ภาคที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7975098/P7975098.html
ภาคที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7965368/P7965368.html
ภาคที่ 2
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=808368
ภาคที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7957871/P7957871.html
* กระทู้นี้มีเจตนาเพื่อที่จะ วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี การจัดทำ SWOT การจัดตั้ง Organization ของกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อเป็นมุมมองเชิงเปรียบเทียบ
ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ ดิฉันก็ขอกราบอภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------
กะทิ: พะแนงของน้องวัลย์นี่ อร่อยดีฝีมือไม่ตกเลยน่ะค่ะ ถ้าเปิดร้านอาหารคนคงเยอะแน่ๆ ค่ะ
วัลย์: ขอบคุณค่ะคุณพี่ เมื่อกี้น้องยังติดใจนิดนึงว่า เค้ามียุทธวิธีจัดการกับพรรคที่น้องสนับสนุนยังไงค่ะ
กะทิ: คราวที่แล้วหลังจากมีการรัฐประหาร เขาก็ใช้ทหารลงพื้นที่ อ้างว่าทำความเข้าใจกับประชาชน
แต่จริงๆ แล้วคือการโน้มน้าวไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคที่เขาไม่ต้องการ
ให้กลับมาเป็นรัฐบาล แต่ผลที่ได้กลับเหลว ก็เลยต้องใช้วิธีอื่นในการกำจัด นั่นคือ
ให้กลุ่ม พธม.ของพี่รวมตัวกันขึ้น ให้สื่อรุม ขัดแข้งขัดขา ไม่ให้อำนาจในการบริหารรัฐ
รัฐบาลน้อง สั่งทหาร ทหารเฉย สั่งข้าราชการ ข้าราชการเฉย คือได้แต่เป็นรัฐบาล
แต่ไม่ได้อำนาจในการบริหารไงค่ะ จนสุดท้าย เราก็ใช้กระบวนการ การตัดสินนี่หล่ะค่ะ
เป็นตัวกำจัดพรรคที่น้องเลือกไงค่ะ
แต่การใช้วิธีการเหล่านี้ ไม่ใช่เราจะทำไม่ได้อีกครั้ง เราสามารถทำได้ แต่มันต้องแลกมาด้วย
ต้นทุนที่เราสะสมมาไงค่ะ มันต้องแลกด้วยความเคลือบแคลงสงสัยจากสังคม จากต่างประเทศ
และความเสื่อมในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมันยังส่งผลภาพแห่งความเป็นสองมาตราฐานไง่ค่ะ
เพราะฉะนั้น เราคงต้องหลีกเลี่ยงวิธีเดิม และหาวิธีใหม่ในการดำเนินงาน ซึ่งวิธีที่เราเลือกที่เหมาะสม
ในเวลานี้มากที่สุดคือการ ดำเนินการไม่ให้พรรคของน้องได้รับการเลือกตั้งให้มีเสียงข้างมากไงค่ะ
เราเริ่มตั้งแต่ การสร้างความหวาดกลัวก่อน การยุบพรรค สองครั้งซ้อนๆ มันทำให้ทางพรรคของน้องเกิดอาการชะงัก
ลังเลที่จะประกาศตัวหัวหน้าพรรค กรรมการพรรค เพราะถ้าทำในจังหวะที่ไม่ดี
ก็มีสิทธิโดนยุบพรรคอีกรอบ จากนั้นก็ซื้อตัวคนที่คิดว่ามีส่วนสำคัญในการดำเนินงานของพรรคน้องและ
เป็นแกนหลักในการต่อท่อกับทักซิโด้ไงค่ะ เพื่อลดพลังลงและเป็นการทำลายขวัญ สส.
