Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“บทวิเคราะห์ โลกวันนี้” : “ตุลาการวิบัติ” หลัง “รัฐประหาร 19/9/49”  

ตุลาการภิวัฒน์-ตุลาการวิบัติ?

     
“ผมทราบดีครับว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ไม่ปรกติ เป็นสถานการณ์ที่วิกฤตและพี่น้องประชาชนคนไทยมีความทุกข์ แต่ผมถือว่าผมเป็นนักการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย ผมเป็นอาสาสมัคร และผมไม่มีสิทธิที่จะหนีปัญหาหรือปฏิเสธความรับผิดชอบเมื่อเสียงข้างมากซึ่งเป็นเสียงข้างมากเดิมในสภาผู้แทนราษฎรมีปัญหา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจสนับสนุนผมขึ้นมาตามวิถีทางของประชาธิปไตย และวิถีทางของกระบวนการของรัฐสภาของเรา หน้าที่เบื้องต้นของผมคือการยุติการเมืองที่ล้มเหลว การเมืองที่ล้มเหลวคือต้นเหตุของความขัดแย้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งภาคแบ่งสีที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศของเราในขณะนี้
ผมจะขจัดการเมืองที่ล้มเหลวออกไป และจะนำความสมัครสมานสามัคคีกลับคืนมาโดยอาศัยความยุติธรรมเป็นกระบวนการนำหน้า รัฐบาลภายใต้การนำของผมจะยึดหลักนิติธรรม นิติรัฐ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค และจะเคารพในกระบวนการและเจตนารมณ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย”

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงหลังรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2551


ประชาธิปไตยจอมปลอม :

คำแถลงของนายอภิสิทธิ์ดูเหมือนไม่ได้แตกต่างจากเนื้อหาที่แท้จริงของการถวายฎีกาและการเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดินที่ผ่านมาเลยคือการเรียกร้องหาความยุติธรรมนั่นเอง ไม่ใช่แค่คำว่า “ประชาธิปไตย”

แต่ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์กลับถูกตั้งคำถามและทวงถามตีเรื่อง “ความยุติธรรม” ตลอดเวลาว่ารัฐบาลมีความจริงใจและยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรมจริงหรือไม่

เพราะที่ผ่านมากว่า 77 ปี หรือกว่าครึ่งศตวรรษนั้น ประชาธิปไตยของไทยกลายเป็นประชาธิปไตยจอมปลอมและ:-) เพียงเพื่อเป็นเกราะปกป้องอำนาจของกลุ่มอำมาตย์ ทหาร นายทุน และนักการเมือง โดยการหลอกให้ประชาชนคิดว่านั่นคือความสุข ทั้งที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ที่สำคัญประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่เพียงประชาชนจะมีสิทธิเสรีภาพในทางการเมืองและสิทธิเสรีภาพในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันแล้ว จะต้องมี “ความยุติธรรม” เป็นที่ตั้งด้วย คือนิติรัฐ นิติธรรม และกระบวนการยุติธรรมจะต้องเสมอภาคและเป็นธรรม ไม่ใช่ 2 มาตรฐานหรือสารพัดมาตรฐานอย่างที่มีการกล่าวหาและโจมตีกันตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนถึงขณะนี้


ตุลาการภิวัฒน์ :

ยิ่งย้อนไปดูตั้งแต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนมาถึงเรื่องตุลาการภิวัฒน์และการรัฐประหาร คงยากจะปฏิเสธว่าหากไม่มีกลุ่มอำนาจที่แอบแฝงหรืออีแอบให้การสนับสนุนก็ยากที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นได้ และกลุ่มอีแอบปัจจุบันก็ยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ จึงไม่แปลกที่ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและระบบราชการ

ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ หรือองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ภายใน สตช. อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อเนื่องถึงคดีความทางการเมืองมากมายที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ซึ่งเห็นได้ว่าแต่ละฝ่ายไม่ได้ใช้รัฐสภาหรือการเคลื่อนไหวเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ยังใช้การฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

แม้แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ถูกตราหน้าว่าเป็นนักโทษหนีคุกและหนีคดีอีกนับสิบนั้น ก็เป็นคดีที่เกิดจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ใช้อำนาจเผด็จการแต่งตั้งเพื่อเอาผิดโดยเฉพาะนั่นเอง


เอาความสุขกลับคืนมา :

อย่างคดีที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี กรณีซื้อที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในความทุกข์ของคนไทยที่ถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินแสดงความรู้สึกเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า

“เป็นเรื่องตลกที่สุด การขายทรัพย์ไม่ผิด คนซื้อก็ไม่ผิด แต่สามีผู้ซื้อที่ยินยอมให้ทำนิติกรรมตามข้อบังคับของกฎหมายกลับผิด ทั้งๆที่ผมไม่มีความเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมในขณะนั้น เพราะว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมที่สืบทอดมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และวิธีการที่ได้มาทุกอย่างเป็นวิธีการไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายสากลทั้งสิ้น ผมจึงได้ถอนทนายก่อนการพิจารณาเสร็จสิ้น แต่ศาลก็ไม่ยอม และตัดสินใจลงโทษผมด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4
พี่น้องครับ ความไม่เป็นธรรมเรื่องเล็กน้อยๆเหล่านี้คือสิ่งที่สะสมอยู่ในใจของพี่น้อง พี่น้องรอความเป็นธรรมคืนสู่สังคมไทย ผมเป็นตัวหมากตัวหนึ่งที่เขาใช้เดินและทำลายขบวนการประชาธิปไตยของประเทศ วันนี้พวกเรามาเรียกร้องให้พ่อหลวงของเรา เพราะเราอยากเห็นความสามัคคีของคนในชาติและความปรองดองในสังคมไทย อยากเห็นสิทธิเสรีภาพของคนไทยและศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เราต้องการให้ประเทศไทยมีความสุขเหมือนเดิม เราต้องการให้นายกรัฐมนตรีสามารถไปไหนก็ได้ในประเทศไทยนี้ ไม่ใช่ว่าถ้าเป็นนายกฯทักษิณแล้วไปภาคใต้ไม่ได้ ถ้าเป็นนายกฯอภิสิทธิ์ไปภาคเหนือกับอีสานไม่ได้ เราต้องการให้สิ่งเหล่านี้ยุติ เราอยากให้เห็นว่าคนไทยมีหัวใจสีเดียวกัน รวมกันอยู่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำไมเราปล่อยให้พวกเราเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องใช้ปืนและใช้กฎหมายเอียงๆมาบังคับจิตใจ ทำลายความสุขของคนไทยทำไม”


จวกมาร์ค 2 มาตรฐาน :

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม ตำหนินายอภิสิทธิ์ที่ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปปฏิบัติราชการในภาคใต้ และแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. เป็นรักษาการ ผบ.ตร. แทนว่า ถือเป็นการออกคำสั่งอัปยศและวิปริต เป็นการรังแกข้าราชการประจำ เป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง นายอภิสิทธิ์ กำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อระบบข้าราชการประจำ การออกคำสั่งครั้งนี้ถือเป็นการกลั่นแกล้งและรังแกข้าราชการประจำ ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อไปในอนาคต จึงรู้สึกเห็นใจ ผบ.ตร. ที่ถูกคำสั่งอัปยศ เหมือนถูกเนรเทศให้พ้นพื้นที่เท่านั้น

ถ้า ผบ.ตร. ผิดต้องตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวน ไม่ใช่ตั้งอีกคนขึ้นมารักษาการทั้งที่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้ามีความผิดจริงต้องสั่งย้ายหรือพักงาน และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง หรือกรณีที่หัวหน้าหน่วยงานนั้นๆอยู่ในประเทศจะไม่มีการตั้งคนขึ้นมารักษาการเด็ดขาด เพราะสามารถสั่งการได้ทั้งทางโทรศัพท์และโทรสาร อย่าทำให้ระบบราชการเมืองไทยต้องเป็น 2 มาตรฐาน เป็นการทำลายระบบ ก่อให้เกิดความเสียหาย จะเป็นแบบอย่างในการกลั่งแกล้งข้าราชการประจำ เกลียดใครก็มีวิธีรังแก ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ต่างจังหวัดโดยไม่ต้องดูความผิดของบุคคลนั้น


ดัดจริต 2 มาตรฐาน :

นายโภคิน พลกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เขียนบทความเรื่อง “สังคมไทยไปไม่ถึงนิติรัฐ?” ตอนหนึ่งว่า

“สังคมไทยจึงเป็นสังคมที่มีคนดัดจริต (hypocrite) และ 2 มาตรฐาน (double standard) อยู่ไม่น้อย คือเมื่อไม่อยู่ในอำนาจก็ว่าผู้ที่อยู่ในอำนาจด้วยหลักต่างๆที่กล่าวมา แต่เมื่อตนอยู่ในอำนาจก็พอใจกับการใช้อำนาจโดยละเมิดหลักเช่นว่านั้นเสียเอง

หลักหรือสถาบันต่างๆจึงถูกอ้างโดยฝ่ายหนึ่งเพื่อทำลายอีกฝ่ายหนึ่งมาตลอด ในอดีตข้อกล่าวหาในการทำลายกันทางการเมืองมี 3 ประการคือ 1.ไม่เคารพสถาบันกษัตริย์ 2.เป็นคอมมิวนิสต์ 3.ทุจริต ท่านปรีดี พนมยงค์ เป็นเหยื่อรายแรกในข้อหาคอมมิวนิสต์และการปล่อยข่าวกรณีสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ในข้อหาจะเป็นประธานาธิบดี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในข้อหาเป็นเพรซิเดียม (presidium) ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในรูปแบบการปกครองของสหภาพโซเวียตที่ล่มสลายไปแล้ว

การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพิ่มมาอีก 2 ประการคือ 1.สังคมมีความแตกแยก 2.แทรกแซงองค์กรอิสระ แต่ข้อกล่าวหาไม่เคารพสถาบันและทุจริตยังคงเป็นข้อหาครอบจักรวาลอยู่เช่นเดิม

ดอกเตอร์อังดัวร์ทิ้งคำถามไว้ว่า บางทีเราอาจต้องไปสู่ยุคเรอเนสซองซ์ (Renaissance) หรือยุคฟื้นฟูทางกฎหมายสักครั้งเพื่อสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งและมีสันติสุขให้จงได้”


“เหลือง+แดง” ใครหนาว? :

ขณะที่นายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการ เคยตั้งข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจถึงการเมืองภาคประชาชนที่สีเหลืองอาจจับมือกับสีแดงเพื่อขับเคลื่อนประชาธิปไตยหรือการเมืองใหม่ เพราะไม่มี “มิตรแท้ ศัตรูถาวร” ทางการเมือง อย่างนายอภิสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์จะโอบกอดอย่างดูดดื่มกับเนวิน ชิดชอบ ผู้เคยโค่นล้มพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจจนพรรคของตนเองตกเก้าอี้กรณี ส.ป.ก.4-01

กรณีสหายที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขในป่าครั้ง 6 ตุลาฯใส่เสื้อคนละสีและโจมตีกันอย่างโกรธแค้น หรือกรณีจอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร หรือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ที่ถูกประชาชนนับแสนขับไล่จนมีผู้เสียชีวิตมากมาย สามารถเดินอยู่ในสังคมได้อย่างปรกติสุขเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แล้วทำไมเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงจะจับมือกันไม่ได้หากว่าจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองลงตัวกัน ซึ่งผู้ที่จะหนาวไปถึงขั้วหัวใจย่อมเป็นชนชั้นนำที่ยึดกุมอำนาจรัฐและกลุ่มนายทุนขุนศึกผู้ที่หนุนหลัง ตลอดจนนักการเมืองและอีแอบทั้งหลายที่คอยฉกฉวยประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองและเสื้อแดง

(ต่อ คห. 1)

จากคุณ : จำปีเขียว
เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:22:27 A:125.25.23.126 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com