PANTIP.COM : P7740619 ผมอยู่ฝั่งเสื้อแดง แต่ผมขอถามทุกคนครับ ว่าการสลายการชุมนุมจำเป้นต้องใช้ปืนจริงเหรอครับ []

ความคิดเห็นที่ 71

วันเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน

===================================
8 ตุลาคม 2551, มติชนออนไลน์
ปณิธานชี้ตร.ยิงแก๊สน้ำตาผิดวิธีชี้ภาวะสงครามยังงดใช้

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.จนเกิดเหตุเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บว่า โดยทั่วไปแก็สน้ำตาถือเป็นอาวุธที่ไม่มีอันตราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ ซึ่งในต่างประเทศจะหลีกเลี่ยงการยิงตรงเข้าสู่กลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช้ในพื้นที่จำกัดและมีวิธีการใช้ที่ค่อนข้างรัดกุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากของเราที่เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนยังไม่เข้าใจวิธีการใช้และไม่ได้ฝึกฝนมาเท่าที่ควร เพราะการยิงเข้าไปในฝูงชนในพื้นที่แคบอย่างถนนอู่ทองในไม่ควรยิง เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบและมุมอับ อีกทั้งยังทราบว่ามีการยิงโดนตำรวจด้วยกันก็แสดงว่าการฝึกฝนมีปัญหา

นอกจากนี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวยังสวนสัตว์อยู่ด้วย ดังนั้นจึงเกรงว่าแก็สจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ด้วย

"การใช้แก๊สน้ำตาแล้วได้รับบาดเจ็บเป็นไปได้ยาก เพราะแก๊สน้ำตาเป็นกระสุนที่ขับเคลื่อนด้วยดินขับแรงขับต่ำ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ยิงระยะเผาขนก็อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บฟกข้ำ ตาหลุด ตาบอดได้ย ซึ่งถ้าหากยิงใกล้เกิน 120 เมตรก็อาจจะส่งผลทำให้อวัยวะฉีกขาดได้ ทั้งนี้สาเหตุการทำให้นิ้วขาด ขาขาดหรือเสียชีวิตนั้นเป็นข้อพิสูจน์ที่ยาก การที่แขนขาขาดน่าจะเกิดจากระเบิดหรือสเก็ดระเบิดมากกว่า อย่างไรก็ตามการใช้แก๊สระเบิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นถือว่าใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่โดยปกติจะใช้เพื่อให้วิ่งหนีเท่านั้น แต่คราวนี้กลับมีการบาดเจ็บ

รัฐบาลจึงควรตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นกลางขึ้นมาสอบสวนเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะขณะนี้ยังถือว่ามีหลักฐานเพียงพอต่อการสืบสวนสอบสวนภายใน 1 เดือนจากนั้นก็ควรรายงานผลการสอบสวนให้รัฐบาลได้รับทราบเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด" นายปณิธาน กล่าว

นักวิชาการด้านความมั่นคง กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ออกมาชี้แจงว่าการใช้แก๊สน้ำตาถือเป็นมาตรฐานสากลในการสลายการชุมนุมนั้นตนเห็นว่าอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะในต่างประเทศจะหลีกเลี่ยงการใช้แก๊สน้ำตาและนำมาตรการนี้มาใช้เป็นมาตรการสุดท้ายที่จะใช้จัดการกับผู้ชุมนุม แต่จะใช้ปืนฉีดน้ำหรือวิธีอื่นที่ไม่ทำอันตรายต่อร่างกายมาใช้แทน เพราะบางคนแพ้ อาทิ กับผู้หญิงท้องอาจจะกระทบต่อลูกในท้อง หรืออาจะมีผลกระทบกับคนที่เป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะในกรณีที่อิสราเอลใช้แก๊สน้ำตากับชาวปาเลสไตล์ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการแพ้แก๊สได้ ดังนั้นในต่างประเทศจึงมีการวิจารณ์ถึงขั้นจะไม่ให้นำวิธีการนี้มาใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมอีก

"แม้ระหว่างสงคราม ทางการทหารก็ห้ามไม่ให้แก๊สน้ำตา เพราะจะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งการแถลงนโยบายครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียเกินความจำเป็นเพราะมีคนบาดเจ็บกว่าครึ่งพันและมีคนเสียชีวิต หากเทียบกับการแถลงนโยบายที่ไม่มีใครทราบว่ารัฐบาลจะทำอะไรบ้างนั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้น ดังนั้นการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 7 ต.ค.จึงถือเป็นจุดเริ่มของจุดจบรัฐบาล โดยในต่างประเทศการทำให้คนเสียชีวิตถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้กำลังต่อประชาชนของตัวเอง ผู้นำประเทศส่วนใหญ่จะลาออกเพื่อรักษามารยาท แต่ผู้นำไทยอาจจะมีมาตรฐานที่ต่างกันย" นายปณิธาน กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?...pid=00&catid=01

========================================

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 08:19:28 น. มติชนออนไลน์
"โฆษกรบ-โฆษกทบ."แจงสลายม็อบเป็นไปตามขั้นตอน

ภายหลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) เพื่อมาดูแลสถานการณ์ และมีประกาศตามมาตรา 11 (6) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ห้ามปิดกั้นเส้นทางจราจร นั้น

ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 07.20 น. วันที่ 13 เม.ย. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรักษาการโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงในช่วงเวลา 04.00น. ที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามแผนการและขั้นตอนที่ได้วางไว้ แม้จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกควบคุมตัวจำนวนหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ดูแลอย่างดี

นายปณิธาน กลล่าวว่า ขณะนี้สามารถที่จะเปิดเส้นทางคมนาคม ขนส่งบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงได้แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นการทำการของเจ้าหน้าที่ เป็นความพยายามของ กอฉ. และของรัฐบาลที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การกระทำการของเจ้าหน้าที่ทุกประการเป็นไปตามขั้นตอน และความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สมเหตุสมผล ถึงแม้ว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ถึงขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บก็ได้รับการปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่า จะมีผู้ถูกควบคุมตัวส่วนหนึ่ง แต่ผู้ถูกควบคุมตัวก็อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ ได้กล่าวชี้แจงถึงขั้นตอนของปฏิบัติการในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมช่วงเช้ามืดวันนี้ ว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุมให้เปิดเส้นทางจราจรบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 04.15 น. แต่ข้อเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติตามแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดเพลิง และอาวุธปืนยิงลงมาจากทางด่วน นอกจากนั้นยังมีการใช้รถแท็กซี่ขับพุ่งเข้าชนกลุ่มเจ้าหน้าที่ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

"เจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม หลังจากนั้นก็มีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ผมอนุญาตเรียนย้ำว่า เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อต้องการจะใช้เสียงขู่ทางกลุ่มผู้ชุมนุม มิได้มีการใช้อาวุธโดยตรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากที่ดำเนินการสักระยะหนึ่งก็สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณทางด่วนดินแดงเอาไว้ได้ สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้ก็ได้ดำเนินการส่งในโรงพยาบาลที่มีอยู่เรียบร้อยแล้ว โดยศูนย์นเรนทรเป็นผู้รับผิดชอบดูแล สำหรับบรรดาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ก็มีการควบคุมตัวเอาไว้แล้วในที่ที่มีความปลอดภัย" โฆษกกองทัพบกกล่าว

ขณะที่ นายปณิธาน กล่าวยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางให้ประเทศกลับคืนสู่สภาวะปกติ จะทำงานด้วยความระมัดระวัง จะใช้หลักเหตุผล ความเหมาะสม และตรวจสอบได้ เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินยุติลงโดยเร็ว โดยรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เขต กทม. และเน้นย้ำว่า ประชาชนที่ต้องการให้สถานการณ์สิ้นสุดโดยเร็วได้โปรดไว้ใจ เข้าใจรัฐบาล และแจ้งเบาะแสสิ่งผิดปกติให้รัฐบาลทราบโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ รักษาการโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ ณ เวลานี้ในหลายจุดสามารถควบคุมได้แล้ว และในโอกาสต่อไป ช่วงเที่ยง ช่วงบ่าย รัฐบาลจะมีเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจงกับประชาชนเป็นระยะ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1239585586&grpid=03&catid=01
==============================

ที่กล่าวมา ไม่มีข้อไหนกล่าวว่าจำเป็นต้องใช้ "ปืน" คิดว่าประเด็นนี้คงต้องให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่เป็นบรรทัดฐานในอนาคต หากมีใครประท้วง รัฐบาลก็ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน แล้วให้ทหารเอาปืนออกมายิงผู้ชุมนุมได้

อนาคต เราควรมีกฎหมายการชุมนุมให้ชัดเจนมากกว่านี้ จะได้ตัดสินได้ว่าแบบไหนชุมนุมถูกกฎหมาย และไหนไม่ถูกกฎ และเจ้าหน้าที่รัฐมีสิทธิ์ทำอะไรกับผู้ชุมนุมได้บ้าง แต่ไม่ใช่ห้ามการชุมนุมไปซะหมด และไม่ใช่อนุญาตให้ทหารลากปืนมายิงผู้ชุมนุมได้ง่าย ๆ

จากคุณ : ศาลายา - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 15:00:13 A:119.31.44.195 X: ]