ความคิดเห็นที่ 1 ถามเค้าไปหลายรอบแล้ว ไม่มีแดงไหนมาอธิบายได้กระจ่างเหมือน จขกท เลย อยากให้กิฟต์ แต่หมดแล้ว จากคุณ : เอ๊กกี่ - [ วันเนา (14) 19:38:08 A:125.25.145.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 คำถามยากๆ แบบนี้ พวกแดงในห้องนี้เค้าตอบไม่ได้หรอกค่ะ เค้าถูกโปรแกรมให้มาเขียนซ้ำๆ แล้วก็รู้จักแค่ 2 สีในโลกนี้เอง อย่างอื่นอย่าได้ถาม คิดไม่เป็นจ้า   จากคุณ : ตุ๊กตาดิน *_* - [ วันเนา (14) 19:39:23 A:125.24.57.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 คำว่า อำมาตย์ มันมีความหมายในตัวมันเองครับ แล้วเมืองไทยก็เคยมีพวกอำมาตย์เป็นใหญ่ ในอดีต ย้ำ นะ ครับ ในอดีต ปัจจุบัน คำว่า อำมาตย์ คือข้ออ้างที่บรรดาผู้สูญเสียผลประโยชน์อย่าง นช ทักษิณ หรือ กลุ่มซ้ายอารมณ์ค้าง นำมาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองผลประโยชน์ของบ้านเมือง รวมถึงกลุ่มคนที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันทางการเมืองอย่าง กลุ่มความจริงวันนี้ด้วย จากคุณ : การเมืองภาคประชาชน - [ วันเนา (14) 19:39:57 A:118.172.174.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้า อมาตยาธิปไตย มีมาตั้งนาน แล้ว ทำไม สมัยทักษิณ ธุรกิจเค้าถึงเจริญอ๊าวเจริญเอา แล้วเจือกเพิ่งออกมาโวย ตอนเสียอำนาจ จากคุณ : phenix_th1 - [ วันเนา (14) 19:40:37 A:125.26.0.209 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นคนอยู่ดีๆ อย่าลดตัวไปถาม:-)เลยครับ จากคุณ : Vengeance - [ วันเนา (14) 19:40:54 A:124.120.206.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยากครับ ยากที่จะหาผุ้รู้ เพราะที่นี่ ส่วนมากจะเห็นแต่นักปลุกระดม  ประเภท  เขาเล่าว่า แล้วเอามาเล่าต่อ หรือไม่ก็ ก็อปข่าวแปะ  กระจายข่าวลือ ยากที่จะหาคนมีปัญญา มีภูมิรู้จริง ในเหตุการณ์บ้านเมือง แล้วมาพูดคุย ขยายแนวความคิดอย่างมีเหตุ มีผล ผมพยายามค้นหา  แต่ยังหาไม่เจอเลยครับ จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ - [ วันเนา (14) 19:40:58 A:124.121.9.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 """ จากคุณ : ศรีอิสาน - [ วันเนา (14) 19:41:20 A:117.47.169.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 มารออ่านด้วยค่ะ อยากเข้าใจ เพราะสงสัยมาตลอดเหมือนกัน จากคุณ : red_ant - [ วันเนา (14) 19:44:00 A:124.121.8.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบกันไม่ได้หรอก จากคุณ : Gooner - [ วันเนา (14) 19:44:01 A:58.64.116.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 “อำมาตยธิปไตย” คือ อะไร ? สำหรับ “ผู้ไม่รู้ และ ผู้แกล้งทำเป็นไม่รู้” เนื่องจาก จขกท. มักพบเห็นการตั้งคำถามจากเพื่อนสมาชิกหลายท่านว่า “อำมาตยธิปไตย” คือ อะไร ?   โดยการตั้งคำถามมีทั้งที่เป็นในลักษณะของการตั้งกระทู้และการถามในส่วนความคิดเห็นต่อกระทู้ต่างๆที่เขียนถึง “ระบอบอำมาตยธิปไตย”   ที่สำคัญช่วงนี้บรรดาลูกหาบอำมาตย์ได้พากันมาเถียงคอเป็นเอ็นว่า ไม่มีระบอบอำมาตยธิปไตย  บ้างก็ว่า จขกท. เชื่อว่าสำหรับสมาชิกที่เพิ่งสนใจการเมืองโดยเฉพาะช่วงกลุ่มพันธมิตรต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะไม่รู้จัก “ระบอบอำมาตยธิปไตย” จึงไม่รู้จักความร้ายกาจและพิษสงของระบอบนี้ว่าประชาชนผู้รักประชาธิปไตยรุ่นก่อนๆ ต้องผ่านความยากลำบากมากมายเพียงใด ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อทำให้ฝ่ายอำมาตยธิปไตยยอมถอยไปบ้างเป็นบางครั้งบางคราว แต่สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ติดตามการเมืองมานานแล้ว จขกท. ไม่เชื่อว่าไม่รู้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ และมีความเป็นไปได้ที่ท่านเหล่านี้สมัครใจที่จะสนับสนุนระบอบอำมาตยธิปไตย เช่นเดียวกับนักสู้เพื่อประชาธิปไตยในอดีตหลายๆ ท่านที่บัดนี้ได้หันไปเป็นลูกหาบของขุนศึกอำมาตย์ อย่างไรก็ตาม เพื่อความเข้าใจ “ระบอบอำมาตยธิปไตย”  จขกท. จึงขอเรียบเรียงเพื่อเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่รู้และที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ดังนี้ “อำมาตยาธิปไตย หรือ Bureaucratic Polity” ซึ่งอาจเรียกเรียงอย่างหนึ่งว่า "รัฐราชการ" ที่อำนาจในการปกครองบริหาร ประเทศผูกขาดโดย "อำมาตนิขุนชน" ซึ่งได้แก่ข้าราชการที่ยังยึดติดกับระบบศักดินา (Feudalism) โดยเฉพาะข้าราชการผ่านความมั่นคง อำมาตยาธิปไตย หรือความเป็นใหญ่ของข้าราชการในสังคมการเมืองไทยอาจปรากฏให้เห็นได้ใน 2 รูปแบบ คือ ความเป็นใหญ่ในเชิงรูปแบบ ซึ่งหมายถึงการที่ข้าราชการไทยสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงแรงต่อต้านจากกลุ่มทางสังคมอื่นๆและอีกรูปแบบหนึ่ง มีลักษณะความเป็นใหญ่ของข้าราชการไทยในเชิงสาระอำมาตยาธิปไตย ในลักษณะนี้ หมายถึง การที่ข้าราชการประจำโดยเฉพาะในองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการดำเนิน นโยบาย เศรษฐกิจ ซึ่งอำนาจหรือความเป็นใหญ่ของข้าราชการไทย นำไปสู่การผูกขาดอำนาจในการกำหนดนโยบายสาธารณะ ระบบอำมาตยาธิปไตยฝังรากลึกในสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับระบบศักดินา ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม (สันติพงษ์ มูลฟอง : ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน) ศ.ดร.ลิขิต ธีรเวคิน ได้เขียนถึงอำมาตยธิปไตยไว้น่าสนใจหลายประการ ดังนี้ อำมาตยาธิปไตย มีบทบาทในทางการเมืองก็เนื่องจากเหตุผลหลายประการ คือ ประวัติความเป็นมาและขนบธรรมเนียมประเพณี   อำมาตยาธิปัตย์คือผู้ใช้อำนาจรัฐและปกครองแผ่นดิน บางครั้งก็ท้าทายอำนาจพระมหากษัตริย์โดยทำการยึดอำนาจ และสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์แทน เช่น พระเจ้าปราสาททอง ซึ่งเป็นสมุหพระกลาโหมมาก่อน หลังจาก 24 มิถุนายน 2475 เมืองไทยก็อยู่ภายใต้อำมาตยาธิปัตย์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2500 เป็นเวลา 25 ปี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี 14 ปีครึ่ง พระยาพหลพลพยุหเสนา ประมาณ 5 ปี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ประมาณ 1 ปี ใน 25 ปีนี้ 21 ปีมีนายกรัฐมนตรีที่มีภูมิหลังเป็นทหาร ส่วนที่เหลือก็มาจากข้าราชการพลเรือน หลังการปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500 และ 20 ตุลาคม 2501 มาจนถึง 14 ตุลาคม 2516 เป็นการปกครองโดยรัฐบาลทหาร จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็มีทหารเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุด สรุปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ถึง 14 ตุลาคม 2516 สี่ศตวรรษเต็มการเมืองไทยอยู่ภายใต้อำมาตยาธิปัตย์มาตลอด โดยอำนาจทางการเมืองอยู่ภายใต้ทหาร ส่วนการบริหารอยู่ภายใต้ข้าราชการพลเรือนในกระทรวงต่างๆ ซึ่งยังมีความคิดแบบเดิมคือเจ้าขุนมูลนาย วันที่ 14 ตุลาคม 2516 เป็นการบ่งบอกถึงการสูญเสียอำนาจของอำมาตยาธิปัตย์ เพราะสังคมไทยเริ่มเปลี่ยนไปสู่สังคมกึ่งเกษตรกึ่งอุตสาหกรรม ความพยายามจะดึงอำนาจกลับมาโดยกลุ่มอำมาตยาธิปัตย์ก็คือเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และก็เกิดการปฏิวัติขึ้นอีกเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2520 จากสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมทำให้ต้องมีการปรับตัว อำมาตยาธิปัตย์ซึ่งเป็นกลุ่มพลังอำนาจกลุ่มเดิมจึงต้องร่วมกับกลุ่มพลังกลุ่ มใหม่อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยกลุ่มพลังกลุ่มใหม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและวุฒิสมาชิกยังผูกขาดโดยกลุ่มอำมาตยาธิปัตย์ ระบบดังกล่าวคือ “ประชาธิปไตยครึ่งใบ” การปฏิวัติโดย รสช. เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 คือความพยายามของกลุ่มอำมาตยาธิปัตย์ที่จะเข้ามาครองอำนาจการเมืองโดยวิธีการแบบเดิมแต่ก็เกิดการต่อต้านในปี 2535 ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญยิ่งคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภาต้องมาจากประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื้อถึงตรงนี้เพื่อนสมาชิกคงพอจับใจความได้แล้วว่า ระบอบอำมาตยธิปไตยเป็นระบอบที่ทำให้ข้าราชการระดับสูงมีอำนาจในการควบคุมการเมืองการปกครอง การเศรษฐกิจ และสังคม ระบอบอำมาตยธิปไตยจะดำรงอยู่ได้ต้องอาศัยกลไกของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องให้อำนาจนอกระบบสามารถเข้าแทรกแซงต่อระบบรัฐสภา โดยอาศัย “การแต่งตั้ง”(ปัจจุบันเลี่ยงไปใช้คำว่า “สรรหา”) ในขณะเดียวกันสิ่งที่ขาดไม่ได้คือรัฐธรรมนูญของขุนศึกอำมาตย์จะต้องลดทอนความเป็นเอกภาพและความเข้มแข็งของฝ่ายการเมือง โดยนักการเมืองจำพวกที่สมยอมต่ออำนาจนอกระบบจะมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วอำนาจทางการเมืองก็จะจำกัดอยู่ในกลุ่มข้าราชการระดับสูงและนักการเมืองที่สมยอมต่อระบอบอำมาตยธิปไตย ซึ่งทำให้ประชาธิปไตยคืออำนาจอยู่ที่ประชาชนไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ เมื่ออำนาจมิได้อยู่ที่ประชาชน ก็ทำให้ การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม มิอาจเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน พรรคการเมืองตกอยู่ภายใต้อาณัติของขุนศึกอำมาตย์  มิได้อยู่ใต้อาณัติของประชาชน  นโยบายสาธารณะของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามความประสงค์ของกลุ่มอภิสิทธิ์ชน มิได้เป็นไปตามความมุ่งหมายของประชาชน รัฐบาลพลเรือนที่มาจากสิทธิเลือกตั้งของประชาชนไม่มีวันมีอำนาจควบคุมกลไกของรัฐ แต่กลไกของรัฐโดยเฉพาะในส่วนของกองทัพกลับมีอำนาจที่จะชี้เป็นชี้ตายรัฐบาล ระบอบอำมาตยาธิปไตยฝังรากลึกในสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับระบบศักดินา ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม  เครือข่ายของอำมาตยธิปไตยจึงมีอยู่อย่างกว้างขวางทุกวงการไม่เว้นแม้แต่แวดวงการศึกษา วงการสื่อสารมวลชน จึงเป็นเรื่องยากมากที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้รับชัยชนะในเร็ววัน เพราะคนไทยจำนวนมากยังขาดความตื่นตัวทางการเมือง ขาดความตระหนักในความสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่กระนั้น ศ.ดร. ลิขิต ธีรเวคิน ก็ได้ให้ความเห็นในบทความข้างต้นของท่านไว้ในตอนท้ายอย่างน่าสนใจว่า “การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 กระทำในลักษณะที่ฝืนต่อแนวโน้มโลก ขณะเดียวกันอำมาตยาธิปัตย์ก็เริ่มมีช่องห่างจากความเป็นจริงทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ อันได้แก่ยุคโลกาภิวัตน์ทำให้การปฏิบัติการ การวางตัว ไม่สอดคล้องกับสังคมยุคใหม่ และนี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่อำมาตยาธิปัตย์สูญเสียสมรรถนะในทางการเมืองและการบริหาร ในทางการเมืองเองก็ไม่สามารถจะพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลและเข้าใจข่าวสารข้อมูลอย่างถ่องแท้ จึงทำให้เกิดความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างกลุ่มคนที่เป็นกลุ่มประกอบการทาง ธุรกิจ และกลุ่มอาชีพที่มีความรู้แบบสมัยใหม่ กับกลุ่มคนที่เรียกว่ากลุ่มรากหญ้า ความแตกต่างและช่องว่างนี้นำไปสู่ความไม่ราบเรียบของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างสองกลุ่ม ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่มีจุดดีก็คือ จุดยืนที่ต่างกันนี้มิได้อยู่บนฐานของศาสนา เชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ แต่อยู่ที่จุดยืนทางการเมือง นโยบายการบริหารประเทศ ขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงความตื่นตัวในการเรียกร้องสิทธิอันเป็นผลมาจากการปลุกเร้าโดยผู้นำทางการเมืองทั้งสองฝ่าย และเครื่องไม้เครื่องมือของการสื่อสารสมัยใหม่” “อำมาตยาธิปไตยไม่สามารถดำรงอยู่ได้ถาวร แต่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยซึ่งเป็นส่วนของการเมืองนั้นไม่สามารถจะดำเนินการได้ถ้าไม่มีการบริหารประเทศจากข้าราชการประจำ ประเด็นสำคัญก็คือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้ระบบการบริหารประกอบด้วยบุคคลที่เป็นมืออาชีพ เป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันทางฝ่ายการเมืองก็ต้องไม่แทรกแซงทางฝ่ายข้าราชการประจำจนเกิดควา มปั่นป่วนขององค์กรและกระบวนการบริหาร ดังนั้น การพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยจึงต้องไปพร้อมๆ กับการกำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารซึ่งเป็นข้าราชการประจำ ขณะเดียวกันภาคเอกชนอันได้แก่สื่อมวลชนและประชาชนก็ต้องมีส่วนร่วมในลักษณะที ่เดินตามกติกาของระบบ มีใจนักกีฬา และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก มากกว่าผลประโยชน์ของกลุ่มหรือของพรรคการเมือง หรือของภูมิภาค เพราะประชาธิปไตยคือการปกครองเพื่อคนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีคือนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง หรือภาคใดภาคหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ชาติและสังคมต้องมาก่อน ผู้ใช้อำนาจรัฐคือนักการเมืองและข้าราชการต้องทำเพื่อชาติและสังคมเท่านั้น” หวังว่าเพื่อนสมาชิกที่ไม่รู้จัก “อำมาตยธิปไตย” คงเข้าใจระบอบนี้มากขึ้น และขอเชิญท่านมาร่วมกันสร้างสรรค์ให้ประเทศไทยได้ก้าวสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จากคุณ : จำปีเขียว - [ วันเนา (14) 19:44:09 A:125.25.21.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...... จากคุณ : ศรีอิสาน - [ วันเนา (14) 19:44:27 A:117.47.169.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความหายของอำมาตยาธิปไตย คือคนที่ไม่ได้มีอำนาจในการปกครองตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับมีบารมีที่จะกดดันคนที่มีอำนาจในการปกครองให้เป็นไปในทางที่ตนเองต้องการได้ครับ ถ้ายกตัวอย่างสมัยทักษิณ ก็คือเค้ามีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี เค้ามีอำนาจที่จะปกครองบ้านเมืองได้ แต่ถ้าอำมาตย์ตัวจริง จะยืนอยู่ข้างหลัง มีบารมีที่จะทำให้คนโน้นคนนี้ทำตามที่ต้องการ อย่างเช่นที่ได้เห็นผลเป็นรูปธรรมจากฤทธิที่มีอำนาจอำมาตย์เข้ามาแทรกแซง เช่น ความ 2 มาตรฐานในเมืองไทย อันได้แก่ ม๊อบพันธมิตร ที่ยึดสนามบิน แต่ไม่มีใครจับได้ แถมคนปิดสนามบินยังได้เป็นรัฐมนตรี คุณคิดว่า ถ้ากระบวนการเป็นไปด้วยความบริสุทธยุติธรรมจริง เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นมั้ยครับ? จากคุณ : Dot_Link - [ วันเนา (14) 19:44:55 A:124.120.203.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 แมว จากคุณ : เซง (I-Seng) - [ วันเนา (14) 19:45:34 A:124.121.165.224 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตลอดชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยคิดว่าคณะองคมนตรีทำความเสียหายอะไรให้กับรอบการปกครอง แทบไม่รู้สึกเลยว่าคณะองคมนตรีอาศัยตำแหน่ง ใช้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่น เหนือบุคคลทั่ว ๆ ไป แต่ขออนุญาตระบาย ในยุคสมัยการปกครองภายหลังปฏิรูปการเมือง เรารู้สึกมาตลอดว่า ครอบครัวนายกทักษิณใช้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นตลอด ลูกชายตั้งบริษัทมารับงานโครงการรัฐ เช่น งานโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ภรรยาประมูลที่ดินรัชดา น้องสาวใช้เครื่องบินทหาร รับแขกไปร่วมงานปาร์ตี้ ท่านนายกไปต่างจังหวัดต้องมีธง ทรงพระเจริญต้อนรับ อันนี้เฉพาะที่เห็นชัด ๆ เรารู้สึกขยะแขยงระบอบเจ้าขุนมูลนายของคนเหล่านี้มากซะยิ่งกว่า คำว่าอมาตย์ที่พวกเขากล่าวอ้างด้วยซ้ำ ขออภัยที่พูดเรื่องเก่า แต่เรายังไม่เคยหายข้องใจ เรารู้สึกอยากจะอาเจียนทุกครั้งที่เห็นพวกแกนนำเสื้อแดงมาโวยวายต่อว่าระบอบอมาตยาธิปไตย เพราะเราเคยเห็นแกนนำบางคน ว๊ากใส่ช่างทำผม ช่างกล้อง คำพูดและวิธีปฏิบัติ เลวร้าย ยังกับระบบทาส แบบนี้ต่างหากที่เป็นอมาตย์  เรารู้สึกว่า ถ้าเขาอยากจะต่อต้านอมาตย์จริงๆ น่าจะดีกว่านี้ แต่นี่เหมือนคนที่เป็นแกนนำบางคน แค่อยากได้อำนาจแบบอมาตย์มาครอบครองเองต่างหาก อย่างนี้คนไทยก็แค่เป็นเหยื่อ ถ้าเปลี่ยนขั้วอำนาจขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้ว่าระบอบเก่า กับระบอบใหม่ อย่างไหนจะกดขี่ข่มเหงประชาชนได้เลวร้ายกว่ากัน จากคุณ : magine - [ วันเนา (14) 19:47:13 A:125.27.12.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 พอ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ชอบเอาการล้มสถาบันมาเป็นเครื่องมือในการล้มล้างคนอื่นเสมอ จากคุณ : createTshirt - [ วันเนา (14) 19:49:57 A:124.120.241.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้นี้คุ้นๆเหมือนตอบไปแล้ว ข้างล่างนู้น.....ไปหาละกัน ขี้เกียจแระ จากคุณ : CSI SAIMAI - [ วันเนา (14) 19:52:00 A:124.121.123.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดูจากนิยามก่อน จะพบว่า จขกท เข้าใจผิดและตีความผิด อำมาตยาธิปไตย หรือ อมาตยาธิปไตย (Bureaucratic Polity) คือ ความเป็นใหญ่ของข้าราชการในสังคมการเมือง คือ ความเป็นใหญ่ในเชิงรูปแบบ ซึ่งหมายถึงการที่ข้าราชการไทยสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงแรงต่อต้านจากกลุ่มทางสังคมอื่นๆและอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหมายถึงการที่ข้าราชการไทยสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงแรงต่อต้านจากกลุ่มทางสังคมอื่นๆและอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ " การที่ข้าราชการประจำโดยเฉพาะในองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการดำเนิน นโยบาย เศรษฐกิจ ซึ่งอำนาจหรือความเป็นใหญ่ของข้าราชการไทย นำไปสู่การผูกขาดอำนาจในการกำหนดนโยบายสาธารณะ" ถ้าดูจากนิยามทักษิณไม่ได้เป็นอำมาตยาธิปไตย เพราะทักษิณเป็นนักการเมือง มีวาระการดำรงตำแหน่งชัดเจน ไม่ได้อยู่ในอำนาจยาวนานเหมือนข้าราชการประจำ และทำให้ทั้งสองฝ่ายมีอำนาจที่แตกต่างกัน เพราะฝ่ายหนึ่งได้รับ Mandate จากประชาชน แต่อีกฝ่ายไม่ อำมาตยาธิปไตยในปัจจุบันง่ายๆเห็นชัดๆก็คือทหารเพราะ ข้าราชการประจำ(ทหาร) ผูกขาดอำนาจ(และอาวุธ)ในการกำหนดนโยบายสาธารณะ(เปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศ) อำนาจในการล้มล้างผู้บริหารประเทศซึ่งควรเป็นของประชาชนส่วนใหญ่ และทำผ่านกระบวนการประชาธิปไตย อำนาจนี้ไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเลย ไม่มีแม้แต่มาตราเดียว แต่เป็นอำนาจที่ทหารมีอยู่จริง ประเทศไทยไม่เคยยอมรับระบบควบคุมทหารโดยพลเรือนที่ใช้กันอยู่ในนานาอารยประเทศ อำนาจอมาตยาธิปไตยที่สร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองในช่วงไม่กี่ปีมานี้มากที่สุดคือ คมช และผู้ที่สนับสนุน-ส่งเสริม คมช รวมทั้งผู้ที่ได้รับอานิสงค์ทางการเมืองจาก คมช ทั้งหมด จากคุณ : Nexus - [ วันเนา (14) 19:54:38 A:58.8.119.229 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเลยครับ ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจในบริบทของการปกครองระบอบประชาธิปไตยก่อนครับ... ประชาชนที่ทำการเลือกนักการเมืองมาทำหน้าที่แทน จะยอมรับในการกระทำของ นักการเมืองที่ตนเองเลือกมา ตราบใดที่การกระทำนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดแบบมหันต์จริงๆ ซึ่งแน่นอนประชาชนสมัยที่เลือก ทักษิณ มาก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของ ทักษิณ และผมก็ยังไม่เห็นความผิดพลาดแบบ มหันต์ ชนิดที่ต้องออกจากตำแหน่งทันทีของเขานะครับ ( ถ้าคุณมีก็วานช่วยยกตัวอย่างด้วย เพราะเขาก็โต้กันมาทุกเรื่องไม่ว่าจะ ปตท. , สงครามยาเสพย์ติด , กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ) ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีองค์กรอิสระเป็นผู้ตรวจสอบ และประชาชนรวมทั้งนักการเมืองต่างๆ ก็มีช่องทางในการยืดถอดถอนของตนเองอยู่ ส่วนอมาตยาธิปไตย การที่ข้าราชการ ( ผมยกให้เป็นทหารละกัน เข้ากับไทยๆมากสุด ) มามีอำนาจทางการเมืองนั้น ประชาชนไม่ได้เลือกนะครับ ทหารไม่ได้รับมอบสิทธิ์จากประชาชน ไม่ได้ถูกถอดถอนได้โดยประชาชน หนำซ้ำกระบวนการในการตรวจสอบคนเหล่านี้ยังเป็นไปได้อย่างยากยิ่งอีก เรียกได้ว่ามี power แต่ไม่สามารถจะ accountability ได้เลย พอจะเข้าใจคำว่า อำมาตย์ หรือยังครับ ? แล้วผมจะบอกให้ อะไรที่ร้ายแรงกว่าระบอบเผด็จการ อมาตยา คอมมิวนิสต์ ฯลฯ รู้มั้ยครับ ? คือการปกครองที่มีการ ซ่อนรูป มีเบื้องหลังคอยชักใยครับ ตามปกติ หลักในการปกครองทุกๆระบอบ จะขึ้นอยู่กับ หลักอำนาจ และความรับผิดชอบครับ ง่ายๆเลยครับ ประชาธิปไตยถ้าคุณบริหารงานแย่ ครบวาระครั้งหน้าคุณก็คงไม่ได้ยืนในตำแหน่งเดิมอีก เช่นเดียวกัน เผด็จการ ถ้าบริหารงานจนเศรษฐกิจประเทศทรุดหนัก แต่คุณไม่มีทางลงตามปกตินี่ครับ ดังนั้นถ้าประชาชนลุกฮือทั้งประเทศเมื่อไหร่ เราก็จะได้เห็นศพของผู้นำเผด็จการห้อยอยู่ตามจัตุรัสกลางเมือง ดังที่เห็นในหลายประเทศ แต่... การปกครองแบบซ่อนรูปนั้น มันผิดหลักอย่างร้ายแรงของการปกครองทุกรูปแบบตรงที่ว่า อำนาจอยู่ที่คนๆหนึ่ง แต่พอมาถึงความรับผิดชอบจะกลายเป็นถูกโบ้ยให้คนที่อยู่หน้าฉากไป ผมเรียกรูปแบบนี้ว่า การปกครองของพวกขี้ขลาด ครับ อยากใช้อำนาจ แต่ตนเองกลับไม่ยอมรับผลของการกระทำนั้นๆ จากคุณ : SaVor - [ วันเนา (14) 19:54:56 A:124.120.1.195 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามความเห็นที่10ครับ อ่านซะ ยังหลงในนายกอภิสทธิ์คุณก็จะไม่รู้จักอำมาตย์ คุณต้องลองคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา และพฤติกรรมของป๋า ว่าทำอย่างไร และเหมาะสมตามหน้าที่หรือไม่ จากคุณ : createTshirt - [ วันเนา (14) 19:56:45 A:124.120.241.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไม่เคยเห็นปชป จะสร้างสรรค์อะไรที่ผ่านมาหลายสิบปี มีแต่จะทำลายฝ่ายตรงข้ามของตน และการมาเป็นรัฐบาลของพรรคนี้ส่วนใหญ่หลังรัฐประหาร จากคุณ : createTshirt - [ วันเนา (14) 19:58:26 A:124.120.241.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้นี่ดี ถกกันด้วยเหตุผล เป็นกระทู้แรกที่เห็นในรอบหลายวัน จากคุณ : เอ๊กกี่ - [ วันเนา (14) 19:58:34 A:125.25.145.186 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเห็นว่า มันไม่ได้มีความหมายตามแนววิชาการอย่างที่ จขกท ยกมา แต่หมายถึง ระบบศักดินาใหม่ในสังคมซึ่งเกื้อกูลอุปถัมภ์กันทั้งผลประโยชน์ที่เป็นทรัพย์สิน เงินทอง รวมทั้งตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยอ้างอิงบารมีของสถาบันเบื้องสูง อำมาตย์ในบริบทนี้หมายรวมถึง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งทหาร พลเรือน และการเมือง รวมทั้งสายธุรกิจ และบุคคลชั้นสูงในสังคมที่เกื้อกูลกันเป็นเครือข่ายผลประโยชน์ในสังคมไทยด้วย เมื่อสังคมไทยเริ่มปรับเปลี่ยนเข้าสู่สังคมแบบประชาธิปไตย คนกลุ่มนี้ก็ยังคิดว่า เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะใช้อำนาจในการบริหาร ปกครองประเทศอย่างแท้จริง จึงควรเป็นสิทธิของ "คนชั้นสูงกว่า" ที่จะเป็นผู้นำ และผู้บริหารอำนาจดังกล่าว จึงเป็นที่มาของคำว่า "ประชาธิปไตยแบบไทย" (รู้สึก พล.อ.เปรมฯ จะเป็นผู้ริเริ่มใช้วลีนี้เป็นคนแรก?? ..ตามบทความของ มรว. คึกฤทธิ์ฯ) จึงเป็นที่มาของความคิดที่ว่า "คนกรุงเทพ หรือบรรดาคนที่มีการศึกษาสูงกว่า ควรมีสิทธิ มีเสียงในการบริหารบ้านเมืองมากกว่า เพราะมีคุณภาพสูงกว่า" จึงเป็นที่มาของ รธน. 50 ซึ่งให้อำนาจกลุ่มคนไม่กี่คนมีสิทธิแต่งตั้ง สว. ได้ในจำนวนพอๆ กันกับประชาชนอีกหลายสิบล้านคนทั่วประเทศ (และแน่นอน เป็นมูลฐานของการเมืองใหม่แบบ 70/30) จึงเป็นที่มาของเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ในตอนนี้... จากคุณ : compassion - [ วันเนา (14) 19:59:35 A:118.172.27.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขออนุญาต นำบทความนี้มาเผยแพร่นะครับ อาจจะให้คำตอบได้ดีกว่าการอธิบาย แล้วก็ไม่ต้องมากระแนะกระแหนนะครับว่าผมมันก็แค่พวก copy และก็ past พวกไม่มีสมอง ผมก็คนครับมีความคิด แต่กรรมวิธีความคิดและการถ่ายทอดออกมาอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่ควร --------------- สำนักข่าว AFP รายงานอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า บทบาทของกองทัพไทยในฐานะผู้นำการบังคับใช้กฎหมาย ในการสลายการชุมนุมของพวกเสื้อแดงที่ ประท้วงต่อต้านรัฐบาล ได้ตอกย้ำบทบาทของเหล่านายพลในกองทัพ ว่าเป็นผู้กุมอำนาจ หรือ ผู้บงการตัวจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซียและพม่า พบว่าบรรดาผู้ปกครองพลเรือนหลายคน ต่างเรียนรู้บทเรียนที่ว่า การสวามิภักดิ์ต่อกองทัพสามารถบอกอนาคตของพวกเขาได้ว่า จะอยู่รอดหรือล่มสลาย นักวิเคราะห์หลายคน ให้ความเห็นว่า สถาบันพลเรือนที่อ่อนแอ และสภานภาพของทหารในฐานะกองกำลังที่มีประสิทธิภาพและมีวินัยที่สุดในประเทศ มักจะก่อให้เกิดสภาพการณ์ที่ทำให้กองทัพต้องเข้าแทรกแซงอยู่เสมอ พวกผู้นำทางการเมืองมักพยายามจะเข้าหาทหารเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองไว้ เร็กซ์ โรเบิลส์ ที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองในกรุงมะนิลาให้ความเห็นว่า ในแนวทางการเมืองที่ปฏิบัติกันอยู่นั้น ถ้าคุณอยู่ในอำนาจ คุณจะต้องมีกองทัพอยู่ข้างกาย เพื่อใช้เป็นอาวุธเล่นงานศัตรู ไม่ใช่ตัวเอง โรเบิลส์ ซึ่งเป็นทหารที่มีแนวคิดปฏิรูป ที่เป็นผู้นำการต่อต้านอำนาจของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส ผู้นำเผด็จการ เมื่อปี 2529 กล่าวว่า การคอรัปชั่นและรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับ มักจะทำให้ทหารต้องเข้าไปจัดการ ซึ่งเหตุการณ์เมื่อปี 2529 ได้แสดงให้เห็นพลังประชาชน ที่ลุกฮือขึ้น และนำมาซึ่งการสิ้นสุด 20 ปี ของการปกครองของจอมเผด็จการมาร์กอส จอห์น แฮร์ริมัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ของมหาวิทยาลัย นานยาง เทคโนโลจิคัล ในสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า คนจะมองหาทหารในยามวิกฤติ เนื่องจากเป็นองค์กรที่ทรงประสิทธิภาพ มีวินัยและมีอาวุธ เมื่อทหารมองว่าผู้นำพลเรือนคอรัปชั่น ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ก็จะรู้สึกทันทีว่าถึงเวลาที่จะแทรกแซงเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย   ประวัติศาสตร์สมัยใหม่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้สอดคล้องกับบทวิเคราะห์นี้ ประเทศไทยเผชิญการรัฐประหาร 18 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2475 และนับแต่นั้น กองทัพก็ไม่ยอมกลับไปอยู่ฉากหลังอีกเลย จากบทบาททางการเมืองล่าสุด กองทัพได้โค่นอำนาจพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2549 และยังทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป จนกระทั่งการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ขณะนี้กองทัพ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ ภายใต้การประกาศพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประสบความสำเร็จในการสลายการชุมนุมของพวกเสื้อแดง จากที่มั่นสุดท้ายบริเวณทำเนียบรัฐบาล ที่ฟิลิปปินส์ แม้จะทหารจะบอกว่า จะกลับไปในที่ของตัวเอง แต่ยังมีความพยายามที่จะก่อรัฐประหารต่อต้านอดีตประธานาธิบดีคอราซอน อาควิโน่ ผู้สืบทอดตำแหน่งหลังจากมาร์กอสตกจากอำนาจ ซึ่งโชคดีที่รอดมาได้ เพราะความภักดีของเหล่าผู้บัญชาการทหารคนสำคัญ ที่ถูกพิจารณาว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในยุคนั้น รวมทั้ง ฟิเดล รามอส อดีตนายพลผู้เคยผ่านการฝึกมาจากสถาบันเวสต์ พอยต์ และที่เคียงข้างอาควิโน่ และต่อมาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีตามครรลองของประชาธิปไตย อดีตประธานาธิบดีโจเซฟ เอสทราด้า ที่ต้องร่วงจากอำนาจกลางทาง ในระหว่างวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี เมื่อปี 2544 หลังจากกองทัพถอนการสนับสนุน เพราะข้อกล่าวหาคอรัปชั่นและไร้ความสามารถ กองทัพยังคงเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามทางการเมืองในอินโดนีเซีย อดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต ผู้เคยเป็นนายพลเก่า ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจ ในปี 2508 หลังก่อรัฐประหารโค่นอำนาจอดีตผู้นำชาตินิยม ซูการ์โน่ และปกครองด้วยระบอบกำปั้นเหล็ก จนกระทั่งถูกสถานการณ์บังคับเพราะวิกฤติเศรษฐกิจ ให้ต้องอำลาตำแหน่งไปในปี 2541 ส่วนผู้คนปัจจุบัน คือ ประธานาธิบดีซูซิโล่ บัมบัง ยูโดโยโน่ ก็เป็นอดีตนายพล ผู้ได้รับเลือกตั้งมาตามครรลองประชาธิปไตย พม่าเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของทหาร มาตั้งแต่ปี 2505 รัฐบาลทหารปัจจุบันก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2531 หลังใช้กำลังเข้าบดขยี้ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย มีการจัดการเลือกตั้งจัดขึ้นในปี 2533 แต่รัฐบาลทหารก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย และนางซูจีต้องใช้เวลา 13 ปี จากทั้งหมด 19 ปีที่ผ่านมา ถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้านพัก นักวิเคราะห์ ระบุว่า จะเป็นการยากที่จะเก็บกองทัพเอาไว้แต่ภายในบังเกอร์ เนื่องจากพวกเขาได้ลิ้มลองความหอมหวานของอำนาจไปแล้ว ซึ่งหมายถึงเจ้านายทหารที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงในรัฐบาล พลเรือน เพื่อตอบแทนความภักดีของพวกเขา จากคุณ : ระดมยิง - [ วันเนา (14) 20:01:53 A:192.168.182.3 X:125.24.202.108 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กระทู้นี้ไม่ใครเข้ามาเกรียนแฮะ คงจะอย่างที่คุณตุ๊กตาดินความคิดเห็นที่ 2 ว่านั่นแหล่ะ จากคุณ : Gaby_colla - [ วันเนา (14) 20:01:58 A:91.153.153.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 มันอ้าง...เพื่อการกลับมาของI้แม้ว ระบอบใดก็ได้...แต่ไม่เอาระบอบทักษิณที่มันโกงกินยิ่งกว่าระบอบใดๆทั้งสิ้น จากคุณ : สะพานหิน - [ วันเนา (14) 20:03:29 A:203.156.36.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 3เสาหลักค้ำประชาธิปไตย 1.กระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับคำตัดสิน อ้างว่าโดนแกล้ง 2.กระบวนการนิติบัญญัติ แพ้เสียงโหวตในสภา แล้วออกมาเล่นกันนอกสภา 3.กระบวนการบริหาร รัฐบาลเพิ่งเข้ามา ยังไม่ได้ทำอะไร ก็โดนด่า โดนไล่ 3สถาบัน จะถ่วงดุลอำนาจกันเอง นายก ยุบสภาได้ สภาไม่ไว้วางใจนายกได้ ศาลพิจารณาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมถึงตัดสินคดีความตามหลักฐานพยานที่มี เมื่อคนไม่เคารพ 3 สถาบันดังกล่าว ก็หาทางยุยงปลุกปั้นคนมาทำร้ายสังคม เหมือนเหตุการณ์ทีผ่านมา จากคุณ : narit.c - [ วันเนา (14) 20:06:22 A:58.8.136.44 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 อมาตยาธิปไตย หรือ อำมาตยาธิปไตย (bureaucratic polity) เป็นการปกครองโดยข้าราชการ ซึ่งได้มีโอกาสเข้ามาปกครองเพราะอำนาจของตำแหน่งในรัฐบาล ใช้หมายถึงรัฐบาลที่ไม่ขึ้นอยู่หรือให้ความสำคัญกับเสียงประชาชน คำภาษาอังกฤษว่า bureaucratic polity บัญญัติโดย Fred W. Riggs อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฮาวาย ในหนังสือที่พิมพ์เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2509[1] เป็นคำใหม่ที่ใช้แก่ประเทศไทยโดยเฉพาะ[2] แต่ภายหลังคำนี้มีใช้แก่ประเทศอื่นด้วย แล้วมีการบัญญัติคำภาษาไทย "อมาตยาธิปไตย" ตามภาษาอังกฤษ นักวิชาการ เช่น นักประวัติศาสตร์ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เคยเรียกรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นอมาตยาธิปไตย หรือรัฐบาลอำนาจนิยม (authoritarianism) อย่างไรก็ตาม นักวิชาการและกลุ่มต่าง ๆ เคยยกคำนี้มาใช้แก่รัฐบาลไทยสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยจอมพล ป. เป็นต้นมาหลายชุด ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2 จากคุณ : N o t S e l f - [ วันเนา (14) 20:06:47 A:124.120.30.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 #14 หลายเรื่องเขา ตอบไปแล้วนะครับ พจมานประมูล ที่ดินรัชดาครับ ไม่ได้ซื้อ ศาลตัดสินไปแล้ว ว่าการประมูล และทำสัญญาซื้อขาย เป็นไปตามปกติ ผิดที่ นายก มีอำนาจ เหนือ กองทุนฟื้นฟู ( ท่านว่าอย่างนั้น แม้กองทุน ไม่เป็นองค์กรของรัฐ ) ส่วนเครื่องบิน C130 เขาบิน เส้นกรุงเทพ เชียงใหม่ เชียงใหม่ กรุงเทพ เป็นประจำ อยู่แล้วครับ เพราะนักบิน ต้องเก็บชั่วโมงบิน เพื่อฝึกซ้อม + ต้องขนส่งยุทโธปกรณ์ เป็นประจำ สามารภไปขอ ขึ้นฟรีได้ครับ แต่เขาให้เซ็นใบ ไม่ฟ้องร้อง ก่อนขี้นบินครับ เพราะถือว่าขึ้นเครื่องฝึกบิน --------------------------------------------- ระบบอำมาตยาธิไปไตย คือผู้ที่ไม่มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ แต่ใช้อำนาจบารมี กดดันการบริหารของรัฐบาล ตลอดจน มีข้อครหาว่า มีส่วนในการรัฐประหาร รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ยกตัวอย่าง เป็นเรื่องที่นักข่าวรู้กันมาเป็น 10 ปีแล้วว่า โผทหาร ถ้าป๋า ไม่เห็นด้วย จะโดนดองไว้ เพราะป๋าต้องเป็นฝ่ายจัด ให้ลูกๆ ป๋าได้ขึ้นมาคุมกำลัง แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 52 20:10:00 จากคุณ : คนชอบเขียน - [ วันเนา (14) 20:06:49 A:118.172.37.251 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห.10  พอจะเข้าใจรางๆ ในความหมายนี้ แต่ช่วยแยก ระหว่าง เผด็จการทหาร กับ อำมาตยาธิปไตย ให้ชัดได้ไหมคับ จากคุณ : daryl_jr - [ วันเนา (14) 20:10:14 A:203.155.230.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 อมาตยาธิปไตย ก็อธิบายยากพอๆกับระบอบทักษิณนั่นแหละ ลองเอาไอ้ที่ไปต่อว่าเขานะมาเปลี่ยนหน้าดูแล้วคิดใหม่ จะคิดยังไง อย่ายึดติดตัวบุคคลเลย คราวนี้มาคิดว่า ระบบบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยไทย นั้นเลือกนายกจากผู้แทนประชาชน และทำงานสนองพระประมุข ถ้ามีผู้ใดแทรกแฃงตรงนี้โดยเป็นเช่นโจโฉ ก็เรียกว่าอำมาตย์ในภาษาไทย แล้วถ้ามาว่า นายกอยู่บ้านตัวเองไม่ได้อาศัยบ้านหลวงอยู่ หมายถึงไม่ได้เอาของหลวงมาใฃ้เป็นทรัพย์ส่วนตัว ปํญหาภาคใต้ผู้ใหย่ในบ้านเมืองร่วมมือร่วมใจแค่ใหน เห็นอำมาตย์ไปอยู่แต่โคราชทั้งที่เป็นคนใต้ ฯลฯ ทั้งนี้ยุคประธานเก่าก็ไม่มีเรื่องทั้งนี้อยู่ที่การวางตัวด้วย จากคุณ : โจดงยาง17 - [ วันเนา (14) 20:10:38 A:61.7.166.216 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเสื้อแดง แต่ไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ อมาตยาธิปไตย หรือครับ ที่มามันก็มาจากการที่ อำนาจเก่าไม่ต้องการให้ระบบอำนาจฝ่ายบริหาร ที่มาจากการเลือกตั้งมีอำนาจล้นล่าม หลังปฎิวัติ ภาระกิจสำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 40 ให้กลับไปใช้คล้ายรูปแบบเก่าก่อนปี 40 เป็นที่มาของรัฐธรรมนูญปี 50 สรุป เจตนารัฐธรรมนูญปี 50 กับ 40 ที่ต่างกันคือ มีความมุ่งหมายให้อำนาจริหารอ่อนแอลง อำนาจนิติบัญญัติเข้ามาด้วยวิธีการแต่งตั้งและเลือกตั้ง (ซึ่งการเข้ามาในลักษณะนี้ไม่สามารถสร้างความกระจ่างโปร่งใสได้ ว่าไม่ถูกครอบงำ) อำนาจองค์กรอิสระไม่อิสระจึงถูกแต่งตั้งจากศาล ถ้าจะมองภาพรวมประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดทั้ง 3 ต้องแยกจากกันโดยเด็ดขาด จากถูกอำนาจอีกฝ่ายหรืออำนาจอื่นๆครอบงำไม่ได้ การที่เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญปี 50 ทำให้ระบบอำมาตย์สามารถเข้าครอบงำ อำนาจทั้ง 3 ได้ ที่ถูกตั้งคำถามหนักๆและจุกกันทุกครั้ง นั้นก็คือ เรื่อง double standard ที่แม้แต่เสื้อเหลืองไม่ว่ากี่กระทู้ก็ตอบไม่เคลียร์กัน ไม่ตรงประเด็นชอบอ้างความจำเป็นที่ต้องใช้ 2 มาตราฐานกันการกลับมาของระบบทักษิณ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 52 20:16:54 จากคุณ : wkiet - [ วันเนา (14) 20:15:25 A:202.176.126.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 beurocracy มันคือระบบราชการ เสร่อจริงๆ สรุปคือจะล้มระบบราชการว่างั้น? แล้วจะบริหารราชการยังไงครับ? จากคุณ : Vengeance - [ วันเนา (14) 20:16:39 A:124.120.199.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 หากมองกันแบบไม่ลำเอียง ถามจริงคุณมองไม่เห็นอำนาจที่ชัดใยอยู่เบื้องหลัง การปกครองของไทยกันจริงๆหรือ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ แน่นอนว่ารักใครชอบใครเราก็มองเห็นแต่ด้านดีของคนนั้นๆฝ่ายนั้น แต่ถามคำถามง่ายๆคือพรรคการเมืองกอ่นหน้านี้ถูกตัดสินว่าโกงเลือกตั้งเกือบทุกพรรคถูกยุบหมด เว้นพรรค ปชป.พรรคเดียวที่ไม่โกงเลือกตั้ง  ถามใจคุณดูจริงๆจังๆดูซิว่ามันเชื่อได้แค่ไหน แล้วคุณมองดูซิว่าจริงๆแล้วทหารรับบัญชาจากใคร ใช่นายกสมชายในสมัยที่เป้นหรือป่าว เอาแบบไม่หลอกตัวเองนะ แล้วใครกันที่สามารถสั่งทหารให้ซ้ายขวาได้ดังใจ ถ้าไม่ใช่ป๋าเปรม แล้วทำไมคำสั่งของคนที่เป้นนายกถึงสำคัญน้อยกว่าป๋าไปได้ ป๋ามีตำแหน่งอะไรทางการเมืองหรือการปกครองไหม นี่แหละอำมาตย์ จากคุณ : Lost Fish - [ วันเนา (14) 20:18:21 A:124.122.142.131 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไส้เหลืองสองเฟื้องสองไพ อยากลองดี ----- เจอ เสื้อแดงเข้ามา ชุบเยื่อสมองให้ อย่าหนีละกัน ----- ทนแสบหน่อย จะฉลาดขึ้นนะตัวเอง จากคุณ : แฝงฝันวันคืนเสรี - [ วันเนา (14) 20:18:46 A:124.120.13.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห้นข้อมูลของเพื่อนสมาชิกอธิบายได้ดีขอยืมมาหน่อยนะครับ น่าจะโบงให้เห็นภาพอำมาตย์ได้ชัดขึ้น "บทวิเคราะห์ของเอเอฟพี ยังระบุว่า บทบาทของกองทัพไทย ที่เข้ามาเป็นผู้นำการกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดง ในครั้งนี้ เน้นย้ำให้เห็นถึงบทบาทของเหล่านายทหารในกองทัพ ในฐานะ “ผู้มีอิทธิพลในการเลือกผู้นำหรือรัฐบาล” หรือ “เผด็จการ” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศอย่างไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย พม่า รัฐบาลพลเรือนได้เรียนรู้บทเรียนที่ขมขื่นว่า การสวามิภักดิ์ของกองทัพ หมายถึง ความแตกต่างระหว่างการอยู่รอด หรือการล่มสลายของรัฐบาล สถาบันพลเรือนที่อ่อนแอ และสถานภาพของกองทัพที่เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง และมีระเบียบวินัยที่สุดในประเทศ บ่อยครั้งก่อให้เกิดเงื่อนไขที่สุกงอม ที่ทำให้ทหารเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง เอเอฟพีระบุด้วยว่า หลังประสบความสำเร็จ ในการกวาดล้างกลุ่มคนเสื้อแดง สถานภาพของนายกฯ อภิสิทธิ์ แข็งแกร่งขึ้น แต่นับจากนี้ไป เขามีภารกิจอันยากลำบาก ในการทำให้ประเทศชาติที่แตกแยกมีเอกภาพ " จากคุณ : มิตรภาพอาบยาพิษ จากคุณ : Lost Fish - [ วันเนา (14) 20:24:30 A:124.122.142.131 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห 32 มันถึงเป็นที่มาของระบบอำมาตย์ไงครับ แต่ที่แปลกมากในแผ่นดินนี้คือ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาครอบงำอำนาจทั้ง 3 อยุ่ แต่หลายคน ร่วมทั้งวิชาการก็เอาด้วยตรงนี้ ถึงวันนี้ ผมคิดว่า อุดมการณ์ที่หวังว่า จะได้เห็นการเปลี่ยนตรงนี้คงอีกนาน เพราะสังคมไทยยึดตัวบุคคลมากกว่าระบบ จากคุณ : wkiet - [ วันเนา (14) 20:24:33 A:202.176.126.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็นที่ ๓๖ ครับ เขาไม่ได้ยึด ตัวบุคคล หรอก เขายึดหลักผลประโยชน์ ของตัวเองกับวงศ์ตระกูล ครับ ตราบที่อำมาตย์ ยังให้เขาได้ เขาก็สยบให้อำมาตย์...เท่านั้นเอง จากคุณ : แฝงฝันวันคืนเสรี - [ วันเนา (14) 20:27:29 A:124.120.13.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 32 beurocracy มันคือระบบราชการ เสร่อจริงๆ สรุปคือจะล้มระบบราชการว่างั้น? แล้วจะบริหารราชการยังไงครับ? อ่านยังไงกันเนี่ย เขาพูดถึง Beurocratic Polity หรือพูดง่ายๆว่าระบบ ข้าราชการใหญ่กว่านักการเมือง   ซึ่งในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตน(แท้ๆที่ไม่ใช่ไทยๆ) มันไม่ควรเป็น เพราะนักการเมืองได้ Mandate (อำนาจ) จากประชาชน แต่ข้าราชการไม่ ระบบราชการก็อยู่ของมันไปทำงานไปตาม Job Description แต่คุณต้องเคารพ Mandate จากประชาชน ที่ Exercise โดยนักการเมือง หรือพูดง่ายๆ พนักงาน(ข้าราชการ)ก็มีหน้าที่ทำงานไปตามความต้องการของกรรมการบริหาร(นักการเมือง) ที่ผู้ถือหุ้น (ประชา่ชน) เลือกมา จากคุณ : Nexus - [ วันเนา (14) 20:28:43 A:58.8.119.229 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 #10 "หมายถึง การที่ข้าราชการประจำโดยเฉพาะในองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการดำเนิน นโยบาย เศรษฐกิจ ซึ่งอำนาจหรือความเป็นใหญ่ของข้าราชการไทย นำไปสู่การผูกขาดอำนาจในการกำหนดนโยบายสาธารณะ" ตัวอย่างที่ชัดๆ นี่คือ สมัย รสช.ที่ให้สัมปทานโทรคมนาคม บ.ทักษิณรึเปล่าครับ ทักษิณก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบอำมาตย์และระบบอุปถัมภ์ #14 จำได้ว่าระบบอำมาตย์นี่ 4-5 ปี ก่อน ตอนลูกสาวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปีนั้นข้อสอบรั่วด้วย จากคุณ : Watashi mo - [ วันเนา (14) 20:29:24 A:58.9.150.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทักษิณนิแระ ร่ำรวยมาด้วย รัฐประหาร รู้ไว้สะด้วย ตอนนี้เป็นแค่ข้ออ้าง คำโก้หรูที่มาหลอกประชาชนให้ออกมาประท้วง ปล. ไม่ใช่เสื้อเหลือง ไม่ได้รับเงินมาด่าเสื้อแดง รูปยืมเค้ามาใช้มันได้ใจดี จากคุณ : witchweed - [ วันเนา (14) 20:30:28 A:117.47.21.69 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 อืม เข้าใจได้ทั้งหมด แต่ประเด็นคือ จะล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย ต้องไม่ใช้แกนนำที่มีลักษณะนิสัยเหมือนที่คุณต้องการจะล้ม อดีตนายกก็ทำไม่ได้ต่างไปจากคนที่คุณจะล้ม คือใช้อำนาจมากเกินไป ทำเพื่อตัวเอง มากเกินไป เพราะ....... ประชาธิปไตยคือการปกครองเพื่อคนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีคือนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง หรือภาคใดภาคหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ชาติและสังคมต้องมาก่อน ผู้ใช้อำนาจรัฐคือนักการเมืองและข้าราชการต้องทำเพื่อชาติและสังคมเท่านั้น” ต้องใช้คนดีจริงๆ มาล้มระบอบนี้ และมันคงไม่ได้ใช้เวลาสามปี ห้าปี แต่อาจจะต้องทั้งช่วงอายุของคนดีคนนั้น จากคุณ : SimpliFLY_Tenth - [ วันเนา (14) 20:31:37 A:202.90.118.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ จำปีเขียว  #10 อ่านแล้วเป็นเรื่องอดีตเมื่อ 20 ปี ขึ้นไปทั้งนั้น ถ้านำเอาประเด็นนี้มาต่อสู้เมื่อสมัย 14 ตุลาคม 16 หรือ 6 ตุลาคม 19 มันก็ฟังขึ้น แต่ว่า คุณเหมือนเป็นพวกหนอนตำราที่สักแต่ว่าอ่านโดยไม่ตีความว่าสถานการณ์ ตอนนี้ปี 2552 นั้นมันเหมือนปี 2516 หรือไม่ .. ... .. รัฐบาลอภิสิทธิมันเป็นรัฐบาลอมาตยาธิปไตยตรงไหน นายกอภิสิทธิ ก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขึ้นเป็นนายกก็มาจากการ เลือกตั้งจากเสียงส่วนใหญ๋ของ สส ในสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี เกือบทั้งหมด ก็เป็น สส ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยกเว้น ปชป. ที่มีคนนอกเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง และทหารเกษียณราชการคน หนึ่ง นโยบายทั้งหลายที่นำมาใช้เพื่อบริหารประเทศนั้น ก็เป็นนโยบายที่พรรค การเมืองทั้งหลายใช้ในการหาเสียงเพื่อเลือกตั้งทั้งนั้น และมีการแถลงนโยบาย ให้สมาชิกรัฐสภาได้ตรวจสอบ ท้วงติง แก้ไข ก็ไม่เห็นมี สส. คนไหนบอกว่า เป็นนโยบายที่ฝ่ายราชการเป็นผู้คิดและกำหนดให้ ส่วนข้าราชการทั้งหลาย ก็เป็นเพียงมือไม้ของรัฐบาลในการผลักดันนโยบาย ให้สำเร็จลุล่วงเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนเท่านั้นเอง เรื่องอำมาตยาธิปไตย เป็นคำพุดเท่ ๆ เพื่อใช้หลอกคนที่ไม่ตีความหมาย ของมันว่า จริง ๆ แล้วสภาพมันเป็นอย่างไร แต่จำมาแบบนกแก้วนกขุนทอง จากคุณ : phukhao - [ วันเนา (14) 20:33:34 A:222.123.203.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 คห. 7 ครับ รูปที่นำมาลงนี่ของจริงเหรอครับ? ตัดต่อหน้าใครมารึเปล่า? ต้องการจะสื่อถึงอะไรครับ? จากคุณ : จูจ๊บ (valkerie) - [ วันเนา (14) 20:36:30 A:58.64.107.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วทำไมตอนคุณสมัคร กับคุณสมชาย ไม่เห็นใครออกมาประท้วงต่อต้านอำมาตย์กันสักคน สองมาตรฐานหรือไม่โปรดพิจารณา จากคุณ : ตุ๊กแก้ม - [ วันเนา (14) 20:37:54 A:116.58.231.242 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 อำมาตยธิปไตย ไม่เท่ากับ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย อยู่บนพื้นฐานเรื่องเดียว คุณและผมเป็นมนุษย์เหมือนกัน ตาสี เสื้อแดง ก็มีสิทธิออกความเห็นเท่าๆกับองคมนตรี เพราะเราต่างเป็นมนุษย์เหมือนกัน เราย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน นั่นคือพื้นฐานของประชาธิปไตย บรรทัดฐานนี้เกิดขึ้นจริงในสังคม แน่นอน ฟันธง? ชัวร์ป่าว 2 มาตรฐานเกิดขึ้น แกนนำเสื้อแดงไม่ใช่คนโง่ 2-3 วันนี้คือการปิดสนามบินของกลุ่มคนเสื้อแดง โทษฐานเท่ากัน กบฏและก่อการร้าย ประหารนะ กล้าพอปล่าวหล่ะกลุ่มตุลาการหน่ะ เอาให้หมดทั้งเหลืองทั้งแดง จะได้หลอกเด็กต่อไปว่ายังมี Rule of law กลุ่มเสื้อแดงก็รู้ ไม่เกิดขึ้นหรอกโทษประหารสำหรับเขาหน่ะ Win-win อำมาตยยาธิปไตยทำให้เกิดอะไร ไม่เห็นจะมีผลอะไรเลย ว่ามะ ต่อๆ จากคุณ : Jazzy (Jazzy the kid) - [ วันเนา (14) 20:38:58 A:124.121.140.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทักษิณอาจจะ Abuse of Power, Arrogant ฯลฯ (ผมด่าทักษิณมาหมดแล้ว ติดอันดับคนเกลียดทักษิณด้วย) แต่ทักษิณมี Accountability ทีุ่คุณด่าเขาได้ ตรวจสอบเขาได้ เดินขบวนประท้วงได้ ขับไล่ได้ หมดสมัยแล้ว จะไม่เลือกเข้ามาใหม่ก็ได้ แต่อำมาตย์นั้น ตรวจสอบไม่ได้ หรือตรวจสอบได้ยาก ดังนั้นถ้าต้องเลือกทักษิณกับ อำมาตย์ ผมเลือกทักษิณ เพราอย่างน้อยผมไล่ได้ ด่าได้ อย่าบอกว่าไม่เอาทั้งคู่เพราะมันยังไม่มีทางเลือกทางอื่นในตอนนี้ เอาไว้คุณหาพระที่บวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรมาเป็นนายกได้ก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องทางเลือกที่สามกัน การที่เรารับรู้ว่าคนใดคนหนึ่งเป็นคนดี ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีแต่ความดี แต่เป็นไปได้ว่าความไม่ดีของเขานั้นเราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ต่างหาก จากคุณ : Nexus - [ วันเนา (14) 20:47:03 A:58.8.119.229 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 คห 42 ดูความแตกต่าง ของรัฐธรรมนูญปี 40 กับ ปี 50 ซิครับ ทำไมพวกเสื้อแดงต้องให้กลับมาใช้ ปี 40 ด้วย ถ้าเป็นแบบที่คุณว่าจริง ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมก็ต้องตอบแบบแทงใจดำว่า เพราะอภิสิทธิ์อยู่ภายใจ้ร่มเงาของอำมาตย์ไงครับ คำว่า 2 มาตราฐาน มันเป็นเรื่องจริง ที่คนเสื้อเหลืองจุกอยู่ตลอด ได้แต่เถียงแถไปข้างว่าป้องกันระบบทักษิณ จากคุณ : wkiet - [ วันเนา (14) 20:50:37 A:202.176.126.77 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 http://www.youtube.com/watch?v=R0ocW4c_Rqo ลองเถียงมาได้เลยครับ ว่าไม่ใช่ 2 มตราฐาน จากคุณ : wkiet - [ วันเนา (14) 20:56:09 A:202.176.126.77 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ระบบมันไม่ได้ทำให้ข้าราชการเป็นใหญ่หรอก ที่คนเป็นใหญ่เพราะมีบารมีมากกว่า มีบารมีคนก็ยกย่องทำตาม ข้าราชการถ้าไม่มีบารมีก็ไม่มีทางที่จะชี้นำประเทศได้หรอก เพราะตามกฎตามระเบียบข้าราชการก็มีอำนาจจำกัดตามที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว อย่างเปรมนี่ก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรที่สามารถสั่งการได้ทางกฎหมายได้ ทักษินก็เหมือนกันแม้จะไม่ได้เป็นนายกแล้ว แต่ทั้งสองคน มีบารมีต่างหากเลยสั่งให้คนทำนั้นทำนี่ได้ มันไม่ได้จำเป็นเลยว่าเค้าคนนั้นเป็นข้าราชการไหม อดีตนายกคนอื่นทำแบบนี้ได้ไหมล่ะ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 52 21:17:00 จากคุณ : DevilDoll - [ วันเนา (14) 21:13:11 A:124.121.109.45 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 อำมาตย์ อำมาตย์ตอนไหน ไม่เห็นมีเลย ทักษิณไม่เคยเห็นพูดอะไรเลย ตอนเป็นรัฐบาล อำมาตย์ตรงไหน อำมาตยาธิปไตย ระบบนี้อยู่ในเงาครับ Kagemusha จอมคนขุนพลเงา ฟังดูดีนะแต่ มันมีวิวัฒนาการด้วยหล่ะเออ เหมือนสิ่งมีชีวิต มาๆผมจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งในฟัง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานมากๆจนไม่มีใครจำได้ ยังมีชายผู้หนึ่งเป็นมหาบุรุษของแผ่นดิน ว่ากันกษัตริย์ท่านนี้ย่อมเป็นมหาปราชญ์ พหสูตรผู้รอบรู้ ประชาชนในประเทศเคารพพระองค์ท่านมากเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านทรงทศพิศราชธรรม แต่ท่านแค่เป็นตัวของตัวเองเท่านั้นหล่ะ เบื้องหลังท่านมีผู้คนอยู้กลุ่มหนึ่ง หาใช่ชี้นำท่านไม่หากอาศัยพระราชอำนาจ ความรักต่อกษัตริย์ผู้ปรีชาของเราเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ แล้วอะไรคือผลประโยชน์ของการมีรัฐชาติเป็นของตัวเอง สัมปทาน ทรัพยากรธรรมชาติ รวยเร็วสุด แถมยังไม่มีคู่แข่ง แล้วเขาไปอยู่เบื้องหลังได้ยังไงหล่ะ ปฏิวัติ ร่างรัฐธรรมนูญ 2490 มหารัฐมนตรี ซึ่งต่อมากลายเป็น องคมนตร ตำแหน่งที่จู่ๆก็ลอยมาทับเหนืออำนาจ บริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของคุณเปรมเขาหล่ะ อำนาจแบบนี้ง่ายดี ไม่มีตรวจสอบ ไม่มีตัวตน ไม่มีใบเสร็จ แต่อำนาจล้นเหลือ ตอนแรกกลุ่มทหารเขาก็จะคานอำนาจแหละนะ ไปๆมาๆ คราวนี้เลยเข้าพวกไปด้วยซะเลย ปินและอำนาจ ส่วนผสมนี้น่ากลัวชะมัด แล้วมันก็มีบทบาทในเมืองไทยยิ้มแฉ่ง เกือบทุก 10 ปี ต่อๆ จากคุณ : Jazzy (Jazzy the kid) - [ วันเนา (14) 21:15:10 A:124.121.140.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 magine <-- เเล้วพฤติกรรมของคนๆนี้ล่ะ จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:23:42 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 กราบงามๆ 1ที สนองพระคุณ จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:24:36 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 rep 42 ขอบอกแค่ข้อเดียวครับ... ทำไมถึงต้องให้คุณอนุพงษ์ช่วยจัดรัฐบาลให้ที่ ราบ 11 ??? ถ้าคุณมีสำนึกถึงประชาธิปไตย เท่านี้รัฐบาล อภิสิทธิ์ ก็ถือได้ว่า ไม่ชอบธรรม แล้วครับ... จากคุณ : SaVor - [ วันเนา (14) 21:25:05 A:124.120.5.