วัดปรอท"กษิต"! เก้าอี้รมต.ร้อน"อยู่หรือไป"?....มติชนวันนี้

หมายเหตุ - เป็นความเห็นนานาทรรศนะต่อกรณีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูก พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกยึดท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ออกหมายเรียกเป็น 1 ใน 36 ผู้ถูกกล่าวหาก่อการร้ายกรณีร่วมกันยึดสนามบินสุวรรณภูมิ

นายสุรพงษ์ ชัยนาม

อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูต

กระแสกดดันให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกออกหมายเรียกฐานเป็นผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินสุวรรณภูมินั้น โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพราะในยุโรปมีการชุมนุมปิดสนามบินกันมา 60-70 ปีแล้ว อย่างประเทศอิตาลีเคยถูกปิดสนามบินเป็นเดือนๆ อีกทั้งยังเป็นพนักงานของสนามบินที่นัดสไตร๊ค์เพื่อเรียกร้องการขึ้นเงินเดือน ซึ่งถือเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

ขณะที่ พธม.ชุมนุมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้โดยส่วนตัวมีความใกล้ชิดกับนายกษิต เพราะเคยรับราชการกระทรวงการต่างประเทศมาในรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงมีโอกาสพบปะและพูดคุยกันอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม นายกษิตไม่เคยมาปรับทุกข์กรณีถูกออกหมายเรียกฐานเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะมีทีมทนายส่วนตัวอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่า เพราะเดิมไม่มีชื่อนายกษิต แต่มาถูกเพิ่มชื่อภายหลัง

@ การออกหมายเรียกนายกษิตจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศหรือไม่ โดยเฉพาะรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะประชุมเดือนกรกฎาคมนี้

-ไม่คิดว่าจะมีผลกระทบ เพราะขณะนี้เป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหา เชื่อว่าประเทศต่างๆ จะเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักการเมืองของหลายประเทศถูกแจ้งข้อกล่าวหา และยังไม่ยอมลาออกจนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะกลายเป็นประเด็น

"นายกษิตจะได้รับผลกระทบก็ต่อเมื่อรัฐบาลหรือพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายกษิตบอกปัดความรับผิดชอบ ตัดหางปล่อยวัด ซึ่งต่างประเทศอาจจะมองได้ว่าขนาดพรรคคุณยังไม่เอาคุณเลย แต่นี่ไม่ใช่ เพราะทั้งแกนนำรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังสนับสนุนนายกษิต ดังนั้นสถานะของนายกษิตจึงไม่ได้ง่อนแง่น เพราะยังได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล ถ้าประเทศไหนจะติดต่อเรื่องการต่างประเทศกับไทย ก็ต้องติดต่อผ่านนายกษิตในฐานะที่เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปติดต่อกับคนอื่น"

@ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังอุ้มนายกษิตจะทำให้รัฐบาลมีปัญหาหรือไม่ เพราะกระแสต่อต้านแรงมาก

-เรื่องนั้นไม่ขอวิจารณ์ แต่ประเทศต่างๆ คงไม่สนใจว่ากลุ่มไหนจะวิจารณ์อย่างไร จะต่อต้านอย่างไร เพราะเป็นเรื่องภายในของเรา ต่างประเทศจะสนใจเพียงว่าขณะนี้นายกษิตยังเป็นผู้แทนของรัฐบาลที่ต้องให้ความเคารพและต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

@ ถ้านายกษิตต้องพ้นจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ จำเป็นหรือไม่ว่าตำแหน่งดังกล่าวต้องเป็นโควต้าของ พธม.

-ขอปฏิเสธจะให้ความเห็น เหตุการณ์ยังไม่เกิด แต่สำหรับผมไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด และคิดว่าคงเล่นการเมืองในยุคสมัยนี้ไม่ได้ แม้จะเคยร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีก็ตาม

นายเทพไท เสนพงศ์

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าติดตามความเห็นของนักวิชาการ คิดว่าร้อยละ 90 คิดว่านายกษิต ภิรมย์ ยังเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต่อไป เรื่องนี้ยังมีข้อเท็จจริงอีกยาวไกล เพราะเพิ่งเรียกผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อการร้าย ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ารุนแรงเกินไป

"เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ตำรวจเคยตั้งข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นกบฏในคดีบุกยึดทำเนียบรัฐบาล แต่เมื่อยื่นคัดค้านต่อศาลให้ถอนข้อกล่าวหาก็เป็นผลสำเร็จมาแล้ว เรื่องนี้ควรใช้เงื่อนไขทางกฎหมายให้ศาลพิจารณาตามข้อกล่าวหา ว่าข้อกล่าวหาก่อการร้ายเกินเหตุไปหรือไม่ ต้องมีกระบวนการประมวลข้อเท็จจริง หากไม่เข้าข่ายข้อหาดังกล่าวอาจพิจารณาเปลี่ยนก็ได้ วันนี้เชื่อว่าจากพฤติกรรมทั้งหมดของนายกษิตน่าจะรอดพ้นจากข้อกล่าวหานี้ไปได้ จึงมั่นใจว่านายกษิตเหมาะสมทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป"

ส่วนที่ระบุว่าพฤติกรรมของนายกษิตจะรอดพ้นจากข้อหาก่อการร้ายอะไรทำให้เชื่อแบบนั้น เพราะนายกษิตไม่ใช่แกนนำ พธม. แต่เป็นแค่วิทยากรขึ้นเวทีเท่านั้น และไม่มีอาวุธ มีเพียงไมโครโฟนกับปากกา จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดว่าก่อการร้าย

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม

แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี

และอดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

กรณีที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหานายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าข่ายเป็นผู้ก่อการร้ายจากการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ตามหลักกระบวนการของกฎหมายต้องดูพฤติกรรม จุดมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ว่าเป็นขบวนการก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งผู้ก่อการร้ายต้องเป็นการกระทำที่มุ่งทำร้ายชาติทำลายประเทศอย่างยิ่งใหญ่ แต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรอาจจะเลยเถิดบ้าง แต่ต้องดูว่า พธม.มีวัตถุประสงค์ มีพฤติกรรมที่จ้องทำร้ายชาติบ้านเมืองหรือไม่ ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายประเทศชาติ ซึ่งแตกต่างจากการชุมนุมของอีกฝ่ายที่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายบ้านเมืองชัดเจน

นายอนันต์ ทองแก้ว

อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สงขลา

กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน้าตาของประเทศอีกกระทรวงหนึ่ง นายกษิต ภิรมย์ ควรแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อความสง่างาม อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นคนมีสัจจะ เพราะนายกษิตเคยพูดในช่วงเพิ่งเข้ารับตำแหน่งว่า หากถูกกล่าวหาจากตำรวจพร้อมลาออก

"ผมคิดว่านายกษิต ภิรมย์ ไม่มีความชอบธรรมมาก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ฉะนั้นจึงอย่าไปหวังอะไรมากนักกับการเมืองประเทศไทย แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังโยนให้นายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้ตัดสินใจเอง"

นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร

อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพรรคประชาธิปัตย์คงไม่สามารถทนแรงบีบจากเวทีประชาคมจากนานาชาติได้ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถชี้แจงเหตุผลและการเยียวยาความเสียหายนับแสนล้านบาทจากเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบินสุวรรณภูมิ

นายประเทือง กรุดทอง

นายกองค์การบริหารส่วนตำบล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคยประกาศจะลาออกหากถูกดำเนินคดี แต่ล่าสุดกลับคำไม่ลาออกแสดงให้เห็นว่าไม่มีสัจจะ และไม่ควรเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เพราะคำพูดไม่มีมาตรฐาน ไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งในสายตาของนานาชาติไม่ยอมรับ ถือว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ เท่ากับถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง

ข้อกล่าวหา"กษิต-พันธมิตร"

"คดีปิดสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง"

คดีปิดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก ก่อการร้าย บุกรุกทำให้เสียทรัพย์ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เหตุเกิดระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2551

คดีปิดสนามบินดอนเมือง พนักงานสอบสวนตั้งข้อหากระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้สั่งการ และเป็นผู้ใช้ยุยงส่งเสริม โฆษณา หรือประกาศ ร่วมกันบุกรุกสำนักงาน หรืออสังหาริมทรัพย์ ในความครอบครองของผู้อื่น ร่วมกันบุกรุกสำนักงาน หรืออสังหาริมทรัพย์ ในความครอบครองของผู้อื่น โดยเป็นผู้ใช้ ยุยงส่งเสริม โฆษณา หรือประกาศ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2551

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0104090752&sectionid=0101&selday=2009-07-09

จากคุณ	: sao..เหลือ..noi
เขียนเมื่อ	: 9 ก.ค. 52 08:13:56 A:58.8.167.221 X: