ความคิดเห็นที่ 1 อืมนั่นสิ รอดูด้วยคนดีกว่า จากคุณ : dada23 - [ 12 มิ.ย. 52 16:45:12 A:192.168.1.175 X:112.142.122.117 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ว๊า...........ไปรบกวนเขาอีกแล้ว แต่ถ้ามาตอบ  ก็จะมาดูครับ เพราะถ้าไม่ตั้งกระทู้แบบนี้  ท่านทั้งสองมักจะหลีกเลี่ยงไม่เข้ามาตอบ หากไม่มาตอบ ก็ไม่มีทางรู้ได้ อยากรู้เหมือนกันว่า..........คิดอะไรอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จากคุณ : เรารักเมืองไทยเหมือนกัน - [ 12 มิ.ย. 52 16:56:59 A:124.120.85.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 กระทู้น่าสนใจ ขอปูเสื่อนั่งรอนะครับ จากคุณ : หนานเมือง - [ 12 มิ.ย. 52 17:00:15 A:202.28.24.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาจองที่แล้วจ้า เบียดกันหน่อย รอคุณthyrocyteและคุณcambridge จากคุณ : cuti3b - [ 12 มิ.ย. 52 17:10:20 A:124.121.20.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าลืมว่า บ้านเมืองเราตอนนั้นปกครองด้วยระบอบอะไร... บ้านเมืองมีขื่อมีแปรึเปล่า... จากคุณ : SaVor - [ 12 มิ.ย. 52 17:17:20 A:124.120.11.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารอด้วยคนค่ะ จะออกข้อสอบเปล่าแบบนี้อ่ะ จากคุณ : กระถินกรอบ - [ 12 มิ.ย. 52 17:18:22 A:203.151.12.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะเข้ามาหรือเปล่ายังไม่รู้เลยครับ  ช่วงนี้โดนบี้หนักบ่อยๆ  ๕๕๕ จากคุณ : ระดับเทพ (อ้ายน้อย) - [ 12 มิ.ย. 52 17:33:13 A:202.129.32.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณthyrocyteและคุณcambridge ไม่เห็นตอบคห. ผมในกระทู้นี้เลยครับ คห.ที่ 31 กับ 37 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7964545/P7964545.html เห็นท่านมีข้อมูลเชิงลึก เผื่อจะได้อะไรกับท่านบ้าง คือหนุ่มฝั่งธนฯ เข้ามาที่นี่ไม่ใช่มาเพื่อสนุก แต่ด้วยเพราะเรียกร้องสิทธิ์(ความมั่นคง) ที่ประชาชนทุกคนควรรักษาไว้ ไม่ได้มีเจตนามาลบหรู่หรือ ขัดแย้งท่าน จากคุณ : หนุ่มฝั่งธนฯV2 - [ 12 มิ.ย. 52 17:34:02 A:58.9.46.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความจริง ข้อนี้ไม่อยากตอบเลย เพราะ ถกเถียงกันมากให้หมู่นักกฎหมาย แต่ขอ ยกฎีกามาให้พิจารณา แล้วกัน ส่วนความเห็นแล้วแต่ดุลพินิจของผุ้อ่าน ฎีกา ปี 49 จำหมายเลขไม่ได้" หากกฎหมายที่บัญญัติภายหลังมีส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดและมีโทษทางอาญาก็ให้มีผลย้อนหลังได้ แต่ หากกฎหมายที่บัญญัติภายหลังแม้จะมีส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด แต่ถ้ามิใช่โทษทางอาญา จำต้องบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าให้มีผลย้อนหลังได้ " คำ วินิจฉัยค.ป.ค.ส่วนที่ว่า "ประเด็นการบังคับใช้ประกาศ "คปค.ฉบับที่ 27" ซึ่งมีผลย้อนหลังได้ เหตุเนื่องจากคดีนี้ไม่ใช่การพิจารณาคดีที่มีโทษทางอาญา" จากคุณ : izax.man เอามาให้อ่านระหว่างรอค่ะ ว่าห้องนี้มีคนถามตอบไปหลายรอบแล้ว ถ้าอยากรู้เรื่องนี้จริงๆ อย่าไปรบกวนคนอื่นเลย รบกวนตัวเองลอง search หาดูก็ได้ มีเป็น 100 หัวข้อให้อ่าน ^_^ จากคุณ : jezebel - [ 12 มิ.ย. 52 17:50:23 A:58.10.155.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 คำ วินิจฉัยค.ป.ค.ส่วนที่ว่า "ประเด็นการบังคับใช้ประกาศ "คปค.ฉบับที่ 27" ซึ่งมีผลย้อนหลังได้ เหตุเนื่องจากคดีนี้ไม่ใช่การพิจารณาคดีที่มีโทษทางอาญา" ................................................................................................. ถาม ...jezebel  ^ ^ ^ 1.เป็น ครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ของขบวนการยุติธรรมไทย  ใช่ หรือ ไม่ ? ที่มีการตัดสินคดี ให้ กฎหมาย(ประกาศ คปค.27) มีผลย้อนหลังได้ 2.หน้าด้านหรือไม่ ? กับการอ้าง ว่าย้อนหลัง ได้เพราะไม่มีโทษทางอาญา แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 18:26:30 จากคุณ : อาหนวด - [ 12 มิ.ย. 52 18:25:20 A:124.120.125.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบ 1. ไม่ทราบค่ะ 2. ไม่ขอออกความเห็นค่ะ  แต่คาดว่า คนถามคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ^_^ จากคุณ : jezebel - [ 12 มิ.ย. 52 18:32:45 A:58.10.155.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องนี้ไม่รู้เป็นไง  เรามองไปที่เจตนาของคนที่ออกกฏหมายทุกที ว่ามีเจตนาออกกฏหมายเพื่อเอาผิดเฉพาะเจาะจงรายบุคคล  แตกต่างจากการออกกฏหมายปกติทั่วไป ขอที่นั่งนิดนะคะ  มารอฟังด้วยคน จากคุณ : น้ำมิตร - [ 12 มิ.ย. 52 18:33:39 A:58.137.113.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คห. 4 cuti3b อย่าบังจิ ก้มหัวลงหน่อย... คริคริ ท่านทั้งสอง เรตติ้งดีจังช่วงนี้ เราว่า คงกำลงเดินทางกลับบ้านอยู่น่ะ เดี๋ยวคงถึงบ้านราวๆ สองทุ่มครึ่งสามทุ่ม.... แล้วคงเข้ามาตอบพร้อมๆ กัน น่ะแหละ เอ๊ะลืมไป อีกคนอยู่เยอรมันนี่... จากคุณ : SassyKate - [ 12 มิ.ย. 52 18:43:21 A:202.47.224.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากตอบ... แต่ขอฟังก่อนละ กัน อิอิ จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก - [ 12 มิ.ย. 52 18:51:02 A:58.9.65.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบเหมือนหลายคำถาม แต่ก็อาจตอบได้แบบไม่สู้เต็มหน้าเท่าไหร่ ทนายเก่งๆรูเล็กๆก็ลอดได้ จากคุณ : CSI SAIMAI - [ 12 มิ.ย. 52 19:02:12 A:124.121.129.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 จากคห.9 ข้อความที่คุณjezebelยกมานั้น ผมก็ว่ามีเหตุผลดีเหมือนกัน และผมก็เชื่อว่า กฏหมายนี้อาจจะ(ย้ำนะครับ อาจจะ)สามารถย้อนหลังได้ แต่ผมก็ดันสงสัยอีกว่า 1.นี้เป็นcaseแรกในเมืองไทยรึเปล่า 2.ถ้าไม่ใช่กรณีนี้ กฏหมายซึ่งไม่ใช่กฏหมายอาญาสามารถมีผลย้อนหลังได้หรือไม่ ส่วนที่มีคนพูดว่า เป็นกฏหมายที่เล่นงานคนๆเดียว ผมไม่ขอพูดในประเด็นนี้นะครับ เพราะก็น่าจะรู้ๆกันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมอยากรอคำตอบจากทั้ง2ท่านมากกว่าครับ ปล.ผมยังไม่มีคำตอบในใจนะครับ จากคุณ : Sernmath - [ 12 มิ.ย. 52 19:15:07 A:125.25.121.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 นี่เด็ก ๆ คห. 12    13   14 อย่าเจี๊ยวจ๊าวนัก   เด๋วมีปลด จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 19:23:06 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาเบียดคุณcuti3bและคุณSassyKateด้วยน๊าอิอิยังไม่เห็นมาเลย จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 19:23:58 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 กฏหมายที่ห้ามใช้ย้อนหลังคือกฏหมายที่มีการลงโทษทางอาญาที่ให้ลงโทษหนักกว่าเดิมครับ ส่วนกฏหมายอื่นสามารถใช้ย้อนหลังไปยังวันกระทำความผิดได้ เช่น -กฏหมายอาญาในส่วนที่เป้นคุณต่อผู้กระทำความผิด สามารถนำมาใช้ย้อนหลังให้ผู้กระทำความผิดได้ -กฏหมายว่าด้วยวิธีเกี่ยวกับความปลอดภัย ให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในขณะที่ศาลพิพากษา โดยมิต้อง คำนึกงว่าการกระทผิด ได้เกิดก่อนกฏหมายวิธีว่าด้วยความปลอดภัยจะออกมาครับ -กฏหมายวิธีสบัญญัตติทั้งหลาย สามารถใช้ย้อนหลังได้ กฏหมายพวกนี้ได้แก่กฏหมายที่กำนดเกี่ยวกับ ขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ ของขบวนการยุติธรรม เช่น ประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นต้น รวมถึงกฏหมายอาญาในส่วนที่เป็นลักษณะวิธีสบัญญัติ เช่น หมวดที่ว่าด้วยเรื่องอายุความ หากมีการแก้กฏหมายนี้ สมมุติเช่นให้อายุความหลังมีคำพิพากษาสำหรับจะเลยที่ยังไม่ได้รับโทษกลาย เป็นไม่มีอายุความ นั้นคือ แม้จะเลยจะหนีคดีไปนานเท่าไร ก็ยังนำตัวมาลงโทษได้เสมอเป็นต้น จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 19:45:12 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ห้ามไว้นั้นมีแต่กฏหมายอาญาส่วนที่เป็นโทษทางอาญาจึงย้อนหลังไม่ได้ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 19:50:45 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 กฏหมายที่ว่าด้วยวิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นย้อนหลัง นั้นคือศาลสั่งใช้กฏฆมายวิธีการเกี่ยวกับความปลอดภัย โดยใช้กฏฆมายที่มีอยู่ในวันที่ศาลตัดสิน ไม่ได้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่กระทำความผิด วิธีการเพื่อความปลอดภัยได้แก่ -ห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง -ห้ามเข้าไปในสถานที่บางแห่ง -การเรียกประกันทัณท์บน-ฯลฯ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 19:55:47 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 กฏหมายที่เกี่ยวโทษทางอาญาไม่ว่าจะมาจากประมวลกฏหมายอาญาก็ดี หรือมาจากพรบ. หรือพรก.ใด ก็ดี จะหมายถึงโทษต่อไปนี้ ที่ห้ามย้อนหลัง แต่ให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในขณะกระทำผิด ปอ.มาตรา ๑๘  โทษอาญาได้แก่                   (๑) ประหารชีวิต                   (๒) จำคุก                   (๓) กักขัง                   (๔) ปรับ                   (๕) ริบทรัพย์สิน จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 19:58:03 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยังงงอยู่ช่วยขยายความให้เข้าใจหน่อยน๊าจ๊ะท่านทนาย จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 19:58:53 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ้าว  มารวมกันอยู่นี่เอง  รอวิทยากรดังทั้งสอง คงนานหน่อย อย่ากระนั้นเลย  ยกขันโตกของคุณพิงค์นคร  มาเปิบระหว่างรอ ดีฝ่า คุณพิงค์นคร  น้องพรผู้น่ารัก  น้ำมิตร  SassyKate  คุณ cuti3b ล้อมวงเข้ามา อ้าว ที่เต็มซะแร้ว  หนุ่มๆไปตั้งวงกันใหม่เอง แล้วกันนะจ๊ะ  อิอิ จากคุณ : กาแฟดำขม - [ 12 มิ.ย. 52 19:59:05 A:125.27.91.189 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 เวงกำ....วิทยากรมาเร็วจัง จากคุณ : กาแฟดำขม - [ 12 มิ.ย. 52 20:00:02 A:125.27.91.189 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาตรา ๑๒ วิธีการเพื่อความปลอดภัยจะใช้บังคับแก่บุคคลใดได้ก็ต่อเมื่อมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ใช้บังคับได้เท่านั้น และกฎหมายที่จะใช้บังคับนั้น ให้ใช้กฎหมายในขณะที่ศาลพิพากษา นั้นคือไม่ได้ให้ใช้กฏหมายที่ขณะที่จำเลยกระทำความผิด จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:00:37 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 โอเคครับ คุณthyrocyteมาตอบแล้ว แต่ว่าการตัดสิทธิ์ทางการเมือง5ปี เป็นการกระทำเพื่อวิธีการทางความปลอดภัยตรงไหนครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:05:40 จากคุณ : Sernmath - [ 12 มิ.ย. 52 20:01:09 A:125.25.154.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 วิธีการเพื่อความปลอดภัยโดยละเอียดจะมีลักษณะดังนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:02:58 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 25 เวงกำ....วิทยากรมาเร็วจัง จากคุณ : กาแฟดำขม ----------------------------------------- เลยมะได้กินเยยยมะเป็งรายยยฟังท่านทนายก่อนก็ได้ เน๊อะเดี๋ยวเรามาลุยกันทีหลังก็ได้จ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:03:41 จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 20:03:11 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอม... ท้องร่วงเป็นพวงเป็นพุก  กินแล้วจุกทุกข์นอนไม่หลับ  กินแล้วปวดตับจับไข้  กินแล้วพุงใหญ่ยุบไม่ลง  กินแล้วหลง...รักหล่อขวัญ เพี้ยงงงงงงงงงงงง............. จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 20:04:11 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 กรณียุบพรรคทรท.นั้น ใช้บทบัญญัติของพรบ.พรรคการเมือง 2541 ครับ ส่วนการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค นั้นใช้อำนาจของประกาศ คปค.ครับ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย คือ เข้าลักษณะการห้าม ประกอบอาชีพบางอย่าง จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:04:32 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 เค้าถามเกี่ยวกับการเมืองดันยกกฏหมายก่อสร้างมาตอบ เหอะๆๆๆๆ ความคิดเห็นที่ 21 กฏหมายที่ว่าด้วยวิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นย้อนหลัง นั้นคือศาลสั่งใช้กฏฆมายวิธีการเกี่ยวกับความปลอดภัย โดยใช้กฏฆมายที่มีอยู่ในวันที่ศาลตัดสิน ไม่ได้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่กระทำความผิด วิธีการเพื่อความปลอดภัยได้แก่ -ห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง -ห้ามเข้าไปในสถานที่บางแห่ง -การเรียกประกันทัณท์บน-ฯลฯ     จากคุณ : thyrocyte   - [ 12 มิ.ย. 52 19:55:47 A:124.121.35.67 X: แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:07:12 จากคุณ : jeeta09 - [ 12 มิ.ย. 52 20:06:15 A:124.121.55.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 การกำหนดห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส หรือ สว. จึงไม่ใช่การลงโทษทางอาญา แต่เป็นกฏหมายวิธีการเพื่อควมปลอดภัยอย่างหนึ่ง จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:12:38 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 31   กรณียุบพรรคทรท.นั้น ใช้บทบัญญัติของพรบ.พรรคการเมือง 2541 ครับ ส่วนการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค นั้นใช้อำนาจของประกาศ คปค.ครับ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย คือ เข้าลักษณะการห้าม ประกอบอาชีพบางอย่าง จากคุณ : thyrocyte   - [ 12 มิ.ย. 52 20:04:32 A:124.121.35.67 X: ] ............................................................................................... คือ เข้าลักษณะการห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง หล่อมึน   ยุบพรรคเพราะกรรมการบริหารพรรคทำผิด  ตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค   เข้าลักษณะการห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง   ง่ะ  งง จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 20:13:46 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 thy มาเองจริงๆด้วย  ^_^ จากคุณ : jezebel - [ 12 มิ.ย. 52 20:15:24 A:58.10.155.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดังนั้น หลักกฏหมายที่ว่า กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในขณะที่ศาลทำการพิพากษา จึงต้องตรงกับ การที่ศาลใช้ประกาศคปค.ฉบับที่ 27 ฐึ่งเป็นกฏฆมายเกี่ยวกับวิธีเพื่อความปลอดภัย ที่มีอยู่ในวันที่ศาลได้ทำ การพิพากษานั้นเอง จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:17:18 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 อุ้ย!!!!!!!!! แทงใจดำจังเลย   พอดีหนังสือหายตอนเรียน  กะเปื่อยตอนสอบ รับลองขอฉันแถอย่างเดียว หนูไม่รู้หนูมาวๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:19:26 จากคุณ : Cocoa_za - [ 12 มิ.ย. 52 20:18:38 A:222.123.186.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ : Sernmath ผมได้ตอบคำถามของคุณแล้วนะครับ อันทีจริงเรื่องนี้ถกกันมานานแล้ว จนเลิกถกกันไปนานแล้ว ไม่ทราบตอนนี้มีเหตุการณ์อันใดหรือครับ จึงสนใจประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะหากจขกท.อยากจะได้ข้อยุติ ผมบอกได้ เลยว่า เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะได้ข้อยุติ เพราะคนที่ไม่ยอมจะเชื่อตามตรรกที่ได้ไล่เรียงมาให้ฟังทั้งหมดนั้น จะ อย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อ เสียเวลาที่จะมาเถียงกันเป็นรอบที่สามร้อยยี่สิบหกนะผมว่า ผมจึงประมวลนำหลักฏหมายมาให้ดูตามที่จขกท.ตั้งกระทู้ขึ้นมา ตกลงว่าจขกท.หรือสมาชิกจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุด แท้แต่ครับ แต่นั้นเป็นที่มาของกฏหมายย้อนหลังได้จริงๆ คำพูดที่ว่ากฏหมายย้อนหลัวไม่ได้จึงต้องเข้าใจให้ดีว่า เขาหมายถึงโทษทางอาญา ที่จะทำให้จำเลยรับโทษหนักขึ้นเท่านั้น ที่ห้ามย้อนหลังครับผม จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:26:08 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 งั้นผมก็ขอถามหน่อยครับ การเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เกี่ยวข้องกับการห้ามประกอบอาชีพตรงไหนครับ? มันเป็นแค่การเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและสิทธิ์ทางการเมือง แต่หลังจากนั้น ทั้งทักษิณ และสมาชิกบ้านเลขที่111 บางคน ยังคงมีบทบาททางการเมือง และยังคงเป็น นักการเมือง อยู่ (สังเกตุว่าเขาจับจ้องคนๆนั้นด้วยเรื่องทางการเมือง หาใช่เรื่องอื่นๆ) ดังนั้น มันจึงไม่เข้าข่ายการห้ามประกอบอาชีพ และมาตรา12 ที่คุณthyrocyte ยกมาก็นำมาใช้ไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Sernmath - [ 12 มิ.ย. 52 20:30:42 A:125.25.123.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 เรื่อง การแก้ไขคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2549  ข้อ 3.ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นที่ทำหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดเพราะเหตุกระทำตามต้องห้ามตามราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองพุทธศักราช 2541 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นมีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค ................................................................................................. ไม่เกี่ยวกับอ้อยกับจุ๋มอะไรเลย มันเกี่ยวกับประกาศ คปค. ฉบับ 27  เท่านั้นเอง ที่เขียนขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทำลายหลักกฎหมายบ้านเมืองระเนนระนาด แถไปได้ตาใส ๆ จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 20:33:24 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ยกทั้งฎีกาน่าจะดีกว่า อย่าเอามาบางส่วน พรบ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จากคุณ : FMEA - [ 12 มิ.ย. 52 20:38:28 A:58.64.73.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 รื้อถอนอาคาร อันเป็นอันตรายต่อชีวิต   ยุบพรรคการเมือง เป็นอันตรายต่อชีวิต ตรงไหน จากคุณ : FMEA - [ 12 มิ.ย. 52 20:48:17 A:58.64.73.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 งั้นผมก็ขอถามหน่อยครับ การเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เกี่ยวข้องกับการห้ามประกอบอาชีพตรงไหนครับ? มันเป็นแค่การเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและสิทธิ์ทางการเมือง แต่หลังจากนั้น ทั้งทักษิณ และสมาชิกบ้านเลขที่111 บางคน ยังคงมีบทบาททางการเมือง และยังคงเป็น นักการเมือง อยู่ (สังเกตุว่าเขาจับจ้องคนๆนั้นด้วยเรื่องทางการเมือง หาใช่เรื่องอื่นๆ) ดังนั้น มันจึงไม่เข้าข่ายการห้ามประกอบอาชีพ และมาตรา12 ที่คุณthyrocyte ยกมาก็นำมาใช้ไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Sernmath ----------------------------------------------------------------------------- อ๋อหรือครับ เอ แล้วตกลงการห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งนี้เป็นโทษทางอาญาหรือครับ ปล.เห็นมีสมาชิกประเภทไอคิวน้อยๆ บางท่านเข้ามาใช้คำไม่เหมาะสมอีกแล้ว วันก่อนห้าแต้มเรื่องตามผู้เชี่ยวชาญ มาตอนสี่ทุ่ม ไม่ทราบผู้เชี่ยวชาญมาถึงหรือยังครับท่าน จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:52:05 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 42   รื้อถอนอาคาร อันเป็นอันตรายต่อชีวิต   ยุบพรรคการเมือง เป็นอันตรายต่อชีวิต ตรงไหน จากคุณ : FMEA ---------------------------------------------------------------------- เรื่องฏีกานั้นเป็นการยกเรื่องการย้อนหลังของกฏหมายครับคุณ ว่ากฏหมายวิธีสบัญญัติน้อนหลังได้ จขกท.เขาตั้งหัวกระทู้ว่า"เรื่องกฏหมายย้อนหบลังได้?" ไม่ทราบว่าคุณได้เห็นหรือไม่ครับ ฏีกานั้น เป็นเพียงตีวอย่างของการใช้กฏหมายย้อนหลัง คุณอย่าหมกหมุ่นเรื่องยุบพรรคเรื่องเดียวสิครับ หัดมองโลกให้กว้างๆบาง การน้อนหลังของกฏหมายนะผมสรุปให้ไว้แล้วว่ามี -กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ -กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค -กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. กฏหมายกลุ่มนี้ย้อนหลังได้ อันนี้เป็นคำตอบต่อคำถามที่จขกท.ยกมาถามนะครับ อย่าหมกหมุ่นแต่เรื่องยุบพรรคและฏีกานะเข่าเป็นแค่ตัวอย่างให้ดู ครับคุณ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:01:33 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 20:59:18 จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 20:57:48 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผ่านไป 1 ชั่วโมง คู่หูไม่มา ไอพีไม่กระโดด เห็นบอกจะโชว์เปลี่ยนไอพีกระฉูดนี่นา นั่งเสื้อรอดูเลยไม่หนุกเท่าไหร่... ขอไปดูลำตัดก่อนนะจ๊ะ เด๋วมาดูต่อ... จากคุณ : hairmaster - [ 12 มิ.ย. 52 20:57:49 A:124.120.50.183 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 43 ปล.เห็นมีสมาชิกประเภทไอคิวน้อยๆ บางท่านเข้ามาใช้คำไม่เหมาะสมอีกแล้ว วันก่อนห้าแต้มเรื่องตามผู้เชี่ยวชาญ มาตอนสี่ทุ่ม ไม่ทราบผู้เชี่ยวชาญมาถึงหรือยังครับท่าน จากคุณ : thyrocyte   - [ 12 มิ.ย. 52 20:52:05 A:124.121.35.67 X: ] ................................................................................................ ขอยกมาจากทู้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7960780/P7960780.html พอดีผู้เชี่ยวชาญคนนี้เกิดเป็นลมชักกระตุกน้ำลายฟูมปากกระทันหันครับ  เลยไม่ได้เข้ามาโพสต์  อาการถึงตอนนี้ก็ยังชักไม่หายครับ ผมขอเล่าอาการให้ฟังอย่างไม่ต้องตีความให้ยาก ดังนี้ครับ กระดูกสีข้างหักไปหลายซี่ครับ  อันเนื่องมาจากอาการชักกระตุกและดิ้นมั่วจนชนดะโครมครามไปหมด แต่ตอนนี้อาการชักและดิ้นก็ทุเลาลงแล้วครับ  อาจเพราะชักและดิ้นได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง  พูดง่าย ๆ ก็คือชักและดิ้นได้ถูกท่าถูกทางมากขึ้น  ไม่ชักและดิ้นลนลานเหมือนเมื่อตอนอาการกำเริบแรก ๆ ครับ หมอแนะนำว่าให้เลิกดิ้น  เพราะยิ่งดิ้นยิ่งทำให้อาการชักกระตุกเห็นได้ชัดครับ ไม่รู้เขาจะทำตามหมอแนะนำหรือเปล่าไม่รู้ครับ ผมเลยได้แค่มองดูอย่างขำ ๆ  ปนสมเพช ตอนนี้ผมก็เลยเฝ้าดูอาการอยู่ห่าง ๆ ครับ  ถ้าเลิกดิ้นก็คงหายได้แบบมีแผลเหวอะหวะบ้างตามสมควรแก่เหตุ  แต่ถ้าไม่เลิกดิ้น  ผมก็คงส่งขึ้นเมรุอย่างที่เคยบอกไว้แล้วนั่นแหละครับ แต่คุณน้ำมิตรไม่ต้องเป็นห่วงมากนะครับ  ผู้เชี่ยวชาญของผมมีผิวเปลือกนอกที่หนาจนเกือบจะเป็นเกล็ดปลา  ทนทานยิ่งครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 21:00:18 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมขอถามท่าน จขกท.บางนะครับ จะได้เท่าเทียมกัน.... การตัดสิทธิไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.หรือสว.เป็นโทษทางอาญาหรือไม่ครับ เป็นโทษอาญาหรือไม่ครับ  กรุณาตอบด้วยครับ (หวังว่าจขกท.คงไม่ได้ตั้งกระทู้แล้วหนีหายไปนะครับ เดี๋ยวจะส่อเจตนาว่า เอ..ตั้งกระทู้เพื่อจุดประสงค์อะไร)         แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:06:25 จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 21:05:46 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 อุ๊ยยิ่งอ่านยิ่งงงไปกินข้าวก่อนสงสัยหิวจนตาลายอิอิเดี๋ยวมานะจ๊ะ ติดตามต่อจ้า จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 21:07:56 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมว่าคุณthyrocyte ต้องการสื่อว่า 1.กฏหมายย้อนหลังสามารถย้อนหลังได้(จริงๆนะ) 2.ดังนั้น ประกาศคปค.ก็สามารถย้อนหลังได้เช่นกัน และนำมาซึ่ง 3.มาตรา12 ที่คุณใช้อ้างว่าป็นวิธีการทางความปลอดภัย แต่ผมเห็นว่า 1.การตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่ใช่วิธีการทางความปลอดภัย 2.ดังนั้นประกาศคปค.มันจึงไม่เกี่ยวกับวิธีการทางความปลอดภัยเลย แล้วจะนำมาใช้ย้อนหลังได้อย่างไร ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : Sernmath - [ 12 มิ.ย. 52 21:08:17 A:125.25.123.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ไหว  หล่อเผ่นดีกว่า นึกว่าจะได้วิชาความรู้อะไรบ้าง ดันเห็นแต่วิชาแถ  เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น   ไปก่อนนะเดะ ๆ  คห. 12    13    14 จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 21:09:12 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 โอเคครับ การตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่ใช่โทษทางอาญา แต่ถ้าไม่เป็นโทษทางอาญา หมายความว่าย้อนหลังได้ทุกกฏหมายที่ไม่ใช่กฏหมายอาญาหรือครับ คุณเองก็บอกนี่ครับ ว่าวิธีทางความปลอดภัยสามารถย้อนหลังได้ แต่ผมก็บอกแล้วว่ามันไม่ใช่วิธีทางความปลอดภัยนี่ครับ จากคุณ : Sernmath - [ 12 มิ.ย. 52 21:15:17 A:125.25.123.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาแอบกินอะไรกันแถวนี้จ้ะ มาช้าไปหน่อย กับข้าวหมดรึยัง คุณพิงค์เอามาเพิ่มด่วน หิวๆๆๆ อิอิ คุณ sassykate พี่กาแฟ อิ่มไปรึยัง เดี๋ยวตามอ่านของท่าน thyrocyte ก่อน กำลังงง เดี๋ยวขอไปอ่านละเอียดๆ ก่อนนะ เดี๋ยวมาแจมอีกทีค่ะ จากคุณ : cuti3b - [ 12 มิ.ย. 52 21:20:37 A:124.122.236.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ครับ นั้นแหละผมถึงว่าว่าคุยเรื่องนี้กันไปอย่างไรก็ไม่ยุติ เมื่อคุณตั้งกระทู้ขึ้นมา ผมก็เข้ามาตอบให้ แต่ก็รู้สึกยินดีที่เมื่อถามกลับ จขกท.ก็ตอบกลับมาด้วยดี นับว่ามีสปิริตที่ดีครับ ต่างกับสมาชิกที่บางคนที่ทำห้าแต้มมา หลายกระทู้ในช่วงสองสามวันมานี้มาก ไอคิวก็น้อยแถม มารยาทถือได้ว่าค่อนข้างจะต่ำๆ ด้วย แทนที่จะถกกันด้วยสาระ โพสต์ออกแนวชวนทะเลาะเช่นเคย ไม่ทราบเพิ่งหลุดมาจากโรงพักหรืออย่างไร จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 21:22:01 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตามหลักนิติรัฐ “ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ ถ้าไม่มีกฎหมาย” เป็นหลักประกันความไว้เนื้อเชื่อใจของราษฎรต่อการใช้อำนาจนิติบัญญัติ ประกาศ คปค. ฉบับที่ 27 ที่มุ่งหวังให้มีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองเกิดขึ้นภายหลังระหว่างพิจารณาคดียุบพรรค จึงไม่ใช่เพียงแต่เป็นการออกกฎหมายย้อนหลังที่ขัดต่อหลักนิติธรรม (The Rule of Law) เท่านั้น แต่เป็นบทบัญญัติที่ออกมาในลักษณะเจาะจงที่จะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคด้วย มีลักษณะไม่ต่างไปจากการตั้งศาลขึ้นมาใหม่เพื่อพิจารณาคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ถือว่าขัดต่อธรรมเนียมประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่มีผลต่อการกระทำของพรรคการเมืองก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 แม้จะให้ยุบพรรคการเมือง หากมีความจำเป็นต้องตีความย้อนหลัง ก็ควรจะมีผลเอาผิดเฉพาะกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่กระทำความผิดเท่านั้น จากคุณ : coles - [ 12 มิ.ย. 52 21:22:02 A:115.128.25.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอาละครับผมขอถกเพียงหอมปากหอมคอเท่านี้ เพราะขอเบรคดูยูบีซีบ้าง เสร็จแล้วขอไปดูกระทู้อื่นๆบ้าง หากใครอยากทราบความเห็นผม กรุณาไปค้นในคลังกระทู้เก่าดีกว่ามาถามซ้ำครับ ในนั้นน่าจะมีอยู่พอควร ไปก่อนละครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 21:23:49 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 มาส่งตามคำขอของคุณcuti3b นะคะ เอาเป็นข้าวหนึงกะลาบคั่วนะคะอิอิ จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 21:25:45 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 หลักนิติรัฐมีอยู่หลักหนึ่งว่าปัจเจกชนมีสิทธิ-เสรีภาพจะกระทำการอย่างไรก็ได้เท่าที่ไม่มีกฎหมายห้าม(และกฎหมายนั้นต้องเกิดจากความยินยอมของประชาชน)ส่วนองค์กรของรัฐจะกระทำการใดที่เป็นการล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องมีกฎหมายลายลักษณ์ให้อำนาจอย่างชัดแจ้ง(และกฎหมายนั้นต้องเกิดจากความยินยอมของประชาชน) 2.หลักความชัดเจนแน่นอนของกฎหมายและหลักประกันความเชื่อถือไว้วางวางใจ เป็นตัวชี้ว่าก่อนที่ประชาชนกระทำการสิ่งใด เขาย่อมต้องรู้ล่วงหน้าว่าการกระทำของเขานั้นมีความผิดหรือไม่ หลักกฎหมายไม่ผลย้อนหลัง ซึ่งเป็นหลักที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาการคุกคามเสรีภาพอย่างรุนแรงในสมัยกลาง ระบบการลงโทษผู้ที่เป็นแม่มดหมอผี โดยการเผาทั้งเป็น ต่อมาหลักนี้ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายอาญาเพราะกฎหมายอาญามีโทษที่กระทบสิทธิในชีวิต เนื้อตัวร่างกายของบุคคล จากคุณ : coles - [ 12 มิ.ย. 52 21:28:12 A:115.128.25.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผมอ่านคำอธิบายแล้ว   แบบนี้สวยครับ เดียวเสื้อแดง ช่วยกันเลือก พรรคการเมือง ให้เป็นรัฐบาล แล้วออกกฏหมายเอาผิดย้อนหลัง ยุบพรรค ปชป  ที่มันหลุดๆไปแล้ว คนโห่ จากนั้นก็พิพากษา ห้ามประกอบอาชีพ  หรือ เพื่อความปลอดภัย 25 ปี ก็น่าจะโอเค ใช่เปล่าครับ จากคุณ : ธนูไฟ - [ 12 มิ.ย. 52 21:33:26 A:117.47.64.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ้าวคุณทนายยังอธิบายยังไม่เข้าใจเลย เค้ายังงงอยู่นะจ๊ะ จะหนีแล้วเหรอ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:39:06 จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 21:34:10 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ พิงค์นคร49  คะ    พอดีหม่ำขันโตกของลุงกาแฟดำหมอแล้วขอร่วมวงลาบคั่วด้วยคนสิคะ  ^ ^ ปล  หม่ำไปด้วย ไล่อ่าน คห  ไปด้วย จากคุณ : น้ำมิตร - [ 12 มิ.ย. 52 21:38:04 A:58.9.114.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณท่าน thyrocyte สำหรับข้อมูลนะคะ ยังอ่านไม่หมดหรอก กำลังค่อย ๆ อ่านนะคะ (งงอยู่เล็กน้อย) แต่เห็นอาหารคุณพิงค์แล้ว เลยขอมาตอบก่อน แต่ท่าน thyrocyte จะไปแล้วเหรอ (รู้สึกเหมือนเครียดๆ โกรธๆ รึเปล่าคะ ใจเย็นๆ นะ) ขอปิดท้ายกระทู้ ด้วยกาแฟ อ่านแล้วก็ยังมึนๆ อยู่ค่ะ กินแก้มึนนะ คุณพิงค์ ลาบคั่วน่าอร่อยจัง อ้าว คุณน้ำมิตรด้วยค่ะ คริคริ น่าอร่อยเนอะ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:42:14 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:41:50 จากคุณ : cuti3b - [ 12 มิ.ย. 52 21:39:39 A:124.122.236.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 เชิญเลยคะคุณน้ำมิตรว่าแต่ว่าทนายเขาแถไม่ออกแล้วหนีอะ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 21:44:15 จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 21:40:29 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 42   รื้อถอนอาคาร อันเป็นอันตรายต่อชีวิต   ยุบพรรคการเมือง เป็นอันตรายต่อชีวิต ตรงไหน จากคุณ : FMEA  - [ 12 มิ.ย. 52 20:48:17 A:58.64.73.32 X: ] ............................................................................................. เกี่ยวสิ   เพราะเดี๋ยวพรรคยุบลงมาทำอันตรายต่อชีวิต คปค. เลยยุบให้   55555555555555555 (ยอดทนายจริง ๆ  หยิบนั่นแปะนี่  อ้างนั่นทับนี่  โยงนั่นพันนี่  ผูกโน่นมัดนู่น  สุดท้ายคู่ต่อสู้มึน  ต้องยอมแพ้ - คนไม่ละเอียดก็คล้อยตามหลงเชื่อ  ตบมือให้เกรียวกราวในความสามารถ) จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 12 มิ.ย. 52 21:53:39 A:125.26.237.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 กาแฟคุณcuti3b น่าทานจังนะคะอย่างนี้ต้องขอชิมด้วยคะอิอิตาจะได้สว่างคะ จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 12 มิ.ย. 52 21:53:53 A:118.172.2.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณไทรอยด์ นอกจากจะเก่งวิชา ตัดแปะแล้วยังเก่งวิชาแถด้วย ยอดคนจริงๆ นับถือ นับถือ จากคุณ : JKMN - [ 12 มิ.ย. 52 22:08:03 A:125.26.41.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านกระทู้แล้วรู้สึกสมเพชกับบางคนในนี้จริงๆ ทั้งๆ ที่เชิญเค้ามาตอบแท้ๆ แล้วคุณ thyrocyte ก็เข้ามาตอบให้แล้ว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไปสิครับ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตารอถากถางกันอย่างเดียว ตอบไม่ถูกใจก็ว่าเค้าแถ ไม่อยู่ตอบก็ว่าหนี ใครจะอยู่เฝ้าบอร์ดได้ตลอดเวลาละครับ ทำอย่างนี้เหมือนชวนเข้ามารุมตีหัว สงสัยจะรุมทุบข้าวของจนชิน เฮ้อออ จากคุณ : You so cute - [ 12 มิ.ย. 52 22:11:37 A:202.176.126.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 ยังไม่เข้าใจในหลายประเด็น  จะลองหากฏหมายที่เกี่ยวข้องตรงๆ อ่านประกอบด้วย  ถ้าไปเสิร์ชหาคำพิพากษาตัดสินแล้วไปดูข้อกฏหมายที่ใช้ประกอบคำตัดสิน น่าจะเห็นภาพชัดเจนกว่านะคะ จากคุณ : น้ำมิตร - [ 12 มิ.ย. 52 22:20:43 A:58.9.114.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 อิ่มแล้วค่ะ ขอต่อด้วยกาแฟของ  คุณ cuti3b   นะคะ  ^ ^ จากคุณ : น้ำมิตร - [ 12 มิ.ย. 52 22:22:06 A:58.9.114.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ความคิดเห็นที่ 66   คุณ : You so cute ขอบคุณค่ะ   เห็นด้วยค่ะ ขอถามคนที่ถากถางคุณthyroตรงๆ นะคะ คำว่า "แถ "ในความคิดของพวกคุณ  หมายถึงอะไรค่ะ   พร้อมตัวอย่างด้วยก็ดีค่ะ อ่านกระทู้แล้วรู้สึกสมเพชกับบางคนในนี้จริงๆ ทั้งๆ ที่เชิญเค้ามาตอบแท้ๆ แล้วคุณ thyrocyte ก็เข้ามาตอบให้แล้ว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไปสิครับ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตารอถากถางกันอย่างเดียว ตอบไม่ถูกใจก็ว่าเค้าแถ ไม่อยู่ตอบก็ว่าหนี ใครจะอยู่เฝ้าบอร์ดได้ตลอดเวลาละครับ ทำอย่างนี้เหมือนชวนเข้ามารุมตีหัว สงสัยจะรุมทุบข้าวของจนชิน เฮ้อออ จากคุณ : You so cute จากคุณ : stand with a fist - [ 12 มิ.ย. 52 22:36:07 A:58.9.179.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าเกิดว่ารัฐเกิดขึ้นภาษีน้ำมันขึ้นมาแล้วรัฐก็บอกว่าผู้ที่ใช้น้ำมันไปแล้วต้องเสียภาษีย้อนหลังกับน้ำมันที่ใช้ไปแล้วได้รึไม่ครับ นี้เป็นกฎหมายภาษีไม่ใช่อาญา สามารถเรียกเงินภาษีย้อนหลังได้รึไม่   ถ้าเกิดว่าแต่ก่อนหน้าบ้านผมเป็นทางเดินให้ชาวบ้านเดินได้ ปรากฎว่าผมร้องต่อศาลขอสงวนสิทธิให้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามผ่าน แล้วศาลเห็นชอบผมจะสามารถเรียกค่าเดินผ่านทางต่อผู้ที่เดินผ่านไปแล้ว เพราะกฎหมายย้อนหลังได้รึไม่ เป็นกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ครับ   ผมว่าเรื่องกฎหมายย้อนหลังไม่เป็นโทษ ย้อนได้แค่เฉพาะที่เป็นคุณ มันเป็นหลักง่ายๆ ไม่ต้องไปคิดมากหรอกครับ ถ้ามันย้อนได้มันจะยุ่งมากครับ แต่ก็มีคนทำให้ย้อนได้แล้ว -*- จากคุณ : ลุงโน่ - [ 12 มิ.ย. 52 22:55:33 A:118.172.58.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 พักนี้มือตกไปถึงหน้าตัก จากคุณ : ไร้ซึ่งเมตตาธรรม - [ 12 มิ.ย. 52 23:07:07 A:124.121.174.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอ่อแล้วมีข้อสงสัยอีกอย่างครับ คือว่า ห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง กฎหมายจะมองว่านักการเมืองเป็นอาชีพรึไม่อ่ะครับ เพราะนักการเมืองคือผู้ที่มาบริหารประเทศ ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากการทำงาน ซึ่งไม่เหมือนการทำงานของบุคคลธรรมดาทั่วไป ซึ่งใช้แรงงานเพื่อแลกกับประโยชน์อ่ะครับ เพราะนักการเมืองเข้ามาด้วยความเห็นชอบของประชาชน แต่การทำงานทั่วไปไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน ไม่รู้ว่าจะต่างกันรึไม่ครับ    ในเมื่อนักการเมืองยังมีความคลุมเครือ ว่าเป็นอาชีพรึไม่แล้ว การใช้กฎหมายอาญานั้นมีหลักอยู่ว่า ต้องตีความโดยเคร่งครัด ตามตัวอักษร ซึ่งไม่เหมือนกฎหมายเพ่งที่ใช้แบบตีความแบบเทียบเคียงได้ จะสามารถใช้บทบัญญัติ  ของกฎหมายอาญามาบังคับใช้ได้รึป่าวอ่ะครับ จากคุณ : ลุงโน่ - [ 12 มิ.ย. 52 23:17:38 A:118.172.58.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับเรื่องกฎหมายมีผลย้อนหลังนะครับโจทย์ที่จขกท.ให้แก้ต่างนี้ผมเชื่อว่าลึกๆในใจคุณก็ทราบดีว่าถ้าใช้หลักการเดียวกับที่ตุลาการรธน.ที่คมช.แต่งตั้งมาปัญหาที่จะตามมาเยอะแน่ๆครับ อย่างเช่นการกำหนดโซนนิ่ง ถ้าคุณสร้างคอนโด20ชั้นติดชายทะเลมาขายจนหมด ณ วันที่สร้างจนสร้างเสร็จก็ถูกต้องชอบธรรม ต่อมากฎหมายโซนนิ่งออกมาใหม่ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 5 ชั้น ถ้าใช้ตรรกะของตลก.รัฐธรรมนูญเมื่อกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังเฉพาะคดีอาญาคอนโดของคุณก็ต้องถูกริ้อถอนด้วยใช่มั๊ยครับ ... แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องให้กิ๊ฟคุณthyrocyte ในเรื่องการหาข้อมูลนะครับ เรื่องนี้คุณจะอธิบายยังไงก็ไม่เคลียร์หรอกครับเหมือนฟอกถ่านให้ขาว เพราะโจทย์ที่จขกท.ให้มายากเกินไปนิดครับ โจทย์นี้ต่อให้ตลก.รัฐธรรมนูญมาอธิบายเองก็ยังยากที่จะทำใจรับได้ เรื่องนี้มองอย่างไรมันก็ไม่เป็นธรรมครับ เว้นแต่จะตะแคงคอเอียงๆมองแล้วหลอกตัวเองว่ามันตรงครับ จากคุณ : Casper (ผีน่ารัก) - [ 12 มิ.ย. 52 23:50:17 A:222.123.194.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ความคิดเห็นที่ 55   เอาละครับผมขอถกเพียงหอมปากหอมคอเท่านี้ เพราะขอเบรคดูยูบีซีบ้าง เสร็จแล้วขอไปดูกระทู้อื่นๆบ้าง หากใครอยากทราบความเห็นผม กรุณาไปค้นในคลังกระทู้เก่าดีกว่ามาถามซ้ำครับ ในนั้นน่าจะมีอยู่พอควร ไปก่อนละครับ จากคุณ : thyrocyte ---------------------------------------------------------------------------- ผมบอกแล้วว่าผมจะเบรคไปดูภาพยนตร์ และก็ได้ตอบคำถามที่จขกท.ถามไว้แล้ว ผมไม่เห็นมีพันธะที่สำคัญ อะไรที่ผมจะต้องนั่งเฝ้ากระทู้นี้นะครับ เมื่อผมเสร็จธุระส่วนตัวและดูกระทู้อื่นแล้วผมจึงแวะมาดูกระทู้นี้ให้ ว่ามี ใครมีข้อซักถามที่เป็นสาระอีกหรือไม่ ก้ยินดีตอบให้เสมอ ตามเวลาที่มี แต่ก่อนจะตอบ ขอขอบคุณคห.66 คุณ You so cute สักนิดเพราะให้ความเห็นไว้ตรงประเด็นมาก ขอนุญาตยกมานะครับ ----------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 66   อ่านกระทู้แล้วรู้สึกสมเพชกับบางคนในนี้จริงๆ ทั้งๆ ที่เชิญเค้ามาตอบแท้ๆ แล้วคุณ thyrocyte ก็เข้ามาตอบให้แล้ว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไปสิครับ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตารอถากถางกันอย่างเดียว ตอบไม่ถูกใจก็ว่าเค้าแถ ไม่อยู่ตอบก็ว่าหนี ใครจะอยู่เฝ้าบอร์ดได้ตลอดเวลาละครับ ทำอย่างนี้เหมือนชวนเข้ามารุมตีหัว สงสัยจะรุมทุบข้าวของจนชิน เฮ้อออ จากคุณ : You so cute ----------------------------------------------------------------------------- และขอขอบคุณคุณ stand with a fist ด้วยครับ ที่ยืนอยู่ข้างความถูกต้อง ความเหมาะสม และมารยาทที่ดีงาม นั้นแหละครับ กระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนตั้งขึ้นมาเพื่อท้าทายว่ากฏหมายนั้นย้อนหลังได้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ เถียงกันไปก็ไม่จบ ยิ่งถ้าคนที่เข้ามาเถียงด้วยมีวุฒิภาวะต่ำๆแบบนี้ เป้นไปไม่ได้ที่จะจบ เพราะจะมีการตีรวนอยู่ ร่ำไป ผมจึงไม่คิดจะตั้ง แต่เป็นคุณ Sernmath ตั้งขึ้นมา และยังติดที่หัวกระทู้เรียกขอให้ผมกับคุณเคมบริดจ์ เข้ามาตอบ อีกต่างหาก ผมจึงเข้ามาตอบตามที่มีกระทู้เรียก ตอบได้อย่างไร ก็ขอให้ถกด้วยสาระ ไม่ใช้เอาวุฒิภาวะต่ำมาใช้ หรือทำตัวเป็น เหมือนนักเลงหัวไม้ ราวกับคนที่เพิ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำ แต่ไม่หลาบจำในความผิดที่เคยทำไว้ ใช้โทสะหรือคำ ยั่วยุ ซึ่งผมมองว่ายิ่งเป็นการทำให้คน อื่นเข้ามองเห็นว่า คนเสื้อแดงพวกนี้ สมองไม่มีอะไรเลย มีแต่ความคิดที่จะยั่วยุผู้อื่นเท่านั้น หาแก่นสารสาระไม่ได้ ความเห็นแบบนั้น ผมมองขออนุญาตที่จะบอกว่า เป็นคห.ในระดับต่ำเกินไปที่จะตอบให้นะครับ ผมจึงเลือกตอบ เฉพาะแต่คห. ที่มีสติมีสาระอยู่ ซึ่งจะเลือกตอบดังต่อไปนี้นะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 มิ.ย. 52 23:58:49 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขออนุญาตไล่จากข้างล่างขึ้นไปนะครับ ความคิดเห็นที่ 73   ไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับเรื่องกฎหมายมีผลย้อนหลังนะครับโจทย์ที่จขกท.ให้แก้ต่างนี้ผมเชื่อว่าลึกๆในใจคุณก็ทราบดีว่าถ้าใช้หลักการเดียวกับที่ตุลาการรธน.ที่คมช.แต่งตั้งมาปัญหาที่จะตามมาเยอะแน่ๆครับ อย่างเช่นการกำหนดโซนนิ่ง ถ้าคุณสร้างคอนโด20ชั้นติดชายทะเลมาขายจนหมด ณ วันที่สร้างจนสร้างเสร็จก็ถูกต้องชอบธรรม ต่อมากฎหมายโซนนิ่งออกมาใหม่ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 5 ชั้น ถ้าใช้ตรรกะของตลก.รัฐธรรมนูญเมื่อกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังเฉพาะคดีอาญาคอนโดของคุณก็ต้องถูกริ้อถอนด้วยใช่มั๊ยครับ ... แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องให้กิ๊ฟคุณthyrocyte ในเรื่องการหาข้อมูลนะครับ เรื่องนี้คุณจะอธิบายยังไงก็ไม่เคลียร์หรอกครับเหมือนฟอกถ่านให้ขาว เพราะโจทย์ที่จขกท.ให้มายากเกินไปนิดครับ โจทย์นี้ต่อให้ตลก.รัฐธรรมนูญมาอธิบายเองก็ยังยากที่จะทำใจรับได้ เรื่องนี้มองอย่างไรมันก็ไม่เป็นธรรมครับ เว้นแต่จะตะแคงคอเอียงๆมองแล้วหลอกตัวเองว่ามันตรงครับ จากคุณ : Casper (ผีน่ารัก) --------------------------------------------------------------------------- -ผมไม่ได้คิดว่าผมอธิบายได้เคลียร์หรอกครับ เพียงแต่จขกท.ถามมา ผมก็ตอบไปในส่วนที่คิดว่า น่าจะพออธิบาย เรื่องการย้อนหลังของกฏหมายบางลักษณะที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะแต่กรณีการยุบพรรค แต่หมายถึงกรณีทั่วไป ครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:06:45 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 (ต่อคุณ Casper) -ฉพาะกรณีที่คุณ Casper ยกมาเปรียบเทียบนั้น ผมเห็นแย้งดังนี้ กรณีตุลาการรธน.นั้น ไม่ใช่กรณีว่ากฏหมายใดๆที่ ไม่ใช่กฏหมายอาญาย้อนหลังได้ แต่เป็นกรณีกฏหมายที่เกี่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยจะใช้ย้อนหลังได้ คือ ใช้ กฏหมายที่มีอยู่ในวันพิพากษา ไม่ใช่กฏฆมายที่มีอยู่ในวันกระทำความผิด จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:12:50 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 ตามอ่านกระทู้มาตลอด...แล้วเล้วมีข้อสงสัยมากมาย เมื่อคณะปฏิวัติใช้อำนาจยุบพรรค ทรท แล้วให้ศาลตัดสิทธิเสรีภาพทางการเมือง...ว่าไปตามนั้นก็จำต้องทนสู้แม้ตกเปนเบื้องล่างอำนาจเผด็จการทหาร ครั้นต่อมาเมื่อ...มีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน...แม้เรายอมรับอยู่ในใจว่าไม่เปนประชาธิปไตยอย่างแท้จริงอยู่..บ้างแต่ ในรัฐธรรมนูญกฏหมายสูงสุดฉบับนี้(มาตรา ๖ รัฐธรรมนูญเปนกฏหมายสูงสุดของประเทศหากมีบทบัญญัติของกฏหมายใดขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้เปนอันใช้บังคับไม่ได้) มีสาระสำคัญเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันของประชาชนชาวไทย...มีคำแถลงยืนยันรักษาไว้ซึ่งเอกราชและความมั่นคงของชาติ ศาสน์ เทิดทูลพระมหากษัตริย์เปนองค์ประมุขมิ่งขวัญของชาติ... ในมาตรา ๔ คุ้มครองศักดิ์ศรีความเปนมนุษย์สิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคล...การมีบทบาทส่วนร่วมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของประชาชน...กำหนดกลไกสถาบันการเมืองทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารให้มีดุลยภาพและประสิทธิภาพตามวิถีการปกครองแบบรัฐสภา ...รวมทั้งให้มีสถาบันศาลและองค์กรอิสระให้สามารถหน้าที่ให้ได้ โดยสุจริตเที่ยงธรรม... เพียงเราแค่มองกรอบเป้าหมาย ของรัฐธรรมนูญ...ก็รู้ว่าสูงสุด...เกินกว่าจะถึง ได้จริงๆครับ.."การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักหลักนิติธรรม"(การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม) จากคุณ : แพะโง่ (แพะโง่) - [ 13 มิ.ย. 52 00:15:58 A:118.173.39.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 ส่วนกรณีที่คุณ Casper ว่าแล้วมิต้องทุบตึกทิ้งหรือ อันนี้อาจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการยุบพรรคหรือตุลาการรธน. แต่ตรงนี้ขอให้ข้อคิดเห็นว่า หากรัฐกล้าออกกฏหมายให้อาณาบริเวณใด มีตึกสูงได้ไม่เกินกี่ชั้น แล้วปรากฏว่ามี ตึกสูงเกินกฏหมายกำหนดอยู่ในบริเวณนั้นจริง ก็คงต้องมีการรื้อถอนตึกนั้นแหละครับ แต่ผมว่ารัฐคงไม่ออกกฏ หมายเช่นนี้หรอกครับเพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เว้นเสียแต่ในบางกรณีเช่น การออกกฏหมายควบ คุมความสูงอาคารที่อยู่ใกล้เขตพระราชฐาน หรือใกล้เขตความปลอดภัย เช่นฐานทัพ สิ่งก่อสร้างสำคัญ เช่นสนาม บิน ฯลฯ แบบนี้รัฐก็คงต้องเข้าไปรื้อถอนเพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายแต่ต้องมีการจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของ เพราะรธน.มัก จะกำหนดเรื่องตรงนี้ไว้อยุ่แล้ว แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 00:48:33 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:17:36 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 72   เอ่อแล้วมีข้อสงสัยอีกอย่างครับ คือว่า ห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง กฎหมายจะมองว่านักการเมืองเป็นอาชีพรึไม่อ่ะครับ เพราะนักการเมืองคือผู้ที่มาบริหารประเทศ ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากการทำงาน ซึ่งไม่เหมือนการทำงานของบุคคลธรรมดาทั่วไป ซึ่งใช้แรงงานเพื่อแลกกับประโยชน์อ่ะครับ เพราะนักการเมืองเข้ามาด้วยความเห็นชอบของประชาชน แต่การทำงานทั่วไปไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน ไม่รู้ว่าจะต่างกันรึไม่ครับ   ในเมื่อนักการเมืองยังมีความคลุมเครือ ว่าเป็นอาชีพรึไม่แล้ว การใช้กฎหมายอาญานั้นมีหลักอยู่ว่า ต้องตีความโดยเคร่งครัด ตามตัวอักษร ซึ่งไม่เหมือนกฎหมายเพ่งที่ใช้แบบตีความแบบเทียบเคียงได้ จะสามารถใช้บทบัญญัติ  ของกฎหมายอาญามาบังคับใช้ได้รึป่าวอ่ะครับ จากคุณ : ลุงโน่ ------------------------------------------------------------------------- การห้ามสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส. หรือสว. ตีความได้ว่าห้ามประกอบอาชีพครับ เพราะสส. และสว.มีรายได้ที่ต้องจ่ายภาษี การเป็น สส. หรือสว. ในทางกฏหมายภาษีอากรถือว่าเป็นการประกอบอาชีพแน่นอนครับ ไม่ใช่อาสามาทำฟรีๆครับ ที่แน่นอนคือ การห้ามเป็นสส.หรือสว.นี้ ไม่ใช่โทษทางอาญาแน่นอนครับ และอย่างที่ว่าคือ ถือเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:21:23 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 คห.77 คุณ แพะโง่ (แพะโง่) คุณคิดเช่นนั้นก็เป็นสิทธิของคึณนะครับ ผมไม่มีอะไรโต้แย้ง จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:22:31 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 ความคิดเห็นที่ 57   หลักนิติรัฐมีอยู่หลักหนึ่งว่าปัจเจกชนมีสิทธิ-เสรีภาพจะกระทำการอย่างไรก็ได้เท่าที่ไม่มีกฎหมายห้าม(และกฎหมายนั้นต้องเกิดจากความยินยอมของประชาชน)ส่วนองค์กรของรัฐจะกระทำการใดที่เป็นการล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องมีกฎหมายลายลักษณ์ให้อำนาจอย่างชัดแจ้ง(และกฎหมายนั้นต้องเกิดจากความยินยอมของประชาชน) 2.หลักความชัดเจนแน่นอนของกฎหมายและหลักประกันความเชื่อถือไว้วางวางใจ เป็นตัวชี้ว่าก่อนที่ประชาชนกระทำการสิ่งใด เขาย่อมต้องรู้ล่วงหน้าว่าการกระทำของเขานั้นมีความผิดหรือไม่ หลักกฎหมายไม่ผลย้อนหลัง ซึ่งเป็นหลักที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาการคุกคามเสรีภาพอย่างรุนแรงในสมัยกลาง ระบบการลงโทษผู้ที่เป็นแม่มดหมอผี โดยการเผาทั้งเป็น ต่อมาหลักนี้ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายอาญาเพราะกฎหมายอาญามีโทษที่กระทบสิทธิในชีวิต เนื้อตัวร่างกายของบุคคล จากคุณ : coles ------------------------------------------------------------------------- นั้นแหละครับที่คุณ coles พูดมานะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโทษทางอาญาครับ ซึ่งมีความรุนแรงมากจึงห้ามย้อนหลัง แต่กฏหมายวิธีสบัญญัติ และกฏหมายเเด่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย ไม่ได้มีความรุนแรงต่อบุคคล แต่เป็น มาตราการชั่วคราวที่ออกมาเพื่อให้สังคมเกิดความปลอดภัยครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:25:39 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความคิดเห็นที่ 51   โอเคครับ การตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่ใช่โทษทางอาญา แต่ถ้าไม่เป็นโทษทางอาญา หมายความว่าย้อนหลังได้ทุกกฏหมายที่ไม่ใช่กฏหมายอาญาหรือครับ คุณเองก็บอกนี่ครับ ว่าวิธีทางความปลอดภัยสามารถย้อนหลังได้ แต่ผมก็บอกแล้วว่ามันไม่ใช่วิธีทางความปลอดภัยนี่ครับ จากคุณ : Sernmath ---------------------------------------------------------------------- คุณ Sernmath จะไม่มองว่าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยก็คงจะไปบังคับไม่ได้ แต่จริงๆมันคือวิธีการ เพื่อความปลอดภันอย่างหนึ่งครับ วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นหมายถึงกฏหมายที่ไม่ไดทำการลงโทษต่อตัวบุคคลให้เกิดเสียชีวิต(ประหารชีวิต) หรือสูญเสียอิสสระภาพ(จำคุก และ กักขัง) หรือเสียทรัพย์สิน(ปรับ) อันเป็นโทษทางอาญา แต่วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้น จะห้ามการกระทำบางอย่างไว้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้คนคนนั้นกลับไปประพฤติผิด ซ้ำต่อสังคมอีก กรณีการทุจริตเลือกตั้งนี้ก็เช่นกัน การห้ามเป็นสส หรือสว อีกใน 5 ปีเพื่อให้สังคมเกิดความ ปลอดภัย ที่คนที่เคยทำร้ายสังคมจะไม่สามารถกลับมาทำร้ายสัวคมได้อีก จนกว่าจะถึงเวลาที่กฏหมายเชื่อว่า คนเหล่านั้นจะกลับใจได้แล้ว เขาถึงถือได้ว่าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย เพื่อให้สังคมปลอดภัยครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:31:25 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 เริ่มต้นขอแย้ง คห. คุณ thyrocyte ก่อน กรณียุบพรรคทรท.นั้น ใช้บทบัญญัติของพรบ.พรรคการเมือง 2541 ครับ ส่วนการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค นั้นใช้อำนาจของประกาศ คปค.ครับ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย คือ เข้าลักษณะการห้าม ประกอบอาชีพบางอย่าง <<<< อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง จะไปอ้างรวมว่าเข้าข่ายเดียวกัน ก็ขอเหตุผลสนับสนุนที่เป็นหลักการด้วย ไม่ใช่เอามาเทียบเคียงทั้งที่มันคนละเรื่องกันเลย เรื่องความปลอดภัย ให้โทษย้อนหลังได้ เพราะอาจมีเรื่องที่อดีตไม่รู้ว่ามันไม่ปลอดภัย มีความรู้ใหม่เกิดขึ้นจึงรู้ว่าไม่ปลอดภัย ถ้าปล่อยให้มันคงอยู่ ก็คือมันไม่ปลอดภัยต่อไปในอนาคตด้วย จึงให้อำนาจในการลงโทษย้อนหลัง เพื่อให้มีกำนาจในการบังคับให้เกิดความปลอดภัยไม่เกิดผลเสียต่อไปในอนาคต มีเหตุ มีผล การตัดสิทธิการเมืองมันมีเหตุผลอะไรมารองรับว่าควรให้อำนาจลงโทษย้อนหลังได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วไปไม่ควรทำ ควรมีเหตุผลรองรับ ช่วยบอกอธิบายทีครับ เพราะคงใช้เหตุผลเดียวกับเรื่องความปลอดภัยอย่างที่คุณอ้างมาไม่ได้ ---------- การกำหนดห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส หรือ สว. จึงไม่ใช่การลงโทษทางอาญา แต่เป็นกฏหมายวิธีการเพื่อควมปลอดภัยอย่างหนึ่ง อ๋อหรือครับ เอ แล้วตกลงการห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งนี้เป็นโทษทางอาญาหรือครับ จากคุณ : thyrocyte <<<< อันนี้ก็ถูกครับมันไม่ใช่โทษทางอาญา แต่ก็ไม่ได้ไปเข้าเกณท์อะไรที่คุณเอามาอ้างเช่นกัน ( ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยในเรื่องที่ว่าทำไม่ได้เฉพาะความผิดทางอาญาเท่านั้นด้วยครับ ) ------ ผมว่า เรื่อง กฏหมายไม่ควรมีบทลงโทษย้อนหลัง เป็นเรื่องของหลักการ (การที่ตอนนี้เราทำอะไรไป มีบทลงโทษอะไร เราก็ควรรับโทษที่กำหนดไว้ ถ้าตอนนี้บอกไม่ผิด เราคิดว่าทำได้ เกิดวันหน้าบอกผิดดีกว่า มาลงโทษซะ เป็นคุณโดนคุณว่ายุติธรรมกับตัวคุณรึไม่ถ้าไม่มีเหตุผลที่รับได้มาอธิบาย  ก็ต้องขอถามก่อนเลยว่าคุณ thyrocyte เห็นด้วยกับหลักการนี้หรือไม่ หรือคิดว่า หลักการนี้ใช้ไม่ได้ ควรจะให้วันนี้ทำไม่ผิด พรุ่งนี้ออกกฏหมายมาเอาผิดได้ ซึ่งถ้าคิดเช่นนั้น ก็หยุดอ่านตรงนี้ได้เลยครับ ) ซึ่งเมื่อยอมรับว่ามันเป็นหลักการ( rule of law ) มันควรครอบคลุมในเรื่องส่วนใหญ่ที่จะออกมาเป็นกฏหมาย  และก็แน่นอนว่ามันควรมีข้อยกเว้นบ้างบางกรณีที่เหมาะสม แต่ข้อยกเว้นนั้นก็ควรมีเหตุผลที่ยอมรับได้ ซึ่งที่คุณยกมากล่าวอ้างก็คือส่วนข้อยกเว้น ( ถ้าคุณคิดว่าเรื่องตัดสิทธิ์เหมาะสม ก็ขอเหตุผลที่มีน้ำหนักด้วย) ทีนี้มาว่าด้วยเรื่องข้อยกเว้น ก็มีคำถามต่อว่าใครควรจะเป็นผู้พิจารณาว่าข้อยกเว้นนั้นมีเหตุมีผล สมควรออกมาเป็นกฎหมายหรือไม่ ถ้าศรัทธาในระบอบ ปชต. ก็ควรออกโดย สภาผู้แทนที่เลือกมาโดยประชาชน ไม่ใช่ประกาศคณะรัฐประหารยกขึ้นมาอ้างว่าใช้ประกาศข้อนี้ตัดสิน   แต่ถ้าคุณ thyrocyte ศรัทธาในระบอบอื่น (จากการอ้างประกาศ คปค. คาดว่าอาจะชอบเผด็จการทหาร) เช่น เผด็จการ คอมมิวนิสต์ หรือ อื่น ๆ ก็ขอให้บอกมาครับ ผมจะได้เข้าใจ เพราะถ้าชอบเผด็จการ ผู้มีอำนาจถูกเสมออยู่แล้ว คงไม่ต้องว่าอะไรกันต่อเรื่องความยุติธรรม ซึ่งส่วนตัวผมนั้น เห็นด้วยกับหลักการข้อนี้ ว่าไม่ควรมีการออกกฏหมายลงโทษย้อนหลัง โดยไม่มีเหตุที่สมควรรองรับ และผมศรัทธาในระบอบ ปชต. เหตุผลที่จะออกมายกเว้นจึงควรพิจารณาโดยสภาที่ประชาชนเลือก ไม่ใช่ คณะรัฐประหาร ครับ ปล. เข้าใจครับว่าชอบ ปชป. แต่ถ้ายังศรัทธาในระบอบ ปชต. เชื่อถือในนิติรัฐ  ก็ควรสนับสนุนให้ ปชป. เข้าสู่อำนาจด้วยระบอบนั้น สนับสนุนในการโค่นอำนาจคนที่คุณไม่ชอบตามวิถีทางของ ปชต. และต่อต้านเรื่องที่ขัดหลักการ ปชต. เรื่องที่ไม่ยุติธรรม แม้ว่ามันจะทำลายคนที่ไม่ชอบได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่เราชอบได้ประโยชน์ก็ตาม แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 00:34:21 จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 00:31:44 A:125.24.15.244 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณคุณ stand with a fist ครับที่ยืนอยู่ข้างความถูกต้องมาตลอด และสำหรับสมาชิกที่ผมไม่ได้ตอบ ผมยินดีตอบ หากพวกท่านพัฒนาคำถามให้อยู่ในลักษณะที่คนที่เขาเจริญแล้วตั้งคำถามกัน หากทำตัวเป็น เพียงพ่อยั่วแม่ยั่ว หรือดาวยั่วเพียงเพื่อชวนทะเลาะในกระทู้แบบนั้น ผมขออนุญาตไม่ตอบ และขอวิจารณ์ว่า หลายๆล็อกอินเคยทำได้ดีกว่านี้มาก แต่วันนี้กลับแสดงตัวเป็นเพียงดาวยั่ว เพื่อให้กระทู้เกิดความเสียหายไป น่าเสียดายครับ กู๊ดไนท์ละครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:37:22 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ : arctan45 โพสต์เข้ามาพอดี ผมขอยืนความเห็นเดิมครับ วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นหมายถึงกฏหมายที่ไม่ไดทำการลงโทษต่อตัวบุคคลให้เกิดเสียชีวิต(ประหารชีวิต) หรือสูญเสียอิสสระภาพ(จำคุก และ กักขัง) หรือเสียทรัพย์สิน(ปรับ) อันเป็นโทษทางอาญา แต่วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้น จะห้ามการกระทำบางอย่างไว้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้คนคนนั้นกลับไปประพฤติผิด ซ้ำต่อสังคมอีก กรณีการทุจริตเลือกตั้งนี้ก็เช่นกัน การห้ามเป็นสส หรือสว อีกใน 5 ปีเพื่อให้สังคมเกิดความ ปลอดภัย ที่คนที่เคยทำร้ายสังคมจะไม่สามารถกลับมาทำร้ายสัวคมได้อีก จนกว่าจะถึงเวลาที่กฏหมายเชื่อว่า คนเหล่านั้นจะกลับใจได้แล้ว เขาถึงถือได้ว่าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย เพื่อให้สังคมปลอดภัยครับ ก็คงเห็นแตกต่างกันไปละครับ ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว ผมขอเบรคออฟไลน์ก่อนละครับ Good night นะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 00:40:53 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 เอ่อสงสัยอีกนิดครับ การที่ ส.ส ส.ว. นั้นจ่ายภาษีนั้น จ่ายเป็นเงินได้บุคคลธรรมดารึป่าวครับ ซึ่งตามประมวลรัษฎากร ตามมาตรา 40 ทั้ง 8 อนุ นั้นเป็นการบอกว่าที่มาของเงินได้ที่นำมาประเมินนิครับ ไม่ได้กำหนดว่าเป็น อาชีพอ่ะครับ ถ้า ส.ส. ส.ว. ก็น่าจะเข้าตาม อนุ 1 ซึ่งตามเจตนารมของกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นอาชีพตามกฎหมาย เพียงแต่ระบุเป็นที่มาของเงินได้รึป่าวอะครับ เพราะใน อนุ 1 ได้รวมถึงผลประโยชน์อื่นใด บรรดาที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานด้วย  ผมว่า ส.ส กับ ส.ว. ในมีลักษณะพิเศษกว่า อาชีพบุคคลธรรมดา รึป่าวครับ ที่มีลักษณะของ ความชอบธรรมในการดำรงค์ตำแหน่งด้วย ซึ่งมีความแตกต่าง กว่าการทำงานของบุคคลธรรมดาอ่ะครับ ฉนั้นจะเหมือนเป็นการเทียบเคียงกับกฎหมายอาญารึป่าวอะครับ ซึ่งกฎหมายอาญาห้ามใช้วิธีหารตีความกฎหมายแบบเทียบเคียงอะครับ คือผมไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะครับ จากคุณ : ลุงโน่ - [ 13 มิ.ย. 52 00:48:26 A:118.172.58.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ครับผมก็พึ่งเห็น เรื่อง เพื่อความปลอดภัยของสังคม   ซึ่งอันนี้ก็เป็นความคิดของคุณเองเช่นกันว่าเข้าข่าย ( ผมคิดว่าตัวกฏหมายนี้เองก็น่าจะมีระบุไว้ว่าเรื่องความปลอดภัยในกฏหมายฉบับนี้หมายถึงอะไรบ้าง มีเกณท์อะไร โดยปกติน่าจะระบุไว้แล้ว) เถียงกันเองคงไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้วแต่คนคิด ซึ่งผมก้ไม่ว่าอะไรเช่นกันที่คุณคิดเห็นเช่นนี้ ผมรับฟังได้ว่าเห็นต่าง ดังนั้นเมื่อทุก ๆ คนในประเทศก็ต่างมีความเห็นของตนเองเช่นกัน แต่ละเรื่องควรจะออกมาเป็นกฏหมายบังคับใช้หรือไม่จึงควรต้องมีผู้พิจารณาไงครับ ซึ่งสำหรับผม ไม่ควรเป็นคณะรัฐประหารที่มาตัดสิน (แล้วจำเลยกลุ่มแรกยังเป็นผู้ที่โดนคนออกกฏหมายมายึดอำนาจไป และตัดสินโดยคณะตัดสินที่คนทำรัฐประหารตั้งมาเองอีกต่างหาก) จึงขอถามต่อไปครับว่า คุณ thyrocyte ศรัทธาชื่นชอบในระบอบการปกครองอะไรหรือครับ จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 00:58:53 A:125.24.15.244 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 เอ่อขอโทษที่รบกวนอีกครับพอดี ส.ส ที่ถูกยุบพรรคไปนั้นไม่ได้ถูกลงโทษด้วยบทบัญญัติของกฎหมายอาญาที่กล่าวด้วยนิครับ แต่ถูกลงโทษด้วย ประกาศของคณะปฎิวัตินิครับ ซึ่งประกาศของคณะปฎิวัติ ออกมาหลังการกระทำความผิดนิครับ ซึ่งทีจริงต้องมีผลบังคับกับความผิดที่กระทำหลังจากออกประกาศไปนิครับ ผมก็หลงประเด็นไปเลย แฮะๆ ซึ่ง ต.ล.ก. นั้นไม่ได้ใช้ กฎหมายอาญาที่ว่าด้วยเรื่อง การป้องกัน มันคนละกฎหมายกันละ ที่ผมบอกว่า ส.ส. นั้นไม่น่าจะเข้าข่ายคำว่าอาชีพในกฎหมายอาญาเหตุเพราะว่า การตีความกฎหมายอาญามีลักษณะที่แคบและรัดกุมมาก หากแต่คำว่าอาชีพ จะมองเพียงแค่ว่าจ้างแรงงานกับจ้างทำของ ในกฎหมายแพ่งแล้ว การเป็น ส.ส. นั้นคือการเข้ามาบริหารราชการ เจตนาคือเข้ามาดำเนินงานการปกครองประเทศ ฉนั้นหากมองว่าเป็นอาชีพธรรมดาแล้ว การบริหารประเทศอาจจะเอาชาวต่างชาติที่ประสบความสำเร็จในด้านอื่นมา เป็นนายกรัฐมาตรี ก็ได้ ซึ่งผมว่า อาชีพในกฎหมายอาญาไม่น่าจะตีความถึงขั้นนั้น เพราะผู้ที่มาบริหารประเทศ ต้องเรียกว่ามีจุดประสงค์ต้องการบริหารประเทศโดยได้รับความชอบธรรมจากประชาชน คงไม่ใช่มาด้วยเหตุผลเพียงต้องค่าตอบแทนในการบริหารประเทศเป็นหลักอ่ะครับ ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดนะครับแต่ผมคิดแบบนี้ อาจจะไม่ถูกก็ได้อ่ะครับ จากคุณ : ลุงโน่ - [ 13 มิ.ย. 52 01:39:52 A:118.172.38.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 ผมขออนุญาตหยิบยกคำวินิจฉัยข้างน้อยคดียุบพรรคไทยรักไทย โดยท่านอาจารย์ปัญญา ถนอมรอด อดีตประธานศาลฎีกาและอดีตประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญดังนี้ครับ "กฎหมายที่ดีนั้น ต้องตราขึ้นโดยอาศัยหลักนิติธรรม กล่าวคือ กฎหมายต้องตราขึ้นโดยสถาบันซึ่งประชาชนพลเมืองยอมรับนับถือให้มีสิทธิและอำนาจที่ตราขึ้นบังคับได้ กฎหมายจะต้องยอมรับในหลักที่ว่า ประชาชนทุกคนในประเทศนั้นมีเกียรติและเสมอกันในกฎหมาย จะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายยิ่งไปกว่าผู้อื่น กฎหมายจะกำหนดให้เอาตัวประชาชนผู้ใดไปลงโทษไม่ได้ เว้นไว้แต่ว่าประชาชนผู้นั้นจะได้กระทำการซึ่งมีกฎหมายบัญญัติไว้ก่อนแล้วว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด ...     เมื่อพิจารณาหลักนิติธรรมข้างต้น ประกอบกับการตรากฎหมายนั้น โดยทั่วไปมีเจตนาเพื่อปรับใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต การใช้กฎหมายย้อนหลัง หากมีผลย้อนหลังไป เพื่อเป็นคุณหรือบรรเทาความเดือดร้อน และไม่กระทบถึงสิทธิของประชาชนนั้นสามารถกระทำได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากใช้กฎหมายไปในทางที่เป็นโทษ หรือเพิ่มโทษ ถือว่าเป็นการใช้กฎหมายไปในทางที่เป็นปฏิปักษ์กับหลักความยุติธรรมของสากล        หลักนี้ใช้เคร่งครัดมากในคดีอาญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทษทางอาญา แต่เป็นที่ยอมรับในหลายประเทศว่า กฎหมายใดที่ออกมาบังคับใช้ย้อนหลังแล้วมีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของประชาชน หรือเป็นไปในทางลิดรอน เพิกถอนหรือจำกัดสิทธิของประชาชนที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยชอบด้วยกฎหมายก็เป็นการต้องห้ามด้วยเช่นกัน         ประกาศคปค. ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 30 ก.ย.49 ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีกำหนด 5 ปี เป็นบทบัญญัติที่ตัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่อยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจะพึงมี ผู้ที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งได้แล้ว ยังเสียสิทธิอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร สิทธิรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้รัฐสภาพิจารณากฎหมายด้วย เป็นต้น สิทธิของผู้ถูกตัดสิทธิจึงต่ำกว่าประชาชนทั่วไป จึงเป็นการตัดสิทธิทางการเมืองที่เป็นผลร้ายแก่ผู้ถูกตัดสิทธิมากกว่าการถูกลงโทษปรับในคดีอาญา การลงโทษบุคคลหรือการกำหนดโทษให้บุคคลต้องรับผิด หรือถูกจำกัดสิทธิจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่กฎหมายเป็นเพียงเครื่องในการรักษาความยุติธรรม การตีความกฎหมายจะต้องถือความยุติธรรมเป็นหลัก ไม่ควรตีความกฎหมายให้เกิดความเสียหายแก่สิทธิของประชาชนที่มีอยู่แล้ว ขณะเกิดเหตุ กฎหมายซึ่งใช้บังคับได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นจะขอตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอีกไม่ได้ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ รัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ออกกฎหมายให้ผู้ละเมิดต่อกฎหมายต้องรับผิดเพียงเท่านี้ ประชาชนรวมทั้งกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่างๆ ทราบว่า ผลบังคับที่สังคมต้องการมีเพียงเท่านี้ เมื่อกรรมการบริหารพรรคกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายจนเป็นเหตุให้อัยการสูงสุดซึ่งเป็นผู้ร้องคดีนี้ร้องขอให้ยุบพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อยุบพรรคการเมืองแล้วกรรมการบริหารพรรคจะได้รับผลร้ายตามมาตรา 69 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยึดอำนาจอธิปไตยและออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับต่างๆ รวมทั้งฉบับที่ 27 ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนี้ด้วย ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องเพิ่มเติมขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค คดีนี้หลังจากถูกยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรค ผู้ถูกร้องและกรรมการบริหารพรรคมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือต้องห้ามตามกฎหมายอีก การบัญญัติกฎหมายหรือการตีความกฎหมายให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดเพิ่มขึ้นอีกหลังจากกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายได้ยุติไปนานแล้ว จึงเห็นว่าประกาศคปค. ฉบับที่ 27 ข้อ 3 ไม่มีผลย้อนหลังเป็นผลร้ายแก่กรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องทั้งสาม จึงวินิจฉัยว่า ให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 ตามมาตรา 66(1) และมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 และให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 3 ตามมาตรา 66 (2) (3) และมาตรา 67 แห่งพรราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ----------------------------------- สำหรับผมท่านอาจารย์วินิจฉัยชัดเจนมาก เพราะแม้ไม่ใช่โทษทางอาญาก็ไม่ได้หมายความว่าจะย้อนหลังได้ เนื่องจากเหนือกฎหมายอาญาขึ้นไปนั้น ยังมีหลักรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุด มีผลว่ากฎหมายใดจะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมิได้ และหลักรัฐธรรมนูญนี้ยังประกอบไปด้วยหลักนิติธรรม ที่ห้ามรัฐตรากฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคล ดังนั้น กฎหมายใดก็ตามที่ตราออกมาเพื่อย้อนหลังไปเป็นโทษแก่บุคคล ย่อมไม่อาจกระทำได้เลย ไม่ว่ากฎหมายที่ตรานั้นจะเป็นโทษในทางอาญาหรือไม่ก็ตาม (ขอให้สังเกตที่ผมเน้นในข้อความข้างบน) ปล. ผมตลกมากที่คุณ thyrocyte เอาบทบัญญัติที่มีลักษณะเป็นการตัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญไปกล่าวปะปนกับวิธีการชั่วคราวตามกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันเลย คนเก่งๆระดับคุณไม่น่าจะพลาดได้ขนาดนี้นะครับ จากคุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต - [ 13 มิ.ย. 52 05:17:38 A:58.8.85.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 69   ความคิดเห็นที่ 66   คุณ : You so cute ขอบคุณค่ะ   เห็นด้วยค่ะ ขอถามคนที่ถากถางคุณthyroตรงๆ นะคะ คำว่า "แถ "ในความคิดของพวกคุณ  หมายถึงอะไรค่ะ   พร้อมตัวอย่างด้วยก็ดีค่ะ อ่านกระทู้แล้วรู้สึกสมเพชกับบางคนในนี้จริงๆ ทั้งๆ ที่เชิญเค้ามาตอบแท้ๆ แล้วคุณ thyrocyte ก็เข้ามาตอบให้แล้ว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไปสิครับ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตารอถากถางกันอย่างเดียว ตอบไม่ถูกใจก็ว่าเค้าแถ ไม่อยู่ตอบก็ว่าหนี ใครจะอยู่เฝ้าบอร์ดได้ตลอดเวลาละครับ ทำอย่างนี้เหมือนชวนเข้ามารุมตีหัว สงสัยจะรุมทุบข้าวของจนชิน เฮ้อออ จากคุณ : You so cute จากคุณ : stand with a fist   - [ 12 มิ.ย. 52 22:36:07 A:58.9.179.110 X: ]   .............................................................................................. ห๊าววววววววววววววววววววววววว... ตื่นมาก็มาเจอ คห.69  คุณ stand with a fist   ในฐานะผู้ถูกพาดพิง  จึงขออนุญาตชี้แจงสักนิดนะครับ "แถ"  ทำไมหรือจึงต้องใช้คำว่า "แถ" ฟังนะครับ  ผมจะอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง กระทู้ถามถึงเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย  และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 5 ปี  โดยใช้อำนาจตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 27   ซึ่งประกาศฉบับนี้ถือเป็นกฎหมายที่มีผลย้อนหลัง (ดู คห.40) ประกาศฉบับนี้  ประกาศเมื่อ กันยายน 2549  แต่มีผลย้อนหลังไปยังการกระทำเมื่อเดือน มีนาคม-เมษายน 2549 เจ้าของกระทู้เขาเลยตั้งประเด็นว่า  ประกาศ คปค. ซึ่งถือเป็นกฎหมายนี้  มีผลย้อนหลังได้ด้วยหรือ ? คำตอบก็น่าจะตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้   แต่... 1. - ไปยกบางส่วนของกฎหมายควบคุมอาคารมาอ้างประกอบ    - ไปยกเรื่องความปลอดภัย    - ไปยกเรื่องการประกอบอาชีพ       (ลองย้อนอ่านดูที่คุณ thy ให้ความเห็นไว้นะครับ)        ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าของกระทู้เขาถามเลย พรบ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479  และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522  นั้น   สามารถมีผลย้อนหลังได้เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต  เพราะอาคารเก่านั้น บางทีต้องรื้อถอนเพื่อความปลอดภัย  แม้จะสร้างมาก่อน พรบ.นี้ประกาศใช้  แต่ให้ยึดตามคำพิพากษาขณะนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของประชาชน  ไม่ให้โดนอาคารพังลงมาทับตาย   แล้วมันเกี่ยวอะไรกับประกาศ คปค. ฉบับ 27   การยุบพรรคมันมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับความปลอดภัยของชีวิต แถมอ้างเรื่องวิธีการเพื่อความปลอดภัยมาซะอีก  ตลกดีครับ ถ้าจะอ้างวิธีการเพื่อความปลอดภัยในลักษณะแบบนี้  คงไม่ต้องทำอะไรกันแล้วครับ  แค่ ส.ส. จะชกกันในสภาฯ นี่ก็ตัดสิทธิ์ได้แล้วครับ   เครื่องดื่มชูกำลังก็แย่สิครับ  เพราะขัดกับหลักความปลอดภัยของสังคม ก็แค่อ้างมั่ว ๆ มาเทียบเคียงว่า กฎหมายนี้ย้อนหลังได้ กฎหมายยุบพรรคก็ต้องย้อนหลังได้ ยึดหลักอะไรครับ ? การเทียบเคียงข้อกฎหมายนั้น  สามารถกระทำได้ครับ  เขาทำกันทุกวัน  ทำกันทั่วโลก  แต่การมาเทียบเคียงในลักษณะแบบนี้ไม่รู้จะเรียกอะไรดี ผมเลยเรียกว่า "แถ" 2. ใน คห.44  คุณ thy  อ้างถ้อยคำของหัวข้อกระทู้มาเพียงว่า  "เรื่องกฏหมายย้อนหลังได้?"  เพื่อตอบโต้ คห.42   โดย "เจตนา" ละเลยที่จะกล่าวถึงเนื้อหาในกระทู้   แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ  ผมนึกไม่ออก  ผมเลยเรียกว่า "แถ" พอล่ะครับ  เมื่อยที่จะสาธยาย  เรื่องนี้แค่มองที่ คปค. ฉบับที่ 27  ข้อ 3  มันก็ชัดเจนแล้ว   การจะถกเรื่องนี้  ต้องถกในตัวประกาศ คปค. ฉบับนี้ครับ  ว่ามันมีอำนาจอย่างที่ตุลาการฯ ได้พิพากษาไว้หรือไม่  ถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่  เป็นธรรมต่อผู้ถูกลงโทษหรือไม่ ไม่ต้องไปยกดาวอังคารผสมดาวพุธบวกดาวพฤหัส  แล้วบอกว่า ย้อนหลังได้ มันมึนครับ   มึนว่า "แถ" ไปได้ไงในเมื่อมันคนละเรื่อง ส่วนเรื่องที่คุณ thy  กล่าวถึงบางบุคคลว่า เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะต่ำ หรืออะไรนั่นนั้น   ผมก็เดาว่าอาจหมายถึงผม  ผมก็เลยอยากบอกว่า  ถ้าหมายถึงผมจริง  ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ  เพราะผมเป็นคนพูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม  คำพูดเลยอาจกระด้างไปบ้าง  และโวหารผมอาจไม่สวยหรูดูดีวจีไพเราะ  จะด่าว่าอย่างไรก็ตามสบายครับ  ผมไม่ถือสา บอกแล้วไงครับว่าผมนั้นมันระดับ "ภูเขาทอง" ..................................................................................................... อ่อ  ขอแก้ไขข้อความ  เพิ่มเติมสักนิดครับ  พอดีตะกี้ลืมไป ถ้าเป็นผม  ผมจะตอบเจ้าของกระทู้ว่า  ในขณะนั้น  คณะปฏิวัติคือ คปค. นั้น ถือว่าเป็นองค์รัฐาธิปัตย์  เมื่อ คปค. ประกาศ ฉบับที่ 27  ออกมา  ใคร-อะไรก็ต้องทำตามครับ  มันจะขัดหลักนิติธรรม  จะผิดเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานอะไร ก็ต้องทำตามคำสั่งขององค์รัฐาธิปัตย์ การยุบพรรค  ยุบเมื่อ 31 พ.ค. 2550  ตอนนั้นแม้จะมีรัฐบาลใหม่แล้ว  แต่เมื่อประกาศ คปค. ฉบับ 27  ยังมีผลอยู่ก็ต้องยึดถือตาม ผมจะตอบแบบนี้  และท่านอื่นใดมีความเห็นอย่างไรก็ถกกันมา  ถกกันในเนื้อหาและขอบเขตอำนาจของ คปค. ฉบับ 27 ผมไม่ไปยกเรื่องลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ  เรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ มาให้เสียเวลาหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 07:36:56 จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 13 มิ.ย. 52 07:20:52 A:125.26.233.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 คนที่โง่และหมกหมุ่นก็ย่อมเป็นคนนทีโง่และหมกหมุ่นตลอดนั้นแหละครับ โดยกระทู้นี้เขาตั้งคำถามไว้ว่า "(ถามอีกแล้ว)อยากถามคุณthyrocyteและคุณcambridgeเรื่องกฏหมายย้อนหลังได้? ผมคิดว่า ท่านทั้งสองน่า จะเป็นผู้รู้ทางด้านนี้นะครับ" แม้ในตัวเนื้อกระทู้จะมีการขยายความออกมาว่า ย้อนไปเมื่อปี50 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคอีก5ปี (โดยใช้ ตามประกาศของคปค.) แต่ท่านจขกท.ก็ได้เพิ่มเติมไว้ว่า... ผมอยากทราบว่า การตั้งกฏหมายย้อนหลังให้ส่งผลในวัที่กระทำผิดนี้ ทำได้หรือครับ เพราะจากการอ่านหนังสือ เล่มหนึ่ง เขาบอกว่า กฏหมายไม่สามารถย้อนหลังได้เว้นแต่กฏหมายนั้นให้ประโยชน์แก่จำเลย ผมก็เลยสงสัย ว่าเป็นยังไงกันแน่ ******************************************************************************** ดังนั้น โดยสรุป ผมถือว่าจขกท.ได้สอบถามมาในลักษณะทั่วไป ว่ากฏหมายย้อนหลังได้หรือไม่ แฃะเนื่องจากผม ไม่ใช่คนที่หมกหมุ่นคั่งแค้นฝั่งใจจนกลายเป็นคนมีปมด้อยเหมือนสมาชิกบางท่านในนี้ ผมย่อมถือว่าเป็นการสอบถาม ในกรณีทั่วไป ไมได้เจะจงในเรื่องการยุบพรรค การยุบพรรคตัดสิทธิเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้กฏหมายย้อนหลัง ดังนั้น ในเมื่อจขกท.ถามกรณีทั่วไป และผมไม่ขอตอบอย่างบางคนที่หมกหมุ่น ผมจึงได้ตอบให้ครบว่า กฏหมายย้อนหลัง ได้อย่างน้อยใน 3 กรณีที่ได้กล่าว แต่จะอธิบายซ้ำสำหรับท่านที่อาจจะมีความสามารถเข้าใจได้ยาก การย้อนหลังของ กฏหมายมีได้ตามที่ลงไว้ในคห.19 และ 44 คือ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. ดังนั้น ในเมื่อจขกท.ถามกรณีทั่วไป ผมจึงตอบให้ทั้งหมด ผมไม่ได้หมกหมุ่นแบบคนบางคนที่ใจมีแต่อคติเต็มไปด้วย มิจฉาทิฐิ ที่พอเห็นคำถามแบบนี้ ก็พูดแต่เรื่องเดียวหคือเรื่องยุบพรรค เพราะเรอื่งยุบพรรคเป็นเพียง ข้อที่ 3 ในบรรดากฏ หมาย 3แบบที่มีการใช้ย้อนหลัง ************************************************************************************* การอธิบายเรื่องฏีกาเกี่ยวกับการแก้ไขอาคารได้แจ้งไว้ให้คุณ Casper ในคห.78 แล้วว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค แต่เป็นการอธบายรายละเอียดเกี่ยวกับกฏหมายวิธีสบัญญัติที่ใช้ย้อนหลัง โดยยกเรื่องกฏหมายควบคุมความสูงอาคารมา ให้เป็นกรณีตัวอย่าง มีที่ตรงไหนหรือที่มีการบอกว่ากฏหมายควบคุมอาคารมาอธิบายเรื่องยุบพรรค มีแต่คนโง่ที่จะไปเชื่อม โยงในแบบนั้นเท่านั้น เพราะเรื่องกฏหมายควบคุมอาหารนั้น ย้ำอีกครังว่า นำมาเพื่ออธิบายกฏหมายวิธีสบัญญัติในฏีกาซึ่ง ถือเป็นกฏหมายลักษณะที่ 2 ที่มีการใช้ย้อนหลัง ดังนั้นกรุณาเข้าใจให้ถูกต้อง อย่าบิดเบือนหรือเมามัวหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องยุบพรรคว่า - การตอบกระทู้นี้ ผมได้ตอบในกรณีทั่วไปไม่ได้เจาะจงเรื่องการุบพรรคเรื่องเดียง แต่ครอบคลุมคำถามจขกท.ทั้งหมด เกี่ยวกับการย้อนหลังของกฏหมาย - การย้อนหลังของกฏหมายกรณีกฏหมายอาญา สามารถนำมาใช้ได้ในกรณ๊บทบงโทษใหม่เบากว่าบทลงโทษเดิม ซึ่งประเด็นนี้ ไม่มีการถกเถียงกันมาในกระทุ้นี้ - การย้อนหลังได้ของกฏฆมายวิธีสบัญญัติ ที่มีการยกตัวอย่างกฏหมายควบคุมอาคารมา มีคนไปสับสนเพราะความหมก หมุ่นแต่เรื่องยุบพรรค ทั้งๆที่ได้แจ้งไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวกัน แต่ได้อธิบายถึงกรณีที่กฏหมายวิธีสบัญญัติ ใช้ย้อนหลังได้ - การใช้วิธีการเพิ่อความปลอดภัย ตามที่กฏหมายระบุให้ใช้กฏหมายที่มีในวันที่มีคำพิพากษา อันนี้แหละที่เกี่ยวกับการยุบ ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค และได้อธิบายประเด็นนี้ไปตั้งแต่คห.37 แล้วยังมองไม่เห็นอีกหรือย่างไรครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 11:02:56 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 10:42:39 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 ดังนั้นกรุณาเลิหมกหมุ่นแต่เรื่องยุบพรรค เปิดสมองให้กว้างๆ ให้รู้เสียบ้างครับว่ากรณียุบพรรคตัดสิทธินั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกฏหมายที่สามารถมีผลย้อนหลังได้ เรื่องที่พยายามโยงที่ผมอธบายเกี่ยวกับกฏ หมายวิธีสบัญญัติ ว่าจะไปเกี่ยวกับการยุบพรรคอย่างไร เป็นความพยายามบิดเบือนของสมาชกอย่างแรง เพราะผมได้อธิบายไว้หลายต่อหลายครั้งแล้วว่า เป็นการอธบายเรื่องการย้อนหลังของกฏหมายวิธีสบัญญัติ ไม่ได้เกี่ยวกับการยุบพรรคเลย จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 10:45:53 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 93 อ่อ  ขอแก้ไขข้อความ  เพิ่มเติมสักนิดครับ  พอดีตะกี้ลืมไป ถ้าเป็นผม  ผมจะตอบเจ้าของกระทู้ว่า  ในขณะนั้น  คณะปฏิวัติคือ คปค. นั้น ถือว่าเป็นองค์รัฐาธิปัตย์  เมื่อ คปค. ประกาศ ฉบับที่ 27  ออกมา  ใคร-อะไรก็ต้องทำตามครับ  มันจะขัดหลักนิติธรรม  จะผิดเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานอะไร ก็ต้องทำตามคำสั่งขององค์รัฐาธิปัตย์ การยุบพรรค  ยุบเมื่อ 31 พ.ค. 2550  ตอนนั้นแม้จะมีรัฐบาลใหม่แล้ว  แต่เมื่อประกาศ คปค. ฉบับ 27  ยังมีผลอยู่ก็ต้องยึดถือตาม ผมจะตอบแบบนี้  และท่านอื่นใดมีความเห็นอย่างไรก็ถกกันมา  ถกกันในเนื้อหาและขอบเขตอำนาจของ คปค. ฉบับ 27 ผมไม่ไปยกเรื่องลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ  เรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ มาให้เสียเวลาหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 07:36:56 จากคุณ : ตระกองขวัญ ------------------------------------------------------------------------------------- ขอวิจารณ์ว่าล็อกอินท่านนี้ หากไปเสิรช์ดูจะเห็นว่าเพิ่งมาโพสต์เป็นภาษามนุษย์ที่เจริญแล้วสักหน่อยก็ในคห.นี้แหละ ในเมื่อสามารถโพสต์ได้เป็นสาระ ก็จะตอบให้ว่าไอ้ที่คุณโพสต์มาข้างบนนะครับ ผมตอบจขกท.และสมาชิกไปตั้งแต่คห. 36 แล้วไม่เห็นหรอกหรือ ที่ผมโพสต์ว่า "ศาลจำต้องนำประกาศคปค.ฉบับที่ 27 มาใช้ในการตัดสิทธิ" มองเห็นหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 10:51:25 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 10:49:32 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 ผมไม่ไปยกเรื่องลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ  เรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ มาให้เสียเวลาหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 07:36:56 จากคุณ : ตระกองขวัญ --------------------------------------------------------------------------------- ความท่อนนี้ แสดงความไม่รู้เรื่องในข้อกฏหมาย หรือไม่พยายามเข้าใจในคำอธิบายที่มีให้ไว้ หรืออาจเป็นเพราะมี แต่ความคิดที่คับแคบและหมกหมุ่นแต่ในเรื่องยุบพรรค เพราะดังที่ได้กล่าวแล้ว หัวกระทู้เขาตั้ง เรื่องกฏหมายย้อนหลังได้ ดังนั้น คำอธิบายที่ยกมาให้นั้นก็เพื่อให้ครอบคลุมกฏหมายลักษณต่างๆที่ย้อนหลังได้ ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องตัดสิทธิ หลังยุบพรรคเรื่องเดียว แต่ยังมีกรณีอื่นๆอีกที่กฏหมายย้อนหลังได้ เนื่องจากผมไม่ได้เป็นคนที่มีความคิดคับแคบหรือหมกหมุ่นแต่เรื่องยุบพรรค ดังนั้น ผมจึงอธิบายให้ครบตามที่รู้มาว่าการ ย้อนหลังของกฏหมายมีอย่างน้อย 3 ลักษณะ ไม่จำกัดเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการยุบพรรค คือ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. โดยการตัดสิทธิการยุบพรรคเป็นเรื่องในข้อ 3 แต่ข้อ 1 และ 2ก็เป็นการนำกฏหมายที่น้อนหลังได้มาให้ดู แม้จะไม่ เกี่ยวกับการยุบพรรค ก็ต้องยกมาให้ดู เพราะเป็นการตอบกระทู้เขา กรุณาเลิกมีความคิดที่คับแคบเถิดคุณเอย หัดมองโลกกว้างๆและเลิกโพสต์ในลักษณะก้าวร้าวเสียบ้าง ใช้วุฒิภาวะที่ พอจะมีอยู่ในการให้ความเห็นเสียบ้าง น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและเพื่อสมาชิกมากกว่าที่เป็นอยู่ ยกเว้นเสียแต่ อนาคตคิดจะไปเป็นหัวหน้านักเลง ก็จะโพสต์แบบเดิมก็คงห้ามไม่ได้ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 11:01:17 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอ่อคือยิ่งอ่านยิ่งงงครับงั้นหมายความว่ากรณียุบพรรคนี้เป็นความผิดทางอาญาใช่ไหมครับ จึงใช้มาตรา 50 ของประมวณกฎหมายอาญาในการลงโทษผู้กระทำความผิด ประกาศคณะปฎิวัติถือเป็นกฏหมายชนิดนึง แต่จะมีผลบังคับใช้หลังวันประกาศไปเหมือนกฎหมายอื่นๆเช่นกันนิครับ แต่ในกรณียุบพรรคนั้นเป็น การกระทำผิดก่อนเกิดประกาศอันนี้ แล้วในตัวประกาศคณะปฎิวัติเอาได้ระบุว่าให้มีผลย้อนหลังได้รึไม่ครับ คือความผิดที่ยุบพรรคเป็นความผิดที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แต่นำเอาบทลงโทษของคดีอาญามาใช้ได้รึไม่ครับ งง *-* เพราะกฎหมายคนละตัวกัน จากคุณ : ลุงโน่ - [ 13 มิ.ย. 52 11:29:28 A:118.172.11.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 อิอิ เรื่องนี้อ่านดูแล้วขอบอกคุณไทโรสุดยอดอีกเช่นเคยคราบ คนตั้งกระทู้เขาถามครอบคลุมหมดเรื่อง รถถังขับทับสุนัข และรวมไปถึงลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ  กับเรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ  คุณไทโรตอบได้ครบหมดเลยทุกประเด็น สุดยอด ทั้งเรื่องรถถังขับทับสุนัข(เรื่องยุบพรรคแล้วไปตัดสิทธิเลือกตั้งกก.บริหาร)  และรวมไปถึงลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ(ดูเหมือนจะเป็นกฏหมายอาญาย้อนหลังได้ใช่มะคราบ)  กับเรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ (อันนี้น่าจะเป็นอะไรสบันญัตินั้นแหละคราบ)   แต่เสื้อแดงนะอคติคิดแถเป็นอย่างเดียว พวกนี้ม..านเลย  แถ  ตลอด อ่านดูไม่เห็นความเห็นเสื้อแดงอันไหนมีแต่สาระเลย มีแต่แถ แถ แล้วก็แถ ไม่มียกกฏหมายหรือหลักอะไรมาอ้างมาสู้คุณไทโรเลย ต้องบอกว่า แถแบบเต็มๆคราบ เสื้อแดงที่สู้คุณไทโรได้มีอย่างเดียวคืออาศัยพวกมากเข้ามารุม ก็ทำได้แค่นั้นแหละคราบ 555555 จากคุณ : PhuketBoy - [ 13 มิ.ย. 52 11:41:39 A:58.10.198.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 ลุงโน่ คราบลุงอ่านดีๆคราบ จะเห็นว่าคุณไทโรเขาถือว่ากฏหมายเพื่อความปลอดภัยอะไรนี้นะ ไม่ใช่กฏหมายอาญากระมังคราบ เขาจึงแยกออกมาเป็นข้อสามนะครับ แต่กฏหมายอาญาอยู่ในข้อ 1 คราบ แล้วผมเห็นคุณไทโรแกบีบให้คนตั้งกระทู้เขาเข้าใจให้ถูกว่ากฏหมายความปลอดภัยนะไม่ใช่กฏหมายอาญา เห็นที่แกถามบีบคนตั้งกระทู้ในความเห็น 47 ไหมคราบ จนสุดท้ายคนตั้งกระทู้ออกมายอมรับในความเห็น 51 ว่ากฏหมายเพื่อความปลอดภัยที่เอาลงโทษนักการเมืองนี้ไม่ใช่กฏหมายอาญาคราบ ไปอ่านดูคราบ จากคุณ : PhuketBoy - [ 13 มิ.ย. 52 11:47:51 A:58.10.198.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 เอ่อวิธีการเพื่อความปลอดภัย ที่นำมาอ้างในตอนนี้คือ มาตรา 39 ของประมวณกฎหมายอาญานะครับ -*- ส่วนอนุ 5 ของมาตรา 39 ถูกอธิบายเพิ่มเติมใน มาตรา 50 ครับ ปล แก้ไขเลขมาตรา แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 12:01:28 จากคุณ : ลุงโน่ - [ 13 มิ.ย. 52 11:54:27 A:118.172.11.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 ส่วนกรณีที่คุณ Casper ว่าแล้วมิต้องทุบตึกทิ้งหรือ อันนี้อาจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการยุบพรรคหรือตุลาการรธน. แต่ตรงนี้ขอให้ข้อคิดเห็นว่า หากรัฐกล้าออกกฏหมายให้อาณาบริเวณใด มีตึกสูงได้ไม่เกินกี่ชั้น แล้วปรากฏว่ามี ตึกสูงเกินกฏหมายกำหนดอยู่ในบริเวณนั้นจริง ก็คงต้องมีการรื้อถอนตึกนั้นแหละครับ แต่ผมว่ารัฐคงไม่ออกกฏ หมายเช่นนี้หรอกครับเพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เว้นเสียแต่ในบางกรณีเช่น การออกกฏหมายควบ คุมความสูงอาคารที่อยู่ใกล้เขตพระราชฐาน หรือใกล้เขตความปลอดภัย เช่นฐานทัพ สิ่งก่อสร้างสำคัญ เช่นสนาม บิน ฯลฯ แบบนี้รัฐก็คงต้องเข้าไปรื้อถอนเพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายแต่ต้องมีการจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของ เพราะรธน.มัก จะกำหนดเรื่องตรงนี้ไว้อยุ่แล้ว ------------------------------- 1.ต้องเรียนไว้ก่อนนะครับว่าประเด็นที่ผมพูดถึงคือการตัดสินให้กฎหมายมีผลย้อนหลังตามหัวข้อกระทู้ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างว่าถ้ากฎหมายมีผลย้อนหลังได้ทุกกรณีเว้นแต่เป็นกรณีที่คุณยกมา ผมจึงยกตัวอย่างหากกฎหมายมีผลย้อนหลังแล้วปัญหาที่ตารมมาจะมากมายมหาศาลเพียงใด...มิได้มีเจตนาบิดเบือนอย่างที่คุณกล่าวหานะครับ ขอเรียนชี้แจง 2.ตัวอย่างที่ผมยกมากฎหมายโซนนิ่งของพัทยาออกมาแล้วครับ ห้ามมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสูงบริเวณเขตพื้นที่สีเขียวซึ่งส่วนหนึ่งก็อยู่ชายหาดพัทยาทั้งแถบนั่นแหละครับ และผมเชื่อเหลือเกินครับว่าจะไม่มีการดำเนินการรื้อถอนอาคารสูงที่สร้างมาก่อนหน้าอย่างที่คุณเข้าใจ เพราะผลกระทบที่ตามมานั้นมหาศาล...เรื่องแบบนี้มันก็อย่างที่ผมบอก เป็นการตัดสินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะมาบอกว่าหลักการนี้มันถูกต้องเหมือนที่คุณพยายามจะทำให้มันเป็นเนี่ยมันไม่ถูกต้องหรอกครับ ถ่านจะขัดยังไงมันก็ดำอยู่ดีแหละครับจะทาสีหรือนั่งฟอกมันก็ดำเพราะเนื้อในของมันเป็นเช่นนั้นครับ 3.เพิ่มเติมอีกประเด็นครับ หลักกฎหมายนั้นถ้ามีผลร้ายต้องมีความชัดเจนครับ หรือถ้าตัวอย่างที่ผมยกมาไม่ชัดเจนจนอาจทำให้คุณเข้าใจว่าผมบิดเบือนก็ยกตัวอย่างใหม่ก็แล้วกันครับ สมมุติว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อมาออกกฎหมายมาว่าใครก็ตามที่สนับสนุนการปฏิวัติทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอกชีวิตและห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยวการเมืองตลอดชีวิตคุณว่ายุติธรรมหรือไม่...หรือถ้าวันนึงกฎหมายออกมาว่าห้ามผู้พิพากษาเป็นลูกจ้างไม่ว่าจะรัฐหรือเอกชน ผู้พิพากษาที่เคยไปรับจ้างบรรยาย,สอนหนังสือ,รับเชิญแล้วได้รับค่าตอบแทน แบบนี้ท่านผู้พิพากษาเหล่านั้นก็ต้องออกจากราชการด้วยสิครับ(อันนี้ผมเรียนมาน้อยไม่ทราบว่าคุณสมบัติผู้พิพากษาเขาห้ามเป็นลูกจ้างหรือไม่ จริงๆนะครับ เอาหัว สุริยะใสเป็นประกัน) เนี่ยแหละครับที่เขาเรียกว่าความอยุติธรรมเพราะถ้ากฎหมายมีผลย้อนหลังได้ในกรณีมีผลร้ายมันก็ออกกฎหมายเอาผิดเอาคืนกันได้ง่ายๆ ตุลาการที่คมช.แต่งตั้งเองในส่วนศาลฎีกาจึงรับไม่ได้กับการเอาผิดย้อนหลัง และผลกระทบที่มีมามันมากเหลือเกินครับ ** แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 3 ครับ.. แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 13:10:10 จากคุณ : Casper (ผีน่ารัก) - [ 13 มิ.ย. 52 12:33:31 A:222.123.193.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 100 ความคิดเห็นที่ 93 ขอวิจารณ์ว่าล็อกอินท่านนี้ หากไปเสิรช์ดูจะเห็นว่าเพิ่งมาโพสต์เป็นภาษามนุษย์ที่เจริญแล้วสักหน่อยก็ในคห.นี้แหละ ในเมื่อสามารถโพสต์ได้เป็นสาระ ก็จะตอบให้ว่าไอ้ที่คุณโพสต์มาข้างบนนะครับ ผมตอบจขกท.และสมาชิกไปตั้งแต่คห. 36 แล้วไม่เห็นหรอกหรือ ที่ผมโพสต์ว่า "ศาลจำต้องนำประกาศคปค.ฉบับที่ 27 มาใช้ในการตัดสิทธิ" มองเห็นหรือไม่ จากคุณ : thyrocyte   - [ 13 มิ.ย. 52 10:49:32 A:203.147.40.3 X: ]   ................................................................................................. ขอบคุณครับคุณ thyrocyte ที่ให้เกีรยติบอกว่าผมโพสต์เป็นภาษามนุษย์ที่เจริญแล้ว   ขอบคุณครับ แต่ผมว่าปกติผมก็โพสต์แบบนี้แหละครับ  ใครจะว่าไม่เจริญ  ว่าด้อยคุณภาพ  ว่าไร้วุฒิภาวะ  หรือใครจะว่าเป็นภาษามนุษย์ที่เจริญแล้วอย่างคุณว่า  ผมก็ไม่แย้งหรอกครับ  ตามสบาย แต่ผมว่าเรื่องภาษานั้นอย่าไปเคร่งมันนักเลยครับ  ปากร้ายใจงามมีเยอะแยะไป   ที่สำคัญผมว่ามองที่ "ความคิด" และ "เจตนา" ดีกว่าครับ สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจแน่ ๆ  คือผมใช้ "ความคิด" และ "เจตนา" ของมนุษย์ที่เจริญแล้วมาโพสต์  โพสต์เพื่อสื่อสารให้เข้าใจกันง่าย ๆ ทั้งสองฝ่าย  ไม่กำกวม  ไม่เล่นคำเท่ ๆ  ไม่เล่นคำที่เต็มไปด้วยหลักการ  แต่เข้าใจยากชะมัด ชนิดอ่านสามเที่ยวก็ยังงง  ยิ่งอ่านมากครั้งก็ยิ่งมึน ผมว่าเด็ก ป.4  อ่านหัวข้อและเนื้อหาของกระทู้แล้ว  เขาคงเห็น "ความคิด" และ "เจตนา" ของผู้ตั้งกระทู้ว่าถามเรื่องอะไร  ต้องการคำตอบเรื่องอะไร เด็ก ป.4  เขาคงเห็นว่าคุณเจ้าของกระทู้นั้นต้องการ "เหตุผล" มากกว่า "แง่มุมทางกฎหมาย" แต่ดูคำตอบของคุณใน คห.91 แล้ว  ผมก็ทึ่งว่า  คุณช่างมีความสามารถสูงกว่าเด็ก ป.4 อย่างล้ำเหลือ   คุณสามารถเข้าใจ "ความคิด" และ "เจตนา" ของผู้ตั้งกระทู้ได้อย่างชนิดก้าวหน้าไปถึงกาแลคซี่ไหน ๆ   ตอบแง่มุมทางกฎหมายซะจนผมคิดว่า ถึงตอนนี้คุณเจ้าของกระทู้อาจจะยังไม่หายงง ผมแค่อุปมาอุปไมย และคาดการณ์นะครับ   เอาล่ะครับ  ผมเมื่อยที่จะสาธยาย  ปวดนิ้ว การตอบอย่างตรงไปตรงมานั้น  ผมว่ามันไม่หนักหนาอะไร  แต่ช่างเถอะมันไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เข้าประเด็นดีกว่า ที่มันถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้  ก็เพราะมันมีความสงสัยในความ "เที่ยงธรรม" แค่นั้นเองครับ คห.36 ของคุณ คุณได้อ้างเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับวิธีความปลอดภัย ตุลาการจึงจำต้องตัดสินไปตามนั้น และในคำพิพากษาก็มีการเอ่ยถึงเรื่องความเสียหายที่กรรมการบริหารพรรคก่อขึ้น และอาจก่อขึ้นซ้ำอีก ตรงนี้แหละครับ  อยากขอถามสักนิดครับ  เหตุผลของคำพิพากษานี้  "สมเหตุสมผล" ไหมครับ นี่แหละครับคือประเด็น  ประเด็นว่า ประกาศฉบับนั้นมันย้อนหลังได้หรือไม่ ว่ามันมีอำนาจอย่างที่ตุลาการฯ ได้พิพากษาไว้หรือไม่  ถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่  เป็นธรรมต่อผู้ถูกลงโทษหรือไม่  (ดู คห.90) ความสัมพนธ์ของข้อกฎหมายความปลอดภัยกับความเสียหายที่คำพิพากษาเขียนไว้นั้น มันเป็นการบิดกฎหมายเพื่อให้การยุบพรรคและตัดสิทธิ์มีเหตุผลอันฟังขึ้นหรือไม่    เป็นการ "ดึง" ข้อกฎหมายมาประกอบเพื่อให้การยุบพรรคและตัดสิทธิ์ "บรรลุ" หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากรู้   หาเหตุผลอธิบายได้ไหมครับว่า  คำพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีนั้นมันสมเหตุสมผล  อย่าแค่หมกมุ่นอยู่กับการอ้างข้อกฎหมาย  แง่มุมทางกฎหมาย ขอเหตุผลที่มนุษย์ผู้เจริญแล้วที่แหละมาถกกัน   หาบทสรุปให้ได้สิว่า  การตัดสิทธิ์ทางการเมืองนั้นมันสมควรแล้ว  สมเหตุสมผลแล้ว  ยุติธรรมแล้ว ให้เหตุผลและบทสรุปอันชัดเจน (กรุณาอย่าบอกนะครับว่าให้กลับไปอ่านคำพิพากษา) หากอธิบายตรงนี้ได้  ทุกอย่างก็จบครับ หากกฎหมายกับเหตุผลมันคล้องจองกัน เชื่อมกันติด  ทุกอย่างก็จบครับ พิรี้พิไรแต่ในแง่กฎหมาย  ไม่ใช่นักเหตุผลครับ  แค่ทนายความขึ้นว่าความเพื่อหวังเอาชนะ จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 13 มิ.ย. 52 12:35:54 A:125.26.237.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 101 ความคิดเห็นที่ 94   ผมไม่ไปยกเรื่องลิงขึ้นมะพร้าว  เรื่องเรือดำน้ำ  เรื่องบ้องไฟชนยานอวกาศ มาให้เสียเวลาหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 07:36:56 จากคุณ : ตระกองขวัญ --------------------------------------------------------------------------------- ความท่อนนี้ แสดงความไม่รู้เรื่องในข้อกฏหมาย หรือไม่พยายามเข้าใจในคำอธิบายที่มีให้ไว้ หรืออาจเป็นเพราะมี แต่ความคิดที่คับแคบและหมกหมุ่นแต่ในเรื่องยุบพรรค เพราะดังที่ได้กล่าวแล้ว หัวกระทู้เขาตั้ง เรื่องกฏหมายย้อนหลังได้ ดังนั้น คำอธิบายที่ยกมาให้นั้นก็เพื่อให้ครอบคลุมกฏหมายลักษณต่างๆที่ย้อนหลังได้ ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องตัดสิทธิ หลังยุบพรรคเรื่องเดียว แต่ยังมีกรณีอื่นๆอีกที่กฏหมายย้อนหลังได้ เนื่องจากผมไม่ได้เป็นคนที่มีความคิดคับแคบหรือหมกหมุ่นแต่เรื่องยุบพรรค ดังนั้น ผมจึงอธิบายให้ครบตามที่รู้มาว่าการ ย้อนหลังของกฏหมายมีอย่างน้อย 3 ลักษณะ ไม่จำกัดเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการยุบพรรค คือ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. โดยการตัดสิทธิการยุบพรรคเป็นเรื่องในข้อ 3 แต่ข้อ 1 และ 2ก็เป็นการนำกฏหมายที่น้อนหลังได้มาให้ดู แม้จะไม่ เกี่ยวกับการยุบพรรค ก็ต้องยกมาให้ดู เพราะเป็นการตอบกระทู้เขา กรุณาเลิกมีความคิดที่คับแคบเถิดคุณเอย หัดมองโลกกว้างๆและเลิกโพสต์ในลักษณะก้าวร้าวเสียบ้าง ใช้วุฒิภาวะที่ พอจะมีอยู่ในการให้ความเห็นเสียบ้าง น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและเพื่อสมาชิกมากกว่าที่เป็นอยู่ ยกเว้นเสียแต่ อนาคตคิดจะไปเป็นหัวหน้านักเลง ก็จะโพสต์แบบเดิมก็คงห้ามไม่ได้ จากคุณ : thyrocyte   - [ 13 มิ.ย. 52 11:01:17 A:203.147.40.3 X: ] ........................................................................................................ อ้าว  เพิ่งเห็น คห.94 "กรุณาเลิกมีความคิดที่คับแคบเถิดคุณเอย หัดมองโลกกว้างๆและเลิกโพสต์ในลักษณะก้าวร้าวเสียบ้าง ใช้วุฒิภาวะที่ พอจะมีอยู่ในการให้ความเห็นเสียบ้าง น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและเพื่อสมาชิกมากกว่าที่เป็นอยู่ ยกเว้นเสียแต่ อนาคตคิดจะไปเป็นหัวหน้านักเลง ก็จะโพสต์แบบเดิมก็คงห้ามไม่ได้" ขอบคุณครับที่กรุณาตักเตือน มีอะไรจะตักเตือนอีกก็เชิญได้เต็มที่เลยนะครับ  ผมยินดีรับฟังและน้อมรับคำตักเตือนด้วยความเต็มใจ บอกแล้วไงครับ ผมนั้นมันระดับ "ภูเขาทอง" แล้ว แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 12:58:03 จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 13 มิ.ย. 52 12:56:29 A:125.26.237.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 ความคิดเห็นที่ 97  PhuketBoy "ลุงโน่ คราบลุงอ่านดีๆคราบ จะเห็นว่าคุณไทโรเขาถือว่ากฏหมายเพื่อความปลอดภัยอะไรนี้นะ ไม่ใช่กฏหมายอาญากระมังคราบ เขาจึงแยกออกมาเป็นข้อสามนะครับ แต่กฏหมายอาญาอยู่ในข้อ 1 คราบ" PhuketBoy รับรู้ไว้ด้วยนะว่า วิธีการเพื่อความปลอดภัย นั้นอยู่ในประมวลกฏหมายอาญา มาตราที่ 39  ถ้าไม่เชื่อก็ลอง serch ดู  ที่#51 เขาว่า "การตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่ใช่โทษทางอาญา" ไม่ใช่ยอมรับว่ากฏหมายเพื่อความปลอดภัยที่เอาลงโทษนักการเมืองนี้ไม่ใช่กฏหมายอาญา มันคนละเรื่องกัน ซึ่งพอ thyrocyte แกยกมาอย่างนี้ เขาถึงได้งง ว่าตกลงมันยังไงกันแน่ ในเรื่องการยุบพรรคจะให้เข้าข้อไหน 1. กฏหมายอาญาในส่วนที่เป้นคุณต่อผู้กระทำความผิด สามารถนำมาใช้ย้อนหลังให้ผู้กระทำความผิดได้ -->อันนี้  การยุบพรรค และตัดสิทธิ์ไม่ได้เป็นคุณแน่ๆ 2.กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้  -->  การยุบพรรค และตัดสิทธิ์ ก็ไม่มีในกฏหมายวิธีสบัญญัติ 3.กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท.--> แต่กฏหมายนี้เป็นกฏหมายอาญา มันก็แย้งกับข้อ 1. และที่สำคัญนะ มาตราต่อเนื่องของวิธีการเพื่อความปลอดภัย น่ะ มันกล่าวถึง "ผู้ใด" แล้วไอ้พรรคการเมืองเนี่ย มันเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล แล้วการกล่าวถึงการห้ามการประกอบอาชีพบางอย่าง กฏหมายเขากล่าวไว้อย่างนี้ มาตรา 50 เมื่อศาลพิพากษาให้ลงโทษผู้ใด - ถ้าศาลเห็นว่าผู้นั้นกระทำความผิดโดยอาศัยโอกาสจากการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพ หรือเนื่องจากการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพ และเห็นว่าหากผู้นั้นประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพนั้นต่อไปอาจจะกระทำความผิดเช่นนั้นขึ้นอีก - ศาลจะสั่งไว้ในคำพิพากษาห้ามการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพนั้นมีกำหนดเวลาไม่เกินห้าปีนับแต่วันพ้นโทษไปแล้วก็ได้ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับพรรคการเมือง?????? และเมื่อมันเป็นกฎหมายอาญาจะเอามาใช้ตัดสิทธิ์นัการเมืองย้อนหลังได้อย่างไร (ตามข้อ1) ขอบอกว่าความคิดเห็นจาก thyrocyte นั้นมีข้อดี คือมีการนำข้อมูลมาคุยกัน มีที่มาหรือหลักฐานอ้างอิงน่าเชื่อถือ แต่อยากให้รับรู้ไว้อย่างว่าแกก็คนธรรมดานี่แหละ มีถูก มีผิด มีเกรียน มีสุภาพ มีทั้งตรงไปตรงมา และมีบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปคนละทาง มี hidden agenda เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อถือจริงจังอะไรนัก ยังไงก็ตรวจสอบซะหน่อย จะได้ไม่โดนหลอก เรื่องยังงี้ มีทั้งฝั่งเสื้อเหลือง เสื้อแดง และเสื้อขาว มันเป็นเรื่องธรรมดา แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 13:06:43 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 13:00:01 จากคุณ : kit_108 - [ 13 มิ.ย. 52 12:56:37 A:119.46.55.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 103 อ่าน คห 102  เริ่มเข้าใจขึ้น จากคุณ : น้ำมิตร - [ 13 มิ.ย. 52 13:09:19 A:58.9.114.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 สวัสดีคร้าบบบ ไม่ทราบว่า ยังจำเสียงผมได้ไหมครับ ขอโทษครับ ไม่ได้มีโอกาสอยู่หน้า Computer เพิ่งได้เห็นกระทู้ ... ขออ่านเพื่อความเข้าใจก่อนนะครับ แล้วจะรีบตอบ (หากตอบได้ เพราะผมไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ และไม่มีความชำนาญเรื่องนี้ครับ) === แต่อ่านๆดู เห็นเพื่อนๆเสื้อแดง และทุกท่านอื่นๆ หลายท่านก็พอทราบกฏหมายนี่ครับ ... ก็จะพยายามตอบนะครับ (ถ้าทำได้) จากคุณ : cambridge - [ 13 มิ.ย. 52 13:39:47 A:66.90.73.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 ตอบ คห.99 คุณ casper - ที่ว่ามีกฏหมายควบคุมความสูงอาคารที่พัทยานั้น ขึ้นกับรายละเอียดในกฏหมายนั้นเองว่าออกมาอย่างไร คือ หนึ่งปล่อยให้อาคารที่สูงเกินกำหนดคงอยู่ต่อไป แต่ห้ามการสร้างอาคตารใหม่สูงเกินกำหนด หรือ สอง กำหนด เด้ดขาดให้ทุกอาหารสูงไม่เกินที่กำหนด หากสูงเกิน ต้องทุบออก คงต้องดูรายละเอีดที่กำหนดไว้ในกฏกหมายนั้น ครับ แต่คงจะนอกประเด็นกระทู้ไปไกล ประเด็นอยู่เพียงว่าหากอาคารเก่าที่สร้างตามกฏฆมายเดิมนั้น มีกฏมหมาย ใหม่ออกมากำหนดความสูงใหม่ การต้องทุบเพื่อให้ได้ความสูงตามกฏหมายใหม่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ อันนี้คือจุ ที่ต้องการจะสื่อ ตอบ คห.100 คุณ : ตระกองขวัญ - หากกฎหมายกับเหตุผลมันคล้องจองกัน เชื่อมกันติด  ทุกอย่างก็จบครับ ตอบ ผมได้แสดงความเชื่อมโยงมาแต่ต้นแล้ว นั้นคือ ประกาศคปค ฉบับที่ 27 มีฐานะเป็นกฏหมายเกี่ยวกับมาตรา การเพื่อความปลอดภัย เพราะมีบทลงโทษที่ไม่ใช่บทลงโทษอาญา แต่เป็นบทลงโทษในลักษณะของวิธีการเพื่อ ความปลอดภัย ในลักษณะห้ามประกอบอาชีพหรือทำงานบางอย่างชั่งคราว ดังนั้น ตามที่กำหนดไว้ ศาลจะต้องใช้ กฏฆมายที่มีอยู่ในวันที่ตัดสิย ไม่ใช่ใช้กฏหมายทีมีอยู่ในวันที่ทำความผิด กฏฆมายที่มีอยู่ในวันที่ตัดสิน ก็คือ ประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 นั้น เอง จบครับ ซตพ. ไม่ต้องมาแย้งกันอีกครับ ปล. ในส่วนที่เป็นติ่งห้อยออกมาของคุณที่ใช้คำว่า ไม่ต้องมาพิรี้พิไรนั้น ตรงไหนของคำธิบายทางกฏหมายของผม เป็นส่วนที่พิรี้พิไรครับ ช่วยยกมาให้ดูสักหน่อยครับ เพราะที่ผ่านมาอธิบายไปตรงตามที่จขกท.ตั้งกระทู้ทั้งหมด จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:30:20 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 คห.101 ตระกองขวัญ อีกครั้ง ดีแล้วครับที่คุณสำนึกในสิ่งที่ผ่านมาว่าไม่ถูกต้อง ที่เพื่อนสมาชิก อยากเช่นผมหรือ คนอื่นก็ตามโพสต์ตอบเข้ามาด้วยสาระ ตรงในประเด็น แต่ตัวคุณและพลพรรค กลับเข้ามาโพสต์ในลักษณะยั่วยุ แทนที่จะภกกันในสาระ พากัยออกไปในแนวยั่วยุ เสียดสี หากคุณเกิดความละอายใจตรงนี้ได้ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี และที่ว่าเป็นภูเขาทอง นั้น ผมไม่ทราบว่าคุณต้องการสื้อว่าอะไร ต้องการสื่อว่าเป็นขาใหญ่ในนี้ ทุกคนต้องยำเกรง เช่นนั้นหรือ หากเป็นกรณีนี้ ผมขอบอกว่า ทุกคนที่เข้ามาในนี้ล้วนต้องทำตามกฏระเบียบของเวบบอร์ด ต่อให้เป็น ภูเขาหรือเนินดิน ก็เท่าเทียมเสมอกันในห้องนี้ ขึ้นกับเนื้อหาที่พิมพ์และโพสต์เข้ามากกว่า มันแสดงออกว่าใคร เป็นภูเขาทองของจริง หรือเป็นแค่ภูเขาทองจำลอง จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:36:46 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 ให้ความเห็น ต่อคห.102 คุณ : kit_108 ต้องบอกก่อนว่าความเห็นของคุณ Phuketboy อาจจะต่างไปจากผม แต่ก็ใกล้เคียง ในส่วนของผมนั้น กฏมายที่ที่ผมเคยทราบว่าย้อนหลังได้นั้น ดังที่กล่าวแล้วมี 3 ลักษณะ คือ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. โดยข้อ3 เป็นประเด็นที่คุณ kit_108 แย้งว่าเป็นกฏหมายอาญา เพราะอยู่ในประมวลกฏหมายอาญา ถ้าเช่นนั้นกรุณา เปิดไปที่มาตรา 12 ของประมวกฏหมายอาญาด้วยครับ เขาเขียนไว้ชัดเจนว่า กฏหมายเกี่ยวกับมาตราการเพื่อความ ปลอดภัยนั้น ให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่พิพากษาคดีครับ ไม่ใช่เอากฏหมายที่มีขณะกระทำความผิดมาใช้ครับ ดังนั้นแม้ว่ามาตราการเพื่อความปลอดภัยจะเป็นกฏหมายอาญาจริง แต่ตัวกฏหมายอาญาได้เขียนไว้ และผมเอง ได้พยายาทอธิบายมานานแล้วว่า กฏหมายส่วนนี้ใช้ย้อนหลังได้ คือ ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่มีคำพิพากษา ไม่ใช่ ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่กระทำความผิดครับ กังนั้นที่ว่ามาตราการเพื่อความปลอดภัยเป็นกฏหมายอาญานั้นจริง แต่ขอให้อ่านคห.12 นี้ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 14:54:33 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:45:17 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 ความคิดเห็นที่ 103   อ่าน คห 102  เริ่มเข้าใจขึ้น จากคุณ : น้ำมิตร -------------------------------------------------------------------------- ครับหวังว่าคุณน้ำมิตร คงเข้าใจนะครับว่ามาตราการเพื่อความปลอดภัยแม้เป็นกฏหมายอาญาจริง แต่ตัวกฏหมาย อาญาได้เขียนไว้ ว่ากฏหมายส่วนนี้ใช้ย้อนหลังได้ คือ ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่มีคำพิพกาษา ไม่ใช่ใช้กฏหมายที่ มีอยู่ในวันที่กระทำความผิดครับ ประกาศคปค ฉบับที่ 27 มีฐานะเป็นกฏหมายเกี่ยวกับมาตราการเพื่อความปลอดภัย เพราะมีบทลงโทษที่ไม่ใช่ บทลงโทษอาญา แต่เป็นบทลงโทษในลักษณะของวิธีการเพื่อความปลอดภัย ในลักษณะห้ามประกอบอาชีพ หรือทำงานบางอย่างชั่งคราว ดังนั้น ตามที่กำหนดไว้ ศาลจะต้องใช้ กฏฆมายที่มีอยู่ในวันที่ตัดสิน ไม่ใช่ใช้ กฏหมายทีมีอยู่ในวันที่ทำความผิด กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่ตัดสิน ก็คือ ประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 นั้น เองจบครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:48:23 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 คุณ : cambridge สวัสดีครับ ยินดีที่เข้ามาทักทายกันอีกนะครับ ในส่วนของข้อกฏหมาย ผมอธิบายไปในส่วน ที่ผมทราบมาครับ จะถูกผิดอย่างไรวิจารณ์ได้ครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:50:21 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 110 อ่านมาตั้งนาน ก็อยากจะชวนสรุปประเด็นกันเป็นเรื่อง ๆ ไล่ไปครับ จะได้ผ่านไปเป็นเรื่อง ๆ ไม่วนซ้ำไปมา ขอทำความเข้าใจ คุณ thyrocyte ก่อน เริ่มแรกอยากทราบว่า คุณ thyrocyte เห็นด้วยรึไม่ว่ากฏหมายโดยทั่วๆ ไป ไม่ควรที่จะออกมามีโทษย้อนหลัง ยังไม่ต้องคิดถึงบางข้อปลีกย่อยกฏหมายนะครับ เอาหลักโดยทั่วไปก่อน หรือเห็นว่าเฉพาะความผิดอาญาเท่านั้นจริง ๆ ที่ไม่ควรลงโทษย้อนหลัง โทษอื่นนอกจากนั้นสามารถออกได้โดยทั่วไป ไม่ผิดหลักนิติรัฐ จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 14:50:57 A:125.24.92.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 111 คุณ : arctan45 เฉพาะความผิดอาญาเท่านั้นจริง ๆ ที่ไม่ควรลงโทษย้อนหลัง โทษอื่นนอกจากนั้นสามารถ ออกได้โดยทั่วไป ไม่ผิดหลักนิติรัฐครับ เราใช้กฏหมายกันในแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่มาใช้ตอนยุบพรรค จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 14:56:14 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 ความคิดเห็นที่ 106   คห.101 ตระกองขวัญ อีกครั้ง ดีแล้วครับที่คุณสำนึกในสิ่งที่ผ่านมาว่าไม่ถูกต้อง ที่เพื่อนสมาชิก อยากเช่นผมหรือคนอื่นก็ตามโพสต์ตอบเข้ามาด้วยสาระ ตรงในประเด็น แต่ตัวคุณและพลพรรค กลับเข้ามาโพสต์ในลักษณะยั่วยุ  แทนที่จะภกกันในสาระ พากัยออกไปในแนวยั่วยุ เสียดสี หากคุณเกิดความละอายใจตรงนี้ได้ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี และที่ว่าเป็นภูเขาทอง นั้น ผมไม่ทราบว่าคุณต้องการสื้อว่าอะไร ต้องการสื่อว่าเป็นขาใหญ่ในนี้ ทุกคนต้องยำเกรงเช่นนั้นหรือ หากเป็นกรณีนี้ ผมขอบอกว่า ทุกคนที่เข้ามาในนี้ล้วนต้องทำตามกฏระเบียบของเวบบอร์ด ต่อให้เป็น ภูเขาหรือเนินดิน ก็เท่าเทียมเสมอกันในห้องนี้ ขึ้นกับเนื้อหาที่พิมพ์และโพสต์เข้ามากกว่า มันแสดงออกว่าใครเป็นภูเขาทองของจริง หรือเป็นแค่ภูเขาทองจำลอง จากคุณ : thyrocyte   - [ 13 มิ.ย. 52 14:36:46 A:124.121.35.67 X: ] ........................................................................................................................ เอ..  เรื่องนี้ผมว่าผมเคยตอบคุณ cambridge ไปแล้วนะครับเมื่อวานนี้  นึกว่าคุณ thyrocyte จะเห็นคำตอบนั้นด้วย แสดงว่าคุณยังไม่เห็นเลยไม่รู้  งั้นผมขอบอกอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ "ภูเขาทอง"  ไม่ได้หมายความถึง  "ขาใหญ่"  ครับ แต่มันหมายถึง  "ความหนักแน่น"   ม.ร.ว.คึกฤทธิ์  ปราโมช  ครับ เป็นผู้เปรียบเปรย สมัยท่านทำสยามรัฐ ท่านบอกว่า อาชีพสื่อมวลชนนั้นต้องหนักแน่น  ทำตัวเป็นภูเขาทอง   "หมาเยี่ยวรด"  มั่ง  ก็อย่าไปหวั่นไหว  หรือถือสาหาความ ก็เลยขออธิบายครับ  จะได้ไม่เข้าใจผิด ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรหรอกครับ  หวังว่าคุณ thyrocyte คงเข้าใจ จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 13 มิ.ย. 52 15:01:43 A:125.26.237.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 113 ถ้าเป็นโดยทั่วไปจริง ขอทราบตัวอย่างที่เข้าข่ายนี้ กรณีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยในกฏหมายควบคุมอาคาร(หรือเรื่องทางวิศวะกรรม)ได้มั้ยครับ เมื่อมันเป็นเรื่องที่ทำมานานเป้นปกติอย่างที่ว่าน่าจะมีหลายฉบับนะครับ รบกวนด้วยครับ มาให้เห็นเยอะ ๆ จะได้ยืนยันได้ว่าทำกันทั่วไปจริง ( พอดีผมมาทางวิศวะ ไม่ถนัดกฏหมาย ไม่รู้มีประมวลอะไรให้ลองหาบ้าง จากที่ผ่านมาดูแล้วคุณ  thyrocyte น่าจะชำนาญในการหาข้อมูลด้านนี้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ  ) ปล. ประกาศคณะรัฐประหารทั้งหลายอย่านับรวมเลยนะครับ เพราะมันออกในภาวะไม่ปกติ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 15:07:05 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 15:06:12 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 15:05:07 จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 15:02:32 A:125.24.92.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 114 สวัสดีครับ คุณ​thyrocyte และท่านอื่นๆ ผมได้อ่านมาเกือบทุกความเห็นแล้วครบ แต่คงต้องขอออกตัวเลยว่า ไม่เข้าใจลักษณะการตีความของเรื่องนี้ เลยขออนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ได้วิพากษ์เต็มที่เลยนะครับ เห็นน้องอพรเรียนว่าอยากจะแสดงคคห. แต่อยากฟังก่อน ก็เชิญเลยนะครับ "ท่านได้รับสิทธิ์นี้ทันทีครับ" === ปล. ขออภัยนะครับที่อาจจะมาตอบไม่ได้มาก เพราะวันนี้ไม่มีใครให้ O.T. ครับ - ช่วงนี้เลยไปรับงานอื่นๆมาถึงพอหาเลี้ยงตัวได้ขอรับ (จะสื่อว่าค่อนข้างยุ่งครับ พรุ่งนี้ก็ต้องเริ่มงานแต่เช้า...) จากคุณ : cambridge - [ 13 มิ.ย. 52 15:12:28 A:66.90.73.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 115 โดยข้อ3 เป็นประเด็นที่คุณ kit_108 แย้งว่าเป็นกฏหมายอาญา เพราะอยู่ในประมวลกฏหมายอาญา ถ้าเช่นนั้นกรุณา เปิดไปที่มาตรา 12 ของประมวกฏหมายอาญาด้วยครับ เขาเขียนไว้ชัดเจนว่า กฏหมายเกี่ยวกับมาตราการเพื่อความ ปลอดภัยนั้น ให้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่พิพากษาคดีครับ ไม่ใช่เอากฏหมายที่มีขณะกระทำความผิดมาใช้ครับ ดังนั้นแม้ว่ามาตราการเพื่อความปลอดภัยจะเป็นกฏหมายอาญาจริง แต่ตัวกฏหมายอาญาได้เขียนไว้ และผมเอง ได้พยายาทอธิบายมานานแล้วว่า กฏหมายส่วนนี้ใช้ย้อนหลังได้ คือ ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่มีคำพิพากษา ไม่ใช่ ใช้กฏหมายที่มีอยู่ในวันที่กระทำความผิดครับ จากคุณ : thyrocyte ............................................... ไม่ทราบจะเกี่ยวกันมั้ยนะ  สมมติผมไปปล้นฆ่าใครตอนอายุ 17  แต่โดนพิพากษาตอนอายุ 21  ผมก็ยังต้องขึ้นศาลเยาวชนหรือได้รับโทษตามบทลงโทษเยาวชน  ใช่หรือไม่ครับ ต่อด้วยอีกข้อ เกี่ยวกับความปลอดภัยที่ว่าตัดสิทธิกรรมการนั้น  อย่างกรณีเนวินแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเป็นตัวการแบบนี้  ถือว่าผิดตามคำพิพากษามั้ยครับ  เพราะยังเข้ามายุ่งเกียวเกือบทุกเรื่อง ต่างกันที่ไมได้รับตำแหน่งทางการเมืองแค่นั้นเอง  อันนี้รบกวนถามความเห็นคุณนะครับ  เพราะเพื่อนๆหลายคนก็ด่าเรื่องนี้กันเยอะ  ผมจะได้ช่วยชี้แจงให้ด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ภูเขาทะเล - [ 13 มิ.ย. 52 15:44:28 A:58.9.94.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 ไม่ทราบจะเกี่ยวกันมั้ยนะ  สมมติผมไปปล้นฆ่าใครตอนอายุ 17  แต่โดนพิพากษาตอนอายุ 21  ผมก็ยังต้องขึ้นศาลเยาวชนหรือได้รับโทษตามบทลงโทษเยาวชน  ใช่หรือไม่ครับ ต่อด้วยอีกข้อ เกี่ยวกับความปลอดภัยที่ว่าตัดสิทธิกรรมการนั้น  อย่างกรณีเนวินแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเป็นตัวการแบบนี้  ถือว่าผิดตามคำพิพากษามั้ยครับ  เพราะยังเข้ามายุ่งเกียวเกือบทุกเรื่อง ต่างกันที่ไมได้รับตำแหน่งทางการเมืองแค่นั้นเอง  อันนี้รบกวนถามความเห็นคุณนะครับ  เพราะเพื่อนๆหลายคนก็ด่าเรื่องนี้กันเยอะ  ผมจะได้ช่วยชี้แจงให้ด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ภูเขาทะเล --------------------------------------------------------------------------- เขาใช้อายุขณะกระทำความผิดในการพอจารณาคดี ไม่ใช่ใช้อายุขณะที่พิพากษาคดีครับ ตามประมวกฏหมาย อาญานั้นระบุไว้ว่า มาตรา ๗๕ ผู้ใดอายุกว่าสิบสี่ปี แต่ยังไม่เกินสิบเจ็ดปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ให้ศาลพิจารณาถึงความรู้ผิดชอบและสิ่งอื่นทั้งปวงเกี่ยวกับผู้นั้น ในอันที่จะควรวินิจฉัยว่าสมควรพิพากษา ลงโทษผู้นั้นหรือไม่ถ้าศาลเห็นว่าไม่สมควรพิพากษาลงโทษ ก็ให้จัดการตามมาตรา ๗๔ หรือถ้าศาล เห็นว่าสมควรพิพากษาลงโทษก็ให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้ สำหรับความผิดลงกึ่งหนึ่ง ส่วนกรณีจะไปขึ้นศาลไหนนั้น ตามความเข้าใจของผมหากจับตัวได้เมื่ออายุ 20 ปีหรือเกิน 18 ปีไปแล้วก็ต้อง ไปขึ้นศาลยุติธรรมตามปกติแหละครับ หากจับตัวได้ก่อนอายุ 18 ปีก็ต้องไปขึ้นศาลคดีเด็กและเยาวชนครับ แต่ไม่ว่าจะขึ้นศาลใด หลักของการกำหนดโทษตามปอ.75 จะใช้ได้เสมอไม่ว่าจะพิจารณาคดีนั้นในศาลเด็กและ เยาวชน หรือในศาลยุติธรรม หากจับตัวได้เมื่อโตแล้ว และไม่ขาดอายุความ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 16:02:34 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 15:55:40 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 117 เรื่องเนวิน ผมเคยให้ความเห็นส่วนตัวไว้มากแล้วครับ ล่าสึดก็เมื่อวานนี้ ขอความกรุณาเปิดไปอ่านที่ลิงค์ดีกว่า เพราะจะนอกประเด็นกระทู้ไปไกลมาเกินไปนะครับ ช่วยคลิกไปที่ลิงค์นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7964545/P7964545.html จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 15:57:46 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 118 คุณ : cambridge ยินดีที่เข้ามาร่วมในกระทู้นะครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ดีใจเสมอที่เห็นคุณเคมบริดจ์เข้ามาครับ หากมีข่าวคราวหรือรูปหรือข้อมูลหรือลิงค์ข่าวดีๆ ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 15:59:52 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 119 ความคิดเห็นที่ 113   จากคุณ : arctan45  เรื่องคำพิพากษาเกียวกับการใช้มาตราการเพื่อความปลอดภัยนะ ถ้าเป็นชั้นฏีกาจะหาได้ไม่มาก และไม่ตรงกับกรณีที่คนสนใจเท่าไร ทั้งนี้เพราะมาตราการเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่โทษทางอาญา ที่จะลงแก่จำเลย คือไม่ใช่ การประการชีวิต จำคุก กักขัง หรือกุมขัง เลยเข้าใจว่าทำให้ไม่ ค่อยมีการสู้คดีถึงฏีกา จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 16:19:40 A:124.121.35.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอก๊อปความคิดเห็นที่ 89  มาให้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง .................................................................................................................. ความคิดเห็นที่ 89   ผมขออนุญาตหยิบยกคำวินิจฉัยข้างน้อยคดียุบพรรคไทยรักไทย โดยท่านอาจารย์ปัญญา ถนอมรอด อดีตประธานศาลฎีกาและอดีตประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญดังนี้ครับ "กฎหมายที่ดีนั้น ต้องตราขึ้นโดยอาศัยหลักนิติธรรม กล่าวคือ กฎหมายต้องตราขึ้นโดยสถาบันซึ่งประชาชนพลเมืองยอมรับนับถือให้มีสิทธิและอำนาจที่ตราขึ้นบังคับได้ กฎหมายจะต้องยอมรับในหลักที่ว่า ประชาชนทุกคนในประเทศนั้นมีเกียรติและเสมอกันในกฎหมาย จะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายยิ่งไปกว่าผู้อื่น กฎหมายจะกำหนดให้เอาตัวประชาชนผู้ใดไปลงโทษไม่ได้ เว้นไว้แต่ว่าประชาชนผู้นั้นจะได้กระทำการซึ่งมีกฎหมายบัญญัติไว้ก่อนแล้วว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด ...    เมื่อพิจารณาหลักนิติธรรมข้างต้น ประกอบกับการตรากฎหมายนั้น โดยทั่วไปมีเจตนาเพื่อปรับใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต การใช้กฎหมายย้อนหลัง หากมีผลย้อนหลังไป เพื่อเป็นคุณหรือบรรเทาความเดือดร้อน และไม่กระทบถึงสิทธิของประชาชนนั้นสามารถกระทำได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากใช้กฎหมายไปในทางที่เป็นโทษ หรือเพิ่มโทษ ถือว่าเป็นการใช้กฎหมายไปในทางที่เป็นปฏิปักษ์กับหลักความยุติธรรมของสากล       หลักนี้ใช้เคร่งครัดมากในคดีอาญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทษทางอาญา แต่เป็นที่ยอมรับในหลายประเทศว่า กฎหมายใดที่ออกมาบังคับใช้ย้อนหลังแล้วมีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของประชาชน หรือเป็นไปในทางลิดรอน เพิกถอนหรือจำกัดสิทธิของประชาชนที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยชอบด้วยกฎหมายก็เป็นการต้องห้ามด้วยเช่นกัน        ประกาศคปค. ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 30 ก.ย.49 ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีกำหนด 5 ปี เป็นบทบัญญัติที่ตัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่อยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยจะพึงมี ผู้ที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งได้แล้ว ยังเสียสิทธิอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร สิทธิรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้รัฐสภาพิจารณากฎหมายด้วย เป็นต้น สิทธิของผู้ถูกตัดสิทธิจึงต่ำกว่าประชาชนทั่วไป จึงเป็นการตัดสิทธิทางการเมืองที่เป็นผลร้ายแก่ผู้ถูกตัดสิทธิมากกว่าการถูกลงโทษปรับในคดีอาญา การลงโทษบุคคลหรือการกำหนดโทษให้บุคคลต้องรับผิด หรือถูกจำกัดสิทธิจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่กฎหมายเป็นเพียงเครื่องในการรักษาความยุติธรรม การตีความกฎหมายจะต้องถือความยุติธรรมเป็นหลัก ไม่ควรตีความกฎหมายให้เกิดความเสียหายแก่สิทธิของประชาชนที่มีอยู่แล้ว ขณะเกิดเหตุ กฎหมายซึ่งใช้บังคับได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นจะขอตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอีกไม่ได้ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ รัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ออกกฎหมายให้ผู้ละเมิดต่อกฎหมายต้องรับผิดเพียงเท่านี้ ประชาชนรวมทั้งกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่างๆ ทราบว่า ผลบังคับที่สังคมต้องการมีเพียงเท่านี้ เมื่อกรรมการบริหารพรรคกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายจนเป็นเหตุให้อัยการสูงสุดซึ่งเป็นผู้ร้องคดีนี้ร้องขอให้ยุบพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อยุบพรรคการเมืองแล้วกรรมการบริหารพรรคจะได้รับผลร้ายตามมาตรา 69 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยึดอำนาจอธิปไตยและออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับต่างๆ รวมทั้งฉบับที่ 27 ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนี้ด้วย ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องเพิ่มเติมขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค คดีนี้หลังจากถูกยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรค ผู้ถูกร้องและกรรมการบริหารพรรคมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือต้องห้ามตามกฎหมายอีก การบัญญัติกฎหมายหรือการตีความกฎหมายให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดเพิ่มขึ้นอีกหลังจากกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายได้ยุติไปนานแล้ว จึงเห็นว่าประกาศคปค. ฉบับที่ 27 ข้อ 3 ไม่มีผลย้อนหลังเป็นผลร้ายแก่กรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องทั้งสาม จึงวินิจฉัยว่า ให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 ตามมาตรา 66(1) และมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 และให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้ถูกร้องที่ 3 ตามมาตรา 66 (2) (3) และมาตรา 67 แห่งพรราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ----------------------------------- สำหรับผมท่านอาจารย์วินิจฉัยชัดเจนมาก เพราะแม้ไม่ใช่โทษทางอาญาก็ไม่ได้หมายความว่าจะย้อนหลังได้ เนื่องจากเหนือกฎหมายอาญาขึ้นไปนั้น ยังมีหลักรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุด มีผลว่ากฎหมายใดจะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมิได้ และหลักรัฐธรรมนูญนี้ยังประกอบไปด้วยหลักนิติธรรม ที่ห้ามรัฐตรากฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคล ดังนั้น [u]กฎหมายใดก็ตามที่ตราออกมาเพื่อย้อนหลังไปเป็นโทษแก่บุคคล ย่อมไม่อาจกระทำได้เลย[u] ไม่ว่ากฎหมายที่ตรานั้นจะเป็นโทษในทางอาญาหรือไม่ก็ตาม (ขอให้สังเกตที่ผมเน้นในข้อความข้างบน) ปล. ผมตลกมากที่คุณ thyrocyte เอาบทบัญญัติที่มีลักษณะเป็นการตัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญไปกล่าวปะปนกับวิธีการชั่วคราวตามกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันเลย คนเก่งๆระดับคุณไม่น่าจะพลาดได้ขนาดนี้นะครับ จากคุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต   - [ 13 มิ.ย. 52 05:17:38 A:58.8.85.100 X: ] แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 16:47:52 จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 13 มิ.ย. 52 16:43:19 A:125.26.237.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 121 จากคุณ : thyrocyte     ตามคห.ที่ 116 นั่นหมายความว่า  แม้ถูกจับณ ปัจจุบัน  ก็ต้องใช้บทลงโทษของกฏหมายเดิม ณ วันที่กระทำความผิดใช่มั้ยครับ   ไม่ใช่เอากฏหมายตามอายุปัจจุบันไปลงโทษ   ก็น่าจะหมายความว่า ไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังได้สิครับ เช่น ไม่มีการตัดสินประหารเยาวชน  แต่มาโดนจับตอนเกิน 20 แล้ว  จะสามารถตัดสินให้ประหารชีวิตได้หรือไม่  ในความผิดที่กระทำตอนเป็นเยาวชน ส่วนเรื่องเนวิน  ผมตามเข้าไปอ่านตามลิ้งค์ที่ให้แล้ว  ถ้าคุณยืนยันว่าเนวินไม่ผิด  ผมก็คงเกือบหมดคำถามแล้วล่ะครับ   เหลือแค่คำถามสุดท้าย  ชาตินี้ทั้งชาติตั้งแต่อภิสิทธิ์เกิดมา  และตั้งแต่ประชาธิปัตย์ก่อตั้งพรรคมา    เคยทำอะไรผิดบ้าง ในสายตาหรือในความคิดของคุณ จากคุณ : ภูเขาทะเล - [ 13 มิ.ย. 52 19:54:33 A:58.9.94.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 122 ถ้าประชาธิปัตย์ถูกยุบย้อนหลังบ้าง หวังว่าคุณ Thyrocyte คงยืนยันในจุดยืนเดิมนะครับ จากคุณ : oeton - [ 13 มิ.ย. 52 20:12:31 A:115.67.157.241 X: ]

ความคิดเห็นที่ 123 ความคิดเห็นที่ 121   จากคุณ : thyrocyte     ตามคห.ที่ 116 นั่นหมายความว่า  แม้ถูกจับณ ปัจจุบัน  ก็ต้องใช้บทลงโทษของกฏหมายเดิม ณ วันที่กระทำความผิดใช่มั้ยครับ   ไม่ใช่เอากฏหมายตามอายุปัจจุบันไปลงโทษ   ก็น่าจะหมายความว่า ไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังได้สิครับ เช่น ไม่มีการตัดสินประหารเยาวชน  แต่มาโดนจับตอนเกิน 20 แล้ว  จะสามารถตัดสินให้ประหารชีวิตได้หรือไม่  ในความผิดที่กระทำตอนเป็นเยาวชน ส่วนเรื่องเนวิน  ผมตามเข้าไปอ่านตามลิ้งค์ที่ให้แล้ว  ถ้าคุณยืนยันว่าเนวินไม่ผิด  ผมก็คงเกือบหมดคำถามแล้วล่ะครับ   เหลือแค่คำถามสุดท้าย  ชาตินี้ทั้งชาติตั้งแต่อภิสิทธิ์เกิดมา  และตั้งแต่ประชาธิปัตย์ก่อตั้งพรรคมา    เคยทำอะไรผิดบ้าง ในสายตาหรือในความคิดของคุณ จากคุณ : ภูเขาทะเล ------------------------------------------------------------------------- ก็ใช่นะสิครับ แสดงว่าคุณภูเขาทะเล อ่านข้ามความเห้นข้างบนมามากครับ ลองกลับไปดูคห.ข้างบน ผมแจ้ง ไว้แล้วว่าการลงโทษทางอาญา เช่นที่คุณยกมา คือการประหารชีวิต หรือจำคุก กักขัง ปรับ เหล่านี้เป็นโทษ ทางอาญาที่ย้อนหลังไม่ได้ครับ การตัดสินต้องใช้กฏหมายขณะกระทำความผิด แต่กรณีตัดสิทธิกก.ลริหารพรรค ทรท. ไม่ใช่การลงโทษทางอาญา กรุณาอ่านรายละเอียดข้างบนสักหน่อยครับ ผมได้อธิบายแล้วว่า โดยทั่วไปฏกหมายมีการย้อนหลังได้ 3 ลักษณะ คือ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. ในกรณีตัวอย่างที่คุณยกมานี้ หากศาลจะตัดสินลงโทษอาญา คือ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง หรือปรับ ศาลต้องใช้บท บัญญัติที่มีอยู่ขณะจำเลยกระทำผิด แต่หากศาลจะใช้มาตราการเพื่อความปลอดภัยร่วมด้วย นอกเหนือไปจากสั่งลง โทษทางอาญาแล้ว ศาลต้องใช้บทบัญญัติที่มีอย฿ในวันที่พิกษาครับ ไม่ใช่วันที่ทำผิด สมมุติเช่นเมื่ออายุ 16 ปีไปขโมยของมีโทษจำคุก 10 ปีและมีวิการเพื่อความปลอดภัย เรียกประกัยทัณท์บน 1 หมืนบาท ต่อมาเมื่อจำเลยอายุ 22 ปีถูกจับได้ส่งศาล เวลานั้นกฏหมายเปลี่ยนเป็น โทษจำคุก 20 ปี และเรียกประกัยทัณท์บน เพิ่มเป็น9 หมืนบาท ศาลจะสั่งจำคุกได้ไม่เกินกฏหมายที่มีอยู่ขณะกระทำผิด คือไม่เกิน 10 ปีครับ แต่สามารถเรียกประกัยทัณทบนได้ ตามกฆมายใหม่ คือ 90 หมื่นบาทครับ จึงขอให้เข้าใจด้วยว่า วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้น ไม่ใช่การลงโทษทางอาญา และใช้กฏหมายที่มีอยู่ในขณะทำ การพิพกาษาครับ เหมือนกรณีตัดสิทธกก.บริหาร ทรท. นั้นเอง ไม่ใช่การลงโทษทางอาญาครับ อย่าสับสนครับ แต่ศาลสามารถใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 20:26:30 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 124 สำหรับผมท่านอาจารย์วินิจฉัยชัดเจนมาก เพราะแม้ไม่ใช่โทษทางอาญาก็ไม่ได้หมายความว่าจะย้อนหลังได้ เนื่องจากเหนือกฎหมายอาญาขึ้นไปนั้น ยังมีหลักรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุด มีผลว่ากฎหมายใดจะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมิได้ และหลักรัฐธรรมนูญนี้ยังประกอบไปด้วยหลักนิติธรรม ที่ห้ามรัฐตรากฎหมายย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคล ดังนั้น กฎหมายใดก็ตามที่ตราออกมาเพื่อย้อนหลังไปเป็นโทษแก่บุคคล ย่อมไม่อาจกระทำได้เลย ไม่ว่ากฎหมายที่ตรานั้นจะเป็นโทษในทางอาญาหรือไม่ก็ตาม (ขอให้สังเกตที่ผมเน้นในข้อความข้างบน) ปล. ผมตลกมากที่คุณ thyrocyte เอาบทบัญญัติที่มีลักษณะเป็นการตัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญไปกล่าวปะปนกับวิธีการชั่วคราวตามกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันเลย คนเก่งๆระดับคุณไม่น่าจะพลาดได้ขนาดนี้นะครับ จากคุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต   - [ 13 มิ.ย. 52 05:17:38 A:58.8.85.100 X: ] --------------------------------------------------------------------- คำกล่าวอ้างของ คุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต นี้ผิดถนัด และแสดงถึงความไม่รู้จริงในเรื่องกฏหมายรัฐะรรมนูญ เพราะในตัวกฏหมายรัฐะรรมนูญเองนี้แหละที่บัญญัติไว้ว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฏหมาย นั้นคือ ทุกคนล้วนเสมอภาคและทำอะไรได้เท่าเทียมกันตามกฏหมาย แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ในวันที่มีการประกาศใช้รธน.เช่นรธน.2541 นั้น ตัวนธน.เอง ก็มีการประกาศใช้วิธีการ เพื่อความปลอดภัยให้แก่สังคม และย้อนหลังให้มีผลต่อผู้กระทำความผิดก่อนที่รธน.2541 จะประกาศใช้ด้วยซ้ำไป หากใครไปศึกษารธน.ดูจะทราบว่า มีกำหนดไว้ในรธน.ห้ามไม่ให้ผู้ที่เคยต้องโทษด้วยการกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ ราชการ เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ แม้ว่าการกระทความผิดนั้นจะเกิดขึ้นก่อนที่รัฐะรรมนูญจะมีการ ประกาศใช้ด้วยซ้ำไป แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 20:37:52 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 20:37:03 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 ดังนั้น แม้แต่ตัวรธน.เองก็ยังแสดงให้เห็นว่า สำหรับมาตราการเพื่อความปลอดภัยต่อสังคมนั้น สามารถใช้ย้อน หลังได้แม้จะเป็นโทษต่อบุคคลบางจำพวกก็ตาม ดดยกำหนดห้ามไม่ให้บุคคลบางจำพวกเข้าดำรงตำแหน่งที่ สำคัญ และเป็นการกำหนดที่มีผลย้อนหลังเอากับการกระทำผิดที่เกิดขึ้นก่อนรธน.จะประกาศใช้เสียด้วยซ้ำไป ดังนั้น ข้อความที่ คุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต   ยกมานั้นไม่เป็นความจริงครับ ตัวรธน.เองก็มีกฏหมายเกี่ยวกับ วิธีเพื่อความปลอดภัยครับ และใช้บังคับย้อนหลังเอากับผู้ที่กระทำความผิดมาก่อนจะประกาศรธน.ด้วยครับ ดังนั้น กฎหมายใดก็ตามที่ตราออกมาเพื่อย้อนหลังไปเป็นโทษแก่บุคคล ย่อมไม่อาจกระทำได้เลย ไม่ว่า กฎหมายที่ตรานั้นจะเป็นโทษในทางอาญาหรือไม่ก็ตาม จึงไม่เป็นความจริงและน่าตลกมากที่มีสมาชิกบางคน อ่านความเห้นคุณไม่แตกฉานแล้วนำมาอ้างเอาแบบคนไม่รู้เรื่องเช่นนี้ครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 20:38:02 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 126 ที่คุณ thyrocye เขียนมาก็ไม่ผิดเลย มันเป็นการตีความกฎหมายตามความต้องการของผู้มีอำนาจ  จะถูกจะผิด ก็จะเขียนขึ้นมาให้เอาผิดย้อนหลังได้ ผมว่าไม่ต้องหาเหตุผลให้ลึกซึ้งมากมาย วันข้างหน้า พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล แก้กฎหมายใหม่ ให้ประโยชน์แก่ทักษิณ ผมว่าก็ไม่ผิด แต่อาจจะขัดกับความรู้สึกของคนที่เกลียดทักษิณ เหมือนตอนนี้กฎหมายนี้ ก็ขัดแย้งความรู้สึกคนที่ไม่อยากให้มีโทษย้อนหลังได้ มันรู้สึกไม่เป็นธรรมมาตั้งแต่ฉีกรัฐธรรมนูญแล้วครับ  หลักของกฎหมายมีช่อง เยอะมาก ทำให้ถูก ทำให้ผิดได้แล้วแต่ตีความ จะอ้างพจนานุกรม จะอ้าง มาตราไหน ก็ได้ ก็คนมีอำนาจพอใจจะให้เป็นแบบนี้ครับ ธรรมดา กฎหมาย เกิดจากน้ำมือมนุษย์เป็นผู้ร่างกฎหมาย ผู้คิดขึ้น  สำคัญกว่านั้น คือใครเป็นผู้ร่าง กฎหมายนี้ขึ้นมา และต้องการอะไร จะให้คนเกลียด มาตีความเข้าข้างคงไม่มีทางครับ จากคุณ : coles - [ 13 มิ.ย. 52 21:49:51 A:115.128.19.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127 คุณ thyrocyte ลองอ่านความเห็นที่ 113 ของผมใหม่ให้ดี ๆ ครับ เพราะเข้าใจผมผิด ตอบไม่ได้ตรงประเด็นเลย ผมไม่ได้ถามหาคำตัดสินของศาล ผมหมายถึงกฏหมายอื่น ๆ นอกจากกฏหมายควบคุมอาคารที่ คุณ thyrocyte  ยกมา ( โดยที่ไม่เกี่ยวกับวิศวกรรมที่ใช้วิทยาศาสตร์รองรับเหตุผล และไม่ได้ออกโดยคณะรัฐประหาร เพราะพวกนี้ทำตามใจไม่ใช่ตามหลักนิติธรรม เพราะกรณีความปลอดภัยทางสังคมของคุณนั้นเป็นเรื่องทางการปกครอง ) เพราะในเมื่อคุณว่ามันเป็นเรื่องทั่วไปที่ทำมานานเป็นปกติ ไม่ขัดหลักนิติรัฐตามความเห็นที่ 111 ของคุณ ถ้าเป็นตามนั้นจริง มันควรจะมีกฏหมายอื่น ๆ เยอะแยะที่ออกมาแล้วให้มีความผิดย้อนหลัง ( ยิ่งถ้าเป็นในทางปกครองเช่นกันจะยิ่งดีมากที่จะใช้ยืนยัน คห.คุณครับ แต่ถ้าไม่มีขอทางแพ่งหรืออื่น ๆ ก็ไม่ว่ากันถ้ามันมีเยอะแยะมากมายเป้นปกติจริง ) ซึ่งถ้ามันแทบจะไม่มี ก็แสดงว่าในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นไปตามความเห็นที่ 111 ของคุณครับ มันควรจะเป็นว่ากฏหมายโดยปกติทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่แค่ที่เป็นโทษทางอาญาเท่านั้น ไม่ลงโทษย้อนหลังมากกว่า ส่วนที่มีข้อยกเว้นบ้างเป็นบางกรณีเฉพาะก็ควรต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นรองรับ อย่างกรณีกฏหมายควบคุมอาคารในเรื่องความปลอดภัยที่คุณยกมานั้น ใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ รวมถึงคนที่ถูกรอนสิทธิ ส่วนใหญ่ก็คงรับได้เพราะคงไม่ค่อยมีใครอยากเสี่ยงตายเท่าไหร่ เป็นเรื่องที่เหตุผลรับฟังได้ ซึ่งถ้าคุณ thyrocyte ไม่สามารถหากฏหมายอื่น ที่เข้ากรณีออกมาแล้วลงโทษย้อนหลัง มาได้โดยง่ายและหลากกฏหมายหลายมาตรา ก็ควรน่าจะยอมรับนะครับว่ามันเป็นเรื่องที่โดยหลักทั่วไปไม่ควรทำ และไม่ทำกัน ปล. ถ้า คุณ thyrocyte หามาแสดง ไม่ต้องกลัวว่ากระทู้ตกแล้วผมจะทิ้งไม่ได้อ่านนะครับ ผมตามได้ ปล.2 ผมก็เห็นด้วยครับว่าไม่ใช่ว่าไม่อาจกระทำได้ แต่ผมไม่เห็นด้วยที่ว่ามันเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติทั่วไป มันน่าจะเป็นเรื่องข้อยกเว้นบางกรณีเมื่อมีเหตุผลสมควรรองรับมากกว่า แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 22:55:38 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 22:46:25 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 22:44:10 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 22:42:58 จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 22:35:48 A:125.24.28.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 128 คุณ : arctan45 กรุณาอ่านให้ดีเถอะครับ ผมได้แจ้งไว้ตั้งแต่คห.19 และ 44 กฏหมายที่ใช้ย้อนหลังได้นั้นนะมีดังนี้ 1. กฏมายอาญาที่มีโทษเบากว่าเดิมอาจนำมาใช้ย้อนหลังได้ 2. กฏหมายวิธีสบัญญัติใช้ย้อนหลังได้ ตามฏีกาที่ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกรณียุบพรรค แต่มีการยกฏีกา ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างควบคุมอาคารมาให้ดูว่า กฏหมายลักษณะวิธีสบัญญัตินั้นย้อนหลังได้ 3. กฏหมายวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเข้ากับกรณียุบพรรคและตัดสิทธิกก.บริหาร ทรท. ผมไม่ทราบว่าคุณต้องการให้ผมยกอะไรมากอีก เพราะที่คุณถกกับผมนั้นเป็นเรื่องกฏหมายวิธีสบัญญัติ ที่ผมนำมาลง ในข้อ 2 แต่กฏหมายที่ย้อนหลังได้มี 3 หัวข้อดังที่ได้ชี้แจงไว้แล้ว ไม่ทราบคุณได้เห็นหัวข้อที่ 1 และ3หรือยังครับ หากคุณหวังว่าจะเห็นตัวกฏหมายเข้าเขียนว่า กฏหมายนี้ใช้ย้อนหลังได้ ก็ขอบอกว่าเขาไม่เขียนอย่างนั้นหรอกครับ แต่เขาจะเขียนเป็นภาษากฏหมายเช่น ว่า กฏหมายนั้นใช้ในวันที่มีคำพิพากษา นั้นคือไม่ได้เอากฏหมายที่ใช้ขณะ กระทำผิดมาใช้ ตัวอย่างเช่น ประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๒ วิธีการเพื่อความปลอดภัยจะใช้บังคับแก่บุคคลใด....กฎหมายที่จะใช้ บังคับนั้น ให้ใช้กฎหมายในขณะที่ศาลพิพากษา  เป็นต้น ไม่ทราบคุณได้เห็นกฏหมายมาตรานี้หรือยัง มันไม่ได้เกี่ยวกับกฏหมายวิธีสบัญญัติหรือกฏหมายอาคารที่ได้ถกกันมา เลยนะครับ มันเป็นคนละกฏหมาย แต่เป็นกลุ่มกฏหมายที่ใช้ย้อนหลังได้ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 52 23:33:54 จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 23:31:46 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 129 ก่อนจะออฟไลน์ ขอยกตัวอย่างการออกกฏหมายแล้วมีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคลเพิ่มเติมอีกนิด คราวนี้เป็นกฏหมายรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่ บุคคลบางจำพวกกล่าวคือ..... บรรดาผู้ที่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยราชการหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อ หน้าที่นั้น แต่เดิมที่นั้น ต่างก็มีสิทธิสามารถสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็น สส. ได้ไม่เคยมีการห้ามาก่อน จนมา ถึงรธน. 2534 และ รธน.2540 และรธน.2550 เกิดมีการตราห้ามไม่ให้ผู้ที่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือ ให้ออกจากหน่วยราชการหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ เข้ารับสมัครเป็นผู้แทนได้อีก [รธน 2534 มาตรา 107 และ รธน 2540 มาตรา 109 รธน2550 มาตรา 102(6) ]   ทั้งๆที่การกระทำเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนที่รธน.จะมีการประกาศใช้ ดังนั้น หากมองด้วยมุมที่ว่ากฎหมายไม่สามารถย้อนหลังเป็นโทษได้ ทำไม่รธน.ทั้งสามฉบับจึงตรากฎหมาย ทำให้เกิดการเสียสิทธิไปของบุคคลบางจำพวก ทำไมจึงสร้างความไม่เท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นเพราะไปตัด สิทธิผู้ที่กระทำความผิดก่อนหน้ารธน.ประกาศใช้ แทนที่จะตัดสิทธิผู้ที่ได้กระทำความผิดเฉพาะหลังรธน. ประกาศใช้ คำตอบก็คือ รัฐธรรมนูญจำต้องมีมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่อสังคมนั้น เป็นหลักเสมอ และใช้ได้ทันทีที่ กฎหมายประกาศใช้ และสามารถใช้ย้อนหลังเอากับคนที่กระทำผิดก่อนมีรธน.ได้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ สังคมในทันที รธน.ที่เป็นแม่บทกฎหมายทั้งปวงก็ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยนี้ ตัดสิทธิบุคคลที่กระทำผิดบางจำพวกแม้ การกระทำนั้นจะเกิดขึ้นก่อนรธน.นั้นๆจะประกาศใช้ก็ตาม และมีผลให้บุคคลเหล่านั้นต้องเสียสิทธิไป แต่ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคม และไม่ใช่โทษทางอาญา นี้แหละครับเป็นตัวอย่างของกฏหมาย ซึ่งเป็นกฏฆมายระดับกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่ออกมามีผลย้อนหลังกระทบ แก่บุคคลที่ได้การกระทำการบางอย่างก่อนที่รัฐธรรมนูญนั้นๆจะประกาศใช้ ดังนั้นที่พูดว่า การออกกฏหมายเป็นผลร้าย ย้อนหลังแก่บุคคลนั้น เป็นความจริงเฉพาะโทษทางอาญา แต่ไม่จริงสำหรับวิธีการเพื่อความปลอดภัยแก่สังคม ซึ่ง กฏหมายสามารถย้อนหลังได้ ดังเช่นกฏหมายรธน.ได้แสดงให้เห็นไว้เป็นตัวอย่างนี้แล จากคุณ : thyrocyte - [ 13 มิ.ย. 52 23:43:20 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 130 เอาเป็นว่าผมเข้าใจที่คุณพูด และไม่ได้โต้แย้งกับคุณเรื่องกฏหมายมาตรานี้ ขอให้เข้าใจใหม่ครับ ผมกำลังโต้แย้งเรื่องในหลักการว่าการออกกฏหมายให้มีบทลงโทษย้อนหลังได้เป็นเรื่องที่ทำได้ทั่วไปถ้าไม่ใช่ความผิดอาญาอย่างที่คุณว่าไว้มั้ย ไม่ใช่เรื่องตัวบทยิบย่อย ผมจึงถามต่อไปว่า ถ้ามันเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป เป็นปกติตามหลักนิติรัฐจริงอย่างที่คุณว่าจริง มันควรจะมีกฏหมายเยอะแยะที่ออกมาในแนวทางนี้ คือเอากฏหมายมาลงโทษย้อนหลัง ( ในตัวบทจะเขียนว่าอะไรก็ช่างมันเถอะครับ ความหมายเดียวกัน ) ไม่ใช่มีแค่นี้เท่านั้น ใม่ว่าจะในกฏหมายแพ่งพาณิชย์ ประมวลรัษฎากร(ขออภัยถ้าเขียนผิด) หรืออื่น ๆ อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่โทษทางอาญา มันควรจะกรณีอื่น ๆ อีกในกฏหมายอื่น ๆ อีกมากมาย และถ้ามันมีแค่เท่าที่คุณว่ามาจากกฏหมายมากมายนับพันนับหมื่นฉบับ แต่กลับบอกว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่มีทำกัน มันขัดแย้งกันไงครับ ก็หมายความว่าไอที่คุณยกมามันเป็นข้อยกเว้นเมื่อมีเหตุสมควร ซึ่งเมื่อมันเป็นข้องดเว้นมันก็ควรจะใช้เฉพาะในเรื่องที่มันระบุไว้เท่านั้น ไม่ใช่เอามาเทียบเคียงกับการยุบพรรค แล้วบอกว่าได้เพราะปกติเค้าทำกันทั่วไป มาใช้เป็นเหตุผลเทียบเคียงกับกรณีอื่น ๆ อย่างการตัดสิทธิเลือกตั้ง แล้วประเด็นต่อมาเรื่อง ความปลอดภัยของสังคม คุณจึงคิดว่าคำสั่ง คปค.เหมาะแล้ว ถ้าคุณคิดว่าเข้าเกณท์นี้ ผมก็บอกในความเห็นบน ๆ แล้วว่าไม่โต้แย้ง แต่ผมก็ไม่เห็นด้วย และก็เป็นแค่ 1 ความเห็นเช่นกันกับของคุณ การพิจารณาว่า การเพิ่มโทษตัดสิทธิทางการเมืองย้อนหลัง (ซึ่งมันเข้าข่ายจะใงดเว้นตามหลักนิติธรรม) มีเหตุผลที่สมควรหนักแน่พอจะออกมาเป็นกฏหมายหรือไม่ ถ้าศรัทธาในระบอบ ปชต. ควรออกมาโดยสภา  ไม่ใช่ประกาศ คปค. สรุปประเด็นผมคือ ผมไม่ได้เห็นว่าไม่สามารถที่จะกระทำได้ แต่การที่ไม่ออกกฏหมายให้โทษย้อนหลังเป็นหลักนิติธรรมที่ใช้ออกกฏหมายโดยทั่วไป ไม่ใช่แค่ไม่ใช่โทษทางอาญาก็ใช้ได้  และถ้าจะออกมาเป็นกฏหมายเพื่องดหลักนิติธรรมข้อนี้ ถ้าคุณศรัทธาในระบอบ ปชต. ผู้ที่ควรจะพิจารณาว่าควรออกมาเป็นกฏหมายหรือไม่ มีเหตุหลพอมั้ยคือรัฐสภาที่เลือกมาโดยประชาชน ไม่ใช่คณะรัฐประหารทำไปตามคนมีปืนสั่ง และถ้าคุณจะโต้แย้งว่ามันเป็นเรื่องที่ทำได้โดยทั่วไปถ้าไม่ใช่โทษทางอาญา(คณะรัฐประหารจะออกกฏแบบนี้มาก็ไม่แปลกอะไร เป็นเรื่องปกติใคร ๆ ก็ทำกัน) ผมจึงเห็นว่าถ้าเป็นเช่นนั้นจริงมันควรจะมีลักษณะนี้(ออกมาแล้วให้โทษย้อนหลัง)ในกฏหมายอื่นอีกมากมาย ถ้ามีมาแสดงเยอะแยะ ผมก็จะเชื่อตามไงครับว่า ถ้าไม่ใช่โทษอาญาเค้าทำกันเป็นปกติจริง ไม่ขัดหลักนิติธรรม แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:17:22 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:11:46 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:07:08 จากคุณ : arctan45 - [ 13 มิ.ย. 52 23:58:59 A:125.24.28.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 มาดูอีกทีก่อนจะออฟไลน์ เจอคห.คุณ arctan45 พูดเรื่องหลักนิติรัฐ ถ้าเช่นนั้นลองอ่าน คห.129 สักหน่อยอีกทีครับ แล้วช่วยวิเคราะห์ว่า ทำไมรธน.จึงทำแบบนั้นได้ คือใช้มาตราการเพื่อความปลอดภัยย้อนหลังเอากับคนที่กระทำผิด ก่อนจะมีรัฐธรรมนูญได้ละครับ พรุ่งนี้จะมาอ่านคำตอบนะครับ ความคิดเห็นที่ 129   ก่อนจะออฟไลน์ ขอยกตัวอย่างการออกกฏหมายแล้วมีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่บุคคลเพิ่มเติมอีกนิด คราวนี้เป็นกฏหมายรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งมีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่ บุคคลบางจำพวกกล่าวคือ..... บรรดาผู้ที่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยราชการหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อ หน้าที่นั้น แต่เดิมที่นั้น ต่างก็มีสิทธิสามารถสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็น สส. ได้ไม่เคยมีการห้ามาก่อน จนมา ถึงรธน. 2534 และ รธน.2540 และรธน.2550 เกิดมีการตราห้ามไม่ให้ผู้ที่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือ ให้ออกจากหน่วยราชการหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ เข้ารับสมัครเป็นผู้แทนได้อีก [รธน 2534 มาตรา 107 และ รธน 2540 มาตรา 109 รธน2550 มาตรา 102(6) ]   ทั้งๆที่การกระทำเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนที่รธน.จะมีการประกาศใช้ ดังนั้น หากมองด้วยมุมที่ว่ากฎหมายไม่สามารถย้อนหลังเป็นโทษได้ ทำไม่รธน.ทั้งสามฉบับจึงตรากฎหมาย ทำให้เกิดการเสียสิทธิไปของบุคคลบางจำพวก ทำไมจึงสร้างความไม่เท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นเพราะไปตัด สิทธิผู้ที่กระทำความผิดก่อนหน้ารธน.ประกาศใช้ แทนที่จะตัดสิทธิผู้ที่ได้กระทำความผิดเฉพาะหลังรธน. ประกาศใช้ คำตอบก็คือ รัฐธรรมนูญจำต้องมีมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่อสังคมนั้น เป็นหลักเสมอ และใช้ได้ทันทีที่ กฎหมายประกาศใช้ และสามารถใช้ย้อนหลังเอากับคนที่กระทำผิดก่อนมีรธน.ได้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ สังคมในทันที รธน.ที่เป็นแม่บทกฎหมายทั้งปวงก็ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยนี้ ตัดสิทธิบุคคลที่กระทำผิดบางจำพวกแม้ การกระทำนั้นจะเกิดขึ้นก่อนรธน.นั้นๆจะประกาศใช้ก็ตาม และมีผลให้บุคคลเหล่านั้นต้องเสียสิทธิไป แต่ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคม และไม่ใช่โทษทางอาญา นี้แหละครับเป็นตัวอย่างของกฏหมาย ซึ่งเป็นกฏฆมายระดับกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่ออกมามีผลย้อนหลังกระทบ แก่บุคคลที่ได้การกระทำการบางอย่างก่อนที่รัฐธรรมนูญนั้นๆจะประกาศใช้ ดังนั้นที่พูดว่า การออกกฏหมายเป็นผลร้าย ย้อนหลังแก่บุคคลนั้น เป็นความจริงเฉพาะโทษทางอาญา แต่ไม่จริงสำหรับวิธีการเพื่อความปลอดภัยแก่สังคม ซึ่ง กฏหมายสามารถย้อนหลังได้ ดังเช่นกฏหมายรธน.ได้แสดงให้เห็นไว้เป็นตัวอย่างนี้แล จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 00:12:38 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 132 ก็อย่างที่บอกไป ผมไม่ได้บอกว่าไม่สามารถกระทำได้ในทุกกรณี แต่โดยทั่วไป ( แทบทั้งหมด ) เค้าไม่ทำกัน  และถ้าจะทำอ็ควรจะทำโดยสภา เพื่อที่จะได้โต้แย้งเหตุผลกันอย่างเปิดเผยว่าเหมาะสมที่จะทำหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญที่คุณว่ามาก็ผ่านการโต้แย้งและเห็นชอบออกมาโดยสภาไงครับ ย้ำประเด็นที่ผมโต้แย้งอีกครั้ง เอาเรื่องแรกนี้ก่อน ผมเห็นว่าการออกกฏหมายโดยไม่ให้โทษเพิ่มเติมย้อนหลังเป็นหลักนิติธรรมที่ควรใช้ในการออกกฏหมายโดยทั่ว ๆ ไปแทบทุกกรณี ไม่ใช่ถ้าไม่ใช่โทษทางอาญาก็ทำได้เป็นปกติอย่างที่คุณว่า และถ้าคุณเห็นเช่นนั้นอยากจะยืนยันว่าจริง มันก็ควรจะมีกฏหมายอื่นอีกมากมายในกฏหมายนับหมื่นพันฉบับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็คงหามาโชว์ได้โดยง่าย และเยอะแยะ ขอแค่  20 เรื่อง จากกฏหมายทั้งหมดในไทยก็พอไม่ขอมาก (ก็ถ้าเป็นเรื่องทางการปกครองได้ยิ่งดีเลยครับ ไม่พอ ภาษีก็ได้ แพ่งก็ได้ แต่ทางวิศวกรรมขอไม่แย้งเพราะมันยันด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อย่างเรื่องอาคารที่ว่าเป็นต้น) ซึ่งถ้ามี ผมจะเชื่อตามไงครับว่าทำเช่นนี้ไม่ขัดหลักนิติธรรม แต่ถ้าไม่มี มีอยู่ 2-3 อย่างจากกฏหมายมากมาย คุณก็ควรจะเชื่อว่ามันคือหลักนิติธรรม แต่สามารถมีข้อยกเว้นได้ แล้วค่อยมาว่าประเด็นต่อเนื่องต่อไป ปล. รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับที่ว่า คือ 1 ตัวอย่างนะครับ เพราะถ้าระบุไว้ในปี 34 แล้ว มันก็คือมีโทษนี้แล้ว ไม่ได้เพิ่มเติมโทษในฉบับปี 40 ปล.2  ส่วนเรื่องความปลอดภัยสังคม เดี๋ยวคุยกันต่อ แต่อยากให้เข้าใจประเด็นแรกตรงกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นผมเชื่อตามคุณหรือคุณเปลี่ยนมาเห็นด้วยกับผม แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 02:02:41 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:41:16 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:37:49 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 00:35:34 จากคุณ : arctan45 - [ 14 มิ.ย. 52 00:32:02 A:125.24.28.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 133 ที่คุณ thyrocyte กล่าวว่า วิธีการเพื่อความปลอดภัยสามารถใช้ย้อนหลังกับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนการกระทำผิดได้นั้น ข้อนี้ผมไม่เถียง แต่กรณีมีปัญหาต้องพิจารณาก่อนว่า การเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคตามประกาศคปค.ฉบับที่ 27 มีลักษณะเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามความหมายของกฎหมายตามที่คุณได้อ้างมาหรือไม่ 1. ในข้อแรก วิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้น ประมวลกฎหมายอาญาได้กำหนดความหมายไว้โดยเฉพาะแล้วว่าได้แก่ กักกัน ห้ามเข้าเขตกำหนด เรียกประกันทัณฑ์บน คุมตัวไว้ในสถานบริการ ห้ามการประกอบอาชีพบางอย่าง และการตีความกฎหมายอาญานั้นจะต้องตีความโดยเคร่งครัด กล่าวคือ ตัวบทเขียนไว้อย่างไรจะต้องตีความไปตามนั้น จะตีความไปในทางขยายความให้เป็นผลร้ายแก่บุคคลไม่ได้ ดังนั้น วิธีการเพื่อความปลอดภัยจะมีได้ก็แต่ 5 วิธีการดังที่กำหนดไว้โดยชัดแจ้งแล้วในกฎหมายอาญาเท่านั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ การตีความของคุณ thyrocyte ที่ว่า การเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค 5 ปี เป็นหรือเทียบเคียงได้กับวิธีการเพื่อความปลอดภัยนั้นจึงฟังไม่ขึ้น 2. นอกจากนี้ ลักษณะที่สำคัญของวิธีการเพื่อความปลอดภัยอีกประการหนึ่งก็คือ หากภายหลังพิพากษามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ก็อาจมีคำร้องต่อศาลให้ยกเลิกหรืองดวิธีการดังกล่าวได้ด้วย เมื่อประกาศคปค.ฉบับที่ 27ที่กำหนดให้ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่ถุกยุบ 5 ปี ไม่ได้มีบทบัญญัติเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิมีอำนาจร้องขอให้งดหรือยกเลิกการตัดสิทธิทางการเมืองได้เมื่อพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป บทบัญญัติดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบของความเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ไม่อาจจัดเข้าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยได้ และเมื่อไม่อาจจัดบทบัญญัติดังกล่าวเข้าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยได้แล้ว ที่คุณอ้างว่าบทบัญญตัดังกล่าวย้อนหลังไปใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนพิพากษาโดยอาศัยหลักว่าเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยจึงไม่อาจรับฟังได้ด้วยเช่นกัน 3. ยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีที่กฎหมายมิได้กำหนดลงไว้โดยชัดแจ้งให้ใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใด โดยหลักการแล้ว จะต้องใช้บังคับในอนาคต หมายความว่าจะใช้บังคับเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องเป็นวันหลังการประกาศใช้กฎหมาย เว้นไว้แต่ในกรณีเดียวเท่านั้น คือกฎหมายเขียนลงไว้ว่าให้บังคับย้อนหลังได้และการย้อนหลังนั้นต้องไม่เป็นไปในทางที่เป็นผลร้ายแก่บุคคลด้วย หรืออีกนัยหนึ่ง แม้บทบัญญัติจะเขียนว่าให้ย้อนหลังได้แต่ถ้ากฎหมายนั้นย้อนหลังไปเป็นผลร้ายแก่บุคคลแล้ว กฎหมายนั้นก็ย้อนหลังไม่ได้ 4. ดังนี้ เมื่อประกาศคปค.ฉบับที่ 27 มิได้กำหนดวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับไว้เลย จึงต้องตีความว่า ประกาศฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับภายหลังวันที่ประกาศได้ประกาศใช้บังคับแล้วเท่านั้น และเมื่อการเพิกถอนสิทธิดังกล่าวไม่ใช่วิธีการเพื่อความปลอดภัยเสียแล้วก็ไม่อาจใช้หลักที่ว่า ให้ใช้กฎหมายในขณะที่ศาลพิพากษาตามที่คุณกล่าวอ้างได้ กล่าวคือประกาศดังกล่าวจะต้องใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่มันประกาศใช้บังคับจะใช้ย้อนหลังกับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ประกาศนั้นใช้บังคับหาได้ไม่ 5.(แถม) นอกจากนี้ในทางปรัชญากฎหมายมหาชน ยังถือว่า มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพมาตั้งแต่กำเนิด และผู้ที่จะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพเหล่านั้นได้ก็คือประชาชนเองเท่านั้นโดยกระทำในรูปของกฎหมายซึ่งผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภาในฐานะที่เป็นผู้แทนของปวงชนเสมือนปวงชนนั้นได้จำกัดสิทธิเสรีภาพของตัวเอง ปล. จริงๆแล้วสำหรับผม ประกาศดังกล่าวไม่มีคุณค่าเป็นกฎหมายเลยครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 03:45:29 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 03:39:45 จากคุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต - [ 14 มิ.ย. 52 03:31:39 A:58.8.84.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 134 คุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต ถ้าเช่นนั้นรบกวนคุณลองวิเคราะห์เจตนารมย์ของการใช้ลักษณะของวิธีเพื่อความปลอดภัย ที่มีในรธน.ที่ผมนำลงมาไว้ในคห. 129 และ 131 ให้ด้วย ส่วนที่คุณได้ให้คห.ไว้ล่าสุด หากผมมีเวลาจะกลับมาดูอีก ครั้ง ว่ามีอะไรจะเสริมหรือแย้งไหม เพราะเช้านี้มีระต้องทำก่อน จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 06:36:37 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 135 มาเรื่องรัฐธรรมนูญ คุณ thyrocyte ครับ มันคือการกำหนดคุณสมบัติ ไม่ใช่เป็นการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดนี่ครับ ไม่ได้เป็นกรณี การกำหนดโทษตามกฏหมายว่าเดิมทำความผิดนี้เดิมมีโทษเท่านี้ แล้วมาออกกฏหมายเพิ่มโทษ แล้วมาลงโทษย้อนหลัง เหมือนเรื่องที่เราคุยกันอยู่นี่ครับ ถ้าจะเป็นเรื่องการเพิ่มโทษแล้วให้ลงโทษย้อนหลัง มันต้องไปกำหนดในบทลงโทษ เช่น สมมุติมีการเพิ่มบทลงโทษในความผิดลหุโทษให้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง คือผู้ที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดลหุโทษต่าง ๆ โดนลงโทษนี้เพิ่ม  สส. สว. มั้งหลายในอดีตที่เข้าเกณท์ ต้องถูกถอดออดจากตำแหน่ง เรียกเงินเดือนคืน เรื่องต่าง ๆ ที่ทำในฐานะ สส. สว .ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นอะไรทำนองนี้ แต่การกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิมันไม่ใช่การลงโทษไงครับ ต่อให้คุณไม่เคยกระทำผิดอะไรให้ศาลตัดสินว่าผิดก็อาจไม่ผ่านคุณสมบัติ วัตถุประสงค์คือต้องการเพิ่มคุณสมบัติผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่การเพิ่มโทษคนทำผิด คนละเรื่องกัน แล้วตกลงว่าไงครับ คุณ hyrocyte สามารถหากฏหมายอื่น ๆ มาได้เยอะแยะจนเชื่อได้ว่ามันเป้นเรื่องปกติทั่วไปในการเพิ่มโทษย้อนหลังได้ถ้าไม่ใช่ความผิดอาญา หรือจะยอมรับดีครับว่า ถึงแม้จะไม่ใช่ความผิดทางอาญา มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปในการที่จะออกกฏหมายเพิ่มโทษแล้วลงโทษย้อนหลังได้ เพราะมันเป็นหลักนิติธรรมในการออกกฏหมาย แต่ก็มีข้อยกเว้นได้ถ้ามีเหตุผลที่สมควรหนักแน่นมากพอ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:20:28 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:07:03 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 10:02:47 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 10:02:25 จากคุณ : arctan45 - [ 14 มิ.ย. 52 10:02:03 A:125.24.50.158 X: ]

ความคิดเห็นที่ 136 คุณ : arctan45 มีหลายคนพยายามเลี่ยงว่าเป็นการกำหนดคุณสมบัติ แต่ในความเป็นจริงมันคือการออกกฏหมาย จำกัดสิทธิครับ เพราะตามรธน.คนไทยทุกคนที่อายุเท่ากันยอ่มมีสิทธิเท่าเทียมกันครับ หากอายุพอจะลงรับสมัคร สส.ได้แล้ว  ก็ย่อมมีสิทธสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.ได้ทุกคนนั้นแหละครับ หากอายุเท่ากันคนหนึ่งมีสิทธิ อีกคนไม่มี สิทธิ จะเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะมีกฏหมายมากำหนดไว้ และการที่รธน.กำหนดแบบนี้ แทนที่จะกำหนดว่า นับแต่รธน.ประกาศใช้ ให้ผู้ที่ต้องโทษจากการทุจริต ไม่มีสิทธิเข้า รับสมัครเลือกตั้งเป็นสส. อย่างนี้ก็สามารถที่จะกำหนดได้ คือกำหนดไปข้างหน้าไม่ย้อนหลัง ก็สามารถทำได้ แต่ก็ ไม่เป็นเช่นนั้น คือการณ์ปรากฏว่า รธน.เอง ออกกฏหมายบังคับใช้  ย้อนหลังเอากับผู้ที่กระทำผิดก่อนรธน.ประกาศใช้ ทำให้คนเหล่า นั้นเสียสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส. สว. ไป ทั้งๆที่การกระทำความผิดเกิดก่อนรธน.จะมีเสียด้วยซ้ำ การบอกว่าเป็นการกำหนดคุณสมบัติ เป็นการเลี่ยงคำพูดครับ เพราะนี้คือกฏหมายรธน.ครับ และหากมีคนยืนยันว่า หลักนิติรัฐ ไม่มีการออกกกฏหมายย้อนหลังให้คนเสียเปรียบกัน นี้แหละครับหลักฐานว่า รธน.เองยังทำเลยครับ เพราะ อย่างที่ผมกล่าวแล้ว วิธีการเพื่อความปลอดภัยแก่สังคมนั้น เขาใช้ทันทีครับ เพื่อให้สังคมปลอดภัย และตัววิธีการเพื่อ ความปลอดภัย ก็ไม่ใช่โทษทางอาญา ไม่มีอันตรายต่อผู้ถูกลงโทษ แต่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังนั้น วิธีการเพื่อ ความปลอดภัยแก่สังคมนี้ เป็นกฏหมายที่บังคับใช้ทันทีและย้อนหลังได้ ดูได้จากรธน.ทั้งสามฉบับ เป็นแนวทางนี้ได้ครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 13:59:49 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 137 ผมเพิ่งมาออน์ไลน์ได้สักพักตั้งใจว่าจะตอบคห. คุณ : โรงงานช็อคโกแล็ต แต่มีธุระด่วนเข้ามาอีกแล้ว เดี๋ยวเสร็จธุระจะขอให้ความเห็น แต่ขอให้คุณ โรงงานช็อคโกแล็ต ให้ความเห็นในเรื่องรธน.ที่ฝากไว้ ด้วยครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 14:05:03 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 138 ถ้าเป็นการลงโทษย้อนหลังไปจริง มีการย้อนไปไล่ลงโทษ สส. สว. ที่เข้าเกณท์ ยกเลิกตำแหน่ง ริบเงินเดือนคืนรึเปล่าครับ เพราะมันต้องหมายความว่า ผู้ที่เข้าเกณท์นี้ในอดีตทั้งหมดโดนโทษเช่นกัน มันก็เรื่องเดียวกับที่กำหนดให้ สส. ต้องจบ ป.ตรี ในรัฐธรรมนูญปี 40  ก็ไม่ได้ไปไล่ถอดตำแหน่งอดีต สส. ที่เคยเป้นแต่ไม่จบ ป.ตรี เพราะมันคือการกำหนดคุณสมบัติไงครับ ต่อไปใครจะมาเป็นต้องมีคุณสมบัติตามนี้ ไม่ใช่ใครที่ไม่มีตามนี้ในอดีตก็โดนถือว่าไม่เคยเป็น สส. ผมก็พึ่งมา มีเพิ่มเติมความเห็นบนนิดหน่อยโดยยังไม่เห็นความเห็นคุณด้วย ลองพิจารณาดูครับ ปล. ผมย้ำรอบที่ 3 แล้วครับว่าผมไม่ได้บอกว่าไม่มีเลย ห้ามทำเลย แต่ผมเห็นว่ามันเป็นหลักนิติธรรมในการออกกฏหมายโดยทั่วไป ไม่ใช่แค่ไม่เป็นความผิดอาญาก็ออกได้ตามสบาย แต่มันก็มีข้อยกเว้นได้เมื่อมีเหตุอันควรอย่างเรื่องอาคาร โอเคนะครับ คงไม่ต้องย้ำเรื่องนี้อีกรอบ ลองอ่าน 132 ผมใหม่ครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:49:18 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:47:10 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:44:29 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 14:19:18 จากคุณ : arctan45 - [ 14 มิ.ย. 52 14:10:55 A:125.24.32.110 X: ]

ความคิดเห็นที่ 139 ประกาศ คปค. ฉบับ 27  มันชัดเจนว่า เจตนาเขียนขึ้นมาเพื่อเล่นงานคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่มีอะไรที่ต้องถกเถียงเลย หากยึด "ความจริงและความถูกต้อง" เป็นหลัก นิติธรรม นั้น  มีไว้เพื่อความ เป็นธรรม การอ้างเหลี่ยมมุมทางกฎหมายเพื่อสร้างความชอบธรรม  หาใช่ "นิติธรรม"  ไม่ มีแต่จะสร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง จากคุณ : ตระกองขวัญ - [ 14 มิ.ย. 52 16:19:07 A:125.26.236.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 140 มันก็เรื่องเดียวกับที่กำหนดให้ สส. ต้องจบ ป.ตรี ในรัฐธรรมนูญปี 40  ก็ไม่ได้ไปไล่ถอดตำแหน่งอดีต สส. ที่เคยเป้นแต่ไม่จบ ป.ตรี เพราะมันคือการกำหนดคุณสมบัติไงครับ ต่อไปใครจะมาเป็นต้องมีคุณสมบัติตามนี้ ไม่ใช่ใครที่ไม่มีตามนี้ในอดีตก็โดนถือว่าไม่เคยเป็น สส. คุณ : arctan45 ----------------------------------------------------------------------------- ก็แล้วแต่ครับที่เห็นต่าง ตามข้อเท็จจริงรธน.มีสิทธิออกกฏหมายรธน.เพื่อกำหนดคุณสมบัติบางอย่าง ถือเป็นกฏหมาย ในกรณีนี้ กฏหมายรธน.จะมีการกำหนด อายุ วุฒิ ซึ่งเป็นธรรมชาติสภาวะของบุคคลไว้ ว่าต้องอายุเท่าไร จบวุฒิอะไร จึงจะสามารถสมัรเป็น สส.ได้ ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นกฏหมาย ที่ไม่ได้มีลักษณะระบุย้อนหลังเพราะไม่ได้ท้าวความถึงการกระทำในอดีตของผู้ใด จึงเป็นกฏหมายข้อกำหนดทั่วไป แต่ในกฏหมายข้อกำหนดของรธน. 3 ฉบับหลัง ยังมีข้อย่อยอีกข้อ ที่กำหนดท้าวความไปถึงการกระทำในอดีตของ บุคคลบางจำพวก ที่เคยกระทำการทุจริตมาก่อนที่รธน.ทั้งสามจะประกาศใช้ การกำหนดท้าวความไปในอดีตใน ลักษณะนี้ จะอย่างไรก็ต้องถือเป็นกฏหมายที่มีผลย้อนหลัง ทำให้กำจัดสิทธิของบุคคลที่ มีอายุ เท่ากัน มีวุฒิเท่ากัน ต่างก็ถึงเกณท์ที่จะสมัครเป็น สส หรือ สว ได้ แต่คนหนึงเคยมีการกระทำในอดีตที่กระทำก่อนจะมีรธน. และรธน.ถือ ว่าเป็นข้อต้องห้ามเช่นนี้ จะอย่างไรก็ต้องถือว่า กฏหมายนี้มีผลต่อบุคคลในการกระทำที่เกิดก่อนรธน.จะเกิดขึ้นมา แต่เป็นลักษณะของวิธีเพื่อความปลอดภัยของสังคม ที่จำต้องทำเช่นนั้น แม้จะก่อให้เกิดการเสียสิทธิไปของบุคคล เช่นเดียวกับประกาศคปค.27 ที่ออกมา มีผลต่อกก.บริหารเฉพาะที่ศาลตัดสินยุบพรรค ทั้งๆที่การกระทำผิดนั้น เกิด ก่อนจะมีประกาศคปค.นั้น เหมือนที่การกระทำความผิดเกิดก่อนจะมีรธน. ไม่แตกต่างกันเลย แต่กฏฆหมายทั้งสองต่าง ก็ถูกนำมาใช้และมีผลต่อผู้ที่กระทำการในอดีต ในลักษณะเดียวกัน จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 16:34:57 A:124.121.31.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 141 ในอดีตก่อนปี 2534 ในวันที่บุคคลเหล่านั้นกำลังกระทำทุจริต ในวันนั้นเขายังมีสิทธิที่จะสมัครเป็นสส หรือสว ขณะที่เขากำลังกระทำความผิด เขาไม่รู้เลยว่า การกระทำของเขานั้น ต่อมาในภายหน้าจะมีการลงโทษด้วยการ ห้ามไม่ให้เป็น สส หรือ สว. เรียกว่าขณะเขากระทำความผิด กฏหมายห้ามไม่เป็น สส หรือ สว ไม่มีอยู่ แต่พอล่วงเข้าปี 2534 เป็นต้นมา กฏหมายรธน.กลับห้ามคนเหล่านี้ไม่ให้สมัคร สส หรือ สว โดยถือเป็นมาตราการ เพื่อความปลอดภัยของสังคม ดังนั้นที่ว่า ไม่มีโทษ หากขณะกระทำความผิดนั้นไม่มีกฏหมายระบุไว้  จึงไม่เป็นจริง สำหรับกรณีเพื่อความปลอดภัย ที่แม้วันกระทำความผิดจะไม่มีกฏหมายนั้น แต่วันที่รธน.ประกาศใช้หรือ พิพากษาสามารถใช้กฏหมายนั้นได้ ที่ว่าไม่มีโทษ หากขณะกระทำความผิดนั้นไม่มีกฏหมายระบุ จึงใช้เฉพาะกับโทษทางอาญาเท่านั้น ได้แก่ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ไม่บังคับกับวิธีการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งแม้กระทั่งกฏหมายรธน.ยังนำมาใช้บังคับย้อนเอากับผู้ที่ กระทำความผิด ในขณะที่กฏหมายขณะกระทำผิด ไม่ได้ห้ามไม่ให้เป็น สส หรือสว.(ขณะกระทำผิด โทษดังกล่าวไม่มี) แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 16:46:06 จากคุณ : thyrocyte - [ 14 มิ.ย. 52 16:41:54 A:124.121.31.210 X: ]