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 อำนาจจะต้องคานด้วยอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ 3 เหล่าคานกันเอง ประชาชนตรวจสอบ และเลือกเจ้า 3 ตัวนี้ได้ แล้วอำนาจที่ชื่อองคมนตรีนี้หล่ะ ประชาชนเลือกหรอ แถมยังไปอยู่หลังกษัตริย์นักปราชญ์ของเราอีกอาศัยความจงรักภักดีของเราเป็นเครื่องมือ หากจะมีใครหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผมว่าคนพวกนี้นะ มุขนี้เล่นซ้ำได้ทำลายประชาธิปไตย จากปรีดี -- คอมมิวนิสต์ -- นักศึกษา -- ชาติชาย -- ทักษิณ ล้วนเคยเป็นเหยื่อมาหมด อ้างความจงรักภักดี อ้างสถาบัน หั่นคอฝั่งตรงข้ามที่ไม่สมประโยชน์ด้วย ถ้าทักษิณเจรจากับเขา(องคมนตรี)ดีๆ พันธมิตรจะหายวับไปในสายลม อ้อ ถ้าไม่ขายหุ้นด้วยอันนั้นเขาเรียกว่าไม่มีมารยาท แต่ทักษิณในตอนนั้นคงลำพองเรื่องประชาธิปไตยของเขามากเกินไป ลืมดูประวัติศาสตร์ไปนิด ซ้ำรอยเลยเห็นมะ จากคุณ : ๋Jazzy (Jazzy the kid) - [ วันเนา (14) 21:25:41 A:124.121.140.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 เสล่อ ตกลงแดงต้องการเปลี่ยนอะไร จากคุณ : phuket dog - [ วันเนา (14) 21:28:33 A:118.173.82.255 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 เหมือนรับเสด็จ จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:29:06 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 เเด่ คนไร้สี จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:30:58 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 phukhao <- มันแฝงมา ตามรูป จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:42:20 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 เเละแฝงเข้ามาอีก จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:43:13 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมเชียร์ใจขาดดิ้น จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 21:43:54 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 wkiet  #47 รัฐธรรมนูญปี 50 นี่ก็มีต้นแบบมาจากปี 2540 และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวที่ได้รับ การลงประชามติจากประชาชนทั้งประเทศ ปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 40 คือ การให้หัวหน้ารัฐบาลแข็งเกินไป จนไม่สามารถตรวจ สอบได้ องค์กรตรวจสอบอย่างอย่างวุฒิสภา กลายเป็นสภาผัวเมียที่นักการเมืองของรัฐบาล ส่งตัวแทนเข้าไปจนไม่สามารถทำหน้าที่เป็นสภาตรวจสอบได้  องค์กรอิสระทั้งหลาย ถุกนักการเมืองแทรกแซงจนไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของทักษิณได้ จนมีการ โกงกินมโหฬาร นำไปสู่ความชอบธรรมของทหารที่ลากรถถังมาปฎิวัติในที่สุด เสื้อแดงชอบ เพราะมันโกงกินได้ง่าย ไม่มีใครตรวจสอบได้ไงครับ อภิสิทธิ เขาอยู่ใต้ร่มอำมาตย์ตรงไหนครับ คนที่เลือกอภิสิทธิขึ้นมาเป็นนายกเนี่ยเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดเดียวกันกับ ที่เลือกนายสมัครและนายสมชายเป็นนายกเนี่ย แหละ =============================== SaVor #54 ความจริงกระทู้เก่า ก็เคยคุยกันประเด็นนี้แล้วไม่รู้เคยเข้าไปอ่านหรือเปล่า? เรื่องอนุพงศ์นะ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7701084/P7701084.html จากคุณ : phukhao - [ วันเนา (14) 22:00:20 A:222.123.203.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 มีคนอธิบายเยอะทีเดียว งั้นขอถามต่อจาก จขกท ว่า แล้วประเทศไหน มีระบอบอำมาตยาธิปไตย บ้าง และถ้ามี มันยังดำรงอยู่ หรือหมดไปแล้ว ถ้าหมดไป หมดไปโดยวิธีไหน จากคุณ : SimpliFLY_Tenth - [ วันเนา (14) 22:06:19 A:202.90.118.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 Nomura  #59 ,#60 ,#61 เรื่องทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้นแค่คดีแรกเรื่องที่ดินรัชดานั้น ทักษิณก็ถุกตัดสิน จำคุก 2 ปีแล้ว จนตอนนี้หนีจนแทบไม่มีแผ่นดินอยู่ ..... เรื่องนี้คนไทยคนไหน ๆ ก็รู้ทั้ง นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นพวกพันธมิตร แล้วทักษิณยังมีคดีค้างคาอยู่ที่ยังไม่นำขึ้นศาลอีก นับสิบคดีในเรื่องประโยชน์ทับซ้อนซึ่งใคร ๆ ก็รู้ แล้วที่หนี ๆ คดีเนี่ยไม่ใช่ผลประโยชน์ทับซ้อนเหรอ พลเอกเปรมเห็นชอบกับการปฎิวัติ และพลเอกเปรมชอบอภิสิทธิเนี่ย มันเป็นเรื่องของ พลเอกเปรม แต่การที่อภิสิทธิเป็นนายกเพราะ เป็นการโหวตมาจากเสียงส่วนใหญ่ของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เปรมเป็นคนแต่งตั้งซะที่ไหน จากคุณ : phukhao - [ วันเนา (14) 22:10:59 A:222.123.203.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นกระทู้ที่ประเทืองปัญญา  อ่านแล้วได้ความรู้  ในรอบหลายเดือนนี้เลย ขอบคุณผู้ตั้งกระทู้  และ  ขอบคุณผู้ตอบกระ่ทู้ด้วยเหตุผล เกรียนไม่มี  มีก็น้อยมาก  ถ้ากล้าเกรียนก็จะเด่นจนน่าอายไปเอง **************************************   ประทับใจค่ะ แล้วผมจะบอกให้ อะไรที่ร้ายแรงกว่าระบอบเผด็จการ อมาตยา คอมมิวนิสต์ ฯลฯ รู้มั้ยครับ ? คือการปกครองที่มีการ ซ่อนรูป มีเบื้องหลังคอยชักใยครับ ตามปกติ หลักในการปกครองทุกๆระบอบ จะขึ้นอยู่กับ หลักอำนาจ และความรับผิดชอบครับ ง่ายๆเลยครับ ประชาธิปไตยถ้าคุณบริหารงานแย่ ครบวาระครั้งหน้าคุณก็คงไม่ได้ยืนในตำแหน่งเดิมอีก เช่นเดียวกัน เผด็จการ ถ้าบริหารงานจนเศรษฐกิจประเทศทรุดหนัก แต่คุณไม่มีทางลงตามปกตินี่ครับ ดังนั้นถ้าประชาชนลุกฮือทั้งประเทศเมื่อไหร่ เราก็จะได้เห็นศพของผู้นำเผด็จการห้อยอยู่ตามจัตุรัสกลางเมือง ดังที่เห็นในหลายประเทศ แต่... การปกครองแบบซ่อนรูปนั้น มันผิดหลักอย่างร้ายแรงของการปกครองทุกรูปแบบตรงที่ว่า อำนาจอยู่ที่คนๆหนึ่ง แต่พอมาถึงความรับผิดชอบจะกลายเป็นถูกโบ้ยให้คนที่อยู่หน้าฉากไป ผมเรียกรูปแบบนี้ว่า การปกครองของพวกขี้ขลาด ครับ อยากใช้อำนาจ แต่ตนเองกลับไม่ยอมรับผลของการกระทำนั้นๆ จากคุณ : SaVor ** จริง ๆ แล้วชอบอีกหลายคำตอบเลยล่ะค่ะ **     จากคุณ : ชบาสีเงิน - [ วันเนา (14) 22:18:53 A:124.120.4.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 phukhao <- อ่านหัวข้อรูปรึยัง ว่ามันแอบแฝง อ่านข้อความในภาพเเล้วย้อนกลับไปดู คห.59 ให้ดึ จะได้บิดเบือน จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 22:38:23 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 ลำดับเหตุการ จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเนา (14) 22:40:35 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 rep 62 ผมถึงบอกไงว่า คุณ innocent มากๆ รู้ไหมครับว่า เนวิน มีคดีกล้ายางซึ่งอยู่ในกระบวนการของศาลอยู่ ซึ่งคดีนี้ เนวิน รับไปเต็มๆคนเดียวเลย ผมคงไม่แปลกใจถ้าต่อไปคดีกล้ายางจะกลายเป็นว่าหลุดหมด... วิธีการขู่มันทำได้หลายวิธีครับ... และที่ เนวิน ไม่กลัว คมช. ไม่มีใครรู้ได้ครับ แต่ที่แน่ๆ คมช. ไม่กล้าฆ่าหรือทำอันตราย เนวิน ในตอนปฏิวัติแน่ครับ เพราะทุกสายตาในประเทศจับตามองอยู่... แล้วมาเรื่อง สส. พรรคร่วมที่คุณบอกว่า " ถ้ากลัวมากก็ลาออกจาก สส. ได้ " อันนี้ยิ่งแสดงถึงความ innocent มากไปของคุณอีก ระหว่างลาออกเลิกเล่นการเมือง กับการที่ยอมเป็นไปตามที่บงการ และสามารถเล่นการเมืองต่อได้ คุณจะเลือกอะไรครับ ??? เรื่องนี้ คุณอนุพงษ์จะออกมาบอกว่า " แค่ให้คำปรึกษา " มันก็เป็นข้อแก้ตัวน้ำขุ่นๆเท่านั้นแหละครับ เพราะคุณอนุพงษ์ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีความรู้ ไม่อยู่ในสถานะอะไรเลยที่จะให้คำปรึกษา แล้วจะมาให้คำปรึกษาได้อย่างไร ??? จากคุณ : SaVor - [ วันเนา (14) 22:40:57 A:124.120.5.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ใครมีเหรียนนี้บ้าง ต่อไปอาจมีใช้กันเยอะ นี้แหละที่เขากลัวกัน จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเนา (14) 22:42:56 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 รูปในคห.58 ให้คิดเอาเองว่าสีอะไร จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 22:44:38 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 จขกท. ถามเอง ตอบเอง เสร็จแล้วถามต่อว่า ทำไมไม่เข้ามาตอบ . . . เป็นงง? จากคุณ : hayo - [ วันเนา (14) 22:49:38 A:58.9.90.57 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 phukhao <- ใช้รูปเเทนคำพูดแทน ไม่อยากพล่ามเด๊ยวโดนไม่มีสีกระทำชำเรา รูปประกอบด้านล่าง จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 22:50:17 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 มีคนตอบให้ความรู้เยอะเลย เจ้าของกระทู้หายไปไหนคะ ................................... จากคุณ : ชบาสีเงิน - [ วันเนา (14) 22:51:18 A:124.120.4.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ลอกเขามา จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเนา (14) 22:51:48 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 คอลัมน์ซอยสวนพลู         หนังสือพิมพ์รายวันสยามรัฐ         ฉบับประจำวันที่ 11 มีนาคม 2530 โดยอาจารย์หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ได้รับการยกย่องเป็นพหูสูตร และเสาหลักประชาธิปไตยของไทยในอดีต         "ความ จริงผมไม่อยากจะเขียนเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เลย แต่เมื่อได้พิจารณาดูโดยรอบคอบแล้ว เห็นว่า จำเป็นต้องเขียนเพราะถ้าไม่เขียนแล้วอาจเกิดผลเสียหายใหญ่โตต่อไปได้จะ กระเทือนใครบ้างผมก็ไม่สนใจละครับ เพราะผมคิดเสียว่า ถ้าผมกระเทือนใครคนนั้นเป็นคนควรกระเทือนหรือ กระเทือนอยู่แล้ว               มี ข่าวออกมาว่า ในหลวงมีพระราชดำรัสกับคนหนังสือพิมพ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในทำนองว่าระบอประชาธิปไตยในเมืองไทยนั้นยุ่งยากเพราะเราต้องลอกแบบฝรั่งเอา มาใช้ ถ้าทำแบบไทยๆ ก็คงจะยุ่งยากน้อยลง พระราชดำรัสนี้มีขึ้นในโต๊ะเสวย ขณะที่มีพระราชปฏิสันถารกับคนหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นธรรมดาของพระราชดำรัสในโต๊ะเสวยก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ หรือคนหนังสือพิมพ์กราบบังคมทูลถามอย่างใดอย่าง หนึ่งหรือหลายอย่าง และเมื่อมีพระราชกระแสที่เป็นข่าวนี้แล้ว ก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ ต่อไปอีก         การที่จะนำพระ ราชกระแสในโต๊ะเสวยมาบอกเล่าให้คนนอกทราบนั้น ก็ไม่บังควรอย่างยิ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกเล่า ก็ควรจะบอกให้หมดว่า พระราชกระแสก่อนนั้นมีมาอย่างไร และพระราชกระแสต่อไปมีอย่างไร การที่รัฐบาลจงใจเชิญพระราชกระแสมาแต่ประโยคเดียว แล้วสั่งให้เผยแพร่ต่อไป นั้น เป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง แม้จะเป็นคำพูดของคนอื่นก็ไม่ควร เพราะไม่เป็นธรรมแก่ผู้พูด         ความจริง คนหนังสือพิมพ์ที่เฝ้าฯอยู่ในโต๊ะเสวยนั้น มีอยู่หลายคน ไปจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ แต่มีอยู่เพียงฉบับเดียวหรือสองฉบับเท่านั้นที่ได้นำมาลงเป็นข่าว แต่ก็เป็นข่าวเล็กๆ มิได้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่นั้นมิได้เอ่ยถึงเลย         ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยนั้นถึงจะจ้วงจาบ ใครต่อใครให้เกิดโทสะ เคียดแค้นได้อยู่เสมอ แต่ก็รู้ที่ต่ำที่สูง บูชาคนที่ควรบูชาและมีความ จงรักภักดีอันมั่นคงแข็งแรงอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ หนังสือพิมพ์ไทยยังเป็นผู้ดีอยู่ไม่กำเริบ   ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ จึงได้ตื่นเต้นถึงกับบอกคณะรัฐมนตรีให้ช่วยกันเผยแพร่ข่าวนี้ให้สะพัดออกไป และย้ำแล้ว ย้ำอีกว่า อยากให้คนรู้กันทั่ว               ที่คุณ เปรมอ้างว่าจงรักภักดีต่อพระกรุณายิ่งกว่าใครนั้น น่าจะต้องเอามาผ่านห้องทดลองเพื่อวิเคราะห์กันใหม่เสียแล้วกระมัง? สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องคิดก็คือ คำว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้น หมายความว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหมายของคำนี้ในขณะที่มีพระราชดำรัสนั้นเป็น อย่างไร เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ผมเองก็ไม่รู้             คุณเปรมเป็นอะไรมาจึงจะเข้าไปหยั่งรู้ในพระราชหฤทัยได้? เพียงแต่คิดว่าตัวรู้ก็ออกจะเป็นคนไม่น่าติดต่อด้วยเสียแล้ว             เรื่อง ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นี้ ผมได้ยินพูดกันมาช้านานแล้วคนโน้นพูดบ้างคนนี้พูดบ้าง ฟังดูก็เห็นตรงกันแต่ศัพท์ที่ใช้เรียก  ส่วนวิธีการที่อ้างว่าเป็นวิธีการแบบไทยๆ นั้น ไม่เห็นตรงกันสักราย เมื่อต่างคนต่างคิดในเรื่องเดียวกันนี้ ต่างคนต่างก็มีวิธีการของตนแตกต่างกันไป  บ้าบ้าง บอบ้าง บิ่นบ้าง หาอะไรเป็นแก่นสารและเอาเป็นที่ยุติไม่ได้     เมื่อคุณเปรม ตื่นเต้นในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ อย่างนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า คุณเปรมเองก็ต้องการและมีวิธีการของระบอบประชาธิปไตย แบบไทยๆ ของตนเอง                       หมายถึง การเป็นนายกฯโดยไม่ต้องสมัครผู้แทนฯให้เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ใช่ไหม?     หมายถึงการที่เป็นนายกฯ คนเดียวตลอดไปใช่ไหม?       หมายถึงนายกฯ คนที่ชื่อเปรมนั้นไม่ต้องรับผิดในสิ่งใดและต่อใครใช่ไหม?     หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมจะต้องอยู่เหนือคำวิพากษ์วิจารณ์ ใครแตะต้องไม่ได้ ใช่ไหม?   หมายถึง ความเป็นนายกฯนั้นมีแต่เสวยสุข ไม่มีทุกข์กับใคร ใช่ไหม?     ได้อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำหลวง ไฟหลวง ใช่ไหม?       จะไปไหนก็ใช้รถหลวง เรือหลวง หรือหลวงออกค่าโดยสารเครื่องบินให้ยกโขยงกันไปเที่ยวต่างประเทศได้ ใช่ไหม?   จะไปไหนก็มีคนมาเรียงรายคอยต้อนรับ บางแห่งถึงกับก้มลงกราบกับพื้นดิน ใช่ไหม?     ความ คิดเหล่านี้ก่อให้เกิดตัณหาอุปาทาน อันเป็นต้นเหตุของอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ โลภะ ทำให้เกิดความอยากเห็นความคิดของตนเป็นผล จริงจังขึ้นมา เพื่อทุกอย่างที่ตนปรารถนาจะให้เกิดขึ้นจะได้เกิดขึ้น และเห็นจะเป็นเพราะความอยากนั้นเองที่ทำให้คนเหมาเอาคำว่า ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ในพระราชดำรัสนั้นตรงกับความ หมายที่ตนคิดไว้ ถึงกับดีอกดีใจสั่งให้เผยแพร่ต่อๆ ไป เป็นการตู่พระราชดำรัสโดยแท้  ในหลวงนั้น ทรงเป็นล้นพ้นในทุกกรณี ไม่ควรที่ใครจะไปเหมาเอาว่า พระราชดำริใดๆ ตรงกับความคิดของตนเองได้         เพราะฉะนั้นต่อ ไปนี้ หากคุณเปรมหรือรัฐบาลคุณเปรม ไม่ว่าจะเป็นเปรม 5 เปรม 6 ไปจนถึงเปรม 432 จนกระทำสิ่งใดโดยอ้างว่า เพื่อเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ แล้ว จะต้องถือว่าการกระทำนั้นเป็นความคิดของคุณเปรมเองแต่ผู้เดียว ไม่ใช่ตามความหมายในพระราชดำรัส ใครไม่เห็นด้วยก็อาจแย้งได้ คุณเปรมไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างว่า ทำไปตามพระราชดำรัสเพื่อปกป้องคุ้มกันตนเอง เมื่อมีอะไรเสียหายเกิดขึ้น คุณเปรม จะต้องรับผิดด้วยตนเอง จะไปซัดความผิดให้แก่ใครไม่ได้ จะอ้างว่า ทำไปด้วยความจงรักภักดีก็ไม่ได้เด็ดขาด   คุณสมัคร สุนทรเวช ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน แต่แทนที่ใครจะได้สติ คุณสมัครกลับถูกโจมตีมากมายทางวิทยุและทางอื่นๆ       ผม ได้อ่านคำชี้แจงของคุณสมัครในหนังสือพิมพ์เดลิมิเลอร์ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสมัครถูกโจมตีนี้แล้ว รู้สึกจับใจในความรู้จักประมาณตนของคุณสมัครมาก ไม่เสียทีที่คุณสมัครเกิดมาในตระกรูลข้าราชสำนัก มีบรรพบุรุษเคยใกล้ชิดพระองค์มาก่อน รู้ต่ำรู้สูง รู้สิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควร" คึกฤทธิ์ ปราโมช จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเนา (14) 22:54:25 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทำไมเขาถึงต่อต้านกลัวระบบอำมาตย์เพราะ อำนาจของ องค์มนตรีตามมาตรา 18,20,23,24 เมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหาร พระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์และองค์มนตรีสามารถเสนอพระนามผู้สืบราชสันติวงศ์ได้ด้วย เท่ากับอำมาตย์มีอำนาจเบ็จเสร็จทั้งกำลังทหารในมือและกฎหมาย อำนาจนี้เลือกราชวงค์ใหม่ได้เลย ในความเป็นจริงจะไปปลดกลุ่มพวกเขาได้หรือ ประชาชนจึกทำหน้าที่นี้ไงกดดันอำมาตย์ให้เขาลาออกไป ให้อำนาจทานกันไม่ให้อยู่ในมือคนกลุ่มเดียว ประชาชนเท่านั้น ที่จะช่วยปกป้องท่านได้อย่างแท้จริง นี้คือสาเหตุของการประท้วง ถ้าคิดว่าทำเพื่อทักษินก็ดูถูกพวกเขาไปหน่อย คงไมมีใครอยากไปหรอก ถึงตรงนี้ ผมเป็นห่วงในหลวงมากกว่าข่าวสองทุ่มช่วงนี้ไม่เคยเห็นเลย กลัวว่าท่านจะถูกเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองไปแล้ว จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเนา (14) 23:28:34 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 อืม ชัดเจนกันจริงๆ เลยครับ นี่แหละที่ผมต้องการ หากผมเข้าใจผิดอะไรก็ถือว่าเป็นความบกพร่อง และความเข้าใจผิดของผม เอ่อ..มีอีกมั้ยครับ? จากคุณ : BlT_HorroR - [ วันเนา (14) 23:37:52 A:125.27.213.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นด้วยกับ คห.76 อันตรายมากเพราะมันเริ่มจะเข้าข่ายมากขึ้น ถึงเเม้ยังไม่ใช่ตอนนี้ เเต่องค์กรนี้ได้แผ่ขยายไปกว้างเเล้ว เพิ่มมาโดน break ช่วง รัฐประหารซ่อนรูป จากคุณ : Nomura - [ วันเนา (14) 23:42:51 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 SaVor #62 อนุพงษ์ ผบทบ. เนี่ยไปตัดสินคดีกล้ายางแทนศาลเหรอครับ เพ้อเจ้อใหญ่ไปแล้วคุณ คดีกล้ายางนั้นมันขึ้นสู่ศาลตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิยังไม่เกิดเลย แล้วอนุพงษ์เนี่ยสามารถ ไปแทรกแซงศาลได้เหรอ ไปเอาพยานหลักฐานออกมาจากศาลได้เหรอ หรือสามารถ ทำให้สำนวนเปลี่ยนได้เหรอ .ตลกคิดไปได้งัย ตอนนี้มันไม่ใช่สมัยจอมพลแปลก หรือ สฤษดิ์ นะครับ ที่จะทำอย่างนั้นได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้เนวินก็สารภาพมาว่าเขารับงานจากทักษิณไปทำ ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีใครเขา อยากจะทำ ซึ่งก็คงเป็นงานระดมมวลชนมาต้าน คมช. นั่นเอง ซึ่งมันก็ไม่แปลกใจที่ คมช. จะเก็บเนวินเอาไว้ก่อน แล้วเรื่องฆ่าเนวินนั้น ผมไม่เห็นว่ามีประโยชน์อะไรที่ คมช. จะไปฆ่าเนวิน เนวินก็เป็นเพียงแค่ลูกน้องของทักษิณ เก็บไว้มีชีวิตยังใช้ประโยชน์ ได้กว่ามาก สส. ลาออกไปเนี่ยมันสมัครใหม่ได้นี่ครับ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม มีใครเขาบังคับให้ คุณต้องล้างมือจากการเมืองไปเลยซะที่ไหนละ อย่างระดับเนวินเนี่ยเลือกกี่ครั้ง ก็ได้ ทุกครั้งนั่นแหละครับฐานเสียงปี๊กขนาดนั้น ผมแปลกใจที่คุณบอกว่า "คุณอนุพงษ์ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีความรู้ ไม่อยู่ในสถานะอะไรเลยที่ จะให้คำปรึกษา " ====> ตลก ผบ.ทบ. เนี่ยเหรอไม่มีความรู้ทางด้านการเมือง ขนาด คุณกับผมหรือชาวบ้านทั่วไปยังคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเลย แล้วทำไมอนุพงษ์จะหยาก คุยปรึกษาหารือกับเนวินไม่ได้ครับ มันเป็นสิทธิเสรีภาพที่คนไทยทุก ๆ คนมีอยู่แล้ว ==================================== นกเดินทาง #76 ประเทศไทยถูกปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระมหากษัตริย์มีสถานะเป็นพระประมุขของประเทศ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการบริหาร ประเทศ อำนาจในการบริหารประเทศอยู่ที่ในนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันมาจากการ เลือกตั้งของประชาชน องคมนตรีซึ่งเป็นเพียงที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ ก็ไม่ได้มีอำนาจในการบริหาร ประเทศเช่นเดียวกัน จากคุณ : phukhao - [ วันเนา (14) 23:55:38 A:222.123.203.188 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 phukhao <-- เวรกรรม สงสัยจะต้องอธิบายเป็นลำดับ ที่มาของเปรมว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังไงเป็นฉาก แบบหนังละครถึงจะเชื่อว่ามีมูลอยู่จริง จากคุณ : Nomura - [ วันเถลิงศก (15) 00:08:15 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 phukhao <- เคยเห็นพระราชดำรัสแก่บรรดาองคมนตรีรึยัง http://www.kanchanapisek.or.th/ohmpc/pc-house.php เเล้วก็ดูรูปในคห.60,61,67,74 ว่ามันเหมาะตามพระราชดำรัสไหม จากคุณ : Nomura - [ วันเถลิงศก (15) 00:13:19 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 เป้นระบอบที่คนๆ หนึ่ง ที่ทำความดีมาห้วงเวลาหนึ่ง จนมีบารมีและสร้างสมบารมีต่อไปอีก กับ่ระบบข้าราชการระดับสูง นักวิชาการ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และทหาร  จนกำหนดทิศทางประเทศไปเพื่อสองประโยชน์สูงสุดแก่คนกลุ่มของตน บารมีที่ว่านั้นไม่มีตราไว้ในกฎหมาย ไม่มีวาระว่ากี่ปี และกำลังสร้างผู้ที่จะมาสืบอำนาจต่ออีกด้วย ต่างกับระบอบประชาธิปไตยที่ให้อำนาจบริหารกับคนกลุ่มหนึ่ง แค่ห้วงระยะเวลาหนึ่ง ครบวาระต้องมาถามประชาชนว่าจะให้ใช้อำนาจต่อไปหรือไม่ จึงอยากถามท่านที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ สูงสุดของเราว่า...ไม่ห่วงบ้างหรือครับกับอำนาจที่สามารถสั่งสมได้ไม่จำกัดห้วงเวลา ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมาย ถือประพฤติปฏิบัติกันเป็นธรรมเนียมแบบนี้ ต่อไปภายภาคหน้าจะทวีสูงขึ้นเทียมเมฆาเข้าสักวัน จากคุณ : jubjod - [ วันเถลิงศก (15) 00:18:51 A:58.64.96.89 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 มันไม่น่ามายุ่งเรื่องการเมือง หน้าที่หลักมีก็ทำไป นี่แหล่ะถึงได้เรียกระบอบอำมาตยาธิปไตย อีกทั้ง ปชป. ตอนนั้นมีเอี่ยวด้วย .... จากคุณ : Nomura - [ วันเถลิงศก (15) 00:20:39 A:58.8.106.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 rep 79 คุณแย้งมาแบบ... ไม่อยากจะบอกว่าข้างๆคูๆแฮะ อนุพงษ์ เป็นหนึ่งใน คมช. ซึ่งคณะตรวจสอบไม่ว่าจะเป็น คตส. , ปปช. ตลอดจน ตลก. ถูกแต่งตั้งโดย... ผมว่าคุณนั่นแหละ เพ้อเจ้อ ทำไมต้องเป็นศาล ถึงจะมีอำนาจในการควบคุมศาลครับ... แล้วมาดูประโยคนี้... " ผมไม่เห็นว่ามีประโยชน์อะไรที่ คมช. จะไปฆ่าเนวิน เนวินก็เป็นเพียงแค่ลูกน้องของทักษิณ เก็บไว้มีชีวิตยังใช้ประโยชน์ได้กว่ามาก " ------------------------------------ ตกลงคุณพูดมาแย้งกับตัวเอง สรุปว่า คมช. ฮั้วกับ เนวิน ได้แล้วใช่มั้ยครับ ??? ตอนนั้นเลยไม่กำจัดทิ้งซะ... สส. ลาออกไปเนี่ยมันสมัครใหม่ได้นี่ครับ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม มีใครเขาบังคับให้ คุณต้องล้างมือจากการเมืองไปเลยซะที่ไหนละ อย่างระดับเนวินเนี่ยเลือกกี่ครั้ง ก็ได้ ทุกครั้งนั่นแหละครับฐานเสียงปี๊กขนาดนั้น ------------------------------------ ผมอาจพูดผิดไปที่ว่า เลิกเล่นการเมือง แต่ระหว่าง เว้นวรรค กับยอมเลือกทางตามที่ คมช. บงการไว้ ถ้า สส. คนนั้นไม่ใช่นักประชาธิปไตยสุดลิ่มจริงๆ คุณว่าจะเลือกทางไหนดีครับ ??? ทำไมต้องยอมเว้นวรรคครับ ??? ผมแปลกใจที่คุณบอกว่า "คุณอนุพงษ์ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีความรู้ ไม่อยู่ในสถานะอะไรเลยที่ จะให้คำปรึกษา " ====> ตลก ผบ.ทบ. เนี่ยเหรอไม่มีความรู้ทางด้านการเมือง ขนาด คุณกับผมหรือชาวบ้านทั่วไปยังคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเลย แล้วทำไมอนุพงษ์จะหยาก คุยปรึกษาหารือกับเนวินไม่ได้ครับ มันเป็นสิทธิเสรีภาพที่คนไทยทุก ๆ คนมีอยู่แล้ว ------------------------------------ ใช้ตรรกะคุณอย่างนี้แสดงว่า ถ้าเปลี่ยนจาก อนุพงษ์ เป็น บิ๊กบัง ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ??? ความรู้ทางการเมืองที่ผมบอกไม่ใช่แบบงูๆปลาๆนะครับ และ ผบ. ทบ. ก็ไม่ใช่ผู้ทรงภูมิด้านการเมืองนะ ไม่เคยมีประสบการณ์การบริหารในระบอบประชาธิปไตย เพราะทหารเป็นการปกครองแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ สมมติถ้านักการเมืองจะขอเข้าคำแนะนำกับ ผบ. ทบ. ทาง ผบ. ทบ. จะให้คำแนะนำในฐานะอะไรดีครับ ??? และที่สำคัญการเข้าพูดคุยแบบนี้ จะทำให้เกิดความคลางแคลงใจอย่างมากแก่ประชาชนว่า " ทหารอยู่เบื้องหลังการจัดรัฐบาลหรือเปล่า ? " ซึ่งนี่ถึงจะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็เป็นการกระทำที่เรียกได้ว่า ไม่สมควรอย่างที่สุด อย่างหนึ่งแล้ว ถ้าคุณยังยอมรับในระบอบประชาธิปไตยอยู่ จากคุณ : SaVor - [ วันเถลิงศก (15) 00:25:56 A:124.120.5.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 แล้วกระทบอะไรกับพกเรา สินค้าเกษตรที่ประชาชนส่วนมากของประเทศถูกกดราคาให้ต่ำติดดินเพื่อให้ อมาตยาฯพ่อค้าคนกลางมีกำไรสูงสุด ไม่ว่าราคาตลาดโลกจะถูกหรือแพง ถ้าประชาชนเดือดร้อนร้องเรียนก็แก้โดยใช้วิธีแทรกแซงพยุงราคา โดยใช้ เงินงบประมาณ(ภาษีประชาชน)มารับซื้อให้แพงกว่าราคาตลาด แต่จะมีเงิน รั่วไหลจากนักการเมืองร่วมกับข้าราชการและพ่อค้าโกงไปเป็นส่วนใหญ่ เช่น รับซื้อราคาสูงเฉพาะพรรคพวกตัวเอง แต่กับประชาชนทั่วไปบอกว่าหมด โควตาร์แล้ว *สื่อทุกสื่อที่มีสัมปทานจากรัฐพร้อมใจกันเชียร์เพราะได้ผลประโยชน์ ทุกอย่างที่ปชป.ประเคนให้ โดยจะใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมาสนับสนุนให้ โดยแทบไม่ต้องแข่งขันทำคุณภาพให้ดีเลย เพราะฉะนั้นคนหูเบาใจบอด (โดยเฉพาะคนกทม.)จึงถูกสื่อชั่วกล่อมให้หลงรักปชป.เข้าไปอีก เป็นวงจร อุบาทมาจนทุกวันนี้ *งบความมั่นคง ทหารสามารถซื้ออาวุธด้วยงบลับมากมายก่ายกองเพื่อหาค่า คอมมิชั่น จึงสูญเสียงบผูกพันธ์หลายปีเพื่อเอามาให้ทหารใหญ่คอรัปชั่นกัน ทั่วหน้า เพื่อส่งเสิรมอำนาจบารมีอย่างถูกกฏหมาย ทุกอย่างเป็นสาเหตุให้ต้นทุนของประชาชนสูงมาก ประชาชนจึงต้องแบกรับ ภาระปชป.