ความคิดเห็นที่ 1 ท่าจะร้างจริงแหะ ทางสายนี้  ^^ สู้ๆนะค่ะ ----- เชคหลังไมค์นิดนึงจะขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Maximum Changmin - [ 24 เม.ย. 52 14:49:10 A:118.174.188.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 เชคหลังไมค์นิดนึงจะขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Maximum Changmin -------------------------------------- เชคแล้ว ... ตามนี้ครับ 15.34 น. ๏ ลิขิตฟ้า ถูกห้าม...........ด้วย'ธรรม' มนุษย์ เป็นตาย กรรม......แห่งเจ้า หนึ่งพันอักขระ ที่นำ.........ให้อ่าน ฟ้า'เปิด'ที่เห็น เศร้า..........จบสิ้นแล้วไทย ๚ะ๛ 15.39 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 24 เม.ย. 52 15:56:13 A:119.31.107.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 จับมือกัน       จันมือกับ       สลับแขน คล้องกันแน่น     แค้นกันน้อง      อย่าหมองศรี จิตเคยโกรธ    โจทย์เคย"กฤติ      คิดวิธี สามัคคี      สีมักคา      อย่าค้างใจ. สมควรพิจารณา   บารนี..(สงสัย บารนี นี้คืออะไร) จากคุณ : gaara_nan - [ 24 เม.ย. 52 15:57:22 A:114.128.79.21 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทางสายรุ้ง       ทุ่งสายร้าง      ฟังแล้วยิ้ม ดูคล้ายอิ่ม       ความสุข        แล้วทุกข์ผลัน เข้ามาแทน      ความสวยงาม ที่กลับพลัน กลายเป็นฝัน   ที่สลาย          กับสายลม หรือบ้านเมือง     หลากสี      ที่เราเห็น ต้องกลายเป็น     ทุ่งสายร้าง  กลางทุกข์ถม เหลืองแดงฟาด    มาดร้าย    ให้ตรอมตรม หันด้านคม        มีดเข้าฟัน   กันบรรลัย อยากปูทาง        เริ่มใหม่       ด้วยหลายสี เลิกต่อยตี         ร่วมมือกัน     สานฝันไหม แดงกับเหลือง     เขียวส้มม่วง   พ่วงเข้าไป แสดครามใช้      เติมเป็นรุ้ง    มุ่งสร้างทาง ถึงวันนั้น          ทุ่งสายร้าง       อย่างวันนี้ อาจจะมี           วันย้อนกลับ    จับความหวัง เหลืองกับแดง    ร่วมมือ           คือพลัง ร่วมสร้างทาง      สายรุ้งใหม่         ให้ไทยเรา จากคุณ : -=Jfk=- - [ 24 เม.ย. 52 16:25:17 A:117.47.4.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทางสายเก่าเราเห็นเป็นสีรุ้ง เคยหมายมุ่งปีนป่ายตะกายฝัน จะเดินทางข้ามขอบฟ้าหาตะวัน ผ่านหมู่เมฆร้อยพันที่กั้นกลาง จินตนาบรรเจิดเลิศเพริศแพร้ว ทางสายรุ้งบันไดแก้วยามก้าวย่าง นางอัปสรโปรยดอกไม้มาลัยวาง สุขสรรสร้างในใจให้รื่นรมย์ แต่ความจริงเพียงแสงที่ลวงตา ทางสายรุ้งทาบขอบฟ้าเขียวแดงส้ม ครามน้ำเงินม่วงเหลืองโค้งมนกลม ฉับพลันลมหอบหายสลายไป เหลือเพียงแต่ทุ่งสายร้างอยู่ข้างบ้าน เหลืองดอกคูณแดงดอกจานบานไสว ทางสายรุ้งเป็นนิทานสำราญใจ เห่แกว่งไกวเด็กน้อยที่งอแง ... จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 24 เม.ย. 52 17:18:40 A:122.154.18.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ๏ ทาง..เก่า เฒ่ากร่าง ม้าย.................มือหมาย สาย......เก่า เสาก่าย ลาย....................สี่ต้น รุ้ง.......เก่า เหล่ากรุง กลาย................คล้ายหม่น หมองนา กลับ....เก่า เก่ากลับ พ้น......................กลับข้าง ฝันสลาย ๚ ๏ ทุ่ง..หม่น ทนมุ่ง หน้า...................ฝ่าไป สาย....หม่น สนหมายไทย.................สงบได้ ร้าง....หม่น ล่นหมาง ใคร.................เริ่มก่อ ไว้นอ ไกล....หม่น กลหมาย ให้...................พี่น้อง หมองใจ ๚– สวัสดีครับท่านพี่นกโก๊ก และพี่ เพื่อน น้องห้องกวีฯทุกท่านด้วยครับ จากคุณ : tudong - [ 24 เม.ย. 52 19:51:33 A:125.27.209.20 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 “แสงอาทิตย์”  แท้จริง  มีเจ็ดสี รัศมี  แห่งตะวัน  บังเฉิดฉาย แสงสีขาว เจิดจ้า ท้าประกาย กลบเจ็ดสี รี่เลือนลาย จากสายตา “รุ้งกินน้ำ” ปรากฎการณ์ ธรรมชาติ โค้งผ่านพาด หลังสายฝน ปนแดดจ้า เมื่อแดดส่อง ผ่านละออง น้ำฝนมา แสงหักเห  บนฟากฟ้า  “รุ้ง” ปรากฎ แปลกแต่จริง จะมองรุ้ง ต้องหันหลัง ให้ตะวัน  ส่องตรงข้าม  จึงงามงด รุ้งเกิดจาก  ละอองน้ำ  ล้านล้านหยด แสงกำหนด  ตกกระทบ  จึงตระการ ยิ่งฟ้าครึ้ม  ยิ่งเห็นชัด  เป็นพิเศษ ให้สังเกต  แดดและฝน  เป็นหลักฐาน สรุปว่า  รุ้งเกิดได้  ตลอดกาล แต่เกิดเพียง ไม่นาน  จะจางไป ผู้ที่ยืน มองสายรุ้ง  คนละที่ โค้งวิถี  ย่อมเห็นต่าง  อย่าสงสัย ยืนสิบที่   โค้งสิบแบบ  ทั้งใกล้ไกล ความสวยใส  หักเหได้  ใช่เกิดเอง เปรียบคนหลาก  สีเสื้อคือ  ละอองน้ำ แสงพาดผ่าน  คืออำนาจ  ที่ข่มเหง ปรากฎการณ์  เสื้อสีรุ้ง  จึงบรรเลง หลังเสียงเพลง  ลมฝน  ปนตะวัน รุ้งเกิดจาก  การกระทบ  ของน้ำ – แสง จึงฉายแรง  เจิดจ้า  บนฟ้านั้น แต่รุ้งงาม  ล้วนพ่ายแรง แก่แสงจันทร์ เมื่อผ่านพ้น  กลางวัน  สู่กลางคืน เห็นกำเนิด  อัศจรรย์  สีสันรุ้ง เป็นวงจร  ที่ปรุงแต่ง  จากสิ่งอื่น แม้สายรุ้ง  ตามองว่า  ไม่ยั่งยืน แต่มิหาย  กลายเป็นอื่น  จากหัวใจ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 52 23:27:47 จากคุณ : ploythana - [ 24 เม.ย. 52 23:20:20 A:203.156.25.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 06.45 น. ๏ สงสัย วิสัชน์แล้ว.............gaara_nan มีประโยชน์ใดกัน................เมื่อค้าน อยากรู้ ศึกษามัน................เองเถิด 'ธรรมชาติ'เห็นต่างด้าน.........ต่างโต้อัตตา ๏ เห็นหน้า ท่านหว้าไม่.........รู้ใจ ----------->(หว้า โทโทษเอก ว่า) นกว่า ท่านเห็นไหม..............น่าถ้าน ------->(ว่า น่าถ้าน โทษทั้งคู่ หว้า หน้าท่าน) ซ้ายขวา ภาพสลับใบ...........หน้าท่าน ในกระจกเงา ใครค้าน..........ว่าหน้าตัวเอง ๏ ต่างโคลงเคลง โต้คลื่น......กระแสธรรม ต่างเล่าเรียน รู้คำ................