PANTIP.COM : P8178000 [[[[[ มาย้อนอดีตกับช่วง พฤษภาทมิฬ กรณีตัวอย่างเทียบเคียงปัจจุบัน ]]]]] []

ความคิดเห็นที่ 10

ผมดูจากสถานการณ์อ้างอิงนะครับ
คุณคงไม่ต้องรอให้เกิดการปะทะกันก่อนถึงจะออกมาดำเนินการใดๆทีหลังนะครับ

และประเด็นสำคัญผมก็ไม่ได้ลงชื่อถวายฎีกาด้วย ผมเชื่อว่าการยื่นฎีกาอาจจะไม่เป็นผลเพราะในเนื้อหาของฎีกาส่วนหนึ่ง และประเมินการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามด้วยอีกส่วนหนึ่ง

และในกรณีนี้ถ้ามีใครออกมาระงับศึกภายในประเทศได้ก็คงเป็นพระองค์ท่านเท่านั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเพราะไม่มีใครแล้วที่จะทำให้คู่กรณีทั้งสองเคารพยำเกรง

อย่าคิดเพียงว่าเป็นการกดดันพระราชอำนาจ แต่พวกที่ออกมาต่อต้านการค้านฎีกานั้นกลับเป็นพวกที่ก้าวล่วงละเมิดพระราชอำนาจเสียเอง ลองไปอ่านรัฐธรรมนูญให้ดีๆนะครับ (เรื่องประเด็นการอภัยโทษอะไรนั้นมันเป็นเพียงเรื่องปลีกย่อยที่ถูกนำเอามาเบี่ยงเบนไปอีกทีหนึ่ง)

ผลของการยื่นฎีกาอาจจะเป็นได้หลายๆทาง
1.ฎีกาตกไป
2.รับฟังฎีกาและอาจจะอภัยโทษให้ทักษิณ (ผมว่าเป็นไปได้น้อย)
3.รับฟังฎีกาและอาจจะมีพระราชดำรัสแนวทางการแก้ไขหรือเรียกให้มาปรองดองกัน (ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางนี้เพราะดูจะเป็นไปได้และดูเป็นทางออกแบบละมุนละม่อมกับทั้งสองฝ่าย)
4.อื่นๆ แล้วแต่พระราชวินิจฉัย

โดยส่วนตัวผมจะยึดอ้างตาม รัฐธรรมนูญนะครับ
และยึดปฎิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนประกอปเป็นหลัก
โดยเน้นที่ต้องรู้จัก สิทธิของตนเอง และไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น

การที่ไปคัดค้านฎีกาเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น และอาจจะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ (เป็นการละเมิดสิทธิของพระมหากษัตริย์ในการตัดสินฎีกาอีกทีหนึ่ง ถ้าจะอ้างว่าจงรักภักดีก็ไม่ควรจะทำ ดูในรัฐธรรมนูญประกอบ)

สิทธิของคุณสามารถทำได้เพียง เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเท่านั้น

หากไม่เห็นด้วยจริงๆก็น่าจะเป็นหัวข้อการถวายฎีกาแสดงความไม่เห็นด้วย ไม่ใช่หัวข้อการถวายฎีกาคัดค้าน (แล้วมันจะเป็นการกดดันพระราชอำนาจด้วยไหม?? ถ้าเสื้อแดงถวายฎีกาเป็น คุณยื่นคัดค้านก็ยิ่งเป็น2เท่า)

ถ้าสมมุติการถวายฎีกาคัดค้านที่พวกคุณเรียกร้องสามารถทำได้ หากเกิดมีคนมายื่นคัดค้านฎีกาเรื่องทั่วไปจะทำอย่างไร สมมุติมีคนทุกข์ยากถวายฎีกาแสดงความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตไม่มีที่อยู่ เกิดมีคนถวายฎีกาคัดค้านว่ายังมีคนอื่นๆในประเทศไทยที่ยังทุกข์เหมือนกันหรือมากกว่า มันจะไม่เป็นธรรมเสมอภาคกับคนอื่นๆ หากมีแค่คนหนึ่งคนใดได้รับพระเมตตา หรือหากมีคนป่วยไข้ ก็ย่อมมีคนที่อาจจะป่วยไข้เป็นโรคร้ายแรงกว่า ซึ่งควรจะได้รับการเยียวยาด้วยเช่นกัน ถ้ามัวแต่คอยตัดสินเองแทนท่านฎีกาก็ไม่มีความหมายตามแต่เจตนารมณ์ของบรรพ์กษัตริย์ในอดีตหรอก

สุดท้ายนี้ผมมีความเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความจำเป็นต่อประเทศไทย ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในโลก ต้องย่อมรับนะครับทุกอย่างมีเกิดมีการเปลี่ยนแปลงและมีดับสูญ ผมไม่อยากให้พวกที่อ้างว่าจะปกป้องสถาบันกลับมาเป็นตัวเร่งในการทำลายสถาบันลงเสียเอง โดยการที่ฟังแต่คนอื่น แต่ไม่เข้าใจเนื้อหาในรัฐธรรมนูญและเนื้อหาที่ว่าด้วยสิทธิหน้าที่และความเท่าเทียมกันของมนุษย์

จากคุณ : ไปกันใหญ่

เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 00:47:23 A:114.128.45.234 X: