Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ฉันทามติแห่ง:-)ย์ .......เสียงโต้จากปชป. แนวหน้า..วันนี้

    ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็สามารถแสดงปาฐกถาผ่านดาวเทียมนำเสนอตนเองยึดพื้นที่ข่าวได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2552

    จากมุมใดมุมหนึ่งของโลก อาศัยการสื่อสารยุคโลกไร้พรมแดน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงปาฐกถาไปยัง สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮ่องกงในหัวข้อเรื่อง"วิกฤติเศรษฐกิจโลก:ทำไมจึงไม่ใช่แค่วิกฤติการเงิน แต่เป็นวิกฤติทางปัญญา" และได้มีการถ่ายทอดมายังสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กับ สถานีเคเบิลทีวีมนุษย์เสื้อแดง ในประเทศไทยด้วย และทราบว่ามีการนำภาพและคำปาฐกถาออกอากาศหมุนเวียนอยู่หลายรอบตลอดวัน

    การปรากฎตัวครั้งนี้ ได้รับทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สถาปนาตนเองเป็น "ประธานมูลนิธิสร้างอนาคตที่ดีกว่า (The Building a Better Future Foundation)" คงจะด้วยแรงบันดาลใจของตนเองที่กำลังดิ้นรนเสาะแสวงหาอนาคตที่ดีกว่าในยามที่ไร้แผ่นดินอยู่

    การแนะนำตัวองค์ปาฐก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูเหมือนได้เริ่มต้นด้วยข้อมูลเท็จตั้งแต่แรกเพื่อยกย่องตนเอง เพราะรายการได้แนะนำว่าเป็น "อดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของประทศไทย"

    หากเปิดทำเนียบนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจะพบความจริงว่า

    นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย 2 สมัย

    สมัยแรกระหว่างวันที่ 23 กันยายน 2535 ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2538 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน และ 10 วัน

    สมัยที่สองระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน และ 8 วัน

    รวมสองสมัยเป็นเวลา 5 ปี 11 เดือน และ 18 วัน

    พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย 2 สมัย

    สมัยแรกระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2548

    เป็นเวลา 4 ปี 22 วัน (รวมเวลารักษาการฯ)

    สมัยที่สองระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2548 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน และ 8 วัน (รวมเวลารักษาการฯระหว่างยุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 จนถึงวันที่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549)

    รวม 2 สมัยเป็นเวลา 5 ปี 6 เดือน และ 28 วัน

    ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเช่นนี้ คงไม่มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือเท่าไรนัก เพราะคงไม่มีนักข่าวต่างประเทศคนไหนไปสืบหาข้อมูลที่ถูกต้องนี้มาพิจารณา และคงต้องรับข้อมูลที่แฝงความเท็จไว้ตั้งแต่ต้น และต้องถือว่าเป็นความสามารถพิเศษในการฉวยโอกาสบิดเบือน

    คำปาฐกได้เปิดวลีใหม่ว่า "วิกฤติทางปัญญาของโลก"(Intellectual Crisis) ฟังดูเป็นวิชาการและน่าเชื่อถือ มีข้อความส่วนหนึ่งว่า

    " ..... (วิกฤติ )ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงวิกฤติการเงิน แต่เป็นวิกฤติทางปัญญาของโลก ซึ่งเป็นผลจากการปฏิเสธที่จะเผชิญหน้ากับความจริง และที่สำคัญที่สุดปฏิเสธที่จะคิดแก้ปัญหาจากภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Economy)

    นักศึกษาที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ดีที่สุด เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานี้ กลับหลั่งไหลไปทำงานในธุรกิจบริการด้านการเงินการธนาคาร ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่จึงถูกจำกัดอยู่เพียงแค่การออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สัญญาจะให้ผลตอบแทนสูงลิบลิ่วเท่านั้น และถ้าหากมีใครกล้าตั้งคำถามว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะมีความมั่นคงยั่งยืนเพียงใด คนเหล่านั้นก็อาจถูกโจมตีได้ว่าเป็นพวกที่มีความคิดล้าหลัง และเป็นพวกต่อต้านความเจริญก้าวหน้าของโลกยุคโลกาภิวัตน์"

    ผู้เขียนเชื่อว่าสังคมวันนี้ไม่ได้วิกฤติทางปัญญา แต่สังคมวันนี้กำลังวิกฤติด้วยแรงแห่งกิเลสตัณหาและความอยากได้ วิกฤติแรงละโมภไม่รู้จักเพียงพอ วิกฤติคุณธรรมจริยธรรมและสำนึก วิกฤติการแสวงหาอำนาจโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม จนนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรงและกว้างขวางที่สุดยุคหนึ่ง เกิดปรากฏการณ์การซุกหุ้น หนีภาษี พยายามให้สินบนตุลาการ ใช้อำนาจทางการเมืองออกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน ฯลฯ วิกฤติทั้งสิ้นนี้บดบังสติปัญญาของคนบางคนจนต้องพบกับวิบากกรรมอยู่ในขณะนี้ และยากที่จะชี้นำสังคมได้อีกแล้ว

    ในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ที่โลกไร้พรมแดน "นักศึกษาที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ดีที่สุด เมื่อสำเร็จการศึกษากลับหลังไหลไปทำงานในธุรกิจบริการด้านการเงินการธนาคาร..........ความคิดสร้างสรรค์ใหม่จึงถูกจำกัดเพียงแค่การออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สัญญาจะให้ผลตอบแทนลิบลิ่วเท่านั้น"

    แท้จริงคนเหล่านี้เป็นผู้เลิศด้วยปัญญา แต่ถูกชักจูงด้วยพฤติกรรมของผู้นำในสังคมที่ชักนำให้กิเลสบดสติและความรับผิดชอบเสียหมดสิ้น ด้วยเห็นตัวอย่างนักปั่นหุ้น นักซุกหุ้น อาชญากรหนีภาษี และนักแสวงหาผลประโยชน์บางคนที่ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในสำนึกมุ่งหวังการ "เสกกระดาษให้เป็นเงิน" ตามวาจาของอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งที่เคยประกาศไว้

    "วิกฤติต้มยำกุ้ง"ของไทยในปี 2540 ลุกลามกลายเป็น"วิกฤติการเงินของเอเชีย" จนก่อให้เกิดพันธะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรียกว่า"ฉันทามติแห่งวอชิงตัน"(Washington's Mantra) ภายใต้ปฏิบัติการของไอเอ็มเอฟ แท้จริงมิได้มีวิกฤติปัญญาเพียงอย่างเดียว แต่แฝงด้วยวิกฤติกิเลสของผู้นำรัฐบาลบางคน จนน่าสงสัยว่ามีผู้ได้รับประโยชน์มหาศาลจากการลอยตัวค่าเงินบาทขณะที่สังคมไทยได้รับความเสียหายไปทั่วหน้า แต่ในที่สุด"วิกฤติต้มยำกุ้ง" พันธะผูกพัน และวิกฤติทั้งหลายก็หลุดพ้นคลี่คลายไปได้โดยรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์ทับซ้อน และไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น

    รัฐบาลชวน หลีกภัย(2) ได้สร้างพื้นฐานที่แข็งแรงไว้กับระบบสถาบันการเงินทั้งหมด ระบบสังคมที่โปร่งใส ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่มั่นคงแข็งแรง และไม่ใช่สาเหตุที่ประเทศต้องได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์เงินรอบใหม่ในขณะนี้ดังที่พาดพิงถึง

    คงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า วิกฤติรอบใหม่ของประเทศชาติในขณะนี้ เกิดด้วยสาเหตุวิกฤติทั้งจากต่างประเทศและเหตุวิกฤติในประเทศ

    สาเหตุจากต่างประเทศมีผู้เรียกว่า"วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์" ส่วนวิกฤติในประเทศ คงไม่เกินเลยที่จะเรียกว่า"วิกฤติระบอบทักษิณ" หรือ"ฉันทามติแห่ง:-)ย์"

    พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล

    ที่มา: http://www.naewna.com/news.asp?ID=152631

    จากคุณ : sao..เหลือ..noi - [ 14 มี.ค. 52 05:48:15 A:58.8.169.142 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com