ความคิดเห็นที่ 1 ก็มาชมพระราชวังต้องห้ามกันต่ออีกซักหน่อยก่อนจะไปที่จัตุรัสเทียน- อันเหมินนะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 18:32:57 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ตามประวัติที่เค้าเล่าให้ฟัง เค้าบอกว่าพระราชวังต้องห้ามเป็นสถานที่ราชการ และเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ์ถึง 24 พระองค์ค่ะ  ในสมัยราชวงศ์หมิงและ ชิง  รวมพื้นที่ประมาณ 720,000 ตารางเมตร  ในแต่ละอาคารจะมีเครื่องไม้ ที่ประกอบด้วยห้องหับถึง 9,999 ห้อง ก็เป็นทั้งตำหนักว่าราชการ   พระตำหนักชั้นใน   ห้องบรรทมของจักรพรรดิ์ จนถึงห้องว่าราชการหลังมู่ลี่ไม้ไผ่ของพระนางซูสีไทเฮา จะว่าไปก็ชมไม่ได้ครบถ้วนหรอกค่ะ  ไกด์เค้าพาเจาะแต่ที่จุดสำคัญๆเท่านั้น บางแห่งก็ต้องเกาะกระจกเพ่งเข้าไปภายในไม่ได้  คือภายในก็จะคงสภาพ ดั้งเดิม  ตำแหน่งจัดวางแบบโบราณเดิม ๆ ถ้าขืนปล่อยให้เข้าไปเดินเพ่นพ่าน ก็คงล่มสลายหมดละค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 18:38:14 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพนี้แสงจ้าไปหน่อยค่ะ  คือด้านนอกแดดกำลังรับประทานผิวพรรณพวก เราจนแสบ จนต้องหลบหาที่ร่มซักนิดค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 18:44:38 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 4 เอ๊ะจำได้ว่าตอนเดินเข้ามาใหม่ ๆ ก็เห็นแบบนี้แต่สีดำ  คราวนี้สีทองแฮะ ว่าแล้วก็กดแช๊ะ ๆๆ บันทึกภาพไว้อีก จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 19:06:14 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ระหว่างที่เดินเพลิดเพลินอยู่นั้น สายตาก็ไปปะทะเข้ากับอาหมวยน้อย ที่คาดผมเป็นหมวกฮองเฮา  ดูน่ารักมากจนอดใจไม่ไหว บันทึกไว้อีก แต่ความรู้สึกต่อมาคืออยากได้ที่คาดผมหมวกฮองเฮามาใส่เล่น ๆ บ้าง ก็ไม่รู้ว่าเค้าซื้อกันมาจากตรงไหน  เดินไปอีกซักพักก็เจออาหมวยน้อย อีกหลายคนใส่เล่น  อาหมวยสาวก็มีให้เห็นหลายคน ฝรั่งหญิงคนหนึ่งเค้าก็ใส่ด้วย จนอดไม่ไหวต้องเดินเข้าไปทักทายเค้าและ ถามว่าหมวกฮองเฮาสวยดี ซื้อจากที่ไหนคะ  เค้าบอกซื้อจากด้านนอก ได้การเดี๋ยวออกไปด้านนอกคงต้องซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะกะหน่อยแล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 19:34:31 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 6 * ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้ใต้อุ้งเท้าของยี่หร่ามันร้อนระอุไปหมดแล้ว ถ้ายังไม่หยุดเดินคาดว่าในอนาคตข้างหน้าต้องมีน้ำใส ๆ ใต้นิ้วโป้งกับ นิ้วก้อยแหงม ๆ ค่ะ พี่ไทยวูแมนก็ใช่ว่าจะน้อยหน้านะคะ  เห็นบ่นว่าอยากเปลี่ยนรองเท้าที่เอา มาด้วยมาก ๆ เพราะคู่ที่ใส่อยู่นี้มันแบนติดพื้นรับความร้อนเต็มอุ้งเท้าเลย อิๆ บ่นไปก็เท่านั้น 555 โปรแกรมต่อไปยังต้องเดินต่อค่ะ  เพราะเราเข้าพระราช วังต้องห้ามทางด้านหลังแล้วเดี๋ยวไปทะลุด้านหน้าตรงจัตุรัสเทียนอันเหมิน มันตลกมากเลยค่ะ วันแรกของการท่องเที่ยว แทบขาดใจ 555 ตับไตไส้พุง แทบจะแล่บออกมาจากพุง ด้วยความร้อนแบบไม่น่าเชื่อเลยว่า จะแค่ 36 องศามันน่าจะทะลุ 40 กว่าองศานะคะนั่น อยากได้น้ำอัดลม ซ่าส์ ๆๆๆ ซักลิตรนึงจังเลยค่ะ  พี่ไทยวูแมนเห็นคนขาย แพ็คอย่างผ้าเย็น กะว่าจะเช็ดหน้าเช็ดตัวให้หนำใจ ที่ไหนได้แกะออกมา กลายเป็นไอติม คิก ๆๆๆ แทนที่จะช่วยให้หายกระหายน้ำ  ด้วยรสชาติหวานจัด ยิ่งไปกันใหญ่ ได้แต่ หัวเราะขำกันไปมา ก็มันอ่านภาษาจีนไม่ออกนี่คะ ไกด์หยก บอกว่าจากนี้จะพาเดินไปที่จัตุรัสเทียนอันเหมินให้ตามมาติด ๆ นะคะ  โห...ตอนนี้ถ้ามีบ่อน้ำใกล้ ๆ ยี่หร่าพร้อมจะทำลายชื่อเสียงประเทศ ไทยด้วยการกระโดดลงไปดำผุดดำว่ายทันทีค่ะ โชคดีไม่มีสระน้ำ  มีแต่พื้นที่โล่งกว้าง  แสงแดดอันเจิดจ้า โอพระเจ้าจอร์ช สังเกตรอยยิ้มพี่ไทยวูแมนดูซีคะ  แทบจะเป็นแสยะยิ้มอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 19:56:44 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ยังไม่ได้หมวกฮองเฮา....ก็เอาหมวกนี้ไปก่อนก็ได้ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:01:34 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 8 * ตอนนี้ให้เป็นนางแบบไม่ไหวแล้วค่ะ ขออยู่เบื้องหลังเป็นตากล้องดีกว่าค่ะ เพราะสภาพเยินมากค่ะ 555 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:02:52 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 9 * สู้ตายค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:04:05 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 10 เดินทะลุพระราชวังต้องห้ามออกมา ก็จะเจอจัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นลาน กว้างใหญ่ เห็นแล้วแว่บแรกนึกถึงสนามหลวงค่ะ !!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:12:19 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 11 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:17:50 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 12 * ถึงแว้วที่นี่เราก็ได้บันทึกภาพเพื่อเป็นที่ระลึกกับหอระลึกประธานเหมาเจอตุง อนุสาวรีย์วีรชน ศาลาประชาคม  แถว ๆ นี้เราจะพบว่ามีแม่ค้า พ่อค้าขาย น้ำหลายเจ้า  น้ำขวดนึงก็ตกประมาณ 5 หยวนค่ะ ก็เอา 5 คูณเข้าไปอันนี้คิด แบบง่าย ๆ นะคะ ส่วนอัตราจุดก็แล้วแต่ใครแลกกันมายังไง  ยี่หร่าก็ใช้วิธี คูณจาก 5 เป็นฐานคือให้ได้ราคาคร่าว ๆ ก่อนหนะค่ะ น้ำขวดเย็นเจี๊ยบเป็นน้ำแข็ง  ดีหนะดีค่ะ แต่ดื่มได้ทีละนิด มันละลายช้าซะ ด้วยแต่ประโยชน์อีกอย่างคือเอาไว้แตะหน้า หน้าผาก คอ แขน คลายร้อน ได้ดีมากค่ะ สลับกับยกดื่มพลาง ๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:32:19 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:36:49 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 14 * อืมม์....กว่าจะหาจังหวะให้ไร้คน ก็ช่างยากเย็นนัก   เอ...ไม่รู้ว่าทางการจีน เค้ามีกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเค้ายังไงกันนะ ถึงทำ ให้คนจีนเองก็นิยมท่องเที่ยวภายในประเทศกันมากขนาดนี้ น่าชื่นใจแทน จริง ๆ ค่ะ คิดไปคิดมาอยากให้คนที่คุมกระทรวงการท่องเที่ยวไทย ไปศึกษาขอเรียน กลยุทธ์เค้ามามั่งก็ดีนะคะ นี่ประชาสัมพันธ์แบบไหน ยังไม่สามารถดึงดูดให้ เราอยู่เที่ยวเมืองไทยได้เลยอ่ะ ต้องตะลอน ๆ มาเสียดุลย์การท่องเที่ยวแบบ นี้อ่ะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:40:32 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ***** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 20:49:32 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ได้แต่ถ่ายรูปด้านนอกนั่นละค่ะ....นี่คือจุดขายที่ทุกทัวร์เค้าจะไม่ให้พลาด เลย คล้าย ๆ กับการมาชื่นชมอดีตผู้นำของเค้าหนะค่ะ อยู่บันทึกภาพกัน พอสมควร ก็เดินเท้าต่อลงอุโมงค์ถนนเพื่อลอดออกไปยังอีกฝั่งถนนค่ะ ข้างล่างอุโมงค์นั้นก่อนถึงปากทางออกก็มีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสอบ แล้วแต่ว่าใครจะโดนสุ่มของตรวจ  กลุ่มเราผ่านตลอดค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:01:49 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:30:50 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 18 +++ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 21:47:42 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่น่าเชื่อว่าเห็นร้านขายของที่ระลึก กลับไม่มีอารมณ์อยากแวะเลยค่ะ ในใจคิดแต่ว่าอยากได้น้ำอัดลมเย็นจับขั้วหัวใจ  กับอยากกลับไปที่รถให้ไว อยากยืดเท้า รับแอร์เย็น ๆ ในรถค่ะ อิ อิ ทัวร์ทรมาณบันเทิงเริ่มต้นแล้วอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 22:01:02 A:124.122.100.22 X:

ความคิดเห็นที่ 20 มาดูทัวร์ปักกิ่งเน้อเจ้าปี้ยี่คนงาม^^ มาเกาะล้อทัวร์ตวยคนเน้อ จากคุณ : คนนอกเมืองกรุง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 23:20:32 A:118.172.1.93 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ตามมาดูต่อค่ะ มี 2 ที่ที่ไม่ได้ไปค่ะ คือ วัดลามะหย่งเหอกงและพระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน หัวหน้าทัวร์สงสัยหนีไปนอนอีกแล้ว อิอิ จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 23:52:34 A:58.9.130.94 X:

ความคิดเห็นที่ 22 * หวัดดีจ้า คุณน้องนอกเมืองกรุงจ้า มาค่ะ คอยดูธงไตแลนด์ดี ๆ นะคะ เดี๋ยวจะหลงกันเพราะคนมาเที่ยวกัน แยะมากค่ะ  อิ อิ ************************** น้องหญ้าเอ๋ย....ตอนน้องหญ้าไปหนะอากาศมันเป็นจั๋งไดคะ  พี่ยี่สัญญา กะตัวเองแล้วว่าถ้าโอกาสหน้ามีอีกที่จะได้ไปจีน จะเลือกไปราว ๆ ตุลาค่ะ ไม่ไปแว้วววว ช่วงสิงหา ไปช่วงนี้แล้วเหมือนคนเป็นโรคร้อนในเลยค่ะ 555 หิวแต่น้ำตลอด   ที่แย่ไปกว่านั้นนะคะ  สูญเสียพลังงานไปมากทำให้พี่ยี่ ต้องเติมข้าวเป็นสองจานทุกมื้อเลยค่ะ 555 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 09:02:53 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 23 สลับเปลี่ยนบรรยากาศดั้งเดิม มาสู่ยุคปัจจุบันกันบ้างดีกว่านะคะ  จะพาไป ดูตึกรามบ้านช่องเค้าว่าส่วนใหญ่จะเป็นตึกเป็นอาคารสูงปรี๊ด  ในบ้านเรา ที่พบเห็นดีไซน์แบบตึกช้างก็ว่าหรูแล้ว  มาเห็นที่ปักกิ่งตึกช้างดูจืดไปเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:44:13 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 24 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:44:58 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:45:40 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:46:22 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:47:26 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 28 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:48:35 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 29 มีคนอู้งานมาโพสต์ ก็เลยอู้งานมาตอบมั่ง อิอิ ตอนไปนั้นเดือน ก.ย. ค่ะ บางที่ก็ร้อนบ้างเหมือนกันโดยเฉพาะที่กำแพงเมืองจีนค่ะ ช่วงที่รอคนอื่น ๆ นั้นต้องมารอในรถแทน รอนอกรถร้อนตับแลบเช่นกันค่ะ แต่ทั่ว ๆ ไปถ้าไม่เดินเยอะก็สบาย ๆ ค่ะ สงสัยโลกร้อนขึ้นมั้งคะ เลยทำให้อากาศร้อน ว่าแต่พี่ยี่อ้วนขึ้นก็ดีนะคะ เพราะเท่าที่จำความได้(แบบไม่ได้เจอนาน)พี่ยี่ผอมไปค่ะ(สงสัยเรียนหนัก) จากคุณ : หญ้าหนวดแมว เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 15:32:59 A:58.9.137.83 X:

ความคิดเห็นที่ 30 * จุ๊ ๆๆๆ อย่าเสียงดังไปค่ะน้องหญ้า โหขนาดกันยาก็ยังร้อนอยู่อีกหรือนี่ อืมม์...เห็นด้วยเลยตรงกำแพงเมืองจีน ร้อนขนาดค่ะ!!!!   ผมลีบเปียกชื้น หลังเสื้อเปียกไปด้วยเหงื่อ  กว่าจะเดิน ขึ้นไป กว่าจะเดินกลับลงมา  หน้างี้เขียวเป็นนักร้องเจเน็ทเลยค่ะ 555 แต่พวกอาหมวยกลับแก้มแดงยังกับลูกท้อ  สปีชี่ส์ เอ๊ยชาติพันธุ์ต่างกันก็ เงี้ยละค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:04:21 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 31 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:05:39 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 32 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:06:23 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วงเวลาโพล้เพล้ของวันหนึ่ง  แบบว่าอยากเล่าข้ามบ้างจะได้ไม่เบื่อ อิ อิ นอกจากรูปทรงตึกอาคารในปักกิ่งจะสูงปรี๊ดใหญ่โตแล้ว  พวกป้ายโฆษณา หรือป้ายแสดงข้อมูลอะไรก็แล้วแต่ก็จะมีขนาดมหึมาเช่นกันค่ะ  อย่างป้าย ที่เห็นเป็นอักษรจีน สองตัว  ไม่รู้ความหมายหรอกค่ะ  แต่สะดุดตามากจะ เปลี่ยนสลับสีที่ตัวอักษรไปมาค่ะ  นำมาฝากแค่สองภาพก็น่าจะพอ  แล้วก็ พอดีคณะทัวร์ครั้งนี้มีอาจารย์สอนภาษาจีนร่วมคณะด้วย  เลยถือโอกาส เจ๊าะแจ๊ะถามเป็นความรู้ว่ามันแปลว่าอะไรคะ ตอนที่ถามก็ไม่ได้จดไว้  มานั่งนึกตอนนี้ชักไม่แน่ใจ   แต่คิดว่าน่าจะใช่ นะคะ  อาจารย์บอกว่า อ่านว่า " ฝานกู่ " ผิดถูกขออำไพ ความจำชักเลอะ เลือนค่ะ  เห็นบอกว่าเป็นชื่อของผู้สร้างโลก อุ้มโลกของจีนทำนองนั้นละค่ะ เป็นชื่ออยู่ในตำนานของจีนหนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 52 16:39:02 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:28:02 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 34 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:36:43 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 35 * เมืองจีนยังนิยมปั่นจักรยานอยู่มากค่ะ  ที่ขับรถเก๋งหรูก็มีให้เห็นแยะ รถเมล์บ้านเค้าก็คันเบ้อเร่อ  ยาวมากด้วยค่ะ  ป้ายสายรถเมล์จะติดไว้ ด้านนอกเหนือคนขับ เป็นไฟวิ่งสว่าง เห็นชัดเจนไม่ใช่เป็นแบบบ้านเรา คนตาไม่ดีก็มองในระยะไกลไม่เห็น ยิ่งกลางคืนยิ่งต้องเพ่ง  ของเมืองจีน เป็นระบบไฟวิ่งชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน โดยรวมแล้วความเป็นอยู่ของคนในปักกิ่งดูดี  ขอทานเจอบ้าง แต่น้อยมาก ค่ะ ไว้จะค่อยเล่าให้ฟังว่าเจอมายังไงค่ะ !!! ถนนหนทางในเมืองปักกิ่งเห็นแล้วอดเทียบกับบ้านเราไม่ได้เลยค่ะ การออกแบบวางผังเมืองช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  บ้านเค้าตรงไหนเสื่อม โทรมเค้าพร้อมปรับพื้นที่  ดัดแปลง สร้างใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม  ของเราจะแตะ จะต้องชุมชนไหนก็มีนักการเมืองหนุนหลังจนน่าจะเป็นปัจจัยหลักดึงความ ล้าหลังให้กับไทยเราว่ามะคะ ที่ชอบใจถนนหนทางสะอาด  แทบไม่มีเขม่า ฝุ่น ควันให้เห็น   สิ่งที่ช่วย อย่างหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องของต้นไม้สีเขียวมีแทบทุกถนน แทบทุกสายให้เห็น และไม่ใช่ว่าจะเป็นต้นเพิ่งปลูก  เป็นแค่กล้าไม้กระจิ๋ว  แต่เป็นต้นใหญ่ ๆ ให้ ความร่มเย็นได้มากมายเต็มไปหมดค่ะ ยิ่งทัศนาเมืองเค้ามากเท่าไหร่  ยิ่งเห็นความอ่อนหัดของผู้ว่า กทม.บ้านเรา มากขึ้นเท่านั้น  ทุกวันนี้แทบไม่เห็นบทบาทผู้ว่า กทม.จากพรรค ปชป.คนนี้ เลย  จนแทบจะนึกว่าตำแหน่งนี้ว่างอยู่ซะอีกค่ะ ( นั่นขอให้ได้แขวะซักนิดก็ ยังดี) อ้าวเห็นสิ่งดี ๆ มา ก็อยากให้บ้านเรามีสิ่งดี ๆ บ้าง อะไรปรับให้ดีขึ้นได้เราก็ อยากเห็นการพัฒนา   เราเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ทางการ ภาครัฐให้ กลับคืนสู่ประชาชนเต็มกำลังเงินพวกเราหรือเปล่า  ก็เปล่า เฮ้อ..พูดแล้วก็ ให้เซ็งขนาดค่ะ!!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 16:54:22 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 36 * เอจะพาไปกินข้าว แล้วก็โชว์เซ็ทอาหารที่หม่ำมาทั้งหมดในคราวเดียวกัน ซะเลยดีมั้ย???? หรือว่าจะพาไปเก็บลูกท้อในสวน???? เก็บแบบสด ๆ เด็ดจากต้นกับมือเราเลยสลับบรรยากาศโบราณของจีนดีน้า ติ๊กต่อก ๆๆๆๆๆ งั้นขอเวลาคิดซักหน่อยก่อนนะคะ อิ อิ * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 17:04:28 A:58.137.23.200 X:

ความคิดเห็นที่ 37 * ต้องเร่งปั่นกระทู้ซะแล้วค่ะ....เห็นแววหนักหน่วงในภารกิจอีกแว้ววววว เอาเป็นว่าพาไปเที่ยวสวนลูกท้อกันก่อนดีกว่านะคะ   เดินชมวังชมจัตุรัส เทียนอันเหมินจนขาลากไปแล้ว ก็มาพักผ่อนในสวนท้อเย็นใจดีกว่าค่ะ ทางทัวร์เค้าตกลงกับเจ้าของสวนไว้แล้วโดยจ่ายค่าหัวพวกเราคนละ 10 หยวนเป็นค่าเข้าไปชมสวน และก็เก็บลูกท้อสด ๆ ตามแต่จะเลือก ถ้าเป็น ลูกท้อขนาดเล็กให้เก็บได้ 15 ลูก แต่ถ้าเป็นลูกใหญ่หน่อยให้แค่ 8 ลูกค่ะ แค่ 8 ลูกนี่ก็หนักอึ้งแล้วค่ะ พี่ ๆ ในคณะทัวร์เค้าบอกว่าถ้าเอากลับเมืองไทย เลือกที่เหลืองไม่มากดีกว่าเอาลูกสีส้มแดง  ไม่งั้นจะเละคากระเป๋าเดินทาง ค่ะ  ก็หนุกหนานดี  กับการวิ่งไปต้นโน้นที  ต้นนี้ที  พลิกไปพลิกมาเพื่อจะให้ ได้ลูกที่สมบูรณ์ที่สุดหนะค่ะ ก็เพิ่งเคยเห็นท้อสด ๆ ก็ครั้งนี้ละค่ะ  ดูเผิน ๆ คล้ายแอปเปิ้ล  ยิ่งลูกที่สุกมาก สีแดงเข้มยิ่งคล้ายมากเลย  พอสัมผัสผลของมัน  นิ่มมือมาก เปลือกมีขน แต่นุ่มมือคล้ายกำมะหยี่อย่างนั้นเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 21:27:09 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 38 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 21:27:56 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 21:28:51 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ''' จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 21:29:49 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 41 * แม้แต่คุณไกด์เราก็ยังสนุกสนานเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 21:31:03 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 42 ลูกท้อที่เราเก็บ ๆ มาเจ้าของสวนเค้าก็ส่งขายต่อแบบชาวไร่ชาวสวนบ้านเรา เนี่ยละค่ะ!! การไปปักกิ่งครั้งนี้ของยี่หร่าทำให้ได้เห็นว่า ทางการจีนเค้าส่งเสริมเศรษฐกิจ ในประเทศเค้าเป็นอย่างมาก เค้าให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์สินค้าภายใน ประเทศเค้าค่อนข้างสูงมาก  เรียกว่าเป็นภาคบังคับสำหรับไกด์ท้องถิ่นหรือ ทัวร์ต้องจัดลงในสถานที่ภาคบังคับ  ไม่ไปไม่ได้  ไม่ไปก็เหมือนกับว่าไปยัง ไม่ถึงปักกิ่ง หรือถึงเมืองจีน  คือสร้างกระแสประชาสัมพันธ์ให้รู้สึกแบบนั้น ดังนั้นใครไปเมืองจีน ก็ต้องไปดูการสาธิตและผลิตภัณฑ์บัวหิมะ  ถ้ายังจำ กันได้ เมื่อครั้งแก๊สระเบิดตรงเพชรบุรีตัดใหม่ของเราเมื่อหลายปีก่อนสิบปี ได้แล้วกระมัง  เราก็ได้ความช่วยเหลือจากประเทศจีน นำบัวหิมะมาช่วย ผู้ประสบภัยจากแก๊สระเบิดแล้วไฟลวกตามร่างกาย จนทุเลาจนถึงหายกันได้ บัวหิมะก็เลยเลื่องชื่อกันมาปากต่อปาก  เป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวต้องไปซื้อ หาเก็บกลับบ้านกันทั้งนั้น ที่พูดนี่คือการท่องเที่ยวกึ่งบังคับของทางการจีน ทำให้เงินทองหมุนเวียน อีกอย่างเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการ กิจการค้าของจีนให้อยู่ได้ยั่งยืน แถมยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางอ้อมอีกด้วยค่ะ  อยากบอกว่า จีน...นายแน่มากค่ะ!!! พอย้อนกลับมาดูบ้านเรา .....นายแย่มากค่ะ 555 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:19:49 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 43 * การที่ทัวร์พาไปเที่ยวสวนลูกท้อ  พวกเราก็ตื่นเต้นกันแล้วค่ะ  เพราะยังไม่ เคยเห็นลูกท้อสด ๆ มาก่อน  ที่ผ่านมาเห็นแต่ลูกท้อแห้ง ลูกท้อแช่อิ่มอะไร ทำนองนั้นไงคะ ( เชยมะคะ) การท่องเที่ยว แม้จะดูสิ้นเปลืองงบบ้าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ ตรง และความรู้ใหม่ ๆ ที่ไม่รู้ไม่เคยเห็นมาก่อน บางคนในกรุ๊ปทัวร์ก็แซว ยี่หร่าว่าเก็บภาพเหลือเกิน แทบจะทุกช็อต  นั่นละค่ะ คือสารคดีในใจยี่หร่า เลยนะคะ  บางส่วนก็บันทึกไว้แบบวิดีโอ  เอาไว้ดูให้ลึก ๆ แต่ทั่วไปจะบันทึก ภาพแห้งมันสนุกดีค่ะ  ไม่ใช่ว่าฝีมือถ่ายภาพจะดีเด่อะไรหรอกค่ะ  คือมัน เป็นความสุขลึก ๆ เห็นอะไรก็อยากถ่ายเก็บไว้   เพราะนอกจากเก็บไว้ใน สมองแล้วบางทีก็อยากหยิบออกมาดูง่าย ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้วไงคะ ยี่หร่ามองว่าภาคบังคับให้ไปเที่ยวสวนท้อ  นอกจากอารมณ์ลูกทัวร์จะได้เก็บ ลูกท้อสด ๆ จากต้น  ได้ลูบ ๆ คลำลูกท้อที่เหมือนกำมะหยี่นุ่มมือ หยิบลูก โน้นลูกนี้เลือกกันได้อย่างสนุกสนาน มันเป็นเทคนิคหรือกลยุทธ์ที่มองว่า ภาครัฐนี่นายแน่มากอีกแล้ว ผลพลอยโดยตรงอีกอย่างคือเป็นการส่งเสริมภาคเกษตรไงคะ ผลไม้ตาม สวนต่าง ๆ ของคนทำไร่ลูกท้อ  ที่มีหลายผู้ประกอบการ แล้วแต่ว่าทัวร์ไหน จะจัดลงให้  ก็จะมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ จากการส่งเสริมของภาครัฐ นี่ไงคะ จีนเค้าถึงเป็นประเทศพัฒนาได้เร็ว  เพราะเค้ามองไกล  คิดออกนอก กรอบ ไม่ได้คิดแคบ ๆ เหมือนคนภาครัฐบ้านเรา  เอาแต่ได้ เอาแต่ประโยชน์ ส่วนตน  ไม่ได้นึกถึงประชาชนในชาติ  หรือภาพรวมของประเทศเลย ที่นักวิชาการไทยหลายคน คาดการณ์ไว้ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศจีน จะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ   รองลงมาคือ อเมริกา  และตาม ด้วยอินเดีย  ยี่หร่าชักจะคล้อยตามด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ!!!! แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 11:38:04 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:31:00 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 44 * ภาพแบบนี้มีให้เห็นในหลาย ๆ ที่ที่ปักกิ่งค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:43:27 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 45 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:44:59 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 46 ** ผลไม้ที่ยี่หร่าพบว่ามักขายควบคู่กันไป หรือวางขายใกล้ ๆ กันก็คือ พุทรา กับ องุ่นค่ะ  แตงโม กับ ฟักทองก็เห็นด้วยเช่นกันแต่น้อยกว่าพุทรา ค่ะ  อาหารแต่ละมื้อแตงโมยืนพื้นเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:48:04 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 47 * เที่ยวสวนกันชุ่มปอดแล้วเราก็กลับมาดูถนนด้านในกรุงปักกิ่งกันดีกว่าว่ามี อะไรน่าสนใจอีกบ้างดีมะคะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:55:15 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 48 * ตู้โทรศัพท์สาธารณะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:00:54 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 49 โหตอนเห็นรถแบบนี้ ก็อดอมยิ้มกันไม่ได้ค่ะ  ไม่รู้นั่งกันเข้าไปได้ยังไงนะคะ คล้ายรถป๊อก ๆ บ้านเรากระมังคะ  ตอนแรกก็คิดว่าจะลองเรียกเพื่อจะถ่าย ภาพดู แต่เห็นเวลาพวกเค้าเป็นเงินเป็นทอง อย่าดีกว่า ดีไม่ดีเจอล๊งเล๊งช๊ง เช๊งเข้าจะไม่คุ้มค่ะ!!! เคยเห็นนั่งอัดข้างหลัง 2 คน เหมือนปลากระป๋องก็มิปาน  คิดเล่น ๆ ว่ากว่าจะ ถึงที่หมายตะคริวจะกินกล้ามเนื้อหรือเปล่านะคะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:05:57 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 50 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:33:49 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 51 ^^^ บ้านเราตู้สาธารณะเผื่อแผ่ถึงคนพิการบ้างมั้ยคะ  มีใครเคยเห็นบ้างช่วย นำรูปมาโชว์เป็นความรู้กันหน่อยนะคะ!!! เมืองจีนเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับคนพิการไม่น้อยค่ะ!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:54:43 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 52 ** นี่ก็บ่ายกว่าแล้ว....ท้องชักร้องจ๊อก ๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่าค่ะ มาถึงปักกิ่ง...ไม่กิน"เป็ดปักกิ่ง" เค้าว่ามาไม่ถึงปักกิ่ง เช่นกันถ้าไม่ไปขึ้น กำแพงเมืองจีนเค้าก็ว่ายังไม่ถึงปักกิ่งค่ะ ที่นี่เค้าจะมีกุ๊กมาเฉือนมาแล่เนื้อเป็ดให้เห็นกันจะๆ  ให้อารมณ์สุนทรีย์กัน สด ๆ  555 ไม่อยากบอกว่ายี่หร่าเป็นคนไม่กินเป็ดค่ะ  เพราะเคยมีประสบ การณ์กินแล้วเหม็นสาบเลยติดกลิ่นนั้นเก็บเข้าเม็มโมรี่แล้วพลอยต่อต้าน ไปเลยค่ะ ใครจะชอบก็ชอบไปไม่ขวางขัดกันค่ะ แต่จะอนุโลมสำหรับเป็ดปักกิ่งนะคะ คือถ้าทำมาหนังกรอบ ๆ ก็จะกินแต่ หนังไม่กินเนื้อ อันนี้ยังยืนยันว่าไม่ชอบอยู่เหมือนเดิมค่ะ กินได้บ้างชิ้นสอง ชิ้นเท่านั้นเอง  แต่ไม่รู้นะคะ  ยี่หร่าว่าเป็ดปักกิ่งที่รอยัลคิกเช่นบ้านเราทำได้ กรอบอร่อยถูกปากถูกใจได้มากกว่าค่ะ แหะ ๆ อันนี้คงลางเนื้อชอบลางยา กระมังคะ แต่เอาค่ะไหน ๆ ก็มาแล้วมันก็ต้องกิน.......ปูเหลียวจะว่ามาไม่ถึงปักกิ่งนั่น!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:11:31 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 53 ^^^ การกินเป็ดปักกิ่งก็อย่างที่หลายท่านทราบดีละค่ะ วิธีกินก็จะมีพวกเครื่องเคียงมาให้คือเป็นแผ่นโรตีบาง ๆ แบบที่เรากินปอเปี้ยะ สดนั่นละค่ะ   เอาไว้ห่อเป็ด  เราก็เอาแผ่นโรตีบาง ๆ หนึ่งแผ่นวางที่จานเรา เสร็จปั๊บ ก็หยิบแตงกวาที่ที่เค้าหั่นเป็นแท่งตามยาวไม่หนานัก   ต้นหอมที่ ฝานท่อนเท่า ๆ กัน  วางเนื้อเป็ดส่วนหนังที่เฉือนแล้วโปะลงไป ราดน้ำจิ้ม สีดำออกหวาน ๆ แล้วก็ม้วนข้างสองข้างหัวท้าย แล้วม้วนกลางตลอดเป็น แท่งสวยงาม หยิบเข้าปากกัดกร๊วบ ๆ   อื้ม...อาหย่อย ชอบหวานก็ราดน้ำจิ้ม มากหน่อยตามแต่ชอบค่ะ ไม่รู้ว่าเฉพาะร้านนี้หรือเปล่านะคะ ยี่หร่าว่าหนังยังไม่กรอบถูกใจ อยากให้ กรอบกว่านี้อีกค่ะ พ่อครัวหรือกุ๊กที่มาสาธิตเฉือนเป็ดปักกิ่งจะใส่ชุดเต็มยศมีหมวก เสื้อขาว กางเกงขาว  และก็ใส่ถุงมือ ไกด์เค้าเล่าให้ฟังประมาณนี้ว่าเป็ดปักกิ่งจะเป็นเป็ดที่ได้รับการฟูมฟักอย่างดี อาหารที่กินก็จะเป็นพวกที่มีส่วนผสมจากถั่วบ้าง ข้าวฟางบ้าง รำบ้างอะไร ทำนองเนี้ยละค่ะ  ขุนให้น้ำหนักเพิ่มวันละห้าสิบถึงหกสิบกรัม  ทิ้งช่วงไปอีก ซักสองสามเดือนจนได้น้ำหนักประมาณ 5 กิโลเป็นอย่างน้อย  เรียกว่าได้ที่ แล้วละค่ะ หลังจากผ่านกระบวนการส่งวิญญาณแล้ว  ก็จะถอนขนบากที่ใต้ ปีก   ยังค่ะมีการเป่าลมเข้าไประหว่างเนื้อและหนัง  ก่อนที่จะนำไปจุ่มลงใน น้ำที่เดือดจัด ๆ   แล้วก็ทาให้ทั่วตัวด้วยน้ำตาล  หรือไม่ก็ข้าวมอลท์ จนกลายเป็นเป็ดสีน้ำตาลแดง  แล้วก็นำไปผึ่งไปแขวนทิ้งให้แห้ง  แล้วจาก นั้นถึงจะนำไปย่างอีกประมาณ 30-40 นาทีด้วยไฟแรง ๆ  โดยใช้ไม้จากต้น อินทผลัม  พืช และแพร์ทำเป็นฟืนหอมอบอวล โอ้โฮ!!! ฟังแล้วก็ต้องหยิบเป็ดปักกิ่งที่ไม่ค่อยชอบทาน จับยัดใส่ปากอีกซัก หนึ่งคำค่ะ  ก็ดูกรรมวิธีกว่าจะมาเป็นปักกิ่งช่างพิถีพิถันซะเหลือเกินซีคะ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 13:34:42 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:29:08 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 54 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:41:01 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 55 ** มีเป็ดปักกิ่งให้กินแล้ว...........ก็ยังมีเนื้อเป็ดแบบธรรมดา ๆ ให้กินอีก เรียกว่าใครชอบเป็ดงานนี้ละชุ่มปอดกันเลยละค่ะ จะว่าไปแทบทุกมื้อก็จะมี เป็ด มีไก่  มีปลาไม่ได้ขาด  กินแล้วแทบจะบิน แทบจะว่ายได้เลยค่ะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:44:45 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 56 ^^^ เพื่อแก้เลี่ยน หรือเพื่อความคล่องคอ หรือเพื่อเพิ่มอารมณ์สุนทรีย์ในการกิน มื้อนี้มีไวน์แดงเพิ่มให้อีกจากที่ทุกมื้อจะมีแป๊บซีลิตรกับเบียร์ให้เท่านั้นค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:49:58 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 57 รสชาติไวน์จีนก็หวาน ๆ ไม่มีรสคมสะบัดปลาย อิ อิ หวานอย่างเดียวค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:53:26 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 58 * คนคอเบียร์คอไวน์อย่างยี่หร่า แต่เป็นคอแป๊บนะคะ แป๊บเดียวหลับค่ะ 555 กินแบบนี้ขึ้นรถก็หลับอย่างเดียวซีคะ โธ่..เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอกค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:57:19 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 59 * เบียร์ที่นี่อ่อนมาก ๆ ค่ะ ว่าที่เวียดนามรสอ่อนแล้วที่นี่ก็น่าจะพอ ๆ กันละค่ะ เบียร์ที่นี่เรียกว่า" ผี จิ่ว " ส่วนไวน์เรียกว่า " ผู เท่า จิ่ว " กาแฟ เรียกว่า " คาเฟย " น้ำแข็ง ก็ " ปิงไขว้ " แต่ลูกทัวร์กับไกด์จะมีมุกทะลึ่งเล็กน้อย เรียกไขว้ให้ เสียงเพี้ยนไปอีกหน่อยค่ะ 555!!!! ชา .......เรียก " ฉา " ****************** แต่คำที่เราพูดทักทายกันทุกเช้าที่เห็นหน้าก็........" หนีห่าว " เวลาออกจาก ห้องตอนเช้าจะลงไปทานอาหารเช้า  เจอคนจีนในลิฟท์เค้าก็ทักทายเรา นะคะด้วย หนีห่าว  เราก็ยิ้มตอบก่อนส่งเสียง หนีห่าว ให้เช่นกันค่ะ ****************** เบียร์ที่นี่จะเป็นที่นิยมเป็นอันดับสองรองจากชานะคะ!!! เบียร์ที่เก่าแก่โด่งดัง และขายดีที่นี่คือ " เบียร์ชิงต่าว " ( Tsingtao ) ตามประวัติบอกว่าก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1903 ราคาขวดละประมาณ 15-25 หยวน  รองลงมาคือ " เบียร์เหยนจิง ( Yanjing ) ทุกวันนี้มีเบียร์นี้อยู่แทบ ทุกเมืองทุกท้องถิ่นค่ะ   แต่ละมื้อส่วนมากจะได้ เบียร์เหยนจิงซะเป็นส่วนใหญ่  ดื่มแล้วแทบไม่รู้สึก รสชาติเบียร์เลยค่ะ อิ อิ  แต่ เบียร์ชิงต่าว ได้ลิ้มรสในบ้างมื้อเหมือนกันค่ะ เบียร์ชิงต่าวดื่มแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดื่มไฮเนเก้นบ้านเราค่ะ !!! แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 14:15:48 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:11:32 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 60 * เบียร์ ชิงต่าว จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:20:15 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 61 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:23:22 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 62 * พี่กับญาติ ๆ ที่เพิ่งไปจีนมาเค้าบอกว่าอาหารจีนสุดจะเห่ยไม่อร่อยเลย ทั้งจืด ทั้งมัน กินไม่อร่อยเลยให้เตรียมพวกแม็กกี้ไปด้วยนะ หรือพวก น้ำพริกกระปุกอะไรก็ได้พกไปด้วยจะช่วยให้เจริญอาหาร โหตอนแรกก็กะว่าจะทำอย่างคำแนะนำ แต่มานึกอีกทีเข้าเมืองตาหลิ่วก็ควร หลิ่วตาตาม  ไปเมืองเค้าก็ควรจะรับทราบรสชาติดั้งเดิมของเค้ามันจึงจะถูก จริงมะคะ  ไปดัดแปลงก็เสียรสโม๊ดค่ะ  แต่อนุโลมถ้าไกด์จะเตรียมพริก น้ำปลาไปให้บ้างมันก็ดีค่ะ เอาเข้าจริงแล้วปรากฎว่า ยี่หร่ากินอะไรก็ได้โม๊ด ยกเว้นเป็ดเท่านั้นละค่ะที่ ไม่ชอบกิน  อาหารผัก น้ำแกงซุป ซัดได้หมด เป็นคนชอบทานอะไรร้อน ๆ เป็นทุนอยู่แล้ว จะมันไม่เกี่ยง ยิ่งเป็นผักเสิร์ฟร้อน ๆ อย่างนี้จ้วงได้ไม่ยั้งค่ะ 555  ใครบอกไม่อร่อยไม่ฟังแล้วค่ะ ขอข้าวเติมเป็นรอบสองด้วยซ้ำไปค่ะ อ้วนเป็นอ้วนงานนี้สู้ตายค่ะ !!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:32:26 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 63 ขอให้เป็นผักเสิร์ฟมาร้อน ๆ ถูกใจยี่หร่ายิ่งนัก  มันเมินไม่เกี่ยงเลยค่ะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:37:25 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 64 ขอข้าวร้อน ๆ อีกจานด้วยค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:42:59 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 65 ^^^ จานนี้ก็อร่อยค่ะ เค้าว่ามาจากส่วนหนึ่งของบัวค่ะ รสชาติกลมกล่อมดี ที่แปลกคือเวลากัดเคี้ยวเข้าไปมันจะกรอบ ๆ กรุบ ๆ อร่อยดีค่ะ หลายท่านคนส่ายหัว กับสีสรรค์ความมันของอาหารแต่ละจานแล้วใช่มั้ยคะ ยี่หร่าเห็นครั้งแรกก็อื้อฮือนะคะ  แต่ด้วยความหิวแล้วพอตักใส่ปาก ว๊าววว พ่อครัวเค้าปรุงรสชาติได้อร่อยค่ะ ชอบชอบแทบทุกรายการเลยค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:01:22 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 66 * พักเรื่องอาหารไว้แค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะพากันอุ้ยอ้ายซะก่อน ไปเที่ยวชมโบราณสถานกันต่อดีกว่านะคะ  พาไปที่ไหนดีเอ่ย  ตอนนี้อิ่ม แล้วขอเล่าตามใจ จขกท. ไม่เล่าเรียงตามลำดับที่ไปตามทัวร์จริงละกันนะคะ ********************** ความที่สถานที่แต่ละแห่งมันใหญ่โตซะ ทำให้รู้สึกว่ากล้องของเรามันเล็ก ไปถนัดใจ คือเก็บภาพตรง ๆ ไม่ได้ ตั้งเฉียงบ้าง เอนบ้าง แหงนกล้องบ้าง 555 ถึงกระนั้นก็ยังเก็บภาพได้ไม่หมดทุกส่วนในคราวเดียวกันได้เลยค่ะ ไม่แหว่งส่วนนั้นก็ขาดส่วนนี้อยู่เรื่อยเลย  ก็จะแก้ปัญหานี้ให้กับตัวเองหลัง จากถ่ายภาพนิ่งไปแล้วก็จะถ่ายเป็นวิดิโอเก็บไว้ดูเองต่างหากภายหลังค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:12:30 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 67 * สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งทางการจีนเค้าจะกำหนดจุดจอดรถเป็นที่เป็นทาง อย่างเป็นระเบียบ แล้วลูกทัวร์ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาเดิน ๆ ให้ถึงจุดหมายซึ่งก็ ไม่ใช่ทางใกล้มากนัก  ยี่หร่ามองว่าดีอย่างเสียอย่าง   ดีคือเป็นการอนุรักษ์ โบราณสถานให้เสื่อมโทรมได้ช้า เพราะรถเข้าไปไม่ถึงอย่างใกล้ชิด ไม่ เหมือนบ้านเรารถแทบจะเหยียบตีนโบสถ์เลยลงรถก็ก้าวเข้าโบราณสถานได้ เลย  โบราณสถานบ้านเรามันเลยขาดเสน่ห์ไปมิน้อยค่ะ แต่ข้อเสียคือนักท่องเที่ยวต้องมีความแข็งแรง สุขภาพดี  คือหมายถึงอึด หนะค่ะ  ต้องข้อเท้า เส้นสายดี ด้วยการท่องเที่ยวเมืองจีนเดินตลอดค่ะ ถ้าใครสุขภาพเหนื่อยง่ายก็คงหมดสนุกไปแยะค่ะ  แต่ถ้าชอบแบบทรมาณ หน่อย ๆ รับรองว่าได้ใจเกินร้อยค่ะ อิ อิ ตอนนี้ยี่หร่าจะพาไปเที่ยว พระราชวังฤดูร้อนกันค่ะ(The Summer Palace) ที่นี่น่าสนใจมิน้อย เป็นอย่างไรมาติดตามกันค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:31:38 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 68 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:32:19 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 69 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:32:44 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 70 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:33:41 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 71 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:34:38 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 72 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:37:02 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 73 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:59:19 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 74 ** สิงโตมักเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองมายาวนาน คงไม่ต่างจากช้างของไทยกระมังคะ สิงโตมักเกาะลูกแก้ว คอยเฝ้าหน้าวัง  แต่สิงโตตัวนี้ตอนแรกนึกว่าเหยียบ ลูกแก้วแต่พอมองอีกที อ้าวกลายเป็นสิงโตตัวน้อย ก็ไม่รู้ประวัติมีมาอย่าง ไรสำหรับสิงโตตัวนี้นะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:08:36 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 75 * ขอขอบคุณข้อมูลจาก"หน้าต่างสู่โลก" กล่าวถึงสัตว์ในเทพนิยายไว้ดังนี้ค่ะ ประตูทางเข้าอาคารสถานสำคัญมักมีรูปหล่อสิงโตคู่เฝ้าพิทักษ์รักษาอยู่ที่ สองฟากข้างสิงโตตัวผู้จะตั้งอยู่ด้านซ้าย  มีลูกบอลกลมวางอยู่ใต้อุ้งเท้า บ่งนัยถึงการควบคุมปกครองอาณาจักร สิงโตตัวเมียจะตั้งอยู่ด้านขวา มีลูกเล็ก ๆ อยู่ใต้อุ้งเท้า แสดงถึงการสืบลูก หลาน และสืบทอดอาณาจักร สิงโตไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของจีน.....แต่ถือเป็นสัญลักษณ์แทนอำนาจ และอภิสิทธิ์   ผู้มีสิทธิ์ใช้สัญลักษณ์นี้มีเพียงราชสำนักและขุนนางชั้นสูง เท่านั้น  ชาวจีนเริ่มนำเอาสิงโตเข้ามาเป็นองค์ประกอบของสถาปัตยกรรม เป็นครั้งแรกในยุคราชวงศ์ฮั่น ***************** มังกรเป็นสัตว์ในเทพนิยาย  ที่ได้รับการนับถือบูชามากกว่าสิงโต  ถือเป็น ราชาแห่งหมู่มวลสัตว์  เชื่อกันว่า  มังกรจะทะยานขึ้นสู่ฟ้าในฤดูใบไม้ผลิ และถาโถมลงน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ด้วยเหตุที่มังกรเป็นสัตว์ที่อยู่กลางระหว่างสวรรค์กับพื้นพิภพ  ทั้งยังเป็น สัญลักษณ์แทนพลังหยางสุดท้าย  จึงถูกนำมาผูกติดกับจักรพรรดิซึ่งเชื่อ กันว่าเป็นโอรสสวรรค์จุติลงมา ********************* หงส์เป็นสัญลักษณ์แทนพลังหยิน  เป็นตัวแทนขององค์จักพรรดินี  ช่างจึง มักสลักรูปหงส์คู่กับมังกรประดับเอาไว้ทั่วเขตวังหลวง  นอกจากนี้แล้ว รูปหงส์ - มังกร ยังเป็นสัญลักษณ์แทนชีวิตสมรสอันราบรื่นเป็นสุข * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:24:25 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 76 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:30:44 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 77 *** สิงโตอีกตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ปากทางด้วยกันถ้ามองจากปากทางเข้าตัวนี้อยู่ขวา มือ ตัวมะกี้อยู่ซ้ายมือ  แต่ถ้าเราเข้าไปด้านในแล้วจะเดินออกมาตัวที่เกาะ ลูกแก้วนี้จะอยู่ทางซ้ายมือ แล้วตัวที่เกาะลูกสิงโตจะอยู่ทางขวามือเราค่ะ ก็ไม่รู้ดูไงตัวผู้ตัวเมีย  อิ อิ  ชักจะงง ๆ แล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:36:32 A:124.122.162.91 X:

ความคิดเห็นที่ 78 * พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวน (Yiheyuan หรือ The Summer Palace) ข้อมูลนี้ได้จาก"คู่มือนักเดินทางฉบับพกพา ปักกิ่ง" หนังสือในเครือของ เที่ยวรอบโลก ก็ต้องขอบคุณหนังสือเล่มนี้มากทีเดียวยี่หร่าได้พกพาไป ปักกิ่งไว้กางดู หลายรอบเหมือนกันค่ะ เป็นประโยชน์มากทีเดียวค่ะ อีกอย่าง เล่มบาง ๆ กระทัดรัดไม่หนักกระเป๋าดี อ่านตอนอยู่บนเครื่องก็ไม่เกะกะค่ะ ************************** เดิมเป็นวังหลวงและสวนดอกไม้ของพระเจ้ากุบไลข่านในปี ค.ศ.1153 มีการต่อเติมในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง  โดยเฉพาะสมัยพระเจ้าคังซีถึงสมัย พระเจ้าเฉียนหลง ใช้เวลาถึง 60 ปี  จึงแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1750 กษัตริย์ ราชวงศ์ชิงทรงใช้เป็นที่เสด็จแปรพระราชฐานหนีความร้อนจากพระราชวัง หลวงทีปักกิ่ง  ในฤดูร้อนมาประทับที่พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้  เป็นอุทยาน ที่ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นอุทยานที่งดงามที่สุดของจีน พระราชวังนี้ถูกทำลายลง 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกคือปี ค.ศ.1860 ยุคสงคราม ฝิ่นครั้งที่ 2 โดยกองทหารอังกฤษและฝรั่งเศสบุกเข้าปล้นสะดมกรุงปักกิ่ง เผาทำลายสิ่งปลูกสร้างเป็นจำนวนมาก   ต่อมาอีกในปี ค.ศ.1886 พระนางซูสีไทเฮาได้นำเงินงบประมาณของกองทัพ เรือมาบูรณะพระราชวังฤดูร้อนขึ้นใหม่ พระราชวังนี้มีพื้นที่ 1,813 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบคุนหมิง ซึ่งพระนางสั่งให้ขุดขึ้น  โดยใช้แรงงานคนล้วน ๆ  อันนี้ยี่หร่าไปเห็นกับตา ถึงกับอึ้งค่ะ.......มันใหญ่โตกว้างขวางมากขนาดนั้น จะต้องใช้คนเป็นหมื่น เป็นพันเท่าไรกันจึงจะขุดได้ขนาดนี้    เห็นไกด์บอกว่าใช้เวลาประมาณ 5 ปี น้ำลึกกว่าหน้าอกหน่อยเดียวค่ะ สวยหนะสวยเหมาะกับเป็นวังฤดูร้อนก็จริง  แต่เบื้องหลังที่ได้มาต้องใช้ ราษฎรหยาดเหงื่อแรงงานของชาวจีนเท่าไหร่จึงจะสำเร็จ  เป็นความฟุ้งเฟ้อ ในขณะที่กดขี่คนปรนเปรอหรือสนองความพึงพอใจของตนเยี่ยงทาสจริง ๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมระบบแบบนี้ของจีนถึงได้ล่มสลายได้!!! เหอ ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 18:14:17 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:13:38 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 79 ^^^ พอเราเดินผ่านประตูที่มีสิงโตยักษ์สองตัวเข้าไปแล้ว เราก็จะพบประตูอีก ชั้นหนึ่งค่ะ  จะรอให้ปลอดคนเป็นเรื่องยากมากสำหรับช่วงเวลาที่เราไปเที่ยว ในวันนั้นค่ะ   อีกอย่างแดดร้อนจนแสบผิวทีเดียวค่ะ ดีที่เลือกผ้าฝ้ายบางเบา มีแขนยาวช่วยบรรเทาแสงแผดเผาได้หน่อย  แต่พี่ไทยฯ นุ่งแขนสั้นขาสั้น คล่องตัวไม่อึดอัดแต่นั่นก็เท่ากับว่าโดนแสงแดดเผาเต็ม ๆ เลยแหละ!!! จะว่าไปแค่แว่นกันแดดไม่พอค่ะ  ถ้าไม่มีหมวก หรือร่มช่วยจะร้อนกระบาล มากเลย 555 แต่ให้ถือร่มอย่างคนแก่ก็ไม่เอาค่ะ เกะกะและจะเมื่อยจั๊กกะแร้ มากเลยนั้น จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:30:02 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 80 ** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:37:15 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 81 ^^^ เก็บภาพพี่ไทยวูแมนแต่ละภาพ ยังไม่ถูกใจเท่าที่ควร  ตอนหลังถึงค้นพบ ว่าต้องไม่ให้พี่เค้ามองกล้องค่ะ 555 เพราะมองกล้องทีไร หน้าพี่เค้าบ่งบอก ถึงความร้อนความเหนื่อยปรากฎให้เห็นตลอดค่ะ 555 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:43:07 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 82 * จะว่าไปตอนแอ๊คท่าถ่ายภาพ ให้คิดถึงคุณชาราเหมือนกันนะคะนั่น!!! เพราะคุณชาราจะมีท่าประจำตอนที่ไปเวียดนามจะต้องยกมือให้เหลือสองนิ้ว ยกมาไว้ที่ใบหน้าประหนึ่งเป็นหนวดแมว น่ารักดีออกค่ะ   มาคราวนี้เลยไม่ เห็นนางแบบทำหน้านี้เลยค่ะ สิ่งที่เห็นนี้จำไม่ได้ว่าไกด์บอกให้ฟังหรือเปล่า หรือกำลังวุ่นหลบคนอยู่ไม่ แน่ใจ เลยไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรแต่เห็นใครไปใครมาก็ต้องมายืนเก็บภาพ ตรงนี้ ไม่เว้นแม้แต่เราค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 19:01:59 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 83 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 19:05:33 A:124.120.222.211 X:

ความคิดเห็นที่ 84 * ชมสาว ๆ ร่วมคณะทัวร์ครั้งนี้กันบ้างสลับให้ชุ่มชื่นบ้างดีมะคะ น้องเค้าน่ารักดี มากันสองคนพี่น้องสองสาวน่ารักทั้งคู่ค่ะ เรียบร้อยด้วยซีคะ หาไม่ค่อยได้ สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 19:12:09 A:124.120.222.211 X: