ทหารไทยทั้งแผ่นดิน ขอให้รู้ไว้
* ครั้งหนึ่ง กองทัพไทย ทหารไทย เคยได้รับความศรัทธาและความไว้เนื้อเชื่อใจ จากประชาชนทุกหมู่เหล่า บทบาทของทหารต่อสังคมไทยในอดีตนั้น ดูดีและเป็น เหมือนที่พึ่งแรกๆของประชาชนเสมอเมื่อยามชาติวิกฤต ภาพของความเป็นองค์กรที่ มีวินัย มีระบบ มีระเบียบ ดูเข้มแข็งและหนักแน่นเสมอในสายตาของประชาชนทั้ง ชาติ การที่เป็นอย่างนี้ได้นั้นไม่ใช่สามารถเกิดได้ ทำได้ในระยะเวลาแค่ สั้นๆ ทุกสิ่งนั้นล้วนสร้างสมผ่านมารุ่นต่อรุ่น วันผ่านวัน คุณงามความดีของ เหล่าวีรบุรุษของกองทัพทั้งที่ยังคงอยู่และที่สละชีพไปแล้วนั้น ล้วนเป็น สิ่งที่ช่วยสร้างเสริมให้กองทัพไทยเป็นที่รักและนับถือจากประชาชนทั้งหลาย สืบเนื่องตลอดมา ไม่ว่ากองทัพจะทำสิ่งใด ทำอะไร มีพัฒนาการอย่างไร สังคมไทย มิเคยคลางแคลง แม้นมีการทุจริต คอรัปชั่น มีความผิดพลาดบ้าง ประชาชนทั่วไป ก็ยังคงมองกองทัพในแง่ค่อนข้างดีเสมอและส่วนใหญ่มักจะไว้ใจ เชื่อใจบรรดา เหล่าขุนศึกแม่ทัพนายกองของกองทัพแทบทุกเรื่อง อาจกล่าวได้ว่านี่คงเป็น เพราะผลบุญจากสิ่งดีงามในอดีตที่กองทัพเคยสร้างสรรค์ไว้ให้แก่ชาติมาตลอดใน ยามที่ชาติต้องการความสามารถของกองทัพ ภาพเหล่านี้นั้นจึงดูเหมือนจะหักล้าง สิ่งที่ไม่ดีที่เกิดในกองทัพได้ตลอดมา *
** กาล ผ่านไป วันนี้กองทัพไทยยังคงได้รับสิ่งเหล่านี้จากสังคมไทยอยู่หรือไม่ ภาพของกองทัพไทยยังคงเป็นเหมือนที่พึ่งของเหล่า
ประชายามชาติมีภัยเหมือนดัง ครั้งอดีตหรือไม่ขุนศึก แม่ทัพ นายกองของกองทัพ ยังคงเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อ ใจในเกียรติและศักดิ์ศรีของ
ความเป็นทหารอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ องค์กรของ ทหารยังคงเข้มแข็งและมีระบบระเบียบและวินัยดีหรือไม่ในสายตาของชนทั้ง ชาติ กองทัพไทยยามนี้ได้คิดถึงคำพังเพยเก่าแก่นี้บ้างหรือไม่ "ตักน้ำใส่ กะโหลก ชะโงกดูเงา" เรื่องอย่างนี้นั้นตัวเองมักจะมองภาพตัวเอง
ไม่เห็นหรือ ไม่ก็มองเห็นแต่มักจะเป็นภาพลวงที่ตัวเองคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ แต่คนอื่น น่ะ เขามักจะมองเห็นเสมอ การณ์นี้ก็เช่นกัน วิกฤตศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ กองทัพนั้น มันไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ ไม่ได้เกิดเพียงข้ามคืน แต่มันสะสมต่อ เนื่องและกระทบกัน
เป็นลูกโซ่บนห้วงเวลาที่ยาวนานพอสมควร ความหวาดระแวง ความ เกลียดชัง ความไม่พอใจ และอาจรวมถึงความเหยียดหยาม
ของประชาชนที่มีต่อกองทัพ สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นแล้วในวันนี้สำหรับกองทัพไทย และเกิดอย่างต่อ เนื่องในคนรุ่นนี้ กองทัพพูด
เสมอว่า ทหารคือประชาชน ประชาชนก็คือทหาร กอง ทัพเพื่อประชาชน แต่สิ่งที่กองทัพไทยทำในวันนี้นั้น ประชาชนทั่วไป
ล้วนมีคำ ถามอยู่ในใจว่า เพื่อประชาแน่หรือ? **
*** กอง ทัพไทยเป็นองค์กรเดียวในอดีตที่ถูกตรวจสอบด้วยวิถีสังคม วิถีมหาชน น้อย มาก จนดูเหมือนแทบจะไม่เคยเลยด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะบรรพชนทหารในอดีตต่างเอา เลือดเนื้อทาแผ่นดินสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรนี้ได้ศรัทธาจากมหาชนมาตลอดต่อ เนื่องทุกยุคทุกสมัย อะไรที่กองทัพทำดี คนจะจดจำสอนลูกสอนหลาน การสละชีพ เพื่อชาติ การสละเลือดเนื้อเป็นชาติพลี เป็นสิ่งที่คนไทยทั้งมวลต่างซาบซึ้ง และยกย่องว่านี่คือเกียรติอันสูงสุดที่คนในองค์กรนี้ควรได้รับจากเหล่า มหาชน มันจึงทำให้
ภาพลักษณ์ของกองทัพออกมาในแง่ที่ว่านี่คือองค์กรที่เป็น ที่พึ่งได้ของชาติและประชาชน อะไรที่กองทัพทำไม่ดี คนมักจะลืมเร็ว ลืม ง่าย เพราะความดีที่สะสมไว้มีพลังมากกว่า เป็นตำนานมากกว่า แต่ในความเป็น จริงแล้วนั้นหากมองกันในอีกแง่ เราต้องยอมรับว่า องค์กรนี้คือผู้ที่จะต้อง ทำหน้าที่นี้อยู่แล้วตามหน้าที่อันเป็นปฐมของคำว่าทหาร ดังนั้นคนที่จะมา เป็นทหารไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ทุกคนต้องทำอยู่แล้วตามคุณลักษณะของ องค์กร คนที่ตั้งใจก็มีศักดิ์มีเกียรติยศสืบต่อไปในวงศ์ตระกูล คนที่ไม่ตั้งใจก็เป็นได้แค่หน้าที่
ในความทรงจำในห้วงชีวิตหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น บทบาทของทหารที่มีต่อสังคม ต่อชาติ จึงหลีกหนีไม่พ้นต่อการต้องเอาเลือด เนื้อทาแผ่นดินตามหน้าที่ สมมุติหากชาติมีภัยสูงสุด ทุกองค์กรในชาติต้องออก มาร่วมรบถ้วนทั่วทุกตัวคน ทุกคนทุกองค์กร
ก็จะมีภาพลักษณ์ไม่ต่างไปจากทหาร หรือกองทัพเท่าไรนัก มีค่าเท่ากันทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่กำลังจะบอก คือ ทหารหรือกองทัพ
มักตีค่าตนเองตีค่าองค์กรตนเองสูงกว่าผู้อื่นองค์กรอื่น อยู่เสมอ และมันกลายเป็นวิถีแนวคิดที่ถูกปลูกฝังกันมานานหนักหนาแล้ว ประกอบ กับที่อาชีพทหารนี้ มียศ มีศักดิ์ จึงทำให้อาชีพนี้ดูเหมือนจะสูงค่ากว่า อาชีพอื่นในวิถีความเชื่อแบบไทยๆ ทั้งๆที่ใน
ยุคนี้สมัยนี้ การปกครองระบอบ นี้ ทุกคนไม่ว่าอาชีพอะไร ล้วนเท่าเทียมมีสิทธิเสมอภาคกันตามกฏหมาย แต่ใน ทางเป็นจริงนั้น มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะ แต่ในที่อื่นๆในโลกนี้ น่ะ เขาเป็น อย่างนั้นกันแยะทีเดียว แล้วเขาก็รุ่งเรืองก้าวหน้าไปพร้อมๆกัน ทุกองคาพายพของชาติด้วยซ้ำ ไม่ลุ่มๆดอน ถอยหน้าถอยหลังลงคลองอย่างเรา ***
**** กอง ทัพกำลังสูญเสียศรัทธาจากประชาชนทั้งมวลทีละน้อย ทีละน้อย กองทัพกำลังถูก จับตามองจากสังคมด้วยความกังขา
ในแทบทุกสิ่งที่กองทัพทำ นี่คืออาการเริ่มแรก ที่บ่งบอกว่าสังคมไทยเริ่มระแวงและไม่ไว้ใจกองทัพเหมือนอดีตต่อไปอีก แล้ว ต่อจากนี้ไป ทุกย่างก้าวของกองทัพจะต้องเจออุปสรรคที่ไม่น่าจะบังเกิด นานับประการ เพราะงานของกองทัพนั้น ในเบื้องลึกๆ บางเรื่องที่มีผลต่อความ มั่นคง กองทัพจะไม่สามารถบอกกับประชาชนได้หมดทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องเป็น เรื่องลับ บางเรื่องซับซ้อน
และจะมีผลต่อความมั่นคงและความสงบของบ้านเมือง หากเผยแพร่หรือแถลงต่อสังคม สิ่งเหล่านี้นั้นคือดาบสองคมที่ผู้ที่ไม่อยู่ใน แวดวงของงานอย่างนี้ไม่เคยเข้าใจ และใช้จุดนี้ทิ่มแทงองค์กรนี้ตลอดมาทั้ง อย่างสร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์บนความไม่แตกฉาน
ของระบบความมั่นคงของ ชาติ ดังนั้นความไว้เนื้อเชื่อใจ ความศรัทธาของมหาชนที่มีต่อกองทัพ มันจึง เป็นสิ่งสำคัญของกองทัพที่
จะต้องแก้ไขเพื่อรักษาให้อยู่ในระดับที่ดี เพราะ ในบั้นปลายแล้วนั้น สิ่งเหล่านี้มันมีผลต่อความดำรงอยู่และความเป็นไปของกอง ทัพ
ในทุกย่างก้าว ธรรมชาติของสังคมแบบไทยๆนี้นั้น เมื่อมีความระแวงต่อกัน เกิดขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือ ความไม่ไว้ใจความไม่เชื่อถือ ความหวาดผวา และ ถ้ามันเกิดต่อเนื่องและมากระดับขึ้นเรื่อยๆ การต่อต้านลึกๆจะเกิดขึ้น และ สุดท้ายจะบานปลายกลายเป็นรูปแบบ
ของการต่อสู้กับอำนาจที่เหนือกว่าเพื่อปลด พันธนาการความหวาดระแวงในวิถีความคิด หรือที่คอมมิวนิสต์นำมาเป็นกลยุทธ์อัน โด่งดังในยุคสมัยหนึ่งซึ่งคำจำกัดความของพวกเขาเรียกว่า "ปลดแอก" ****
***** และหากการณ์เป็นไปอย่างนั้น จุดเปลี่ยนที่สำคัญของสังคมและของชาติมันจะ เริ่มขึ้น และอาจหักเหไปในรูปแบบ
ที่เราอาจคาดไม่ถึง ซึ่งมันก็เป็นไปตามหลัก สูตรทางทหาที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของฟากตะวันตกที่เคยมีการ ศึกษา กันมายาวนานแล้วว่า " เมื่อกองทัพตกต่ำลง อ่อนแอลง และสั่นคลอนมาก ขึ้น สังคมจะแตกแยก วิถีสังคมจะแปลกแยก และทุกสิ่งในชาติจะพากันสั่นคลอนและ จะค่อยๆเสื่อมถอย บ้านเมืองหรือคันทรีจะระส่ำระส่าย และในห้วงสุดท้าย ความ เปลี่ยนแปลงแบบบูรณาการจะบังเกิด และการปฎิรูปอย่างแท้จริงจากมหาชนด้วยพลัง ของสังคมจะเริ่มขึ้น " ลองหลับตานึกภาพตามสิ อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของ เราถ้าการณ์มันเป็นไปอย่างนั้น ทุกวันนี้ที่เราอยู่กันได้มาตลอด ผ่านจุด เริ่มและจุดที่วิกฤตมาได้
ตลอดมานั้น เพราะเราคนไทยมีสิ่งยึดเหนี่ยวที่ เหมือนๆกันทุกสังคมและทุกถ้วนทั่วทุกตัวคน จึงทำให้ทุกสิ่งย้อนกลับไปแก้ไข ได้ก่อนที่จะถึงจุดสุดท้าย แต่หากวันใดเราไม่มีสิ่งที่เราคนไทยยึดเหนี่ยว ล่ะ เราจะกลับไปแก้ไขแบบอดีตเพื่อหลีกเลี่ยงจุดสุดท้าย
ของยุคสมัยได้หรือ ไม่ ทฤษฎีและรีเสริชของพวกฝรั่งจึงใช้ไม่ได้กับเราในทุกบริบท เพราะประเทศเรามีความต่างที่ไม่เหมือนชาติใด
ในโลกก็ตรงนี้แหล่ะ ประเทศเราจึงยังไม่เป็น หนึ่งในตัวอย่างรีเสริชทฤษฎีของประเทศที่สังคมล่มสลายเพราะกองทัพตก ต่ำ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว วันนี้และตลอดไป พวกเราคนไทยไม่ว่าอาชีพอะไรและ อยู่ส่วนไหนของสังคม ก่อนทำอะไรเราควรคิดถึง
บ้านเมืองให้มากๆเข้าไว้ คิด ถึงสังคมให้มากๆเข้าไว้ และคิดถึงความตรากตรำและพระวิริยะอุตสาหะของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและทุกพระบรมวงศ์ ที่ทรงทำให้ชาติและคนไทยทั้งมวลให้ มากๆเข้าไว้ จำไว้เถิดว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้า
อยู่หัว และพระบรมวงศ์ในพระ ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ทรงอยู่เหนือความเข้าใจของทุกทฤษฎีของนักวิจัยฝรั่ง ทั้งหลาย ไม่มีคนชาติไหนจะรู้ดีไปกว่าคนไทยทุกคนหรอกว่า เรื่องอย่างนี้คือ อะไร และเราคนไทยวางหัวใจของชาติไว้สูงเพียงไหน *****
(๐๐๑๖ เขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว)
น้ำพิพัฒน์ สัตยา คราถือศักดิ์
จะปกปัก รักแผ่นดิน ถิ่นอาศัย
อีกจงรัก ภักดิ์จักรี พลีเพื่อไทย
จำได้ไหม ในครั้งซึ่ง มือถือธง
สาบานธง ตรงพระพักตร์ จักรีศูรย์
จักเทิดทูน พูลสนอง ครองยศศา
อย่างสัตย์ซื่อ ถือถูกต้อง คลองธรรมา
สัจวาจา คราที่เริ่ม เฉลิมพล
อันสัญญา ตราศักดิ์สิทธิ์ ให้คิดไว้
ละเมื่อใด ไฟจะเผา เท่ายศศา
บาปนรก ตกถึงโคตร โหดทันตา
ตามวาจา สัญญาแด่ แก่แผ่นดิน
โองการแช่ง แห่งเศวต เดชนุภาพ
จะกำราบ ปราบคิดคด ปดทั้งผอง
น้ำทั้งห้า บ่าแผ่นดิน รินรดรอง
จะสนอง จองล้างผลาญ หารชีวี
คมหอกดาบ ปราบไตรจักร จะปักอก
หมื่นพันยก ตกลงใส่ ในสามหาว
ให้ชีวิต จงมืดมิด ปิดทุกคราว
ร่วงและร้าว ดาวหมดสิ้น แม้อินทรีย์
ส.อ. จิ้งจกขั้วโลก รหัสเรียกขาน เกียกกาย3336 (ชั้นยศปัจจุบัน 371 แต้ม)
แสดงความคิดเห็นเมื่อ 15/04/2552 เวลา 15:38:29
จากคุณ :
mekopas
- [
วันเถลิงศก (15) 16:44:52
A:114.128.244.237 X:
]