลยี ก็เหลือแต่หนี้ ถ้าคุณมีโอกาสลงลึกถึงงบประมาณ เรื่องแบบนี้รัฐบาลในอดีตให้ความสำคัญมาก แต่ยุคนายกทักษิณ งบประมาณจำนวนมากเอาไปใช้กับประชานิยม การพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร แหล่งน้ำ ลดลงมาก ที่ยังมีผลผลิตล้นตลาดนี่บุญเก่าทั้งนั้น ส่วนรัฐบาล ปชป. ตอนนี้จะเดินทางไหน นั่นก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ แต่บุญเก่าคงเหลืออีกไม่มาก จากคุณ : Pom.com - [ 1 มี.ค. 52 20:08:09 A:124.120.227.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 27   ท่าน คห.24 กองทุนที่เป็นประโยชน์จริงและสามารถแก้ปัญหาการศึกษาของชาติได้จริง คือ กองทุน กรอ. ที่ถูกรัฐบาลเฉพาะกาลยกเลิก ส่วนกองทุน กยศ.ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ แต่นั่นเป็นการสร้างปัญหาใหม่ทับปัญหาเก่า ครับ ครม.ชวนอนุมัติในหลักการ แล้วเริ่มเบิกเงินโครงการในสมัยไหมมิทราบ ผมยังจำได้ติดตา คุณบรรหารเป็นประธานเปิดงานมอบทุน...การที่อนุมัติหลักการแล้วมาอ้างว่าสำเร็จในยุคตัว น่าจะต้องทบทวนน่ะ เพราะมติ ครม.ใดๆ เมื่อรัฐบาลนั้นๆ พ้นวาระไปแล้ว หากรัฐบาลถัดมาไม่เห็นด้วยเค้าก็ออกมติ ครม.ยกเลิกหลักการเดิม ก็เห็นกันถมไป ผมจึงขอยืนยันไงครับว่า กยศ.เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลบรรหาร ส่วนกองทุน กรอ.เกิดในสมัยทักษิน และยกเลิกไปแล้วโดยรัฐบาลเฉพาะกาลสุรยุทธ จากคุณ : tumtungkha  - [ 1 มี.ค. 52 15:07:30 A:125.24.20.30 X: ]   ถูกของท่านครับนายกบรรหารอนุมัติเงินก้อนแรก 3000 ล้านบาท  การทำโครงการหรือริเริ่มโครงการเป็นสมัยของนายกชวน พูดง่ายๆ คนคิดแล้วทำน่ะ นายกชวน แต่นำมาปฎิบัติได้คือนายกบรรหาร ได้อนุมัติเงินก้อนแรกออกมาโดยผ่านเป็นลักษณะเงินงบประมาณของปี 2539 โดยอาศํยหลักการของมติคณะรัฐมนตรี 28 มีนาคม 2538 ท่านลองไปดูระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายกชวนและนายกบรรหารอีกที ว่างบประมาณแผ่นดินมันถูกจัดสรรไว้ของอีกปีทันที ซึ่งเป็นโครงการที่ดี รัฐบาลของนายกบรรหารจึงสานต่อ ผมจึงถือว่าคนคิดนโยบายออกมาเป็นนายกชวน แล้วดำเนินต่อมาเรื่อยๆ ส่วนคุณมองว่าเป็นปัญหา ผมคิดว่ามันไม่ใช่นั่นคือผู้กู้ต้องรับผิดชอบ ในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ใช่ให้คนอื่นรับผิดชอบ และเห็นด้วยกับความเห็นที่ 31 น้องผมก็เรียนจบออกมาได้กับกองทุนนี้แหละ ตอนนี้กำลังผ่อนส่งทุกเดือน ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย จากคุณ : Pakpow - [ 1 มี.ค. 52 21:09:43 A:115.67.230.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 # 31   ความคิดเห็นที่ 10 ท่าน คห. ที่ 7 ครับ กยศ.เป็นกองทุนที่มีตรรกะผิดอย่างสิ้นเชิง และทารุญมาก คุณไปศึกษาดีก่อนค่อยมาออกความเห็น ไปดูซิครับมีทฤษฎีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอะไรที่เยาวชนกู้เงินเพื่อการ ศึกษาแต่ต้องมาจบที่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถชำระหนีการศึกษาได้ตามกำหนด ทำเป็นกองทุนไฟแนนท์ไปได้...ตรรกะพื้นฐาน...คนมีฐานะไม่มีใครมากู้ยืมเงิน เพื่อการศึกษาของลูกหลานหรอกครับ ที่ต้องกู้เพราะลูกหลานมีความสามารถ แต่ขาดเงินทุน (ต้นทุนการศึกษาประเทศนี้สูงเหลือเกิน) จึงต้องกู้เพื่อมาเรียน เมื่อเรียนจบแล้วไม่มีใครสามารถการันตีได้หรอกครับว่าจะมีงานทำ และรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตนเอง ครอบครัว และชำระหนี้เพื่อการศึกษาขณะเรียน...เมื่อหารายได้มาชะหนี้ไม่ได้ตามระยะ เวลาที่กำหนด ก็จะถูกกดดัน ฟ้องร้อง ดำเนินคดี เพียงเพราะเป็นลูกหลานชาวบ้าน แต่ดันทลึ่งมากู้เงินเรียน แล้วไม่มีปัญหาใช้หนี้ใช่ไหม...ต่างกับแนวคิด กรอ.อย่างสิ้นเชิง จากคุณ : tumtungkha ------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมจบจากกองทุนกู้ยืมรุ่นที่สอง และขณะนี้กำลังใช้หนี้เข้าปีที่ เจ็ดแล้ว... คุณต้องตระหนักว่า คุณกู้มาเรียน และตั้งใจเรียนครับ...เงินที่ใช้คือเงินอนาคตของคุณ คุณต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง วางแผนการใช้จ่าย ผมกู้คนเดียว ใช้กับน้องอีกคน จนจบปริญญาตรี แต่ กรอ. ไม่ได้สร้างความตระหนักให้นักเรียนเลย ดอกร้อยละ ๑ ต่อปี น้อยมากแล้ว โอกาสที่รัฐให้คุณก็มากแล้ว แต่คุณใช้โอกาสนั้นคุ้มค่าหรือยัง พวกคุณต้องถามต้วเองแล้วครับ ถ้าคุณไม่ประสบผลสำเร็จหลังจากเรียนจบ ด้วยเงินกู้ยืม พึ่งตัวเองบ้างครับ.. จากคุณ : centrino14  - [ 1 มี.ค. 52 19:27:38 A:125.24.167.62 X: ]   พึ่งตัวเอง ก็ถูกนะคะ แต่ "รัฐสวัสดิการ" ก็เป็นหน้าที่ที่รัฐพึงจะต้องทำ อย่างน้อยเด็กรุ่นใหม่จบมา ก็คงจะ start ที่ 0 ไม่ใช่แค่จบ ชีวิตก็ติดลบไปแล้ว เมื่อไหร่จะตั้งตัวได้ จากคุณ : เทพีแห่งทางสามแพร่ง (Hacate) - [ 1 มี.ค. 52 21:19:02 A:61.19.115.150 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 #32 ก็วนกลับมาที่เดิืมไงครับ นโยบายสวยหรู เอกสาร แผนงานชั้นเยี่ยม แต่ไม่ได้ผลจริง เพราะไม่มีใึครทำ.....โทษใครดี โทษชาวบ้าน หรือโทษรบ.ที่ทำงานไม่เป็น? ให้เวลามาหลายสิบปีแล้ว รอนานไปแล้ว ปล่อยให้รากหญ้าจนซ้ำซาก ทั้งๆที่แผนงานสวยหรู มันทนไม่ได้หรอกนะครับ นโยบายทักกี้ ใช้ได้ผลจริง แต่รูรั่วก็เยอะ ขาดแผนรองรับก็มาก แต่มันก็ได้ผลจริง คนชายขอบที่โดนทิ้งมาหลายสิบปีได้เห็นโอกาสพัฒนาตัวเองอยู่รำไร และก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอด ผมชอบทักกี้ตรงสำรวจความคิดเห็นประชาชนอยู่เสมอ เวลาจะตัดสินเรื่องอะไร เพราะโลกจริงๆ แค่หลักการ มันไม่เพียงพอครับ อย่างโครงการสามสิบบาท ผมก็ด่ามาตลอดเช่นกัน เพราะเพื่อนผมเองเป็นหมอใช้ทุน กระทบเต็มๆ เงินก็น้อย ส่งต่อก็ลำบาก ศิริราชยังเจ๊งเป็นพันล้านกับโครงการนี้ แต่ช่วงหลังงก็ดีขึ้น เริ่มมีการเปลี่ยนระบบการ refer ให้เอาหนี้ไปเรียกจากส่วนกลางแทนที่จะเรียกจากรพ. อันนี้ผมถือว่าเขารับฟังเสียงของประชาชนจริงๆ มากกว่าจะแค่วางแผนจากหอคอยงาช้าง ตรงนี้แหละที่ผมเชียร์เขา แม้เขาจะไม่ได้ดีที่สุด แม้เขาจะมีเรื่องแย่ๆไม่น้อย แต่เทียบกับ T.Rex ตัวเก่าที่เคยครองอำนาจมา ก็นับว่าทักกี้ดีกว่าเยอะจริงๆ ตอนนี้ผมมองข้ามชอต ไปมากกว่าเรื่องนักการเมืองโกงกิน เพราะการจะักำจัดนักการเมืองโกงกินได้ ไม่ใช้การไล่ันักการเมือง แต่เป็นการพัฒนาคนทั้งประเทศให้มีโอกาสก้่าวขึ้นมาได้ ซึ่งตรงนี้ มองย้อนไปหลายสิบปี ก็มีคนเดียวนี่แหละที่สร้างโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้กับรากหญ้า เมื่อรากหญ้าพัฒนาขึ้นมาได้ นักการเมืองโกงกินก็จะอยู่ไม่ได้เองน่ะแหละ แต่ชาวยอดหญ้ามัวแต่หวังอัศวินม้าขาวมาช่วยกำจัด สุดท้ายอัศวินก็โกงกินเสียเอง เพราะมันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุยังไงล่ะครับ อันนี้เพื่อนผมหลายคนก็เป็น ตอนรัฐประหาร หลายคนแอบสะใจ ตอนยุบพรรค หลายคนบอกฟ้ามีตา แต่พอเวลาผ่านไป นายทหารทั้งหลายที่เข้าไปคุมหน่วยงานต่างๆ กลับกินกันเสียมูมมามจนน่าเกลียด กินกันชนิดว่าไม่อายใครและไม่มีใครกล้าหือ เอาคนดีมาบริหารงานก็ย่ำแย่ เพราะคนดีไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนเก่ง และคนดีหลายๆคนก็ไม่ใช่จะดีจริงๆอย่างภาพลักษณ์ภายนอก ตอนรัฐประหารหาว่าทักกี้บ้าอำนาจสั่งฆ่าคน แต่ตัวเองกลับยิงจรวดใส่สื่อที่ไม่ยอมศิโรราบให้ตัวเอง เอาลูกน้องถือปืนไปล้อมจับโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ฯลฯ สุดท้ายอัศวินกลับถอดเกราะออกให้เห็นแล้วว่า จริงๆแล้วก็เป็นลูกหลาน T.Rex อีกตัวเท่านั้นเอง ไม่ใช่อัศวินม้าขาวอย่างที่เคยเข้าใจ......คนที่เคยสะใจ ก็กลับเป็นเสียใจแทน ผมเข้าใจนะครับ ชาวยอดหญ้ามักจะมี ego นิดๆ คิดว่าตัวเองรู้เท่าทัน คิดว่าตัวเองฉลาดที่จับผิดกลโกงทักกี้ได้(ผมและเพื่อนๆก็เคยเป็น สนุกกับการเอากลโกงเชิงนโยบายมาอธิบายในกลุ่ม) แต่ชาวยอดหญ้าดันมองข้ามปัญหาสำคัญของชาติไป ตรงนี้แหละที่ชาวยอดหญ้า(ทั่วไป)ไม่มีวันเข้าใจ ว่าทำไม ทักกี้ ถึงได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เรามีอยู่ตอนนี้ และทำไม พรรคเก่าแก่ปรัชญาสวยหรู ถึงแก้ปัญหานี้ไม่ได้เสียที ตราบใดที่คุณยังมองรากหญ้าว่าโดนเขาหลอก เราฉลาดกว่าเราไม่้โดนหลอก แต่ไม่มองผลลัพธ์ที่ำสำคัญยิ่งกว่าการโกงกิน คุณก็คงไม่เข้่าใจต่อไป ป.ล. ยอดหญ้่ารวยๆหลายคนก็รับพธม.ไม่ได้นะครับ โดยเฉพาะคนในวงการส่งออก เพราะการปิดสนามบินมันกระทบร้ายแรงจริงๆ ซ้ำเติมจากปัญหาเศรษฐกิจโลกมากนัก ก็ไม่แปลกหรอก ตราบใดที่ยอดหญ้ายังไม่ลำบากถึงตัวเอง ก็คงไม่เข้าใจว่า T.Rex นั้นน่ากลัวกว่า Tyrant ตรงไหน เท่าที่เห็นคนที่ยังเชิดชูการกระทำของพธม. และพรรคเก่าแก่ ก็มีแต่คนที่มันยังไม่ได้รับผลกระทบเท่านั้นเอง โดยเฉพาะพวกหมอ ข้าราชการ และเจ้าของธุรกิจที่อิงแอบอำนาจเก่า แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 16:53:37 จากคุณ : ไม่เจอกับตัวไม่รู้ (....4จุด) - [ 2 มี.ค. 52 16:47:58 A:125.24.225.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ ท่าน 4จุด และ ท่าน Pom.com ถึงความเห็นท่านจะแตกต่างกันแต่ก็ให้แง่คิดที่ดี แก่บัวใต้น้ำอยางผม อยากให้สังคมไทยสู้กันด้วยเหตุผลอย่างนี้ครับ ดีกว่าใช้กำลังแบบ...... จากคุณ : จอมยุทธโชห่วย - [ 2 มี.ค. 52 21:32:36 A:124.120.68.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ ไม่เจอกับตัวไม่รู้ (....4จุด) ถ้าเอาหลักการว่า ใครกระทบส่วนตัวคุณก็เลิกเชียร์ ผมว่ามันจะยุ่ง ยิ่งตัวผมคงจะยุ่งใหญ่ ส่วนตัวสนิทกันทุกฝ่าย ใครขึ้นผมก็รุ่ง ทหารจะโกง พันธมิตรจะปิดสนามบิน รัฐบาลนี้จะเริ่มมีปัญหา เห็นว่าใครผิดก็ว่ากันไป แต่เรื่องแบบนี้ใจต้องนิ่ง อย่าเอาส่วนตัวมาปนมาก พันธมิตรที่พังเพราะปิดสนามบินก็มีมาก ที่ไม่เปลี่ยนจุดยืน เสื้อแดงก็เหมือนกัน ตอนนี้คนส่วนหนึ่งเบื่อเชียงใหม่ไม่ไปเที่ยว ถ้าคิดว่าทำถูก กลุ่มรักเชียงใหม่ที่ทำท่องเที่ยวก็ไม่ควรถอย ถ้าคิดว่าที่ผ่านมาทำถูก แม้ว่าจะกระทบกับธุรกิจตัวเอง คิดแบบคุณคงไม่มีใครยอมเสี่ยงตายเป็นทหารไปรบ สำหรับผม ถ้าปชป.ไม่ดี ก็ไม่เลือก ทำผิดมากๆ ก็ออกไปไล่ กรุงรัตนโกสินทร์ไม่สิ้นคนดีหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 22:48:21 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 22:48:02 จากคุณ : Pom.com - [ 2 มี.ค. 52 22:00:17 A:192.168.0.17 X:124.120.222.12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #37 คุณตีความผมผิดไปแล้ว ที่ไม่เจอกับตัวไม่ีรู้ หมายถึงว่า คุณเองไม่ลำบาก เลยไม่เข้าใจว่าทำไม นโยบายประชานิยมมันถึงจำเป็นไงล่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าต้องโดนกระทบผลประโยชน์แล้วค่อยออกมาเรียกร้อง หรือนโยบายใครส่งผลดีกับเราแล้วค่อยเชียร์ ผมเองไม่เคยได้ใช้นโยบายไรนั่นกับเขาหรอก (ถ้าถามคนนอกที่ไม่สนิทก็คงคิดว่าผมยอดหญ้ากับเขาเหมือนกัน เพราะทั้งนามสกุลและการศึกษาผมก็มั่นใจว่าไม่้ด้อยกว่าคนที่อวดอ้างว่าเป็นชนชั้นสูงตามม๊อบต่างๆ) แต่บังเอิญเคยอยู่บ้านนอก(แม่เป็นข้าราชการ ย้ายไปเรื่อยๆตามการเมืองในหน่วยงาน) เห็นสภาพ รพ.