และอมาตยาฯไว้บนบ่าตลอดเวลา ศักยภาพในการแข่งขันของ ประเทศจึงไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ซึ่งทำให้ประชาชนยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆทั้งความรู้ รายได้ สวัสดิการและความสุข แต่รายได้และอำนาจของฝ่ายอมาตยาฯนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเถลิงศก (15) 00:42:13 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 พึ่งเข้ามาห้องนี้เหมือนกัน ผมลอกๆเขามาทั้งนั้นไม่ได้เขียนเองหรอกถือว่าแบ่งกันอ่านแล้ววิเคราห์เอง เงินที่เปรมได้รับในแต่ละเดือนไม่ต่างไปจากการเรียกค่าคุ้มครอง เพราะในแต่ละบริษัทที่มีชื่อเปรมเป็นที่ปรึกษาย่อมได้รับการยกเว้นในเรื่องของการตรวจสอบภาษีไม่มากก็น้อย ด้วยบารมีของเปรมจึงมีขีดความสามารถที่ขจัดปัดเป่าสารพัดปัญหาจากใหญ่ให้เล็กลงได้ทันตา “กลับบ้านเถอะลูก” ก็เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่เปรมใช้อยู่เป็นประจำแม้ทุกวันนี้ ด้วยคาถาบทนี้ต่อให้อธิบดีกรมสรรพกรมาตรวจสอบด้วยตนเองก็ต้องเดินตัวรีบกลับไป พฤติกรรมของเปรมที่ผมนำเสนอในอีกด้านที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมีความแตกต่างกันกับภาพที่เราท่านได้เห็นกันอยู่เป็นประจำนั้น ก็สืบเนื่องจากหน้ากากรัฐบุรุษที่สวมใส่อยู่ ดังนั้นการที่เปรมออกมาเรียกร้องคุณธรรมและจริยธรรม จึงเป็นเรื่องโกหกเพราะมันแตกต่างกับตัวตนที่แท้จริงของเปรมราวขาวกับดำ การเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจต่างๆเหล่านี้อันเปรียบเสมือนหนึ่งเปรมเป็นตัวแทนของกลุ่มทุนผูกขาดนั่นเอง ดังนั้นเปรมจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องออกมาปกป้องนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันสมัยของรัฐบาลทักษิณ เนื่องจากนโยบายดังกล่าวส่งเสริมให้มีการแข่งขันทางการค้าเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้บริโภคตามเงื่อนไขขององค์การค้าโลก (WTO) ที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง แต่นโยบายนี้ทำให้กลุ่มทุนผูกขาดเสียผลประโยชน์ เพราะไม่สามารถกำหนดราคาได้ตามใจชอบอีกต่อไป จึงอย่าได้แปลกใจว่าทำไมเปรมถึงต้องออกมาเอาเป็นเอาตายกับคุณทักษิณ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติ เปรมสร้างฐานะจากเงินนอกระบบจนร่ำรวยพอที่จะเลี้ยงดูบรรดาทหารโจรเพื่อมาค้ำบัลลังก์แห่งอำนาจ และสามารถทำการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอันเป็นระบอบประชาธิปไตยได้สำเร็จด้วยวิธีการอันสกปรก สามารถยืนยันในตัวตนที่แท้จริงของเปรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงได้ประจักษ์ด้วยตัวเอง เพราะตลอดกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา เปรมให้การสนับสนุนกับทุกกลุ่มคนไม่เลือกหน้าขอเพียงมีเป้าหมายร่วมกันในการโค่นล้มทักษิณ โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและความถูกต้อง ไม่สนใจแม้สถานะของตัวเองและข้อจำกัดตามกฏหมายว่ามีข้อห้ามอย่างไรในตำแหน่งองคมนตรี บนตำแหน่งประธานองคมนตรี เปรมกลับใช้บารมีในการแทรกแซงเข้าไปในทุกองค์กรอย่างเปิดเผย แม้แต่องค์กรตุลาการก็ไม่เว้น การประกาศว่า “ผมพอแล้ว ขอให้พวกคุณทำกันต่อไป และผมอยากเห็นประชาธิปไตยเดินหน้า” เมื่อครั้งพล.อ.ชาติชายเดินทางไปเชิญเปรมกลับไปเป็นนายกฯ ก็เป็นโกหกคำโตของเปรมอีก ทั้งนี้เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคค้ำยันเปรมที่ซื่อสัตย์นั้น ในปีพ.ศ. ๒๕๓๑ เกิดปัญหาแตกแยกอันสืบเนื่องจากการเลือกหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย กับนายประจวบ ไชยสาส์น คู่ชิงบนตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายวีระ มุกสิกพงศ์ กับพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผลปรากฏคู่ของนายวีระและนายประจวบแพ้ ทำให้นายวีระและส.ส.กว่าสามสิบคนที่รู้จักกันในนาม “กลุ่ม ๑๐ มกรา”ถอนสมอออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ในการเลือกตั้งให้กับพรรคชาติไทย เปรมจึงไม่มั่นใจในฐานสนับสนุน จวบกับกระแสเรียกร้องไม่เอาเปรมจากกลุ่มนักวิชาการ ๙๙ นำโดย ดร.ชัยอนันท์ สมุทรวานิช การดันทุรังออกมารับประกันความเป็นคนดีของพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไปไม่รอด โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติ และไม่สนใจในความรู้สึกของประชาชน ด้วยมุ่งจะเอาชนะในการทำลายล้างพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวให้สมอารมณ์แค้น เปรมทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของตัวเองโดยปราศจากความรับผิดชอบ นี่มันเป็นพฤติกรรมที่ทำลายชาติชัดๆ รัฐบุรุษเป็นเพียงหน้ากาก หากถอดออกมาเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่สมควรถูกโค่นล้มให้สิ้นซาก  ถึงเวลาแล้วหรือยังพี่น้องร่วมชาติที่รักทุกคน อาคม ซิดนี่ย์ และอื่นๆอีกมากมาย  เอาไปวิเคราะห์กันเองครับ http://docs.google.com/View?docid=d7qgfs4_35fhp9tg จากคุณ : นกเดินทาง - [ วันเถลิงศก (15) 00:50:47 A:124.120.78.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 กระทู้น้ำดี ในหลาย ๆ วันที่ผ่านมา ขอเก็บเข้าคลังก่อนครับ แล้วค่อยมาอ่านและทำความเข้าใจกับ คำว่า "อมาตยาธิปไตย"  เยอะจัดอ่านรวดเดียวไม่ไหว ขอบคุณ จขกท.ที่ตั้งขึ้นมาและ ผู้ร่วมตอบทุกท่านที่ถกกันอย่างผู้มีสติและปัญญา จากคุณ : ..แวะมาเยี่ยมจ้า.. - [ วันเถลิงศก (15) 04:54:30 A:58.8.178.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 แวะกลับเข้ามาอ่านตามคำเชื้อเชิญ อ่านทุกถ้อยกระทงความ ก็ดูดี  สวยหรูดี ความคิดเห็นดี แต่ก็รู้สึกได้ว่า เป็นมุมมองที่ไม่กว้างพอ ที่เสนอความเห็นกันมา เป็นแง่มุมที่ ยังไม่เคยเห็นใครปฏิบัติได้ตรงจุด ทุกครั้งคราวที่มีการเลือกตั้ง ก็ยังเห็นมีคดีความร้องเรียนเกี่ยวกับความทุจริตติดตามมาทุกครั้ง ไม่เคยเห็น นักเลือกตั้งที่ต้องการประชาธิปไตย  เข้ามาสู่สภาด้วยความบริสุทธิสักครั้ง นั่นเป็นเพราะอะไร  ถ้าไม่ใช่หลงไหล ในอำนาจ และผลประโยชน์ ถ้านักเลือกตั้ง มีความเป็นนักการเมืองอย่างแท้จริง เป็นนักบริหารอย่างแท้จริง เป็นผู้นำพาประเทศชาติ และประชาชน ไปสู่ความสมบูรณ์พูนสุข อยู่ดีกินดี อย่างแท้จริง ปรากฏการเช่นทุกวันนี้คงไม่เกิด ระบอบอำมาตยา หรือระบอบอะไรก็สุดแล้วแต่จะเรียกให้มันโก้หรูอย่างไร ก็ตาม  มันย่อมไม่มีให้เรียกขานกันอย่างเช่นทุกวันนี้ หันหลังกลับไปมองที่ผ่านๆมาซิว่า...นักการเมือง  พรรคการเมือง  แต่ละคน แต่ละพรรค มีปูมหลังอย่างไร แต่ละคน มีที่มาอย่างไร...? อยู่ที่ไหน...? เข้าสู่แวดวงการเมืองเพื่ออะไร...? ตราบใดที่การเมือง ยังมีระบบมุ้งใหญ่  ครอบมุ้งเล็ก มุ้งเล็ก ยังคอยกัดกร่อน.... เกาะกิน .....แสวงหา..... สัญญาลมๆ แล้ง โป้ปด มดเท็จหลอกลวงประชาชนไปวันๆ ประชาธิปไตยไทย  ก็จะยังคงเป็นเช่นนี้ตลอดไป ถามทักษิณซิว่า  เคยโยนเศษเนื้อข้างเขียง  เศษกระดูก ไปยังเศษมนุษย์ผู้ร่ำร้องโหยหาประชาธิปไตย  บ้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นคำพูดที่สวยหรู ที่นำมาใช้กันอยุ่ทุกวันนี้  มันไร้ประโยชน์ สำหรับประชาธิปไตย   ..............ที่มีนักการเมือง  ไร้คุณภาพ..................... จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ - [ วันเถลิงศก (15) 10:05:51 A:124.121.10.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 SaVor #84 ผมว่าถ้าคุณทำใจยอมรับว่า เนวินต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประเทศเดินไปได้ ซึ่งเป็น สิ่งที่อนุพงษ์ก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน มันดูเข้าใจง่ายกว่าที่คุณใส่ร้ายป้ายสีว่า อนุพงษ์มีอำนาจไปแทรกแซงศาลเยอะครับ ......... คุณคงติดนิสัยทักษิณมานะ นึกอะไรไม่ออกก็จะยัดเงินจะไปแทรกแซงเหมือนที่ทักษิณ เคยทำ จนกระทั่งระบบการตรวจสอบในรัฐธรรมนูญปี 40 ทำงานไม่ได้ และทำให้ ประชาชนเรียกร้องให้ทหารมาปฎิวัติที่สุด พวกคุณไม่เคยส่องกระจกดูตัวเองว่าทำอะไร ไว้บ้างมีแต่โทษคนอื่น คนที่มีทัศนคติแบบประชาธิปไตย ต้องเคารพอำนาจอธิปไตยที่แบ่งแยกเป็น บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ...... ซึ่งคุณไม่น่าจะมีทัศนคติเรื่องประชาธิปไตย แต่มีทัศนคติ แบบทักษิณที่ตัวคนเดียวเข้าไปคุมทุกอย่าง คุณถึงพยายามยัดเยียดว่าอนุพงษ์ทำได้ ทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่อำนาจ ผบทบ. ในสมัยนี้มันทำไมได้เลย อนุพงษ์เป็นหนึ่งใน คมช. ก็จริง แต่กระบวนการมันขึ้นสู่ศาลแล้ว ตั้งแต่ก่อนตั้งรัฐบาล อภิสิทธิอีก ===================================== กลยุทธ์ในการทำสงครามพื้น ๆ เลยก็คือ ถ้าดึงศัตรูมาให้เป็นมิตรได้ก็ดึง พยายามใช้ ทรัพยากรของศัตรูมาเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากที่สุด ถ้าคุณอ่านสามก๊กมาบ้าง คุณก็รู้ว่า ถ้าจับฝ่ายตรงข้ามได้และเห็นว่ายังใช้ประโยชน์ได้ เขาก็ไม่ฆ่าหรอก เรื่อง นี้มันเป็นหลักการพื้น ๆ ซึ่งนักการทหารรู้อยู่แล้ว ขงเบ้ง จิวยี่ โจโฉ ซุนกวน เล่าปี ฯลฯ ใช้มาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นการที่ คมช. จับเนวิน และไม่ให้เนวินระดมมวลชนเพื่อต่อต้าน คมช. นั้น มัน เป็นยุทธวิธีที่ถุกต้อง ถ้ายังมีประโยชน์ทำไมต้องฆ่า ผมคิดว่า คมช. เองก็คงอยาก ให้ชาวโลกรู้ว่า เป็นการปฎิวัติที่ไม่เสียเลือดเนื้อด้วย ........... เนวินมันจะฮั้ว คมช. ตั้งแต่ตอนนั้นได้ยังไง ไม่งั้นเนวินจะให้สัมภาษณ์เหรอว่า ทักษิณให้งานเนวินทำ ในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ ====================================== ผู้ที่สั่งให้ นักการเมืองเว้นวรรคเนี่ยเป็นศาลสั่งยุบพรรคการเมืองที่มีการทุจริตใน การเลือกตั้ง จนกรรมการบริหารพรรคต้องเว้นวรรค ไม่ใช่ อนุพงษ์เป็นคนสั่ง หรือ เป็นคนยกเลิกได้นี่ครับ  ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เคยได้ยินมีใครพูดว่า อนุพงษ์มีอำนาจ ทำให้พวกเนวินสามารถกลับเข้าสู่การเลือกตั้งได้อีกครั้ง ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ถ้าคุณยอมรับว่าเนวินก็อยากเปลี่ยนแปลงเพื้อให้ประเทศ เดินไปได้อย่างที่อนุพงษ์ก็อยากเห็นเหมือนกัน มันง่ายกว่าที่คุณพยายามทำให้เนวิน เป็นเหมือนตุ๊กตาใขลานที่อนุพงษ์สามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้เยอะ .... เนวินเขาก็มี สมองมีความคิดไม่ใช่หุ่นที่ใคร ๆ จะเชิดได้ ======================================= ตำแหน่ง ผบทบ. มันเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และความมั่นคงนั้น มันก็เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งเป็นคนคุมกำลังอยู่ในมือด้วยแล้วมันหนี การเมืองไม่พ้นหรอก ถึงพยายามหนีเท่าไหร่การเมืองมันก็เข้าไปหา ช่วงสมัยปลายรัฐบาลสมชาย ก็มีข่าวว่าอนุพงษ์จะปฎิวัติ และก็มีข่าวว่าสมชายจะ ชิงลงมือปลดอนุพงษ์ออกก่อน แต่ในที่สุดก็ไม่มีการปฎิวัติ สมัยทักษิณก็เหมือนกัน ทักษิณสั่งปลดบิ๊กบัง จากต่างประเทศ และบิ๊กบังก็ปฎิวัติในที่สุด หรือย้อนหลังไป สมัย รสช นั้น พอมีข่าวว่าชาติชายจะปลดทหารกลุ่ม รสช. พวก รสช ก็อ้างว่ารัฐบาล ชาติชายคอรัปชั่น มาปฎิวัติไล่ออกไปซะก่อน ดังนั้น ผบทบ. ถึงไม่อยากยุ่งการเมืองแค่ไหน การเมืองก็เข้ามายุ่ง มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่ ผบทบ จะไม่รู้เรื่องการเมือง ผบทบ. ไม่ใช่นักบริหารในระบอบประชาธิปไตยก็จริง แต่เขาดูเรื่องความมั่นคง ถ้าอะไรที่ทำให้บ้านเมืองขาดเสถียรภาพ ก็เป็นหน้าที่โดยตรงของเขาอยู่แล้วที่ต้องทำ ให้บ้านเมืองกลับมามีเสถียรภาพให้ได้ ....... การใช้กำลังนั่นเป็นทางเลือกสุดท้าย ที่จำเป็นต้องทำ ........ แต่ถ้าสามารถเจรจาได้ก็คงไม่มีใครอยากใช้กำลัง ตราบใดที่ทหารไม่ลากรถถังมาปฎิวัติ เขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิเสรีภาพใน การแสดงความคิดเห็นเหมือนกันกับคนไทยคนอื่น ๆ ......... คุณจะไม่ไห้ทหารมีความ มีความคิดเห็นทางการเมืองเลยหรือไง จากคุณ : phukhao - [ วันเถลิงศก (15) 12:09:33 A:114.128.50.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 นกเดินทาง #85 ระบบเส้นสายในกองทัพ เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องในทหาร มันแทบจะเป็นธรรมเนียมแล้ว ใครขึ้นมามีอำนาจ ก็ดึงพวกพ้องเดียวกันเองขึ้นมาเป็นฐานสนับสนุนมาตั้งแต่ไหนแต่ ไรแล้ว ผมติดตามการโยกย้ายในกองทัพมานาน เรื่องการดึงพวกพ้องเดียวกันขึ้นมา นั้นสมัยทักษิณ ก็ใช้ระบบเส้นสายเหมือนกันกับที่สมัยอื่น ๆ ทำ หรือคุณจะเถียง เพื่อนพ้องน้องพี่ทักษิณขึ้นมามีอำนาจเยอะแยะในสมัยทักษิณเรืองอำนาจ ชัยสิทธิ์ ชินวัตร มาได้งัย ถ้าไม่มีคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ....... อย่ามาอ้างว่าทักษิณ ไม่เป็นคนเล่นพวกพ้องเลย การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เป็นภาระกิจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งใน สามอย่างที่ทหารต้องปกป้องได้แก่ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดังนั้น การที่สถาบันพระ มหากษัตริย์ต้องการคนที่มีความจงรักภักดีจริง ๆ เพื่อเป็นผู้นำในกองทัพนั้นไม่ใช่ เป็นเรื่องที่แปลกแต่ประการใด ใคร ๆ ก็คิดได้ การที่พลเอกเปรมอยู่ในกองทัพมา นานมีความคุ้นเคยกับเหล่านายทหารรู้ว่าใครดีไม่ดี ใครจงรักภักดีหรือไม่จงรัก ภักดี มันก็เป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อพระมหากษัตริย์ ============================ นกเดินทาง  #86 คุณพูดเหมือนไม่รู้เรื่องเศษฐกิจเรื่องการตลาดเลย เมืองไทยเนี่ยพวกข้าราชการ เป็นพ่อค้าคนกลางเหรอครับ ........ คุณไปอยู่ในโลกไหนมา ราคาสินต้าเกษตรมันขึ้นอยู่กับ อุปสงค์อุปทาน ถ้าจำได้ช่วงหนึ่งน้ำมันแพง มีการ นำสินค้าเกษตรไปทำพลังงานทดแทนมาก สินค้าเกษตรก็แพงตามขึ้นมา พอเศษฐกิจ โลกตกต่ำ น้ำมันราคาตก ราคาสินค้าเกษตรก็ตกลงไปตามด้วย การพยุงสินค้าเกษตรเมื่อมีราคาตกต่ำนั้น รัฐบาลไม่อยากจะทำ แต่ต้องทำเพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ......... สมัยทักษิณก็ทำ ทำไมไม่เห็นบอกว่า เป็นอำมาตย์ ============ เรื่องสื่อ ............. เอ่อ คุณดู D-station ของคุณช่องเดียวเหอะ เพื่อไม่ให้หูเบา ใจบอด ชาวบ้านเขามีช่องทางเลือกทั้งในและนอกประเทศ ก็เห็นเสนอข่าวไปใน ทางเดียวกัน คือเสนอเรื่องที่เป็นความจริง ....... ============ เรื่องงบความมั่นคงของไทยนั้น ถ้าคุณได้ไปดูงบประมาณแต่ละปี มันก็ได้เป็น เปอร์เซนต์เหมือน ๆ กันทุกปีนั่นแหละ คือถ้า GDP ประเทศโตขึ้นมันก็ได้มาก ขึ้น เหมือนกับส่วนอื่น ๆ มันไม่ได้มากกว่าชาวบ้านหรอก คุณไปเปิดงบประมาณ ประเทศมาดูได้ ส่วนเรื่องคอมมิสชั่นนั้น ถ้ามีหลักฐานทำไมไม่ร้องเรียน ปปช. ละครับ กลไกในการตรวจสอบทุจริตก็มี จากคุณ : phukhao - [ วันเถลิงศก (15) 12:12:57 A:114.128.50.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 นกเดินทาง #87 พลเอกเปรมรวยติดอันดับโลกเหมือนทักษิณหรือเปล่า .......... ก็เปล่า พลเอกเปรมรวยติดอันดับประเทศไทยเหมือนตระกุลชินวัตรหรือไม่................ก็ไม่ใช่ พลเอกเปรมมีบ้านหลังใหญ่มโหฬารอยู่ในหลายประเทศเหมือนทักษิณไหม ..... ก็ไม่ พลเอกเปรมสะสมที่ดินไว้มากมายหลายแสนไร่ ใช่หรือไม่.......... ก็ไม่ใช่ ... ... แค่นี้เด็กประถมก็คิดออกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ของมันเห็น  ๆ กันอยู่ จากคุณ : phukhao - [ วันเถลิงศก (15) 12:33:55 A:114.128.50.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 93 ชอบกระทู้น้ำดีแบบนี้อะ คุยแบบนี้สนุกนะ เอาเหตุ เอาผลมาคุยกัน กะจะปริ้นไว้อ่านสักสี่รอบ ไม่รู้ว่าจะทำให้เ้ข้าใจได้มากแค่ไหน( แบบว่าไม่มีความรู้ ด้านรัฐศาสตร์เลยสักนิด) ขอบคุณทุกความเห็นที่มีเหตุมีผลค่ะ ชอบๆ อยากโหวต จากคุณ : แม่ดอกปีป - [ วันเถลิงศก (15) 19:47:27 A:161.200.255.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 โหวตครับ จากคุณ : นกเบิกอรุณ - [ วันเถลิงศก (15) 19:52:21 A:125.24.47.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 92   นกเดินทาง #87 พลเอกเปรมรวยติดอันดับโลกเหมือนทักษิณหรือเปล่า .......... ก็เปล่า พลเอกเปรมรวยติดอันดับประเทศไทยเหมือนตระกุลชินวัตรหรือไม่................ก็ไม่ใช่ พลเอกเปรมมีบ้านหลังใหญ่มโหฬารอยู่ในหลายประเทศเหมือนทักษิณไหม ..... ก็ไม่ พลเอกเปรมสะสมที่ดินไว้มากมายหลายแสนไร่ ใช่หรือไม่.......... ก็ไม่ใช่ ... ... แค่นี้เด็กประถมก็คิดออกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ของมันเห็น  ๆ กันอยู่ จากคุณ : phukhao  - [ วันเถลิงศก (15) 12:33:55 A:114.128.50.247 X: ] มันก็จริงอยู่ที่เปรมรวยไม่เท่าทักษิณ ** เเต่เปรมทำธุรกิจเหมือนทักษิณไหม เเล้วทำไมหาว่าทักษิณรวยมากมาย มันรวยตั้งเเต่ยังไม่มาเป็นนายก เอ่อสมมุติมีอยู่ว่า คนนิ่งเงียบ เคลื่อนไหวเบาๆ เเทงคนด้วยยืมมืออีกคนไปทำร้ายคน ค่อยสะสมอำนาจทีล่ะนิด สร้างพื้นฐานให้เเน่นพอที่จะไม่สั่นคลอน ยกตัวอย่าง ยืมคห.23 มาเสริม "เป็นเรื่องที่นักข่าวรู้กันมาเป็น 10 ปีแล้วว่า โผทหาร ถ้าป๋า ไม่เห็นด้วย จะโดนดองไว้ เพราะป๋าต้องเป็นฝ่ายจัด ให้ลูกๆ ป๋าได้ขึ้นมาคุมกำลัง " เอ่อ น้ำหนักมันอยู่ที่ เปรมไม่ควร ออกความเห็นใดๆในชี้นำ ในเรื่องการเมือง ในหลวงคาดการไว้ไม่ผิด สักวันมันก็โผล่มา จากคุณ : Nomura - [ 16 เม.ย. 52 01:09:43 A:58.8.107.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 เพราะฉะนั้นคำพูดที่สวยหรู ที่นำมาใช้กันอยุ่ทุกวันนี้  มันไร้ประโยชน์ สำหรับประชาธิปไตย   ..............ที่มีนักการเมือง  ไร้คุณภาพ..................... จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~   - [ วันเถลิงศก (15) 10:05:51 A:124.121.10.30 X: ]   ^ ^ รู้สึกว่า อภิสิทธิ์จะวาทะศิลป์ดีกว่าทักษิณ พลิกจากดำเป็นขาวได้ แก้ไขเสริม เอ่อความเป็นประชาธิปของ~นายเฉิ่มศักดิ์~ ได้สร้างเป็นรูปธรรมในการเมืองรึยัง เอ่อ อย่าบอกเเค่เลือกตั้งนะ ขอคำอ้างที่ต่างจากนี้สักหน่อย แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 52 01:23:14 จากคุณ : Nomura - [ 16 เม.ย. 52 01:16:33 A:58.8.107.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 rep 92 แค่นี้ก็จบข่าวแล้วครับ... คุณรู้จริงๆหรือว่า เปรม มีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ ??? จากคุณ : SaVor - [ 16 เม.ย. 52 12:33:13 A:124.120.8.254 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 Nomura #95 ขอตอบไปพร้อม ๆ กับกับ อาคม ซิดนี่ย์ เลย ผมขอตอบคุณ อาคม ซิดนี่ย์ ก็แล้วกันว่าแต่งนิยาย จับแพะชนเแกะ เก่ง แต่ถ้าพลเอกเปรมทำ อย่างที่คุณอาคมพูดได้จริงนั้น พลเอกเปรมและลูกหลาน ต้องรวยพอ ๆ กันกับ ซูฮาร์โต ของ อินโดนีเซีย หรือเฟอร์ดินาน มาร์คอสของฟิลิปินส์ และก็ต้องรวยติดอันดับโลกไปแล้วด้วยครับ ไม่มีทางอยู่แบบจน ๆ อย่างนี้เช่นทุกวันนี้หรอก ระยะเวลาร่วม 30 ปีเนี่ยมันร่ำรวยมหาศาล จนไม่มีทางปกปิดมิดชิดแล้ว ผมติดตามข่าวมานาน ผมไม่เคยได้ยินว่าในช่วง สิบกว่าปีหลังนี้พลเอกเปรมเคยเคยออกมา พูดต้านเรื่องการค้าเสรีเลยซักครั้ง จริง ๆ ต้องบอกว่าไม่เคยมาพูดเรื่องเศษฐกิจเลยก็ได้ เพราะ ไม่ใช่หน้าที่ขององคมนตรี อาจเคยมีข่าวว่าไปร่วมสัมนาทางเศษฐกิจที่ธนาคารกรุงเทพจัด บ้าง แต่ไม่เคยมีข่าวว่าเคยพูดเรื่องต้านการค้าเสรีอย่างที่ อาคม ซิดนี่ย์ กล่าวอ้าง ......บางที คุณอาคม อยุ่แต่ซิดนีย์มั๊ง จึงรู้สึกว่าข้อมูลนั้นไม่ทันสมัยเลย เขียนแต่เรื่องล้าสมัยเมื่อ 20 กว่า ปีที่แล้วทั้งนั้น จรีงมั่ง โกหกมั่ง ถ้าใครไม่รู้ก็เชื่อไปตามนั้น ไม่ต้องพูดถึงการที่ไทยมี พรบ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา ซึ่งกำหนดบท ลงโทษการมีอำนาจเหนือตลาดของธุรกิจเอาไว้ ก็ยังไม่เคยมีธุรกิจที่พลเอกเปรมเป็นที่ปรึกษา นั้นเคยมีคดีพิพาทในเรื่องการผูกขาด อย่างธนาคารกรุงเทพที่เปรมเป็นที่ปรึกษานั้น ปัจจุบัน ธุรกิจธนาคารแทบจะเปิดเสรีไปหมดแล้วตามกฎ WTO มีธนาคารต่างชาติมากมายในไทย มองไปที่ธุรกิจอย่างอื่น ก็ยังมองไม่เห็นว่าธุรกิจอะไรสามารถผูกขาดและกำหนดราคาได้เอง ยกเว้นพวกธุรกิจที่ได้สัปมทานจากรัฐ (ซึ่งทักษิณหากินอยู่) และรัฐวิสาหกิจบางอย่าง ซึ่งพล เอกเปรมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร มีแต่ทักษิณเท่านั้นไปเกี่ยวข้อง พลเอกเปรมไม่ได้ทำธุรกิจ และพลเอกเปรมก็ไม่ได้มีอำนาจในการบริหารประเทศ เปรมไม่ได้ เป็นนายก ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ได้มีส่วนในการกำหนดนโยบายรัฐบาล .......... แล้วประโยชน์ ทับซ้อนของเปรมเกิดได้ตอนไหน ที่แน่ ๆ ฐานะความเป็นอยู่ของเปรมก็เป็นมาอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว มีสภาพความเป็นอยู่แบบ พอเพียงหมือนกันกับนายชวน หลีกภัย จากคุณ : phukhao - [ 16 เม.ย. 52 13:15:10 A:222.123.216.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 SaVor #97 ผมไม่รู้แต่คนอื่นรู้ กรมที่ดินต้องรู้ว่าพลเอกเปรมมีบ้านและที่ดินเท่าไหร่ ทำให้พวกซื้อขายที่ดินก็ต้องรู้ ธนาคารต้องรู้ว่าเปรมมีเงินฝากเท่าไหร่ โบรกเกอร์ตลาดหุ้น ต้องรู้ว่าเปรมมีหุ้นอะไรอยู่เท่าไหร่ โบรกเกอร์ตลาดตราสารหนี้ต้องรู้ว่าเปรมถือครองพันธบัตรหรือตราสารหนี้เท่าไหร่ กระทรวงพาณิชย์มีทะเบียนบริษัทที่ระบุไว้ว่าใครถือหุ้นอะไรเท่าไหร่ พ่อค้าขายอัญมณีหรือรถยนต์ต้องรู้ว่าเปรมมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ฯลฯ ^^^ ^^^ ^^^ จากข้อมูลเหล่านี้ ในที่สุดแล้ว พวกที่จัดอันดับความร่ำรวยในประเทศไทยและต่าง ประเทศก็ต้องรู้ และเอามาให้คุณรู้เองครับ ถ้าเปรมรวยจริง จากคุณ : phukhao - [ 16 เม.ย. 52 13:19:01 A:222.123.216.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 100 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 14 ค่ะ จากคุณ : เบบี้อินเลิฟ - [ 16 เม.ย. 52 14:05:48 A:203.146.79.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 101 อริสมันต์กร่างมากๆ วันบุกโรงแรม -- อำมาตย์ป่าวคะ ประเทศไทย นอกจากกรุงเทพ ยังมีชาวบ้านอีกมากมายหลายพื้นที่ที่ยังไม่พร้อมสำหรับระบอบประชาธิปไตยเต็มร้อย จึงเปิดช่องให้เกิดการซื้อเสียง และการเข้ามาของผู้หวังผลประโยชน์ในคราบของประชาธิปไตย ถ้าถามเราระหว่างป๋าเปรมกับทักษิณ เราเชื่อมั่นในความจริงใจ และความรักชาติของป๋าเปรมมากกว่าทักษิณ จากคุณ : เบบี้อินเลิฟ - [ 16 เม.ย. 52 14:13:58 A:203.146.79.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอเรียนถามท่านผู้รู้ซักเล็กน้อยว่า สมมุติว่าถ้าฝ่ายเสื้อแดงสามารถล้มรัฐบาลได้ตามที่ต้องการ เป้าหมายต่อไปในการล้มระบบอำมาตย์ในความคิดของคุณคืออะไร มันจะสามารถแก้ไขปัญหาในประเทศนี้ี้ได้อย่างที่คิดจริงหรือเปล่า หรือแค่เปลียนมือผู้กุมอำนาจเท่านั้น ขอบคุณครับ จากคุณ : bam-NY - [ 16 เม.ย. 52 14:33:37 A:124.120.252.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณ phukhao คิดว่าคนผิดคือคนรวยหรือครับ คิดว่าคนรวยต้องเป็นคนโกงรึเปล่าครับ ผิดจนมีสิทธิ์ เป็นคนไม่ดีรึเปล่าครับ คนรวยมีสิทธิ์เป็นคนดีรึเปล่าครับ จากคุณ : sexinzero - [ 16 เม.ย. 52 15:20:47 A:203.156.94.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 เป็นกระทู้ที่น่าชื่นชมครับ ตอนนี้ผมเริ่มเห็นเค้าอำมาตย์มากขึ้น แต่อย่างที่บอก ถ้าเปรมอมเงินขนาดนั้นจริง หลักฐานคงต้องมีบ้างแล้วครับ และอยากทิ้งท้ายไว้ว่า ประเทศอย่างอเมริกา หรือ อังกฤษ พวกนั้น การศึกษาขั้นต่ำของประชาชนทั่วประเทศเขาเหนือกว่าเมืองไทยมาก ทำให้ประชาธิปไตยเข้าถึงได้อย่างถึงแก่น เมืองไทยต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีครับ กว่าคนท้องถิ่นจะอ่านกระทู้อย่างนี้เข้าใจ หรือ กว่าคนท้องถิ่นจะมีอินเตอเนทใช้แล้วได้เข้ามาอ่านกระทู้ดีๆอย่างนี้ ประเทศพวกนั้นเขาก็ผ่านเวลาอย่างเราตอนนี้มาหลายสิบปีแล้วครับ ดังนั้นมีวันนี้ก็ดีเหมือนกัน เพื่อเดินไปสู่วันข้างหน้า แต่สุดท้าย ก็เห็นด้วยว่า ถ้าคุณจะประท้วงระบอบอำมาตย์ ต้องหาคนภาพดี และปลอดคดีมาเป็นแกนนำครับ เอาคนแบบทักษิณมาทำ มันก็โดนเขาตอกกลับวันยังค่ำละครับ... แต่ยังไงตอนนี้ ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า มันก็มีแดงแท้ ที่ไม่เกี่ยวกับทักษิณอยู่มาก จากคุณ : vdi - [ 16 เม.ย. 52 16:27:22 A:202.95.71.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 เป็นกระทู้ที่ดีครับ ขอชมจากใจจริง เรื่องคุณเปรม ผมก็เคยได้ยินมาหลายปีแล้ว รวมถึงท่านอื่นๆ ด้วย เรื่องนี้มีอีกหลายคำถามทิ้งไว้ แล้วก็มีอีกหลายมิติที่ต้องวิเคราะห์ เช่น บางส่วนเป็นความคิดเห็นส่วนตัว, สภาพบ้านเมืองปัจจุบัน ฯ ซึ่งพวกเราคงได้เอามาคุยกันยาว อย่างนึงที่ผมอยากจะบอกตอนนี้ก็คือ อยากให้มีกระทู้แบบนี้ครับ คุยกันด้วยเหตุผล เถึยง (discuss) กันด้วยเรื่องระบบก็ว่ากันเรื่องระบบ ไม่ใช่คนไม่รู้หรือเห็นไม่ตรงก็ด่าโง่ ใช้คำพูดกระทบกระเทียด เพราะสุดท้ายห้องนี้ก็จะเหลือแต่คนสีเดียวกัน แล้วถูกโดดเดี่ยวอย่างที่เป็นมา จากคุณ : Vich - [ 17 เม.ย. 52 01:12:35 A:125.25.217.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 อ่านจบละ ตาลาย แต่ ขอคิดแบบตรรกะง่ายๆๆนะครับ หรือมันอาจจะไม่ง่าย 1.คูณเป็นประธานบริษัท คุณตั้งที่ปรึกษา ถ้าที่ปรึกษาคุณมันชั่ว คุณจะเลือกเอาบริษัทไว้หรือ เอาที่ปรึกษาไว้ 2.คุณ อายุเหยียบร้อยแล้ว ลูกเต้าไม่มี  ชีวิตคุณมีหมดแล้ว อยากกินอะไรได้กิน อยากไปไหนไป คุณจะอยากมีอำนาจอะไรอีกเหรอคุณจะมาทำอะไรให้คนมันด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง คุณจะทำอะไรที่ให้เด้กเมื่อวานซืน ชี้หน้าด่าเหรอ 3.เค้าเล่นอะไรกันเนี่ย แล้วเมื่อไหร่ผมจะรู้ คุณรู้ไหม จากคุณ : tiger hello - [ 17 เม.ย. 52 12:49:04 A:58.147.17.187 X: ]