Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ผมไม่ชอบเสื้อแดง แต่ อยากให้ “ทักษิณ” เปิดโปง “ผู้มีบารมี” ตัวจริง

    พ.ต.ท. ทักษิณ มีการพูดจา มีเป้าหมายของการเรียกร้องชัดเจน ประกอบกับพรรคเพื่อไทย และการนำการขับเคลื่อนกลุ่มเสื้อแดงโดยตรง แบบ “รีโมตคอนโทรล” จากต่างประเทศ
         
          ท่านประกาศว่าจะเปิดโปง “ผู้มีบารมี” ได้น่าสนใจฟังมาก น่าจะเปิดออกมาเลยว่าเป็นใคร
         
          1. ให้สินบนช่วยนักการเมือง จนได้สัมปทานโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม แก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์กิจการตัวเอง โดยรัฐต้องเสียประโยชน์
         
          2. เมื่อเป็นนายกฯ เพียง 4 เดือน แก้ไขสัญญาสัมปทาน เพื่อลดส่วนแบ่งรายได้ภาครัฐสำหรับมือถือระบบพรีเพด จากร้อยละ 25-30 เป็นร้อยละ 20 แก้เงื่อนไขให้มีการเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม แต่ผลักภาระให้ ทศท. รับทั้งหมด
         
          3. หลักการสัญญาเดิมคือ ทศท. ให้สิทธิบริหารแบบ Build-Transfer-Operate (BTO) คือให้เอกชนลงทุนโดยให้สิทธิใช้ประโยชน์ 30 ปี จบแล้วก็ควรคืน ทศท. เหมือนที่เช่ามาบุญครองของจุฬาฯ หรือ เซ็นทรัลลาดพร้าวของการรถไฟฯ จบสัญญาแล้วก็ควรกลับมาเป็นของราชการเหมือนเดิม แต่ด้วยการใช้อำนาจของท่าน จะไม่ต้องโอนกลับแล้วใช่ไหม ?
         
          4. มีการเอื้อประโยชน์บีโอไอดาวเทียม ทั้งๆที่เป็นการซื้อของจากต่างประเทศ ให้บริการในต่างประเทศ บังคับหน่วยงานไทยให้กลับมาเป็นลูกค้า และบริการพม่า โดยให้ ธนาคารเพื่อการส่งออกฯ ออกเงินให้ แต่แล้วก็จ่ายตรงเข้ากระเป๋ากิจการของตน
         
          5. รัฐธรรมนูญห้ามถือครองหุ้นเกิน 5% โดยเฉพาะ กฎหมาย ปปช. ห้ามถือหุ้นกิจการสัมปทานผู้ขาด ก็โอนหุ้นไปให้ลูก คนใกล้ชิด และกองทุนแอมเพิลริช วินมาร์ค ฯลฯ
         
          6. ใช้อำนาจกดดันหน่วยงานรัฐ ไม่ให้หาข้อมูล และความจริง ทั้ง ดีเอสไอ ปปง. กลต. สำนักงานอัยการฯ
         
          7. โอนหุ้นให้ลูกวันที่ 1 กันยายน 2543 เพื่อเตรียมตัวรับตำแหน่ง แต่วันที่ 1 สิงหาคม 2543 เพียง 1 วันก่อนหน้านั้น กลับต้องให้ลูกทำหนังสือตั๋วสัญญาใช้เงิน 4.5 ล้านบาทให้แม่ไว้ เพื่อเป็นช่องทางคืนประโยชน์ทั้งหมด คือปันผลกลับมาให้แม่ 4.5 ล้านบาท คือหนี้ค่าอะไร หนี้บุญคุณหรือ ? จริงๆแล้วเป็นหลักฐานเพื่อผูกหุ้นที่มอบไปใช่หรือไม่ ?
         
          8. เงินที่ได้ค่าขายส่วนหนึ่ง ส่งผ่านประไหมสุหรีไปซื้อสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ซิตี้ แต่เห็นแต่ข่าวที่ท่านเป็นเจ้าของ เป็นหลักฐานว่าท่านเป็นเจ้าของตัวจริงหรือไม่ ?
         
          9. อ้างว่าวินมาร์คเป็นนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อหุ้น 5-6 บริษัทของตนและภรรยาไป 1.5 พันล้านบาท อ้างว่าจะรอเข้าตลาดฯ แต่ทุกบริษัท ซื้อที่ราคาพาร์หมดเลย มีบริษัทเดียวที่เข้าตลาดได้ คือ SC ก็ขายไป 3 สัปดาห์ก่อนเข้าตลาด และกองทุนที่ซื้อไป ก็โอนต่อใน 3 สัปดาห์ ให้อีก 2 กองทุนเพื่อเปิดเผย (อย่างปกปิด) กับนักลงทุน โดยทั้ง 3 กองทุนมาเลเซีย มีที่อยู่เดียวกันหมดเลย
         
          10. วินมาร์ค มีเลขที่บัญชี 121751 ที่ ธ. ยูบีเอส ถือหุ้นซึ่งมีสัมปทานรัฐอยู่ด้วย
         
          11. สภาผู้แทนราษฎรจะซักฟอก จะตั้งกระทู้ถาม ก็ยุบสภาฯทิ้งเสีย
         
          12. ศาลสั่งเรียกสอบ และเรียกอ่านผลพิพากษาก็หนีศาล
         
          13. ถูกพิพากษาให้มีโทษจำคุก ก็หนีคุก
         
          14. คดีเดินหน้าไป แทนที่จะมาต่อสู้คดีด้วยหลักฐาน และความจริง กลับนำม็อบมาชุมนุม เป็นอำนาจระดับที่ว่า ฉันไม่รับความผิด ฉันไม่มีหลักฐานอะไรมาโต้แย้ง แต่ฉันมีกำลังมาก (เหมือนมาเฟีย) ถ้าจะเอาผิดฉัน ฉันก็จะจ่ายเงินกวนเมือง ใครจะทำไม ?
         
          15. กดดันศาล ขอวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทั้งๆที่แสดงออกว่า ขอให้ศาลพิจารณา ถ้าได้ประโยชน์ก็รับได้ แต่ถ้าความจริงปรากฏมีโทษถึงจำคุกก็ไม่ยอมรับอยู่ดี แล้วจะให้วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปทำไม ? เป็นชอบพูดคนเดียว เพราะไม่ต้องตอบข้อสงสัยอะไร โกหกก็สะดวกปาก คำถามอย่างที่ถามด้านบนก็ไม่เคยตอบ ไม่เคยแสดงหลักฐานโต้แย้ง
         
          16. ปรักปรำผู้ขุดคุ้ยความจริงมาเปิดโปง กล่าวหา คมช. หรือ คตส. ว่าการเอาหลักฐานมาไม่ถูกต้อง ทั้งๆที่ ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นหลักฐานปลอม ไม่มีหลักฐานใดๆมาโต้แย้งหลักฐานจริงเหล่านี้ได้
         
          17. ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญให้เปิดเผยทรัพย์สินทั้งหมด กลับมีเงินในต่างประเทศไปซื้อสโมสรฟุตบอล จ่ายค่าคอนเฟอร์เรนซ์คอล ดูแลบรรดาผู้รับใช้ สส. ผู้นำกลุ่มเสื้อแดง บางคนหน่วยราชการ ฯลฯ
         
          18. อ้างว่าเป็นวีรบุรุษกู้ชาติ เพราะคืนเงินไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด ทั้งๆที่เป็นเงินที่รัฐบาลก่อนหน้า (ปชป) ได้สะสมไว้ หลังจากตอนเข้ามานั้น เงินสำรองระหว่างประเทศสุทธิเหลือเพียง 7 พันล้านเหรียญ จากปรกติที่เคยมีประมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญ ทั้งๆ ที่ LOI ฉบับที่ 1 ลงนามวันที่ 14 สิงหาคม และท่านเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯเองในวันที่ 15 สิงหาคม วันถัดมา ดูอย่างไรก็ไม่เนียน จะอ้างว่ามากู้ชาติก็ยากเพราะคนแรกที่ส่งมาคือ นาย ทนง พิทยะ อดีตผู้ดูแลการเงินลูกน้องของตัว เข้ามาดูแลช่วงลอยตัวค่าเงินบาทตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2540 และประกาศลอยตัวค่าเงินบาทวันที่ 2 กรกฎาคม 2540
         
          19. บอกกับชาวโลกว่า เมืองไทยไม่มีความยุติธรรมพอเพียง แต่ไม่ชี้แจงหลักฐานโต้แย้งกรณีภรรยาซื้อที่ดินของภาครัฐซึ่งตนมีอำนาจสูงสุดได้ หรือกรณีภรรยาโอนหุ้นจากคนใช้ให้พี่ผ่านตลาดหลักทรัพย์เป็นนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีได้
         
          20. อ้างว่ารักชาติ แต่ในยามสงบ คงเหลือแต่คดีความของท่าน แทนที่จะหาหลักฐานมาต่อสู้ กลับโฟนอินสร้างความแตกแยก และทำให้คนปิดหูปิดตา ไม่สนใจความถูกต้อง เพียงเพื่อปกป้องตัวเอง นับว่าเป็นการเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ คือ เสียสละชาติเพื่อตัวเองอย่างแท้จริง
         
          นับว่าเป็นผู้พยายามจะมีบารมีจริงๆ แต่ท่านอาจจะลืมไปอย่างหนึ่งว่า การใช้อำนาจโดยไม่ชอบ การหนีสภา หนีศาล หนีคุก การโกหก การสร้างความแตกแยก การใส่ร้ายประเทศไทยแผ่นดินแม่ อาจทำให้ได้มาซึ่ง “อำนาจ” แต่ไม่ใช่บารมีครับ บารมีสะสมได้ด้วยสิ่งเดียวคือ “ความดี” ครับ

    จากคุณ : Reyes - [ 27 มี.ค. 52 17:12:13 A:124.121.0.154 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com