PANTIP.COM : P8010313 สุรชัยชี้เป้า ศัตรูตัวจริง นัดรวมพล [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 8

ยังงี้นะครับ เท่าที่เคยอ่านผ่านตามา คือ หลังจากการปฏิวัติของคณะราษฎร์ ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับรัฐบาลก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าใดนัก คณะราษฎร์เค้าก็จะใช้นโยบายต่างๆ ที่มันเป็นแบบชาตินิยม เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย ตามแบบตะวันตก อะไรทำนองนั้น คราวนี้พอมาถึงยุคจอมพลสฤษดิ์ อำนาจของคณะราษฎร์มันก็แทบจะหมดไปแล้ว พอดีไปค้นมา (กลัวผิด) ข้อเท็จจริงตรงนี้ผมขอตัดตอนมาเลยนะครับ

^{เมื่อ ถึงเวลาที่สฤษดิ์ขึ้นมาเป็นใหญ่ ๒๔ มิถุนาจึงเกือบไม่เหลือความหมายอะไรแล้ว นอกจากเป็นวันหยุด ราชการวันหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า "วันชาติ" หลังสฤษดิ์รัฐประหารครั้งแรกวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ ในระหว่างที่ให้พจน์ สารสิน เป็นนายกชั่วคราว มีการยกเลิก "วันแม่" กับ "วันเด็ก" ที่จอมพล ป. เพิ่งเพิ่มเข้ามาไม่นาน และนำวันหยุดสงกรานต์ กับวันปิยะกลับมา พอสฤษดิ์เป็นนายกเองหลังประกาศยึดอำนาจอีกครั้ง ("ปฏิวัติ" ๒๐ ตุลาคม ๒๕๐๑) ในปีแรกยังได้กล่าวปราศรัยเนื่องในวันชาติ ๒๔ มิถุนายน ซึ่งสฤษดิ์ใช้เป็นโอกาสแถลงผลงานที่ทำในระยะ ๘ เดือนของการ "ปฏิวัติ" มีการเอ่ยถึง "ชาติ" แบบผ่านๆ ("ชาติเป็นเสมือนครอบครัว") และไม่เอ่ยถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเลย

น่าจะเพราะการปราศรัยนี้ เอง (หรือมิเช่นนั้น ก็บรรดาสาส์นอวยพรจากต่างชาติที่ทั้งรัฐบาลและราชสำนักได้รับ ) ที่ทำให้สฤษดิ์และผู้ใกล้ชิดเกิดความคิดจะยกเลิก ๒๔ มิถุนาในฐานะวันชาติ เหตุผลสำคัญที่ยกมาอ้างคือ การเลือกวันที่ ๒๔ มิถุนา ทำให้ "เกิดความรู้สึกว่าเป็นวันของพวกเขาพวกเรา", "แสลงใจบุคคลบางกลุ่มในชาติเรา [ขณะที่] รัฐบาลปัจจุบันมุ่งจะให้ได้มาซึ่งสามัคคีธรรม" หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้รายงานการให้สัมภาษณ์ของสฤษดิ์ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๐๒ ดังนี้

ปัญหา เรื่องการเปลี่ยนแปลงวันชาติ ๒๔ มิถุนายน เป็นวันอื่น ซึ่งมีความหมายในทางรวมชาติไทยหรือก่อกำเนิดชาติไทยนั้น จอมพลสฤษดิ์ กล่าวว่า ได้มีผู้เสนอเรื่องนี้เป็น ๓ ข้อด้วยกัน คือวันชาติของไทยควรจะอยู่ในเหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์ ๓ สมัย ๑. ยุคสุโขทัย ตอนพ่อขุนรามคำแหงรวมอาณาจักรแหลมทอง ๒. สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ และ ๓. เมื่อพระเจ้าตากสินตั้งกรุงธนบุรี ก็ทรงประกาศอิสรภาพจากพม่าเหมือนกัน ทั้ง ๓ สมัยนี้ ควรเลือกเอาวันหนึ่งวันใดมายึดถือเป็นวันชาติไทย "แต่ผมก็รับฟังไว้เท่านั้น ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นรีบด่วนอะไร ผมต้องคิดเรื่องทำไมยุงจะไม่กัดพวกคุณ บ้านเมืองสะอาด น้ำไหลไฟสว่างเสียก่อน เรื่องวันชาติค่อยคิดกันทีหลัง" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ขอ ให้สังเกตว่า การอ้างเหตุผลทำนองว่า ๒๔ มิถุนาทำให้เกิดการแบ่งเขาแบ่งเรา หรือแสลงใจบางกลุ่มในสังคมไทยนี้ มีนัยยะว่าการปฏิวัติของคณะราษฎรไม่สามารถอ้างความเป็นตัวแทนของสังคมโดยรวม ("ชาติ") ได้อีกต่อไป เป็นเรื่องของคนเพียงกลุ่มเดียว และในทางกลับกัน กลุ่มและอุดมการณ์นิยมเจ้าได้กลับมาอยู่ในฐานะที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น พอจะอ้างสิทธิที่จะไม่ถูกทำให้ "แสลงใจ" ได้ ขณะเดียวกัน น่าสังเกตด้วยว่า คงเป็นเพราะตรรกะเดียวกันนี้ (วัน "ชาติ" ควรเป็นวันของสังคมทั้งหมด ไม่ใช่ของกลุ่มเดียว) ที่ในตอนแรก ไม่มีใคร (รวมทั้งสฤษดิ์) คิดจะแทนที่ ๒๔ มิถุนา ด้วยวันเกิดของใครคนเดียว (แม้แต่ของพระมหากษัตริย์ก็ตาม) ความรู้สึกที่ว่า "ชาติ" และวัน (ของ) "ชาติ" ควรเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เป็นความรู้สึกร่วมกันแม้แต่ในคนที่ภายหลังได้ชื่อว่าจงรักภักดีอย่างสัญญา ธรรมศักดิ์ ดังจะได้เห็นต่อไป มีรายงานว่า ขณะนั้นมีอยู่คนเดียวที่เสนอว่าควรใช้วันพระราชสมภพเป็นวันชาติ คือ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

