PANTIP.COM : P7700054 3 องคมนตรี ครับ ผม ประชาชน ผม งง ครับ []

ความคิดเห็นที่ 20

จขกท. ลองอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ดูนะคะ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ
มันยาวหน่อยนะคะ หวังว่าคงจะอ่านให้จบ
จะได้พบคำตอบ

เคลื่อนไหว-วิดีโอลิงค์ได้ แต่ต้องอย่าใส่ร้าย-ป้ายสีผู้อื่น
บทบรรณาธิการ 3 เมษายน 2552 - 00:00
ยามนี้คนไทยเวลาเจอหน้ากัน ก็มักจะไถ่ถามถึงสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยคำถามซ้ำๆ กันว่า
"มันจะจบแบบไหน", "เมื่อไหร่จะเงียบสงบ", "อยากออกไปจากความเป็นคนไทยเพราะทะเลาะกันไม่จบสิ้น", "จะมีปฏิวัติไหม", "ทำไมกองทัพไม่ทำอะไรสักอย่าง"
ทุกคำถามล้วนมีคำตอบที่แตกต่างกันไป หลายคนบอกว่าประเมินยากลำบาก เพราะการสู้ครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพลพรรคคนเสื้อแดง มีเดิมพันการต่อสู้สูงยิ่ง ชนิดแม้ไม่ชนะก็ต้องไม่แพ้
ขณะที่ภาครัฐ ทั้งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหาร ตำรวจ ก็ล้วนมีบทเรียนจากการสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 ที่มีประชาชนจำนวนมากต้องบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต
จึงทำให้ทหาร ตำรวจ ยามนี้ไม่ต้องการรับคำสั่งจากฝ่ายการเมืองเข้าทำร้ายประชาชน ที่แม้จะเป็นสีไหนก็ตาม ทุกคนก็ล้วนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น มันจึงทำให้หลายคนประเมินได้ยากตอนท้ายของการต่อสู้ของคนเสื้อแดงฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะ และจะชนะแบบไหน เป็นชัยชนะบนกองเลือดและความสูญเสียของประชาชนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนแสดงความเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในยามนี้ ซึ่งแม้จะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย ตราบใดที่ไม่ได้ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น หรือทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย หรือทำลายสถานที่ราชการ ทำร้ายบุคคลอื่น
ก็คือการที่แกนนำคนเสื้อแดง รวมถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดจาจาบจ้วงให้ร้ายผู้อื่นบนเวทีคนเสื้อแดง และมีการถ่ายทอดไปยังเครือข่ายสื่ออื่นๆ ทั้งวิทยุและโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ซึ่งหลายเรื่องพบว่าเป็นการพูดจาเพื่อหวังปลุกระดมและสร้างความเกลียดชังด้วยการให้ข้อมูลด้านเดียว โดยไม่มีใครยืนยันได้ว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณนำเสนอและแกนนำคนเสื้อแดงบอกเล่าเป็นความจริงหรือไม่
โดยเฉพาะการพาดพิงไปถึงบุคคลระดับสูงอย่าง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และองคมนตรีคนอื่นๆ เช่น พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์, นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ซึ่งแม้องคมนตรีจะเป็นบุคคลธรรมดาที่แกนนำคนเสื้อแดงอ้างว่าสามารถพูดจาพาดพิงได้หากเห็นว่ากระทำการหรือทำกิจการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและไม่เป็นกลาง แต่หลายฝ่ายก็เห็นว่า ด้วยที่มาและบทบาท ตลอดจนสถานะขององคมนตรี แม้จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ก็ไม่ควรให้ร้ายหรือใส่ความเท็จจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
เพราะประชาชนคนธรรมดา เมื่อถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือถูกว่ากล่าวด้วยข้อความสิ่งที่เป็นเท็จ ก็ย่อมไม่มีใครอาจทนได้จนต้องมีการดำเนินการต่างๆ เช่น แถลงข่าวตอบโต้หรือยื่นฟ้อง ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทหรือพูดจาใส่ความอันเป็นเท็จทำให้เสียชื่อเสียง แต่ด้วยสถานะของความเป็นองคมนตรี ย่อมทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องการจะออกมาตอบโต้หรือแถลงข่าวรายวันตลอดจนยื่นฟ้องต่อศาล จึงยิ่งพบว่าทำให้มีขบวนการโจมตีและให้ร้ายต่อองคมนตรีออกมาอย่างต่อเนื่องเสมือนกับว่ายิ่งได้ใจ
ที่น่าสนใจคือ ท่าทีของนายอำพน เสนาณรงค์ องคมนตรี ซึ่งได้ไปแสดงปาฐกถาในหัวข้อเรื่อง "ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อชาติ และประชาชน" ในงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2552 ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นนทบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
โดยในตอนหนึ่ง นายอำพนได้ยกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ขึ้นมาอธิบายถึงที่มาของคณะองคมนตรีว่า ตามมาตรา 12 พระมหากษัตริย์ ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีหนึ่งคนและองคมนตรีอื่นๆ ไม่เกิน 18 คน ประกอบเป็นคณะองคมนตรี
"หมายความว่าทั้งหมดจะมี 19 ท่าน คณะองคมนตรีมีหน้าที่ถวายความคิดเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษาและมีหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาตรา 13 การเลือกและการแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย มาตรา 14 องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดๆ
รู้สึกเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้มีการโฟนอินอะไรต่ออะไรมา ดังนั้นในฐานะองคมนตรีจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การมาพูดอะไรในที่ชุมนุมชนจึงต้องมีความระมัดระวัง ทั้งการใส่เสื้อสีต่างๆ หรือการพูดในเนื้อหาอะไร ดังนั้นอะไรที่ได้ยินมาจึงไม่กล้าที่จะนำข้อมูลอะไรใหม่ๆ มาเล่าได้ เพราะไม่สมควรที่จะมาเล่าในที่ชุมนุมชน"
อันเป็นความรู้สึกตอนหนึ่งขององคมนตรีท่านหนึ่ง ที่สังคมควรรับฟังและพิจารณาตาม โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง และตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ควรยุติการให้ร้ายผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือว่ากล่าวด้วยข้อความเท็จเพราะได้ใจว่าอีกฝ่ายไม่สามารถออกมาตอบโต้หรือชี้แจงได้.

จากคุณ : yim (kullayak) - [ 3 เม.ย. 52 21:04:11 A:61.90.22.227 X: ]