สวัสดีทุกๆท่านนะคะ จะสีอะไรก็แล้วแต่ดิฉันยินดีที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมในกระทู้นี้
กระทู้นี้ดิฉันขอวิเคราะห์ตามหลักการสื่อที่ตัวเองเคยเรียนมา ขออธิบายอิงทฤษฎีตามความเข้าใจนะคะ
น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆทุกคนที่รับข่าวสาร ให้เห็นถึงพิษภัยของข่าวสารและรู้เท่าทันสื่อ
หากมีอะไรบกพร่อง ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
-----------
ทฤษฎีกระสุนปืน .. 
ทฤษฎีกระสุนปืนคือ ทฤษฎีที่ว่าด้วยการส่งข่าวสารของผู้ส่งสารไปยังผู้รับสารโดยตรง
ตามกฎทฤษฎีเชื่อว่า สื่อสามารถโน้มน้าวจิตใจคนได้ เหมือนการยิงกระสุนแล้วโดนผู้รับสารโดยตรง
แล้วผู้รับสารจะรับข้อมูล และเชื่อตามสิ่งที่สื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข .. ทฤษฎีนี้มองว่าผู้รับสื่อเป็นผู้ถูกกระทำ
... ขอบเขตของทฤษฎี ...
ทฤษฎีนี้ เป็นที่น่าสังเกตคือ มองในสภาพความเป็นจริงของสังคมแล้ว หลายๆครั้งมีการหาข้อมูลข่าวสารจากทางอื่น
เช่นอินเตอร์เน็ต หรือข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นทฤษฎีนี้อาจจะไม่ได้ผล
แต่เป็นที่น่าสังเกตเกี่ยวกับทฤษฎีนี้คือ
... ถึงทฤษฎีนี้จะมีข้อจำกัด แต่ก็ใช้ได้ผลมาแล้ว และตามกฎทฤษฎีนี้จะใช้ได้ผล
ในช่วงที่ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ บ้านเมืองอ่อนแอ หรือเกิดความสับสนทางการเมือง
... ทฤษฎีนี้จะใช้ได้ผลอย่างดีมาก ในกรณีที่ผู้รับสารรับแต่สื่อของรัฐบาล
และไม่มีการรับสื่อจากทางอื่นอีก จะเข้าแก๊บกับทฤษฎีนี้ได้อย่างง่ายดาย
... ทฤษฎีนี้ ใช้ได้ผลดีในกรณีที่ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยและปกครองด้วยเผด็จการ เป็นวิธีการเดียวกับที่ฮิลเลอร์เคยใช้ในยุคนั้น
-----------
ทฤษฎีโฆษณาชวนเชื่อ 
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่โฆษณาขายสินค้า แต่คือสิ่งที่สื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้รับสาร
โดยอาจจะสร้างกระแส หรือประโคมข่าว ซึ่งอาจจะพูดตามความจริง ความจริงด้านเดียว ความจริงและเท็จ หรือความเท็จทั้งหมด
เพื่อหล่อหลอมให้เกิดกระแสไปในทิศทางที่ต้องการ
การโฆษณาชวนเชื่อ ส่วนใหญ่ใช้ในแง่ของการเมือง เช่นในเหตุการณ์เดือนตุลา เรียกร้องประชาธิปไตย
แต่โดยตามหลักทฤษฎีแล้ว ก็ไม่ใช่แค่การใช้ในแง่ลบ แต่อาจจะใช้ในแนวบวกได้ด้วย
เช่นหล่อหลอมให้คนสามัคคีกัน หรือจงรักภักดีต่อแผ่นดินเป็นต้น
-------------
ส่วนตรงนี้คือความคิดเห็นนะคะ
ทฤษฎีกระสุนปืน กับโฆษณาชวนเชื่อ 2 วิธีการนี้ เรามองว่าเป็นวิธีการที่รัฐบาลใช้อยู่ค่ะ
ตามหลักทฤษฎีเลย และใช้การปิดกั้นข่าวสารด้านอื่นๆ ของอีกฝั่งเพื่อป้องกันการหาข้อมูลรอบด้าน
อย่างที่เราเห็น ช่องดีทีวี หรือเว็บไซต์อื่นๆ ช่องฟรีทีวี สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ก็อยู่ในการควบคุมของรัฐทั้งหมด
พอที่จะเชื่อถือได้ในขณะนี้ คือสื่อต่างประเทศที่ยังไม่อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลไทย
จากการชุมนุมที่ผ่านมา ส่วนที่เป็นข้อด้อยของสีแดงคือ ไม่มีสื่อที่สื่อถึงประชาชนได้อย่างเพียงพอ เกิดความไม่เข้าใจถึงเหตุ
และโฟกัสไปที่ผลมากกว่าเหตุ จึงทำให้มวลชนสีแดงต้องร่นถอยลงมา
ตอนนี้กลายเป็นสงครามสื่อ หากสื่อใหญ่และเข้าถึงประชาชนได้มากกว่า ก็มีช่องทางในการอธิบายเรื่องราวต่างๆได้ดีกว่า
เหรียญมีสองด้าน แต่สิ่งที่นำเสนออาจจะมีแค่ด้านเดียว เพื่อกระตุ้นและทำให้เกิดความชอบธรรม ทั้งๆที่อาจจะผิดทั้งสอง
เลือกจุดแข็งของตัวเอง และจุดอ่อนของกลุ่มเสื้อแดงเป็นจุดโฟกัส
ในยามบ้านเมืองวุ่นวาย และจิตใจคนกำลังสับสน จะเป็นช่วงที่เราได้รับข่าวอะไรมากระทบได้อย่างง่าย และเลือกที่จะเชื่อได้อย่างเร็วที่สุด
ตอนนี้ใครมีสื่อในมือ ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง และประเทศไทย คนไม่ถึงครึ่งเล่นอินเตอร์เน็ตยังไม่เป็น
และยังไม่รู้จากการหาข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ ถึงเข้าถึงสื่ออย่างโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์มากกว่า
(แต่ในประเทศไทย คนอ่านหนังสือพิมพ์มีน้อยกว่าโทรทัศน์มากๆ)
นี้จึงเป็นเหตุผล ที่ทำไมดิฉันจึงไม่เชื่อถือในสื่อของรัฐบาลทั้งหมด
สื่อสำคัญมาก และพื้นที่สื่อก็สำคัญกับการได้ใจประชาชน
จากคุณ :
CuteBaby
- [
วันเถลิงศก (15) 15:10:11
A:124.157.149.225 X:
]