เพื่อนสมาชิกหลายท่านน่าจะพอทราบว่าผมเป็นแฟนคลับของท่านอดีตนายกฯสมัครตัวยง เมื่อนายเนวินออกมาแถลงการณ์ออกอากาศผ่านสื่อโทรทัศน์ ในฐานะแฟนคลับพรรคประชากรไทยก็ขอออกแถลงการณ์ส่วนตัวผ่านกระทู้บ้าง

การกระทำของคุณทักษิณและพรรคพลังประชาชนต่อคุณสมัครก็เป็นเรื่องหนึ่ง
การกระทำของอำมาตย์ที่มีต่อกระบวนการประชาธิปไตยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เราต้องวิเคราะห์ข้อเท็จจริง แยกแยะ และจับประเด็นให้ถูก
ไม่นำเรื่องทุกเรื่องมาจับผสมปนกันจนทำให้เสียหลักการ
ถึงขนาดต้องทรยศต่ออุดมการณ์หักหลังต่อประชาชน
หันไปร่วมมือกับซากเผด็จการจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

เช่นเดียวกัน การโจมตีโดยพาดพิงองคมนตรีเป็นรายบุคคลของกลุ่มเสื้อแดง
ถือเป็นคนละเรื่องกับข้อกล่าวหาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
และไม่ใช่การล้มล้างสถาบันองคมนตรีหรือการก้าวล่วงเกินพระราชอำนาจแต่อย่างใดไม่

ถ้ารัฐบาลและนายเนวินคิดว่าการกล่าวโจมตีองคมนตรีเป็นการล้มล้างสถาบัน
เหตุไฉนการที่สนธิได้กล่าวพาดพิงและโจมตี พล.อ.สุรยุทธ์
และรวมไปถึงข้าราชบริพารผู้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทต่างกรรมต่างวาระ
อาทิเช่น นายอาสา นายสุเมธ นายดิสธร และล่าสุดคือท่านผู้หญิงวิระยา
ทำไมทางรัฐบาล กองทัพ สว. นักวิชาการ และองค์กรต่างๆ ของศักดินาที่ตั้งขึ้น
จึงไม่ออกมาทำการตอบโต้กล่าวหาว่านายสนธิกำลังคิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูง
(ดูกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7708709/P7708709.html)

การเคลื่อนไหวโจมตีองคมนตรีเป็นรายบุคคลของกลุ่มเสื้อแดง เป็นการทวงถาม คุณธรรม จริยธรรม รวมถึงความรับผิดชอบที่ต้องมีอยู่ในคุณสมบัติขององคมนตรีที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญ

---

มาตรา ๑๔
องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมการ การเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการ ศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือสมาชิก หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง และต้องไม่แสดงการฝักใฝ่ในพรรคการเมืองใดๆ

มาตรา ๑๕
ก่อนเข้ารับหน้าที่ องคมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

มาตรา ๑๖
องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งเมื่อตาย ลาออก หรือมีพระบรมราชโองการ ให้พ้นจากตำแหน่ง

---

ที่ผ่านบุคคลที่ดำรงตำแหน่งองคมนตรีบางท่าน มีพฤติกรรมทำตัวเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัย
ตามข้อกล่าวหาตามที่กลุ่มเสื้อแดงนำออกมาโจมตี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแทรกแซงการโยกย้ายของทหาร
การแทรกแซงองค์กรยุติธรรม และองค์กรอิสระต่างๆ ที่สำคัญ คือ พฤติกรรมที่เข้าข่ายเข้าไปวางแผน
มีส่วนร่วมในขบวนการก่อการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ยังไม่นับรวมถึงการส่งกำลังใจ หรือ มีคนสนิทใกล้ชิดเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวอยู่ในม้อบพันธมิตรประชาชน
สนับสนุนกระทำการยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน ก่อการกระทำผิดกฎหมายต่างกรรมต่างวาระกันมากมาย

"ผมเป็นโจรกลับใจ ผมไม่ได้เป็นคนที่ดีวิเศษเลิศเลอมาจากไหน แต่ว่าผมกลับใจแล้ว ถ้าหากว่าสิ่งใดที่ผมทำให้เกิดความวุ่นวาย ความยุ่งยาก ผมจะไม่ทำ"

คำพูดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่พล.อ.สุรยุทธ์ พูดออกมา ย่อมสะท้อนให้เห็นชัดว่า องคมนตรี ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง มี รัก โลภ โกรธ หลง และสามารถกระทำผิดได้เช่นเดียวกัน

ในเมื่อตนเองมาดำรงตำแหน่งองคมนตรี แล้วถูกกล่าวหาว่าไปประพฤติมิชอบ มิถูก มิควร เมื่อมาถูกพาดพิงโจมตีกล่าวหาจากกลุ่มเสื้อแดง ทางออกที่ดีที่สุดประการแรกสำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหา คือ การออกมาพิสูจน์ตัวเอง หักล้างด้วยหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธ์ ถ้าไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาตรงตามประเด็นนั้นได้ องคมนตรีก็สมควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

ไม่ใช่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกมาแถไปเรื่องอื่น หยิบเรื่องเก่าๆ มาโจมตี "ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน" แล้วเหมาเข่งป้ายสีประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง เป็นพวกไม่จงรักภักดี และต้องการล้มล้างสถาบันไปทั้งหมด

สุดท้ายการโจมตีป๋าเปรมมีมาตั้งแต่หลังเกิดรัฐประหารใหม่ๆ เมื่อกลางเดือนมีนา 2550 กลุ่มเครือข่าย 19 กันยา เป็นกลุ่มแรกที่เคลื่อนขบวนไปวางต้นกล้วยที่บ้านสี่เสา
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ID=7381&Key=HilightNews

ภายหลังกลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการได้ทำการล่ารายชื่อ เพื่อถวายฎีกาปลดพล.อ.เปรม เมื่อต้นเดือนเมษา 2 ปี ที่แล้ว
http://hilight.kapook.com/view/9403

จนในที่สุด PTV ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวจนรวมตัวกันเป็น นปก. บุกบ้านสี่เสา ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 จนท้ายที่สุดเร็วๆ นี้อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

ดังนั้นการที่มีซากเน่าเผด็จการออกมากล่าวหากลุ่มเสื้อแดงและอดีตนายกฯทักษิณที่ออกมาทำการเคลื่อนไหวโจมตีพล.อ.เปรม และ พล.อ.สุรยุทธ์ ในฐานะองคมนตรี ว่าเป็นการล้มล้างสถาบันนั้น จึงถือเป็นการใช้วิธีอันสกปรกต่ำช้า ใช้ความจงรักภักดีที่มีอยู่ในคนไทยทุกคน มาโจมตีทำล้ายล้างคนไทยเสื้อแดงที่คิดต่าง

กลุ่มอำมาตย์จงรับรู้ไว้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีแต่เพียงคนรักทักษิณ
คนเสื้อแดงนั้นมีมากมายหลายกลุ่ม หลากชนชั้น และทุกอาชีพ เช่น
กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มแรกที่รับไม่ได้กับการรัฐประหารปล้นชาติไทย
ลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการบุกยึดสถานี NBT
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการให้ท้ายพันธมิตรยึดทำเนียบ
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการให้ท้ายพันธมิตรปิดสนามบิน
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฎถูกปล่อย
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับผู้บัญชาการเหล่าทัพออกอากาศทางทีวีเรียกร้องให้นายกลาออก
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้ที่ผบ.ทบ.เรียกประชุมปาหี่แล้วออกมานั่งกับอธิการมธ.เรียกให้รัฐบาลยุบสภา
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการจัดตั้งรัฐบาลในกองทัพ
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับกระบวนการยุติธรรมที่มีสองมาตรฐาน
กลุ่มคนเสื้อแดงที่รับไม่ได้กับการผูกขาดความจงรักภักดี แล้วผลักอีกฝ่ายเป็นพวกไม่จงรักภักดี
ฯลฯ

ที่สำคัญ ตามเจตนารมณ์กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมด้วยความสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ไร้ความรุนแรง ถ้ากลุ่มอำมาตย์สร้างสถานการณ์นำ "ม้อบชนม้อบ" จนนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย ลุกลามบานปลาย กลายเป็นจราจล และรัฐบาลสามารถนำไปใช้เป็นเงื่อนไขในการประกาศพรก.ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก เพื่อให้กองทัพส่งทหารเข้ามาควบคุมและจัดการปราบปราม เมื่อนั้นประชาชนทั้งประเทศที่มีหัวใจสีแดงก็คงไม่ยอมเช่นกัน

จากคุณ : สิงห์สนามหลวง - [ 7 เม.ย. 52 22:14:43 A:58.8.199.247 X: ]