ชุมชน เห็นคนจนซ้ำซาก เห็นคนชายขอบที่ถูกรัฐทอดทิ้ง ตอนประถม คุณเคยมีเพื่อนเป็นชาวเขาไหมครับ? เขาเกิดเมืองไทย มีบัตรประชาชนเหมือนคนไทย แต่ทำไมถึงไม่มีสิทธิและการเข้าถึงบริการจากรัฐเหมือนคนไทยคนอื่นๆ? ทำไมเด็กตจว.จำนวนมากไม่มีโอกาสได้เีรียน ไม่ใช่เพราะเขาไม่ขยัน แต่เขาไม่มีโอกาส เพราะความจำเป็นต่างๆรัดตัวตะหาก เพื่อนชาวเขาผมคนนึงเกรดตอนประถมเก่งกว่าผมทุกอย่าง กีฬาก็เก่ง ทำงานก็เก่ง ความคิดสร้างสรรค์ดีมากๆ แต่เขาได้เรียนถึงแค่ป.6 แล้วก็ต้องออกไปทำงาน ตอนผมเรียนมหาลัยก็ได้เจอเขามีลูกมีเมียแล้ว ก็ดูมีความสุขดีตามอัตภาพแม้จะไม่ลำบากมาก แต่ก็ไม่ได้สบายเหมือนคนในเมือง เพราะข้อจำกัดด้านการศึกษา แต่ผมเสียดายศักยภาพของเขา ทั้งๆที่เขามีโอกาสพัฒนาตัวเองไปได้อีกเยอะ แต่ไม่มีใึครสนับสนุนไ้ด้ ที่มาเรียนประถมในเมืองได้ เพราะมีเงินบริจาคจากตปท. ให้เขาได้ลงจากดอย มาเรียนหนังสือกับเด็กในเมืองปกติ แต่งบก็ไม่มากพอจะส่งเรียนต่อมากกว่านั้น ก็ถือว่าเขาโชคดีกว่าเด็กหลายๆคนแล้ว(ในตอนนั้น) เพราะเขาเคยเล่าว่า พี่น้องคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เรียน พอโตหน่อยก็ไปเลี้ยงสัตว์ ทำนาไปตามเรื่อง และโดนดูถูกจากคนเมืองว่าโง่หรือขี้เกียจไปซะอีก เวลามาคุยกับเพื่อนรวยๆในเมือง ก็จะเห็นความแตกต่างตรงนี้แหละ คนในเมืองคิดง่ายๆว่าคนบ้านนอกโง่หรือขี้เกียจเลยจน แต่ไม่ได้มองถึงรากของปัญหาจริงๆ และผมก็เข้าใจว่า ทำไมอาซ้ออาซิ้มรวยๆ ไปนั่งม๊อบพธม. แล้วบอกว่าตัวเองรวยแล้วแต่ยอมลำบากสุดๆเพื่อกู้ชาติ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า การกระทำของตัวเองนั้น กำลังทำลายเพื่อนร่วมชาติอยู่ และคำว่าลำบากนั้นมันเทียบไม่ได้กับคำว่าลำบากของจริงเลย คนเราส่วนใหญ่ก็แบบนี้แหละ ไม่เห็นความลำบากกับตัว ก็ไม่เข้าใจว่าคนอื่นกำลังลำบากจริงๆ คุณเองชื่นชมนโยบายสวยหรูของพรรคเก่าแก่ ผมก็เคยชอบนะ ปรัชญาสูงส่ง ดูเป็นระบบ ผู้นำก็มีแต่คนชั้นสูง ตระกูลเก่าแก่ ร่ำรวยดูดี แต่พอหันกลับมามองบ้านนอกที่ผมเคยเห็น ผมก็แปลกใจว่าทำไม ผ่านมาหลายสิบปี ก็ยังเหมือนเดิม ทั้งๆที่คนพูดก็พูดอยู่ทุกวัน ก็เลยทำให้ผมเข้าใจได้ว่า บางครั้งหลักการสวยหรูมันก็แพ้คนทำงานจริงๆ และนโยบายที่เราไม่ได้ประโยชน์หรือเห็นว่ามีปัญหา แต่อีกด้่านนึงมันได้ช่วยผู้คนอีกมหาศาลเช่นกัน ป.ล. บ้านเราไม่สิ้นคนดีหรอกครับอันนี้เห็นด้วย คนดีมีเยอะ แต่ขาดคนทำงานจริงมากกว่า ปัญหาระดับพื้นฐานเลยไม่ได้รับการแก้ไขมาหลายสิบปีเลยน่ะซี และที่น่ากลัวไปอีกก็คือคนที่สร้างภาพว่าเป็นคนดี..... แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 18:22:17 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 18:21:03 จากคุณ : ....4จุด - [ 3 มี.ค. 52 18:16:05 A:125.25.4.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ....4จุด ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่าผมไม่ใช่คนที่นิยมชมชอบ ปชป. แม้ว่าส่วนตัวจะรู้จักกับหลายคนในพรรค ชีวิตผมส่วนใหญ่เลือกประชากรไทย  มาเลือกปชป.ก็ตอนนี้ละครับ น่าตลกมาเลือก ปชป. ตอนที่แข่งกับนายกสมัคร อดีตนักการเมืองในดวงใจ แต่เลือกก็แค่ ๒ ใน ๓ คน ไม่เลือกลูกนายทหาร คมช. ล่าสุดผู้ว่ากทม. ก็ไม่เลือกปชป. และไม่เลือกใคร ไปตีเทนนิสแทน นโยบายที่เน้นโครงสร้างพื้นฐานที่ผมนิยมชมชอบ มันยุคพลเอกเปรม ซึ่งคงไม่ถือว่าเป็น ปชป. ส่วนที่ว่าผมไม่เข้าใจรากหญ้า ด้วยงานของผม มีโอกาสสัมผัสกับรากหญ้าพอสมควร เป็นเพื่อนกันก็มี ผมกล้ายืนยันว่าผมรู้ถึงความลำบากของรากหญ้า และผมไม่คิดหรอกครับ ว่าพันธมิตรส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจความลำบากของรากหญ้า แต่ที่ต่างจากคุณ คือวิธีการแก้ปัญหารากหญ้า คุณเชื่อมั่นในวิธีการของนายกทักษิณ ผมกลับเห็นตรงกันข้าม ก่อนที่จะมีกองทุนหมู่บ้าน ถ้าคุณรู้จักรากหญ้าดี จะรู้ว่ารากหญ้ามีแต่หนี้ หนี้ล้นพ้นตัว คุณเป็นนักธุรกิจ คุณคงรู้ว่าสภาพแบบนั้น ถ้าถมเงินลงไป ก็มีแต่จะเพิ่มหนี้ ถ้าไม่มีความชัดเจนในการหารายได้ การปรับโครงสร้างหนี้ ระดับผมซึ่งเคยผ่านงานมามาก ลงทุนกับเพื่อนก็กลายเป็นบริษัทมหาชน งานรัฐก็ระดับสายสะพาย  ลงไปในพื้นที่ของรากหญ้า เจอโจทย์เดียวกับเขา ยอมรับว่าไม่มีปัญญาแก้ง่ายๆ ถ้าไม่ลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แหล่งน้ำ จัดหาตลาด เพิ่มเทคโนโลยี เรื่องแบบนี้คนรุ่นเก่า เขาทยอยแก้มา มีสะดุดบ้าง โกงบ้าง ซึ่งก็ต้องแก้ไป การเข้ามาแก้ปัญหาของรากหญ้าของนายกทักษิณ โดยสมมุติฐานว่าคนจนเพราะขาดเงินทุน เริ่มต้นก็เป็นสมมุติฐานที่ผิดแล้ว ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เข้าถึงทุนจนเป็นหนี้ท่วมตัว ส่วนการสร้างงานสร้างอาชีพนอกการเกษตร ผ่าน โอทอป ... ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ผมยังเชื่อว่าละทิ้งโครงสร้างพื้นฐานการเกษตรไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งรองรับงานส่วนใหญ่ แต่เรื่องนี้ถูกละเลยมากในยุคนายกทักษิณ สำหรับคนที่ยากไร้ ผมเห็นว่าสมควรสงเคราะห์ก็ต้องทำตรงไปตรงมา จะเป็น สปก เงินสงเคราะห์คนชรา เงินค่าเสื้อนักเรียน นม อาหารกลางวันนักเรียน (ที่พูดมาตรงกับ ปชป.