รายงานโดย :วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย: วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่กำลังเฝ้ามองความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
ด้วยความรู้สึกสลดหดหู่และหม่นหมองใจ
เพราะไม่เคยคิดว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทางธุรกิจ มีความสามารถเฉลียวฉลาด จะเลือกดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด
และล้มเหลวถึงขนาดต้องร่อนเร่พเนจร ชนิดที่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะมีโอกาสกลับมาเหยียบผืนแผ่นดินเกิดอีกหรือไม่
ความผิดพลาดล้มเหลวที่ว่านี้เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เชื่อมั่นในตนเองสูง และคิดว่าเงินจะสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ โดยอาศัยบทพิสูจน์ในอดีตเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งยิ่งใหญ่ทางการเมืองอยู่ในประเทศไทย จนกระทั่งต้องระหกระเหินหนีคดีความไปอยู่ประเทศอังกฤษ ก็ยังนำเงินอีกหลายพันล้านบาทไปซื้อสโมสรฟุตบอลของอังกฤษ ด้วยความคิดเบื้องต้นแต่เพียงว่าการลงทุนซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี นั้นจะทำกำไรให้อย่างมหาศาลจากการค้าที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในเมืองแมนเชสเตอร์ เนื่องจากนายกรัฐมนตร ี โทนี แบลร์ ของอังกฤษ มีนโยบายอย่างแน่ชัดว่าจะพัฒนาให้เมืองแมนเชสเตอร์เป็นบ่อนกาสิโนระดับโลกเช่นเดียวกับเมืองลาสเวกัสในสหรัฐอเมริกา หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัครใจที่จะเลือกประเทศอังกฤษเป็นที่พำนัก หลังการรัฐประหารของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ก็ได้ชักชวนพรรคพวกที่เคยร่วมหัวจมท้ายทางการเมืองในกลุ่มของ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ไปช่วยกันกว้านซื้อที่ดินในเมืองแมนเชสเตอร์ไว้เช่นเดียวกัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวกไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อมาคือ กอร์ดอน บราวน์ ซึ่งเกิดมาในครอบครัวนักบวชผู้เคร่งครัดในศาสนา และมองบ่อนกาสิโนเป็นแหล่งซ่องสุมอบายมุขขนาดใหญ่ จะประกาศเลิกล้มนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์ ไปเลย
ทำให้ความหวังที่จะทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อันจะเกิดขึ้นจากบ่อนกาสิโนในเมืองแมนเชสเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
และพรรคพวกต้องดับวูบไปด้วย
แต่เนื่องจากการติดต่อเจรจาเพื่อซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ได้คืบหน้าไปจนไม่อาจจะถอยหลังกลับได้ ประกอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวถู กสอบสวนและถูกดำเนินคดีหลายข้อหาเกี่ยวกับการทุจริตและหลีกเลี่ยงภาษี ตลอดจนการใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตนเองในขณะที่ดำรงตำแหน่งยิ่งใหญ่ทางการเมือง เป็นเหตุให้มีการอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว อันเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ได้มาจากการขายธุรกิจของครอบครัวให้กับกลุ่มเทมาเซกแห่งประเทศสิงคโปร์ จึงเป็นที่สงสัยกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำเงินหลายพันล้านมาจากไหนเพื่อเข้าไปซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี
ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวได้นำเงินหลายร้อยล้านไปซื้ออพาร์ตเมนต์หรูกลางเมืองลอนดอน ทั้งยังไปสร้างหอพักให้นักเรียนเช่าที่เมืองเซอร์เรย์ พร้อมๆ กับเปิดบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่พาร์กเลนในลอนดอน โดยมี ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ และคนไทยผู้หนึ่งที่มีความรู้ความสามารถในการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรียกชื่อว่า แจ็ก เป็นผู้บริหารเงินระหว่างเวอร์จินไอส์แลนด์ไปยังอังกฤษ-สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอื่นๆ ให้ภายใต้การติดตามความเคลื่อนไหวของทางการอังกฤษอย่างใกล้ชิด แม้ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ จะมอบหมา ยให้ ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ไปเปิดบริษัทไว้ในดูไบ อาศัยสายสัมพันธ์ของ ไพโรจน์ ที่มีกับเจ้าแขกบางคนต่อสายทางธุรกิจในตะวันออกกลาง โดยอ้างว่ามีความต้องการที่จะเข้าไปทำธุรกิจก็ตาม แต่ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวกที่วันๆ หนึ่งมิได้ทำอะไร นอกจากไปนั่งจิบน้ำชากาแฟที่ห้างแฮร์รอดส์กับนั่งคอยกับข้าวและอาหารการกินจากครัวแฮร์รอดส์ให้ไปส่งถึงบ้าน แล้วเข้าไปผ่อนคลายความเหงาและคลายคิดถึงบ้านด้วยการเข้ากาสิโน พร้อมๆ กับการนัดเด็กที่ต้องการหาลำไพ่พิเศษไปร้องคาราโอเกะตามผับต่างๆ นั่นก็มิได้รอดพ้นสายตาของหน่วยข่าวกรองของอังกฤษแม้แต่น้อย
ความน่าสงสัยในพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเด่นชัดขึ้นเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเปิดเผยกับสื่อต่างๆ ว่ามีความยากลำบากทางการเงิน เนื่องจากถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง เงินจำนวนหลายพันล้านที่ตนนำมาซื้อสโมสรฟุตบอลในอังกฤษนั้นก็เป็นเงินที่ยืมมาจากมิตรสหายผู้มีความไว้เนื้อเชื่อใจตน ในขณะที่ทางการอังกฤษเริ่มเรียกตัว ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ไปสอบถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเงินบางอย่างที่มีหลักฐานว่า ไพโรจน์ เกี่ยวข้องอยู่
