จากกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวพาดพิงนายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการ และสำนักราชเลขาธิการ ในรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ทางสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าเป็นผู้ดึงเรื่องร่างกฎหมายที่ให้อำนาจ คตส. และป.ป.ช. ไม่นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เพราะว่าพี่ชายคือนายพงส์ สารสิน เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับคดีเทมาเส็ก และคดีนอมินีนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 พ.ค. สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง ออกหนังสือชี้แจงความเป็นมาและขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักราชเลขาธิการว่า การดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายทุกฉบับ เมื่อสำนักราชเลขาธิการได้รับเรื่องแล้วจะรีบตรวจสอบพิจารณากลั่นกรอง ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมองคมนตรี เพื่อพิจารณาถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ เมื่อคณะองคมนตรีพิจารณาแล้วจะส่งเรื่องให้ราชเลขาธิการ ซึ่งมีหน้าที่นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพิจารณาโดยทันที เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป
กรณีร่างพระราช บัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542 พ.ศ. 2550 สำนักราชเลขาธิการรับเรื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. และได้ตรวจพิจารณากลั่นกรองร่างกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ ก่อนจะเสนอให้คณะองคมนตรีพิจารณาถวายความคิดเห็นประกอบพระราชดำริ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. และนำเรื่องกราบเรียนประธานองคมนตรีวันที่ 11 เม.ย. หลังจากนั้นเป็นวันหยุดเทศกาลสงกรานต์วันที่ 12-17 เม.ย. ต่อมาได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพิจารณาและทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. และพระราชทานคืนวันที่ 23 เม.ย. สำนักราชเลขาธิการได้เชิญพระราชบัญญัติดังกล่าว คืนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เม.ย.
สำนัก ราชเลขาธิการและราชเลขาธิการ ในฐานะเลขานุการของพระมหากษัตริย์ขอย้ำว่า การดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายทุกเรื่องเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ราชเลขาธิการเป็นเพียงผู้ผ่านเรื่องเพื่อนำความกราบบังคมทูล หลังจากที่คณะองคมนตรีพิจารณาถวายความคิดเห็นประกอบพระราชดำริและมีมติแล้ว เท่านั้น ในกรณีดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว มิได้ล่าช้าหรือชะลอเรื่องตามที่นายสนธิกล่าวอ้างแต่อย่างใด การดำเนินรายการของนายสนธิ เป็นการพูดโดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูล และนำเรื่องดังกล่าวเชื่อมโยงทางการเมืองโดยปราศจากความรับผิดชอบ และไม่บริสุทธิ์ใจ นำเรื่องของตำแหน่งราชเลขาธิการ และสำนักราชเลขาธิการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งก่อนที่นายสนธิจะออกรายการสามารถสอบถามสำนักราชเลขาธิการได้ แต่ไม่มีการสอบถามในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้วย เหตุนี้ สำนักราชเลขาธิการจึงขอให้นายสนธิ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ทางรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้ประชาชนได้รับทราบโดยด่วน และขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้รับทราบโดยด่วน และสำนักราชเลขาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องสำนักราชเลขาธิการและ ราชเลขาธิการที่มีการกล่าวโทษในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง พร้อมจะแจ้งผลให้ทราบต่อไป
http://www.giggog.com/crime/cat4/news1382/
จากคุณ :
BANGKOK THAILAND 2007
- [
วันจักรี 17:54:54
A:58.8.94.162 X:
]