ภายในพรรคของน้องด้วย จากนั้นเราก็จะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมด สนับสนุน พรรคจากคนที่ทรยศ
เพื่อให้ตัดคะแนนเสียงของพรรคน้องไงค่ะ และก็ดำเนินการหาวิธีซิกแซก ซึ่งวิธีที่คลาสสิคมากที่สุด
ก็คือการเบี่ยงเบนผลการลงคะแนนไงค่ะ อาจจะเป็นเปลี่ยนหีบ เปลี่ยนบัตร อ่านบัตรผิด ลงเบอร์ 1
กลับไปอ่าน เบอร์ 2 ยิ่งถ้าทำให้คนมาเลือกตั้งล่วงหน้าเยอะๆ เรายิ่งมีเวลาที่จะดำเนินการต่างๆ ได้นานขึ้น สะดวกขึ้น
ซึ่งวิธีนี้เราเรียกว่า ยุทธวิธีตัดไฟแต่ต้นลมไงค่ะ
วัลย์: แบบนี้ น้องคนต้องบอกให้คนเสื้อแดง จัดกลุ่มหาอาสาสมัคร แบ่งงาน กันไปร่วมสังเกตการณ์ การลงคะแนน
การนับคะแนน ของการเลือกตั้งให้ดีๆ แล้วซิค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวพลาดที่ทางกลุ่มพี่แน่ๆ เลยค่ะ
กะทิ: :)
วัลย์: แล้วที่แผนตัดไฟแต่ต้นลมของพี่ไม่ได้ผลล่ะค่ะ
กะทิ: ถ้าผลออกมาทางน้องมากกว่าไม่มากนัก เราก็ยังมีวิธีค่ะ อาจจะสร้างหลักฐานให้ใบแดงเล่นๆ
ยิ่งถ้ามีช่องให้ใบแดงกรรมการบริหารพรรคได้ ก็ยิ่งดี ได้ยุบพรรคไปเลยไงค่ะ
วัลย์: แล้วถ้าผลออกมาพรรคของน้องได้คะแนนเสียงเป็นที่ 1 ห่างกันมากๆ ล่ะค่ะ
กะทิ: อืมมม ถ้าเป็นแบบนั้น เราคงต้องยอมเสียต้นทุนอีกครั้ง น้องคงได้เห็นอะไรบิดๆ เบี้ยวๆ
อีกหน แต่เราไม่อยากใช้วิธีนี้นะค่ะ ต้นทุนเราเหลือน้อยมากแล้ว ที่สำคัญเราอยู่ในสถานะ
ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง เราคงไม่พร้อมและไม่อยากจะเสี่ยงใช้วิธีนี้อีกครั้ง
วัลย์: แล้วทางฝั่ง พธม. ของพี่ล่ะค่ะ อนาคตจะเป็นยังไงต่อค่ะ
กะทิ: ฝั่ง พธม. พี่จะสลายตัว อ่อนแรงลงไปในที่สุด
วัลย์: อ้าว ทำไมล่ะค่ะ
กะทิ: การตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็เป็นการทำลาย พธม. ในตัวเองไงค่ะ น้องวัลย์
ตลอดเวลาการต่อสู้ของ พธม. พี่ๆ น้องๆ พธม. ได้รับคำบอกกล่าวอยู่เสมอว่า
นักการเมือง เป็นมนุษย์พันธุ์ที่เลว โกงกินชาติบ้านเมือง ทำเพื่อส่วนตัว ไม่ได้ทำเพื่อชาติ
การที่ได้ยิน ได้ฟังอยู่แทบทุกวันเป็นเวลานาน มันก็ทำให้พวกเราสร้างภาพในใจว่า การเมือง
เป็นเรื่องสกปรก เป็นเรื่องการคดโกง เป็นเรื่องผลประโยชน์เฉพาะคนบางกลุ่ม เราต้องการล้มล้างคนโกง
ด้วยเหตุนี้ก็จะมีคนกลุ่มนึงที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ พธม. จะตั้งพรรคการเมือง
กลุ่มคน กลุ่มนี้เป็น กลุ่มที่มีแนวคิดค่อนข้างอุดมคติ อีกกลุ่มนึงก็กลุ่มที่ผูกพันธ์กับพรรคการเมือง
ที่คอยให้การสนับสนุน พธม.อยู่ การตั้งพรรคก็เป็นการตัดคะแนนเสียงกันเอง กลุ่มนี้คงไม่ชอบใจนัก
เหลืออีกกลุ่มก็คือ กลุ่มที่เห็นด้วยกับการตั้งพรรค ซึ่งแน่นอน ทางพี่ต้องรักษาคนกลุ่มนี้
ไว้ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องดึงคนกลุ่มเดิมที่สนับสนุนพรรคที่เคยสนับสนุนเรามาก่อน
โดยการเสนอข่าว ความล้มเหลวด้านการบริหารของรัฐบาลบ่อยๆ ไงค่ะ ซึ่งทางรัฐบาลเองก็รู้
และหาทางที่จะไม่ให้เราเติบโตขึ้นมาตัดคะแนนเสียงเช่นเดียวกันค่ะ
วัลย์:จริงๆ เหรอค่ะพี่ พธม. เสนอข่าวด้านการบริหารที่แย่ๆ ของรัฐบาล
กะทิ:ใช่ค่ะน้องวัลย์ เราทำมานานตั้งแต่เริ่มจะก่อตั้งพรรค กมม แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าคนส่วนใหญ่เสื้อแดงไม่ค่อยรู้
สาเหตุก็เพราะว่าคนเสื้อแดง ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเราไงค่ะ คือปิดหู ปิดตา รับฟัง รับชมแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ
ไม่ได้ดูความเป็นไปของฝ่ายตรงข้ามว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
ลำพังเฉพาะกองเชียร์คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าระดับเสนาธิการหล่ะค่ะ น้องวัลย์ ถ้ามัวแต่ปิดหูปิดตา
ไม่เรียนรู้สิ่งที่ฝ่ายตรงข้าม ทำสำเร็จ สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามทำผิดพลาด ก็คงคาดความเป็นไปในอนาคตได้ลำบากแน่ๆ ค่ะ
ถ้าไม่ลองเรียนรู้จากศัตรู เราจะรู้รสแห่งชัยชนะได้อย่างไรค่ะ
"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ซุนวูกล่าวไว้ไงค่ะ
จริงๆ แล้วเสื้อแดงน่าจะมองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นภายใต้วิกฤติของ พธม. น่ะค่ะ
วัลย์:ทำไงล่ะค่ะ คุณพี่บอกน้องหน่อยซิค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องทำมัสมันอร่อยๆ มาให้ทานเลยค่ะ
กะทิ: แหมน้องวัลย์ มองพี่เป็นคนเห็นแก่กินไปได้น่ะค่ะ ... พี่ขอใส่ยี่หร่าเยอะๆ น่ะค่ะ ได้หอมๆ ค่ะ :)
วัลย์: :) แล้วถ้าพี่เป็นเสื้อแดงพี่จะมียุทธวิธีอะไรค่ะ
กะทิ: ยุทธวิธีศัตรูของศัตรู คือมิตรไงค่ะ คนเสื้อแดงต้องเลิกเสียทีว่า คนเสื้อเหลืองคือศํตรู
ศัตรูของคนเสื้อแดง คือ ความอยุติธรรม ความเป็นสองมาตราฐาน ความไม่เป็นประชาธิปไตย
ไม่ใช่คนใส่เสื้อสีเหลือง จริงๆ แล้วคนใส่เสื้อสีเหลือง ก็รักชาติ รักประเทศไม่ได้ยิ่งหย่อน
ไปกว่า คนใส่เสื้อสีแดงหรอกค่ะ เพียงแต่ประสบการณ์ มุมมอง สิ่งที่เรารับรู้แตกต่างกัน
ทำให้เราคิดแตกต่างกัน แต่เราก็รักชาติ รักประเทศ อยากให้ประเทศไทยเราก้าวหน้า
พัฒนา คนในประเทศมีความสุข ความเจริญ ไม่แตกต่างกันหรอกค่ะ น้องวัลย์ลองดูภาพนี้ซิค่ะ...
ต่อใน คห. 1
แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 13:58:10
ทักษิณหย่าขาดจากภรรยาจริงหรือ?(กะทิ ตอน 5)