หลังจากสฤษดิ์ให้สัมภาษณ์แล้ว ดูเหมือนรัฐบาลไม่ได้ดำเนินอย่างไรในเรื่องนี้ จนกระทั่งใกล้จะถึงวันชาติปีถัดไป ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๐๓ จึงมีการเสนอเรื่องวันชาติเป็นวาระให้พิจารณา ตามบันทึกการประชุม ดังนี้

เรื่องวันชาติไทย

สำนัก บริหารของนายกรัฐมนตรีได้เสนอบทความหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงวันชาติไทยว่า ในเรื่องวันชาตินี้ ตามความเห็นของหนังสือพิมพ์ มีข้อความใกล้เคียงความดำริของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี และบัดนี้ก็ใกล้วันที่ ๒๔ มิถุนายนแล้ว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงประการใดจะต้องประกอบพิธีวันชาติต่อไปตามเดิม จึงควรจะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณาเสนอความเห็น

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้เสด็จในกรมฯรองนายกรัฐมนตรี ทรงพิจารณาและเสนอรายนามผู้ที่สมควรเป็นกรรมการ ซึ่งเสด็จในกรมฯรองนายกรัฐมนตรีได้เสนอรายนามมาดังนี้

๑. ปลัดบัญชาการสำนักนายกรัฐมนตรี [หลวงวิจิตรวาทการ สมศักดิ์]
๒. นายสัญญา ธรรมศักดิ์
๓. พระยาอนุมานราชธน
๔. เลขาธิการสำนักพระราชวัง
๕. ผู้แทนกระทรวงกลาโหม
๖. ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
๗. เลขาธิการบริหารของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ มอบให้เสด็จในกรมฯ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้ว จึ่งให้เสนอคณะรัฐมนตรี

มติ เห็นชอบด้วยตามที่เสนอ}

ทีนี้มาถึงความเห็นของผม ผมว่าวันชาติมันควรจะเป็นอะไรที่สื่อถึงการได้มาซึ่งรัฐชาติที่เราอยู่กันได้ทุกวันนี้ อย่างเช่น วันประกาศอิสรภาพ วันประกาศเอกราช วันรวมชาติ อะไรทำนองนั้น ซึ่งวันที่ 24 มิ.ย. มัน make sense ตรงนั้นหรือไม่? การเปลี่ยนแปลงการปกครองวันนั้นมันมีที่มามาจากกลุ่มข้าราชการแค่ร้อยกว่าคนเองมิใช่หรือ (ถ้าจะเอาแบบนั้น 14 ตุลา ยังดีกว่าอีก) อีกอย่างตอนนี้พระมหากษัตริย์ก็ถือว่าเป็นศูนย์รวมทางใจของคนในชาติอยู่แล้ว ยังไม่ "ถึงเวลา" อันสมควรที่จะเปลี่ยน ผมจึงว่าหากจะให้ความสำคัญกับวันที่ 24 ก็ดี แต่ในฐานะที่เป็นวันประชาธิปไตยอะไรไปดีกว่าไหมครับ

ปล ผมรู้ว่าวันที่ 5 ธค เป็นวันชาติตั้งแต่ประถม ถ้าคุณโดดเรียนไม่ได้ยินครูบอกแล้วจะให้เปลี่ยนวันชาติมันก็เกินไปนะครับ
แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 52 00:32:40

จากคุณ : nisas - [ 25 มิ.ย. 52 00:29:46 A:125.24.173.114 X: ]