ภาคที่ 2
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=808368
ภาคที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7957871/P7957871.html
* กระทู้นี้มีเจตนาเพื่อที่จะ วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี การจัดทำ SWOT การจัดตั้ง Organization ของกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อเป็นมุมมองเชิงเปรียบเทียบ
ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ ดิฉันก็ขอกราบอภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------
ต่อจากตอนที่ 2
กะทิ : คือก่อนที่จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ (Strategy) เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์
ในการกำหนดยุทธศาสตร์จะต้องมีการวิเคราะห์ จุดแข็งและจุดอ่อนเสียก่อน โดยการประเมินตามความเป็นจริง
ห้ามเข้าข้างตัวเอง หรือมี อคติใดๆ ในการประเมิน เพื่อที่จะได้เห็นความจริงของสถานการณ์ให้มากที่สุด
ถ้าประเมินตัวเองสูงเกินจริง ก็แพ้ตั้งแต่ตอนประเมิน ถ้าคุณน้องจะสู้ คุณน้องต้องประเมินตัวเองตามความเป็นจริง
เวลาวางแผน แต่เวลาคุณน้องจะบอกมวลชน จะมาโฆษณาชวนเชื่ออะไร จะไปพูดอะไรก็ว่าไปได้
แต่ต้องรู้ว่าของจริงคุณน้องที่ประเมินไว้อยู่ในระดับไหน
เราจะประเมินจุดแข็งจุดอ่อน โดยเราใช้หลักการวิเคราะห์ SWOT
การวิเคราะห์ SWOT คือ
S: Strengths จุดแข็ง (ปัจจัยภายใน)
W: Weakness จุดอ่อน (ปัจจัยภายใน)
O: Opportunities โอกาสหรือช่องทาง (ปัจจัยภายนอกองค์การ)
T: Threats อุปสรรค หรือสิ่งที่คุกคาม (ปัจจัยภายนอก)
การประเมินต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ มากระทบ เช่นหลังจากที่เราทำยุทธวิธีของเรา
เราก็ประเมินเพื่อดูว่ามันได้ผลหรือไม่ ต้องปรับเปลี่ยนอะไรอีกไหม หรือหลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามออกมาเคลื่อนไหว
มีปัจจัยอะไรกระทบเราบ้าง ส่งผลบวก ผลลบ กับเราอย่างไร เราก็ประเมินอีกครั้ง
ทีนี้คุณน้องเรามาลองดูกันน่ะค่ะ พี่จะประเมินแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะค่ะ บนพื้นฐานความจริงตามหลักการค่ะ
SWOT ของ พธม.
S: Strengths จุดแข็ง (ปัจจัยภายใน)
1. มีทุนและผู้สนับสนุนที่มีอิทธิพลต่อทุกองค์กร สนับสนุนอย่างเต็มที่
2. ผู้นำมีความสามารถด้านสื่อสารมวลชน ด้านจิตวิทยามวลชน และด้านการจัดตั้งมวลชน
3. มีสื่อที่ดำเนินการสนับสนุน และเป็นช่องทางการสื่อสารกับมวลชน อย่างมีประสิทธิภาพ
4. มีการจัดการและบริหารที่เป็นระบบ
5. มีการประสานงานที่มีประสิทธิภาพทั้งภายในกลุ่มและ เครือข่ายแต่ละกลุ่ม
6. มีนักยุทธศาสตร์หลากหลายความคิด ไม่ว่าขวาหรือซ้ายเก่า ตำรวจ ข้าราชการ ทหาร
แกนนำสหภาพ สื่อสารมวลชน NGO นักการเมือง อดีตแกนนำนักศึกษา นักวิชาการ อาจารย์ ลัทธิทางศาสนา พระ
7. มีชนชั้นกลางและชนชั้นสูง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่สามารถชี้นำสังคม เป็นสมาชิก
8. มีกระบวนการการตัดสิน ที่ไม่อนุญาตให้วิจารณ์ได้ เป็นผู้ทำให้เป้าหมายบรรลุผลสำเร็จ
W: Weakness จุดอ่อน (ปัจจัยภายใน)
1. ไม่ได้ยืนบนหลักการประชาธิปไตยที่แท้จริง
2. บุคลากร กลุ่มที่สนับสนุน มีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน (มีความเกลียดชังทักซิโด้ เป็นจุดร่วมกัน) อาจส่งผลกระทบในอนาคต
3. จำนวนเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้ง มีไม่มากพอที่จะต้องการให้พรรคที่ตัวเองต้องการให้บริหาร เป็นรัฐบาลได้