บอกเหล้า ----->(เหล้า โทโทษเอก เล่า) ต่างสำนัก ต่างสำ-..............นึก,ต่าง เล่าฤๅ ->(เล่าฤๅ สื่อถึง เล่าลือ) เมาเล่า เมาเหล้า เม้า...........มั่วโม้เมามาย -->(สื่อถึง ไม่เมาเล่ากันบ้างเลยหรือไร) ๏ แม่สี ใครเล่ารู้................สามสี สีปฐมภูมิ ดี......................เด่นด้าน ไม่อาจผสมสี....................อื่นเกิด แม่สีแล 'แดง'เด่น 'เขียว'จัดจ้าน.......หนึ่ง'น้ำเงิน'นา ๏ 'ดำ'อมตะ ด้วยคลื่น.........แม่สี ผสมแล 'เทา' คี่เถ้าสารซี................คลุกเคล้า ----->(คี่ เอกโทษโท ขี้) 'เหลือง' สีผสมมี................หลายหมู่ สีนา ไทย'อมตะ' นั้นเจ้า.............เกิดได้ยามใด ๏ ทางสายรุ้ง มุ่งสร้าง..........ทางสวรรค์ ไทยมั่นคง มีวัน..................เกิดได้ แม่สี ร่วมใจกัน...................เถิดแม่-ศรีเอย คำพ่อ 'นกรู้' ให้.................ใช่ไร้ความหมาย-สหายกวีใจเอย บารนี ๚ะ๛ 07.54 น. ท่านรู้ใจตัวท่านเองดีใช่หรือไม่...ท่านเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านแล้วหรือ เห็นหน้า ไม่รู้ใจ ...บอกอะไรเราบ้าง...ภาพใบหน้าในกระจก เป็นภาพจริงหรือ ไม่เห็นหน้า รู้ใจ ...เป็นตรรกกะใช่หรือไม่...มองเห็นใบหน้าจริงของคนอื่น เป็นภาพจริงหรือ ภาพปรากฎในจอเรติน่า ที่แสงสะท้อนผ่านเลนซ์แก้วตา...เป็นภาพจริงหัวกลับ ท่านหัวกลับหรือเขาหัวกลับกันนะนี่ การมองเห็นภาพ เห็นจากปรากฎการณ์สะท้อนแสง หักเหแสง ... เป็นคลื่นแสงตรงจากแหล่งกำเนิดจริงหรือ ทางสายรุ้ง*ทุ่งสายร้าง ...ทางภาพหลอนใจอนิจจา...สวัสดีประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 52 08:18:55 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 25 เม.ย. 52 08:10:40 A:119.31.109.88 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 “แม่สีแสง” สามแรง  แดง ,  น้ำเงิน , เขียว หากฉายพร้อม กันทีเดียว เห็นเพียงสี “ขาว” สีมาจาก ธรรมชาติ ,  สังเคราะห์ และ แสงพราว ความเข้มแสง ปรากฎกร้าว  แก่สายตา “สีรุ้ง” นั้น  เป็นส่วนหนึ่งของ ดวงอาทิตย์ เนรมิตทฤษฎี  สามเหลี่ยมสี  ที่เจิดจ้า นับถือใจ  พี่ท่านแจ้ง  แจงตอบ น้องยา สีพื้นฐานทั้งสามสีเป็น “บวก” กังขา ! . ใยผสมสี “ ใหม่” ออกมา  เป็น “ลบ” พี่เอย น้องบังอาจ  ถามตอบ  “พี่นก” รอบรู้ เพราะนับถือ พี่เป็น “ครู”  โปรด “เฉลย” ถ้อยคำพี่ บางครั้ง รับว่าตี ไม่แตกเลย เข้าใจยาก จนอ่านเอ่ย  ซ้ำไป  ซ้ำมา ... สวัสดีค่ะ ท่านนกโก๊ก   ขอบคุณที่ชี้แนะ  แต่ยอมรับว่า บางครั้งอ่านแล้ว "ยังไม่ค่อยเข้าใจ" แต่อย่างไร จะติดตามผลงานต่อไป ถือว่า เป็น "น้องใหม่" ในห้องนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 52 14:54:28 จากคุณ : ploythana - [ 25 เม.ย. 52 14:50:05 A:203.156.25.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตีความแตกยากแท้.................................สีเทา สีม่วงห้าร้อยเอา.....................................แลกได้ สีเทาหม่นพันเงา.....................................สีแสด ียี่สิบสีเขียวให้.......................................แต่ร้อยสีแดง ทางสายรุ้งทอดฟ้า.................................วงกลม มืออย่าชี้ให้อม......................................ปากกว้าง โบราณว่าระทม.....................................นิ้วกุด รุ้งแรกฝนน้ำค้าง...................................พาดแล้วสวยดี สวัสดีครับท่านนกโก๊ก แต่งยาก อากาศร้อน  555555555 จากคุณ : สันติ - [ 25 เม.ย. 52 15:56:43 A:125.24.209.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 15.57 น. ๏ วิสัชนา ปุจฉา-ถ้อย ploythana 'ดำ'อมตะ ด้วยคลื่น...แม่สี ผสม- แล- อึดอัด ขัดข้อง ต้องชื่นชม นกน้อยสม-ควรนำ คำขยายความ ๏ ลิขิตตาม คำโคลง วงจำกัด เงื่อนปมมัด ขัดคำ ตามคำถาม คลื่นพลังงาน สารแม่สี ที่ตรงข้าม ตามนิยาม ธรรมชาติ ศาสตร์วิทยา ๏ น้ำเงิน-เขียว-แดง ... แสงแม่สี ... 'พลังงาน'คลื่นบริสุทธิ์ รวมได้จุด สี 'ขาว' โพลน โทนสว่างจ้า สีขาวนี้ ที่เห็นได้ ไม่โปร่งตา สีขาวจะ สะท้อนทุกคลื่น คืนเป็นสีโปร่งใส ๏ น้ำเงินอมเขียว-เหลือง-แดงอมม่วง ... ปวงแม่สี ... รงควัตถุสาร-ประกอบ-นี้ บริสุทธิ์หรือไม่ คลุกคนไป ได้สี 'ดำ' ดำสนิทใจ ผิวดำใช่ ได้ดูดกลืน คลื่นแสงทุกสี ๏ สีขาวบริสุทธ์ พุทธศาสน์ ปราศจากมลทิน เป็นฐานถิ่น สิ้นสีสัน สันติภาพนี้ สงบสันติ ที่นั้นจะ สงบเงียบดี ต้องไม่มี คนเอะอะ ... ขาว 'มรณะ' ... แล ๏ สีดำไม่บริสุทธ์ ดูดกลืนไว้ ในสีเดียว ดำยึดเหนี่ยว เหนียวแน่น ปึกแผ่นแน่ ดำสนิท สนิทสนม เกลียวกลมซิแม่ วิถีธรรมชาติแท้ ... ดำ 'อมตะ' ... นิรันดรกาล-แม่เอย บารนี ๚ะ๛ 17.26 น. ฝากสหายกวีใจ ให้ไปตรวจสอบหาข้อมูลดูเพิ่มเติมได้ให้กระจ่างแก่ใจ ----------------------------------------------------------------------------- สารแม่สี (ที่เป็นสสาร เป็น- รงควัตถุสารประกอบ -ไม่ใช่- รงควัตถุธาตุบริสุทธิ์)   สารแม่สี ...สีปฐมภูมิ 3 สี คือ... น้ำเงินอมเขียว - เหลือง - แดงอมม่วง ...ผสมกันจะให้สีดำ แสงแม่สี (ที่เป็นพลังาน คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็น- พลังงานบริสุทธิ์) แสงแม่สี ...สีปฐมภูมิ 3 สี คือ... แดง - เขียว - น้ำเงิน ...ผสมกันจะให้สีขาว ----------------------------------------------------------------------------- อาถารรพ์แห่งสี ... ขาวมรณะ ... ดำอมตะ ... สีใดล่ะสีแห่งความดีงามและความชั่วร้าย ข้อสังเกตุ ... เลือดในกายเรา ทำไมต้องมีแค่ 3 สี  ... ขาว-ดำ-แดง แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 52 17:50:12 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 25 เม.ย. 52 17:45:28 A:119.31.80.