 |
วาเลนติโน่....สุดยอดนักรัก!!!!
|
|
เป็นอัยการได้ไง - เหยี่ยวถลาลม
จะเรียงลำดับ "คดีวาเลนติโน" ให้ท่านผู้อ่านพิจารณาอีกครั้ง เพื่อได้เห็น "ภาพ" การทำงานของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ
จากนั้นท่านลองใคร่ครวญ แล้วแสดงความเห็นเองเถอะครับ
คดีบุกรุกเกาะยาว จ.พังงา มีผู้ต้องหา 3 คน คือ นายตัน เต็ก ไฮ้ หรือวาเลนติโน นางสุดใจ คีรีพอน และนายเชาวพงศ์ เมฆารักษ์กุล ผู้แทนบริษัท จี้เลี้ยงการประมงภูเก็ต จำกัด
วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีความเห็น "สั่งฟ้อง" ผู้ต้องหา แล้วส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4
ผ่านไปปีกว่า !
และในเวลาอันกระชั้นชิดนั้น
วันที่ 22 กรกฎาคม 2552 สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 แจ้งคำสั่ง "ไม่ฟ้อง" ถึงดีเอสไอ
วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ดีเอสไอทำ "ความเห็นแย้ง" ถึงอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กับ อัยการสูงสุด
วันที่ 29 กรกฎาคม 2552 นายธีระชัย เอนกจำนงพร รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ปฏิบัติราชการแทน นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีหนังสือถึงดีเอสไอ กลับลำ "สั่งฟ้อง"
พร้อมกับแจ้งให้ "ดีเอสไอ" ไปติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาส่งอัยการในวันที่ 31 กรกฎาคม เพื่อยื่นฟ้องศาลให้ทันภายในกำหนดอายุความ วันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ หยุดราชการ อายุความจึงขยายไปถึงวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม
ดีเอสไอแย้งไปว่า อัยการนับ "อายุความ" คดีนี้ผิด !
ที่ถูกควรเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2549 อายุความของคดีนี้มี 15 ปี จึงควรขาดอายุความในวันที่ 30 มีนาคม 2564
อัยการนับอายุความคดีนี้ผิดไปเกือบ 12 ปี !
เมื่อเรื่องถูกนำเข้าสู่ "บอร์ดคดีพิเศษ" ตัวแทนอัยการยอมรับว่า นับอายุความ "ผิด" ไปแล้ว
คำว่า "คดีขาดอายุความ" หมายถึง สิทธิในการฟ้องคดีถูกระงับ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะลอยนวล
ผู้เป็น "ทนายแทนแผ่นดิน" ไม่แม่นกระทั่งการนับอายุความเช่นนี้ จะทำอย่างไรดี !?!! http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01jud31040952§ionid=0117&day=2009-09-04 ------------------------------------------------------------------------
นักรักของไทยที่โด่งดังก็มี"ท่านขุนแผน"แสนสนิทหรือแสนสะท้านก็จำไม่ค่อยได้เพราะเรียนหนังสือเรื่องนี้มานานแล้ว(..ฮา)
แต่นักรักระดับสากลของฝรั่งก็มี ดอนฮวน,คาสโนวา และสุดยอดชาย "วาเลนติโน่"!!!
แต่ในเมืองไทยเรามี"นายวาเลนติโน่ ตัน เฮ็ก ไฮ้"สุดยอดชายชาวมาเลเซียที่เข้ามาหากินสร้างฐานะในเมืองไทยกว่า 30 ปีแล้ว
เริ่มจากมาจับปลากระตักหรือปลาที่ปักษ์ใต้ฝั่งตะวันตกอันดามันเรียกว่า"ปลาชิ้งฉ้าง" แต่ปักษ์ใต้ฝั่งตะวันออกอ่าวไทยเรียกว่า"ปลาจิ้งจัง" อันเป็นสุดยอดเครื่องเคียงอาหารเช้ากับข้าวต้มของชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน!!!
เสี่ยวาเลนติโนจับปลาชิ้งฉ้างตั้งแต่ชุมพรยันภูเก็ตสร้างฐานะร่ำรวยบ้างยอบแยบบ้างตามประสาคนทำประมง แต่ธนาคารกรุงเทพ จำกัดทุ่มสินเชื่อให้ยิ่งกว่าบิดาของนายชาตรี โสภณพนิช ลงทุนทำเองซะอีก!!!!
นายวาเลนติโน่ของเรามองเห็นแล้วว่าทำประมงมีแต่ล้มลุกคลุกคลานสู้ทำอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ จึงเริ่มแบบภาษาปะกิตเรียกว่า Diversify ไปซื้อที่ดินบ้าง ซื้อหุ้นโรงพยาบาลเอกชนบ้าง ทำจัดสรรที่ดินบ้าง แต่เป็นต่างชาติถือกรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ที่ดินไม่ได้เลยมีเมียไทยชื่อ "นางสุดใจ คีรีพอน" ที่เป็นผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งนั่นแหละ
เห็นนามสกุลของผู้ต้องหาสตรีท่านนี้หากเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิดก็จะทราบถิ่นเกิดว่าบ้านเดิมเธออยู่ที่ บ้านลิพอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
เสี่ยวาเลนติโน่ของเราเป็นคนรูปชั่วตัวอ้วนคือมีส่วนสูงประมาณ 150 ซม. น้ำหนักน่าจะประมาณ 75 กก. แต่จุดเด่นคือเป็นคนมีความอดทนรอคอย(เพื่อจะได้)เป็นเลิศศศศ!!!!
ประสงค์จะได้อะไรแม้จะอยู่ในมือเทวดาบนสวรรค์ชั้น 7 หรือในมือพญายมลงนรมขุม 8 เสี่ยแกจะต้องเอามาจนได้!!
เป็นสุดยอดนักล็อบบี้ยิสต์แบบชาวจีนรุ่นเก่าที่ครบเครื่องทั้งวาจาหวาน(ทั้งๆที่พูดไทยไม่คล่องแคล่ว) ให้"ของขวัญ"เกินกว่าที่ผู้รับคาดไว้ เช้าถึง-เย็นถึง-กลางดึกถึงเหมือนเป็นหมาเฝ้าบ้านให้ เวลาว่างเลี้ยงลูก ทำสวนครัว ขัดหม้อไห ถูพื้นให้เจ้านายเป้าหมายด้วย
ท่าน บรรหาร ศิลปอาชา ที่เคยว่าแน่ก็ยังแพ้ ป.4...เอ๊ย..แพ้วาเลนติโน่ล่ะ(เรื่องท่านบรรหารสมัยเป็นผู้รับเหมาวิ่งซื้อเป็ปซี่ขวดกลางมาบริการนายช่างกรมโยธา พอท่านมาเป็น รมต.มหาดไทย คุมกรมโยธา นายช่างต้องวิ่งซื้อเป็ปซี่ขวดกลางมาบริการท่านในห้องประชุมกลับกันบ้างยังเล่ากันไม่จบ...ฮา)!!!
ใครได้รู้จัก(วาเลนติโน่)แล้วจะรักเอง(ฮ่า..ยืมสโลแกนหาเสียงหลอก..เอ๊ย..ดึงหัวใจคนนครศรีฯของหนุ่ม เทพไท เสนพงศ์ มาให้คำจำกัดความ) เพราะเสี่ยจ่ายไม่อั้น บริการไม่อั้น รับใช้ไม่อั้น ทุ่มเทเวลาเฝ้าเจ้านายไม่อั้น ด่าไม่โกรธ ยิ่งถูกเจ้านายด่าว่ายิ่งมอบของวัญให้เพิ่มอีกหลายเท่า
เป็น Lobbyist แบบข้าทาสบริวารในบ้านผู้ต่ำต้อย(แต่ต้องได้...ฮา) ไม่เคยเบ่ง ไม่เคยอวดตัว ยอมเป็นตัวตลกผู้ต้อยค่าเสมอ(แต่ต้องได้...ฮา)
ผจก.แบ็งค์กรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศไทยรู้จักเพราะเขาเป็นสุดที่รักของ ชาตรี โสภณพนิช มาตลอด ท่านชาตรีเดินที่ไหนในปักษ์ใต้จะต้องมีเสี่ยวาเลนติโน่เป็นวอลล์เปเปอร์(..ฮา)
ผู้ต้องหาอีกคนเป็นเจ้าของ นสพ.เสียงใต้ นสพ.รายวันที่ทนทายาทออกวางตลาดมากว่า 20 ปีของ จ.ภูเก็ต อยากรู้ว่าหน้าตา นสพ.เป็นอย่างไรคลิ้กที่นี่...
http://www.siangtai.com/TH/index.php
ท่านผู้นี้มีอีกอาชีพหนึ่งเป็นผู้บริหารร้านแว่นตา-นาฬิกาของกงสีชื่อ ห้างนำศิลป์ และ ห้างหอแว่น (คนละ ห..กับหอแว่นของ กทม.)ในภูเก็ตด้วย มาร่วมขบวนเป็นกรรมการ บ.จี้เลี้ยงการประมง ก็เพื่อเป็นไม้กันหมาให้
ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือท่านอัยการสูงสุดท่าน ชัยเกษม นิติศิริ (ซึ่งจะเกษียณวันที่ 30 กันยายน สิ้นเดือนนี้)ท่านเคยเป็นอัยการจังหวัดภูเก็ตที่กว้างขวางรู้จักกันทั่วในหมู่พ่อค้าชาวภูเก็ต ชนิดที่มีรถเบนซ์ของพ่อค้า เช่น ของเสี่ยใหญ่ภูเก็ต จิรวิจักษณ์ อมรไพโรจน์ มาให้ท่านยืมขับ นับประสาอะไรที่ท่านจะไม่รู้จักคนดังอย่างเสี่ยวาเลนติโน่?
อ่านข่าวเรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้วกลับลำมาสั่งฟ้อง อัยการนับอายุความผิดว่าหมดไปแล้วเกิดกลับลำเมื่อโดยทักท้วงก็ยอมบอกว่ายังไม่หมด
ผมอยากเป็นคนรู้จักทั่น ชัยเกษม นิติศิริ เหมือน นายวาเลนติโน ตัน เฮ็ก ไฮ้ จังเลย???
ผมรับรองว่าหากคดีนี้ศาลตัดสินว่าผิด(หากได้ส่งฟ้องถึงศาลน่ะ..)และริบที่ดินคืนหลวง จะมีแบ็งค์บางแห่งเกือบเจ๊งตามจำเลยแน่ๆ
แต่ที่สำคัญอยากเรียนถามคนอยู่ภูเก็ตว่าท่านเคยได้อ่านข่าวของคดีนี้ใน นสพ.เสียงใต้ ของท่านบ้างไหม?(.....ฮา)
จากคุณ |
:
พาชื่น
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ย. 52 09:24:36
A:124.120.79.97 X:
|
|
|
|  |