4. สังคมมองว่าเป็นตัวการลากทหารมาสู่การรัฐประหาร สนับสนุนระบอบเผด็จการ
O: Opportunities โอกาสหรือช่องทาง (ปัจจัยภายนอกองค์การ)
1. ฝ่ายตรงข้าม ขยันทำงาน ขยันพูด ทำให้มีจุดที่สามารถ โจมตีได้เยอะ จากโครงการ จากการให้สัมภาษณ์
(ทำมาก ผิดมาก พูดมาก ช่องว่างเยอะ)
2. สังคมไทยมีลักษณะ เห่อทำตามกันเป็นแฟชั่น โดยไม่ทำความเข้าใจให้ท่องแท้ก่อนเข้าร่วม
(มีโอกาสในการโหมกระแสสื่อ เพื่อหาสมาชิกเพิ่ม)
T: Threats อุปสรรค หรือสิ่งที่คุกคาม (ปัจจัยภายนอก)
1. กลุ่มรากหญ้าผูกพันธ์กับทักซิโด้อย่างเหนียวแน่น ด้วยนโยบายที่ส่งผล เปลี่ยนแปลง ต่อ ชีวิตเขาให้ดีขึ้น
อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน (ส่งผลต่อการชักชวนมาเป็นพวก และการขยายมวลชน)
2. กลุ่มประชาธิปไตยฝ่ายตรงข้ามขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว
3. ภาค ศาสนาในระบบ ไม่ไว้วางใจ เนื่องจากมีกลุ่มลัทธิความเชื่อทางศาสนา กลุ่มหนึ่งเป็นสมาชิก
4. เสียงคัดค้านจากคนที่ได้รับผลกระทบทางยุทธวิธี มีมากขึ้น
หลังจากเราได้ SWOT แล้ว ทางฝั่งเราก็จะดำเนินการทำ TOWS Matrix ต่อค่ะ
TOWS Matrix เป็นการต่อยอดจาก SWOT ที่ได้เพื่อเป็นการกำหนด Strategy(กลยุทธ์) และ Tatics ของเราค่ะ
โดยมีแนวคิดดังนี้น่ะค่ะ
1. The WT Strategy (Mini-Mini): จะทำยังไงที่จะลดจุดด้อยและปัจจัยภายนอกที่จะมาคุกคามเราได้
2. The WO Strategy (Mini-Maxi): ลดข้อด้อยของเราโดยการใช้โอกาสจากภายนอก
3. The ST Strategy (Maxi-Mini): จุดแข็งของเราก็ทำให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อลดการคุกคามจากปัจจัยภายนอก
4. The SO Strategy (Maxi-Maxi): เอาจุดแข็งของเรามาทำให้โอกาสที่มีเพิ่มพูนมากขึ้น
เมื่อคิดได้แล้วเราก็วางแผนงานดำเนินการตามยุทธศาสตร์และ ยุทธวิธีที่ได้ไงล่ะค่ะ น้องวัลย์
น้องวัลย์: ทำไมมันยุ่งยากกันขนาดนี้ค่ะคุณพี่ ไม่เสียเวลาแย่เหรอค่ะ
กะทิ: น้องวัลย์รู้ไหมค่ะ ทำไมเสื้อแดงถึงไม่เคยชนะ สักครั้งเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
เสื้อแดงถ้าเป็นนักมวย ก็ได้แค่ประคองตัวเท่านั้น โดนชกจนน่วมไปหมด เพราะเดินเปิดหน้าไปให้เขาชก
ที่ยืนได้เพราะกองเชียร์ที่เหนียวแน่น การชกแบบมวยวัดแบบนี้ ชนะยากน่ะค่ะ จะหวังลูกฟลุกก็คงลำบาก
กรรมการเองก็อยู่ข้างพี่ ชกไม่รอบคอบแบบนี้ ฝ่ายพี่ทุบน่วมเลยค่ะ
การทำโครงการใหญ่ๆ จำเป็นอย่างยิ่งต้องวางแผนให้รัดกุม ขนาดทางฝั่งพี่มีกำลังสนับสนุนทุกฝ่าย มีอำนาจในมือ
พวกพี่ยังจำเป็นต้องวางแผนกันเลยนะค่ะ เพื่อได้บริหารจัดการและขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบได้บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
สำหรับ น้องวัลย์ ยิ่งสมควรทำให้แผนให้ละเอียด รอบคอบ และคิดมากๆ หลายๆ ชั้นมากกว่าพี่อีกน่ะค่ะ เพราะน้องวัลย์มีแต่กองเชียร์เป็นพวก
น้องวัลย์:อืมมม ค่ะ
กะทิ: ทีนี้มาดูกันว่า ทำไม พี่ถึงว่า ยุทธวิธีในการ ยึดทำเนียบ ในการยึดสนามบิน เป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมในเวลานั้น
ก่อนอื่น พี่ต้องอธิบายก่อนนะค่ะ พี่ไม่เคยบอกว่า การยึดทำเนียบ การยึดสนามบิน เป็นสิ่งที่ถูกต้องน่ะค่ะ น้องวัลย์ลองนึกดูดีๆ ซิค่ะ
พี่ไม่เคยพูดว่าถูกต้องเลยน่ะค่ะ
ต่อใน คห.1
แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 11:47:28
จากคุณ :
ความทุกข์ของกะทิ
- [
12 มิ.ย. 52 11:45:57
A:58.9.25.159 X:
]