ความคิดเห็นที่ 1 เราไม่ใช่คนเหล่านั้นอาจจะตอบได้ไม่ครอบคลุมนะคะ แต่ถ้าให้เดา บวกกับที่เพื่อนๆที่เป็นพธม. หนึ่งเลยคือ มองว่าคุณทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อน สอง พธม.เล่นประเด็น จงรักภักดี สองประเด็นใหญ่นี้ก็ดึงคนได้มากพอแล้วค่ะ จากคุณ : hidepod - [ 7 มี.ค. 52 10:16:26 A:124.121.104.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยกับ #1 ยุคนี้คือยุคแมงสาปครองเมือง จากคุณ : Mr. TOFU - [ 7 มี.ค. 52 10:18:32 A:192.168.0.17 X:125.25.25.206 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่รู้นะ แต่โดยส่วนตัวผม มักคิดว่า คนกรุง เรียนหนังสือมาแยะ ติดความเป็นเจ้ายศเจ้าอย่าง หน้าบาง ไม่ค่อยยอมรับความจริง มักถือตัวว่าเก่ง เรียนหนังสือ อยู่ในเมืองศิวิไล มักดูถูกคนจน คนบ้านนอก คือมันเป็นเรื่องของภาพมั้งครับ และก็คงอีกนานกว่าจะลบมันไปได้ จากคุณ : ธนูไฟ - [ 7 มี.ค. 52 10:22:57 A:222.123.157.45 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญญาครับ มีความรู้แต่ไม่มีปัญญา ฐานะดีแต่ไม่มีปัญญา จากคุณ : thumdee99 - [ 7 มี.ค. 52 10:24:55 A:124.120.10.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ใดไม่ประพฤติล่วงธรรม  เพราะความรัก ผู้ใดไม่ประพฤติล่วงธรรม  เพราะความชัง ผู้ใดไม่ประพฤติล่วงธรรม  เพราะความหลง ผู้ใดไม่ประพฤติล่วงธรรม  เพราะความกลัว ยศของผู้นั้น ย่อมเต็มเปี่ยม ดุจพระจันทร์ข้างขึ้น ฉะนั้น ฯ “อคติ 4 : พุทธวัจนะ” จากคุณ : คนบ้านปาง - [ 7 มี.ค. 52 10:29:05 A:118.172.104.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามนั้นครับ คือความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า การศึกษาดีกว่า รวยกว่า เป้นอีกชนชั้น เป็นอีกระดับเหนือกว่า "พวกชาวบ้าน" ความคิดแบบนี้อยู่ในใจพวกเขามาตลอด แต่ไม่กล้าแสดงออก จนกระทั่งมีจุดรวมนั่นคือสนธิ ทำให้พวกเขาสามารถปลดปล่อยความรู้สึกดุถุกเหยียดหยามนี้ได้ โดยไม่ต้องกลัวโดนตึ๊บ  ถ้าคุณไปม๊อบพันธมิตร จะเห็นว่ามีการแบ่งระดับชนชั้น แบ่งระดับการบริการตามเงินที่บริจาคชัดเจน   แต่จริงๆแล้วพันธมิตรเป็นคนรวยเยอะใหม  อันนี้ต้องยอมรับว่าจริง แต่ส่วนมากเป็นเจ้าของกิจการนะ ฟากเสื้อแดงนั้นนั้น มักจะเป็น พวกมืออาชีพมากกว่า เป็นผู้บริหารมืออาชีพ หรือไม่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ พูดง่ายๆคือ จนกว่า แต่มักจะคุ้นเคยกับระบบความคิดแบบตะวันตกมากกว่า   ไม่ใช่ทำงานโดยอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวแบบคนพันธมิตร แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 10:37:07 จากคุณ : PKT - [ 7 มี.ค. 52 10:31:45 A:202.176.156.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 sale man ไม่ค่อยได้เข้าถึงบ้าน พอมีคนมาป้อนความคิด ขายอะไรให้ ก็ยึดติด ปิดกั้น เอาไว้เลย พวกนี้หลอกง่าย มีความรู้เฉพาะทางที่เรียนมาเท่านั้น จากคุณ : เซรุ่มน้ำปลาหวาน - [ 7 มี.ค. 52 10:31:51 A:124.120.134.45 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าเพิ่งด่วนสรุปซิครับ รอให้พวกมันตั้งพรรคการเมือง ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งก่อน แล้วค่อยมาตัดสินคนกรุงเทพฯเถอะครับ อย่างน้อยคนกรุงเทพฯมากกว่าครึ่ง การเลือกตั้งครั้งสุดท้ายก็ไม่ได้เลือก สุคุ๋มพัน จากคุณ : kriengchai - [ 7 มี.ค. 52 10:34:37 A:58.26.41.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 "เหลืองและแดงต้องลบไปจากแผ่นดิน คนที่ยั่วยุให้คนไทยต้องแตกแยกกันต้องไม่ได้อยู่ในแผ่นดินไทยเช่นกัน..."   เห็นด้วยกับจขก.ครับ ทุกวันนี้ "คนที่ยั่วยุให้คนไทยต้องแตกแยก"ก็แทบไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่แล้วครับ   ส่วนหัวข้อกระทู้ที่ว่า"ทำไมคนมีการศึกษาดีๆมีฐานะอย่างคนกรุงถึงเป็นสีเหลือง... " ตอบง่ายครับ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนที่มีการศึกษาและมีฐานะดีอย่างท่านว่า จึงรู้จักแยกแยะว่าสีไหนทำเพื่อส่วนรวมสีไหนทำเพื่อคนเพียงคนเดียว และมีฐานะดีพอที่จะไม่ให้ใครเอาเงินมาจ้างไปก่อม๊อบประจำเดือนได้ จากคุณ : jiwery - [ 7 มี.ค. 52 10:37:04 A:115.67.113.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^_^ ขอวิเคราะห์แบบนี้นะคะ 1.  คนกรุงเทพ  ส่วนใหญ่ไม่ได้สัมผัสกับปัญหาโดยรวมของประเทศ และประชาชนส่วนใหญ่   เมื่อผู้ว่าฯ  กรุงเทพเป็นคนของพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งมีส่วนสนับสนุน  พันธมิตร  และคนกรุงเทพเลือกผู้ว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาของคนกรุงเทพ   ได้ทุกอย่างก็จบ   ส่วนปัญหาภายนอก  ปัจจัยอื่นๆ  คนกรุงเทพก็มองข้ามไปหมด  และช่วยสนับสนุนพันธมิตร 2.  คนกรุงเทพ  มีผลประโยชน์และสัมพันธ์กับคนชั้นกลางถึงคนชั้นสูง  ซึ่งมีประมาณ  20-25 % ของประเทศ  แต่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพ  และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจ ถึง  80 %  ของประเทศ  โดยไม่ได้รับรู้ปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบประเทศ 3.  คุณทักษิณ   ได้ใช้นโยบายแก้ปัญหา   คนจนส่วนใหญ่ที่มีมากถึง  80%  ของประเทศ   โดยให้ความสำคัญของคนกรุงเทพ  ค่อนข้างน้อย   เพราะอาจจะมองว่า  ศักยภาพของคนกรุงเทพ  มีมากพอที่จะดูแลตัวเองได้ 4.  