จากความเดิมของคุณWinnie The PeeH ในกระทู้เดิมครับ
**********************************************************************************
ความคิดเห็นที่ 2
พื้นที่ต่อจากนี้ผมขอชี้แจงต่อเพื่อนสมาชิกที่ตอบหรือโต้แย้งในกระทู้เดิม
ตอบคุณ มหาชำร่วย (ยุคที่2..มหาReload) (จขกท.ที่เป็นแรงบันดาลใจต่อกระทู้ของผม)
ผมเข้าใจประเด็นที่คุณต้องการจะชี้ให้เห็นถึงการมีลักษณะ "เอกเทศ" ของเงินกู้ก้อนดังกล่าวว่าเป็นไปตามมาตรา 4 ของพรก. ที่ว่า "เงินที่ได้จากการกู้ตามมาตรา ๓ ให้นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการกู้โดยไม่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เว้นแต่คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้สมทบเป็นเงินคงคลัง"
ในความเห็นของผม ผมไม่ติดใจเรื่องการไม่นำส่งเงินคลัง เพราะการระบุถ้อยคำในกฎหมายลักษณะนี้ คือ การกำหนด "ข้อยกเว้น" ซึ่งสอดคล้องกับ "สถานภาพของพระราชกำหนด" ที่ต้องมี "เงื่อนไข" ที่เป็น "พิเศษ" กว่ากฎหมายอื่นที่มีศักดิ์ทางกฎหมายเท่าเทียมกัน ในที่นี้ คือ "พระราชบัญญัติ" ที่ออกมาบังคับใช้ในสถานการณ์ที่ "ปกติ" (ส่วนเรื่องความเป็น "สถานการณ์พิเศษ"นี้ รัฐบาลต้องชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญตามที่พรรคเพื่อไทยยื่นให้ตีความ)
แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วง คือ ถ้อยคำที่ว่า "...นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการกู้..." ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ใช้ถ้อยคำเพื่ออธิบาย "วัตถุประสงค์ในการกู้" กว้างเป็นมหาสมุทรตามมาตรา 3 ที่ว่า "...เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคง
ทางเศรษฐกิจของประเทศ..."
ซึ่งอาจถามต่อได้ว่า มาตรการเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศของรัฐบาลคืออะไร?
เรื่องนี้ผมยอมรับตรงไปตรงมาว่าไม่ทราบถึงรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวมีว่าอย่างไร ถ้ามีใครบอกผมได้จักเป็นพระคุณยิ่ง โดยเฉพาะเพื่อนสมาชิกในราชดำเนินที่ใกล้ชิดกับข้อมูล ก็ช่วยนำมาตรการดังกล่าวมาขยายให้ได้รับรู้กันด้วย เพราะผมคิดว่ามิได้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เอกสารติดชั้นความลับอะไร
แต่โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่า การกำหนดมาตรการที่ว่านี้ ตัวพรก.ก็ใช้ถ้อยคำปูพื้นรองรับไว้ว่าเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ตามส่วนหนึ่งในมาตรา 3 ที่ว่า "...โดยให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ต่อรัฐสภาเพื่อทราบก่อนเริ่มดำเนินการ..."
จึงไม่อาจตีความได้เป็นอื่นว่า "กรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนด" ซึ่งอยู่ใต้อำนาจการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีนั้น หมายถึง มาตรการหรือส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศใช่หรือไม่? (จะเรียกว่าเป็น Subset ของมาตรการดังกล่าวได้หรือไม่? เห็นจากกระทู้คุณ cambridge ใช้กัน แต่ผมไม่เก่งคณิตศาสตร์ เลยขอผ่าน)
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว การใช้่จ่ายเงินกู้นี้ก็มิได้ตกอยู่ภายใต้ระบบการตรวจสอบของใครได้เลย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระหว่างประเทศอย่าง IMF (เหมือนปี พ.ศ. 2541) ทั้งโดยประชาชนทั้งทางอ้อมผ่านรัฐสภา (เพราะรัฐสภามีหน้าที่ "รับทราบ") และทางตรง
ซึ่งแตกต่างจากการยกร่างพระราชบัญญัติงบประมาณแผ่นดิน พ.ศ. ... อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ปริมาณเงินกู้ในครั้งนี้มีขนาดใหญ่เป็น 1ใน4 ของงบประมาณต่อปีโดยประมาณ แต่การยกร่างงบประมาณแผ่นดินกลับต้องกระทำกันในกระบวนการทางนิติบัญญัติตามปกติ เพื่อให้มีการตรวจสอบที่มาที่ไปของแนวทางการนำเงินไปใช้และการกำหนดงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกัน
หากแต่การออกพรก.ดังกล่าวนี้กลับเลือกใช้ประโยชน์จาก "เงื่อนเวลา" เพื่อให้เกิด "เงื่อนไขเป็นพิเศษ" ที่ัรัฐบาลจะสามารถนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในการออกพระราชกำหนดกู้เงินดังกล่าวได้
แม้ว่าการตีความตามรัฐธรรมนูญจะระบุว่าพระราชกำหนดดังกล่าวนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญโดยมีองค์ประกอบครบถ้วนตามที่กำหนดโดยไม่มีปัญหาใดก็ตาม (เนื่องจากสถานการณ์มันล่วงเลยมาจนเป็นเหตุฉุกเฉินแล้ว) แต่การกระทำเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยง "ระเบียบทางการคลัง" โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้าง "ประเพณี" ในการออก "พระราชกำหนด" โดยอาศัยเงื่อนเวลาที่ล่วงเลยมาจนจวนเจียนจะเกิดเหตุการณ์อันไม่ปกติเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็น "สถานการณ์พิเศษหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน" เพื่อให้ฝ่ายบริหารหรือคณะรัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจออกกฎหมายอันเกี่ยวกับการก่อภาระหนี้สินสาธารณะได้โดยลำพัง ปราศจากการตรวจสอบจากฝ่ายใด การกระทำอย่างนี้จะเป็นการสร้าง "ประเพณีใหม่" ที่อันตรายของฝ่ายบริหาร
จากคุณ : Winnie The PeeH - [ 25 พ.ค. 52 10:24:47 A:202.28.27.6 X: ]
*****************************************************************************
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 52 10:16:46
จากคุณ :
ยุคที่2..มหาReload
- [
26 พ.ค. 52 10:15:24
A:124.120.138.214 X:
]