หมด ไม่ตั้งใจเชียร์) จะมาห่วงศักดิ์ศรีแทนเขา ต้องเป็นเงินกู้ยืม ไม่ใช่ให้เปล่า คิดอย่างนั้นจะพาเขายิ่งลำบาก การแก้ปัญหารากหญ้า ต้องรู้จริง ต้องช่วยรากหญ้าคิดแก้ปัญหา ผมขอย้ำว่าไม่ได้ดูถูกรากหญ้า แต่มันยากจริงๆ ตั้งหลักดีๆ ก่อนจะอัดฉีดทุน ต้องปรับโครงสร้างหนี้ เริ่มตั้งต้นใหม่ ดำเนินการทำการเกษตรอย่างพอเพียง เหมาะสม เกษตรทฤษฎีใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของเกษตรกรจำนวนไม่น้อย รัฐมีเงินต้องลงไปที่โครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ยอดหญ้านะ ผมว่าเข้าใจรากหญ้าดีพอควร แต่รากหญ้าน้อยคน ที่จะเข้าใจความปรารถนาดีของยอดหญ้า จากคุณ : Pom.com - [ 3 มี.ค. 52 22:35:17 A:124.120.216.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ขอโทษนะครับ สิ่งที่คุณพิมพ์มาว่าเพื่อนๆยอดหญ้าของคุณเข้าใจปัญหาแต่ทำไม มันไม่มีผลงานล่ะ? นี่แหละที่ผมชอบทักกี้มากกว่าคนอื่นๆก็ตรงนี้ แม้ผมจะไม่ชอบหลายๆด้่านของเขา(ถ้าคุณเคยเห็นคคห.ผมตั้งแต่ 5-6ปีที่แล้วน่าจะจำได้บ้าง) แต่ด้านนี้น่ะเด่นจริงๆ ผลงานน่ะมีไหม? ถ้ามีแต่ในกระดาษ แล้วปล่อยให้รากหญ้าอดตาย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผมรู้่ว่าการแก้ไขปัญหาระดับโครงสร้างมันไม่ง่า แต่ปัญหาเริ่มต้นพื้นฐานที่สุดก็คือ คนยังไม่มีกินในตอนนี้ แล้วจะมีเวลาไปพัฒนาตัวเองได้อย่างไร กลับไม่ยอมแก้ไขก่อน? นี่หรือที่เรียกว่าเข้าใจปัญหาจริงๆ? จะสอนจับปลา มัวแต่อ้างว่าต้องขุดบ่อ วางระบบชลประทาน ต้องวางแผนตลาดล่วงหน้า วางแผนระบบ logistic ก่อน แล้วปล่อยให้คนที่รอจะเรียนอดตายไปเสียก่อนจะได้เริ่มทำ ทักกี้ให้ปลาคนกินก่อน พอคนกินปลา เขาก็มีเวลาพัฒนาการเรียนรู้ขึ้นมาเอง(นั่นคือขั้นต่อไป) แต่สำหรับสิ่งที่คุณและเพื่อนทำ ก็ืคือมัวแต่นั่งวางแผนการหาเงินจากปลาอย่างบูรณาการณ์ แต่ปล่อยให้คนรอกินปลาอดตายไปเสียก่อน? มันต้องพัฒนาทั้งสองส่วนไปพร้อมๆกันสิครับ มันรอกันไม่ได้ รอให้แผนออกมาก่อน แต่ไม่สนใจว่ารากหญ้าเขาอดตายไปหมดแล้ว? ขอสรุปคคห.ผมอีกที ผมไม่ได้เห็นด้วยว่าทักกี้จะดีไปเสียทุกอย่าง หลายๆอย่างต้องการปรับปรุงแก้ไขเป็นอย่างมาก แต่็ก็ไม่เห็นด้วยที่จะไล่ทักกี้ออกไปแล้วเอาคนที่ห่วยกว่าเห็นๆเข้ามา(หรือคุณว่าทหารที่กินกันซะน่าเกลียดเก่งกว่า หรือทีมงานที่เคยบริหารมาหลายสิบปีแต่ไม่มีผลงานเป็นชั้นเป็นอันเก่งกว่า?) เพราะหวังลมๆแล้งๆว่าจะดีกว่าทักกี้ ทั้งๆที่ผลงานเก่าๆมันก็เป็นตัวพิสูจน์แล้วว่า ใครทำงานหรือไม่ทำ วางแผนในกระดาษสวยหรู แต่ไม่มีผลงาน นั่นหรือที่คุณเห็นด้วย? ย้ำอีกที แผนงานสวยหรู แต่ไม่มีการลงมือทำจริง มันก็ไม่มีความหมายครับ คนรอกินปลา ก็ต้องให้กินปลาก่อนแล้วค่อยสอนจับปลา ถ้าให้รอลมๆแล้งๆ เขาก็อดตายกันก่อนพอดี และสิ่งที่ผมเห็นมา ก็คือรบ.อื่นๆ มัวแต่วางแผนลมๆแล้งๆ และไม่ยอมให้ปลากิน โดยอ้างว่า กลัวจะเคยตัว สุดท้ายก็ปล่อยให้คนอดตายเหมือนเดิม กับข้อแก้ตัวเดิมๆ ซึ่งผมไม่อยากเห็นมันอีกแล้ว.... ป.ล. สรุปแล้วยอดหญ้าก็หลงคิดว่าเข้าใจรากหญ้า แต่แท้จริงแล้วก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งจริงๆ เพราะไม่ยอมลงมือทำนี่แหละ จะแก้ไขปัญหาระดับโครงสร้าง แต่ดันไม่ลงมือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แล้วมันจะแก้ไว้ให้ใคร ถ้าเขาอดตายกันหมดจนไม่เหลือใคร? จากคุณ : ....4จุด - [ 5 มี.ค. 52 21:28:50 A:125.24.240.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ....4จุด คุณก็จะมาให้ผมแก้แทน ปชป. ผมบอกกี่ทีแล้วว่าไม่ใช่พรรคในดวงใจ ซึ่งตอนนี้ไม่มี แต่มุมคุณกับมุมผมมันต่างกัน เงินรัฐมีจำกัด เวลาทำประชานิยม ยังไงก็กระทบโครงสร้างพื้นฐาน จะทำประชานิยม ทำได้ แต่ต้องเหมาะสม เรื่องแบบนี้ต้องกางรายละเอียดงบประมาณมาดูถึงจะเข้าใจ อย่างที่เจ้าสัวซีพีบอกว่าเรื่องสำคัญที่สุดรัฐต้องตัดถนนขุดคลองเข้านาของชาวนาในพื้นที่ชลประทาน ภาษาราชการเขาเรียกว่าจัดรูปที่ดิน สมัยก่อนบูมมาก แต่ยุคหลังๆงบน้อยมาก ปีละ ๓๐๐ ล้านมัง และข้อสำคัญ ที่คุณว่าประชานิยมโดยการเอาปลาให้กิน ถามว่าอย่างกองทุนหมู่บ้านนี่ให้กู้ไปคนละ ๒๐๐๐๐ บาท ส่วนใหญ่เอาไปซื้อปลากิน ปลาหมดกลายเป็นหนี้ กับที่ปชป.แจกนมเด็กสมัยนายกชวน แจกสปก.สมัยนายกชวน แจก๕๐๐บาทผู้สูงอายุสมัยนี้ อย่างไหนมันเข้าท่ากว่ากัน ส่วนเรื่องไล่นายกทักษิณออกไป ถามว่ามีใครคิดว่าจะเป็นพลเอกสุรยุทธครับ ตอนนั้นคนส่วนหนึ่ง คิดแค่ใครก็ได้ ดร.สมคิด คุณจาตุรนต์ก็ได้ ส่วนตอนปฏิวัติคนอย่างเรามันมีทางเลือกแค่จะเอานายกทักษิณต่อไปโดยไปร่วมกับเสื้อแดง หรืออยู่เฉยๆให้พลเอกสุรยุทธประคองให้บ้านเมืองไม่ให้เสียหาย และพิสูจน์ความถูกผิดกรณีภาษีในศาล ไม่ต้องถามว่าคนที่ออกมาไล่นายกทักษิณจะเลือกใคร แม้ว่าพลเอกสุรยุทธจะมีฝีมือบริหารบ้านเมืองห่างชั้นนายกอานันท์ นายกจากการปฏิวัติคนก่อนนั้นมาก ส่วนเวลานี้นายกอภิสิทธิ์จะอยู่หรือไป ก็คงดูผลจากการโปรยเงิน ๒๐๐๐ บาท ว่าจะได้ผลแค่ไหน ไม่งั้นก็เตรียมรับ ดร.ศุภชัยได้เลย แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 04:48:30 จากคุณ : Pom.com - [ 7 มี.ค. 52 04:41:58 A:192.168.0.17 X:124.120.216.5 ]