Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ขอชมทักษิณว่าการพูดสไตล์ผู้นำม็อบคืนนี้ดีมากๆ ใช่ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องง..อีกหน่อยเก่งเกินหน้าเจ๊กลิ้ม ไม่ต้องห่วง

    ก่อนอื่น ต้องขอชี้แจงก่อนว่า

    ที่ชมอย่างนี้ไม่ได้บ่งเป็นนัยว่า ทักษิณพูดไม่เก่งหรอกนะ
    เพียงแต่ต้องการย้ำให้เห็นว่า

    การพูดสไตล์ปลุกระดมกับสไตล์ผุ้นำประเทศ มันไม่เหมือนกัน

    อย่างแรก หวังผลที่ผู้ฟังระยะสั้น เน้นการสร้างอารมณ์ร่วม
    ดังนั้นเนื้อหาจึงเป็นรอง ต้องใช้มุขที่มีชีวิตชีวา
    ถ้อยคำต้องกระชับ และน้ำเสียงต้องถ่ายทอดอารมณ์ได้
    และที่สำคัญ ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผุ้ฟังตลอดเวลา

    จริงไหมพี่น้อง...ถ้าจริง ช่วยกันตบมือดังๆ หน่อย...
    (น้ำเสียงเข้มๆ หน่อยเฮีย เอาให้เกินเจ๊กลิ้มยิ่งดี)

    อย่างหลัง หวังผลที่ผู้ฟังระยะกลางถึงระยะยาว เน้นการสร้างความเข้าใจ
    ดังนั้นเนื้อหาจึงเป็นหลัก ต้องใช้ตัวอย่าง ต้องเป็นเหตุเป็นผล
    ภาษาต้องชัดเจน มีโวหารคมคาย และน้ำเสียงต้องมั่นใจ

    ซึ่งเรื่องพวกนี้ ต้องยกย่องพวกปชป.ว่าเก่งมาก ๆ ๆ เกือบทุกคน
    ทั้งลื่นไหลไฟดับ และทั้งแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน

    เหมือนชวน คือน่าเชื่อถือมากกกกกก แต่คนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
    เพราะขาดการกระทำมารองรับ หรือมักทำตรงกันข้ามกับที่พูด

    ซอรี่ครับ

    .........................
    ที่ยกเรื่องสไตล์การพูดของทักษิณขึ้นมา
    ก็ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ

    ประการแรก มันเป็นสิ่งจำเป็นภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

    ถ้าทักษิณพูดไม่เก่ง ก็ต้องให้คนอื่นพูดแทน
    และถ้าทักษิณปลุกเร้ามวลชนไม่เก่ง ก็ต้องให้คนอื่นเป็นผู้นำแทน

    ถามหน่อย นี่คือสถานการณ์ที่ผู้นำสองฝ่ายต้องเผชิญหน้ากัน

    ถ้าทักษิณไม่ออกไปให้ปากคำเอง ไปลุยเอง มัวแต่ใช้คนอื่น
    แล้วจะไปหวังให้ได้ชัยชนะหรือให้คนเชื่อถือ คิดว่าคงยาก

    ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้กำลังใจและขอให้ประสบความสำเร็จ
    ในการพัฒนาทักษะการพูดสไตล์ผุ้นำม็อบต่อไป

    .........................
    ประการที่สอง สถานการณ์ที่บังคับให้ผู้นำสองฝ่ายต้องมาเผชิญหน้ากัน
    โดยที่ทักษิณเป็นผู้เปิดฉากกระทำนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

    อันที่จริงหาจังหวะโพสเรื่องนี้มาหลายที แต่ยังไม่เคยทำได้ซักที
    สรุปย่อๆ ก็คือ

    การต่อสู้ทางการเมืองใดๆ ถ้าจะให้ประสบผลสำเร็จ
    ต้องมีองค์ประกอบอย่างน้อย 3 อย่าง ได้แก่

    1) องค์กรนำ ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    2) แนวทาง ที่ถูกต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริง
    3) การสนับสนุนของปชช.และแนวร่วม ที่เข้มแข็งและไพศาล

    ที่ผ่านมา ทักษิณเพลี่ยงพล้ำต่อพธม.
    จนต้องระเห็จออกนอกประเทศ ก็ด้วยทฤษฎีนี้

    และแผนการชั่วของอำมาตย์ ก็สัมฤทธิ์ผลเสียจนกระทั่ง

    แม้แต่ทักษิณ ก็ไม่มีโอกาสที่จะรู้ตัวด้วยซ้ำว่า
    ต้วเองกำลังต่อสู้กับใคร หรือเป็นฝ่ายถูกกระทำเพราะเหตุใด

    มันเป็นสงครามที่ไม่ประกาศนั่นเอง

    .........................
    จากการพูดของทักษิณคืนนี้ บ่งให้เห็นว่า

    การต่อสู้เพื่อปชต.ของคนเสื้อแดง
    มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 ประการแล้ว ได้แก่

    1) องค์กรนำ ก็คือ มิสเตอร์ทักษิณ

    ยูนั่นแหละที่ต้องทำหน้าที่นี้ ไม่ใช่คนอื่น
    พูดแค่นี้ ยูคงจะรู้หน้าที่ของยูดี

    เนื่องจากประวัติศาสตร์และสถานการณ์การเมือง
    เป็นผู้มอบบทบาทนี้ให้กับยู โดยที่

    "ยูต้องทำ" และ "ทำให้ได้"

    (พูดภาษาปะกิตก็คือ วิกฤติศก.ปี 40 ยูเป็น transformation leadership
    งานนี้ วิกฤติการเมือง ปี 52 ยูเป็น situational leadership 55+)

    อนาคตการเมืองของประเทศ ฝากไว้ที่ยู จำไว้

    2) แนวทาง เรื่องนี้แม้จะอธิบายยาก แต่ก็มี "ผู้รู้" พูดไว้มากแล้วเช่นกัน
    สรุปย่อๆ ก็คือ

    ปัญหาการเมืองบ้านเรา 3 ปีมานี้ที่มันยุ่งๆ
    ก็เพราะ "ความขัดแย้งหลัก" ในสังคมเพียงคู่เดียว

    *คนที่รู้ปรัชญาการเมืองวัตถุนิยมวิภาษ (Dialectic Materialism)
    จะมองออกว่า การคลี่คลายขยายตัวของ "ความขัดแย้งหลัก"
    และ "ด้านหลัก" ของความขัดแย้ง มีผลกระทบในเชิงปฏิบัติ
    หรือที่เรียกว่า implications ต่อลักษณะและพัฒนาการทางการเมืองอย่างไร

    ซึ่งไม่ว่าจะเรียกความขัดแย้งคู่หลักนี้ว่าอะไร ใช้คำพูดที่หรูแค่ไหน
    แต่สุดท้ายก็คือ
    - ใหม่ vs เก่า
    - ก้าวหน้า vs อนุรักษ์
    - ปชต. vs เผด็จการ หรือ
    - ปชช. vs อำมาตย์

    ประเด็นก็คือ ทักษิณเป็นตัวแทนของฝ่ายหนึ่ง
    ในขณะที่ อำมาตย์ "บางคน" เป็นตัวแทนของอีกฝ่ายหนึ่ง

    (ไม่ใช่พวกเสื้อเหลือง เจ๊กลิ้ม หรือ สาวกใดๆ
    อันนั้นเป็นความขัดแย้งรอง เป็นสิ่งลวงตา อย่าไปหลงประเด็น)

    ดังนั้น การที่ทักษิณยกคู่ความขัดแย้งหลักขึ้นมาบนโต๊ะ
    จึงเป็นการตีตะปูที่ตรงหัว ไม่ใช่ตรงกลางหรือตรงปลายอย่างที่ผ่านมา

    ซึ่งในส่วนนี้ "ยุทธวิธี" ที่จะทำให้ฝ่ายปชต.ชนะก็คือ

    การที่อำมาตย์ "บางคน" ถูกจับได้ว่าออกมาเล่นการเมือง
    ต้องตีที่ตรงนี้ ต้องใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์
    และต้อง "เอามันลง" ที่ตรงนี้ให้ได้

    พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าองคมนตรี "คนใด" ทำผิดด้วยการทำลายปชต.
    องคมนตรีคนนั้นก็ต้องแสดงสปิริตหรือความรับผิดชอบด้วยการลาออก

    เพราะในสังคมไทย คนเรายิ่งสูงส่งและยิ่งได้รับความศรัทธา (จุดแข็ง)
    ก็ยิ่งต้องรักษามาตรฐานอันนั้นไว้ให้ได้ (จุดเปราะบาง)

    ในกรณีที่มีหลักฐานปรากฏชัดขนาดนี้
    หากยังจะหน้าด้านเพิกเฉยอยู่ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้

    นี่คือ "เป้าหมาย" ในเชิงยุทธิวิธีที่เป็นจุดพลิกผันทางการเมือง
    ซึ่งจะทำให้ทิศทางการเมืองเปลี่ยนโฉมไปข้างหน้าทันที

    3) ส่วนการสนับสนุนของปชช.

    เรื่องนี้คงแทบไม่ต้องพูดถึงเพราะทุกวันนี้
    คนส่วนใหญ่เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่แล้ว

    เพียงแต่พวกเขาถูกกดหัวไว้
    และรอการนำที่ถูกต้องเข้มแข็งเท่านั้น

    ในส่วนของแนวร่วมนั้น อยากจะฝากว่า
    พธม.ก็เป็นคนไทยส่วนหนึ่งที่เข้าใจได้ง่าย
    และไม่มีอะไรให้ถือสามากนัก

    .........................

    สรุป--ยามใดที่ความขัดแย้งคู่หลักเริ่มคลี่คลาย
    และเมื่อพลังปชต.ได้พัฒนามาเป็นด้านหลักอีกครั้งหนึ่ง
    สังคมก็จะพัฒนารุดหน้าไป

    อืม..กินสลิมฟาสต์แล้วทำให้เราเป็นคนคิดมากไปหรือป่าวนิ

    ใครรุ้ช่วยบอกที

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 10:23:25

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 10:15:21

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 10:09:20

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:51:16

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:45:18

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:41:32

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:39:25

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:37:00

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 52 03:31:35

    จากคุณ : ตริวิกรมเสน - [ 31 มี.ค. 52 03:20:02 A:58.8.244.188 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com