ในหลวงรับสั่งผู้พิพากษาให้สำนึกในความสำคัญของคำปฏิญาณ ไม่เช่นนั้นคำพูดที่ออกมาจะ"กลวง"หมด ต้องทำหน้าที่ช่วยบ้านเมืองให้ร่มเย็น ตรัสกับตุลาการศาลทหารให้รักษาความยุติธรรมด้วยความกล้าหาญ ถ้าไม่ทำไม่ใช่ชายชาติทหาร จะอับอายใจที่เป็นทหารแล้วไม่ทำ
เมื่อเวลา 17.34 น. วันที่ 30 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 41 คนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โดยมีนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายวิชัย อริยนันทกะ เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ เลขานุการศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเข้าเฝ้าฯด้วย
ในการนี้ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทถึงหน้าที่การประพฤติตนอย่างซื่อสัตย์ยุติธรรมของผู้พิพากษาว่า "ขอให้ท่านได้สำนึกความสำคัญของคำปฏิญาณและพยายามทำตามที่ได้กล่าว ไม่เช่นนั้นคำกล่าวที่ได้พูดอะไรออกมาก็จะกลวงหมด ฉะนั้น ท่านต้องจำไว้ จำคำปฏิญาณนี้ไว้ทั้งหมดให้อย่างชัดเจน ก็ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ของความยุติธรรมของบ้านเมือง เพื่อให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองมีความสงบสุข และใครทำอะไรไม่ดีทั้งหลายต้องกล่าวถึง ท่านต้องพูด ต้องยืนยันว่าเป็นหน้าที่ที่จะทำให้ยุติธรรม คนอื่นทำไม่ยุติธรรม ถ้าเขาไม่ได้ปฏิญาณก็คงไม่เป็นไร แต่ว่าทุกคนที่อยู่ในข่ายของความยุติธรรมก็ควรไตร่รู้ทั้งหมด
จะเป็นผู้พิพากษาหรือไม่เป็นก็จะต้องปฏิบัติเพื่อความยุติธรรม ท่านรู้ว่าท่านต้องดูแลสอดส่องให้เห็นว่าความยุติธรรมมีอยู่ในบ้านเมือง ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ท่านได้กล่าวไว้ในที่นี้ เพื่อที่บ้านเมืองมีความร่มเย็น ถ้าท่านยังอยู่ทั้ง 41 คนก็เปรียบเทียบกับคนในบ้านเมืองทั้งหมดยังเป็นส่วนน้อย ท่านจะต้องทำด้วยความเข้มแข็ง จะต้องรับผิดชอบ ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติตามความรับผิดชอบที่ได้มีไว้แก่ตัวซึ่งท่านได้กล่าวว่าจะทำให้ถูกต้องตามความยุติธรรม"
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯลง ณ ศาลาเริง วังไกลกังวล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำตุลาการศาลทหารสูงสุด จำนวน 12 คน ตุลาการศาลทหารกลาง จำนวน 75 คน และตุลาการพระธรรมนูญศาลทหารชั้นต้น จำนวน 8 คน รวม 95 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ต่อมาพระองค์ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนของตุลาการศาลทหารว่า "ถ้าเป็นทหารแล้วจะต้องรักษาความยุติธรรมและต้องรักษาด้วยความกล้าหาญ ถ้าใครไม่ทำตามนี้รู้สึกว่าไม่เป็นชายชาติทหาร ขอให้ได้ประพฤติสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับ และเมื่อมีความสำเร็จในหน้าที่ที่ได้รับ ได้ทำนั้น เชื่อว่า ท่านจะมีความสุข ความภูมิใจอย่างมาก ถ้าไม่ทำก็จะมีความอับอายในใจที่เป็นทหารแล้วไม่ทำ ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติงานทุกด้านครบถ้วน และเมื่อปฏิบัติแล้วท่านจะมีความสุขและความพอใจ
ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่และก็เป็นสุดยอดของหน้าที่ขอให้ได้มีความสำเร็จในการงาน เป็นที่ชื่นชมของประชาชนทั่วไปว่ามีผู้รักษาผลประโยชน์ของประชาชนอย่างเคร่งครัด ความเคร่งครัดสามารถที่จะปฏิบัติไม่นึกถึงอันตรายที่จะมีมา และจะต้องนึกถึงความสงบสุขของประเทศชาติ ขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการที่จะมีมาข้างหน้า ได้ชื่อว่าได้ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อความสงบของบ้านเมือง
และขอให้ท่านได้มีความพอใจและภูมิใจในงาน ซึ่งเป็นงานที่สูง เป็นงานที่สำคัญ เชื่อว่าถ้าทำดีแล้วจะมีความพอใจมาก มีความดีใจในความสำเร็จที่ท่านจะได้รับ"
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1246373298&grpid=00&catid=42
จากคุณ :
ตระกองขวัญ 
- [
1 ก.ค. 52 11:15:54
A:125.26.233.189 X:
]
"ในหลวง" รับสั่งตุลาการช่วยชาติร่มเย็น ใครทำไม่ดีต้องกล่าวถึง ศาลทหารต้องยุติธรรม ไม่ทำจะอับอาย
