คนนี้แหละที่เราหวังอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีไทย คนต่อไป
---------------------------------------------------------------------------
"อ๋อย"ซัด"มาร์ค"รวมหัว"กองทัพ"สลาย"ม็อบ"2มาตรฐาน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1240159007&grpid=00&catid=01
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
แถลงที่โรงแรมเรดิสัน ย่านพระราม 9 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.
ถึงกรณีการหลีกเลี่ยงไม่ให้วิกฤตบานปลายว่า ....
การตัดสินใจของรัฐบาลที่สลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น
ไม่ได้ทำให้การชุมนุมยุติลงแต่ได้ทำให้วิกฤติยิ่งลึกและบานปลายมากขึ้น
เนื่องจากรัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
แล้วจึงสลายการชุมนุมโดยใช้กำลังทหารที่มีอาวุธครบมือ
ทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอสำหรับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพราะเหตุการณ์ในกรุงเทพฯขณะนั้น
มีปัญหาที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมายเพียงแค่การปิดถนน
ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงอื่นๆ
เกิดขึ้นภายหลังประกาศ พรก.ฉุกเฉินแล้วทั้งสิ้น
นอกจากนี้การสลายการชุมนุมยังไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนตามาตรฐานสากล
รวมทั้งคำวินิจฉัยของศาลปกครองที่เคยระบุไว้
ในช่วงพันธมิตรล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7ต.ค.2551
เนื่องจากครั้งนี้รัฐบาลได้ใช้ทหารที่มีอาวุธครบมือ รวมทั้งรถถังเข้าขนาบข้าง
ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
และทำให้รัฐบาลเป็นฝ่ายทำผิดกฎหมายเสียเอง
ด้วยการเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการบาดเจ็บ สูญหายไป
จนถึงข้อถกเถียงว่ามีคนตายหรือไม่.......
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐบาลอ้างว่าไม่มีใครตาย
รวมทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก็ออกมาเอาชีวิตเป็นประกัน
ซึ่งเป็นเพียงการบิดเบือนและเบี่ยงประเด็น
เพราะไม่ว่าจะมีคนตายหรือไม่
ต้องมีการตรวจสอบการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม
ซึ่งหากมีเพียงความเสียหายจากการสลายการชุมนุม
ก็ถือว่าเป็นความผิดที่สมบูรณ์โดยไม่ต้องรอให้มีผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.
โดย ครม.ไม่ได้อนุมัติเห็นชอบ
ฉะนั้นการกระทำตั้งเเต่วันที่ 15เม.ย.จนถึงการประชุมครม.วันที่17เม.ย.นั้น
มีข้อสงสัยว่ารัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้โดยผิดกฎหมายเสียเอง
ดังนั้นรัฐบาลควรตั้งคณะกรรมการที่มีความน่าเชื่อถือ
ขึ้นมาตรวจสอบการกระทำทั้งหมด
หากพบว่าผู้ใดกระทำความผิด ตั้งแต่เจ้าหน้าที่จนถึงนายกรัฐมนตรี
ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
เพื่อไม่ให้การสลายการชุมนุมครั้งนี้เป็นบรรทัดฐานของการชุมนุมในครั้งต่อๆไป
นายจาตุรนต์กล่าวว่า
นอกจากนี้การสลายการชุมนุมครั้งนี้ยังมีลักษณะของสองมาตรฐาน
และนายกรัฐมนตรีไม่ควรออกมาแก้ตัวแทนกองทัพที่ปฏิบัติตัวสองมาตรฐานมาตลอด
เพราะจะถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกระทำสองมาตรฐาน
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ในสมัยที่ยังมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ว่าการสลายการชุมนุมและจับแกนนำนั้นไม่ได้ทำให้ปัญหาจบลง
ซ้ำยังแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ แกนนำพันธมิตรฯ
ที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นรัฐมนตรี
แต่กลับสั่งให้จับกุมดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงอย่างแข็งขันจริงจัง
ด้วยการตั้งรางวัลนำจับ
เมื่อเป็นแบบนี้ นายกฯและผู้นำเหล่าทัพกระทำสองมาตรฐานชัดเจน
และเป็นปัญหานี้ร้ายเรงที่สุด
ดังนั้น รัฐบาลควร
1. หยุดไล่ล่าปราบปรามประชาชนเกินความจำเป็นอย่างที่เป็นอยู่
โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
เพราะคนที่ปิดล้อมสนามบินในภาคใต้ครั้งก่อนยังไม่ได้ถูกดำเนินคดี
2. รัฐบาลต้องหยุดควบคุมและแทรกแซงสื่ออย่างน่าเกลียด
3. รัฐบาลต้องยกเลิกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทันที
เพราะมันมีแต่โทษ
ซึ่งถ้าอ้างว่าที่ไม่สามารถยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ได้เพราะยังมีการชุมนุมนั้น
ก็คงต้องประกาศ พรก.ฉุกเฉินไปทั้งประเทศ
เพราะในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้นยังจะมีการชุมนุมกันอีก
แล้วมาใช้กฎหมายปกติ ..........
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 52 17:11:50