ความคิดเห็นที่ 1 ม่ายไหวอะ วันนี้มีกระทู้ ดูดกิ๊ฟ ไม่เป็นไรเด๋วเย็นนี้ถูกหวย 555 จากคุณ : แก้วโค้งโล้ง เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 15:48:15 A:118.172.91.204 X:

ความคิดเห็นที่ 2 กิ๊ฟที่ว่านี่มันคืออะไรน่ะครับท่าน   คห1  ผมไม่เคยรู้จัก   แต่ถ้าเป็นคนชื่อกิ๊ฟละก็พอเข้าใจนะท่าน จากคุณ : ชายบางกอก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 15:51:40 A:202.176.162.209 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เหมือนที่เขาว่าคงจะจริง เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นก่ารร้องทุกข์หรือขออภัยโทษ หรือทั้ง 2 อย่า งทำไมไม่แยกให้ชัดละครับ  2 ล้านชื่อ ร้อง ทุกข์ อีก 2 ล้านชื้อ ขออภัยโทษ คงไม่ต้องโต้กันไปมา จากคุณ : มัสแตง เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 15:55:10 A:222.123.176.23 X:

ความคิดเห็นที่ 4 จะสงสัยไปใย ท่าน มัสแตง      คนเป็นล้านๆ คน เค้ารวมใจเป็นหนึ่งเดียว จะมีใครบังคับก็หาไม่   หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ  จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน   ประชาชนจำนวนมากมายขนาดนี้  มีตากันคนละสองดวง   ทุกๆ คนมีสมอง ขนาดเท่าๆ กับคุณ   ทุกๆคนมีสิทธิตัดสินใจด้วยตัวของเค้าเอง  อย่าไปขัด ขวางเค้าอีกเลยครับ จากคุณ : Lcsa เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:14:15 A:125.24.61.140 X:

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท.โพสต์ไว้ถูกต้องครับ ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ ตามที่ผ่านมาเป็นดังนี้ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:44:30 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ โดยออกเป็นพระราชกฤษฏีกา อย่างปี 2550 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:45:39 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งที่ผ่านมาตามประเพณีปฏิบัติ ต้องเป็นฏีกาที่ยื่น ขึ้นมาอย่างถูกต้องตามที่กฏหมายบัญญัติในกฏหมายที่เกี่ยวข้อง คือประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฏหมายพระราชธรรมนูญ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:47:54 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ถามคุณ thyrocyte การที่ทหารฉีกรัฐธรรมนูญทำรัฐประหาร ซึ่งผิดกฏหมาย ทำไมถึงทำได้ จากคุณ : นกเบิกอรุณ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:56:13 A:125.24.40.97 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ทำรัฐประหารแล้วเขียนรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมตัวเอง มันมีประเพณีปฏิบัติที่ไหนเหรอ ทุเรศ...ยังจะมาออกรับแทนอีกนะไทฟอร์ย แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 17:22:48 จากคุณ : Shooting Star เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:21:30 A:203.156.60.195 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 8     ถามคุณ thyrocyte การที่ทหารฉีกรัฐธรรมนูญทำรัฐประหาร ซึ่งผิดกฏหมาย ทำไมถึงทำได้ จากคุณ : นกเบิกอรุณ     เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 16:56:13 A:125.24.40.97 X: ---------------------------------------------------------------------------- ตามที่ทราบมา ในระหว่างที่รัฐธรรมนูญถูกยกเลิกโดยคณะรัฐประหาร คณะรัฐประหารเข้าถืออำนาจรัฐาธิปัตย์ จึงมีอำนาจออกคำสั่งที่มีอำนาจทางกฏหมายเพื่อใช้บังคับ จากนั้นเมื่อมีการพระราชทานรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการ ตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมออกมา  หรือบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเลยว่า การกระทำรัฐประหารนั้นให้ เป็นการกระทำที่ไม่มีความผิด จึงไม่มีคณะรัฐประหารรายใด เคยตกอยู่ในฐานะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ต้องคำพิพากษาเลยสักครั้ง ซึ่งต่างจาก นักโทษหรือผู้ต้องหาที่จะกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้การคุมตัวของราชการ จึงได้รับโปรดเกล้าพระราชทานอภัยโทษ หากวันหนึ่งข้างหน้า คณะรัฐประหารรายใด ตกเป็นนักโทษและต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็คงจะต้อง ทำตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ทรงโปรดเกล้าให้ไว้ โดยเข้ามาอยู่ในการคุมตัวของทางราช การเสียก่อน คณะรัฐประหารที่ตกเป็นนักโทษเหล่านั้นจึงจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:35:47 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 9     ทำรัฐประหารแล้วเขียนรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมตัวเอง มันมีประเพณีปฏิบัติที่ไหนเหรอ ทุเรศ...ยังจะมาออกรับแทนอีกนะไทฟอร์ย แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 52 17:22:48 จากคุณ : Shooting Star     เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:21:30 A:203.156.60.195 X: ----------------------------------------------------------------------------- กรุณาควบคุมสติและมีวุฒิภาวะในการโพสต์ด้วยครับ ที่ผ่านมาเขาทำรัฐประหารและนิรโทษกรรมกัน ทุกครั้งก็เป็นเช่นนั้นมาเสมอ หรือหากคุณ Shooting Star มีข้อมูลต่างไปจากนี้นำมาเสนอได้ กรุณา อย่าแสดงตนเป็นคนไร้ซึ่งการควบคุมอารมณ์และไร้วุฒิภาวะครับ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:38:37 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นั้นระบุไว้เกี่ยวกับเรื่อง การขอพระราชทานอภัยโทษไว้ ดังนี้ มาตรา ๒๖๑  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์พร้อมทั้งถวายความ เห็นว่าควรพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดถวายเรื่องราว ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นเป็นการสมควร จะถวายคำแนะนำต่อ พระมหากษัตริย์ขอให้พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องคำพิพากษานั้นก็ได้ มาตรา ๒๖๑ ทวิ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นเป็นการสมควรจะถวายคำแนะนำต่อพระมหากษัตริย์ขอให้พระราช ทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษก็ได้ การพระราชทานอภัยโทษตามวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎี จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:43:55 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนการนิรโทษกรรมผู้ทำรัฐประหารนั้น เนื่องจากผู้ทำรัฐประหารไม่ได้ตกเป็นนักโทษของทางราชการ การนิรโทษกรรมจึงออกมาเป็นพระราชบัญญัติหรือกฏหมายที่เทียบเท่าพระราชบัญญัติเช่นพระราชกำหนด ดังตัวอย่างเช่น พระราชกำหนดนิรโทษกรรมคณะราษฏร พศ.2475 เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่า การนิรโทษกรรม นี้ต้องใช้กฏหมายที่มีศักดิกฏหมายสูงกว่าพระราชกฤษฏีกา คือต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราช กำหนดเลย จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:49:11 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 14 การนิรโทษกรรมแก่คณะรัฐประหารจึงแตกต่างไปจากการพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษ ผู้ต้องคำพิพากษา เพราะคณะรัฐประหารยังไม่ได้ตกเป็นนักโทษ ลองอ่านการนิรโทษกรรมที่มีมาตลอดได้ http://www.krisdika.go.th/lawHeadPDF.jsp?formatFile=pdf&hID=0 http://www.krisdika.go.th/lawHeadPDF.jsp?formatFile=pdf&hID=6 http://www.krisdika.go.th/lawHeadPDF.jsp?formatFile=pdf&hID=8 http://www.krisdika.go.th/lawHeadPDF.jsp?formatFile=pdf&hID=11 ฯลฯ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 18:04:06 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 15 คนที่ถูกศาลตัดสินว่าผิด  ไม่ได้แสดงว่าเขาผิดจริงๆเสมอไปครับ  บางครั้งที่ศาลตัดสินเช่นนั้น  เพราะหลักฐานจากต้นทางคือ พนักงานสอบสวน  อัยการ ฯลฯส่งมา  โดยที่จำเลยไม่สามารถหาหลักฐานมาโต้แย้งได้  กรณีตัดสินผิด  ลงโทษผิดในแต่ละปี มีไม่ใช่น้อยครับ ส่วนเรื่องทูลเกล้าถวายฎีกานั้น การถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ทำได้ 2 ทาง       1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ภาค 7 ม.259 – 261 เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ  เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการถึงที่สุดแล้ว  แม้ในบางครั้งจะรู้ว่า  การตัดสินและลงโทษนั้นไม่เป็นธรรม  แต่โดยกระบวนการยุติธรรมเอง  ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก   และเพราะว่า เดิมเราปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์  ซึ่งอำนาจทั้งด้านนิติบัญญัติ  บริหารและตุลาการ เป็นของพระมหากษัตริย์เมื่อเปลี่ยนมาเป็นระบอบประชาธิปไตย  อำนาจทั้ง 3 มีองค์กรมาดำเนินการแทน คือ สภา  รัฐบาล และศาล  แต่ความเชื่อในเรื่อง ธรรมราชา อันมีคุณธรรมหลักคือ ทศพิศราชธรรม  จึงทำให้มีการคงอำนาจในส่วนตุลาการไว้ที่พระมหากษัตริย์ส่วนหนึ่ง  นั่นคือ อำนาจในการอภัยโทษ  เป็นการสร้างความยืดหยุ่นให้กฎหมาย   การที่พระราชทานอภัยโทษ  ไม่เป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาล  ไม่ได้แสดงว่าผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษไม่ผิด  เพียงแต่ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษหรือกำลังรับโทษอยู่  ก็ให้พ้นจากโทษนั้นไป  อาจเพราะเคยมีคุณงามความดี หรือเหตุอื่นแล้วแต่ทรงวินิจฉัย   2 ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา7  ซึ่งบัญญัติว่า ...ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...เป็นหลักที่ใช้ในการถวายฎีการ้องทุกข์ การที่ประชาชนเข้าชื่อจำนวนมาก  เพื่อทูลเกล้าถวายฎีกาให้ทรงโปรดพิจารณาบำบัดทุกข์แก่ปวงชน  ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 7  นั้นจึงเป็นการทำตามกฎหมายและธรรมเนียมปฎิบัติที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ  สะท้อนให้เห็นว่ามีคนเดือดร้อนเป็นทุกข์จำนวนมาก  จึงไม่ใช่เป็นการใช้พลังมวลชนกดดันพระองค์   ตามวิธีแรกเป็นเรื่องของคุณทักษิณที่ต้องทำเอง เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษโดยตรง ส่วนวิธีที่2 เป็นการใช้สิทธิของประชาชน  เป็นการถวายฎีการ้องทุกข์  เหมือนกรณีที่มีคนขอพระราชทานนายกฯตามม.7  การทูลเกล้าถวายฎีกาทั้งเพื่อขอพระราชทานนายกฯและเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ  เป็นสิทธิที่ทำได้ คือ มีสิทธิที่จะทูลเกล้าถวายฎีกาได้ แต่กรณีขอพระราชทานนายกฯ  พระองค์พระราชทานวินิจฉัยว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย  เพราะการได้มาซึ่งนายกฯมีวิธีการตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญแล้ว  ไม่มีมาตราใดบัญญัติว่าทรงมีพระราชอำนาจทำได้  พระองค์จึงไม่พระราชทานให้ และทรงตำหนิ ต่างกับกรณีขอพระราชทานอภัยโทษ  ซึ่งมีบัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูย2550 มาตรา 191 ที่บัญญัติว่า....พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ... ดังนั้นกรณีนี้จึงเป็นการถวายฎีกาให้ทรงทราบความเดือดร้อนของประชาชน  ซึ่งพระองค์สามารถพระราชทานความช่วยเหลือบำบัดทุกข์ให้ปวงชนได้หลายทางเท่าที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้  ซึ่งทางหนึ่งก็คือ  การพระราชทานอภัยโทษ   ตามรัฐธรรมนูญ2550 มาตรา 191  เพื่อให้สามารถนำความรู้ความสามารถของคุณทักษิณมาช่วยประเทศชาติได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา191 มีฐานะสูงกว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาครับ  ดังน้นพระองค์มีพระราชอำนาจตรามาตรา191  โดยไม่ถูกจำกัดว่าขัดกับกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 18:10:40 A:124.120.98.193 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ---------------------------------------------------------------------------- ตามที่ทราบมา ในระหว่างที่รัฐธรรมนูญถูกยกเลิกโดยคณะรัฐประหาร คณะรัฐประหารเข้าถืออำนาจรัฐาธิปัตย์ จึงมีอำนาจออกคำสั่งที่มีอำนาจทางกฏหมายเพื่อใช้บังคับ จากนั้นเมื่อมีการพระราชทานรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการ ตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมออกมา  หรือบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเลยว่า การกระทำรัฐประหารนั้นให้ เป็นการกระทำที่ไม่มีความผิด จึงไม่มีคณะรัฐประหารรายใด เคยตกอยู่ในฐานะผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ต้องคำพิพากษาเลยสักครั้ง ซึ่งต่างจาก นักโทษหรือผู้ต้องหาที่จะกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้การคุมตัวของราชการ จึงได้รับโปรดเกล้าพระราชทานอภัยโทษ หากวันหนึ่งข้างหน้า คณะรัฐประหารรายใด ตกเป็นนักโทษและต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็คงจะต้อง ทำตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ทรงโปรดเกล้าให้ไว้ โดยเข้ามาอยู่ในการคุมตัวของทางราช การเสียก่อน คณะรัฐประหารที่ตกเป็นนักโทษเหล่านั้นจึงจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ จากคุณ : thyrocyte     เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 17:35:47 A:124.121.34.173 X:     ----------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณครับ คุณ thyrocyte งั้นแสดงว่า ใครก็ตามที่สามารถทำรัฐประหาร สำเร็จก็ไม่ต้องรับผิดใดๆ ไม่ว่าประเทศชาติจะเสียหายแค่ไหน ใช่ไม๊ครับ จากคุณ : นกเบิกอรุณ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 18:22:42 A:125.24.40.97 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ระเบียบวิธี ขั้นตอนปฎิบัติ เป็นเรื่องน้อย สิทธิของคนเสื้อแดงเรือนล้านสำคัญกว่า จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 18:29:56 A:61.19.66.241 X:

ความคิดเห็นที่ 18 หากวันหนึ่งข้างหน้า คณะรัฐประหารรายใด ตกเป็นนักโทษและต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็คงจะต้องทำตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ทรงโปรดเกล้าให้ไว้ โดยเข้ามาอยู่ในการคุมตัวของทางราชการเสียก่อน คณะรัฐประหารที่ตกเป็นนักโทษเหล่านั้นจึงจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ *********************** หรืออาจมีประชาชนร้องทุกข์เช่นกรณีคุณทักษิณก็ได้ครับ  ถ้าประชาชนเห็นว่า คณะรัฐประหารนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม  มีผลให้ประชาชนเดือดร้อนจึงรวมตัวกันเพื่อพระราชทานอภัยโทษให้ จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 19:10:20 A:124.120.98.193 X:

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านมาไม่หมดแล้วเอามาเขียนมั่วๆ ไปอ่านมาใหม่  อ่านให้หมด ระเบียบ คุณลักษณะ ที่เข้าข่าย ได้ข้อมูลไม่ครบแล้วก็เที่ยวทำให้สังคมวุ่นวาย    อ่านซะจมูกจะได้ไม่มีรู     แต่ที่แน่ๆ สมควรล้มฎีกานะ หนีคดีที่ตัดสินแล้ว เป็นนักโทษหนีคุก มาอ้างความชอบธรรมอะไร อีกหน่อยก็เป็นบรรทัดฐานตัวอย่างไม่ดีแก่ประเทศ แล้วรัฐบาลนี้ก็ไร้น้ำยา  ไม่มีปัญญาจับมาติดคุกปล่อยให้พล่ามอยู่ได้ ก็สมควรที่บ้านเมืองวุ่นวาย  กลับมามอบตัวติดคุกสู้คดี แล้วฎีกา  น่าจะสวย สร้างภาพแหกตาประชาชนรากหญ้าว่าเป็นฮีโร่จะได้คนสงสารมากกว่านี้ ตอนนี้เวทนา สงสารประเทศชาติ จากคุณ : คนชลบุรี เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 20:27:05 A:125.25.134.51 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกหาบแดง เจอข้อมูล ข้อเท็จจริงเข้าไป ถึงกับแถไม่ออก หาทางเดินกลับไม่ถูกเลยหรือครับ แต่ก็ยังมีบางความเห็น ก็ยังเข้ามาแถจนได้ อนาถแท้ๆ... จากคุณ : หนอนข้าวโพดอ่อน เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 20:34:38 A:119.31.42.96 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 15     ............ ............ ........... ต่างกับกรณีขอพระราชทานอภัยโทษ  ซึ่งมีบัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูย2550 มาตรา 191 ที่บัญญัติว่า....พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ... ดังนั้นกรณีนี้จึงเป็นการถวายฎีกาให้ทรงทราบความเดือดร้อนของประชาชน  ซึ่งพระองค์สามารถพระราชทานความช่วยเหลือบำบัดทุกข์ให้ปวงชนได้หลายทางเท่าที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้  ซึ่งทางหนึ่งก็คือ  การพระราชทานอภัยโทษ   ตามรัฐธรรมนูญ2550 มาตรา 191  เพื่อให้สามารถนำความรู้ความสามารถของคุณทักษิณมาช่วยประเทศชาติได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา191 มีฐานะสูงกว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาครับ  ดังน้นพระองค์มีพระราชอำนาจตรามาตรา191  โดยไม่ถูกจำกัดว่าขัดกับกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จากคุณ : เติ้ง1234   เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 18:10:40 A:124.120.98.193 X: ----------------------------------------------------------------------------- ตามกฏหมายแล้ว ที่กล่าวว่า พระราชอำนาจตรามาตรา191 ไม่ถูกจำกัดว่าขัดกับกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือกฏหมายอื่นๆนั้นถูกต้องครับ แต่ที่ผ่านมา องค์พระประมุขทรงให้ความสำคัญแก่กฏหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว การพระราชทานอภัยโทษที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา จึงเกิดเฉพาะแต่นักโทษที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนในประมวลกฏหมาย ที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง ยังไม่ปรากฏว่าได้มีการพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษที่หลบหนีคดีมาก่อน หรือนักโทษ ที่ปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามประมวลกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ จากการพระราชทานอภัยโทษที่ผ่านๆมา จึงทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า องค์พระประมุขทรงให้ความสำคัญ แก่กฏหมายและประมวลกฏหมายต่างๆ และไม่ทรงใช้พระราชอำนาจ หากมีการละเมิดต่อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 21:09:01 A:124.121.34.173 X:

ความคิดเห็นที่ 22 จนพระองค์ต้องดำรัสคำว่าทำไม้ได้มันมั่ว   ไม่เป็นประชาธิปตัย จากคุณ : ชายบางกอก แล้วคุณจะไปเจริญรอยตาม(สิ่งที่พันธมิตรเคยทำผิด)หาพระแสงอะไรหรือครับ จากคุณ : MagicMyth เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 21:20:51 A:192.168.50.221 X:119.42.97.176

ความคิดเห็นที่ 23 มันน่าหัวร่อนัก พวกที่อิงแอบกับอำมาตย์ ตีความกฏหมายเข้าข้างกัน ซึ่งขัดกับ หลักประชาธิปไตย อย่างชัดเจน    มีอย่างที่ไหน ทำรัฐประหารไม่ผิด  คนถูกรัฐประหารกลับผิด     จะไม่ว่าอะไรเลย ถ้าใช้กระบวนการยุติธรรมที่เป็นที่ยอมรับของสากลในระบอบประชาธิปไตย ในการดำเนินการกับอดีตนายกทักษิณ   เลิกเล่นสำนวน เลิกตีความมั่วๆได้แล้ว   มองตรงไปที่ปัญหา  ยอมรับมันเสีย แล้วร่วมกันแก้ไขจะดีกว่า จากคุณ : นกเบิกอรุณ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 52 21:50:20 A:125.24.38.111 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 21 การพระราชทานอภัยโทษที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา จึงเกิดเฉพาะแต่นักโทษที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนในประมวลกฏหมายที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง ยังไม่ปรากฏว่าได้มีการพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษที่หลบหนีคดีมาก่อน หรือนักโทษ ที่ปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามประมวลกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ จากการพระราชทานอภัยโทษที่ผ่านๆมา จึงทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า องค์พระประมุขทรงให้ความสำคัญแก่กฏหมายและประมวลกฏหมายต่างๆ และไม่ทรงใช้พระราชอำนาจ หากมีการละเมิดต่อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ****************** นั่นเป็นเพราะผู้ขอพระราชทานอภัยโทษ  ส่วนใหญ่เป็นผู้ทำผืดตามประมวลกฎหมายอาญา  จึงใช้ช่องทางตามป.วิอาญา  คือ วิธีที่1ตามที่กล่าวไว้ในความเห็นที่15 ครับ ส่วนกรณีคุณทักษิณนี้  เป็นความผิดอื่นที่ไม่ใช่ตามประมวลกฎหมายอาญา  คือ ไม่ใช่คดีอาญา  แต่เป็นคดีที่ภาษากฎหมายเรียกว่า คดีที่มีโทษทางอาญาครับ  และเมื่อเลือกใช้ตามช่องทางที่2  จึงไม่เข้าข้อจำกัดตามช่องทางที่1 ที่คุณกล่าวเป็นความคิดเห็นของคุณ  แต่ไม่ใช่ความเห็นตามหลักกฎหมาย  ก็รับฟังไว้ได้  ครับ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 52 17:09:46 จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 52 17:08:23 A:124.122.138.189 X: