เรื่องแรกวัดพระแก้ว
อัยการสั่งไม่ฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว
ในยุค คมช. ครองเมือง
ตามเหตุผลในข่าวดังต่อไปนี้
------------------------------------------------------------
ข้ออ้างทำรัฐประหารหมดแล้ว ทักษิณทำบุญวัดพระแก้ว ไม่หมิ่นเบื้องสูง
ข้อ อ้างของเผด็จการทหารในการทำรัฐประหารหมดลงโดยสิ้นเชิง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดจารีตประเพณีกระทำอาจเอื้อมทำตัวเสมอพระมหา กษัตริย์เข้าไปเป็นประธานในพิธีทำบุญในวัดพระแก้ว
สำหรับคำ วินิจฉัยของอัยการฯ นั้น ได้อ้างนายสนอง บูรณะ รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง เป็นพยานยืนยันว่าการที่ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ 2 เข้าไปประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามใน วันที่ 10 เมษายน 2548 นั้น ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยถูกต้องแล้ว ไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ยังอ้าง นายธงทอง จันทรางศุ เป็นพยานสนับสนุนว่าภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้น หน่วยราชการต่างๆ สามารถขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกอบพิธีภายใต้คำแนะนำของสำนักพระราชวัง ได้ ซึ่งการจัดงานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นมีมาหลายครั้งแล้ว และสามัญชนก็สามารถเป็นประธานในพิธีได้ รูปแบบการจัดสถานที่ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามตามวันเวลาเกิดเหตุ นั้น ได้มีกองพระราชพิธี สำนักพระราชวังเป็นผู้ดำเนินการโดยมีความแตกต่างกับกรณีที่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว หรือพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ได้เสด็จมาเป็นประธานในพิธีด้วยพระองค์เอง และการที่ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ 2 และผู้เข้าร่วมพิธีแต่งกายชุดสุภาพก็ไม่ขัดต่อระเบียบสำนักพระราชวังหรือ ประเพณีปฏิบัติแต่อย่างใด
อีกทั้งการที่สวมรองเท้าเข้าไปภายในพระ อุโบสถนั้นก็สามารถกระทำได้เช่นนั้น สำหรับเครื่องใช้สอย อาทิ เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าปู พรมสีแดง ฯลฯ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เป็นผู้จัดเตรียมให้ เชื่อว่าถูกต้องตามระเบียบและขนบธรรมเนียมประเพณีแล้ว ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าการจัดพิธีทำบุญประเทศภายในอุโบสถวัดพระศรีรัตนาศาสดารามในพระ บรมมหาราชวัง ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว โดยกองพิธีสำนักพระราชวังเป็นผู้ดำเนินการจัดรูปแบบและจัดสถานที่ประกอบพิธี ซึ่งการแต่งกายของผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ก็ไม่ขัดต่อระเบียบของสำนักพระราชวัง หรือประเพณีปฏิบัติ การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 จึงไม่เป็นการดูหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นความผิดฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด
จึงมีคำสั่งไม่ ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 1 และนายวิษณุ เครืองาม ผู้ต้องหาที่ 2 ข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1
(ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์)
จากคุณ :
มาหาอะไร
- [
4 เม.ย. 52 11:17:46
A:118.174.140.108 X:
]