การบริหารงานและนโยบายของรัฐบาล  มุ่งไปสู่ต่างจังหวัดมากมาย  ในสมัยนายกทักษิณ  ทั้งๆ  ที่กรุงเทพ  ก็สนับสนุนงบประมาณมากมาย  แต่ไม่ได้ชี้แจง  หรือประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวาง 5.  คนกรุงเทพ  เสพสื่อ  ASTV และแป๊ะนรก  เกินที่จะเยียวยา  รับฟังและเชื่อเรื่องราวด้านเดียว   จนกลายเป็นพันธมิตรในที่สุด ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจากการมองข้ามปัญหาเหล่านี้  และเชื่อใจคนใกล้ชิดของ  อดีตนายกทักษิณ  นั่นเอง  ถ้าอดีตนายกทักษิณ  ย้อนเวลามาได้ คงไม่ปล่อยให้ปัญหานี้   ถูก ASTV และแป๊ะนรก กล่อมคนกรุงเทพ  และเอามาเป็นจุดทำลายคุณทักษิณได้ จากคุณ : หอมกลิ่นฝน - [ 7 มี.ค. 52 10:38:20 A:222.123.52.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 เขาก็ใช้วิธีการนี้มาตลอด เวลาที่ประชาชนอยากทวงอำนาจคืน สมัย   6 ตค 19 คนออกมาชุมนุมเรียกร้อง รธน. เขาก็ปลุกม็อบกระทิงแดง นวพล ลูกเสือชาวบ้าน มาสู้ แต่ก็แพ้..เพราะประชาชนหนีไปสู้ในป่า ตำรวจทหารตายกันหลายร้อยทุกปี สุดท้ายต้องออก กม.66/23 ให้กลับเข้าเมือง เหมือนนิรโทษกรรม จึงจบ แต่วันนี้...ยังจะเอาเป็นเอาตายกับเขาอยู่ มันจะจบได้อย่างไร ที่สำคัญ....ต่างฝ่ายออกมาแสดงตัวกันซะชัดเจน มันเหมือน ภูเขาไฟที่คุกรุ่นมานาน รอวันระเบิด จากคุณ : AnnieHappy - [ 7 มี.ค. 52 10:41:11 A:192.168.0.17 X:116.58.231.242 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มีน้องสาวจบ มธ ตอนนี้ทำงานเป็นเลขาเงินเดือน 50000 ชอบสีเหลืองเป็นชีวิตจิตใจ แต่ที่บ้านสีแดงหมด โชดยังดีไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน  เขาคลั่งสีเหลืองขนาดบอกแม่ว่า ถ้าแม่ไปยุ่งกับพวกสีแดงเป็นอะไรมาเขาจะไม่สนใจเลย  เขาคงลืมไปว่เป็นแม่ ลูก กันอยู่  แต่แม่ก็บอกว่าไม่แคร์ แต่ก็คงเสียใจบ้าง จากคุณ : ยาถ่าย (ยาถ่าย) - [ 7 มี.ค. 52 10:42:16 A:124.122.159.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าเพ้อเจ้อเลยครับ เหลืองกับแดงกระจายอยู่ในทุกภาคส่วนทุกจังหวัดทุกบริษัทอย่างแยกกันไม่ออก ขึ้นอยู่กับว่าใครกล้าแสดงออกมากกว่ากัน ... เหลืองเงียบแดงเงียบมีอยู่มากกว่าที่ออกมาแสดงพลังมากนัก ในแต่ละสีเองก็ยังแบ่งออกเป็นหลายระดับ เพราะยุคแห่งการเรียนรู้ไม่มีใครเชื่อใครมากจนไม่ลืมหูลืมตาเหมือนแต่ก่อน อย่าโยนบาปมาให้คนกรุงเทพ เมืองที่มีแต่คนต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่ คนกรุงเทพแท้ ๆ กลับย้ายออกไปชานเมืองเพราะเบื่อรถติด กลุ้มใจแทนคนกรุงเทพจริง ๆ จากคุณ : Twin Goliath - [ 7 มี.ค. 52 10:46:56 A:192.168.0.17 X:202.91.19.194 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต้องยอมรับว่าเครือข่ายอำมาตย์มีอยู่ทั่วไปในสังคม ในรั้วมหาวิทยาลัยก็ด้วย คนชั้นกลางส่วนใหญ่ย่อมผ่านการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีเวลาตั้ง 4 ปี เพียงพอที่จะให้นักวิชาการฝ่ายอำมาตย์ล้างสมองผ่านทางการศึกษา ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรียนจบ ทำงาน มีชีวิตฟุ้งเฟ้อสุขสบายและจ่ายภาษีก็พอ ไม่ต้องสนใจความจริงและสิ่งที่เป็นไปในสังคม เมื่อได้ขึ้นอยู่ในระดับสูงอีโก้ย่อมสูงตาม จะเชื่อเมื่ออยากเชื่อ คนพวกนี้พร้อมที่จะเชื่อเพียงแค่ผู้โน้มน้าวมีต้นทุนทางสังคมสูงดูน่าเชื่อถือมากกว่าข้อเท็จจริงจากข้อมูล 2 ด้าน บางคนน่าสมเพช พื้นฐานเดิมมาจากคนชนชั้นล่าง อยากเป็นพวกกับชนชั้นสูง เพื่อได้แต้มต่อหรืออภิสิทธิ์บางอย่าง ก็ต้องแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อชนชั้นล่างกับเขาด้วย ประชาชนคนจนเขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ปัจจัย 4 พื้นฐานหล่อเลี้ยงชีวิต และคุณค่าความเป็นมนุษย์ ความเสมอเท่าเทียมกันทางกฏหมาย ถ้าผู้มีอำนาจวาสนาเข้าใจ เห็นใจ ให้เป็นไปโดยธรรม บ้านเมืองจะสงบสุขเอง แต่ถ้ายังกดขี่ เบียดเบียนข่มเหง จนบ้านเมืองวิปริตอย่างทุกวันนี้ วันหนึ่งประชาชนเขาจะมาทวงคืนเอาทั้งหมด จากคุณ : สมเดช - [ 7 มี.ค. 52 10:48:26 A:125.25.110.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 Quote "ไม่ใช่ทำงานโดยอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวแบบคนพันธมิตร " --------------------------------------------------------------------- จำได้เลยตอนที่เจ๊ฮิลแกไปเยือนอินโดฯ แต่ไม่แวะมาไทยทั้งๆที่เรากำลังจะจัดประชุม ASEAN SUMMIT มีสาวกพันธมารมาแถแบบข้างๆคูๆว่า "โอ๊ย ไม่จำเป็นต้องมาหรอก เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน โทรคุยกันก็รุ้เรื่องแล้ว" น่าสมเพชที่คนพวกนี้กลับมองไม่ออกกันเลยว่า เพื่อนก็ส่วนเพื่อน จุดยืนก็ส่วนจุดยืน และนี่เป็นความหมายในเชิงสัญญาลักษณ์ ต่อให้คุยกันเป็นชั่วโมงก็ไม่มีความสำคัญเท่ารูปถ่ายจับมือกันเพียงใบเดียวหรอก เพราะฉนั้นมา confirm comment ของคุณ PKT ว่าสาวกพวกพันธมารน่ะ ยังขาดความเป็นมืออาชีพอีกเยอะ เก่งก็แต่ไอ้เรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกนี่แหละ หรือถ้าจะเทียบอีกอย่างคนพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากพวกสาวกขายตรงที่หลับหูหลับตาเชื่ออย่างงมงาย โดยไม่รู้จักการแยกแยะผิดชอบขั่วดี อะไรควรอะไรไม่ควร มีหรือจะมาเทียบได้กับนักธุรกิจข้ามชาติได้ ถ้าวัดกันในแง่ของกึ๋นและความเป็นมืออาชีพแล้ว มันคนละเกรดกันเลย หุ หุ ติดแต่ว่าพวกโน้นมันรวยกว่าเท่านั้นแหละ  แต่รวยได้ก็ล้มได้เช่นกันถ้าไม่รู้จักการแยกแยะ อย่างเช่นสายการบินเจ้านึงเป็นต้น ขนาดรู้ว่ามันทุบหม้อข้าวตัวเองแท้ๆ กลับดันไปส่งเสบียงให้มันซะอีก แล้วอย่างงี้จะไม่ให้มันเจ๊งได้ไง จากคุณ : piras - [ 7 มี.ค. 52 10:49:21 A:124.120.158.158 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชาวไร่ ชาวนา ประชาชน ส่วนใหญ่ของประเทศ  ไม่ได้เสพสื่อ บางสื่อ ประชาชนกลุ่มนี้จึงไม่เป็น กลุ่มคนเสื้อเหลือง แต่กลุ่มนี้ เสพสื่อทั่วไป บวกกับความรู้สึกของตนโดยไม่โดนเป่าและปั่น กลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็น กลุ่มเสื้อแดง จากคุณ : หมื่นลี้พันตำลึง - [ 7 มี.ค. 52 10:58:19 A:125.26.134.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าเข้าใจผิดว่าคนมีการศึกษาสูงแล้วจะฉลาดไปหมดน่ะครับ เพราะ การศึกษาทำให้คนถูกตีกรอบทางความคิดได้ง่าย โดยเฉพาะการศึกษาของเรา ที่เน้นการท่องจำ การรับรู้มากกว่าการเรียนรู้ และการวิเคาะห์ข้อมูล จึงตกเป็นเหยื่อ ของสื่อเลวๆ ได้ง่ายมาก ประกอบกับบรรดานักวิชาการ ทั้งหลายก็มีผลประโยชน์ทัซ้อนอยู่กับสื่อหลายรูปแบบ ในสำนักข่าวแห่งเดียวกัน เช่น ในเคลือ ผู้จัดการกรุ๊ป ก็ยิ่งช่วยกันสร้างกระแสไปในทิศทิศทางเดียวกัน...... อีกประการหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ คนเมืองมักคิดว่าตนเอง มีฐานะทางสังคมดีอยู่แล้ว ไม่ต้องพึงพาการนำของรัฐ.... ทำให้ไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญของนโยบายรัฐบาล ในแต่ล่ะยุค แต่คอยดูต่อไปซิครับ เมื่อถึงวันที่เศรษฐกิจไปไม่ไหว คนพวกนี้แหละจะออกมาแหกปากด่ารัฐบาล โดยไม่เคยมองตัวเองเลยว่าตัวเองนั่นแหละ คือสาเหตุของการล้มสลายทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริง เพียงเพราะใช้ความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง ไม่เคยเคารพมติของสังคมโดยรวม จากคุณ : tumtungkha - [ 7 มี.ค. 52 11:02:38 A:125.24.7.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 พยายามเลียแผลให้กันใหญ่เลยนะครับ พยายามเข้านะ จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 7 มี.ค. 52 11:07:02 A:125.27.163.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีการศึกษา ? เอาอะไรมาวัดครับ ถ้าจะบอกว่า ทุกอย่างมันกระจุกอยุ่ในกรุงเทพ แล้ว บอกว่ามีโอกาส มากกว่าคนจังหวัดอื่นๆ ยังพอให้อภัยนะครับ จากคุณ : Night_Angel - [ 7 มี.ค. 52 11:09:17 A:124.122.197.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ทุกคนครับ ดูจากการเลือกตั้งผู้ว่า ก็ได้..แพ้ก็ยอมรับว่าแพ้.....แต่เราให้กำลังใจ... จากคุณ : tung-ah - [ 7 มี.ค. 52 11:10:42 A:58.10.219.121 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ ดู สีเหลือง สีแดง มัน ฝ่ายละ 50   50  อะ ถ้า แดงสัก 80 เหลืองสัก20 มันก็จะเห็นความแตกต่างมากกว่านี้ จากคุณ : ก๊อต29 - [ 7 มี.ค. 52 11:12:32 A:202.176.93.60 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 9 นั่นคือแยกแยะแล้วหรือครับ หมอกบังตาหรือฟ้าบังใจละครับนั่น ความคิดของผมคือทั้ง 2 ม๊อบมันมีผลประโยชน์แฝงทั้งคู่แหละ แต่มีฝ่ายนึงจะเอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียวไม่นึงถึงส่วนรวมว่าจะเดือดร้อนหรือไม่ มันจึงผลักผมไปอยู่อีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ ถึงฝ่ายนี้มันจะไม่ได้ดีเลิศซะทุกอย่าง แต่อีกฝ่ายผมรับไม่ได้จริงๆครับ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 11:16:01 จากคุณ : attribute - [ 7 มี.ค. 52 11:15:12 A:58.8.153.170 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 First of all, Amid propagandizing news and media, the Bangkokians have more or less been brainwashed due to the fact that they are more exposed to the lopsided media, especially ones from the internet, such as the Manager. The educated ,of course, tends to read more, but the information digested may blind them from the factual situations that The country is facing. Secondly, the residents of Bangkok ,especially inner city, mostly range from upper middle classers to the old feudal lords of the past. So the tendency of them being conservative is considerably high. Now, Having both of the 2 reasons combined, It is possible to say that Bangkok has always been a fortress upholding the longstanding establishment of the oligarchs. แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 11:54:07 จากคุณ : guyver - [ 7 มี.ค. 52 11:34:08 A:192.168.0.17 X:85.18.14.42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คนกรุงเทพ ก็แค่..กลัวการเปลี่ยนแปลงครับ อยู่กันแบบ...ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เส้นสาย..ชาติตระกูล... เป็นหนทางสร้างความมั่นคงและมั่งคั่ง ได้ง่ายดายกว่า.. "ความสามารถ " เยอะ เรื่องอะไรจะเปิดโอกาสให้ ชนชั้นแรงงาน หรือ รากหญ้า มีโอกาส ได้แสวงหา ความสำเร็จ ได้ ด้วย กติกา ที่เท่าเทียม..  ใครล่ะ?? ที่มีโอกาสเข้าถึงสายสัมพันธ์ คนในนามสกุล มีเชื้อ,    นามสกุลเจ้าสัวผู้มั่งคั่ง ,   นามสกุล นายทหารผู้สูงอำนาจ    คุณว่า คนกรุงเทพ ในสัมมะโนครัว  หรือ รากหญ้า ชาวนา ???   ถ้าเลือกตั้ง ด้วยเสียงของคน ที่แออัดอยู่ในกรุงเทพโดยรวม..ไม่ใช่คนที่มี ชื่อตามทะเบียน...ผลคงอาจต่างจากที่เห็นบ้าง    แล้วเลิกอ้าง..การศึกษา      การศึกษา..ไม่เกี่ยวเลยครับ !! เป็นเรื่องค่านิยมและ ทัศนคติล้วนๆ...    และประเทศนี้ จะต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่านาน....    ที่ รถเบนซ์ กับ แท็กซี่ ทำผิดกฎจราจรข้อเดียวกัน แต่ ได้รับการดูแล    จาก จนท. ต่างกัน...!!!! 000000000000000000000000000 จากคุณ : Bismarck the third - [ 7 มี.ค. 52 11:44:45 A:58.9.128.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 คห ที่ 9คงเป็น 1 ใน คนกทม ที่ จขกท กล่าวถึง ............ จากคุณ : thamthang - [ 7 มี.ค. 52 11:46:07 A:192.168.0.17 X:61.47.27.79 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ...สั้นๆง่ายๆ...เขาชอบประชาธิปัติย์ครับ แต่ พันธมิตรคือแนวร่วม...ปชป เล่นในสถา มี พธม เล่นข้างถนน... ตอน พธม หนุนมัชฌิมาฯ ของเสี่ยประชัย ก็ได้เห็นมวลชนของ พธม เนื้อแท้แล้วนี่ครับ ยิ่งตอนนี้ถ้าจะแยกมาตั้งพรรคการเมืองเอง ก็คงไม่ต่างจากตอนเป็น มัชฌิมาฯ... คนกรุงเทพ ที่ชอบ profile การศึกษา หน้าตาของ คุณหนูลุยทุ่ง ก็คงไม่เปลี่ยนใจหรอกครับ เชื่อได้เลย... จากคุณ : Ness-San - [ 7 มี.ค. 52 11:52:48 A:192.85.47.1 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมวิเคราะห์อย่างงี้นะครับ เอาเรื่องโกงออกไปก่อนนะครับ คนกรุงโดยพื้นฐาน(โดยผลประโยชน์) โดยเฉพาะคนทำงานบริษัท ย่อมไม่ชอบคุณทักษิณอยู่แล้วครับ ลองไปคิดดูสิครับนโยบายอะไรที่มีประโยชน์สำหรับคนกรุงบ้าง กองทุนหมู่บ้าน คนกรุงไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่ สามสิบบาท คนทำงานบริษัทก็มีประกันสุขภาพหมู่ ประกันอื่นๆ ติดมากันหมดแล้ว สามสิบบาทแทบไม่ได้ใช้เลย บางบริษัทประกันครอบคลุมถึงลูกเมียด้วยซ้ำ เพราะงั้นคนที่ทำงานบริษัทหรืออยู่ในกรุงเทพฯ ย่อมไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายที่ใช้เงินเยอะแต่ผลประโยชน์ ไปอยู่กับคนอื่นอยู่แล้ว นโยบายที่คนกรุงอาจจะชอบก็รถไฟฟ้า แต่คนก็อาจจะมองว่าล่าช้า บางโครงการก็กลายเป็น กทม ทำ งงกันไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นผลงานคุณทักษิณรึเปล่า เอาเรื่องโกงมารวม พิสูจน์ได้ไม่ได้ แต่มันโกรธครับ นโยบายก็ไม่ได้ทำอะไรให้ แถมยังโกงเงินอีก ตายครับ คนกรุงจึงมีแนวโน้มที่จะไม่ชอบคุณทักษิณสูง จะกลายเป็นเหลืองหรือเปล่าไม่ทราบ เดี้ยวนี้คนกรุงเป็นแดงก็เยอะครับ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 11:55:07 จากคุณ : Toey84 - [ 7 มี.ค. 52 11:54:36 A:60.34.112.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 เพราะเหลือง ต้นทางมากจากพวกอมาตย์ไฮโซ เขาก็กระจายข่าวสารไปในหมู่พวกเดียวกันก่อน จึงช่วงชิงมวลชนกลุ่มนี้ได้ก่อน อีกอย่างคนพวกนี้ไม่ค่อยได้ประโยชน์จากนโยบายทักษิณเท่ากับรากหญ้า และส่วนมากเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารลึกซึ้ง พวกมากลากไป อีกอย่าง สื่อชอบปล่อยข่าวว่า พวกเหลือง มีการศึกษา แต่ความจริงอาจไม่ใช่ น่าจะมีปน ๆ กันไป แต่อาจมีรากหญ้าน้อยกว่า แต่แดงนั้นจริง ๆ  มีชนชั้นกลางและคนมีการศึกษาเยอะมาก พวกนี้ติดตามการเมืองมานาน เข้าใจการเมืองมากกว่า เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ ๆ เช่นส่งออก อสังหาริมทรัพย์ เพียงแต่..พวกสื่อไม่ออกข่าว เพราะสื่อมันก็เป็นเหลืองซะเกือบหมด หรือไม่ก็ยอมเป็นทาสเพื่อรักษาผลปรโยชน์ตัวเอง ทำนองรู้หลบเป็นปีก จากคุณ : AnnieHappy - [ 7 มี.ค. 52 12:05:02 A:192.168.0.17 X:116.58.231.242 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ก็มันบอกว่าใครอยู่ข้างมัน มีกาศึกษา เป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง รวย ฉลาด คนที่คิดว่าตัวเองเป็น   หรืออยากเป็น ก็จะเข้าร่วม พอเวลาคุยกับคนอื่นก็จะอ้างสิ่งเหล่านี้ จากคุณ : ดินแดนที่ราบสูง - [ 7 มี.ค. 52 12:10:31 A:125.26.165.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นคนกทม.ครับ  โคตรเกลียดสีเหลืองเลยครับ เพราะที่สังเกตุจากสีเหลืองรอบ ๆ ตัว แต่ละคน มักจะเป็นมีนิสัยเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน  งมง่าย ไร้สติ เชื่อว่าตนเองทำเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง (ไม่รู้มันโดนสะกดจิตมารึปล่าว) เข้าใจนะว่าเป็นคนมีการศึกษา มีฐานะ มีความรู้ มีเหตุผล  แต่ที่ไม่มีเลยก็คงจะเป็น สติ กับ สามัญสำนึก นั่นล่ะ จากคุณ : oat_jazz - [ 7 มี.ค. 52 12:14:12 A:58.8.108.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเห็นแย้งหน่อยนะ เสื้อเหลืองที่ไม่ชอบทักษิณ ก็เพราะเสียประโยชน์ จากนโยบาย ซึ่งเป็นพวกอำมาตย์ ทุนเก่า พนักงานรัฐวิสาหกิจ หมอ นายทุนสื่อ ฐานะดี ก็เพราะรับมรดก หรือกินเงินเดือน ดูมีการศึกษา แต่ได้มาจากการเรียนในห้อง เสื่อแดงมีทั้งที่มีฐานะและไม่มีฐานะ  ประกอบอาชีพอิสระจำนวนมาก ฐานะดีก็แบบ เจ้าของ กิจการย่อย เล็ก กลาง จากการเติบใหญ่ ของเศรษฐกิจที่ให้โอกาส ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีเงินจากการสร้างตนเอง ความรุ้มาจากประสบการณ์ ถ้าเป็นนักวิชาการก็นักวิชาการรุ่นใหม่ จากคุณ : โรงเรียนวัด - [ 7 มี.ค. 52 12:14:48 A:125.25.117.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตามกระแส ตามที่สื่อออก กระแสสีเหลืองเป็นคนชั้นกลาง กระแสเสื้อแดงเป็นชนชั้นล่าง คุณคิดว่าคนที่ไม่ค่อยสนใจในการเมือง จะอยู่อิงกระแสไหน จากคุณ : MamaKungking - [ 7 มี.ค. 52 12:18:12 A:114.128.74.142 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 เจ้าของกิจการจำนวนมากในกรุงเทพ ไม่ชอบทักษิณ เพราะอดีตนายกทักษิณไม่เผื่อแผ่ผลประโยชน์ให้ใครเลย นอกจากพรรคพวกเพื่อนฝูง และญาติมิตร พันธมิตรใช้เรื่องการไม่จงรักภักดีมาเป็นไม้ตายในการโจมตีทำลายอดีตนายก และคนกรุงเทพจำนวนมากเป็นพวกคนมีตระกูลสูงศักดิ์ ชิงชังเรื่องการไม่จงรักภักดี อีกกลุ่มคือพ่อค้าชาวจีนซึ่งมีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์มากกว่าคนไทยเสียอีก ยิ่งฟังแป๊ะลิ้มกับพันธมิตรยิ่งเชื่อ และเกลียดทักษิณมากขึ้น เจ้าสัวและพวกเฒ่าแก่เหล่านี้(ครอบครัวเพื่อนผมหลายครอบครัว) พูดเหมือนกันว่า ที่เรามีทุกวันนี้เพราะสถาบันกษัตริย์ให้ความเมตตา จากคุณ : ปลาทองคลองใหญ่ - [ 7 มี.ค. 52 12:23:36 A:222.123.4.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 1.เชื่อสื่อมากกว่าเชื่อความคิดตัวเอง 2.ลิ้มมันบอกว่าโง่ เชื่อมันถึงจะฉลาด คนกทม.เลยกลัวโง่ 555 จากคุณ : ถูกหลอกให้ฉลาด (chatmar) - [ 7 มี.ค. 52 12:26:25 A:118.172.221.208 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 คนกรุงเทพ มีความเสียสละน้อยกว่าคนต่างจังหวัด จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 7 มี.ค. 52 12:54:32 A:124.120.168.253 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 * คนที่  (  อ้างว่า  )  มีความรู้  จากการมี  ใบปริญญา และ  คนที่ไม่มีความคิด    ......   เท่านั้น  ครับ ที่  ..........   เห็นดีเห็นงามไปกับ  พวกพันธมิตร ฯ (  เดี๋ยวนี้  สำนึกตัวได้  .......   หลายคนแล้ว  ) * จากคุณ : ใช่ ไม่ใช่ ... พี่น้อง .... (Fight for Food & Freedom) - [ 7 มี.ค. 52 12:55:54 A:192.168.0.17 X:58.8.244.63 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องใหญ่สุดคือคนกรุงเทพไม่ชอบการลบลู่ครับ ประเด็นรองคือคนกรุงเทพส่วนใหญ่ได้รับข่าวสาร และรู้เห็นว่าทักษิณเป็นอย่างไร ดีร้ายอย่างไร ผิดกับ ตจว ตรงที่รับข่าวสารแบบด้านใดด้านนึงตรงๆ วิทยุตำบลบางที่ตามจังหวัดต่างๆเอียงไปด้านนึงหมด ข่าวสารได้รับด้านเดียวเลยคิดว่า ฝ่ายนั้นถูกหมด แต่ กทม ได้เปรียบกว่าตรงที่ข่าวสารมาทุกทิศทาง รับ2ฝ่ายแล้วแยกแยะได้ พอรู้อะไรคืออะไรเลยตัดสินใจว่าฝั่งใหนดีกว่าไงครับ ถามคนงานที่บ้านบางส่วน ไปถามเค้าสิ เค้าสนการเมืองหรือไม่ เค้าแค่ผ่านๆไม่สนจริงจัง ใครให้ประโยชน์กับกลุ่มเค้า เค้าก็เลือก เงินมากาชื่อเรื่องจริง 200-500 เอา นี้เรื่องจริงของสังคมไปถามได้ ไม่สังเกตุหรือครับ กทมไม่ค่อยเห็นความเชื่อเรื่องผีไสยศาสตร์ ส่วนใหญ่เกิดต่างจังหวัดหมด ไปดื่มน้ำส้วมที่คิดว่าน้ำวิเศษเอย หรือความเชื่อหลายอย่าง แค่มีคนชักจูงว่าอะไรดีนั้นนี้เชื่อไปแล้วโดยไม่วิเคราะห์ ผมยกตัวอย่างให้ดูง่ายๆนะ จากคุณ : กาลามังตั้งเด่ - [ 7 มี.ค. 52 13:29:55 A:58.9.15.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 อือ   ผมไม่อยากให้จขกท.  มองว่า  คนกรุง  เป็นเสื้อเหลือง    ผมว่า  เขาไม่เอาทักษิน  และไม่เอาสนธิมากกว่า   ลองสังเกตุดูจาน  ASTV ในกทม. มีน้อยกว่า จานแดงอีก  แล้วเขาจะเอาข้อมูลจากสนธิมาจากไหน  ก็ไม่ได้ดูอ่ะ             การที่ผลเลือกตั้ง  ผู้ว่า  หรือผลเลือกตั้ง สส. ออกจะเป็น ปชป. มากกว่า  ก็จะต้องมองว่า  เป็นผลการกระทำใด ๆ ที่เกิดในสมัยของทักษินเอง   ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน  ทรท 100%    ทุกคนมีสิทธฺเท่าเทียมกันที่จะเลือกครับ  และต้องเคารพในการตัดสินใจ     คนในนี้(บางคนข้างบน)  อ้างว่าตัวเองรักประชาธิปไตย  แค่เสนอความเห็นบางคนยังไปดูถูกคนกรุงเลย    ผมไม่เคยว่า คนเชียงใหม่  ทำไมเอาทักษิน  ผมเคารพการตัดสินใจของเขา  คนที่ไปว่าเขา  ไม่มีปัญญานะ  ตัวเองมีแค่ไหน   ไอ้แค่คำพูดนะ  ศักแต่มีปากก็พูดได้ด่าได้                 คนกรุง ถึงข้อมูลเร็วกว่า  แม่นยำกว่า  และใกล้สถานะการณ์มากกว่า  เขาก็คงมีเหตุผลของเขาเอง จากคุณ : fado - [ 7 มี.ค. 52 14:10:33 A:113.53.66.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คนกรุงส่วนใหญ่ มักจินตนาการว่า คนตจว.  คือพลเมืองชั้นสองของประเทศ ไม่ทันสมัย เชย เป็นพวกบ้านนอก บ้านเมืองยังไม่เจริญ มีแต่บ้านหลังเก่าๆ โทรมๆ ดินแยกแตกระแหง กินดิน กินผักกินหญ้าเป็นอาหาร บางคนเอาคนอีสาน เหนือ ไปเปรียบเทียบกับการมาเป็นคนรับใช้ตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย  หรือไม่ก็จินตนาการเอาว่าเหมือนพวกแม่ค้าข้าวเหนียวไก่ย่างข้างถนน  ที่มีแต่ฟามสกปรก  เมื่อสักครู่ดูทีวีเอ็นบีที. นายสุเมธ กกต.เก่าที่เพิ่งเกษียรพูดในรายการข่าวของนายสุภาย ขี่กะจาย ว่าคนชนบทไม่รู้เรื่องการเลือกตั้ง คงจะทำนองหมายฟามว่า คนบ้านนอกเลือกแต่คนที่เอาเงินมาให้เท่านั้นนะซี้   ฟังแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่า อ้อ มันเป็นเช่นนี้เอง ประเทศไทยถึงได้ไม่ไปถึงไหนสักที...... จากคุณ : ekatik - [ 7 มี.ค. 52 14:47:04 A:125.24.125.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนเรื่องการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลือก สส. สว.หรือผู้ว่าฯ บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยเชื่อถือ ยังคาใจ.....!!!!!! โดยเฉพาะเรือ่งคะแนน........ ดูมันแปลกๆ เหมือนหวยล็อคยังไงยังงั้น........ จากคุณ : ekatik - [ 7 มี.ค. 52 14:58:08 A:125.24.125.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าเป็นอย่างที่ คุณthumdee99 ว่ามาเขาเรียกว่า "ไอคิวสูง แต่ไอเดียต่ำ" ใช่มั้ยค่ะ ป้าว่าเป็นไปได้สูงนะ เห็นมาเยอะแล้ว ประเภทที่การศึกษาสูงมาก เป็นถึงดอกเตอร์ ดอกแต้ ศาสตราจารย์ก็มี ท่านเรียนเก่ง มีโอกาสไปได้ไกล เรียนสูงจนสุดลิ่ม แต่ Fix Idea สุดๆ ฉันบอกว่า ใช่ ก็ต้องใช่ สอนคนอื่นอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น สอนคนทำนา สอนชาวบ้านเลี้ยงปลา แต่โทษที ปลาตู้ท่านยังเลี้ยงไม่รอดเลย เนื้อแท้ของชาวบ้านเป็นยังไง ท่านยังไม่เคยรู้เลย แต่สอนเขาเป็นวรรคเป็นเวร เอาเข้าจริง มันทำอย่างที่ท่านสอนไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่บริบทของชาวนา แ้ล้วแปลกมากคนพวกนี้ จะไม่ยอมรับผิดเด็ดขาด ถูไถไปเรื่อย ในที่สุด ก็ไม่มีใครทำตาม คนพวกนี้มีในทุกอาชีพ ทุกสายงาน กูเก่งคนเดียว คนอื่นโง่หมด จะนับถือใครก็เลือกดูนามสกุล ไม่ได้คิดจะยอมรับคนอื่นที่ความสามารถ แล้วที่แน่ๆเขาโง่ไม่เป็นด้วย ใครก็เตือนเขาไม่ได้ นอกจากคนที่มีคุณมีโทษกับเขาเท่านั้น ใครขวางลำ ก็ขวางเขาหมด แ ละชอบการประจบสอพลอเป็นที่สุด ทำอะไรต้องมีผลตอบแทนคุ้มค่า ยิ่งถ้าไ ด้มาซึ่งตำแหน่ง และตราตั้งคุณหญิง ท่านผู้หญิงแล้วละก็ พวกเขายอมตายถวายชีวิต มีอยู่จริง แล้วคนพวกนี้จะอยู่ในองค์กรใหญ่ๆ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สถานที่ราชการ และแผนกบริหารจัดการของบริษัทต่างๆ เพราะฉะนั้น ก็คงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมพวกที่สนับสนุนพันธมิตร จึุงเป็นชนชั้นกลาง และชอบอ้างว่าทำเพื่อสถาบัน ชอบดึงฟ้าลงมา เป็นพวกให้เกิดการมัวหมองทั้งแผ่นดิน และก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนมาก ก็องค์กรใหญ่ๆกระจุกกันอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดก็มีตามมหาวิทยาลัย ที่เป็นที่รวมของบรรดานักวิชาการ ที่ถูกนายกทักษิณลดความสำคัญลง จนเกิดการต่อต้านโดยผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะเคยชินแต่อยู่บนหอคอยงาช้างที่ นักการเมืองและรัฐบาลก่อนๆต้องให้ความสำคัญ ทำอะไร ก็ต้องให้เป็นที่ปรึกษา ขอความเห็น แต่นายกทักษิณ ไม่ มีแต่สั่งการให้ทำวิจัย เพื่อหาข้อสรุปของปัญหา ก็เป็นธรรมดา ที่เซียนจะเคือง เมื่อโดนเซียนเหยียบเมฆ ทำเหมือนตัดหน้า ไม่แคร์ สรุปง่ายๆว่า ที่เป็นกันอย่างนี้เพราะกิเลส การยึดติด นี่แหละ ไม่ใช่เป็นกับนักวิชาการทุกคน เพราะมีคนที่มีความรู้ เก่งๆอีกหลายท่าน ที่มีคุณธรรม แยกผิดแยกชอบ จึงเหมารวมไม่ได้จริงๆ และอีกอย่างก็คือการแบ่งชนชั้น วรรณะกัน อะไรนิด อะไรหน่อยก็หาว่า นายกทักษิณบังอาจ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จับผิดทุกเรื่องจนเป็นประเด็นต่างๆนาๆ จนเกิดกรณีล้มล้างสถาบัน เอาเข้าไปนั่น เรื่องของการ Fix Idea แท้ๆ ถ้าสืบเสาะหาความจริงกัน ชาวบ้านระดับรากหญ้า เป็นผู้รู้ มากกว่า พวกที่ตั้งตัวเป็นผู้รู้เสียอีก เพราะชาวบ้าน ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดภายใต้ภาวะวิกฤติ ความยากลำบาก นาๆนับประการ ขาดเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ต้องปรับเอาเองคิดนวตกรรมเอง สิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่เป็นหัวคิดของชาวบ้านเพื่อเอามาช่วยงาน มีเยอะแยะ เพียงแต่ท่านเหล่านั้นขาดใบปริญญามาการันตี และผลงานอีกมากมายที่ช่วยให้พวกนักวิชาเกินเอามาแอบอ้าง โชว์เป็นผลงานตนเอง แต่ชอบพูดว่า ชาวบ้านโง่เง่าเต่าตุ่น แต่จริงๆแล้วเพราะพวกเราคิดว่าคนอื่นก็มีความคิดซื่อๆ เหมือนเราๆ ไม่คิดว่าจะเหลี่ยมจัด เอารัดเอาเปรียบกันหน้าด้านๆมากกว่า เพราะฉะนั้นจะให้ยอมรับว่า พวกพันธมิตรเป็นพวกมีความรู้ มีแต่คนเก่งๆ มีึความรู้สูงไม่ได้จริงๆ ถ้าบอกว่า เป็นพวกฉลาดแกมโกง ปากหวานก้นเปรี้ยว เป็นพวกปลาทอง ความจำเสื่อม ถึงจะเชื่อได้สนิทใจ จริงๆจ้า จากคุณ : Paviewเองจ๊ะ - [ 7 มี.ค. 52 16:18:18 A:118.173.206.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนกรุงเทพ ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลาง ต้องแก่งแย่งทำมาหากิน เรื่องติดตามข่าวสารการเมืองก็จะเสพแต่สื่อทางทีวี และหนังสื่อพิมพ์(อยู่ภายใต้อำมาตย์) เกือบทั้งหมด รวมทั้งบางส่วนก็เสพ astv ด้วย จึงได้รับข้อมูลข่าวสารความจริงเพียงด้านเดียว และส่วนใหญ่ก็ไปตามกระแสการชักจุงของพวกชนชั้นสูงโดยไม่รุ้ตัว เช่นพวกนักวิชาเกินต่างๆ ที่ เป็นสมุนพวกอำมาตย์ จึงทำให้ไม่ได้ทราบข้อมุลเชิงลึก จึงกลายเป็นคนเสื้อเหลืองแบบ ฉลาด แต่ไม่เฉลียวเลย....น่าส่งสาร จากคุณ : ด้ายเงิน - [ 7 มี.ค. 52 17:05:07 A:124.120.59.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 คิดเหมาเอาเองหรือเปล่าครับ จขกท จากคุณ : Tarogril - [ 7 มี.ค. 52 17:28:51 A:124.121.182.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 โหหห...ซะยาวเลยป้า  แต่ก็ถูกใจมากๆ จากคุณ : ป้าน้องริน - [ 7 มี.ค. 52 17:41:55 A:124.122.146.223 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 เสพสื่อมาก เลยเผลอนึกว่าตัวเองฉลาด คนอื่นโง่ แต่เป็นสื่อเอียงๆบ้านเรา ก๊ากก สื่อ ตปท อ่านน้อยมาก หากเขียน ไม่ถูกใจจะคิดว่า 1.โดนทักษิณซื้อ ก๊ากก 2. ฝรั่งจะมารู้ดีกว่าคนไทยอย่างฉานได้ไงยะ ก๊ากก และส่วนใหญ่ี่พบเจอ ถึงฉลาดแต่ก็จะขาด เฉลียว คิดนอกกรอบไม่เป็น เชื่อตามๆกันมาในสิ่งที่โดนสั่งสอน เขาสอนว่าอะไรดี ก็เชื่อว่าดี  แต่ไม่เคยคิดหาคำตอบเองว่าอย่างไร และทำไม งมงายยิ่งกว่าชาวบ้านอีก จากคุณ : Syrup On Ice - [ 7 มี.ค. 52 17:41:55 A:58.8.115.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดิฉันก็เคยสงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้ค่ะ และตัวเองก็ต้องถือว่าเป็นคนก.ท.ม.เพราะเกิดและโตที่นี่ ถ้าเป็นความคิดของดิฉัน คนกรุงเทพฯกลุ่มที่เป็นสีเหลืองจะมาจากคนรุ่นเก่า ที่เป็นแฟนพันธ์แท้ประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคนี้มีความเป็นมายาวนาน พัวพันกับกลุ่มชนชั้นสูง(ไฮโซ)มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อมาเจอแกนนำอย่าง สนธิ ลิ้ม ที่มักจะอ้างถึงความเป็นลูกจีนที่จงรักภักดี ทำให้ได้แรงสนับสนุนเพิ่มจากกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนเพิ่มขึ้น (ทุกท่านคงจำได้ว่าก่อนหน้านี้ สนธิ เชียร์อดีตนายกทักษิณ ซะจนเลี่ยนก่อน จะพลิกบทมาเล่น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจนคว้าดารนำชายมากอดโดยไร้คู่ แข่ง) ยังมีกลุ่มทุนที่มีอำนาจ และ ผลประโยชน์ที่พัวพันกันหลายชั้น กับ กลุ่มคนมี สี ที่เสียผลประโยชน์ ทั้งหมดจึงได้สร้างกระแสได้ง่าย เพราะธุรกิจใหญ่ๆ ตลอดจนสื่อต่างๆก็อยู่ในมือคนกลุ่มนี้ ส่วนคนชั้นกลางที่มีความรู้ดี เงินเดือนสูง ก็จะเป็นกลุ่มคนที่อีโก้สูงไปด้วย พูดอีกอย่างก็คือ อิจฉา ถ้าเห็นใครเก่งกว่า ก็มักจะคิดว่าตนเองไม่ได้รับผลดี อะไรจากนโยบายของอดีตนายก แต่เพราะอีโก้สูงนี่แหละ เลยลืมไปว่าใน สมัยอดีตนายก ภาพพจน์ของประเทศไทยนั้นดีมากในสายตาคนนอก เป็น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพียงพรรคเดียว (ไม่ต้องเอี่ยวกับใคร) ใครๆก็อยากมาทำธุรกิจกับเรา ในเมื่อการค้าดี เงินทองมันก็ไหลมาเทมาวน เวียนไปในหลายๆธุรกิจ เหมือนกับที่เคยมีหนังโฆษณาว่า เงินกำลังจะหมุน ไป นั่นแหละ)มันก็เป็นผลทางดีทางอ้อมที่ได้รับ แต่ต่อมอิจฉาแตกซะแล้ว ยังไง้ ยังไง ฉันก็ไม่ได้รับประโยชน์จากที่คนคนนี้บริหารประเทศร้อก ก็เลยมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างมาตรฐานการเมืองแบบอารยะขัดขืน (หรือข่ม ขืนไม่รู้) ให้กับประเทศได้บันทึกไว้เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติสาด จากคุณ : ขมขื่นมานาน (แดนดาว) - [ 7 มี.ค. 52 18:13:54 A:202.57.175.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความหลง ความเกลียด ความรัก ทำให้คนเราเกิดภาวะการณ์แบบนี้ 1. ใจบอด จากจิตใจที่มีแต่ความเป็นธรรม ความใจกว้าง ความถูกต้อง กลับ กลายเป็นว่ามีแต่ ฝ่ายตัวเองทำอะไรก็คือสิ่งที่ถูกต้อง ฝ่ายตรงข้ามทำนั้น เป็นสิ่งที่ผิด จากที่เคยมองว่าคนจน คนรวย คนมีความรู้ คนไม่มีความรู้ เป็น มนุษย์เหมือนๆกัน มีสิทธิเท่าเทียมกันแกลายเป็นว่า คนจน คนไม่มีความรู้ ไม่ควรมีสิทธิเท่าเทียมกับคนรวย คนมีความรู้ 2. ตาบอด จากที่เคยมองเห็นทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา กลายเป็นว่า มอง เห็นสิ่งที่ทำถูกต้องก็มองว่าทำผิด หรือสิ่งที่ทำผิดก็มองว่าทำถูกต้อง หรือ มองไม่เห็นในสิ่งที่ควรมองเห็น หรือมองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรจะมองเห็น 3. สมองไม่ทำงาน จากที่เคยมีการใช้เหตุ ใช้ผล ในการคิดวิเคราะห์ กลับ กลายเป็นว่า ไม่ต้องใช้แล้ว ใครว่าอะไรมาก็เออ ออ ห่อหมกตามเขาไป ความรู้ ความมีเหตุ มีผล หยุดใช้ชั่วคราว ความหลง ความเกลียด ความรัก มีอยู่ในคนทั้งหลาย ไม่ว่าเหลือง หรือแดง หรือเขียว ก็มีเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่ามีมากในคนกลุ่มไหนเท่านั้นเอง ก่อนทำอะไรควรระลึกถึง 3 ข้อนี้ไว้ด้วย จากคุณ : คนไม่มีสมอง - [ 7 มี.ค. 52 19:28:28 A:192.168.0.17 X:222.123.70.127 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผม เป็น คนในวงการศึกษา คับ ผมจะบอกให้ แต่ พวกคนจะเชื่อ หรือไม่ ก็ ตามใจ ระบบ การศึกษา ของ ไทย มัน ล้มเหลว  ไปแล้ว ที่ เห้น ทุกวันนี้ คือเปลือก ผู้คนที่ อยู่ใน ตำแหน่งต่างๆที่สำคัญ บางคน ก็ มิได้มีความรู้ ความสามารถที่เหมาะสม มันเป็น ระบบ  เหมือน การเมืองทุกวันนี้ แต่ แย่กว่าอีก เพราะ ไหน จะต้อง คอยเลีย นักการเมืองแล้ว ยังต้อง เลีย กันเป็น ระดับชั้น  ในวงการเดียวกันอีก พูดมาก ก็ เบื่อคับ  คอยรับมือกับ ปัญหาภายหน้า เด็กยิ่งเรียนมาก สติปัญญา จะลงไปอยู่ ประมาณ หัวเข่า  ตาม นโยบายของ ผู้บริหาร ที่ เปลี่ยนไปมา    ทุก รบ  ที่เข้ามา  ไม่เคยมมีอะไร ทำแล้วสำเร็จเป็น ชิ้นอัน ทำรูปหน้าปะจมูก จากคุณ : นายสุดแสนหล่อ - [ 7 มี.