ความคิดเห็นที่ 1 ความรู้สึกกล้าที่จะไม่ยอมให้ใครแซงคิว   เห็นได้จากชาวต่างประเทศ เขาเข้าคิวรอตามลำดับ  แต่ไม่ยอมให้ใครมาแซงคิว  เห็นเขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ จากคุณ : วิทย์ศิลป์ - [ 8 มี.ค. 52 15:16:56 A:125.25.94.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยอมรับว่า  จขกท. แหลมคม มากครับ.. ขนาด คิดว่าตัวเอง เป็น นักประชาธิปไตย คนหนึ่ง ยังยากจะตัดสินใจ ระหว่าง ข้อ 2-3 และ ข้อ 7 ครับ. เอ้อ.. จากคุณ : ใจดี* (Genial.) - [ 8 มี.ค. 52 15:39:02 A:71.36.25.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประเทศไหนล่ะ ??? ถ้าสาระขัณฑ์นี่ล่ะก็ ต้องกำจัดพวกอำมาตย์ให้สิ้นซากก่อน...... จากคุณ : signup - [ 8 มี.ค. 52 15:53:04 A:203.144.180.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 จิตใจ เป็น ปชต.ก่อนครับ จากคุณ : มัสแตง - [ 8 มี.ค. 52 15:59:10 A:222.123.41.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 #3 หมายถึงข้อ 8 ใช่ไหมครับ จากคุณ : nisas - [ 8 มี.ค. 52 15:59:49 A:192.168.0.17 X:115.67.234.186 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กระทู้ออกจะน่าสนใจ แต่ไหงมีคนโหวตน้อยจังเลยเนี่ย -__-? จากคุณ : sleeper_j - [ 8 มี.ค. 52 17:22:06 A:124.120.222.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 แสดงความเห็นเพิ่มดีกว่า เผื่อจะมีคนแลกเปลี่ยนความเห็นเพิ่ม จากตัวเลือกที่จขกท.ให้มา ผมเชื่อว่าตัวเลือกที่สำคัญน้อยคือ 7,8,9 ส่วนที่สำคัญมากคือ 1,2,4 ทำไม 7 ถึงสำคัญน้อย? เพราะผู้นำนั้นอย่างไรก็ตามเป็นแค่ปัจเจก เขาสามารถส่งผลทางความคิดต่อคนจำนวนมากได้แต่ไม่ยั่งยืน การสิ้นผู้นำที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยจะทำให้สังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านชะงักครับ สำหรับ 8 การถดถอยของกลุ่มต่อต้านนั้นไม่เกี่ยวกับระดับความเป็นประชาธิปไตย แต่เกี่ยวกับความรุนแรงในการเปลี่ยนผ่านมากกว่าครับ สำหรับ 9 เรามีตัวอย่างที่ดีคืออิรักหลังการโค่นล้มซัดดัมครับ แล้วทำไม 1 ถึงสำคัญมาก? ประชาธิปไตยต้องขับเคลื่อนโดยชนชั้นกลาง และการจะทำให้คนในสังคมกลายเป็นชนชั้นกลางก็ต้องมาจากการศึกษาและสภาพเศรษฐกิจที่พัฒนาระดับหนึ่งครับ สำหรับ 2 เพราะหากปราศจากการมีส่วนร่วม ย่อมไม่สามารถเรียกได้ว่าประชาธิปไตยครับ สำหรับ 4 คำนี้ความหมายยังต้องตีความนะครับ แต่ถ้าตีความประชาสังคมเป็นพื้นที่ทางการเมืองสาธารณะซึ่งจะมีผลไปยังภาคอื่นของสังคมอีกทีก็จะแสดงว่าประชาสังคมสำคัญมากในการให้โอกาสคนได้แสดงออกทางความเห็นทางการเมืองของตัวเองครับ จากคุณ : sleeper_j - [ 8 มี.ค. 52 19:26:27 A:124.120.222.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ประชาชนหวังพึ่งตัวเองสูง สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ซึ่งเป็นไปได้ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาอย่างพอเพียง จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 8 มี.ค. 52 20:35:16 A:202.28.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 แลกเปลี่ยนกับ #7 นะครับ ทำไม 7 ถึงสำคัญน้อย? เพราะผู้นำนั้นอย่างไรก็ตามเป็นแค่ปัจเจก เขาสามารถส่งผลทางความคิดต่อคนจำนวนมากได้แต่ไม่ยั่งยืน การสิ้นผู้นำที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยจะทำให้สังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านชะงัก ครับ ตอบ: เห็นด้วยครับ แต่ถ้ามีผู้นำอย่างมาร์กอส หรือใครก็ตามที่มาจากการเลือกตั้งแต่กลับใช้อำนาจในทางที่ผิดไป (หรือ abuse of power) ก็อาจส่งผลให้ความชอบธรรมของระบอบเสียไปด้วยและทำให้คนกลับมายอมรับเผด็จการนะครับ สำหรับ 8 การถดถอยของกลุ่มต่อต้านนั้นไม่เกี่ยวกับระดับความเป็นประชาธิปไตย แต่เกี่ยวกับความรุนแรงในการเปลี่ยนผ่านมากกว่าครับ ตอบ: เห็นด้วยครับ อยู่ในช่วง democratic transition สำหรับ 9 เรามีตัวอย่างที่ดีคืออิรักหลังการโค่นล้มซัดดัมครับ ตอบ: นอกจกานี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเป็นปัจจัยสำคัญ รวมถึงข้อกำหนดทางการค้าระหว่างประเทศของ WTO การบังคับของ UN หรือชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ญี่ปุ่น แต่น่าสงสัยว่าเหตุใจสหรัฐจึงไม่ค่อยสนใจพม่าเท่าใดนัก แล้ว ทำไม 1 ถึงสำคัญมาก? ประชาธิปไตยต้องขับเคลื่อนโดยชนชั้นกลาง และการจะทำให้คนในสังคมกลายเป็นชนชั้นกลางก็ต้องมาจากการศึกษาและสภาพ เศรษฐกิจที่พัฒนาระดับหนึ่งครับ ตอบ: อินเดียเป็นประเทศที่คนยากจนแต่กลับเป็นประชาธิปไตยได้อย่างยั่งยืน หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษไม่เคยมีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเลย ส่วนถ้าไม่นับกลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมันในตะวันออกกลาง สิงคโปร์เป็นประเทศร่ำรวย มีชนชั้นกลางเยอะแต่กลับมีลักษณะอำนาจนิยมมากกว่าอินเดียเสียอีก สำหรับ 2 เพราะหากปราศจากการมีส่วนร่วม ย่อมไม่สามารถเรียกได้ว่าประชาธิปไตยครับ ตอบ: เห็นด้วยอย่างแน่นอนครับ แต่คำถามที่ตามมาก็คือมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดวัฒนธรรมแบบมีส่วนร่วม การศึกษา? เศรษฐกิจ? นอกจากนี้การมีส่วนร่วมลักษณะใดที่สนับสนุนประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมแบบเรียกร้องการรัฐประหาร? การเรียกร้องเฉพาะประโยชน์ของกลุ่มตนเอง? สำหรับ 4 คำนี้ความหมายยังต้องตีความนะครับ แต่ถ้าตีความประชาสังคมเป็นพื้นที่ทางการเมืองสาธารณะซึ่งจะมีผลไปยังภาค อื่นของสังคมอีกทีก็จะแสดงว่าประชาสังคมสำคัญมากในการให้โอกาสคนได้แสดงออก ทางความเห็นทางการเมืองของตัวเองครับ ตอบ: ครับ นอกจากนี้ประชาสังคมยังสร้างคนให้เกิดการเรียนรู้ทางการเมือง การตรวจสอบการใช้อำนาจเพื่อถ่วงดุลภาครัฐ แต่เหมือนกับเรื่องการมีส่วนร่วม หากประชาสังคมเรียกร้องแต่ผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม รัฐก็จะอ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างประชาสังคมที่เข้มแข็งมากในเยอรมันและอิตาลีอันนำมาซึ่งระบอบฟาสซิสม์ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว จากคุณ : nisas - [ 8 มี.ค. 52 22:34:03 A:115.67.130.45 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอแลกเปลี่ยนความเห็นเพิ่มนะครับ สำหรับเรื่องอินเดียนั้นยอมรับจริงๆว่าไม่ได้คิดถึงมาก่อนครับ ดังนั้นประเด็นนี้ผมคงต้องขอบคุณคุณ nisas ที่แนะประเด็นนี้ให้ครับ หลังจากนี้ผมคงสนใจข่าวของอินเดียมากกว่าเดิมแน่ๆครับ ส่วนอีก 2 ประเด็นนั้นผมมองว่าวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมจะเกิดขึ้น คนในสังคมต้องมองเห็นผลประโยชน์ที่ตัวเองพึงได้รับหรือไม่พึงเสียจากการเข้ามามีส่วนร่วมในสังคมครับ ดังนั้นเศรษฐกิจมีส่วนในระดับหนึ่ง คือควรจะเป็นเศรษฐกิจแบบทุนนิยมครับ ส่วนเรื่องการศึกษานั้นผมว่าสำคัญมาก หากเราไม่ปลูกฝังวัฒนธรรมในการกล้าแสดงความคิดเห็น เราจะไม่บรรลุเป้าหมายครับ และการปลูกฝังวัฒนธรรมแสดงความเห็นมาจากการเรียนรู้จากครอบครัวและการได้รับการศึกษาครับ สำหรับประชาสังคมที่เรียกร้องผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มนั้น ผมมองว่าเราจะแก้ปัญหานี้ได้หากให้การศึกษากับประชาชนมากพอครับ เมื่อคนมองเห็นปลายทางของสังคมแล้วน่าจะลดระดับการเรียกร้องผลประโยชน์ให้ตัวเอง หันมามองผลประโยชน์ของสังคมมากขึ้นน่ะครับ ขอโทษทีนะครับ ความเห็นหลังๆไม่ได้อิงวิชาการเลยอ่ะครับ ^^" จากคุณ : sleeper_j - [ 9 มี.ค. 52 21:17:59 A:124.120.217.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องขอบคุณ คุณ sleeper_j มากนะครับที่อุตส่าห์สละเวลามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับกรณีอินเดีย มีนักวิชาการออกมาให้ทัศนะหลายประการ บ้างก็ว่าเป็นเพราะในช่วงอาณานิคมอังกฤษมีการวางรากทางสถาบันไว้ให้ดี บ้างก็ว่าพรรคคองเกรสมีประวัติร่วมกันในการต่อสู้เรียกร้องเอกราช (โดยคานธี นั่นเอง) มาก่อนจึงทำให้เกิดความตระหนักว่ากว่าจะได้ประชาธิปไตยมามันไม่ใช่ง่ายๆ ต้องรักษาไว้ให้ดี ส่วนที่สำคัญคือที่ Amartya Sen (โนเบลสันติภาพ) ชี้ว่าคนอินเดียเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา (talkative India) ทำให้เกิดวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมนั่นเองครับ ^^ แนวโน้มในวงวิชาการตอนนี้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เน้นในเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง ทีนี้มันมีปัญหาในเรื่อง วัฒนธรรมหลักๆ ของโลก อย่างเช่น ขงจื่อ อิสลาม คือ ขงจื่อจะเน้นในเรื่องการยอมตามรัฐ ไม่คำนึงถึงสิทธิของปัจเจกบุคคล การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งโดยมองว่าเป็นเรื่องที่อันตราย ซึ่งแบบแผนเหล่านี้ขัดแย้งกับประชาธิปไตย (ลี กวน ยู ของสิงคโปร์ เอาไปประกาศใช้เป็น Asian Value ให้กับการปกครองแบบอำนาจนิยมของตน) ส่วนอิสลามก็ แน่นอนว่านำเอาเรื่องชีวิตทางการเมืองไปผูกติดไว้กับศาสนา ซึ่งขัดต่อประชาธิปไตย ซึ่งปัญหาพวกนี้กำลังหาทางออกอยู่ครับ คงต้องใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไปซึ่งไม่ใช่จะแก้ไม่ได้เพราะในอดีตก็มีนักวิชาการมองว่าคาทอลิกเป็นปัญหากับประชาธิปไตยเหมือนกันแต่ปัจจุบันก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว จากคุณ : nisas - [ 9 มี.ค. 52 22:48:16 A:115.67.92.74 X: ]