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ สำหรับคำชี้แนะ จะค้นหาข้อมูลต่อไป ให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ จากคุณ : ploythana - [ 25 เม.ย. 52 18:04:52 A:203.156.25.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรียน ท่านนกโก๊ก นกผี กวีผวน                      ชาวพุทธกำหนดแท้        ทางธรรม                "สัจจะ"คือสิ่งนำ                  ว่าไว้                "ทมะ"สิ่งตามค้ำ                  ในสัตย์                "ขันติ" "จาคะ"ไซร้               นั่นแท้ทางเดิน                      ความจริงอันหลีบเร้น       นานา                ควรเปิดปรากฎมา                 เชื่อมร้อย                ทุกแง่มุมสัจจา                     สูงต่ำ                คนเที่ยงธรรมไม่น้อย            ทั่วพื้นผไทไทย                     เป็นหนึ่งคนเลิกคว้า          ไขว่ดาว                เคยหลงใฝ่แสงสกาว             เท่านั้น                บัดนี้ใส่สีขาว                       พุทธบุตร                ทำเนื่องชีวิตสั้น                    เพื่อพ้องพรายพันธุ์                     คือแด่มวลสัตว์โลก          ชีวาลัย                หลายหลากชนิดใน               โลกนี้                สมดุลสรรพสิ่งใส                  สวยสะ                บรรเจิดธรรมบ่งชี้                  เร่งเร้าเสมอสมัย                    สังคมคนซับซ้อน              ซ่อนแสดง                สมมุติสุดผาดแผลง               เงื่อนแร้ว                โครงสร้างแต่งปรุงแปลง         ตามกิเลส                แปรเปลี่ยนโดยเพริศแพร้ว      เปลี่ยนร้ายกลายดี                    มณีในมนุษย์แท้               ส่องประกาย                "พุทธะ"ซ่อนแสงพราย           หลืบเร้น                รอวันส่องสาดฉาย                 ใจเพื่อน                เพียงปรับใจอย่าเค้น               ฝากไว้ไตร่ตรอง จากคุณ : ก.เอ๋ยก.ไก่ (oDaineo) - [ 25 เม.ย. 52 18:43:29 A:124.121.242.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 -------------> เป็นหนึ่งคนเลิกคว้า          ไขว่ดาว               เคยหลงใฝ่แสงสกาว             เท่านั้น ---------> บัดนี้ใส่สีขาว                       พุทธบุตร               ทำเนื่องชีวิตสั้น                    เพื่อพ้องพรายพันธุ์ จากคุณ : ก.เอ๋ยก.ไก่ (oDaineo) ---------------------------------------------------------------------------- 20.45  น. ๏ ทางชีวิต นั้นกี่เส้น..........ทางเอย จะมุ่งหน้าเดินเลย..............ดุ่มดั้น ปลายทางที่หวังเชย...........ชื่นสุข สุขที่ 'ปลายทาง' นั้น.........ฤ 'ห้วงเวลาเดิน' ๏ วิหคเหิรร่อนคว้าง...........กลางนภา มัชฌิมาปฎิปทา................นกรู้ สายกลางที่เราหา..............นกไม่-รู้ฤๅ กลางระหว่างทางผู้............มุ่งหน้าเดินไป ๏ ปลายทางข้างหนึ่ง หน้า....เขาเรา-ตามแล คนร่วมทางเดิน เขลา..........มากหน้า ต่างจิตต่างใจ เอา..............ใจช่วย กันฤๅ ต่างแดก ต่างดันอ้า............ปากร้องแดกดัน ๏ ทางสายฝัน สู่รุ้ง.............เรืองรอง หวังรอดปลอดภัยผอง.........พวกพ้อง หรือหวังรอดหวังปอง...........เปรมสุข สบายแล หรืออิ่มแค่ปากท้อง............ไม่ร้องโวยวาย ๏ ทางสายรุ้ง มุ่งหน้า..........หาฝัน ต่างพวกต่างพ้อง ฟัน..........ไม่เลี้ยง เอารัด เปรียบเอา-กัน..........ท่า-กัด กันเวย ต่างแย่งต่างยัด เกลี้ยง........กลัดกลุ้มกันไป ๏ หลงทำลายเเหล่งเลี้ยง.....ชีพตน ผ่าเหล่าผ่ากอ-ชน...............ไขว่-ฟ้า ดิน-ปั่นป่วนสับสน...............เสื่อมค่า อมตะแล สมณะพุทธเจ้าข้า...............ตรัสรู้ทางธรรม ๏ กรรมสร้างเวรไป่เว้น........ปล่อยวาง เกิดไม่อยากตายขวาง.........โลกหน้า ตายไม่เกิดนายนาง............สิ้นเผ่า-พันธุ์แล สมสู่อยู่กิน ฟ้า..................ล่มหล้าโลกทะลาย ๏ ชายทำหญิงท้องนับ.........ถ้วนฤๅ หญิงมากกว่าชายหรือ..........ไม่รู้ พระผู้ออกผนวชถือ.............ศีล-ละ-ธรรมแล เหลืองฝาด'กาสาวพัสตร์'ผู้....ผ่านพ้นเพศภัย ๏ ปลายทางนี้ มุ่งหน้า..........หาฝัน ปลายมุ่งทางไหนกัน............ละหนี้ --->(หนี้ โทโทษเอก นี่) ทางรอด ไม่รอด มัน............คนละ-ปลายแล เป็นหนึ่ง ตายหนี่ง นี้.............ต่างด้านปลายทาง ๏ กลางทางชีวิตนั้น..............สองปลาย ทางแล ปลายหนึ่งกลับหลังหมาย.......หลุดพ้น ปลายหนึ่งมุ่งหน้าหมาย..........อยู่รอด นกอยู่กลางทาง ด้น..............ดุ่มดั้นทางเห็น ๏ เป็น-ตาย ปลายต่างเส้น......ทางฝัน ต่างดุ่มด้นเดินกัน.................ขมักเขม้น กลางทางต่างแดกดัน............กันอยู่ จะบรรลุทางฝัน เม้นต์............บอกบ้างบรรลุ-อย่างไร ก.เอ๋ยก.ไก่ (oDaineo) บารนี ๚ะ๛ 22.28 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 25 เม.ย. 52 22:35:51 A:119.31.80.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 16.08 น. ๏ สาย-พิรุณ สาดพร้อม...........อสนีบาต รุ้ง-----พาดฟ้าสุรีย์สาด............สะท้อน rain---ลูกเห็บเพชฆาต............จากฟาก ฟ้าเวย bow---ธนูเทพย้อน.................เสียบให้ขวัญหาย ๚ะ๛ 16.18 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 3 พ.ค. 52 16:18:39 A:119.31.108.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 21.01 น. ๏ ฝนมา สายฟ้าฟาด.........ตาฟาง แดดส่อง รุ้งเลือนลาง........ขอบฟ้า ฝันใหม่ ไม่เห็นทาง...........นั่งเซ่อ หนี้ดอกเบี้ย ขายค้า...........ขาดเค้าขาดทุน ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 21.06 น. แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 21:08:43 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 21 พ.ค. 52 21:07:32 A:119.31.15.245 X: ]