ต่อมาเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีปัญหาเรื่องการบริหารและการลงทุนในสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี อันเป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีความต้องการจะลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลมาตั้งแต่แรก หากแต่ต้องการนำทรัพย์สินของสโมสรในเมืองแมนเชสเตอร์ไปพัฒนาหาผลประโยชน์อันจะได้อย่างมากมายมหาศาลเท่านั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงหาทางแก้ปัญหาด้วยการประกาศขายสโมสรฟุตบอลซึ่งประสบภาวะขาดทุนเป็นอย่างมาก แต่ไม่อาจจะหาใครมาซื้อต่อได้ง่ายๆ ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ จึงต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในฐานะนักประสานผลประโยชน์ไปหานายหน้า ซึ่งนัยว่าเป็นเจ้าแขกจากตะวันออกกลางมาซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ในนาม Abu Dhabi United Group ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ป่าวประกาศอย่างภาคภูมิใจให้คนไทยบางคนได้หลงใหลได้ปลื้มไปด้วยว่า การขายสโมสรฟุตบอลอังกฤษคราวนี้มีกำไรเป็นพันล้าน
แต่สำหรับหน่วยข่าวกรองของทางอังกฤษกลับมิได้ตกหลุมพรางการประชาสัมพันธ์ เมื่อการซื้อขายสโมสรฟุตบอลในครั้งนั้นไม่ปรากฏเม็ดเงินอันแน่ชัด อีกทั้งพฤติกรรมทางด้านการเงินภายใต้การบริหารจัดการของชายไทยที่ชื่อ แจ็ก ก็เ ป็นที่น่าสงสัยยิ่งนักว่าจะเข้าข่ายการฟอกเงินอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
ยิ่งเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 2 ปี ในความผิดอันเนื่องมาจากกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคิดมิชอบทางราชการ ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกรณีการซื้อที่ดินรัชดา สถานภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงไม่เป็นที่ไว้วางใจของรัฐบาลอังกฤษมากยิ่งขึ้น ทำให้ปรากฏข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ไว้เป็นจำนวนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากไม่สามารถแสดงที่มาที่ไปอย่างชัดแจ้งต่อทางการอังกฤษได้ หลังจากนั้นทางการอังกฤษก็ได้ดำเนินการถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
การประกาศถอนวีซ่าของรัฐบาลอังกฤษได้นำความกระทบกระเทือนมาสู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศอังกฤษเป็นประเทศมหาอำนาจที่สำคัญ ทั้งยังมีมวลหมู่ประเทศในเครือจักรภพกระจายอยู่ทั่วโลก ปฏิกิริยาในทางลบของประเทศอังกฤษทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความยากลำบากอย่างยิ่งในการที่จะไปพำนักอยู่ในประเทศไหนได้นานๆ นอกจากจะเป็นการเดินทางเข้าออกแบบนักท่องเที่ยวธร รมดาเท่านั้น
สถานภาพที่ตกต่ำลงเป็นอย่างมากเช่นนี้ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องดิ้นรนโดยป่าวประกาศว่าประเทศโน้นประเทศนี้ยินดีต้อนรับให้ตนไปเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ เพื่อให้ไปช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ แต่ก็เป็นที่น่าแปลกว่าประเทศต่างๆ ที่ถูกปล่อยข่าวว่ายินดีต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น กลับเป็นประเทศด้อยพัฒนา ล้าหลัง ที่มีระบอบการปกครองแบบเผด็จการเป็นส่วนใหญ่ มิหนำซ้ำบางประเทศที่ถูกกล่าวอ้างก็ยังออกมาปฏิเสธกับสื่อมวลชนต่างประเทศให้เป็นที่อับอายขายหน้าไปทั่วโลกกันแล้ว
แต่นักแสดงและอดีตผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ไทย และเจ้าของหนังเร่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังฝันถึงอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ เชื่อว่าพลังของคนเสื้อแดงและพรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนจะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันทุกวิถีทางให้พ้นผิด และกลับมามีอำนาจวาสนาใหม่ ถึงกับโฟนอินเข้ามาขอความรักความเห็นใจจากคนเสื้อแดงที่ไปชุมนุมกันข้างถนนบ้าง ในงานวัดบ้าง ด้วยวิธีการพูดแบบหาดีเข้าตัว หวังจะปลุกระดมให้คนเสื้อแดงลุกขึ้นมาสู้เพื่อให้คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองได้กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตแบบซื่อตาใส แม้ผลแห่งการปลุกเร้าคนเสื้อแดงจะไม่บรรลุผลสำเร็จได้ดังใจหวัง แต่ก็ดูจะมีความพอใจที่สามารถทำให้ประเทศไทยไม่สามารถจะอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข
ความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ส่อเจตนาชัดแจ้งว่ามีความประสงค์จะทำลายความเชื่อถือของรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมอัยการ ให้เร่งดำเนินการประสานงานกับอาณาอารยประเทศ เพื่อดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ร้ายทั้งหลายที่ต้องคดีแต่มีเงิน และมีอิทธิพลก็สามารถละเมิดกฎหมายบ้านเมือง
อย่างไรก็ตามแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีเงินมากมายมหาศาลมาสร้างข่าวประชาสัมพันธ์อุปโลกน์ตนเองให้เป็นโน่นเป็นนี่ และปั่นป่วนประเทศไทยมากมายขนาดไหน แต่คนที่มีปัญญาเกินสติอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับนักแสดงที่หลอกตัวเองไปวันๆ ยากจะไปถึงฝั่งฝันที่ปรารถนาจะได้เป็น
จากคุณ :
ชนิดา
- [
วันเนา (14) 21:06:33
A:124.120.173.245 X:
]