ความคิดเห็นที่ 1 คงกำลังอยู่ในช่วงสร้างหลักฐาน เอ๊ย หาหลักฐานเพิ่มเติมนะครับ ผ่านมา หลายปีละ ยังคงหาไม่ได้ คาดว่า คงต้องสร้างหลักฐานเอ๊ย หาหลักฐานกันต่อไป จากคุณ : nangeid - [ 4 พ.ค. 52 06:00:25 A:58.9.120.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 จุ๊ๆๆ เผลอๆรัฐเขาจะเอาเงินมาใช้อีกน่ะ อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวอาย จากคุณ : createTshirt - [ 4 พ.ค. 52 07:13:00 A:124.120.238.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันเป็นคำสั่งของ คตส.โดยอาศัยประกาศของ คปค.(หรือ คมช.)ฉบับที่30 ให้อายัดทรัพย์สินของ ทักษิณ และครอบครัว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ที่ไม่มี คตส.และ คมช.แล้ว การอายัดก็ยังคงอยู่อย่างนั้น... โดยให้เหตุผลว่า เงินนี้ได้แต่ใดมา.... จากคุณ : JohnHenry - [ 4 พ.ค. 52 07:30:45 A:222.123.160.235 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยึดไม่ได้ครับ เพราะเงินมีที่มาที่ไปชัดเจน อายัดได้ แต่มีค่าดอกเบี้ยเสียโอกาส 7.5% ----------------- ถ้ามองให้ลึก เงินจำนวนนี้เหมือนสมบัติต้องคำสาป เจ้าของถุกกลั่นแกล้งแย่งยึด คนเอาไปมีโอกาสต้องคำสาป ชั่วลูกชั่วหลาน อาจจะต้องรอให้มีใครมีอันเป็นไปแบบสยอง ๆ ก่อน ถึงจะยอมคาย ไม่ได้แช่งใครนะ จากคุณ : ชาติตระการ - [ 4 พ.ค. 52 07:47:20 A:58.8.74.175 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นไงครับ ยึดเงินได้ นอกจากได้หน้าแล้วประเทศได้ไรมั่งครับ... จากคุณ : มันตรัย2009 - [ 4 พ.ค. 52 07:48:35 A:124.120.118.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 หน่ายจริงๆกับพวกที่ยังไม่รู้เลยว่าเงินเจ็ดหมื่นหกพันล้านนั้นมันมีที่มาที่ไปยังไง จากคุณ : เกลอเก่า - [ 4 พ.ค. 52 08:02:24 A:125.24.192.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 คห.6 หน่ายจริงๆกับพวกที่ยังไม่รู้เลยว่าเงินเจ็ดหมื่นหกพันล้านนั้นมันมีที่มาที่ไปยังไง จากคุณ : เกลอเก่า ^ ^ ^  อย่าเพิ่งหน่าย เล่าให้ฟังหน่อยซิ เผื่อผมจะเปลี่ยนใจ จากคุณ : แก้วโค้งโล้ง - [ 4 พ.ค. 52 08:06:44 A:118.172.54.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องนี้ดูแล้วไม่น่ายากถ้ามันผิดชัดแจ้งจริง ๆ นักวิชาการนักกฏหมายไทยจบเนฯอังกฤษก็มี ด็อกเตอร์ก็ตั้งหลายคนนะ จริง ๆ คดีแบบนี้ไม่น่าเกิน 1 อาทิตย์ก็น่าจะเรียบร้อยมีหลักฐานทุกอย่างชัดเจนอธิบายข้อสงสัยได้ทุกข้อ ความล่าช้าแบบนี้ภาพกระบวนการยุติธรรมของไทยมันถึงดูอืดอาดยืดยาดเวลาคนมีปัญหาเขาถึงแก้ปัญหากันเองไม่รอกระบวนการยุติธรรมล่ะมั้ง จริงอยู่ถ้าทำไว แบบ 10 วันเสร็จอาจจะมีคนมองว่าใช้อำนาจ คมช. เพื่อดำเนินการ แต่หลักสำคัญไม่ใช่ตรงนั้นมันสำคัญที่ว่าผู้กระทำผิดกระทำผิดจริงใช่หรือไม่ ถ้าใช่หลักฐานการกระทำผิดก็ต้องมี เมื่อมีหลักฐานแค่เอามันออกมาใช้ก็สามารถอธิบายการกระทำผิดได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว ผมจึงเกิดความสงสัยว่าพวกนักวิชาการที่เรียนสูงๆ นี่เขามีความสามารถกันจริงๆ หรือเปล่า แค่คดีไม่กี่คดีใช้เวลาหลายปีแล้วยังไม่ค่อยจะได้เรื่องเลย มีคดีเดียวที่ได้เรื่องแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซะอีก จากคุณ : Autumn2reason - [ 4 พ.ค. 52 08:10:34 A:118.172.145.244 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 แบบเดียวกับ การบังคับคดี บ้านพระอาทิตย์ หรือเปล่า เพราะเท่าที่จำได้ กรมบังคับคดีกำลังจะไปยึดอยู่ไม่ใช่หรือ จากคุณ : คน72000 - [ 4 พ.ค. 52 08:24:48 A:125.24.141.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 คดีตอนนี้อยู่ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำลังอยู่ในระว่างการไต่สวนพยาน ทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และฝ่ายทักษิณ คดีนี้มีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า น่าจะตัดสินคดี ได้ภายในสิ้นปีนี้ จะจริงหรือไม่ต้องคอยดูต่อไป แต่ในคำฟ้องเท่าที่ทราบมา มีประมาณดังต่อไปนี้.... พ.ต.ท.ทักษิณ ในระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯ เดือน ก.พ. 2544 -มี.ค. 2548 ได้ปกปิดการถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,149,490,150 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จากคุณ : thyrocyte - [ 4 พ.ค. 52 09:32:03 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง แต่ใช้ชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ถือหุ้นแทน จำนวน 458,550,000 หุ้น น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว ถือหุ้นแทน จำนวน 604,600,000 หุ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ถือหุ้นแทน จำนวน 20 ล้านหุ้น และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน ถือหุ้นแทน จำนวน 336,340,150 หุ้น โดยที่บริษัทชินคอร์ป เป็นบริษัทได้รับสัมปทานกิจการโทรคมนาคมจากรัฐ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540, พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 32, 33 และ 100 ซึ่งมีความผิดอาญา มาตรา 119 และ 122 จากคุณ : thyrocyte - [ 4 พ.ค. 52 09:32:40 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่ง นายกฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ สั่งการ มอบนโยบาย ที่เป็นการเอื้อ  ประโยชน์แก่บริษัทชินคอร์ป และบริษัทในเครือเป็นจำนวนมาก คือ 1.แปลงค่าสัมปทานเป็นค่า  ภาษีสรรพสามิต 2.การแก้ไขสัญญาปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้าให้บริษัท เอไอเอส 3.การแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ใช้เครือข่ายร่วม (โรมมิ่ง) และให้หักค่าใช้จ่ายจากรายรับ และกรณีการปรับลดอัตราค่าใช้เครือข่ายรวมเป็นเหตุให้หุ้นมีมูลค่าสูงขึ้น 4.กรณี ละเว้น อนุมัติ ส่งเสริม สนับสนุนธุรกิจดาวเทียมตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศโดยมิชอบหลายกรณี ได้แก่ การอนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ 5.กรณีอนุมัติให้รัฐบาลสหภาพพม่ากู้เงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เพื่อนำไปซื้อสินค้าและบริการของบริษัทชินแซทเทิลไลท์ ที่ผู้ถูกกล่าวหาและครอบครัวชินวัตรกับพวกมีผลประโยชน์ถือหุ้นอยู่ จากคุณ : thyrocyte - [ 4 พ.ค. 52 09:33:28 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 นอกจากนี้ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายกฯ ได้เสนอแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549 เป็นผลให้บริษัทชินคอร์ป มีบุคคลต่างด้าวถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 50 โดย พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับ ใช้เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2549 และปรากฏว่าวันที่ 23 ม.ค. 2549 ก็ได้มีการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป จำนวน 1,149,490,150 หุ้น ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ของประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัท ซีดาร์โฮล ดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสแพนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล ต่างด้าวเป็นผู้ซื้อ เป็นจำนวนเงินสุทธิ 69,722,880,932.05 บาท จากคุณ : thyrocyte - [ 4 พ.ค. 52 09:34:11 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตั้งแต่ปี 2546-2548 บริษัทชินคอร์ป ได้จ่ายเงินปันผลตามหุ้นจำนวนดังกล่าวรวมเป็นเงินจำนวนทั้งหมด 6,898,722,129 บาท รวม เป็นเงินที่ได้รับจากหุ้นดังกล่าวทั้งหมดจำนวน 76,621,603,061.05 บาท เงิน จำนวนดังกล่าว จึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและ ประโยชน์ส่วนรวม และเป็นกรณีที่ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อันเป็นการร่ำรวยผิดปกติ จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สิน จำนวน 76,621,603,061.05 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 80 ****************************************************** เรื่องก็เป็นไปตามนี้แหละครับ อ่านสำนวนดูแล้วก็พิจารณากันเอาเองว่ามีมูลมากหรือน้อยเพียงไร แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 10:05:32 จากคุณ : thyrocyte - [ 4 พ.ค. 52 09:35:30 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก็ไม่เห็นมีไร d-tac true cp ก็มีนักการเมืองแอบอยู่ทั้งนั้น อย่าง ปรส. วัฒนา เทพเทือก ทำไมไม่ตามไปคุ้ยแคะมาเปิดโปงกันมั่งน้า ตรรกกะคือมีอำนาจก้ถูก พอหมดอำนาจก็ผิด ผู้ใหญ่ตีกัน2คน ชนะคือวีรบุรุษ แพ้คือ ทอราราด ลองจับ มท.แก้ผ้าดูดิมีอไรซุกอยู่มั่ง รอเค้าหมดอำนาจก่อนนะ คงแคะคนที่อยากจะแคะ ตามสมัยนิยมอะนะ เค้าสั่งมาแค่นี้คิดอะไรมากกว่านี้ไม่เป็นหรอก...สงสาร จากคุณ : มันตรัย2009 - [ 4 พ.ค. 52 10:09:57 A:124.120.125.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอถ้าขย้นลองอ่านดู http://sanpaworn.vissaventure.com/shin-corp-deal จากคุณ : ถ้าไม่เบื่อเรื่องเก่า (ป้าไม่ปลื้ม) - [ 4 พ.ค. 52 10:16:05 A:61.19.65.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยึดไปเลยครับ...กินโกงภาษี...มันคือเงินของรัฐ จากคุณ : betterone - [ 4 พ.ค. 52 12:06:30 A:124.120.21.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.14 "การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม" ไอ้ conflict of interest นี่แหล่ะตัวปัญหาเพราะ ออกโดยคำสั่งของคณะปฏิวัติ เพราะคนปฏิวัติเค้ารู้อยู่แล้วว่าถ้า"เล่นงาน"ทักษิณด้วยกฏหมายธรรมดาคงไม่ผิด จึงต้อง"วางยา"ด้วยการออกคำสั่งนี้แล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญที่มี "จรัญ ภักดีธนากุล" คุมอยู่ ออกมารับรองคำสั่งคณะปฏิวัติให้ชอบด้วยกฏหมาย และให้มีผลเป็นคุณ เป็นโทษย้อนหลังได้ เพราะฉะนั้นทุกคดีที่เข้าสู่กระบวนการศาลด้วยความชอบธรรมแล้ว คาดว่าทักษิณคงรอดทุกคดี แต่จะไปเข้าข่าย "conflict of interest" นี่ทุกคดี(ดูได้จากคดีที่ดินรัชดาได้) ไม่งั้นคนถูกฟ้อง(คุณหญิงอ้อ)ไม่ผิด แต่ทักษิณผิดติดคุก งงไหมหล่ะครับ? มองการเมืองถ้าไม่มองให้ครบทุกลูปก็จะเห็นแค่ด้านเดียว แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 14:00:39 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 13:57:23 จากคุณ : subzero - [ 4 พ.ค. 52 13:55:31 A:202.95.76.158 X: ]