ค. 52 19:29:00 A:124.120.94.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 พวกนี้แปลกดี ปกติมีแต่พวก มีการศึกษาเหยียดพวก ด้อยการศิกษา นี่ ด้อยการศึกษา เหยียดพวก มีการศึกษา เพราะไม่ชอบเหรี่ยมเหมือนตู เหตุผลดีจัง จากคุณ : Wehrmacht - [ 7 มี.ค. 52 19:31:28 A:58.64.67.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอาจริงๆเลยนะ คนกรุงนะวันๆเอาแต่ทำงาน กลับมาก็ดูทีวี บ้านเมือง สังคม จริงๆนอกบ้านนะไม่รู้เรื่องหรอก คนในซอยบ้านเดียวกันยังไม่รู้จักกันเลย ใครทำงานดี ทำงานเป็น ไม่รู้หรอก ในทีวี หนังสีือพิมพ์ถ้าเขาว่าดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดี ไม่มีเวลามาตรองดูหรอก ว่าจริงหรือเท็จ ทำงานทั้งวันก็จะตายอยู่แล้ว รถก็ติด ไม่มีเวลามาสนใจความจริงของโลกหรอก เรื่องจริงของคนกรุง จากคุณ : Big BuBu - [ 7 มี.ค. 52 19:44:28 A:58.64.106.112 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 คนไม่มีการศึกษาบางคนใครพูดอะไรก็เชื่อ(ไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือนักการเมือง) โดยไม่ประมวลผลหรือกลั่นกรองทางความคิดก่อนที่จะทำ เลยถูกจูงจมูกได้ง่าย ขาดความรู้ในเชิงทฤษฏีหรือสิ่งที่บัญญัติไว้ ไม่ว่าจะเป็นกฏหมาย การเมือง หรือ เศรษฐกิจก็ตาม ถ้าใครแขวนพระแล้วถูกยิง หรือ อะไรก็ตามแล้วไม่เป็นอะไร ก็จะไปหาเช่าพระที่เขาใส่มาใส่บ้างเพราะเชื่อว่าจะหนังเหนียวยิงฟันแทงไม่เข้า เห็นอะไรที่เหมือนจะเป็นสิ่งปฏิหารย์ก็จะไปบูชาขอหวย คนพวกนี้หวังอยู่ตลอดว่าจะมีใครซักคนเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำ ทำให้พวกเขามีอันจะกิน โดยไม่ตระหนักว่าของฟรีไม่มีในโลก อยากรวย อยากมีอันจะกิน ฯลฯ ก็รอให้เขามาทำให้ หรือ ยกระดับให้ โดยตัวเองงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย คนมีการศึกษามักจะหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีทางหนีทีไล่ หรือหาทางเอาตัวรอดไม่ว่าจะเป็นทางกฏหมาย หรือทางไหนก็ตามอยู่เสมอ เพราะต้องการที่จะได้ กำไรสูงสุด ในธุรกิจของตัวเอง อะไรที่เป็นการเสียผลประโยชน์ พวกเขาจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด คนพวกนี้ คิดทำ อย่างรอบคอบ และมักจะคิดก่อนที่จะเชื่ออย่างเสมอ มีน้อยคนที่จะงมงาย อย่างไรก็ตาม คนมีการศึกษา ไม่ได้อยู่แค่ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม คนมีฐานะ ไม่ได้อยู่แค่ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม คนไร้การศึกษา ไม่ได้อยู่แค่ในต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม คนไม่มีฐานะ ไม่ได้อยู่แค่ในต่างจังหวัด ที่สำคัญ ไม่จำเป็นว่า คนที่มีการศึกษา จะมีสติ/วิจารณญานไปซะทุกคน ไม่จำเป็นว่า คนไร้การศึกษา จะไม่มีสติ/วิจารณญานไปซะทุกคนเช่นกัน มันอยู่ที่สามัญสำนึกของแต่ละคนมากกว่า คนที่รวยแต่ไม่มีสามัญสำนึกทำให้ชาติล่มจมไปกี่ประเทศแล้ว คนจนแต่มีสามัญสำนึก ทำให้ชาติรุ่งเรืองไปกี่ประเทศแล้ว จากคุณ : Feliciano - [ 8 มี.ค. 52 09:29:52 A:124.120.170.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คห.ที่ 49 คุณWehrmacht คุณรู้ได้ไงว่า พวกที่กำลังเขียนวิเคราะห์พฤติกรรมของชาวเสื้อเหลืองที่เป็นพันธมิตรด้วยเหตุด้วยผลต่างๆนี้ เป็นพวกด้อยการศึกษา รีบสรุปไปหรือปล่าว คุณดูจากอะไรไม่ทราบ และตรรกะของคุณFeliciano ในเรื่อง "คนไม่มีการศึกษาบางคนใครพูดอะไรก็เชื่อ(ไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือนักการเมือง) โดยไม่ประมวลผลหรือกลั่นกรองทางความคิดก่อนที่จะทำ เลยถูกจูงจมูกได้ง่าย ขาดความรู้ในเชิงทฤษฏีหรือสิ่งที่บัญญัติไว้ ไม่ว่าจะเป็นกฏหมาย การเมือง หรือ เศรษฐกิจก็ตาม ถ้าใครแขวนพระแล้วถูกยิง หรือ อะไรก็ตามแล้วไม่เป็นอะไร ก็จะไปหาเช่าพระที่เขาใส่มาใส่บ้างเพราะเชื่อว่าจะหนังเหนียวยิงฟันแทงไม่เข้า เห็นอะไรที่เหมือน จะเป็นสิ่งปฏิหารย์ก็จะไปบูชาขอหวย คนพวกนี้หวังอยู่ตลอดว่าจะมีใครซักคนเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำ ทำให้พวกเขามีอันจะกิน โดยไม่ตระหนักว่าของฟรีไม่มีในโลก อยากรวย อยากมีอันจะกิน ฯลฯ ก็รอให้เขามาทำให้ หรือ ยกระดับให้ โดยตัวเองงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย" อันนี้ไม่น่าจะscope กันเฉพาะคนไม่มีการศึกษามั่ง เพราะเท่าที่เห็น คนมีการศึกษา บอกคนอื่นว่าคนเองเป็นผู้ลากมากดี ก็เห็นลุ่มหลงกันแต่เรื่อง ไสยศาตร์ องค์เจ้าเข้าทรง ทำพิธีหมดเงินกันเป็นหมื่นเป็นแสน กันเยอะแยะมิใช่หรือ มิใช่พวกการศึกษาสูง คนร่ำคนรวยหรอกหรือ ที่ต้องให้ซินแส ทำฮวงจุ้ยให้กันโครมๆ ป้าว่าเรื่องนี้มันอยู่ที่บุคคล ความเป็นปัจเจกบุคคลมากกว่า ไม่ใช่เหมารวมว่า ถ้าคนไม่มีการศึกษาต้องหลงงมงาย เชื่อง่าย เพราะฉะนั้นเรื่องความเชื่อ เป็นเรื่องที่พิสูจน์กันลำบากมาก จึงไม่น่าจะฟันธงอย่างนั้น เพราะบางทีสิ่งที่เขาเชื่อกันก็เป็นเหตุเป็นผล ให้น่าเชื่อถือก็เยอะ อยู่นะ จากคุณ : Paviewเองจ๊ะ - [ 8 มี.ค. 52 13:59:49 A:118.173.202.214 X: ]