ความคิดเห็นที่ 1 คนติดหวัดทั่วประเทศ ประมาณ 5-6 หมื่นคนเองครับ ขอบอก ไปทางไหน ก็มีสิทธิเจอและมีสิทธิติดหวัดครับพี่น้อง จากคุณ : สุกทุกยาม - [ 3 ก.ค. 52 12:36:57 A:61.90.167.19 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประชาชนต้องตายก่อน..... แก้ปัญหาทำไม่เป็นหรอ.... จากคุณ : เฟืองเหนือ - [ 3 ก.ค. 52 12:57:50 A:117.47.51.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ารักษาฟรี  รับรองตัวเลขพรุ่ง ปรี๊ด เลย   ตอนนี้ ตัวเลขไม่เยอะ เพราะไม่มีใครยอมเสียเงิน 6000 บาทเพื่อตรวจว่าเป็นหรือไม่   ก็รักษากันไปตาม ยถากรรม    รัฐบาล ยอมปล่อยให้คนตาย ดีกว่า จะให้คนรู้ถึงความด้วยประสิทธิภาพในการ  ดูแล ประเทศ จากคุณ : mr_angle - [ 3 ก.ค. 52 13:06:16 A:172.22.1.12 X:202.57.132.197 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เข้าใจรัฐบาลที่ 2000 บาทกล้าไปแจกฟรี ที่เรื่องเจ็บไข้จำเป็น ไม่กล้าดูแล ^ ^ แจกจนเงินหมดไปแล้ว ถ้าค่ายาฟรีคงต้องรอรอบหน้า จากคุณ : สองจุก - [ 3 ก.ค. 52 13:08:37 A:202.151.6.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 มั่วป่ะ เข็มละ 8000 ขอข้อมูลที่มาหน่อย ว่า รพ ไหน อย่าพูดลอย ๆ จากคุณ : เวชประการ - [ 3 ก.ค. 52 13:10:21 A:125.27.160.155 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 5 ...ประเด็นอยู่ที่ รบ. ไม่มีปัญญามารับค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมโรคครับ มันสะท้อนการทำงาน การให้ความสำคัญกับประชาชน หัดจับประเด็นซะบ้างจะได้ไม่โดนหลอกนะครับ ^^ ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ค่าว่า astV วันละ 3 ช.ม.+ ต่อวัน -*- จากคุณ : เฟืองเหนือ - [ 3 ก.ค. 52 13:12:29 A:117.47.51.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 กำเข็มละ8พันนอนอยู่บ้านดีกว่าจะได้ไม่ติดโรคไม่มีตังฉีดยาอ่าครับ แล้วมันเข็ฒละ8พันจริงๆปะเนีย จากคุณ : AI-SOP-MA - [ 3 ก.ค. 52 13:12:45 A:125.27.114.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข็ม 8000 นี่รวมค่ายาที่อยู่ในกระบอกฉีดหรือยังครับ จากคุณ : Oracle Team - [ 3 ก.ค. 52 13:41:12 A:58.10.15.195 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 งงกับเข็มละแปดพันด้วยคน แปดร้อยก็ว่าแพงแระ ว่าแต่ว่าราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วหรือยังครับ   หึ หึ จากคุณ : abadibe - [ 3 ก.ค. 52 13:51:03 A:125.24.39.242 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท.คงได้ข้อมูลมาผิดๆแล้วครับ ตอนนี้นักเรียนที่ผมดูแลอยู่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่าใช้จ่ายจะเป็นตามนี้ครับ 1.ค่าตรวจเบื้องต้นทดสอบว่าเป็นการติดเชื้อกลุ่มไขหวัดใหญ่ชนิดเอ หรือไม่ 750 บาท อันนี้ เสียเงินไปแล้ว 2.กรณี นักเรียน คนนี้ผลตรวจใจข้อ 1 เป็นบวก หากจะรู้ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่เอชนิด 2009 หรือเอชนิดตามฤดูกาล ต้องเสียค่าตรวจต่ออีก 4,000-7,000 บาท แต่แพทย์ผู้รักษาบอกว่าไม่จำเป็น เพราะการรักษาเหมือนกัน การควบ คุมโรคเหมือนกัน คือ ขอกักตัวไว้ 7 วัน สรุปตรวจหรือไม่ได้ตรวจตรงนี้การรักษาไม่แตกต่าง กรณีนี้น้องคนนี้จึง ไมตรวจต่อแต่รักษาเหมือนไข้หวัดใหญ่ 2009 เลยเพราะเพื่อนที่ใกล้ชิดกันตรวจแล้วว่าเป็น 3.ค่ายา ทามิฟลู เป็นยาทานครับไม่ใช่ยาฉีด หากหมอคนไหนบอกฉีกยากรักษาไข้หวัดใหญ่แสดงว่าโมเมครับ ยาทามิฟลู ทาน วันละ 1 เม็ด เช้า-เย็น รวม 5 วัน เป็น10 เม็ดค่ายาโรงพยาบาลเอกชน 2,000 บาทครับ 4.กรณีน้องนักเรียนคนนี้อาการดี ไม่ต้องรับรักษาในรพ. จึงเสียค่าใช้จ่ายเป็น    4.1 ค่าตรวจไว้รัสไข้หวัดใหญ่ เอ 750 บาท    4.2 ค่ายาทามิฟลู 10 เม็ดเป็นยาทาน(ไม่ยาฉีดครับ) 2,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย(ถ้าไม่ต้องนอนรพ.)ตกราว 2,750 บาทครับ ขณะนี้น้องหายดีแล้วครับและกักตัวครบ 7 วันแล้ว ยาฉีดรักษาไข้หวัดใหญ่ไม่มีหรอกครับ หากจะมีน่าจะเป็นยาฉีดรักษาโรคอื่นที่แทรกซ้อนเข้ามามากกว่า แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 14:07:49 จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ก.ค. 52 14:04:35 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าว.....แล้วแบบนี้ถ้าใครเกิดโชคร้ายไปติดไข้หวัด 2009 แล้วต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทางรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้ดูแล รับผิดชอบทุกอย่างหรอกเหรอคะ นอกจากรัฐบาลยังไม่สามารถ  ควบคุมการระบาดได้  ผู้ป่วยต้องจ่ายค่ารักษาเองอีกเหรอเนี่ย โห!!!!! จากคุณ : กุ๊งเก่ง - [ 3 ก.ค. 52 14:14:50 A:124.121.16.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ thyrocyte ครับ ยาทามิฟลู แก้ไข้หวัดนกครับ คือไวรัส สายพันธ์ h5n1 ส่วนไข้หวัดใหญ่ 2009 คือ h1n1 ยาทามิฟลูทีแรกเข้าใจว่ารักษา ได้ แต่จริงๆแล้วทำได้แค่ต้าน ถ้าคนไข้มีภูมิแข็งแรงก็สามารถหายได้ แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสกลับมาติดอีก ถ้ายังมีคนป่วยอยู่รอบข้าง และที่สำคัญเริ่มมีการดื้อยาตัวนี้แล้ว ที่ญี่ปุ่นพบสองราย ส่วนตัวป้องกันจริงๆ เป็นวัคซีน เป็นยาฉีด ไทยเพิ่งจะไปสั่งจองได้ไม่นาน จะมาถึงก็เดือนกันยายน มาจำนวน 600000 dose คาดว่าราคาจะแพงน่าดู ผมทำงานในคลีนิค มีคนเป็นหวัดมามากขึ้นเรื่อยๆ น่าห่วงครับ หลายคนมาถามหายาฉีดป้องกัน ที่มีก็ไข้หวัดใหญ่ ธรรมดา ฉีดไปถ้าไปเจอเจ้า h1n1 ก็ติดอยู่ดี กันไม่ได้ ถ้าติดไปแล้วก็แล้วแต่ดวงครับ ว่าทามิฟลูจะเอาอยู่ไม่อยู่ ประเทศนี้ชีวิตประชาชนขึ้นอยู่กับดวง เพราะฉนั้นช่วงนี้ใครไม่อยากติดหวัด ควรออกกำลังกาย ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงที่ชุมชน ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ใส่ผ้าปิดจมูก กินของร้อน นอนให้เต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทาน ส่วนใครที่มีอาการไข้ ก็ให้รีบไปพบแพทย์ก่อน เพื่อกันไม่ให้หวัดลงปอด รักษาตัวเองกันดีๆนะครับ จากคุณ : Jenovic - [ 3 ก.ค. 52 15:05:03 A:112.142.93.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณหมอ  Jenovic มากครับ แต่อย่างไรก็ตาม ตามที่ผมทราบมานั้นและจากข้อมูลของ WHO เขาถือว่ายาที่ใช้ในการรักษา H1N1 และมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสได้นั้นคือ ทามิฟลู ที่ ภาษาอังกฤษเรียกว่า  oseltamivir นะครับ ตามรายละเอียดในเวบของ WHO ตามนี้ รบกวนคุณหมอ อ่านดูด้วยนะครับ .......inhibitors of neuraminidase such as oseltamivir(ที่คนไทยรู้จักกันในนาม ทามิฟลู) and zanamivir; and adamantanes, such as amantadine and rimantadine. Tests on viruses obtained from patients in Mexico and the United States have indicated that current new H1N1 viruses are sensitive to neuraminidase inhibitors นั้นคือ oseltamivir(ที่คนไทยรู้จักกันในนาม ทามิฟลู) ใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ H1N1 ได้นะครับ แต่คุณหมอคงยืนยันตรงกันกับผมนะครับว่า ที่จขกท.บอกว่าเป็นยาฉีดรักษานะ ไม่มีใช่ไหมครับคุณหมอ http://www.who.int/csr/disease/swineflu/frequently_asked_questions/swineflu_faq_antivirals/en/index.html แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 16:07:50 จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ก.ค. 52 16:06:43 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมไม่ให้รักษาฟรีครับ ถ้าให้รักษาฟรีตั้งแต่ตอนนี้ก็จะสามารถควบคุมการติดต่อได้ในระดับหนึ่ง แทนที่จะไปสิ้นเปลืองงบประมาณในเรื่องไร้สาระ สู้เอางบตรงนี้มารักษาประชาชนดีกว่า จากคุณ : weerapol666 - [ 3 ก.ค. 52 16:21:40 A:114.128.40.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 เท่าที่ผมทราบ แพทย์พยายามจะไม่ใช้ยาทามิฟลูในผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ที่มีอาการไม่มาก เพราะเกรงว่าจะมีการ ดื้อยาได้ และผู้ป่วยส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงและหายเองได้ แม้จะไม่ได้ยาทามิฟลูนี้ แต่หาก ผู้ป่วยมีอาการมาก หรือมีโรคประจำตัวอยู่ แพทย์จะใช้ยาทามิฟลูในการรักษาทันที ไม่ทราบผมเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่ในวารสารการแพทย์ของสิงค์โปร์ที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ลงไว้เช่นนี้แหละครับ ฝากคุณหมอดูด้วยก็แล้วกัน http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19551309?ordinalpos=4&itool=EntrezSystem2.PEntrez.Pubmed.Pubmed_ResultsPanel.Pubmed_DefaultReportPanel.Pubmed_RVDocSum จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ก.ค. 52 16:25:06 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปล. ที่คุณหมอบอกว่าทามิฟลูใช้รักษาไข้หวัดนก H5N1 นั้นผมก็เคยได้ฟังมาเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างไรก็ดี คุณหมอลองอ่านวารสารฉบับนี้ดูด้วยนะครับ ตีพิมพ์ออกมาราวกับว่า ทามิฟลู ใช้กับ H5N1 ไม่ได้ผล ใช้ได้ผลเฉพาะแต่  H1N1 เท่านั้น แต่ผมคงไม่มีความรู้พอจะอธิบายตรงนี้ได้ คิดว่าการวิจัยนี้อาจผิดพลาดหรืออาจ เป็นคนละสาย พันธ์กับไข้หวัดนก H5N1 ของเราที่มีข่าวว่าใช้ทามิฟลูได้ผล http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19523442?ordinalpos=7&itool=EntrezSystem2.PEntrez.Pubmed.Pubmed_ResultsPanel.Pubmed_DefaultReportPanel.Pubmed_RVDocSum แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 16:37:07 จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ก.ค. 52 16:33:26 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามสบาย ครับ เอามาแปะได้ตามสบาย แต่ต้องบอกไว้อย่างนึง คุณไม่มีวันรุ้ดีกว่าหมอจริงๆ  ซึ่ง ผมเห็นมีอยุ่มากในห้องนี้ ขอให้สนุกครับ จากคุณ : Night_Angel - [ 3 ก.ค. 52 17:23:59 A:116.68.155.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าว...ใหนบอกว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009  ทำไมเป็น 8000 ไปได้ หลอกกันอีกแล้ว ว่ากันไปเลยตรงๆ ไม่ได้หรือ "ใข้หวัดใหญ่ 8000" จากคุณ : อุตสา - [ 3 ก.ค. 52 18:24:59 A:112.142.115.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 อุอุ คุณหมอ หรือ น่าจะเป็นคนทำบัตรผู้ป่วยมากกว่านะ มั่วขนาดนี้ จากคุณ : o (OSK29560) - [ 3 ก.ค. 52 22:16:24 A:222.123.230.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอแก้ข่าวเรื่อง ฐานะตัวเองก่อน คือผมไม่ใช่หมอ แต่เป็นผู้ช่วยแพทย์ เห็นหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าผมเป็นหมอ เรียกหมอ ผมฟังแล้วอายๆ ไงไม่รู้ พอดีไม่อยากให้เลยตามเลยครับ เดี๋ยวจะหาว่ามาหลอกลวงกันในภายหลัง เกี่ยวกับ ข้อมูลของ คุณ thyrocyte ไม่ผิดหรอกครับ แต่ความเข้าใจคุณอาจคลาดเเคลื่อน ยาทามิฟลู ใช้ต้านได้ แต่ป้องกันไม่ได้ คำว่าต้านหมายถึงคนไข้ได้รับเชื้อเขาไปแล้ว แล้วให้ยาต้านระงับไวรัสไม่ให้ออกฤทธิ์ แล้วเมืออาการดีขึ้นหรือหายแล้ว แต่ใช้ว่าจะหายเลย หากได้รับเชื้อ หรือร่างกายอ่อนแอ มีเชื้ออยู่ในตัวอยู่แล้ว คนไข้ก็จะกลับมาเป็นอีก ดังนั้นตัวป้องกันของมัน คือวัคซีนยาฉีด ที่จะมาถึงในเดือนกันยายนใช้รักษาและป้องกัน h1n1 โดยเฉพาะ ส่วนที่คุณบอกว่า พบว่าใครป่วย เขาก็ใช้ทามิฟลูรักษา ก็แน่ละครับ ในเมื่อไม่มียาแก้ก็ต้องใช้ยาต้านไปก่อน เมื่อคนไข้ได้รับแล้ว แล้วมาได้รับอีกก็อาจมีอาการดื้อยาตามมาภายหลัง เพราะฉนั้น ยาทามิฟลูหลังจากนี้ เมื่อใช้รักษาแล้ว ก็ยังมีอัตราเสี่ยงตามมา ถ้าคนไข้เคยป่วยมาแล้วด้วยไข้หวัด แต่ไม่ได้ตรวจสายพันธ์ พอถึงก็ซัดทามิฟลูเข้าไป พอถึงคราวได้รับเชื้อ h1n1 จริงๆ ก็อาจจะดื้อยาได้ และเหตุที่ อนามัยโลกประกาศ ระดับห้าระดับหกในตอนนั้น ก็เพราะยังคิดวัคซีนแก้ไม่ได้ มีได้ก็แต่ยาต้าน เพราะฉนั้นเขาถึงพยายามกักโรคไม่ให้มันแพร่ไปเร็ว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเพราะมียาแก้ อนามัยโลกถึงได้อ่อนลง แต่ว่าประเทศไทยล่ะ มีการป้องกันดีขนาดไหน บอกมาได้ว่าติดได้ก็หายเอง ใช้หายเองได้ผมไม่เถียง แต่ปล่อยให้โรคแพร่ไปขนาดนั้น ไม่มีการป้องกันอะไรเลย ถึงเวลา ยา 600000 ขวดที่สั่งมาจะเพียงพอไหม คนไทยคงต้องผจญ ไวรัส h1n1 ไปอีกนาน เพราะไม่รู้ว่าใครได้รับเชื้อเข้าไปมั่ง ถึงเวลาหน้าหวัดปีหน้า มันก็จะโพล่มาอีก แล้วยาที่เอามา จะเอามาขาย หรือเอามาแจก ผมเชื่อว่าเอามาขายแน่นอน ส่งมาตามโรงบาลและคลีนิค ฉีดเข็มหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 2000 แน่ๆ แล้วตาสีตาสาคนจนล่ะจะได้ฉีดไหม ในเมื่อคุณปล่อยโรคแพร่ไปถึงพวกเขาแล้ว ก็ควรให้เขาได้รับการรักษาเหมือนกัน แล้วอย่าลืม พวกรัฐวิสากิจ และข้าราชการอีก พวกมีสิทธิรักษาฟรีอยู่กับโรงพยาบาล แน่นอนว่าต้องแห่กันไปฉีด มันจะเหลือยาถึงประชาชน ถึง 300000 ขวดหรือป่าวก็ไม่รู้ จากคุณ : Jenovic - [ 3 ก.ค. 52 22:56:08 A:112.142.93.32 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่าไปเถียงคุณทนายเขาเลย เขารู้ดีกว่าใครๆ ในทุกเรื่องนั่นแหละ สรุปแล้ว เอาเป็นว่า ค่าตรวจรักษา แพงโขอยู่ ถึงจะไม่ใช่ค่ายา เข็มละ แต่ค่าตรวจรักษา เอาตัวเลขคุณทนาย นี่รวมๆ แล้วแพงกว่าที่จขกท บอก ซะอีก - -. ถ้าจะเถียงกันจริงๆ เอาไปแปะห้องหว้ากอให้มะล่ะ ไม่งั้นคงไม่สาแก่ใจ แต่แกก่าคงไม่ยอมรับและเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่แกตัดแปะมากะมือนั่นแหละ เสียเวลาเปล่าๆ 55+ จากคุณ : SE7EN - [ 3 ก.ค. 52 23:55:50 A:125.24.130.41 X: ]