ความคิดเห็นที่ 1 การไปทัวร์เมืองจีนครั้งนี้  ใจมันสู้เต็มร้อยนะคะ แต่สังขารมันก็ช่างกระไร เลย  โดยเฉพาะบาทา  มันคอยจะประท้วงซะเรื่อยเลยค่ะ  ใต้นิ้วก้อยทั้ง สองข้างมีน้ำใส ๆ  ยี่หร่าไม่กล้าเอาเข็มเจาะเอาน้ำทิ้งไป เกรงว่าจะยิ่งทำให้ ปวดแสบปวดร้อน  แล้วจะเดี้ยงเอาจริง ๆ จนเดินไม่ได้ด้วยความแสบสันต์ อย่ากระนั้นเลย เอากอเอี๊ยะที่ซื้อมานั่นละค่ะ  มาตัดปะปิดให้รอบนิ้วก้อย โหมีอะไรมารองไว้ซะชั้นหนึ่งก่อนแบบนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ  ลุยได้ไม่มี ปัญหาอย่างประหลาด อิ อิ พอดีกับการได้นอนแต่หัวค่ำ หลับเป็นตายจน ได้ยินเสียงมอร์นิ่งคอลนั่นละ ค่ะ ทำให้สดชื่นขึ้นได้อีก   เรียกว่าพร้อมลุยกำแพงเมืองจีนกันเต็มที่ค่ะ ก่อนไปถึงกำแพงเมืองจีนยังคิดอยู่ในใจเลยว่า เราจะมีความสามารถขึ้นไป ได้ซักกี่ก้าวกันน้า....เห็นจากในภาพก็ชันอยู่เหมือนกัน แล้ว สว.อย่างเราจะ ไหวมั้ยเนี่ย  แค่คิดก็กังวลเล็ก ๆ เกรงว่าจะตามพี่ไทยวูแมนเค้าขึ้นไปไม่ทัน ไงคะ  ก็แหมพี่เค้าออกสุขภาพแข็งแรง  รายนั้นขาลุยอยู่แล้วค่ะ  แต่ก็กะว่า ถึงเวลานั้น ก็คงต้องโบกมือให้พี่เค้าลุยขึ้นไปเลย ไม่ต้องมารอกันหรอกค่ะ เพราะเวลาที่ทัวร์ให้ก็แค่ไม่มากนัก ด้วยว่ามีโปรแกรมอื่นเรียงรายต่อคิวอีก คือต้องให้ภาคเช้าเสร็จกิจกรรมกำแพงเมืองจีนให้ได้  เพื่อให้ลงตัวกับอาหาร มื้อเที่ยง คือสุกี้มองโกล  ซึ่งทางทัวร์บอกว่าคนแน่นมาก  ไม่อยากให้พลาด คิวนี้ไป  คือถ้าผิดเวลาแล้วจะกระทบรายการอื่นเป็นลูกโซ่ไงคะ อืมม์...อันนี้ก็ต้องทำใจกันหน่อยละค่ะว่า  ถ้าอยากเที่ยวสบาย  ๆ ตามใจฉัน ก็ต้องจัดเที่ยวกันเองโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์  แต่ถ้าไม่ถนัดก็ต้องหลิ่วตาตามกัน ไปอย่างนี้ละค่ะ อิ อิ แต่อันนี้ยี่หร่าก็คอมเม้นท์ไปในแบบสอบถามประเมินการนำเที่ยวครั้งนี้ไว้ ด้วยว่า  กำแพงเมืองจีนคือไฮไลท์  ควรจัดเวลาให้มากกว่านี้   แต่พอกลับ มาเมืองไทยแล้ว  ก็มานึกขึ้นได้ว่า เออนะ....ผู้เฒ่าชะแรแก่ชรา ก็มีแยะในคณะทัวร์ครั้งนี้   พวกเค้าอย่างมาก ก็เดินขึ้นไปถ่ายรูปที่ตีนบันไดขึ้นกำแพงเมืองจีน คงไต่ปีนขึ้นไปถึงหออื่นๆ ไม่ไหว   พวกเค้าก็ต้องมารอด้านล่างหรือที่รถ  คงไม่เพลิดเพลินกับอากาศ ที่ร้อนแผ่ปกคลุมไปทั่วแน่นอน   ส่วนเรารึหรือคนที่ตั้งใจเดินขึ้นกำแพงก็จะ สนุกสนานและมีเป้าหมายขึ้น ๆๆๆ ไปเรื่อย ๆ ถึงจะเหนื่อยแทบขาดใจยังไง ก็ตาม  เวลาที่ให้มาก็จะรู้สึกน้อยไปนิด พอมาทบทวน ก็เอาเถอะ ขนาดได้เวลาจำกัด เรายังกระเสือกกระสนขึ้นไป ถึงหอถึงป้อมที่ 4 ได้นี่ก็ไม่เลวแล้วค่ะ เอิ๊กๆๆๆ  กะว่าจะขึ้นไปอีกดูเวลาแล้ว คำนวณเวลาเดินลงด้วยอีก   ไม่ทันเวลาที่ไกด์นัดพร้อมกันที่รถแน่นอนก็ เลยจำใจต้องตัดใจ ยุติไว้ที่ป้อมที่ 4 เป็นป้อมที่มีห้องน้ำให้เข้าด้วยนะคะ ******************************* ตรงนี้เป็นหินที่สะดุดตาด้วยอักษรจีน ( เค้าว่าอย่างไรก็อ่านไม่ออกค่ะ แต่เห็นคนมารอคิวถ่ายกันตรงนี้ไม่ขาดสายเลยค่ะ  แล้วเจ้าก้อนหินนี้ก็อยู่ ก่อนทางขึ้นบันไดกำแพงเมืองจีนด้วยค่ะ ลองสังเกตในภาพจะเห็นด้านหลังคนเดินขึ้นแน่นไปหมดเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:19:39 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 2 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:28:42 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 3 วันก่อนหน้าที่จะไปกำแพงเมืองจีน  ยี่หร่าได้ถามคุณไกด์หยก(ท้องถิ่น)ว่า จะพาขึ้นกระเช้าหรือไม่  แบบว่าชักจะขี้เกียจไต่กำแพงซะแว้วไงคะ คุณหยกเธอบอกว่า ถ้าจะขึ้นกระเช้า ต้องไปขึ้นอีกด่านหนึ่งคนละเส้นทาง กับที่บริษัทกำหนดไว้ในโปรแกรม  แล้วก็ยังต้องเสียค่าขึ้นกระเช้าคิดเป็น เงินไทยก็อีกประมาณ 700 บาท อู้ฮู ค่าขึ้นกระเช้าทำไมมันแพงจังอะ!! ถ้าแพงแบบนี้เราไต่ขึ้นไปเองก็ล่ายหงะ กระช๊งกระเช้าไม่จำเป็นแว้ววว ค่ะ อีกอย่างคุณไกด์หยกเธอให้สติว่า........ มาเที่ยวปักกิ่ง มากำแพงเมืองจีนแล้ว ถ้าไม่ลิ้มลองรสตั้งแต่บันไดขั้นแรก จะสนุกอะไรละคะ   ( ถึงตอนนี้ทำให้นึกถึงภูกระดึงบ้านเราเหมือนกันนะคะ ว่าวัยรุ่นเราครั้งหนึ่งเนี่ยควรจะไต่ปีนให้ถึงยอดให้ได้ ซึ่งเราก็พิชิตมาแล้วนี่ จะมากลัวอะไรกับกำแพงเมืองจีนใช่ป่าว  แต่มีเสียงลอยลมมาว่า ตอนนั้น มันอายุเท่าไหร่  แล้วตอนไต่กำแพงเมืองจีนอายุเท่าไหร่ฟุ้ย อิ อิ ก็จริงอย่างคุณหยกเธอว่านั่นละค่ะ  มาแล้วก็ลุยตั้งแต่ฐานขึ้นไปนั่นละค่ะ แต่คุณหยกเธอได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า  มีคำกล่าวไว้ว่าคนที่มาปักกิ่งแล้วได้ขึ้น กำแพงเมืองจีนซักครั้งในชีวิตถือว่าโชคดี  แต่ถ้าใครขึ้นกำแพงเมืองจีนเป็น ครั้งที่ 2 เค้าว่าโง่ค่ะ อ้าวแล้วกัน  เป็นงั้นไป  คุณไกด์เธอขยายว่า   มาครั้งแรกก็ประทับใจแล้ว แต่กำแพงเมืองจีนก็คือกำแพงเมืองจีนวันยังค่ำ  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คล้าย ๆ กับว่าจะขึ้นไปให้เหนื่อยทำไมอีก ในเมื่อรู้รสชาติไปแล้ว ทำนองนั้น ละค่ะ   อันนี้ก็แล้วแต่นะคะ  คงเป็นคำพูดไว้แซว ๆ กันเล่นสนุก ๆ มากกว่า คนที่จะขึ้นอีกกี่ครั้งคงไม่มีใครว่าหรอกค่ะ อยู่ที่เราสะดวก สนุก พอใจมาก กว่าจริงมั้ยคะ ลานจอดรถค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:45:01 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 4 * ที่ตีนบันได มีคล้าย ๆ เสลี่ยงกระมังคะ ( การเดา ) คงไว้บริการสำหรับ พวกที่อยากให้ยกขึ้นไปโดยไม่ต้องเดินมั้งคะ  ผิดถูกไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ลืมถามคุณไกด์ไปซะด้วยซีคะ แต่ถ้าใช่จริง  พ่อคุณแม่คุณเอ๋ย  ใครจะอาจหาญกล้านั่งให้คนยกหามขึ้นไป เล่าคะ  ถ้าคนหามเดินสะดุด มิหล่นกระเด็นตกเขาตายกันหรือคะ หูยแค่คิด ก็หวาดเสียวแล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:51:15 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 5 * " ทำท่าสู้ตาย " หลังจากที่ถ่ายรูปด้วยกันที่ตีนบันไดเสร็จ  ต่างคนก็ต่างก้มหน้าก้มตาเดินขึ้น บันไดค่ะ  ยี่หร่าก็บอกพี่ไทยวูแมนว่า ไปโลดเลยค่ะ ไม่ต้องรอกันเลย ทำเป้าคือป้อมต่าง ๆ ให้ได้ละกันค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:59:08 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 6 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:05:56 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 7 * พอเริ่มเดินขึ้นบันไดก็จะเห็นว่าสองฟากฝั่งจะมีราวให้เกาะจับไปตลอดแนว ที่ขึ้นไปข้างบน เอ่อ...ยังงี้ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ  เพราะดูเส้นทางแล้วค่อนข้าง ชันขึ้นตามลำดับค่ะ  ถ้าไม่เกาะจะเสียศูนย์ได้ค่ะ อาจมีหงายหลัง กลิ้งตก บันไดได้ค่ะ แต่ละขั้นบันได  บางขั้นก็กว้าง บางขั้นก็เป็นหินก้อนไม่โตมากนัก  มันน่าทึ่ง จริง ๆ ค่ะ ก็คงเหมือนพวกเขาพระวิหาร  เขาประสาทเมืองต่ำบ้านเรา หรือ พวกปิรามิดนั่นละค่ะ ที่ต้องใช้หินในการก่อสร้าง แต่ที่ทึ่งคือมันสร้างอยู่บนภูเขาหลายลูกนี่คะ จากปักกิ่งไปโน่นมองโกเลีย เลยนั้น ว่าเข้านั่น โอ้โฮ งานก่อสร้างไม่ได้อยู่บนพื้นราบด้วยนะคะ มันบน ภูเขานะคะ  จะไม่ให้ทึ่งได้ไงจริงมะคะ เดินขึ้นไปช่วงแรกก็จะมีของขายที่ระลึก คนแยะค่ะ ยืนถ่ายรูปกันเยอะมาก แต่พอสูงขึ้น ๆ คนก็น้อยลงตามลำดับค่ะ ด้วยความที่คนแยะมาก  ก็เลยไม่สามารถถอยไปเก็บภาพทั้งหมดสองด้าน ได้เลยต้องถ่ายทีละด้าน  อันนี้ก็สุดวิสัยจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 22:58:50 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:04:07 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ** เดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นว่ามีราวพวงกุญแจ ที่มีกุญแจแขวนอยู่เต็มเลยค่ะ เห็นเค้าว่าเป็นกุญแจสลักชื่อของหนุ่มสาว แล้วไขกุญแจล็อกไว้ ลูกกุญแจ ก็โยนทิ้งป่าเขาไปค่ะ  เป็นความเชื่อว่าความรักที่ผูกติดหรือถูกล็อกไว้ด้วย กุญแจจะอยู่ได้แบบยั่งยืนค่ะ แบบนี้ถ้าวันนึงทะเลาะกันหรือโกรธกันจะทำไงอ่ะ ลูกกุญแจก็ทิ้งไปแว้วว จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:12:14 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ^^^ อืมม์...ความรักรักกันจนขึ้นสนิมเลยค่ะ อิ อิ แสดงว่ารักกันยืนยงเจง ๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:17:10 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:21:05 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 13 จะเห็นคนหยุดยืนพิงกำแพงเป็นระยะ ๆ เราเองก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ มันเหนื่อย มันหอบค่ะ ถ้าฝืนเดินต่อไป มีสิทธิ์หัวใจวายเฉียบพลันเอาได้ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:34:00 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 14 มาดูประวัติกำแพงเมืองจีน กันซักนิดนะคะ กำแพงเมืองจีน หรือว่านหลี่ฉางเฉิง (Great Wall หรือ Wan Li Chang ) เริ่มสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว ในสมัยจ้านกว๋อทีแบ่งแยกดินแดน  ทำสงคราม สู้รบเพื่อแย่งชิงเป็นใหญ่ของแต่ละก๊ก  ต่างก็สร้างกำแพงเพื่อความมั่นคง ของตนเอง  แนวกำแพงจะทอดตัวลัดเลี้ยวไปตามแนวภูเขาเขตภาคเหนือ ของจีน ระยะทางยาวกว่า 10,000 หมื่นลี้  จึงเรียกว่า "ว่านหลี่ฉางเฉิง" (กำแพงหมื่นลี้) ในอดีตเชื่อกันว่ายาวถึง 9,000 กิโลเมตร มาถึงยุคของพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้  ได้ทรงปราบปรามก๊กต่าง ๆ ทั้ง 6 ก๊กได้ สำเร็จ  รวบรวมจีนเป็นหนึ่งเดียว  และเพื่อป้องกันชาวชงหนู  ชนเผ่าเร่ร่อน ที่ทำปศุสัตว์ เข้ามาบุกรุกและปล้นสะดม  จึงทรงสั่งให้รื้อกำแพงทางภาคใต้ เอามาเชื่อมกับทางเหนือจนเป็นกำแพงยาว   ในแต่ละยุคสมัย  ความสำคัญของกำแพงมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการบูรณะแก้ไขเพิ่มเติมทั้งในสมัยฮั่น  ถัง  และหมิง  ปัจจุบันที่เห็นกำแพง ของราชวงศ์หมิง ( ค.ศ.1368-1644) ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการนำอิฐมาสร้างกำแพงแทนการใช้ดินอัดตาม แบบดั้งเดิม  ราชวงศ์หมิงสร้างกำแพงช่วงใหม่ขึ้นทางตอนบนของปักกิ่ง ยาว 630 กิโลเมตร  โดยหวังจะให้เป็นปราการและหอส่งสัญญาณแจ้งเตือน ให้ทางเมืองหลวงรู้ตัวเพื่อจะได้เตรียมต้านรับการบุกโจมตีของชนเผ่าชนหนู จากทางเหนือได้ทันท่วงที  โดยทหารยามในหอคอยสูง 12 เมตร จะส่ง สัญญาณไฟและสัญญาณควันต่อกันมาเป็นทอด ๆ ทุก ๆ 60 เมตร (ข้อมูลจากหนังสือคู่มือฉบับพกพาปักกิ่ง หนังสือในเครือเที่ยวรอบโลก ) จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 23:59:18 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:04:26 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ** แต่ในที่สุด กองทัพแมนจูก็สามารถตีฝ่าแนวกำแพงเมืองจีนบุกเข้ายึดปักกิ่ง ได้  และตั้งราชวงศ์ชิงขึ้นปกครองจีนแทนราชวงศ์หมิงได้สำเร็จ ในการก่อสร้างต่อเติม และซ่อมแซมกำแพงตลอดช่วงเวลาหลายร้อยปี ต่อมา  มีแรงงานถูกเกณฑ์มาหลายแสนหลายล้านคน  ส่วนใหญ่ก็ต้องมาทิ้ง ชีวิตและซากร่างเอาไว้ใต้กำแพงเมืองจีนนั่นเอง หลังจากกำแพงนั้นกำแพงก็ถูกทิ้งร้างทรุดโทรมในสภาพปรักหักพังเสียเป็น ส่วนใหญ่ บางช่วงเห็นแต่เพียงแนวคันดินพอเป็นร่องรอยเท่านั้น  ที่เคย กล่าวกันว่า กำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งปลูกสร้างเดียวบนพื้นโลกที่มนุษย์อวกาศ สามารถมองเห็นได้จากภายนอก  แต่ภายหลังเค้าพิสูจน์แล้วว่าไม่จริงค่ะ!!! แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 00:13:49 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 00:12:59 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:12:29 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:16:40 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ** ประธานเหมาเจอตุงเคยกล่าวไว้ว่า   " ผู้ใดที่เกิดเป็นชายแล้วยังไม่เคยปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองจีน ผู้นั้นไม่ใช่คนจริง " จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:22:00 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 19 * กำแพงเมืองจีนช่วงที่มีผู้นิยมมาเที่ยวชมมากที่สุดคือ "ปาต๋าหลิ่ง" (Badaling) อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง 67 กิโลเมตร ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ ในปี ค.ศ.1957 วิวทิวทัศน์ขุนเขากำแพงแถบนี้สวยงาม  แนวของกำแพง เหยียดตัวไปตามแนวสันเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ และดูคล้ายระลอกคลื่น หรือมังกร ยักษ์เลื้อยไปตามสันเขา  มีความสูง 7 เมตร  กว้าง 5 เมตร สร้างในราชวงศ์ หมิง ใช้วัสดุทั้งดินอัดแข็ง  หิน และอิฐ มีหอไฟสัญญาณเป็นระยะ ๆ ตลอดรายทาง  กำแพงช่วงที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ ยาว 2 กิโลเมตร  สามารถปีนป่ายเที่ยวได้อย่างสบาย ๆ แต่พ้นจากนี้ไป ก็จะมีสภาพหักพังจนไม่สามารถเดินได้!!!! ปลายกำแพงด้านเหนือมีกระเช้าไฟฟ้านำนักท่องเที่ยว ขึ้น-ลง จากบริเวณ ลานจอดรถ  ที่เชิงกำแพงข้างล่างมีทั้งร้านค้า  ร้านอาหาร  พ่อค้าแม้ค้า หาบเร่  โรงภาพยนตร์  รถทัวร์ แม้กระทั้งร้านฟาสฟูด (ไก่ทอดเคเอฟซี) ก้ยังมี แต่ปัจจุบันทีวร์มักจะแวะชมช่วงที่อยู่ใกล้ที่สุด  ผู้คนไม่หนาเน่นมากนักคือ "จีหย่งกวน"(Juyongguan) อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง 50 กิโลเมตร  เป็นซุ้ม ประตูด่านปราการที่อยู่ใกล้ปักกิ่งมากที่สุด  เพิ่งเปิดให้คนมาเที่ยวชมเมื่อ ปี ค.ศ.1998  เป็นด่านสุดท้ายที่ปกป้องรักษาความปลอดภัยของปักกิ่ง สร้างในปี ค.ศ.1345 มีการจำหลักเรื่องราวทางพุทธศาสนา  มีจารึกภาษาจีน ทิเบต  สันสกฤต  และภาษาชนเผ่าทางเหนือประดับไว้ด้วย มีวัดและสวนอยู่กระจายในบริเวณใกล้เคียง  สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง หลายแห่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่  กำแพงในช่วงนี้ทอดยาวไปตามแนว เขาไท่หังชาน  โดยมีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:45:50 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 20 *** กำแพงเมืองจีนที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้  ส่วนมากจะเป็นกำแพงในสมัย ราชวงศ์หมิง  ที่เริ่มจากตะวันออก ด่านซานไห่กวุน   ติดทะเลเป๋อไห่  จรดทิศตะวันตก  จบที่ด่านกานสูเจ๊ย ในมลฑลกานสู  ยาว 6,7000 ก.ม. ยาวที่สุดในโลก (ข้อมูลทั้งหมดจากหนังสือคู่มือนักเดินทางฉบับพกพา  หนังสือในเครือ เที่ยวรอบโลก ) แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 06:29:12 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:53:57 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 21 * ยิ่งเดินขึ้นป้อมที่สูงขึ้น ๆ คนก็เริ่มลดปริมาณลงเรื่อย ๆ ค่ะ ประกอบกับ คนที่ขึ้นไปแล้วและได้กลับลงไปแล้ว  ก็เลยได้ภาพที่ค่อนข้างปลอดคน บ้างแต่ให้ไม่มีคนเลยคงต้องไปที่ป้อมหกป้อมเจ็ดละมังคะ อิอิ นี่ไปได้แค่ป้อม 4 เท่านั้นเองค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:33:53 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 22 * มีน้องที่ทำงานมาเที่ยวตอนหน้าหนาว  แต่ยังไม่ถึงกับหนาวติดลบ วิวสอง ข้างทางจะค่อนข้างแห้งแล้งมากค่ะ  ไม่มีต้นไม้เขียว ๆ ให้เห็นซักต้น ก็เลย คิดว่าที่เรามาช่วงอากาศร้อนตับแล่บแบบนี้  แต่ถ่ายภาพแล้วออกมาดูสดชื่น ไม่น้อยกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ข้างทางอะค่ะก็คิดว่าโอเคแล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:39:10 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 23 * เดินขึ้นมาด้วยความเหนื่อยยาก  เหนื่อยแฮก ๆ เลยค่ะ  กล้ามเนื้อล้ามาก ทีเดียว รู้สึกปวดเมื่อยไปหมดแล้ว  แต่ด้วยความอยากพิชิตและทำลาย สถิติให้กับตัวเองเท่าที่เวลามีให้  นี่ถ้าได้เวลาเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงไม่แน่นะคะ อาจถึงป้อมหกป้อมที่เจ็ดได้เลยค่ะ ว ขึ้นมาถึงข้างบนด้วยความที่มันเหนื่อยมาก  หายใจแสบจมูก แสบคอเลย อิๆ  ไม่มีอารมณ์อยากจะซื้อของแบกของให้มันหนักพะรุงพะรัง ทั้งที่มานี่ก็ ตั้งใจจะซื้อ ที่ทับกระดาษหรือของโชว์ตั้งโต๊ะ  รูปทรงกำแพงเมืองจีนจำลอง ก็ตาม  เรื่องกำแพงเมืองจีนจำลอง เป็นสิบปีแล้วมีเพื่อนเคยให้เป็นของฝาก เมื่อครั้งที่เค้าไปเที่ยวกันมา  ก็เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสเองก็จะไปซื้อด้วยตนเอง และแล้วฝันก็เป็นจริงค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:45:27 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ^^^ ไม่เสียเวลาดูของ ก้มหน้าก้มตาเกาะราวไต่อย่างเดียว 555 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:48:41 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ^^ บางช่วงเห็นความทรุดโทรม ปรักหักพังให้เห็น   ทางการจีนน่าจะรีบบูรณะซ่อมแซมนะคะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้มีแต่จะหมดสภาพลงไปทุกวันค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:53:51 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 26 * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:56:55 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 27 +++ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:59:13 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 28 ภายในป้อมแต่ละป้อมก็จะมีช่องหน้าต่างเห็นได้โดยรอบค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 07:01:45 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 29 * มุมนี้ถ้าไม่มีวัยรุ่นสาวชาดิชาววจีนปีนขึ้นไปนั่งโทรศัพท์เป็นนานสองนานก็ จะได้ภาพสมบูรณ์กว่านี้ เสียดายจริง ๆ ค่ะ เราก็ถือกล้องให้คุณเธอเห็น คุณเธอก็ไม่สนใจเหมือนกับว่าฉานจะนั่งจะคุยตรงนี้มีอะไรอ๊ะป่าว  ก็เลย ไม่อยากรอแล้ว ตัดใจกดติดเจ้าหล่อนมาด้วยอย่างมีหงุดหงิดเล็กน้อยอิๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 07:07:21 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ^^^ เห็นราวที่ทางการเค้าติดพาดไว้ให้ทั้งสองฟากมั้ยคะ ได้ราวนี้ละค่ะ ทำให้ยี่หร่าไต่ขึ้นมาถึงป้อมที่ 4 ได้ ไม่งั้นเจอแรงโน้มถ่วงโลก แขนขาหนักไปโม๊ดค่ะ เดิน ๆ ก้าวขึ้นบันไดแต่ละก้าวจะพลอยหน้าหงาย จะหงายหลังอยู่บ่อย ๆ ถ้าไม่เกาะให้แน่น ยังนึก ๆ อยู่เลยว่านี่ถ้าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังอยู่มีหวังติดกันระนาว มันติดกันจากสัมผัสใช่มะคะ  เราเดินขึ้นก็หายใจแรง คนเดินลงก็หายใจแรง รดกันไปมาในช่วงที่มีคนแยะ รับรองว่าไม่รอดแน่ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 07:14:00 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 31 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 07:16:30 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ช่วงที่เค้าขายของที่ระลึก ยี่หร่าเห็นสองช่วงและในภาพนี้คือช่วงที่ตั้งวาง ขายเมื่อไต่ระดับสูงขึ้นไปอีกค่ะ  และนี่ก็คงเป็นจุดสุดท้ายของกำแพง เมืองจีนที่ยี่หร่ามายืนสัมผัสค่ะ   มองขึ้นไปยังเห็นคดเคี้ยวใจนึกเสียดาย อยู่ไม่หายถ้าขึ้นไปอีกจะได้ภาพสวย ๆ ที่น่าจะดูสวยในความรู้สึกมากยิ่ง ขึ้นไปกว่านี้อีกค่ะ  แต่ก็ไม่ไหวแล้ว เวลาไม่พอแล้วค่ะ แล้วก็ปวดฉี่มากด้วย 555 ดีว่าช่วงระดับนี้มีห้องน้ำให้  แต่ห้องน้ำไม่มีประตูนะคะ 555 มีสามห้องแยกหญิงชาย ยี่หร่าฉี่อย่างไวที่สุดเท่าที่จะทำได้  เกิดมาไม่เคย ชิ๊งฉ่องไวขนาดนี้เลย  กรรมเวง ถ้าไม่ปวดมากก็จะอั้นไว้ก่อนนี่ไม่ไหวต้อง เดินลงไปอีกกระเทือนกระเพาะปัสสาวะแย่เลย อิ อิ  จำเป็นต้องกำจัดค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 07:33:47 A:124.120.226.124 X:

ความคิดเห็นที่ 33 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 16:16:52 A:202.29.108.226 X:

ความคิดเห็นที่ 34 * เป็นไงกันบ้างคะ เพลิดเพลินกับภาพที่ยี่หร่านำมาฝากกันบ้างหรือเปล่าคะ สำหรับ จขกท.นี้ลากเม้าท์ขึ้นลงนั่งมองภาพกำแพงเมืองจีนฝีมือกำกับกล้อง ของตัวเองแล้วอดอมยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ค่ะ  คือไปเองมันก็เลือกได้ ว่าจะชอบมุมไหนแล้วก็กดชัตเตอร์ไป  ก็มีบ้างที่เบลอบ้าง  ถ่ายแบบขาดๆ เกิน ๆ ก็แยะค่ะ ดีว่าเป็นดิจิตอลนะคะ  ไม่ชอบภาพไหนก็ดีลีททิ้งไปง่ายดี ค่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อนกล้องฟิส์มมีหวังหมดตัวแน่เลย  นี่ยี่หร่าก็ถ่ายทริปเมือง จีนนี้พันกว่ารูป  นี่ยังน้อยกว่าพี่ไทยวูแมนนะคะนี่ เสียดายว่ายังไม่ได้เจอพี่เค้าเลยนับตั้งแต่เดินทางกลับเมืองไทย  รูปในอีก หลาย ๆ มุมมองตามสายตาพี่เค้ายังมีอีกแยะติดค้างอยู่ในกล้องพี่เค้า ยังไม่ ได้โหลดออกมาเลยค่ะ  จะรอพี่เค้ารึก็กลัวว่ายิ่งนานเดี๋ยวจะลืมซะก่อนจะ พลอยเล่าผิด ๆ ถูก ๆ ไปค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 20:47:12 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 20:52:49 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 36 เพื่อความจุใจในการชมภาพกำแพงเมืองจีนนะคะ ยี่หร่าก็จะหยิบภาพจากหนังสือออกมาโพสให้ชมกันชัด ๆ อีกทีค่ะ หนังสือเล่มนี้เค้าก็ขายสำหรับนักท่องเที่ยวไว้สะสม พอดีญาติที่เพิ่งไปมา ซื้อมาแล้ว ก็เลยขอหยิบภาพเค้ามาเพราะเห็นว่าคนถ่ายภาพมืออาชีพแล้ว เค้าเก็บมุมมองที่เราสัมผัสไม่ถึงค่ะ ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์มากค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หรือถูกปกคลุมไปด้วยหิมะก็ ตามค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:16:09 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 37 * นึกย้อนกลับไป...ต้องใช้แรงงานมหาศาลแค่ไหน ต้องขนหินด้วยความยากลำบากอย่างไร มหัศจรรย์งานสร้างจริง ๆ ค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:20:39 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบจริง ๆ ศิลปะที่ก่อเกิดจากอิฐจากหินอะค่ะ ทั้งสีและรูปทรงมันดูคลาสสิคในความรู้สึกเหลือเกินค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:24:52 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพที่ 4 หยิบออกมาจากในหนังสือค่ะ ยิ่งมองยิ่งฉงน แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 21:31:37 จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:29:39 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 40 * กำแพงมิรู้จบ....นี่ถ้าเดินขึ้นกำแพงไปโดยไม่ต้องนับป้อม จะไปจรดที่ มองโกเลียมั้ยเนี่ย อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:35:46 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 41 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:39:03 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 42 * สวยจังเลย... จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:42:28 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 43 *** จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:46:47 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 44 * คล้ายกับภาพวาดเลยนะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:52:05 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 45 ^^^ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 21:56:03 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นไงคะ  จุใจกันมั้ยเอ่ย ก็คงลงให้ชมแค่นี้ละค่ะ  ถ้าอยากพบความมหัศจรรย์ ก็ต้องไปสัมผัสด้วย ตนเอง ฟังคนอื่นเล่าคนอื่นเขียน มันสู้ประสบการณ์ตรงไม่ได้ ถ้ามีโอกาส ก็ลองไปเที่ยวแล้วกลับมาแชร์กันบ้างนะคะ หยิบภาพในหนังสือมาก็แยะแล้ว จะลงให้ชมอีก ก็เกรงว่าเดี๋ยวหนังสือ เค้าจะพลอยขายไม่ออกเอาด้วยซีคะ *ก็ต้องขอบคุณคนที่แบกหนังสือนี้กลับมาด้วย ทำให้มีภาพสวย ๆ มาให้ เราจิ๊กอะค่ะ อิ อิ * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 22:15:21 A:124.120.223.31 X:

ความคิดเห็นที่ 47 พี่สาว จ๋า ...สวัสดีค่ะ สบายดีไหมเอ่ย ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะ แหม ดีจัง กำลังวางแผนจะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ปีหน้า ขอเก็บไว้เป็นข้อมูลก็แล้วกันค่ะ ... คิดถึง คงได้เจอกันที่เมืองไทย เร็วๆ นี้นะคะ ... Keep smiling Noo Yim PS:  Please say HELLO to everyone too จากคุณ : MaeNooYim in Sydney (SiamsmilE) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 14:59:25 A:203.32.178.20 X:

ความคิดเห็นที่ 48 หวัดดีจ้า น้องแม่หนูยิ้ม จุ๊บ ๆ มาไว ๆ จิ  อยากหม่ำข้าวและติ๊ดชึ่งอย่างครั้งก่อนอีกค่ะ อิ อิ ดีเลยค่ะ ถ้าคิดจะไปเที่ยวก็ช่วยกันเซฟเข้าคลังกระทู้กันกระทู้หาย 555 นี่พี่ยี่ยังเล่าไม่หมดเลย  จริง ๆ ภาค 3 ยังต้องต่ออีกนะ  ยังไม่ได้พาไปชิม ชา  กินสุกี้มองโกลเลย  ว่าแล้วเดี๋ยวตามไปนะคะ น้องยิ้ม มาถึงเมืองไทยเมื่อไหร่  แจ้งด่วนนะคะ จะได้รีบนัดพี่น้องพ้องเพื่อนกันค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:16:31 A:124.120.228.27 X:

ความคิดเห็นที่ 49 * ใครแวะมากระทู้นี้ ขอให้ย้อนไปทัวร์ในกระทู้ภาค 3 นะคะ เพราะจะไปเล่าต่อที่กระทู้นั้น แบบว่าอยากเล่ากำแพงเมืองจีน ก่อนเลยต้องตั้งกระทู้กระโดดมาก่อนไงคะ อิ อิ * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 15:28:38 A:124.122.100.214 X:

ความคิดเห็นที่ 50 ,,, จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 05:31:03 A:124.120.226.125 X:

ความคิดเห็นที่ 51 ว่าจะปล่อยกระทู้ให้ตกไปก็ให้เสียดายเลยเอาวุ้ยเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีก ซักกะหน่อยนึงละกัน อิ อิ * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 21:25:24 A:124.122.100.247 X: