 |
มติชน..วิเคราะห์ "การเมือง"ก่อน 17 สิงหาฯ "อภิสิทธิ์-ทักษิณ" ช่วงเวลา"ชิงไหว-ชิงพริบ"
|
|
วันนี้คอการเมืองต่างมองข้ามกาลเวลาไปที่วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะในวันดังกล่าวจะมีเหตุการณ์อันเกี่ยวพันกับการเมืองไทยจำนวน 2 เหตุการณ์
เหตุการณ์แรกคือ เป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาทของกรมวิชาการเกษตร
คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ยื่นฟ้องนักการเมือง และข้าราชการ จำนวน 44 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการทรัพย์สินใด ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเสียหายแก่รัฐ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดฐานฉ้อโกง
และในจำเลยทั้ง 44 คน มีชื่อนายเนวิน ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ รวมอยู่ด้วย
อย่าลืมว่า นายเนวินเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย และมีส่วนสำคัญที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีขึ้นมาได้
ดังนั้น การตัดสินของศาลในครั้งนี้จึงมีผล ไม่ว่าคณะผู้พิพากษาจะตัดสินออกมาในรูปแบบใด
ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีการกำหนดให้เกิดขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมเช่นเดียวกัน
คือการทูลเกล้าฯถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินให้จำคุก 2 ปี ในคดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อรูปก่อร่างขึ้นมาจาก "กลุ่มคนเสื้อแดง" โดยได้ประกาศเจตนารมณ์เอาไว้นานแล้วว่า จะล่ารายชื่อคนไทยเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
กระทั่งในที่สุด "กลุ่มคนเสื้อแดง" ก็ดำเนินการอย่างเป็นจริงเป็นจัง และนำเอาร่างคำถวายฎีกาออกมาโชว์ให้สาธารณชนรับรู้ พร้อมทั้งออกล่ารายชื่อ จนกำหนดวันทูลเกล้าฯคือวันที่ 17 สิงหาคม
แต่การกระทำดังกล่าวถูกต่อต้านจากรัฐบาล คณาจารย์ และกลุ่มประชาชนหมู่เหล่าต่างๆ
ในจำนวนนี้มีคำชี้แจงของกลุ่มคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบทความของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ที่ดูเหมือนจะชัดแจ้งที่สุด
โดยชี้ให้เห็นว่า ฎีกาดังกล่าวไม่ใช่ฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่ใช่ฎีการ้องทุกข์
เหตุหนึ่งเพราะเนื้อหาของฎีกาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และคัดค้านคำตัดสินของศาลฎีกา
เหตุหนึ่งเพราะตัวผู้เดือดร้อน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้แสดงเจตนาว่าจะขอทูลเกล้าฯถวายฎีกา
พร้อมกันนั้นยังเรียกขานฎีกาที่ "กลุ่มคนเสื้อแดง" จัดทำขึ้นว่าเป็น "ฎีกาการเมือง"
และยังระบุชัดแจ้งว่า หน้าที่ของหน่วยงานที่จะต้องขัดขวางมิให้มีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาการเมืองเช่นนี้ คือ รัฐบาล
รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี !
ดังนั้น การเมืองเรื่องการถวายฎีกาในขณะนี้จึงกลายเป็นเรื่องระหว่างฝ่ายหนึ่งคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามเคลื่อนไหวเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ กับอีกฝ่ายหนึ่งคือ นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผู้มีหน้าที่ในการยับยั้งมิให้มีการถวายฎีกาการเมือง
ขณะที่ประเด็นดังกล่าวได้กระตุ้นให้ความขัดแย้งทางความคิดของผู้คนในสังคม ซึ่งเงียบหายไปพักหนึ่ง กลับขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง
กระทั่งมีผู้เกิดอาการหวาดผวา หวั่นเกรงความเลวร้ายทางการเมืองจะเกิดขึ้น
บ้างก็หวาดผวาเหตุการณ์ "ไทยฆ่าไทย"
บ้างก็หวาดผวาเหตุการณ์ "ปฏิวัติ"
วันนี้ กระแสนำเสนอรัฐบาลสมานฉันท์ และรัฐบาลแห่งชาติ จึงถูกปลุกขึ้นมาอีกคำรบ
ท่ามกลางกระแสดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ทั้งนายอภิสิทธิ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการทูลเกล้าฯถวายฎีกา
ทั้งนี้เพราะรัฐบาลผสมพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพิ่งแถลงผลงาน 6 เดือนไปอย่างเงียบๆ
ขณะที่ความขัดแย้งภายในรัฐบาลก็มีขึ้นอย่างไม่เห็นจุดสิ้นสุด
จากความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ในเรื่องการบริหารงบประมาณ ตั้งแต่เรื่องข้าว เรื่องข้าวโพด ฯลฯ ขยายไปสู่ความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์ ออกอาการเคือง
กระทั่งการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และการแถลงผลงานรอบ 6 เดือนของรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล
พล.อ.ประวิตรไม่มาร่วมด้วย !
ขณะเดียวกัน โพลสำรวจความนิยมในตัวของรัฐบาล และความนิยมในตัวนายอภิสิทธิ์ก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ ขณะที่ความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด
ดังนั้น การดำเนินการกับเรื่องการทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจจะให้ผลบวกแก่รัฐบาลก็เป็นได้
เฉกเช่นเดียวกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ดำเนินการกับม็อบเสื้อแดงเมื่อช่วงเทศกาลวันสงกรานต์
เช่นเดียวกับทางฟากฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกำลังใช้วาระระดมรายชื่อผู้คนเพื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกา ปลุกคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณให้ตื่น ก็ต้องเฝ้าระวังความเคลื่อนไหว ไม่ให้เพลี่ยงพล้ำเหมือนเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์
การเมืองช่วงก่อนวันที่ 17 สิงหาคม จึงเป็นการเมืองที่ต้องจับตา
จับตาการชิงไหวชิงพริบ ระหว่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กับ "ทักษิณ ชินวัตร"
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01col01090852§ionid=0116&day=2009-08-09
| จากคุณ |
:
sao..เหลือ..noi  
|
| เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 52 05:42:06
A:58.8.168.207 X:
|
|
|
| |
