ความคิดเห็นที่ 1 จำได้ครับ... มีอยู่รายนึง ทำราวกับเป็นผู้รู้ทัน พูดกันถึงขนาดที่ว่า มีผลเกี่ยวพันถึงการปักปันเขตแดนทางทะเลโน่นเลยเชียว ว่ากันเรื่อยเปื่อยถึงขนาดจะยึดเกาะกูด พอตักเตือนสติเข้าหน่อย ก็ทำเป็นอวดฉลาดกว่า เพราะมันดู ASTV มาแล้ว มัน Confirm เลยว่าสิ่งที่มันคิดนั้นจริงและถูกต้อง จากคุณ : Black Propaganda - [ 6 ก.ค. 52 10:39:06 A:124.121.130.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยิ่งกว่าขายชาติ  มันยกให้เลย ขายยังพอได้อะไรกลับมาบ้าง จากคุณ : pranboon4 - [ 6 ก.ค. 52 10:40:02 A:125.24.71.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เชื่อมั้ยว่ากระทู้นี้ไม่มีเหลืองเข้ามาตอบสักคน..   จะมีพวกแอ๊บขาวเข้ามาตอบแทน อิ อิ . . จากคุณ : yle5sh - [ 6 ก.ค. 52 10:43:49 A:58.64.73.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นทาสข้อมูลเท็จ..เสร็จแล้วดูดิ่..แต่ละตัวที่เห่าตอนนั้น..หาหัวไม่เจอเรย.. ประชาชนตาดำๆชายแดนศีษะเกษก็รับไปเต็มๆ..แถมยังโดนพวกมันยกพวกไปกระทืบเขาอีก เชื่อดิ่..วันนี้ไอ้พวกที่สรรหาข้อมูลมาหักล้างเรื่องเขาพระวิหารกับคุณนพดลในวันนั้น.. วันนี้คงจะเป็นไอ้หน้าโง่ไปหมดแล้วละ..ไม่มีใครกล้าโผล่หัวออกมาจากกระดองหรอก.. น่าอายเน๊อะ..โดนหลอก.. จากคุณ : เด็กวัดนาวง - [ 6 ก.ค. 52 10:46:27 A:222.123.181.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก้อไปถามใอ้ใสสิบ้านมันอยู่ศรีษะเกษไม่ใช่เหรอ (คนศรีษะเกษเขาเลือกพรรคไหนหละ ลืมตาดูบ้างนะท่านใส) จากคุณ : กาให้เป็น - [ 6 ก.ค. 52 10:51:23 A:125.25.66.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 นึกดูตอน ปชป เป็นฝ่านค้านจะเป็นจะตายให้ได้โดยร่วมมือกับ พธม กรณีเขาพระวิหาร พอมาเป็นรัฐบาลหลังจากนั้นมันหนังคนละม้วนเลยพี่น้องงงงงงงง  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ โดนแหกตากันเป็นแถวๆๆๆๆ 555+ จากคุณ : lundi - [ 6 ก.ค. 52 10:52:31 A:124.121.140.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 สภาพของพธม.และรัฐบาลฯ เรื่องเขาพระวิหารตอนนี้เข้าข่าย หางจุกตูดเข้าตัวเองกันถ้วนหน้า ยิ่งกว่าถมน้ำลายรดหน้าตัวเอง ผลงานที่แสนอัปยศอดสูที่ไปกล่าวใส่ร้ายนพดล งามหน้างามตาจริงๆ หมดศักด์ศรีไร้สถานะภาพ จากคุณ : ดุดัน - [ 6 ก.ค. 52 10:54:58 A:61.7.175.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 บัวใต้น้ำ ปลากินหมด ไม่เหลือซาก กรรมแท้ เหลืองอร่ามนามพันธมิตร จากคุณ : บุญขวาก - [ 6 ก.ค. 52 11:01:00 A:172.28.1.95 X:203.151.40.13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การขายชาติจริงๆ เริ่มที่ การทำให้ข้อตกลงร่วม ไทยกัมพูชา ที่ทำไว้สมัยท่านนพดล เป็นโมฆะ.... มาถึงตรงนี้ ถ้าได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม คืนมา ถือว่า สุดยอดแล้วครับ แม้แต่ที่ดินใต้ปราสาทพระวิหาร...ก็หมดหวัง....... จากคุณ : Stalwart - [ 6 ก.ค. 52 11:05:00 A:61.19.66.21 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าไปเอาความกับคนพวกนี้เลยครับ ต่อไปเราก็เรียกพวกนี้ว่า "เหลืองขายชาติ" แทนก็แล้วกัน จากคุณ : hairmaster - [ 6 ก.ค. 52 11:11:40 A:124.122.130.137 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 นักรบอาณาจักรคนคลั่ง ไม่รู้แทะใบกระท่อมที่ไหน ที่งี้หดหัวอยู่ในกระดอง แน่จริงออกไปรบทวงแผ่นดินสิ เก่งแต่ปากเหมือนหัวหน้ามันไม่มีผิด จากคุณ : BugPhu - [ 6 ก.ค. 52 11:18:32 A:124.120.48.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตกลงเราจะเสีย 4.6 ตร.วา หรือ 4.6 ตร.กม. กันแน่เนี่ย.... จากคุณ : SRJ - [ 6 ก.ค. 52 11:20:21 A:192.168.10.2 X:124.120.186.228 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ เสื้อเหลือง น่าขยะแขยง จากคุณ : tada504 - [ 6 ก.ค. 52 11:25:46 A:125.25.171.89 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 แจ๋วไปเลย จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด (C.BUN) - [ 6 ก.ค. 52 11:38:43 A:124.120.160.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 rep 12 4.6 ตร.กม. หรือก็คือเกือบๆ 3000 ไร่ครับ - -" จากคุณ : SaVor - [ 6 ก.ค. 52 11:45:05 A:124.121.246.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วใครบอกว่ารัฐบาลยก4. 6 ตาราง กม.ให้เขมรไปแล้ว ฝันไปหรือเปล่าครับ ตอนนี้เราส่งทหารตรึงพ ท.เอาไว้ สู้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ ถูกเขมรหลอก ให้ลงนามยินยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารโดยไม่พูดถึง 4.6 กม. เขาไม่พูดถึงเพราะต้องการให้ไทยยินยอมก่อน พอยินอมแล้วเขาก็ทวงสิทธิซิครับ ฉลาดจะตายพี่ไทย แต่เขมรหลอกใช้ฟรี เชื่อเขาทั้งดุ้นนะมิตรประเทศผู้ซื่อสัตย์ แล้วต้องนี้เสนอแผนพัฒนารวม พท.4.6 กม.เข้าไปด้วยใช่ไหมพี่ จากคุณ : มัสแตง - [ 6 ก.ค. 52 11:46:37 A:222.123.43.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห.9 แฮ่..แถออกเหลืองนิด ๆ พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ก.ม. ยังไม่มีฝ่ายใดสละสิทธ์ครอบครอง เป็นพื้นที่ปลอดทหาร นพดลฯ ทำสัญญาเฉพาะตัวปราสาท ส่วนพื้นที่ทับซ้อนหากหาข้อตกลงยังไม่ได้ ให้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ข้อดี 1. ทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย ไทยได้ประโยชน์การท่องเที่ยว เงินอยู่ฝั่งไทย กัมพูชาได้หน้า 2. พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเทศไทยมีศักยภาพมากกว่า หาเงินได้เยอะกว่า 3. พื้นที่ทับซ้อน หาเจ้าภาพไม่ได้ก็ให้เป็นแหล่งรับนักท่องเที่ยวรายได้หารสอง แต่ไอ้พวก พรรคการเมือง ทำไม่เป็นดีแต่ปาก พันธมิตรทำลายชาติไปเป่าหูสาวก นักวิชาเกิน ตุลาเกิน ทำให้มันเสียทุกวันนี้ ไมไม่เห็น ผู้รู้ประวัติศาสตร์ หน้าใหน ออกมาพูดสักเอะ ฟ่ะ ตูตนไท นะเฟ้ย จากคุณ : ตต - [ 6 ก.ค. 52 11:56:00 A:61.19.210.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.16 อีกแระ สงสารเอ้าอ่านซะ ที่มาที่ไป http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=814767 ขออนุญาตเจ้าของ คุณมัสแตง ขอบคุณพี่เขาด้วยนะ หู ตา จะได้สว่าง หรือว่า ยากเกินเยี่ยวยาแล้วก็ไม่รู้นะ จากคุณ : ตต - [ 6 ก.ค. 52 11:59:25 A:61.19.210.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านยังแถว่าพื้นดินใต้ปราสาทเป็นของไทย ตอนนั้น ยังนึกอยู่ว่าอยากให้เป็น รบ.จังเลยดูซิว่าจะทำยังไง แล้วก็ได้เห็นแล้ว เขาตวาดมาทีรีบเอาของไปบรรณาการ กี่ชิ้นแล้ว ไปยืนจ๋องกุม....ศักดิ์ศรีไม่มีเลย เป็นลูกไล่ของเขมร  อับอายจริงๆ เห็นแบบนี้แล้ว 4.6 ตร.กม เป็นของเขาชัวร์ นี่หละพวกขายชาติตัวจริง จากคุณ : อย่ารุมเค้านะ - [ 6 ก.ค. 52 12:29:56 A:124.120.224.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาสไตล์เดิมละครับ เรื่องเขาพระวิหารพอผมมาชี้แจงในกระทู้ที่มีคนมีความเห็นถามว่าผมหายไปไหน เมื่อวานนี้ ก็เถียงไม่ออก แล้วก็มีพวกเดียวกันมาตั้งกระทู้ใหม่ซ้ำซาก แล้วก็ท้าทายว่าเสื้อเหลืองหายไปไหน ใครเขาจะมาตอบซ้ำซากได้ทุกกระทู้ครับ นี่ก็ข้ามไปหลายกระทู้ที่ซ้ำซาก ใครที่เชื่อว่าการยกเลิกสัญญา จะส่งผลกับคดีความ คงจะมีภาษาอังกฤษไม่ดี สัญญาที่ยกเลิก ถ้าปล่อยไปไม่ยกเลิก มันก็ไม่มีผลกับไทยหรือเขมรหรอกในเชิงได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าจะต้องมาเถียงกันในศาลเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เขมรเดิมในแผนที่แรก รวมพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย ว่าไปแล้วก็เหมือนเทคนิคทางการต่อรอง ลักไก่ซึ่งก็ได้ผล ไทยหลงกลไปเซ็นร่วม นึกว่าต่อรองดีแล้ว เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้ คำพูดแค่นี้ มันจะส่งผลดีกับไทยยังไง คำพูดแบบนั้น มันก็ชัดเจนว่าเขมรก็ยังไม่ถือว่าเป็นของไทย แต่ตัดออกเพื่อให้ไทยยินยอมเซ็นสัญญา ใครจะหลงเชื่อว่าคำพูดแค่นี้จะทำให้พื้นที่ทับซ้อนเป็นของไทย ก็ไม่รู้จะว่ายังไง กลับกัน ซึ่งถ้าแม้ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกแล้ว ไทยเซ็นเข้าไปจริงๆ ก็จะมีปัญหาให้เสมือนเสียดินแดนตามมา สนับสนุนเขมรได้มรดกโลกฝ่ายเดียว วันดีคืนดีเขมรที่มีฝรั่งถือหางบอกให้ไทยยอมให้เขมรตัดทางสร้างถนนอย่างดีผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรเข้าพระวิหารโดยตรง เราจะทำยังไง ไม่ยอมก็เป็นคนเกเรในสายตาต่างชาติ ก็ไหนสัญญาว่าจะร่วมมือ แค่ตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนทำไมไม่ยอม ทั้งที่ความจริง ยอมให้ตัดถนนก็เหมือนเสียพื้นที่ทับซ้อนให้เขมรโดยพฤตินัย ขนาดทุกวันนี้ไม่เซ็น ฝรั่งมันจะพยายามมาบีบเรื่องนี้ ซึ่งทำให้เราต้องไปยื้อเรื่องมรดกโลก จนเรื่องนี้ต้องเลื่อนการพิจารณา(มันมีขั้นต่อจากรอบที่แล้ว) ซึ่งตรงนี้ก็เป็นท่าทีซึ่งไทยจำเป็นต้องแสดงตอกย้ำ เพื่อที่จะไม่มีชาติไหนมาว่าเราได้ ถ้าสุดท้ายเราจะไม่ยอมให้มีการสร้างถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อน ส่วนใครที่คิดว่าถ้านายนพดลไม่ทำอะไร เขมรก็จะเอาพื้นที่ทับซ้อนใส่ไปด้วย แม้ไม่มีไทยเซ็นร่วม ผมว่าเขมรคงไม่ทะเล่อทะล่ายังงั้นหรอกครับ ที่ทำตอนแรกนะลักไก่ แล้วเราก็ตกหลุมเขา ลองเอาพื้นที่ทับซ้อนใส่เข้าไป ขอเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ทำแบบนั้นยังไงไทยก็คัดค้าน และมีน้ำหนักสูงมหาศาล ซึ่งยูเนสโกไม่มีทางขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแน่นอน เพราะรวมพื้นที่พิพาทเข้าไปในมรดกโลก ส่วนกรณีพื้นที่ทับซ้อนจะเซ็นหรือไม่ ไทยกับเขมรก็ต้องเถียงกันอยู่ดี เพราะมันเชื่อมโยงไปถึงผลประโยชน์มหาศาลในทะเล และโดยเทคนิคก็ต้องคุยกันถึงแนวเขต โดยอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ก็ยังดีที่ไทยเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้าย เพราะถ้าเราไปแสดงความยินยอมให้เขมรขึ้นเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกข้างเดียว โดยธรรมเนียมจะกลับมามัดตัวเราเองให้ยอมให้ใช้พื้นที่ทับซ้อนร่วมกันพัฒนาเขาพระวิหาร เช่น สร้างถนนจากเขมรสู่เขาพระวิหารโดยตรงผ่านพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะจะเสมือนถูกกลืนเป็นของเขมรในสายตาชาวโลก แต่ไทยควรมีบทเรียนที่จะไม่ขึ้นศาลโลก ซึ่งไม่มีชาติไหนสมัยนี้จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยศาลโลก เพราะชาติมหาอำนาจอย่างฝรั่งเศส อังกฤษ จะต้องยึดถือแผนที่ซึ่งตนเองทำไว้ แม้จะได้มาโดยความไม่ชอบธรรม โดยบีบชาติเล็กให้ยินยอม เรื่องข้อพิพาทชายแดน ตรงไหนตกลงไม่ได้ก็คามันไว้แบบชายแดนมาเลย์ และหาทางแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยุติธรรม ถ้าจะมีใครขายชาติ ก็คือคนที่จะนำคดีนี้ขึ้นศาลโลกละครับ จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 12:44:06 A:124.120.222.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลำดับความเป็นมากรณีปราสาทพระวิหาร 1. ในปี 2505 ไทยแพ้คดีในศาลโลกในคดีที่หม่อมเสนีย์ ปราโมช ว่าความ    รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์จึงจำใจ และจำยอมยกปราสาทพระวิหารและที่ดินใต้ปราสาทให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 46 ปีที่แล้ว      นายสมัครหรือนายนพดล ไม่ใช่คนยกปราสาทให้กัมพูชา           เดิมไทยใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตกับกัมพูชา แต่หลังจากยกปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว  ไทยจึงทำแผนที่ประเทศบริเวณนั้นใหม่  โดยตัดพื้นที่ปราสาทออกจากราชอาณาจักรไทยและกันออกไปให้อยู่ในเขตกัมพูชา  ที่เรียกว่าแผนที่ชุด L 7017     ทุกหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งกองทัพไทย และกระทรวงต่างประเทศถือว่าเส้นเขตแดนไทยกับกัมพูชาเป็นไปตามแผนที่ชุด L 7017        นายอภิสิทธิ์โกหกในสภาตอนเป็นฝ่ายค้านว่าพื้นที่ใต้ปราสาทยังเป็นของไทย  แต่เผลอลืมไปว่าในปี 2541  ตอนเป็น รมต ในครม ชวน ตนเองก็ออกแผนที่ประกาศเขตอุทยานเขาพระวิหารตามแผนที่ L 7017 และระบุว่า เส้นบริเวณปราสาท เป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ไทยและกัมพูชา   2. กระทรวงการต่างประเทศและกองทัพไทยยืนยันว่าไทยยกทั้งปราสาทและที่ดินใต้ปราสาทให้กัมพูชา  เพราะศาลโลกตัดสินว่า “ ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา “    แต่พรรคปชป. และนายอภิสิทธ์ เห็นว่าไทยยกให้เฉพาะตัวปราสาท แต่ที่ดินใต้ตัวปราสาทยังเป็นของไทย  ดังนั้นเมื่อพรรคปชป.เป็นรัฐบาล  ก็ต้องเจรจาเอาที่ดินกลับมาตามที่โจมตีท่านสมัครและนายนพดล ตอนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน  หรือหากสงสัยก็ยื่นขอให้ศาลโลกตีความความหมายหรือขอบเขตคำพิพากษาได้ ตามธรรมนูญศาลโลก ข้อ 60   ซึ่งยื่นได้ตลอดเวลา ไม่มีอายุความ    ประเด็นคือ อภิสิทธิ์กล้าพอไหม? 3.  ปี 2549 กัมพูชาไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยแผนที่ที่ยื่นนั้นมันรุกล้ำและผนวกอาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกม.  ที่ไทยอ้างสิทธิเข้าไปด้วย  กล่าวคือกัมพูชายื่นขอขึ้นทะเบียน a) ตัวปราสาท และ b) พื้นที่ทับซ้อน 4.  ปี 2550 ในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ไทยคัดค้านไม่ให้เขาเอา b) พื้นที่ทับซ้อน ไปขึ้นทะเบียน จนคณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาการขึ้นทะเบียนปราสาทจากปี 2550 ไปเป็น ก.ค. 2551 5.  เดือน ก.พ.  2551 รัฐบาล คมช. หมดวาระลง รัฐบาลสมัครเข้ามาจึงต้องรับช่วงแก้ปัญหา และรัฐบาลเสมือนถูกไฟลนก้น เพราะเหลือเวลาเพียง 5 เดิอนก่อนประชุมมรดกโลกในเดือน ก.ค. 2551 และต้องเร่งเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกก่อนให้ได้ เพราะแผนที่ที่กัมพูชายื่นคาไว้ตั้งแต่ปี 2549 มันผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อนเราไปขึ้นทะเบียนไว้ 6.  พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกม. นี้ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ ไทยก็อ้างเป็นเจ้าของ กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นเจ้าของ  กัมพูชาไม่เคยยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน เพราะกัมพูชาเห็นว่าศาลโลกตัดสินในปี 2505 ชัดเจนแล้วเรื่องเส้นเขตแดน โดยยึดเอาเส้นเขตแดนสยามฝรั่งเศส  แต่ไทยไม่เห็นด้วยกับกัมพูชา เพราะไทยอ้างว่าศาลโลกไม่ได้ตัดสินเรื่องเส้นเขตแดน 7.  เมื่อต่างคนต่างอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อน ต่างฝ่ายจึงต้องแสดงการใช้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่เพื่อไม่ให้ตนเองเสียสิทธิ  เช่นการส่งคนเข้าไปอยู่  การส่งกำลังทหารเข้าไปครอบครองไว้  เพื่ออ้างว่าเป็นของตน  และในระหว่างนั้นก็เจรจากัน โดยไม่รบกัน  หลายประเทศเลือกการพัฒนาร่วมกันไปก่อนจนกว่าจะมีการปักปันของคณะกรรมการชุดต่างๆ   และนี่คือแนวทางที่ตกลงกันในคำแถลงการณ์ร่วม 8.  รัฐบาลสมัคร และนายนพดล จึงพยายามเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และห้ามนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะหากกัมพูชาขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนเป็นมรดกโลกสำเร็จ ไทยจะสุ่มเสี่ยงเสียอธิปไตยในพื่นที่ทับซ้อน  ส่วนตัวปราสาทนั้นไทยแพ้คดีที่ศาลโลกในปี 2505 และจำใจยกปราสาทให้เขาไป 46 ปีที่แล้ว เขาจะขึ้นทะเบียนก็เป็นเรื่องของเขา เราห้ามเขาไม่ได้     มีคำถามว่าทำไมไทยไม่ยื่นขอขึ้นทะเบียนร่วม   คำตอบก็คือ ในอดีตไทยเคยขอขึ้นทะเบียนร่วม แต่ถูกกัมพูชาปฏิเสธมาแล้ว  และงานเฉพาะหน้าของรัฐบาลสมัครคือการเร่งเจรจาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกก่อน ก.ค. 2551  ไม่ใช่การขึ้นทะเบียนร่วม เพราะการขอขึ้นทะเบียนต้องยื่นล่วงหน้าหลายปี 9.  การดำเนินการที่รัฐบาลสมัครและนายนพดลทำไปนั้น ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน หน่วยงานของรัฐและข้าราชการประจำทุกฝ่ายร่วมกันทำ และเห็นด้วย  เช่นกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ  กรมแผนที่ทหาร ครม  พล.อ. อนุพงษ์ ผบทบ. พล.อ. วินัย ภัทยกุล เห็นด้วย 10. หากรัฐบาลสมัครและนายนพดลไม่คัดค้านอย่างแข็งขันและเจรจาจนสำเร็จ  กัมพูชาจะผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วย เราจะแย่กว่านี้ พวกเขาเป็นผู้ปกป้องดินแดนไทย 11. ที่กัมพูชาส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อน และไทยก็ทำเช่นกัน ก็เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และอ้างสิทธิ 12. การทูตนั้นต้องเจรจา และรักษาไมตรีไว้ หากทำตามแนวทางของรัฐบาลสมัครจะรักษาได้ทั้งดินแดน และ ไมตรี 13. คำแถลงการณ์ร่วมที่ครม.สมัครอนุมัติให้นายนพดล ไปเซ็นนั้นขณะนี้สิ้นผลไปแล้วตามหนังสือยืนยันของ รมต ต่างประเทศกัมพูชา  และตอนที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกในเดือน กค. 2551 นั้น คณะกรรมการมรดกโลกก็ห้ามไม่ให้นำคำแถลงการณ์ร่วมเข้าประกอบการพิจารณาตามที่ไทยขอระงับผลตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครอง  แสดงว่าไทยจะสนับสนุนการขึ้นทะเบียนตัวปราสาทหรือไม่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญเลย กัมพูชาก็ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้อยู่ดี 14. คำแถลงการณ์ร่วมทำให้กัมพูชายอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ทั้งๆที่ปฏิเสธมาโดย ตลอด  และโชคดีที่ในการประชุมที่แคนาดาที่ผ่านมา กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยไม่เอาพื้นที่ทับซ้อนขึ้นทะเบียนด้วย โชคดีที่เขาทำตามแนวทางของแถลงการณ์ร่วม แม้ว่ามันไม่ผูกพันเขาเพราะไทยระงับผลไว้ก็ตาม        15  ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 และต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนทำขึ้น เพราะ 1. คำแถลงการณ์ร่วม” อาจมีบทบัญญัติเปลี่ยนแปลงอาณาเขต.” และ 2. เป็นหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม       ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิดเพราะ 1) คำแถลงการณ์ร่วมไม่เป็นหนังสือสัญญา แต่เป็นเพียงแถลงการณ์ทางการเมิอง และคู่กรณีไม่มีเจตนาผูกนิติสัมพันธ์กัน ซึ่งยืนยันได้จากหนังสือของ รมต ต่างประเทศกัมพูชาที่ระบุว่า กัมพูชาไม่เห็นว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็น international treaty (สนธิสัญญาระหว่างประเทศ)  2) ประการที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเกินที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ในมาตรา 190 โดยเติมคำว่า “ อาจ” เข้าไป  และ 3) ประการที่สาม ข้อความที่ว่าเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นบทบัญญัติใหม่ ครอบจักรวาล มีปัญหา และขาดความชัดเจน และเจตนารมณ์หมายถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรี มากกว่าจะเป็นหนังสือประเภท คำแถลงการณ์ร่วม จากคุณ : dmng (dmng) - [ 6 ก.ค. 52 12:52:32 A:125.25.249.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนนี้เงียบ.................เพราะไม่มีจะกิน จากคุณ : tg8911 - [ 6 ก.ค. 52 12:53:44 A:118.173.82.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ : dmng (dmng) ที่คุณว่า 10. หากรัฐบาลสมัครและนายนพดลไม่คัดค้านอย่างแข็งขันและเจรจาจนสำเร็จ  กัมพูชาจะผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วย เราจะแย่กว่านี้ พวกเขาเป็นผู้ปกป้องดินแดนไทย ไม่มีทางที่ยูเนสโก้จะยอมให้เอาพื้นที่พิพาทขึ้นเป็นมรดกโลกหรอกครับ ถ้าไม่มีการยินยอมจากคู่พิพาท เราถูกเขาลักไก่ แล้วก็หลงกล (นี่คิดในแง่ดีนะครับ) จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 13:13:06 A:124.120.222.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 พอคุณ ปอม คอม ตอบ หนีไปไหนหมดละ เงียบเชียวนะถ้าไม่ได้แถ  เป็น รมต.ต่างประเทศถูกเขมรหลอกให้ลงนาม ดีที่มีคนรู้ทัน  แล้วตอนนี้ยอมรับหรือเปล่า ฉลาดน้อยกว่าเขาท่าน รมต. จากคุณ : มัสแตง - [ 6 ก.ค. 52 13:25:25 A:222.123.43.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 Pom.com ง่ายๆ นะครับ สมัยคุณ นพดล เขาจะเซ็นสัญญากัน โดยจะใช้พื้นที่ทับซ้อนร่วมกัน โดยที่เขมร เสนอเฉพาะตัวปราสาท เป็นมรดกโลกเพียงอย่างเดียว ถามว่าใครที่ทำให้การเซ็นสัญญาตอนนั้นต้องล้มไป? แล้วตอนนี้ เขมร จะเอา ( ย้ำนะครับ ) จะเอาพื้นที่ทับซ้อนเป็นของเขา..ถามว่าไทย โดยเฉพาะ พรรค ปชป. มีน้ำยาอะไร ที่จะไปยับยั้ง หรือ ร้องคัดค้านบ้าง แล้วประเทศไทยสมัยนี้ โดยพรรค ปชป. เป็นรัฐบาล มาร์ค ม.7 เป็นนายก ไทยเรา ยังต้องย้อนยุค ส่งเครื่องบรรณาการให้เขมรอยู่หรือ? วาน Pom.com ช่วยตอบที ไม่ต้องวนเวียนอยู่กับข้อมูลเก่าๆ หรอกนะครับ ผมไม่เอา..เพราะเขมรมันจะเอาพื้นที่ทับซ้อนแล้ว จากคุณ : หนึ่งจุดแดง - [ 6 ก.ค. 52 13:30:28 A:112.142.125.150 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 เขมรเก่งจัง สามารถปั่นหัวคนไทยใน รดน.บางคนเชื่อตามแล้วด่ารัฐบาลของตนเอง  ไปกันใหญ่แล้วลูกพี่ จากคุณ : มัสแตง - [ 6 ก.ค. 52 13:35:14 A:222.123.43.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เขมรไม่เก่งเท่ากับคนไทย บางคน บางกลุ่ม บางพรรค ที่ทำไรไม่เป็น หลอกคนไทย อับอาย ขายอุจจาระหน้าไปทั่วโลก จากคุณ : ตต - [ 6 ก.ค. 52 13:47:49 A:61.19.210.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ้อ..อีกครั้ง ใครหลอกคนไทยกันแน่ ใครรักชาติ ทำลายชาติกันแน่ http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=814767 จากคุณ : ตต - [ 6 ก.ค. 52 13:49:46 A:61.19.210.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 pom.com 1. คุณคิดเอง เออเอง คาดว่าจะเป็นอย่างโน้น คาดว่าจะเป็นอย่างนี้ แล้วถ้ามันไม่เป็นอย่งคุณคาดละ ใครจะรับผิดชอบ  ปชป ?  พธม ? ไม่มีทาง ผมว่าเราต้องเอาข้อเท็จจริง และหลักฐานมาพูดกันครับ อย่าเอาตามความคิด หรือ การคาดการณ์  ถ้าเขมรเขาขึ้นทะเบียนโดยเอาพื้นที่ทับซ้อนได้ เหตุการณ์มันจะแย่กว่านี้ครับ เพราะปี 50 ที่นิวซีแลนด์ มติคณะกรรมการมรดกโลกเขาเห็นชอบในหลักการแล้วว่าจะให้ขึ้นทะเบียนได้ และ ปี 51 ที่แคนาดา มันจ่อที่จะขึ้นแน่  กระทรวงต่างประเทศเขาหาข่าว และลอบบี้ประเทศสมาชิกมรดกโลก 21 ประเทศ หยั่งเสียงได้ว่าเขมรขึ้นได้แน่ แม้ไทยคัดค้าน   นี่คือจุดที่คุณเชื่อในความคิดคุณ  แต่ข้าราชการ เขาเห็นคนละอย่างกับคุณ 2. ไทยจะสนับสนุน หรือเซ็นแถลงการณ์ร่วมไม่สำคัญเลยครับ  เขมรก็ขึ้นได้   โดยเฉพาะ คุณกล่าวหาว่าเป็นเพราะนายนพดล ไปเซ็นต์สนับสนุนเขมรๆจึงขึ้นทะเบียนได้ คุณผิดโดยสิ้นเชิง เพราะในการพิจารณา และในข้อมติของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อ 7 กค 51 มีการระบุอย่างชัดเจนถึงการไม่อ้างอิง ไม่พิจารณา ไม่คำนึงถึง และห้ามนำแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ( และร่างแถลงการณ์ร่วมวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 ซึ่งถูกอ้างอย่างผิดพลาดว่ามีการลงนาม ทั้งๆที่มันเป็นแค่ร่างเอกสาร ) มาใช้ประกอบการพิจารณา ตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่จะระงับแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ดังนั้นจึงสรุปได้อย่างชัดเจนจากเอกสารว่าคณะกรรมการมรดกโลกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยการพิจารณาจากคุณค่าสากลอันโดดเด่นของตัวปราสาทเอง ไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วม หรือ ร่างแถลงการณ์ร่วม หรือการสนับสนุนของไทยทั้งสิ้น การที่คุณกล่าวหาว่ากัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้เพราะไทยไปเซ็นแถลงการณ์ร่วมนั้น จึงไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริงครับ (โปรดดู ข้อ 5 ของข้อมติ คณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยที่ 32 ที่ควิเบก ประเทศแคนาดา ที่ว่า “ 5. Recognizing that the Joint Communiqué signed on 18 June 2008 by the representatives of the Governments of Cambodia and Thailand, as well as by UNESCO, including its draft which was erroneously referred to as having been signed on 22 and 23 May 2008 in the document WHC-08/32.COM/INF.8B1.Add.2, must be disregarded, following the decision of the Government of Thailand to suspend the effect of the Joint Communiqué, pursuant to the Thai Administrative Court’s interim injunction on this issue...” ) 3.. . การดำเนินการที่รัฐบาลสมัครและนายนพดลทำไปนั้น หน่วยงานของรัฐและข้าราชการประจำทุกฝ่ายร่วมกันทำ และเห็นด้วย เช่นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กองทัพไทย กรมแผนที่ทหาร สภาความมั่นคงแห่งชาติ  ครม  พล.อ. อนุพงษ์ ผบทบ. พล.อ. วินัย ภัทยกุล เห็นด้วย  ผมไม่คิดว่าทหารที่มีหน้าที่ปกป้องดินแดน เขาจะยอมให้เสียดินแดน หรือสร้างเงื่อนไขให้นำไปสู่การเสียดินแดน แน่   ประเด็นข้อกฎหมายก็มีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายช่วยดูอีก นักกฎหมายของกระทรวงต่างประเทศคงไม่โง่ที่จะไม่ตรวจสอบการเสียสิทธิด้านเขตแดนแน่ครับ จากคุณ : dmng (dmng) - [ 6 ก.ค. 52 14:05:49 A:125.25.249.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านความเห็นพล อ อนุพงษ์ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เวลา 14:18:39 น.  มติชนออนไลน์ ผบ.ทบ.ยันขึ้นทะเบียน"เขาพระวิหาร" ไม่กระทบเขตแดน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาเสนอปราสาทเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกว่า ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจากการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ผ่านมา ก็เห็นว่า เพื่อป้องกันความเข้าใจที่สับสน จึงมอบหมายให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเพียงผู้เดียว ส่วนกรณีที่มีความห่วงใยของประชาชนว่า ประเทศไทยอาจเสียดินแดนนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนต้องยอมรับว่า ภายหลังปี 2505 ศาลโลกได้ตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา และการที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะองค์ปราสาทนั้น จุดดังกล่าวไม่ได้ใกล้กับเส้นเขตแดนที่ไทยยึดถือ จึงไม่ทราบว่าประชาชนจะไม่พอใจเรื่องอะไร และไม่แน่ใจว่าการที่เราจะขึ้นทะเบียนมรดกโลก เราต้องให้ประเทศเพื่อนบ้านพอใจด้วยหรือไม่ ส่วนที่เกรงกันว่ามีการเอื้อประโยชน์เกิดขึ้นนั้น ตนไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาได้เข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ทับซ้อน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว ซึ่งไทยและกัมพูชาต่างยึดถือแผนที่ที่ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะในจุดที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถรื้อฟื้นได้เลย ขณะที่นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า และที่ผ่านมามีการรายงานปัญหานี้มาตลอด แต่เราใช้นโยบายละมุนละม่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า ข้อยุติเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา และหาข้อยุติให้เป็นผลประโยชน์ร่วมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคงต้องมีวิธีบริหารจัดการร่วมกันต่อไปในอนาคต และไม่สามารถจะบอกได้ว่าใครจะเสียดินแดน จากคุณ : dmng (dmng) - [ 6 ก.ค. 52 14:10:14 A:125.25.249.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณๆ ก็ ป่านนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกหลอก แต่ละคนโดนทั้งน้ำมนต์ ทั้งโกเต็ก ทั้ง แอส ทีวีขนาดนั้น จากคุณ : พร (Teleri) - [ 6 ก.ค. 52 15:26:50 A:125.27.231.112 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ให้ข้อมูลไปอย่างไร ขี้เหลืองมานไม่อ่านหรอกครับ เพราะความโง่ความหลงได้เข้าครอบงำสติปัญญาหมดแล้ว จำไว้ว่าหากวันใดที่ไทยต้องรบกับเขมร อ้ายขี้เหลืองพวกนี้จะหนีเอาตัวรอดก่อนเป็นพวกแรก จากคุณ : เอพีไอ - [ 6 ก.ค. 52 15:39:10 A:125.24.79.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ : dmng (dmng) ๑. ถ้าคุณไม่พูดเองเออเอง ลองยกหลักฐานมาซักชิ้นสิครับ ว่ามรดกโลกที่ไหน รวมพื้นที่ซึ่งมีข้อพิพาท โดยที่คู่กรณีไม่ยินยอมเข้าไปด้วย ที่กรรมการมรดกโลกจะยอมให้เขมรขึ้น มันก็ต้องอยู่บนหลักการนี้ ถ้าอย่างนั้นเขมรทำไมไม่ยื่นขอขึ้นมรดกโลกฝ่ายเดียวโดยรวมพื้นที่ทับซ้อนเข้าไปด้วยละครับ อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆครับ ๒. ถ้าไทยไม่ยินยอม ผมยืนยันว่าเขมรไม่มีทางขึ้นทะเบียนมรดกโลกพร้อมพื้นที่ทับซ้อนได้ คุณไม่เข้าใจจริงๆหรือครับ ว่ากรรมการเขาขึ้นแต่ตัวพระวิหาร ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งตรงนั้นเป็นสิทธิของยูเนสโก้ แต่ถามว่าถ้าเรายืนกรานไม่เซ็นร่วมตั้งแต่แรก เขมรจะขึ้นมรดกโลกได้แต่ตัวพระวิหารแบบทุกวันนี้ไหม มันก็ไม่แน่หรอกครับ เพราะขึ้นไปก็จะมีปัญหาแบบทุกวันนี้ เข้าพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนไม่ได้ แต่สมมุติผมเป็นกรรมการก็อาจตัดสินแบบนี้ เพราะส่วนหนึ่งคือลงโทษไทยที่โลเลในวินาทีสุดท้าย ทั้งที่ปล่อยให้กรรมการทำงานไปมากแล้วร่วมปี แต่ข้อนี้คุณหรือผมก็ไม่มีทางเถียงจบ เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว จะย้อนไม่เซ็นแต่แรกมันเป็น Past Perfect สมมุติไปก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรจริงๆ ๓. ข้าราชการไทยบางทีวิสัยทัศน์ก็ใช่ว่าจะทะลุปรุโปร่งเสมอไป เอากันง่ายๆ ถ้าวันนั้นเซ็นไป วันนี้เขาขอตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรขึ้นตรงพระวิหาร คุณจะตอบเขมร ตอบฝรั่ง ยังไง ไม่ใบ้กินไปทั้งประเทศหรือครับ ให้ก็เหมือนเสียพื้นที่โดยพฤตินัย ไม่ให้ก็เหมือนชาติที่โลเล ตกลงแล้วเบี้ยว ไหนว่าจะยินดีพัฒนาร่วมกัน (ทำสัญญาแล้วเบี้ยว ผมว่าหนักกว่าการยกเลิกสัญญาก่อนเข้าประชุมกรรมการอีกนะครับ) ไม่นับเรื่องข้อมูลพื้นฐาน หลายคนยังเข้าใจอยู่แต่ว่าทางขึ้นพระวิหารให้สะดวกทำได้แต่ทางฝั่งไทย ทั้งที่ความจริงสามารถตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรได้ ถ้าไทยยินยอม เรื่องแบบนี้ข้าราชการรู้ไหมครับ แต่อย่าตอบนะครับ ว่ารู้อยู่แล้ว แล้วก็ตั้งใจ ให้เขมรตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนตรงสู่พระวิหาร ใครตอบอย่างนั้น นั่นละครับ คนขายชาติ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:51:29 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:45:03 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:40:28 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:27:30 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:23:40 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 16:20:30 จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 16:19:30 A:124.120.222.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนนี้ ไม่ขายชาติ แต่เอาชาติเข้าสงครามกับเพื่อนบ้านเลย เป็นไง แน่ไหม ประชาธิปัตย์ จากคุณ : แสนเบื่อ - [ 6 ก.ค. 52 18:18:45 A:220.245.97.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 pom.com 1. ปี 2549 เขมรยื่นขอขึ้นทะเบียน 1) ตัวปราสาท และ 2) พื้นที่ทับซ้อน 2. กระทรวงการต่างประเทศบอก เฮ้ย คุณเอาพื่นที่ทับซ้อนไปขึ้นไม่ได้นะ และผมจะไม่ยอมให้คุณได้ขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนด้วย 3. ใครมาเป็น รมต ต่างประเทศ เหมือนนายนพดล คง มีสองทางเลือก คือ  ทางเลือกที่ 1) ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ปล่อยให้เขมรขึ้นทะเบียนทั้ง 1) ตัวปราสาท และ 2) พื้นที่ทับซ้อน ซึ่งก็คงถูกด่าอีกว่า ทำงานห่วย ปล่อยให้ประเทศสุ่มเสี่ยงในการเสียสิทธิด้านเขตแดนในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร กม มากขึ้น   หรือทางเลือกที่ 2) พยายามเจรจาให้ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไป ห้ามไม่ให้ขึ้นทะเบียน  ส่วนปราสาทที่เป็นของเขมรตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 47  ปีที่แล้วก็เป็นเรื่องของเขาที่จะขึ้นทะเบียน   การเจรจามันคงไม่ง่ายอย่างที่เราเข้าใจหรอกครับ  จะไปบังคับให้เขมรตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ทั้งๆที่เขาถือเป็นของเขามาตลอด 47 ปี คุณคิดว่าง่ายไหม   ลองเทียบกับกรณีการเจรจาปรับลดกำลังทหารของไทย และเขมร ในพื้นที่ทับซ้อนซิครับ เห็นเจรจากันมาร่วมปีแล้วไม่ไปถึงไหน ทั้งๆที่การปรับลดกำลังไม่ทำให้ไทย หรือ เขมรสุ่มเสี่ยงในการเสียสิทธิทางเขตแดนเลย เพราะยังเหลือทหารของแต่ละฝ่ายอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนอยู่  แต่ละฝ่ายจึงอ้างสิทธิได้ แม้มีทหารฝ่ายละ 10 คนอยู่ในพื้นที่  ขนาดเรื่องนี้ง่ายกว่ายังเจรจาไม่สำเร็จเลยครับ 4. คุณตั้งข้อสมมติฐานว่าถ้าเขมรยังเดินหน้าแบบเดิมคือพ่วงเอาพื้นที่ทับซ้อนขึ้นทะเบียนด้วย ไม่มีทางที่คณะกรรมการมรดกโลกจะขึ้นทะเบียน ปราสาท บวกพื้นที่ทับซ้อน  นั่นเป็นข้อสมมติฐานของคุณครับ  แต่ถ้ามันไม่เป็นไปตามข้อสมมติฐานของคุณ แล้วเขมรดันขึ้นทะเบียน แบบ ปราสาท บวก พื้นที่ทับซ้อนได้  ใครจะรับผิดชอบครับ คนที่นั่งเป็นรัฐบาล และ ข้าราชการต้องรับผิดชอบ จริงไหมครับ  เขาจึงไม่เสี่ยงเดินตามแนวทางนี้ไงครับ  เรื่องเขตแดนข้าราชการเขาไม่เสี่ยงครับ  เพราะเขามีข้อมูลการลอบบี้กรรมการมรดกโลก 21 ประเทศว่า แต่ละประเทศคิดอย่างไร  เขาจึงไม่ยอมเสี่ยง  ดังนั้นผมเห็นว่าการตัดสินใจดำเนินการใดบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และการประเมินความเสี่ยงจริง น่าจะดีกว่าการคิดจากข้อสมมติฐานที่ตนเองตั้งขึ้นมานะครับ  ข้าราชการเขาคงไม่ทำเช่่นนั้นแน่ 5. จากการที่เขมรไม่เคยยอมรับว่า 4.6 ตาราง กม เป็นพื้นที่ทับซ้อน และจากการที่เขายอมคายพื้นที่ทับซ้อนออกมา  เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่แสดงไมตรีทางการทูต สนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา ตามคำตัดสินของศาลโลกไปแล้ว  ผมว่าประเทศไทย ได้ประโยชน์นะ  กองทัพไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ แม่ทัพนายกอง ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ เห็นด้วย และเดินหน้าแนวนี้  คุณมีสิทธิไม่เห็นด้วย แต่ผมคิดว่าข้าราชการเหล่านี้มีความรู้ รักแผ่นดิน ไม่โง่ และ ไม่ยอมให้ฝ่ายการเมืองจูงจมูกเขาแน่ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย 6  การทะเลาะกันเรื่องเขตแดนเกิดขึ้นทุกที่ครับ  ทางการทูตต้องใช้การเจรจาเพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายเป็นความขัดแย้งทางทหาร อย่างเช่นที่กำลังครุกรุ่นที่ชายแดนในขณะนี้  ดังนั้นแนวคิดในแถลงการณ์ร่วมคือ อย่าทะเลาะกัน ร่วมกันพัฒนาดีกว่า ในระหว่างที่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็ บริหารจัดการร่วมกัน ในพื้นที่ทับซ้อนไปก่อน joint management ถ้าทำเช่นนี้ ต่างฝ่ายต่างไม่เสียสิทธิครับ เพราะมี physical presence บนพื้นที่ทับซ้อน ไม่มีความตรึงเครียดตามแนวชายแดน การค้าขายตามชายแดนเดินหน้าต่อ ความร่วมมือด้านเครือข่ายถนน ท่องเที่ยว ลงทุน เดินหน้าเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวไทยและเขมร แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 19:05:49 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 18:52:09 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 18:48:27 จากคุณ : dmng (dmng) - [ 6 ก.ค. 52 18:47:42 A:125.27.55.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณมัสแตง " ถูกเขมรหลอก ให้ลงนามยินยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารโดยไม่พูดถึง 4.6 กม. " - แล้วนี่อะไร ? จากแถลงการณ์ร่วม...     4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010 จากคุณ : TSC - [ 6 ก.ค. 52 18:57:39 A:124.122.234.209 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ Pom.com " เขมรเดิมในแผนที่แรก รวมพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย ว่าไปแล้วก็เหมือนเทคนิคทางการต่อรอง ลักไก่ซึ่งก็ได้ผล ไทยหลงกลไปเซ็นร่วม นึกว่าต่อรองดีแล้ว " - มั่วแล้วคุณ ตอนที่เขมรจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นด้วยนั้น ไทย(เกือบ)ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ เพราะเขมรทำข้อมูลเสร็จแล้วและนำไปยื่นให้ UNESCO แล้วด้วย แต่ก็มารู้ตอนกลางๆ รัฐบาลสุรยุทธ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีการเซ็นอะไรทั้งสิ้น นอกจากคัดค้านและเจรจาไม่ให้เขมรเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้น " เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้ " - เขาเขียนแบบนี้ไว้ที่ไหน ช่วยเอามาลงให้ดูที " สนับสนุนเขมรได้มรดกโลกฝ่ายเดียว วันดีคืนดีเขมรที่มีฝรั่งถือหางบอกให้ไทยยอมให้เขมรตัดทางสร้างถนนอย่างดีผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรเข้าพระวิหารโดยตรง เราจะทำยังไง " - นี่มันเป็นจินตนาการของคุณเอง เอาข้อเท็จจริงที่เป็นเอกสารมาพูดดีกว่ามั้ง " ทำให้เราต้องไปยื้อเรื่องมรดกโลก จนเรื่องนี้ต้องเลื่อนการพิจารณา(มันมีขั้นต่อจากรอบที่แล้ว) " - ข่าวล่าสุดบอกว่าสุวิทย์และรัฐบวมให้ข่าวบิดเบือน เพราะจริงๆ แล้วในที่ประชุมไม่ได้มีวาระการประชุมเรื่องปราสาทพระวิหารใดๆ ทั้งสิ้น และแผนพัฒนาของเขมรก็ถูกส่งให้ UNESCO ไปแล้วตั้งแต่เมษาที่ผ่านมา แต่มีข่าวอีกทางว่าไอ้ที่ยังไม่พิจารณาคือเรื่องแผนที่ที่เขมรต้องส่งแต่ยังไม่เรียบร้อย เรียกว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่ไทยยื่นคัดค้านเลย " ส่วนใครที่คิดว่าถ้านายนพดลไม่ทำอะไร เขมรก็จะเอาพื้นที่ทับซ้อนใส่ไปด้วย แม้ไม่มีไทยเซ็นร่วม ผมว่าเขมรคงไม่ทะเล่อทะล่ายังงั้นหรอกครับ ที่ทำตอนแรกนะลักไก่ แล้วเราก็ตกหลุมเขา " - ถ้าเช่นนั้นแสดงว่ารัฐบาลสุรยุทธตกหลุมเขมรน่ะซิ เพราะก.ต่างประเทสมัยนั้นเป็นผู้ทราบว่าเขมรจะนำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วย รมต.กต.ยุคสุรยุทธเลยคัดค้านไปที่ UNESCO และ UNESCO โดยคณะกรรมการมรดกโลกก็ไให้ไทย-เขมรเจรจากันเอง ซึ่งไทยได้ยื่นเงื่อนไขไว้คือ ขอให้เขมรตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท แล้วไทยจะสนับสนุนเขมรในการขึ้นทะเบียน " ลองเอาพื้นที่ทับซ้อนใส่เข้าไป ขอเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ทำแบบนั้นยังไงไทยก็คัดค้าน และมีน้ำหนักสูงมหาศาล ซึ่งยูเนสโกไม่มีทางขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแน่นอน เพราะรวมพื้นที่พิพาทเข้าไปในมรดกโลก " - เขมรน่ะใส่พื้นที่ทับซ้อนไปแล้ว แต่ก.ต่างประเทศยุคสุรยุทธไปพบก่อนอย่างที่บอก และสมัยนพดลก็ได้สานต่อการเจรจาจากสมัยสุรยุทธสำเร็จ เขมรยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท และคณะกรรมการมรดกโลกก็ยอมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้ถึงแม้จะไม่มีอาณาบริเวณอื่นๆ ก็ตาม เรียกว่ายอมขึ้นทะเบียนให้แม้จะไม่ครบเกณฑ์คือเข้าเกณฑ์เพียงข้อเดียว ตามมติที่ประชุม ดังนี้ ข้อมติที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ นครควิเบก แคนาดา รับรองเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551 เรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 13 กรกฎาคม 2551 11:43:01 (คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ) ข้อมติ:    32 COM 8 B. 102 12.  ขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหาร กัมพูชา ในบัญชีมรดกโลกในเกณฑ์ 1 13.  ออก คำแถลงของเกี่ยวกับคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ดังต่อไปนี้       ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นกลุ่มสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะเฉพาะของชุดอาคารที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบทางเดินและบันไดเป็นแนวแกนยาว 800 เมตร เป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของสถาปัตยกรรมเขมร ในเรื่องของผัง การตกแต่ง และความสัมพันธ์กับภูมิทัศน์แวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ       เกณฑ์ 1: พระวิหารเป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของสถาปัตยกรรมเขมร ซึ่งมีความบริสุทธิ์อย่างยิ่งทั้งในเรื่องผังและในรายละเอียดของการตกแต่ง       ความถูกต้องแท้จริงได้รับการยอมรับ ในลักษณะที่อาคารและวัสดุได้แสดงคุณค่าของทรัพย์สินเป็นอย่างดี ข้อเด่นของทรัพย์สิน ประกอบด้วยกลุ่มปราสาท บูรณภาพของทรัพย์สินถูกทำให้เสียไปส่วนหนึ่งเพราะส่วนของชะง่อนเขาไม่ได้รวมไว้ในขอบเขตของทรัพย์สิน  มาตรการป้องกันปราสาทในทางกฎหมายถือว่าเพียงพอ และความคืบหน้าในกำหนดแนวทางของแผนบริหารจัดการ ต้องได้รับการพัฒนาเป็นแผนบริหารจัดการเต็มรูปแบบที่ได้รับการรับรอง http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=20276 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 19:08:47 จากคุณ : TSC - [ 6 ก.ค. 52 19:07:36 A:124.122.234.209 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 เขมรเก่งจัง สามารถปั่นหัวคนไทยใน รดน.บางคนเชื่อตามแล้วด่ารัฐบาลของตนเอง  ไปกันใหญ่แล้วลูกพี่ จากคุณ : มัสแตง - [ 6 ก.ค. 52 13:35:14 A:222.123.43.54 X: ] ---------------------------------------------- ไม่ใช่รัฐบาลของผมครับ ผมไม่ได้เลือกรัฐบาลนี้ จากคุณ : dada23 - [ 6 ก.ค. 52 20:03:34 A:192.168.1.175 X:114.128.182.246 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ู^ ^ ถูกกกกก!!!!!!!! จากคุณ : Cry (goffy-bz) - [ 6 ก.ค. 52 20:08:01 A:125.26.125.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ Pom. .... " มาสไตล์เดิมละครับ เรื่องเขาพระวิหารพอผมมาชี้แจงในกระทู้ที่มีคนมีความเห็นถามว่าผมหายไปไหน เมื่อวานนี้ ก็เถียงไม่ออก แล้วก็มีพวกเดียวกันมาตั้งกระทู้ใหม่ซ้ำซาก " ************************************************************** ทั้งทหาร  ทั้งกระทรวงต่างประเทศ  ในรัฐบาลก่อน ๆ ล้วนฉลาดน้อยทั้งนั้น  แหม  น่าจะตั้งให้คุณ Pom. เป็นที่ปรึุกษา รมต.นะ...หรือจะเป็นอยู่แล้วตอนนี้ ? ที่ว่ามาทั้งหมดน่ะ  คคห.ของคุณคนเดียวนะคะ  แล้วที่เงียบกันไปหมดน่ะ  เขาระอาค่ะ สำหรับความคิดเห็นที่ 29 และ 30 ของคุณ  dmng (dmng)  ทั้งคุณ Pom. และคุณ มัสแตง ช่วยวิจารณหน่อย์  จะบอกด้วยไหมว่า  พลเอกอนุพงศ์เอง  ก็ฉลาดน้อยเช่นกัน เพราะท่านก็เห็นด้วย ตอนกระทรวงต่างประเทศดำเนินการ  คุณมัสแตง confirm หน่อย  ว่าทหารทั้งหมดที่เห็นด้วยกับ คุณนพดลเมื่อวันวาน  ฉลาดน้อยกว่าคุณ Pom. อย่าหายเงียบไป จากคุณ : sao..เหลือ..noi - [ 6 ก.ค. 52 20:49:12 A:58.8.177.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ยังมีพธม.โง่ๆ มั่วๆ หน้าด้านๆ เหลืออยู่อีกแฮะ จากคุณ : ไร้ซึ่งเมตตาธรรม - [ 6 ก.ค. 52 20:53:49 A:124.121.177.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 รอคุณปอมตอบความเห็น37ค่ะ เอาข้อมูลหลักฐานที่แท้จริงมาสู้กัน น่าติดตามค่ะ จากคุณ : Clock out - [ 6 ก.ค. 52 21:03:54 A:158.108.211.127 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ : dmng (dmng) คุณต้องดูหลักเหตุผล อย่าคิดเองครับ เรื่องข่าววงในมีหลักฐานไหมครับ อย่ามั่ว ถ้ามันจริงเขมรทำไมพอเราเบี้ยวไม่ยื่นพื้นที่ทับซ้อนไปด้วยเลย ยูเนสโกปกตินนโยบายเขาไม่ต้องการให้มรดกโลกสร้างปัญหา ผมถึงบอกให้คุณไปหามาว่ามีมรดกโลกชิ้นไหนที่ขึ้นทะเบียนบนพื้นที่มีปัญหาทางเขตแดน เช่น พื้นที่ทับซ้อน การอ้างว่าไม่มีทางเลือก ไม่กล้าเสี่ยง ผมไม่เคยได้ยินจากปากนายนพดลเสียด้วยซ้ำ มีแต่คุณมาแก้ตัวแทนข้างๆคูๆ ผมไม่คิดว่านายนพดลคิดอย่างนั้นหรอก ไม่เคยเห็นข้อมูลที่คุณว่าไม่กล้าเสี่ยง เลยต้องจำยอมเซ็นสัญญา แต่คิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่า จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 23:40:07 A:124.120.227.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ : TSC พยายามไปหาสัญญามาอ่าน ไม่ได้ยากเกินไปที่จะหามาอ่าน แล้วค่อยมาเถียงครับ จะได้ไม่ปล่อยไก่ แต่ผมคงไม่เสียเวลาไปหามาให้ ผมนะจำได้ว่าเขากล่าวทำนองที่ผมว่า  ความจำผมดี และที่เขียนมายืดยาว มีตรงไหนที่บอกว่ากรรมการมรดกโลกจะปล่อยให้เขมรขึ้นพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยเอาพื้นที่ทับซ้อนรวมไปด้วย นี่เป็นข้ออ้างข้างๆคูๆของคนที่พยายามปกป้องนายนพดลว่าจำเป็นต้องไปเซ็น ซึ่งเป็นข้ออ้างที่เป็นเท็จ ส่วนจินตนาการของผม มันไม่ได้เกินความเป็นจริงเลย ส่วนนายนพดลหรือข้าราชการที่ยินยอมไป หรือตัวคุณเองจะคิดไม่ถึงก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เรื่องการตัดถนนจากเขมรขึ้นพระวิหารคนที่มีข้อมูลเขารู้ว่าเป็นไปได้อยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 52 23:59:27 จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 23:44:45 A:124.120.227.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ : sao..เหลือ..noi ทหารแบบ ผบ.ทบ. ตรงเป็นไม้บรรทัด เขาให้ตรวจว่าพื้นที่มีตรงไหนเป็นพื้นที่ไทยไหม ไม่มีก็บอกว่าไม่มี ส่วนจะถามคำถามอื่น เช่นเห็นด้วยในการให้เขมรขึ้นมรดกโลกฝ่ายเดียวหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ แต่ผมไม่คิดว่าถูกถาม จากคุณ : Pom.com - [ 6 ก.ค. 52 23:52:00 A:124.120.227.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ POM COM ไม่ไปช่วย เทือก เจรจา หรือ เห็นชัดเจนในหลักการดี.... ตอนนี้ เขมร ยื่น ขอ สิทธิ ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม แล้ว.... ยังงัย รีบๆไปช่วยเทือก ทวงพื้นที่คืนด้วยครับ...... ยังงัย อย่าให้เสียไป....ถึงไม่ได้คืน ก็ขอ ให้ไทยได้ประโยชน์ จากพื้นที่ดังกล่าว ก็ยังดี... .............................................................................. ร่างที่ท่าน นพดล ทำไว้ ถึงแม้ยังไม่มีข้อยุติ แต่เขมร ก็ไม่กล้าฮุบ... เพราะมีสัญญา เพราะมีการลงนามในสัญญา ชัดเจน... เมื่อมีการพัฒนา ไทยก็ได้ประโยชน์ มีรายได้จากพื้นที่ส่วนนั้น... ..WIN  WIN................ ..แต่เมื่อ สัญญา เป็นโมฆะ..ตอนนี้ เขมร ยื่นขอสิทธิ ในพื้นที่ 4.6 คร.กม. ..คุณรีบๆ ไปช่วยเทือก แก้ปัญหาดีกว่า ครับ... จากคุณ : Stalwart - [ 6 ก.ค. 52 23:59:02 A:61.19.66.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ : Stalwart ผมเป็นเขมร หลอกไทยให้หลงกลไม่สำเร็จ ก็ต้องตีรวนแบบนี้ ชายแดนสมัยนี้จะฮุบกันได้ง่ายๆได้ยังไงครับ ศาลโลก ใครก็ไม่มีสิทธิบังคับให้ไปขึ้น ตกลงกันไม่ได้ก็คาราคาซังไปแบบนี้ ถ้าขนคนขนทหารเข้ามาเกินสมควรในพื้นที่ทับซ้อน ก็รบกัน ส่วนคำว่าวิน วิน ของคุณ ถ้าหมายถึงให้เขมรได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของมรดกโลกแต่ผู้เดียว แล้วไทยต้องยอมให้เขมรตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรสู่พระวิหาร อย่างนั้นสำหรับผมไม่เรียกว่า วิน วิน แล้ว ผมเรียกว่า ขายชาติ จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 00:04:36 A:124.120.227.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนคำว่าวิน วิน ของคุณ ถ้าหมายถึงให้เขมรได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของมรดกโลกแต่ผู้เดียว แล้วไทยต้องยอมให้เขมรตัดถนนผ่านพื้นที่ทับซ้อนจากเขมรสู่พระวิหาร --------------------------------------------------------- มันตัดมาตั้งนานนนนนนนน... แล้วคู๊ณณณณณณณณณณณ... อ่านการ assume เองเออเองของคุณแล้วตลกจริงๆ จากคุณ : SaVor - [ วันอาสาฬหบูชา 00:38:25 A:124.121.246.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ : SaVor พอเขมรสร้างถนนที่เป็นทางการสำหรับนักท่องเที่ยว ไทยก็ประท้วง และไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวใช้ จนคณะกรรมการมรดกโลกยังต้องปีนช่องบันไดหักขึ้นพระวิหาร เพราะต้องเคารพอธิปไตยของไทย ไม่รวมถึงการยิงถล่มชุมชนเขมรในพื้นที่ทับซ้อน ต้นเดือนเมษายน ซึ่งแน่นอนว่าเชื่อมโยงมาจากการสร้างถนนเช่นกัน ส่วนจะตลกเพราะช่วยนายนพดลเถียงไม่ออกก็เรื่องของคุณ เดี๋ยวก็ว่าเซ็นไปเพราะจะได้เปรียบคดีความในอนาคต เดี๋ยวก็ว่าเซ็นไปเพราะมีความเสี่ยงจะถูกขึ้นมรดกโลกพร้อมพื้นที่ทับซ้อน ไม่รู้จะอ้างข้างๆคูๆอะไรแน่ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:29:31 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:17:27 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:16:42 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:08:50 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:07:39 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:05:44 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 01:03:00 A:124.120.221.122 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ Pom.com " พยายามไปหาสัญญามาอ่าน ไม่ได้ยากเกินไปที่จะหามาอ่าน แล้วค่อยมาเถียงครับ " - คุณนั่นแหละต้องไปหามา เพราะทั้งแถลงการณ์ร่วมและมติที่ประชุมเรามีอยู่ครบ มีแต่คุณที่พูดลอยๆ โดยเฉพาะประโยคนี้ ...เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้.. ประโยคข้างบนนี้คุณเอามาจากสัญญา แถลงการณ์ หรือมติที่ประชุมฉบับไหน ช่วยเอาหลักฐานมาลงให้ดูประกอบด้วย " จะได้ไม่ปล่อยไก่ แต่ผมคงไม่เสียเวลาไปหามาให้ ผมนะจำได้ว่าเขากล่าวทำนองที่ผมว่า  ความจำผมดี " - กำ...ใช้ความจำ ไม่มีหลักฐาน แล้วก็จำผิดๆ อีกต่างหาก ตกลงใครกันแน่ที่ปล่อยไก่ " และที่เขียนมายืดยาว มีตรงไหนที่บอกว่ากรรมการมรดกโลกจะปล่อยให้เขมรขึ้นพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยเอาพื้นที่ทับซ้อนรวมไปด้วย " - อ่านไม่เข้าใจซะงั้น เราอธิบายในสิ่งที่คุณอ้างว่ามรดกโลกจะไม่ขึ้นทะเบียนให้เขมร เพราะองค์ประกอบไม่ครบ คือถ้าไม่ขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนด้วย มรดกโลกก็จะไม่ขึ้นทะเบียนให้ ตามที่คุณมั่ว เราเลยนำหลักฐานมาให้ดูว่า มติที่ประชุมมรดกโลกเขายอมขึ้นทะเบียนให้ถึงแม้เขมรจะขอขึ้นเฉพาะตัวปราสาทอย่างเดียว ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อนหรือส่วนอื่นๆ โดยมรดกโลกยอมลดกฎเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนให้เหลือเพียงข้อเดียวคือข้อ 1 ตามมติที่ประชุมที่เรานำมาลงให้ดู " นี่เป็นข้ออ้างข้างๆคูๆของคนที่พยายามปกป้องนายนพดลว่าจำเป็นต้องไปเซ็น ซึ่งเป็นข้ออ้างที่เป็นเท็จ " - อ้างบ้าอ้างบอปกป้องใคร ก็มติที่ประชุมมรดกโลกเขียนมาอย่างนั้น เราไม่ได้เขียนจากจินตนาการแบบคุณหรอกไม่ต้องห่วง ถ้าอยากอ่านเต็มๆ ก็เข้าไปตาม link ที่เราให้ไว้แล้วนั่นแหละ " ส่วนจินตนาการของผม มันไม่ได้เกินความเป็นจริงเลย " - ยังไปได้น้ำขุ่นๆ มีแต่จินตนาการ ไม่มีหลักฐานอ้างอิงสักอย่าง แต่กลับมาหาว่าคนที่เอาหลักฐานมาให้ดู...ไม่รู้เรื่องแล้วมาเถียงคุณซะงั้น " เรื่องการตัดถนนจากเขมรขึ้นพระวิหารคนที่มีข้อมูลเขารู้ว่าเป็นไปได้อยู่แล้ว " - ถ้าคิดว่ารู้จริงก็อธิบายมาซิ รู้อะไรก็ post มาอย่าเอาแต่บอกว่ารู้ๆๆ แต่กลับไม่ให้ข้อมูลอะไรสักอย่างแบบนี้ อ้อ! คุณยังไม่บอกเลย ตกลงรัฐบาลสุรยุทธทะเล่อทะล่าตกหลุมเขมรหรือเปล่า ที่ไปเจรจายื่นเงื่อนไขให้เขมรไว้ว่าจะสนับสนุนเขมรขึ้นทะเบียน จนนพดลต้องมาสานต่ออ่ะ เราว่านะ เรื่องนี้คุณเอาข้อเท็จจริงที่เป็นเอกสารมาเถียงดีกว่า อย่าใช้ความจำอย่างเดียว เพราะที่คุณอ้างว่าความจำดีน่ะ มันเป็นความจำที่ผิดๆ ^_^ จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 01:24:33 A:124.121.33.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 rep 49 ทำไมถึงต่างกันละครับ ? ก็คุณบอกว่า " ยอมให้ตัดถนนก็เหมือนเสียพื้นที่ทับซ้อนให้เขมรโดยพฤตินัย " ทุกวันนี้มันมีมากกว่าถนนอีกครับคุณ มีทั้งชุมชน หมู่บ้าน ฯลฯ อีกมากมาย โธ่... ถัง แล้วถ้าสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ทำไมไทยจะเสียดินแดนล่ะ ??? ในเมื่อพื้นที่ทับซ้อนมันจะกลายเป็นพื้นที่จัดการร่วมกันของ ไทย - เขมร รวมทั้งอีก 7 ชาติสมาชิก ซึ่งตรงนี้มันก็บอกไว้แต่แรกแล้วว่า " พื้นที่ทับซ้อน " เขมรจะมาอ้างว่าสร้างถนนมาดังนั้นตรงนี้เป็นของผม ฟังไม่ขึ้นครับ... เพราะตอนแรกที่ตกลงกันไว้ว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน มันลบล้างไปไม่ได้ แล้วมาอ่านประโยคนี้ของคุณ " ซึ่งยูเนสโกไม่มีทางขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแน่นอน เพราะรวมพื้นที่พิพาทเข้าไปในมรดกโลก " คุณไปเชื่อถืออะไร UNESCO ครับ UNESCO ไม่ใช่องค์กรประสานประโยชน์ระหว่างประเทศนะครับ ถ้าโบราณสถานแห่งนั้นมีครบตามองค์ประกอบเขาก็ขึ้นให้ แล้วยิ่งเขมรถือแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสากลมากกว่า L7017 ของเรา ผมบอกได้เลยว่า " จบข่าว... " แล้วตอนท้ายดันมาบอก " ถ้าจะมีใครขายชาติ ก็คือคนที่จะนำคดีนี้ขึ้นศาลโลกละครับ " คุณให้ความเชื่อถือ UNESCO จะเป็นจะตาย แล้วทีศาลโลกดันไม่ให้ความเชื่อถือ บอกว่ามีอำนาจตะวันตกแทรกแซงซะงั้น ตกลงเอาไงครับเนี่ยมันก็องค์กรระหว่างประเทศ ( มีอำนาจแทรกแซงได้บ้าง ) เหมือนกันนั้นแหละ ทำไมความเชื่อถือมันต่างกันขนาดนั้นล่ะ แล้วผมจะบอกให้นะว่า " ทำไมตอนหลังเขมรเขาลงทะเบียนไปเฉพาะตัวปราสาทอย่างเดียว ไม่ลงพื้นที่ทับซ้อนด้วย ทั้งๆที่แถลงการณ์ยกเลิกไปแล้ว ? " เพราะในการทูตระหว่างประเทศ ไม่มีใครเขาทำตัวกลับกลอกแบบ อภิสิทธิ์ ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง ครับ ในเมื่อเขาเคยตกลงกับรัฐบาลก่อนแล้วว่าจะไม่ขึ้น เขาก็ไม่ขึ้น แต่... ตอนนี้เขากำลังหาแผนใหม่มาฮุบพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. แล้วครับ ผมว่า โอกาสที่เราจะเสียพื้นที่ทับซ้อนมีมากเกิน 90% ซึ่งก็ต้องโทษ " ไอ้พวกที่ทำให้แถลงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนเป็นโมฆะนั่นแหละ... " แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 01:40:49 จากคุณ : SaVor - [ วันอาสาฬหบูชา 01:38:48 A:124.121.246.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : TSC ถ้าคุณมีแถลงการณ์อยู่ในมือ ก็อ่านตรงที่เขาพูดถึงบริเวณในแผนที่ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนซิครับ ว่ายังไง ก็อปมาก็ได้ ส่วนที่พูดมา ยิ่งมั่วหนัก อ่านที่ผมเขียนยังไง ผมไม่เคยบอกว่ากรรมการจะไม่ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารถ้าไม่มีพื้นที่ทับซ้อน ผมบอกว่า ๑. ไม่มีทางที่ยูเนสโก้จะเอาพื้นที่ทับซ้อนรวมเป็นมรดกโลก ถ้าไทยไม่ยินยอม แบบที่คุณ : dmng (dmng)  ว่าไว้ ว่ามีความเสี่ยง นายนพดลจึงต้องไปยอมเซ็นโดยต่อรองให้ถอนพื้นทับซ้อนออก ๒. ที่คุณยกมติมา นั่นมันหลังจากที่ตอนแรกเราไปยอมเซ็น แล้วมาเบี้ยวเขาวินาทีสุดท้าย ฝรั่งมันจะเลือกทางไหนมันก็ต้องหาเหตุผลมาใส่จนได้ คุณไม่คิดหรือว่าถ้าเรายืนกรานไม่ยอมเซ็นแต่แรก แล้วยืนยันว่าจะไม่ให้ใช้พื้นที่ทับซ้อนพัฒนาร่วมกัน ถ้าเขมรเป็นเจ้าของมรดกโลกรายเดียว กรรมการจะไปตรวจก็ไม่ให้เอาฮอบินลงจอดบนพื้นที่ทับซ้อน ปล่อยให้ปีนช่องบันไดหักขึ้นไปพระวิหาร ผลมันจะออกมาแบบนี้เสมอไป ส่วนกรณีนายกสุรยุทธ ผมก็เห็นท่านยืนยันว่ามีนโยบายให้ขึ้นทะเบียนร่วมกัน ส่วนจะจริงเท็จอย่างไรผมไม่มีหลักฐาน ส่วนเรื่องตัดถนน ก็ต้นปีเขมรให้จีนมาสร้างถนนคอนกรีต จนไทยประท้วงอยู่ทุกวันนี้ไงครับ หลักฐานเห็นอยู่ตำตา แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 02:00:07 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 01:43:15 A:124.120.220.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ : SaVor เรื่องไทยกับเขมรอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน มันก็ตลอดชายแดนละครับ หน่วยราชการไทยก็ยังมี แต่มันคนละเรื่องกับกรณีเขาพระวิหาร ถนนเส้นนั้นเดิมสร้างมาตั้งแต่ปี ๓๖ ใช้ปราบเขมรแดง ไทยเองก็ยินยอม แต่ถ้าจะมาพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยว ขณะที่เขมรขอขึ้นพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว มันคนละเรื่องครับ ถ้าคุณแยกไม่ออกว่ามันต่างกันยังไง ก็ไม่รู้จะว่ายังไง ยูเนสโกเป็นองค์กรภายใต้สหประชาชาตินะครับ ไม่ใช่องค์กรอิสระจะได้ทำอะไรบุ่มบ่ามได้ ไม่มีหรอกครับที่เขาจะเอาพื้นที่พิพาทไปเป็นมรดกโลก ถ้าคู่กรณีไม่ยินยอม ส่วนศาลโลก คดีขึ้นศาลเขาก็ต้องตัดสิน ไม่มีทางเลือกเหมือนยูเนสโกนี่ครับ ส่วนที่ผมไม่เชื่อถือ ก็เพราะตุลาการส่วนหนึ่งเป็นชาติมหาอำนาจ ยังไงก็ต้องว่าสิ่งที่ตัวเองทำในอดีตถูก ส่วนพื้นที่ทับซ้อนจะเสียหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นกับศักยภาพทางทหาร ไม่ใช่เสียเพราะแพ้คดีในศาลแน่ เพราะคงไม่มีใครยอมเอาเรื่องนี้ขึ้นศาล แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 02:07:01 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 01:57:19 A:124.120.220.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 แต่มันคนละเรื่องกับกรณีเขาพระวิหาร ถนนเส้นนั้นเดิมสร้างมาตั้งแต่ปี ๓๖ ใช้ปราบเขมรแดง ไทยเองก็ยินยอม แต่ถ้าจะมาพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยว ขณะที่เขมรขอขึ้นพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว มันคนละเรื่องครับ ถ้าคุณแยกไม่ออกว่ามันต่างกันยังไง ก็ไม่รู้จะว่ายังไง >>> เส้นไหนปราบเขมรแดงครับ ??? มั่วนะครับ... ผมหมายถึงถนนที่ใช้เป็นทางเข้าชุมชนชาวกัมพูชานะครับ ซึ่งไทยไม่เคยยินยอมหรือแสดงความรับรู้อะไรเรื่องนี้เลย ( ก็คือเหมือนกับเป็นพื้นที่ของกัมพูชานั่นแหละ ) แล้วมาต่อที่เส้นใหม่ที่พึ่งตัดเข้ามาเมื่อปี 46 อีก เราไปท้วงเขาแล้วไงครับ เขาก็ยังตัดเข้ามาต่อได้ มีประโยชน์อะไรครับ... ยูเนสโกเป็นองค์กรภายใต้สหประชาชาตินะครับ ไม่ใช่องค์กรอิสระจะได้ทำอะไรบุ่มบ่ามได้ ไม่มีหรอกครับที่เขาจะเอาพื้นที่พิพาทไปเป็นมรดกโลก ถ้าคู่กรณีไม่ยินยอม ส่วนศาลโลก คดีขึ้นศาลเขาก็ต้องตัดสิน ไม่มีทางเลือกเหมือนยูเนสโกนี่ครับ ส่วนที่ผมไม่เชื่อถือ ก็เพราะตุลาการส่วนหนึ่งเป็นชาติมหาอำนาจ ยังไงก็ต้องว่าสิ่งที่ตัวเองทำในอดีตถูก >>> เราพิพาทอยู่คนเดียวนะครับ เหมือนกับที่บอกสงวนสิทธิ์เพ้อเจ้อๆของ หม่อมเสนีย์ กับ สฤษฎิ์ นั่นแหละ มันก็เพ้อเจ้อสงวนอยู่คนเดียว ทั่วโลกมีใครเขารู้เขายอมรับ แผนที่ L7017 ของเรามั่งครับ... ผมถึงบอกไงว่า " ทำไมไปเชื่อถือ UNESCO ขนาดนั้น ??? " ไม่คิดเหรอว่า หลักฐานของกัมพูชา เขาแน่นกว่าเราเยอะ ถ้าขึ้นปุ๊ป อนุมัติก็จบเห่เลยทีนี้ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนจะเสียหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นกับศักยภาพทางทหาร ไม่ใช่เสียเพราะแพ้คดีในศาลแน่ เพราะคงไม่มีใครยอมเอาเรื่องนี้ขึ้นศาล >>> อ้าว... มาท้าให้รบอีก จะบ้ารึเปล่าครับ... ถ้ารบกันผมบอกได้เลยว่า " ไม่มีทางที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะแบบเด็ดขาดแน่ๆ " เพราะสงครามสมัยใหม่ถ้าศักยภาพไม่ได้ต่างกันมากมาย การรบชนะแบบเบ็ดเสร็จแทบเป็นไปไม่ได้ แล้วพอรบกันจะเกิดอะไรขึ้นรู้มั้ยครับ ??? ชาติเป็นกลางทั้งหลายจะเข้ามาทันที... แล้วคดีพิพาทอะไรต่างๆก็จะได้รับการชี้ขาดโดยที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ มาดูที่วิธีการทูตของรัฐบาลนี้ แถมด้วยหลักฐานทางฝ่ายไทย ไม่ต้องคิดมากก็รู้นะครับว่า " ชนะหรือแพ้ ? " ผมว่า " ไอ้คนโง่ๆที่ท้าให้รบนี่แหละครับ คนขายชาติตัวจริง แล้วจะทำประเทศเสียหายกว่า นำคดีไปขึ้นศาลโลกเสียอีก " จากคุณ : SaVor - [ วันอาสาฬหบูชา 02:33:44 A:124.121.246.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ Pom.com " ถ้าคุณมีแถลงการณ์อยู่ในมือ ก็อ่านตรงที่เขาพูดถึงบริเวณในแผนที่ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนซิครับ " - ข้อไหนที่คุณว่า... ...เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้.. แถลงการณ์ร่วม...      ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2008 มีการประชุมหารือกันระหว่าง นายซก ฮัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักคณะรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อสืบต่อการหารือระหว่างทั้งสองท่าน ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลก การประชุมคราวนี้จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ขององค์การยูเนสโก ในกรุงปารีส โดยที่มีท่านอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ได้แก่ นางฟรองซัวส์ ริเวเร (Francoise Riviere) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก, เอกอัครราชทูต ฟรานเซสโก คารูโซ (Francesco Caruso), นาย อาเซดิโน เบสชอต (Azedino Beschaouch), นางเปาลา เลออนซินี บาร์โตลี (Paola Leoncini Bartoli) และนายจิโอวานนี บอคคาร์ดี (Giovanni Boccardi)            การประชุมหารือคราวนี้ดำเนินไปด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน            ระหว่างการประชุมหารือ ทั้งสองฝ่ายได้ทำความตกลงกันดังต่อไปนี้            1. ราชอาณาจักรไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหาร เข้าไว้ในบัญชีมรดกโลก ตามการเสนอของราชอาณาจักรกัมพูชา ณ การประชุมครั้งที่ 32 ของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก (นครควิเบก, ประเทศแคนาดา, เดือนกรกฎาคม 2008) ตามขอบเขตรอบดินแดนซึ่งระบุไว้ว่าเป็น หมายเลข 1 ในแผนที่ซึ่งจัดทำโดยทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชา และได้แนบท้ายมาด้วยแล้ว แผนที่ดังกล่าวยังได้ครอบคลุมพื้นที่กันชนทางด้านตะวันออกและด้านใต้ของปราสาท โดยระบุให้เป็น หมายเลข 2            2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท            3. แผนที่ซึ่งอ้างไว้ในวรรค 1 ข้างต้น จะแทนที่แผนที่ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องและบรรจุไว้ใน “Schema Directeur pour le Zonage de Preah Vihear” ตลอดจนการอ้างอิงด้านกราฟฟิกทั้งหมดที่ระบุบ่งชี้ถึง “บริเวณหลัก” (core zone) และการแบ่งบริเวณอื่นๆ (zonage) ของปราสาทพระวิหาร ที่บรรจุอยู่ในแฟ้มเสนอขอขึ้นทะเบียนของกัมพูชาด้วย            4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010            5. การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลกครั้งนี้ จะไม่ทำให้เสื่อมเสียสิทธิ์ของราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ในการกำหนดปักปันเขตแดนของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ของประเทศทั้งสอง            6. ราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ขอแสดงความซาบซึ้งใจอย่างยิ่งต่อท่านผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ฯพณฯ นายโคอิชิโร มัตสึอุระ สำหรับความช่วยเหลือของท่านในการอำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการเพื่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลก            พนมเปญ, 18 มิถุนายน 2008        กรุงเทพฯ, 18 มิถุนายน 2008            ในนามรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา  ในนามรัฐบาลราชอาณาจักรไทย            ฯพณฯ นาย ซก อัน                    ฯพณฯ นายนพดล ปัทมะ      รองนายกรัฐมนตรี                     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ      รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักคณะรัฐมนตรี             ปารีส, 18 มิถุนายน 2008      ผู้แทนของยูเนสโก             ฟรองซัวส์ ริวีเร      ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรม ....................................... ช่วยบอกทีว่าข้อไหนเป็นอย่างที่คุณว่าไว้ด้านบน " ที่คุณยกมติมา นั่นมันหลังจากที่ตอนแรกเราไปยอมเซ็น แล้วมาเบี้ยวเขาวินาทีสุดท้าย " - ใครไปเบี้ยวอะไร ไม่เข้าใจ ในเมื่อแถลงการณ์ไม่ได้ใช้ในวันขึ้นทะเบียนแล้ว เพราะศาลไทยสั่งห้ามใช้ " ถ้าเรายืนกรานไม่ยอมเซ็นแต่แรก " - ก็เท่ากับไทยตระบัดสัตย์ เพราะในสมัยสุรยุทธไปยื่นเงื่อนไขให้เขาเอง และอีกอย่างเป็นเรื่องที่ทางมรดกโลกบอกมาด้วย ว่าให้ไทย-เขมรไปคุยกันตกลงให้ได้ก่อนขึ้นทะเบียน แล้วการคุยกันแบบเป็นการเป็นงาน มีที่ไหนเขาคุยปากเปล่ากันบ้างคุณ ยิ่งระหว่างประเทศเขาก็ต้องมีการลงนามร่วมกันในเอกสารเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในเมื่อไทยยื่นเงื่อนไขไปว่าถ้าเขมรยอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออกแล้วขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ไทยก็จะสนับสนุน และเขมรก็ยอมทำตามที่ไทยขอ แล้วเรื่องอะไรเราจะไม่สนับสนุนตามที่ตกลงกันไว้ล่ะ " แล้วยืนยันว่าจะไม่ให้ใช้พื้นที่ทับซ้อนพัฒนาร่วมกัน " - การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนร่วมกัน เป็น MOU ที่ออกมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 2 แล้ว นั่นคือการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชาหรือ JBC ที่ตราบใดยังปักปันเขตแดนไม่เสร็จทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่นี้ด้วยกันอยู่แล้ว แถลงการณ์ร่วมก็แค่เอาสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว มาตอกย้ำว่าจะไม่มีประเทศไหนละเมิดสัญญาที่ได้ทำกันไว้ ก็แค่นั้นเอง " ส่วนกรณีนายกสุรยุทธ ผมก็เห็นท่านยืนยันว่ามีนโยบายให้ขึ้นทะเบียนร่วมกัน ส่วนจะจริงเท็จอย่างไรผมไม่มีหลักฐาน " - ถูกต้องเขาขอขึ้นทะเบียนร่วมกัน แต่เขมรไม่เอาด้วย เพราะเขมรเองก็หาโอกาสจะขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวอยู่แล้ว จากเดิมในสมัยทักษิณไทย-เขมรได้ตั้งคณะกรรมการร่วมศึกษาพัฒนาเขาพระวิหารเพื่อขึ้นทะเบียนร่วมกัน แต่พอทักษิณถูกยึดอำนาจ เขมรก็ชิ่งหนีทันที สมัยสุรยุทธไปขอขึ้นร่วมอีกเขมรถึงได้ปฏิเสธ รมต.กต.ยุคนั้นเลยต้องยื่นเงื่อนไขให้ตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท แล้วไทยจะสนับสนุนแทน พอมาถึงนพดลแรกเริ่มก็ขอขึ้นทะเบียนร่วมกันอีกครั้ง ปรากฎว่าเขมรก็ปฏิเสธเมือนเดิม ด้วยข้ออ้างว่าเขาทำข้อมูลเสร็จแล้วไม่พร้อมเริ่มต้นใหม่ นพดลเลยต้องเดินตามเงื่อนไขสมัยสุรยุทธต่อ จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 03:14:35 A:124.121.31.142 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ : SaVor เส้นที่เขมรสร้างเป็นคอนกรีตปีนี้ ส่วนหนึ่งผมเข้าใจว่ามันก็สร้างทับเส้นเดิมที่ผมว่าสร้างปี ๓๖ ให้ทหารเขมรลำเลียงกำลังขึ้นพระวิหารตอนรบเขมรแดง และเข้าใจว่าเส้นปี ๓๖ ก็เป็นเส้นเดียวที่คุณว่าเป็นของชุมชน คำว่ายินยอมของผมคือไม่มีการประท้วงใดๆ และถ้าผมเข้าใจไม่ผิดหลังกรณีมรดกโลก ตอนที่ภริยานายกฮุนเซนขึ้นมาบวงสรวงพระวิหารก็ใช้เส้นทางนี้ โดยการยินยอมของนายกสมัคร แต่การสร้างเป็นคอนกรีตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมันเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ซึ่งต้องประท้วง ประโยชน์ก็คือแม้สร้างได้ (จริงๆไม่ควรปล่อยให้สร้าง) แต่ใช้ในการท่องเที่ยวระดับชาติไม่ได้ เพื่อยืนยันถึงอธิปไตยของไทยบนพื้นที่ทับซ้อน ยูเนสโกเขาไม่สนใจว่าหลักฐานใครแข็งหรืออ่อนหรอกครับ เขาไม่ใช่ศาล เป็นองค์กรวัฒนธรรม ทุกวันนี้พอมีเรื่อง จากเดิมที่ขึ้นพระวิหารด้วยการนั่งฮอมาลงพื้นที่ทับซ้อน เขาต้องเปลี่ยนมาปีนขึ้นเขาทางช่องบันไดหัก ซึ่งไม่ผ่านพื้นที่ทับซ้อนแทน ในทางการฑูตไม่มีชาติไหนมีสิทธิ์มาชี้ขาดพื้นที่ทับซ้อนหรอกครับ อย่ามั่ว แต่ก่อนเรามีสงครามชายแดนประจำ รบกันสักพัก ก็เลิกรา ทำความตกลง ต่างคนต่างถอย รบนะไม่จำเป็นไม่มีใครอยากทำหรอก แต่ถ้าแผ่นดินไทยถูกรุกอธิปไตยอย่างรุนแรง  ขึ้นศาลโลกก็เข้าทางเขา ประท้วงก็แล้ว ทำทุกวิถีทางแล้ว (นี่ยังอีกหลายวิธี) ไม่สำเร็จ ก็ต้องรบ คนที่ไม่กล้ารบ ถ้าไม่ใช่คนขายชาติ ก็เป็นคนขี้ขลาด แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 10:11:43 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 10:00:42 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 09:37:30 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 09:16:43 A:124.120.219.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ : TSC ผมใช้ความจำ บอกว่าในสัญญาเขียนทำนองว่า ...เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้.. มันต่างยังไงกับ 2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท     ส่วนเรื่องไทยเบี้ยวหรือไม่ นั่นผมพูดในสายตากรรมการมรดกโลกครับ เวลาเขามองไทย เขาไม่สนใจหรอกครับว่าเราจะมีปัญหาภายในกันยังไง เปลี่ยนนายกกี่คน มีศาลมาออกคำสั่งอะไร เขามองแต่ว่าไทยเคยตกลงอะไร แล้วมาเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้าย เรื่องพลเอกสุรยุทธ คุณลองหาหลักฐานมาซิครับ ที่คุณว่า รมต.ต่างประเทศสมัยนั้นไปยอมเขมร ซึ่งถ้าจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่จำเป็นที่นายนพดลจะต้องเดินตามถ้าเห็นว่าผิด ส่วนกรณีคุณชวนยิ่งไปกันใหญ่ สัญญาว่าจะพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน นั่นมันก่อนกรณีมรดกโลกนะครับ จะเอามาอ้างได้อย่างไร และคำว่าพัฒนาพื้นที่ร่วมกันมันก็ต้องมาดูรายละเอียดอีกที ไม่ใช่ยอมไปทุกเรื่อง แปลกนะครับ ดูหลายคนในนี้ อยากจะให้ตัดถนนจากเขมรผ่านพื้นที่ทับซ้อนเข้าสู่พระวิหารเสียจริง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 10:08:39 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 09:57:39 A:124.122.163.219 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 . แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 15:38:39 จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 15:38:13 A:124.122.205.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ Pom.com คุณบอกว่า... ...เขมรก็ตัดพื้นที่ทับซ้อนออกจากสัญญา แล้วเขียนว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์จะไม่กล่าวถึงพื้นที่ดังกล่าวตอนนี้... แต่ในแถลงการณ์ร่วมกล่าวถึงพื้นที่ทับซ้อนนี้ไว้ถึง 2 ข้อ... 2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท 4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010 ................................... ไม่ใช่ว่าไม่กล่าวถึงอย่างที่คุณจำมาผิดๆ แต่เขากล่าวถึงในลักษณะที่ว่า จะไม่นำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียน และจะร่วมกันพัฒนาพื้นที่นี้ " ส่วนเรื่องไทยเบี้ยวหรือไม่ นั่นผมพูดในสายตากรรมการมรดกโลกครับ " - คุณไม่ต้องไปมองแทนหรือคิดแทนคนอื่น ที่คุณว่าเบี้ยวน่ะใครเบี้ยวใครเรื่องอะไร อธิบายให้ชัดเจนหน่อย " เขามองแต่ว่าไทยเคยตกลงอะไร แล้วมาเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้าย " - ถ้าคุณจะอ้างถึงกรณีไม่ใช้แถลงการณ์ จะโทษใครได้ก็ต้องโทษปชป.-พธม.ของคุณ และกลุ่มบุคคลที่สั่งห้ามใช้แถลงการณ์ซิ ที่ทำให้ไทยกลายเป็นตัวตลกบนเวทีโลก แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 15:49:32 จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 15:40:10 A:124.122.205.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ Pom.com (ต่อ) " เรื่องพลเอกสุรยุทธ คุณลองหาหลักฐานมาซิครับ ที่คุณว่า รมต.ต่างประเทศสมัยนั้นไปยอมเขมร ซึ่งถ้าจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง " - อยากได้ก็จัดให้ (ตามข้อมูลและรูปภาพด้านล่าง) " แต่ก็ไม่จำเป็นที่นายนพดลจะต้องเดินตามถ้าเห็นว่าผิด " - เงื่อนไขดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเป็นการรักษาพื้นที่ทับซ้อนไว้ ที่เห็นผิดมีแต่พวกคุณที่ไม่ชอบพรรคพวกฝั่งเดียวกับทักษิณและพวกที่ต้องการล้มรัฐบาลสมัครเท่านั้น นี่คือข้อตกลง(เงื่อนไข)ที่ก.ต่างประเทศสมัยสุรยุทธไปเจรจากับเขมร และแจ้งกับทางมรดกโลกแล้วว่าจะสนับสนุนเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร(หากทำตามเงื่อนไขที่ไทยยื่นเสนอ)... ข้อตกลง: 31 COM 8B.24 1. ได้พิจารณาเอกสาร WHC-07/31.COM/8B และเอกสาร WHC-07/31.COM/INF.8B.1 2. ได้รับบันทึกข้อความตามแถลงการณ์ของประธานคณะกรรมการองค์การมรดกโลกซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้แทนประเทศกัมพูชาและคณะผู้แทนประเทศไทย รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยเห็นชอบร่วมกันอย่างเต็มที่ว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ปราสาทพระวิหารนั้นทรงคุณค่าอันโดดเด่นอย่างเป็นสากลและต้องได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามที่ประเทศกัมพูชาและประเทศไทยมีความเห็นชอบร่วมกันว่า ประเทศกัมพูชาจะเสนอสถานที่ดังกล่าวให้ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการในบัญชีมรดกโลก ในวาระการประชุมครั้งที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2008 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าสถานที่แห่งนี้ควรได้รับการเอาใจใส่อย่างเร่งด่วนและต้องการความช่วยเหลือในระดับประเทศทางด้านการเงินและผู้เชี่ยวชาญและการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงเพิ่มเติมว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมให้มีการเจรจาและการจัดการ ณ สถานที่แห่งนั้น รวมถึงแผนการจะดำเนินการพัฒนาอย่างเหมาะสม ดังความประสงค์ตามย่อหน้าที่ 108 ใน Operation Guidelines ที่จะรับประกันการปกป้องสถานที่แห่งนี้ในอนาคต จากการประชุมหารือร่วมกันขององค์การมรดกโลก ทั้งสองประเทศมีความเข้าใจว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการช่วยเหลือทางด้านการเงินและผู้เชี่ยวชาญสำหรับแผนดำเนินการพัฒนาผ่านทางโปรแกรมการช่วยเหลือระดับชาติขององค์การมรดกโลก 3. ตระหนักว่าปราสาทพระวิหารคือสิ่งที่มีนัยสำคัญระดับชาติและมีค่าโดดเด่นระดับสากล เป็นไปตามหลักการพื้นฐานในข้อ (i), (ii) และ (iv) เห็นด้วยว่าควรจะขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลกและบันทึกว่าขั้นตอนการขึ้นทะเบียนมีความคืบหน้า 4. ความต้องการของรัฐบาลแห่งประเทศกัมพูชาคือการเจรจาและการจัดการอย่างจริงจัง ณ สถานที่แห่งนี้ โดยให้มีความคืบหน้าในการพัฒนาและแผนการดำเนินงานที่เหมาะสม ซึ่งความคืบหน้าจะมีผลต่อความเป็นไปได้ที่จะทำให้สถานที่นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการในวาระการประชุมครั้งที่ 32 ในปี 2008. 5. ความต้องการขั้นต่อไปของรัฐบาลกัมพูชาคือยื่นเสนอรายงานความคืบหน้าองค์กรมรดกโลกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2008 http://whc.unesco.org/archive/2007/whc07-31com-24e.pdf (หน้า 153 - 154) ...................................... นี่คือรูปการประชุมเจรจาระหว่างไทย-เขมรโดยก.ต่างประเทศ.สมัยสุรยุทธหลังจากที่คณะกรรมการมรดกโลกให้มาเจรจาตกลงกันเองนอกรอบ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 18:54:00 จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 15:40:48 A:124.122.205.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ Pom.com (ต่อ) " ส่วนกรณีคุณชวนยิ่งไปกันใหญ่ สัญญาว่าจะพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน นั่นมันก่อนกรณีมรดกโลกนะครับ จะเอามาอ้างได้อย่างไร " - ก็ถูกต้องไง เพราะเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไทย-เขมรร่วมมือกันมาก่อนอยู่แล้ว แถลงการณ์ร่วมก็แค่เอาเรื่องเดิมที่ทำกันมาๆ ตอกย้ำอีกที กันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเบี้ยวสัญญาที่ทำกันมาตลอด พูดง่ายๆ สิ่งที่ระบุในแถลงการณ์ร่วมไม่ใช่เรื่องใหม่หรือไม่ใช่เรื่องที่นพดลคิดเอง แต่เขาเขียนขึ้นตาม MOU ที่มีอยู่เดิมตั้งแต่สมัยชวน " คำว่าพัฒนาพื้นที่ร่วมกันมันก็ต้องมาดูรายละเอียดอีกที ไม่ใช่ยอมไปทุกเรื่อง " - นี่ถามจริง ไหงว่ามีข้อมูลไง เราก็อุตส่าห์เอาแถลงการณ์มาลงไว้ ข้อ 4 ก็ชัดเจน บอกว่าระหว่างรอผลปักปันเขตแดนของ JBC  ไทย-เขมรจะ"ร่วมมือกัน"พัฒนา มีตรงไหนที่ไทยไปยอมโดยการยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมรแต่ฝ่ายเดียว คุณช่วยบอกหน่อยเถอะ " แปลกนะครับ ดูหลายคนในนี้ อยากจะให้ตัดถนนจากเขมรผ่านพื้นที่ทับซ้อนเข้าสู่พระวิหารเสียจริง " - เรื่องถนนเท่าที่ทราบดูเหมือนจะมี 2 เส้นที่มีการก่อสร้างช่วงที่ผ่านมา เส้นหนึ่งสร้างมานานแล้วตั้งแต่สมัยทักษิณที่ทักษิณให้เงินกู้ไป แต่นั่นก็สร้างในเขตของเขมร...ไม่เกี่ยวกับไทย ถนนสายนี้ยาวมาก ส่วนอีกเส้นเป็นสายสั้นๆ เริ่มสร้างพร้อมๆ กับรัฐบาลมาร์ค แต่เรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงหรือทหารรายงานให้รัฐบาลรู้แล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการคัดค้านใดๆ เรียกว่ามาร์คไม่กระตือรือร้นในการประท้วงเขมรเรื่องนี้ เห็นสาละวนอยู่กับการหาวัตถุโบราณไปบรรณาการเขมรครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์หรือการขึ้นทะเบียนใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่มาร์คควรค้านเขมรตั้งแต่แรกแต่กลับไม่ทำ เหมือนตอนรัฐบาลชวนนั่นแหละ ที่เขมรเริ่มส่งคนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน ทหารก็รายงานรัฐบาลตอนนั้นเพื่อจะได้ขับไล่ชาวบ้านออกไป ปรากฎว่ารัฐบาลชวนไม่ให้ไล่ แต่ให้ใช้การเจรจาจนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการ JBC แต่กลายเป็นว่าการไม่ไล่ชาวบ้านออกนอกพื้นที่ในสมัยชวน ทำให้ชาวเขมรปลูกที่อยู่อาศัยกระทั่งเป็นหมู่บ้านในวันนี้ จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 15:47:12 A:124.122.205.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมจำได้ดีเรื่องนี้ยังเถียงกับเพื่อนอยู่เลยเพื่อนก็เอา fm  มาอ้าง   หาว่าคุณ นพดล  ขายชาติ จากคุณ : ลูกซองผู้ใหญ่บ้าน - [ วันอาสาฬหบูชา 16:46:58 A:222.123.10.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 อ่าน คห ของคุณ Pom.com แล้วตลกดีครับ คุณเล่น "คิดเอง เออเอง" ทั้งนั้น มีอะไรรับรองว่า "จินตนาการ" ของคุณ จะเป็นเรื่องจริงบ้าง เรื่องเขาพระวิหารนี่พูดตรง ๆ กันเลยดีกว่าครับ ว่าเรารู้ทั้งรู้ว่าเป็นของเขมรมานานแล้ว แต่ลองไปถามสาวกพันธมิตรหรือ ปชป. ดู แล้วจะรู้ว่าพวกเขายังนึกว่าเป็นของเรา เราต้องไปทวงคืน ถามง่าย ๆ แค่ว่า ความเข้าใจบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้มาจากไหน? ก็มาจากศาสดาพันธมิตรและพรรค ปชป. ทั้งนั้น แล้ว "เจตนา" ที่หลอกให้สาวกเชื่อเช่นนั้นคืออะไร? ใครหลอกใช้ประชาชน ใครเอาชาติมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายคู่แข่งแบบไร้จิตสำนึก คำตอบเราทุกคนมีกันอยู่ในใจอยู่แล้ว คนบางคนก็แค่ทำใจยอมรับไม่ได้จึงต้องแถไม่เลิกก็เท่านั้นเอง จากคุณ : macenjoy - [ วันอาสาฬหบูชา 17:30:27 A:203.146.150.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ : macenjoy ทำไมจินตนาการของผมจะไม่เป็นจริงครับ คุณไปอยู่ที่ไหนมา วันนี้เขมรก็เทคอนกรีตสร้างถนนจนจะถึงพระวิหารแล้ว ถ้าวันนั้นเราไปเซ็นสัญญากับเขมร จะมีหน้าไปประท้วงเขาไหม แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 20:40:54 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 20:25:57 A:124.120.224.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณ : TSC คุณจะพูดยืดยาว ย้อนอดีตไปทำไมครับ เรากำลังเถียงว่าการเซ็นสัญญาของนายนพดลถูกหรือผิด ที่คุณยกสัญญามาชัดๆ มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าที่ผมพูดถูกต้อง 4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010 ผมถามว่าถ้าเราไปเซ็นกับเขาในวันนั้น วันนี้เขมรกำลังสร้างถนนคอนกรีตจากเขมรผ่านพื้นที่ทับซ้อน จวนจะถึงพระวิหารอยู่แล้ว คุณจะทำยังไง ยินยอม หรือ ประท้วง ถ้าคุณเลือกยินยอม ก็ไม่ต่างกับการขายชาติ ถ้าคุณประท้วง ในสายตาชาวโลกจะมองไทยอย่างไร ไปเซ็นยินยอมให้เขาขึ้นมรดกโลกข้างเดียว แถมบอกว่าจะประสานร่วมมือกันจัดการพื้นที่ทับซ้อน อย่างเก่งก็ดึงเกมได้จนถึงต้นปีหน้า แต่เราจะปฏิเสธแผนการสร้างถนนดังกล่าวได้ยังไง อย่างเบี่ยงประเด็นเลยครับ คุณจะเลือกข้อไหน ข้อไหนก็มีแต่สร้างความเสียหายกับประเทศไทยอย่างมหาศาล ใช่ไหมครับ นี่ถ้าเสื้อเหลืองไม่ประท้วง จนส่งผลให้ต้องยกเลิกสัญญา ประเทศจะเสียหายขนาดไหน นี่เพราะเรายกเลิกสัญญา ถึงทำให้ยังสามารถตอบโต้เมื่อเขมรสร้างถนนได้ และฝรั่งกรรมการมรดกโลก  ต้องเคารพอธิปไตยของไทย ไม่กล้าใช้พื้นที่ทับซ้อน ต้องปีนขึ้นเขาพระวิหารทางเขมรถูลู่ถูกัง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 21:29:52 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 20:45:42 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 20:39:36 A:124.120.224.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ Pom.com " คุณจะพูดยืดยาว ย้อนอดีตไปทำไมครับ " - โอ้โห...อัลไซเมอร์หรือคุณ ก็คุณขอหลักฐานเอง(ความคิดเห็นที่ 57) เราก็จัดให้ซิ ...เรื่องพลเอกสุรยุทธ คุณลองหาหลักฐานมาซิครับ ที่คุณว่า รมต.ต่างประเทศสมัยนั้นไปยอมเขมร ซึ่งถ้าจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง... คุณไม่ได้ post แล้วสิ่งมีชีวิตตนไหน post ขอหลักฐานไว้ไม่ทราบ ??? " ที่คุณยกสัญญามาชัดๆ มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าที่ผมพูดถูกต้อง " - ถูกต้องอะไรของคุณ เพราะข้อ 4 บอกว่า "ร่วมกันพัฒนา" ในพื้นที่ทับซ้อน แต่คุณบอกว่าเซ็นยอมเขมร ยอมอะไรกันพูดยังกับยอมเซ็นยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมรงั้นแหละ 4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010 ไหน...ตรงไหนที่คุณพูดเหมือนไทยยอมยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมรไม่ทราบ " ผมถามว่าถ้าเราไปเซ็นกับเขาในวันนั้น วันนี้เขมรกำลังสร้างถนนคอนกรีตจากเขมรผ่านพื้นที่ทับซ้อน จวนจะถึงพระวิหารอยู่แล้ว คุณจะทำยังไง ยินยอม หรือ ประท้วง " - ก็เราถามว่า ในแถลงการณ์ข้อไหน ที่บอกว่ายกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมร ส่วนข้อ 4 พูดถึงการพัฒนาภายใต้ MOU ที่ตั้ง JBC ซึ่งเป็นมาตามปกติอยู่แล้ว " ถ้าคุณประท้วง ในสายตาชาวโลกจะมองไทยอย่างไร ไปเซ็นยินยอมให้เขาขึ้นมรดกโลกข้างเดียว " - ถ้าไม่เซ็น ไม่คุยกับเขมร ไม่คัดค้านเขมร แล้วอยู่เฉยๆ ให้เขมรเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วยแบบคุณๆ มิใช่พวกขายชาติมากกว่าหรือ อย่างนั้นคุณก็ว่ารัฐบาลสุรยุทธขายชาติน่ะซิ ที่ไปคัดค้านและเจรจาไว้อย่างนั้นเอง " อย่างเบี่ยงประเด็นเลยครับ คุณจะเลือกข้อไหน ข้อไหนก็มีแต่สร้างความเสียหายกับประเทศไทยอย่างมหาศาล ใช่ไหมครับ " - ไม่ใช่ ... อ่านยังไง ภาษาไทยเขียนออกทนโท่ คุณระบุชัดๆ มาเลยดีกว่า แถลงการณ์ข้อไหนยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมร หรืออ่านข้อท้ายแล้วลืมข้อแรกๆ ทั้งที่ข้อ 2 ก็บอกชัดเจน ว่าขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อน แล้วยังมีข้อไหนอีกไม่ทราบที่ว่ายกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมร 2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท " นี่ถ้าเสื้อเหลืองไม่ประท้วง จนส่งผลให้ต้องยกเลิกสัญญา ประเทศจะเสียหายขนาดไหน " - แล้วทุกวันนี้ไม่เสียหายหนักกว่าหรือ ทั้งจะรบพุ่ง ทั้งเขมรจะยึดครองพื้นที่ทับซ้อน เพราะยกเลิกแถลงการณ์นี่แหละเขมรถึงได้ฮึกเหิมเข้ามาครอบครองพื้นที่ทับซ้อนอย่างไม่เกรงกลัวไทย พวกเหลืองของคุณทำลายบ้านเมืองยังคิดว่าปกป้องประเทศอยู่อีก ... เชื่อเขาเลย " เพราะเรายกเลิกสัญญา ถึงทำให้ยังสามารถตอบโต้เมื่อเขมรสร้างถนนได้ " - มั่ว ! แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 21:31:35 จากคุณ : TSC - [ วันอาสาฬหบูชา 21:30:04 A:124.122.5.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ : TSC สรุปแล้วตราบใดคุณยังหลงเชื่อว่าถ้าไม่เซ็นยินยอม เขมรจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นมรดกโลกได้ฝ่ายเดียว ผมว่าคงเถียงกันไม่จบ นั่นมันข้อแก้ตัว โกหกพกลม ของคนที่เชียร์นายนพดล ทั้งที่นายนพดลก็มีความอายพอที่ไม่เคยพูดมาชัดๆแบบนี้ ส่วนเรื่องนายกสุรยุทธ ถ้าจะคิดตรงกับนายนพดลจริงๆ(ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลคุณถูกแค่ไหน) ก็พลาดเหมือนกัน ส่วนเรื่องถนนที่ผมถามคุณ ว่าเขมรขอตัดผ่านพื้นที่ทับซ้อนจะทำยังไง อย่าเฉไฉซิครับ ถ้าหลงกลไปเซ็นกับเขมร วันนี้ชาติเสียหายมหาศาล หรือคุณมีทางออกอย่างอื่น นอกจากรักษาสัญญา ยอมขายชาติ การตัดถนนตรงจากเขมรสู่พระวิหาร โดยพระวิหารเป็นมรดกโลกของเขมรฝ่ายเดียว ก็ไม่ต่างกับการยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมร หรือตระบัดสัตย์ ไม่ให้ความร่วมมือพัฒนาพระวิหาร อายชาวโลก ยอมรับเถอะครับว่าเสื้อเหลืองช่วยชาติจากความเสียหายในการเซ็นสัญญาไว้มหาศาล ส่วนการที่เรายกเลิกสัญญา เพื่อผลประโยชน์ของชาติ แล้วเขมรไม่พอใจ ที่ไทยไม่หลงกล สุดท้ายจะต้องรบก็ต้องรบครับ จะให้ยกดินแดนให้เขา งอมืองอเท้าหรือยังไง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:54:42 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:45:36 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:35:30 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:35:28 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:35:26 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:31:10 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 52 22:25:27 จากคุณ : Pom.com - [ วันอาสาฬหบูชา 22:21:13 A:124.120.224.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 rep 67 " การตัดถนนตรงจากเขมรสู่พระวิหาร โดยพระวิหารเป็นมรดกโลกของเขมรฝ่ายเดียว ก็ไม่ต่างกับการยกพื้นที่ทับซ้อนให้เขมร " >>> หลังจากเถียงกันไปมา ผมเห็นว่า ประเด็นของคุณเหลือประเด็นเดียวแล้ว ที่ยังนั่งยันนอนยันอยู่ ( ซึ่งก็เป็นจินตนาการเพ้อเจ้อของคุณเองล้วนๆ ) ลองตอบผมหน่อยซิ การยอมให้เขมรตัดถนนมามันจะกลายเป็นยอมยกพื้นที่ทับซ้อนได้อย่างไร ??? เพราะมีทั้งถนนเก่า แถมชุมชนเขมรซึ่งอยู่มานานเป็นสิบปีแล้วบนพื้นที่ทับซ้อน หนำซ้ำถนนเส้นนี้ยังตัดเข้ามาเมื่อ 3 ปีที่แล้วอีกต่างหาก... ถ้าจะเสียพื้นที่ทับซ้อนมันไม่เสียไปตั้งแต่ 3 ปีแล้วแล้วหรือ ??? แล้วการตัดถนนหลังจากเจรจากับกรรมการ 7 ชาติและไทย ( ซึ่งความจริงคงไม่ต้องตัดถนนใหม่หรอก ใช้เส้นเดิมนี่แหละ ) ตามที่ระบุในสัญญาแล้ว... มันจะเป็นการเสียอธิปไตยในดินแดนได้อย่างไร ??? เพราะมันไม่มีทางลบมติที่ว่า " พื้นที่ตรงนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันของไทยและกัมพูชา " ลองตอบหน่อยซิ มันลบมติตรงนี้ได้อย่างไร ??? อ้อ... แล้วก็อีกอย่างนะ ผมเห็นความคิดแบบ " หลงผิด " ของคุณ ( และพันธมิตรหลายคนก็เป็นเช่นนี้ ) ไอ้คำว่า " พื้นที่ทับซ้อน " นั่นน่ะ มันไม่มีใครเขาทับซ้อนกับไทยเราด้วยนะ... เราไปอ้างทับซ้อนอยู่คนเดียว กัมพูชา ไม่เคยคิดว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่คิดว่าเป็น " เขตอธิปไตยของกัมพูชา " การยื่นขึ้นมรดกโลกร่วมกับ พื้นที่ทับซ้อน นั้น จึงไม่ใช่การเล่นเกมลักไก่มั่วนิ่มอย่างที่คุณว่าเลย... แต่มันคือ ความตั้งใจจริงของพวกเขาต่างหาก... จากคุณ : SaVor - [ วันอาสาฬหบูชา 23:21:17 A:124.120.21.45 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ : SaVor เขมรจะคิดอย่างไรไม่สำคัญ เท่ากับเขมรคิดว่ากรรมการมรดกโลกคิดยังไง ถ้ามันไม่เป็นพื้นที่ทับซ้อน ในสายตากรรมการ เขมรจะยอมให้ถอนออกได้อย่างไร เขมรรู้อยู่แก่ใจว่าตัวพระวิหารอย่างเดียวที่กรรมการมรดกโลกเชื่อมั่นว่าเป็นของเขมรจริงๆ ส่วนถ้าคุณแยกไม่ออก ระหว่างถนนที่รถเก๋งวิ่งไม่ได้ที่ชาวบ้านเขมรใช้ขึ้นพระวิหาร  กับถนนคอนกรีตอย่างดีที่สร้างต้นปีนี้จ่อทางช่องโกมุย จวนจะถึงพระวิหารอยู่รอมร่อ  เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวว่ามันต่างกันอย่างไร คุณก็คงแยกไม่ออก ถ้าวันไหนเขมรสร้างโรงแรมหรูบนพื้นที่ทับซ้อน แทนเพิงค้าสัปปะรังเคอีกซิครับ เรื่องแบบนี้มันมีเส้นขีด ซึ่งใช้สามัญสำนึกก็น่าจะพอเข้าใจได้ ไม่ใช่แต่ในชายแดนเขมร จะเป็นชายแดนมาเลย์ตรงโนแมนส์แลนด์ แต่ก่อนมีร้านค้าร้อยกว่าร้าน ก็อยู่กันมานาน ไทยไม่ว่าอะไร (ตอนหลังมาเลเซียเป็นฝ่ายย้ายออกเอง เพราะปัญหาหนีภาษี) แต่ถ้าลองมาเลย์มาสร้างตึกปิโตรนาสตรงนั้นก็รบกัน ไทยเองก็รุกล้ำในพื้นที่ทับซ้อนเหมือนกัน แต่ก็ไม่เกินขีดที่พอจะรับกันได้ ส่วนการที่คุณบอกว่า เรามีสัญญาพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ลบไม่ออก จะกลัวอะไรในการให้เขมรตัดถนนผ่าน คุณว่าฝรั่งที่มาเที่ยวพระวิหารเขาจะคิดว่าพื้นที่นั้นเป็นของไทยด้วยหรือครับ พระวิหารก็ชักธงเขมร มรดกโลกก็ของเขมรคนเดียว ทางขึ้นก็มาจากฝั่งเขมร มันไม่ต่างกับเสียดินแดนหรอกครับ และข้อสำคัญ คือมันทำร้ายจิตใจคนไทย วันที่เราแพ้คดี ร้องไห้เป็นสายเลือด เราปลอบกันเองว่าเขมรได้พระวิหาร ถ้าจะมาขึ้นสะดวกต้องขึ้นฝั่งไทย สีหนุต้องปีนเขาฝั่งเขมรเพื่อขึ้นพระวิหาร แต่ถ้าวันไหนเขมรสร้างถนนคอนกรีต รับชาวโลกจากฝั่งเขมร ขึ้นพระวิหาร ไม่ต้องผ่านศรีสะเกษ โดยที่มรดกโลกเป็นของเขมรชาติเดียว วันนั้นคนไทยคงต้องร้องไห้อีกรอบ ส่วนเรื่องการที่ผมบอกว่าถ้าเราเซ็นไป เขมรต้องขอตัดถนนผ่าน คุณว่าเป็นจินตนาการเพ้อเจ้อ คุณอย่าหลอกตัวเองเลยครับ คิดจริงๆหรือครับว่าการตัดถนนคอนกรีตจากช่องโกมุยเพื่อขึ้นพระวิหารทุกวันนี้เขมรพึ่งนึกขึ้นได้ หลังจากที่ไทยยกเลิกสัญญา ผมเองยังไม่เชื่อเสียด้วยซ้ำ ว่าเรื่องแบบนี้จะมีแต่ผมคิดจินตนาการ คนที่เซ็นสัญญาและข้าราชการที่เกี่ยวข้องไม่เคยคาดคิด แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:52:38 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:51:11 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:36:49 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:25:45 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:22:50 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:15:45 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:14:29 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:10:42 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 00:08:40 จากคุณ : Pom.com - [ วันเข้าพรรษา 00:04:45 A:124.120.228.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 เขมรจะคิดอย่างไรไม่สำคัญ เท่ากับเขมรคิดว่ากรรมการมรดกโลกคิดยังไง ถ้ามันไม่เป็นพื้นที่ทับซ้อน ในสายตากรรมการ เขมรจะยอมให้ถอนออกได้อย่างไร เขมรรู้อยู่แก่ใจว่าตัวพระวิหารอย่างเดียวที่กรรมการมรดกโลกเชื่อมั่นว่าเป็นของเขมรจริงๆ >>> คิดแทน เขมร ทำไม... ก็ผมบอกไปแล้วว่า " หลักการทูตสากลเขาไม่ทำอะไรกลับกลอกไปมาเหมือน มาร์ค ม.7 " ผมว่าเป็นเราเสียอีก ที่ต้องรู้อย่แก่ใจว่า " แผนที่ L7017 ไม่มีค่าในสายตาชาวโลก ขึ้นศาลโลก มีการปักปันเขตแดนเมื่อไหร่ เสีย 4.6 ตร.กม. แน่นอน 100% " ส่วนการที่คุณบอกว่า เรามีสัญญาพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ลบไม่ออก จะกลัวอะไรในการให้เขมรตัดถนนผ่าน คุณว่าฝรั่งที่มาเที่ยวพระวิหารเขาจะคิดว่าพื้นที่นั้นเป็นของไทยด้วยหรือครับ พระวิหารก็ชักธงเขมร มรดกโลกก็ของเขมรคนเดียว ทางขึ้นก็มาจากฝั่งเขมร มันไม่ต่างกับเสียดินแดนหรอกครับ >>> จากประโยค " คุณว่าฝรั่งที่มาเที่ยวพระวิหารเขาจะคิดว่าพื้นที่นั้นเป็นของไทยด้วยหรือครับ " เอา common sense มามั่วแบบนี้ก็ตายสิครับ... สำคัญด้วยหรือว่าฝรั่งคิดว่าอย่างไร... ยิ่งเป็นฝรั่งนักท่องเที่ยว คุณตลกป่าวครับ สำคัญคือ " การปักปันเขตแดนตามหลักสากลของบริเวณนั้นมันเป็นอย่างไรต่างหาก... " และข้อสำคัญ คือมันทำร้ายจิตใจคนไทย วันที่เราแพ้คดี ร้องไห้เป็นสายเลือด เราปลอบกันเองว่าเขมรได้พระวิหาร ถ้าจะมาขึ้นสะดวกต้องขึ้นฝั่งไทย สีหนุต้องปีนเขาฝั่งเขมรเพื่อขึ้นพระวิหาร แต่ถ้าวันไหนเขมรสร้างถนนคอนกรีต รับชาวโลกจากฝั่งเขมร ขึ้นพระวิหาร ไม่ต้องผ่านศรีสะเกษ โดยที่มรดกโลกเป็นของเขมรชาติเดียว วันนั้นคนไทยคงต้องร้องไห้อีกรอบ >>> ใครร้องไห้เป็นสายเลือดครับ มั่ว... คนที่จะร้องไห้คงมีคนเดียวคือ หม่อมเสนีย์ ที่มั่นใจเต็มที่ว่าเราจะชนะ 300% นั่นแหละ... และก็ สฤษฎิ์ ที่:-)ชาวบ้านไว้มาก... ผมเคยฟังบรรยายของ อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ซึ่งท่านก็เป็นคนร่วมสมัยนั้น ท่านบอกไว้เลยว่า " ในสมัยนั้นไม่มีใครคิดหรอกว่าเราจะชนะคดี คงจะมีแต่ ม.ร.ว. เสนีย์ คนเดียว " แถมต่อให้เราไม่ให้สร้างถนน เขมร เขาก็สร้างกระเช้าได้ แค่นี้ก็จบแล้วครับ ปัญหาปัญญานิ่มแบบนี้ แล้วตกลงคุณเถียงไม่ออกเรื่อง " เสียพื้นที่ทับซ้อน " เลยจะมาเปลี่ยนประเด็นว่า " ถ้าทำตามสัญญา ไทยเราจะอดหาประโยชน์จากพระวิหาร " แล้วใช่มั้ยครับ จากคุณ : SaVor - [ วันเข้าพรรษา 01:39:42 A:124.120.20.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ส่วนท้ายนี้ผมต้องขอเน้นหน่อย... โดยส่วนตัวผมไม่อยากถกเถียงประเด็นเรื่อง " เขาพระวิหาร " สักเท่าไหร่... เพราะโดยส่วนตัวจากที่ผมไปคนข้อมูล และฟังบรรยายต่างๆ ทำให้ผมคิดว่า " ไทยเราได้ยกเขาพระวิหารทั้งลูก ซึ่งก็คือตัวปราสาท + พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ให้ฝรั่งเศส ซึ่งก็คือผู้ปกครอง เขมร ตั้งแต่ตอนตกลงปักปันเขตแดนแล้ว " หลักฐานก็คือ ทางฝั่งไทยทั้งเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้น มีท่าทียอมรับแผนที่ของฝรั่งเศสอย่างเต็มใจ ไม่เคยมีการกล่าวถึงความโกรธแค้นที่จะต้องเสียเขาพระวิหาร ( พวกนี้พึ่งจะมามีสมัยหม่อมเสนีย์ ) กรมพระยาดำรงฯ ท่านเคยเสด็จเยือนเขาพระวิหารในสมัย ร.7 ท่านก็ทรงขออนุญาตทางฝรั่งเศสก่อนขึ้นไปบนปราสาทอย่างเต็มใจ ไม่เคยมีความคิดแค้นแม้แต่น้อย การอ้างสนธิสัญญาหลักปักปันเขตแดนของ ไทย - เขมร ในยุคหลังๆที่ว่าใช้ หลักสันปันน้ำของเขาพนมดงรัก เป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพราะแผนที่นั้นมาทีหลังสนธิสัญญาและก็ได้รับการยอมรับทั้งสองฝ่าย และก็คงเห็นในหลายๆที่ ที่แผนที่จริงๆนั้นไม่ตรงกับสนธิสัญญาแบบ 100% เสมอไป... ดังนั้นถ้าดูตามเจตนาของคนรุ่นก่อน เรา " เต็มใจ " ยกให้เขาไปแล้ว เพียงแต่พวกท่านไม่มีโอกาสในการมาบอกรุ่นลูกหลานเท่านั้น... แต่ในการถกเถียงเรื่องนี้ ผมต้องคิดให้ว่า พื้นที่ 4.6 ตร.กม. นั้นเป็น พื้นที่ทับซ้อนระหว่าง ไทย - เขมร ซึ่งความจริงแล้ว " ขัดกับความรู้สึกของผมมากพอสมควร " เพราะไม่ว่าฝ่ายแดง เหลือง หรือพรรคไหนก็ตาม ส่วนใหญ่จะคิดในแง่นี้ เพราะแง่ที่ว่า ทั้งปราสาทและพื้นที่ทับซ้อน เป็นของ เขมร ทั้งหมด ดูจะเป็นอะไรที่ " มากเกิน " จะรับได้ไปหน่อย... อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอให้จบเรื่องนี้โดย ไทยเราสามารถทำประโยชน์จากเขาพระวิหารได้มากที่สุด โดยที่ไม่เกิดปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน และก็ไม่เกิดเหตุการณ์บานปลายจนกระทั่งเกิดการรบกันตามที่คนไร้หัวคิดบางคนชอบเชียร์ เพราะนั่นเหมือนกับเป็นการไม่เคารพเจตน์จำนงค์ของทางบรรพชนแม้แต่น้อย... จากคุณ : SaVor - [ วันเข้าพรรษา 01:52:23 A:124.120.20.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ : SaVor ในที่สุดคุณก็เผยตัวตนมา คุณไม่เคยคิดว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของไทย ขณะที่ผมและคนไทยจำนวนมาก อย่าว่าแต่พื้นที่ทับซ้อนเลยครับ แม้แต่พระวิหารก็คิดว่าเป็นของไทย แต่เราแพ้ในศาลโลกเพราะการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งเรายอมรับคำตัดสินของศาลโลก เฉพาะตัวพระวิหารเท่านั้น จะไม่ยอมเสียดินแดนตรงเขาพระวิหารไปมากกว่านี้ ยิ่งที่คุณบอกว่าไม่มีใครร้องไห้ให้เขาพระวิหาร ผมไม่แน่ใจว่าคุณเติบโตมาอย่างไร ไม่มีคนในครอบครัวเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวตอนนั้นเลยหรือ ส่วนการที่คุณไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของใคร ผมยิ่งไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่เคยรู้จักคำว่า ศักดิ์ศรี และคำว่า อธิปไตย ของชาติเลยหรือ ผมเถียงไม่ออกตรงไหนเรื่องพื้นที่ทับซ้อน อย่ามั่ว ใครกันแน่ที่เถียงไม่ออก ว่าการเซ็นสัญญาครั้งนั้นถ้าไม่ยกเลิกจะทำความเสียหายต่อชาติอย่างใด ส่วนที่คุณจินตนาการไปว่าบรรพชนไทยยินดียกเขาพระวิหารให้ฝรั่งเศสอย่างเต็มใจ ผมว่าคุณควรจะต้องไปปรึกษาหมอได้แล้ว เอากลอนท่านคึกฤทธิ์ไปอ่าน เผื่อจะเข้าใจอะไรขึ้นบ้าง        สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่                    ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล เคยเป็นเรื่องโต้เถียงกันมานาน                                ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน         กะลาครอบมานานโบราณว่า                          พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน                                      ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป         อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม                เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้ ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย                                  ด้วยเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด         เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู                       ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร                              แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี        ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ                                เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่ คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี                                 ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน        หากไทยจำล้ำเลิกบ้างอ้างขอบเขต                เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น? ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน                                องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา?        เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง                    ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา                                 สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง        ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว                             จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่างจองหอง เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง                                    ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา        ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์                             ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา                                     เพราะทรงพระกรุณาประทานไป        มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ                      ถึงลูกหลานกลับเนรคุณได้ สมกับคำโบราณท่านว่าไว้                                     อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย...                                                                                      ม.ร.ว.คึกฤทธิ์  ปราโมช                                                                          หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์                                                                                       ๑๘  ตุลาคม ๒๕๐๒ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:55:27 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:53:41 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:52:46 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:51:58 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:51:58 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:51:57 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:38:39 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 02:26:38 จากคุณ : Pom.com - [ วันเข้าพรรษา 02:25:14 A:124.120.228.210 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอย้ายไปกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8057412/P8057412.html จากคุณ : Pom.com - [ วันเข้าพรรษา 11:44:34 A:124.122.99.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 52 13:28:58 จากคุณ : Pom.com - [ วันเข้าพรรษา 13:28:32 A:124.122.164.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 คุณ Pom.com แยกข้อเท็จจริง กับ อารมณ์ความรู้สึก ออกจากกันดีกว่านะครับ อ้างแต่ "รักชาติ" มันก็เท่านั้น ถ้า ศาล ตัดสินให้ ศาลพระภูมิ ติดเพื่อนบ้าน กลายเป็นของเขาไปแล้ว ต่อให้เราเสียดายจนร้องไห้เป็นสายเลือด โดยทางกฏหมาย มันก็ไม่กลับมาเป็นของเราหรอกครับ จากคุณ : yod_envi - [ 9 ก.ค. 52 15:11:43 A:58.136.36.19 X: ]