ทัศนคติอันตรายต่อบ้านเมือง...

ทัศนคติฟ้องตัวตน‘มาร์ค’  
     

ศรัทธาไม่ได้เกิดจากปาก แต่เกิดจากผลงาน เกิดจากความพึงพอใจของประชาชน

งาน ฉลองแซยิด 60 ปี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีประชาชนแห่แหนกันไปร่วมงานตามวัดและสถานที่ต่างๆที่จัดงานเกือบจะทุก จังหวัดทั่วประเทศบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง

งานนี้ไปกันโดยนัดหมาย แต่ไม่มีการบังคับ

การที่คลื่นประชาชนจะแห่แหนไปร่วมงานทำบุญวันเกิดให้กับใครสักคนที่ญาติก็ไม่ใช่ จึงมีความหมายที่สื่อให้เห็นถึงอะไรหลายอย่าง

อย่างหนึ่งก็คือความ “ศรัทธรา” และ “ความรัก” ที่มีต่อตัวบุคคลคนนั้น

ใน ที่นี้จะไม่ขอพูดถึงเรื่องการจัดงานบุญครบรอบ 60 ปีของอดีตนายกรัฐมนตรีมากนัก แต่ที่อยากกล่าวถึงคือนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายอภิสิทธิ์แสดงทรรศนะที่น่าสนใจและน่ากล่าวถึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อถูกตั้งคำถามเรื่องวันเกิดของอดีตนายกฯทักษิณ

นายอภิสิทธิ์บอกว่า

“เนื่องในวันเกิดวันนี้ท่านคงเหมือนคนอื่น คงอยากมีความสุข หากท่านจะดวงตาเห็นธรรม ท่านจะมีความสุขมากขึ้น”

ทรรศนะอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงตัวตนคนชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

นาย อภิสิทธิ์ยังคงมีความเชื่ออย่างฝังใจในข้อกล่าวหาที่มีต่ออดีตนายกฯทักษิณ หลายเรื่อง และยังคงเรียกร้องให้อดีตนายกฯทักษิณกลับมารับโทษในคดีที่ศาลตัดสินไปแล้ว และให้กลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมในอีกหลายคดีที่ยังหลงเหลืออยู่

ถือเป็นทัศนคติของคนที่ยอมจำนน และเป็นทัศนคติของคนที่เห็นแต่ประโยชน์ทางการเมืองที่ตนและพวกพ้องจะได้รับ

นายอภิสิทธิ์ก็รู้ว่ากระบวนการที่เรียกกันว่ากระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับอดีตนายกฯทักษิณนั้นเป็นกระบวนการไม่ปรกติ

ทหาร ลากรถถังออกมายึดอำนาจ ตั้งคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นกรรมการสอบสวนคดีความต่างๆ กระบวนการสอบสวน กระบวนการทำงานก็ไม่ได้เป็นไปอย่างเปิดเผยโปร่งใสเพียงพอ

จึงอยากถาม กลับนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้าวันนี้ทหารลากรถถังออกมายึดอำนาจ ประกาศยึดทรัพย์ ตั้งคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมาตรวจสอบ ตั้งข้อกล่าวหาให้ร้าย

นายอภิสิทธิ์จะยอมรับได้หรือไม่ว่านั่นคือกระบวนการยุติธรรม

ไม่อยากฟันธงแต่ต้องขอบอกว่านายอภิสิทธิ์ก็คงไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ถ้าเริ่มต้นไม่ยอมทำความเข้าใจกระบวนการที่มันไม่ปรกติเสียแล้ว ทัศนคติของนายอภิสิทธิ์และลิ่วล้อก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

ทัศนคติอย่างนี้แหละที่เป็นอันตรายต่อการสร้างความสมานฉันท์ เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย

ถ้ามองเอาแต่ประโยชน์ตนและประโยชน์พวกพ้องเป็นตัวตั้ง ประโยชน์บ้านเมือง ประโยชน์ส่วนรวมก็จะเป็นเรื่องเล็กและมาทีหลัง

จึง ไม่แปลกอะไรที่นายอภิสิทธิ์และลิ่วล้อถึงพยายามเตะถ่วงและไม่เห็นด้วยในทุก เรื่องที่จะสร้างความสมานฉันท์และสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดใน ประเทศนี้

ชัดเจนที่สุดก็คือการเตะถ่วงการแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ

ทั้งที่เป็นข้อเสนอจากคณะกรรมการที่ตัวเองเป็นผู้เสนอให้ตั้งขึ้นมาแท้ๆ ยังมีทีท่าจะโยนทิ้งไม่ทำตาม

ทัศนคติอย่างนี้นี่แหละที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง

จากคุณ	: จอมยุทธเสเพล
เขียนเมื่อ	: 29 ก.ค. 52 08:31:31 A:125.25.14.11 X: