Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฟั น ธ ง ! ไ ท ย ไ ม่ เ ข้ ม แ ข็ ง  

.

             
             
              เ ม้ ง แ ต ก   !    อีกแล้ว   “รัฐบาลอภิสิทธิ์”    เมื่อโดนนักวิชาการ   “กลุ่มจับตานโยบายรัฐบาล”   จากคณะเศรษฐศาสตร์  ม.ธรรมศาสตร์   “เอ๊กซเรย์”  แผนปฏิบัติการในโครงการไทยเข้มแข็งวงเงิน  1.43  ล้านล้านบาท  แบบไม่เหลือซาก ?   ด้วยมุมมองที่ทำให้สังคมไทยอดจะคล้อยตามและเห็นใน  ทางทิศเดียวกันไม่ได้  นั่นคือ   “ไร้พลัง”  จะตอบโจทย์ที่รัฐบาลหวังสร้างความเข็มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจไทย  ทั้งในระยะปานกลางและยาว  ซ้ำร้ายส่วนใหญ่ยังเป็นโครงการปะผุและไม่กระจายตัว  และอาจทำให้รายได้ภาษีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เพียงพอรองรับภาระหนี้สิน
             
              นางปัทมาวดี ซูซูกิ   คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์  ม.ธรรมศาสตร์  ระบุว่า โครงการส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์  ไม่มีมาตรการที่สามารถแก้ปัญหาเชิงคุณภาพและเชิงโครงสร้างได้  และยังเป็นแค่การสานต่อโครงการเดิม ๆ ที่มีอยู่ในระบบงบประมาณที่ยังไม่ได้ทำ  หรือทำไปบ้างแล้ว  จากนั้นก็นำมาจัดสรรเพิ่มเสมือนเป็นการปะผุ  หรือล้างท่อโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลเท่านั้น  เห็นได้จากการลงทุนในระบบรถไฟฟ้า  ขณะที่โครงการใหม่ที่เสนอมาถือว่ายังเป็นโครงการที่ยังขาดทิศทาง  และเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งนี้เมื่อลองเอาโครงการย่อยมาดูจะพบว่า   ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในระยะปานกลางหรือยาวได้เลย  จึงเห็นว่างบส่วนที่เหลือหลังจากกดปุ่มลงไป  2  แสนล้านบาทแรก หากรัฐบาลจะปรับโครงการเพื่อเสริมความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจได้อีกก็จะดี
             
             สิ่งที่ยังขาดในโครงการไทยเข้มแข็งคือ ด้านพลังงานและขนส่งที่ได้รับการจัดสรรงบไปกว่า  3  แสนล้านบาท  แต่ปรากฎว่าด้านพลังงานมีการทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทนน้อยมาก  ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล  ที่พยายามพูดเรื่องนี้ว่านโยบายที่สำคัญข้อหนึ่งของประเทศ  ขณะที่การพัฒนาด้านขนส่ง  มีการใช้งบส่วนใหญ่เกือบครึ่งในการซ่อมถนน  ที่เหลือนำไปลงทุนในระบบราง  แต่ไม่มีการจัดสรรเงินลงทุนในระบบทางน้ำตามแผนโลจิสติกส์  งบพัฒนาทางด้านการศึกษาที่ได้รับการจัดสรรงบถึง  1.3  แสนล้านบาท  แต่ส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาครู  ไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาทางด้านระบบการศึกษาของไทยในระยะยาวได้
             
             ด้านการเกษตรที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า  2  แสนล้านบาทนั้น  นางปัทมาวดี  ชี้ว่า งบส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาระบบชลประทานเดิมที่มีอยู่แล้ว  23 %  ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด  เท่ากับเป็นการใช้งบพัฒนาแบบกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เดิม  ทำให้ภาคการเกษตรโดยรวมไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้  ไม่มีงบสำหรับวิจัยและพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น
             
             ทั้งนี้  กลุ่มจับตานโยบายรัฐบาลเสนอให้รัฐบาลกำหนดเป้าหมายและทิศทางในการใช้งบให้สอดคล้องกับทิศทาง  และจุดอ่อนในการพัฒนาประเทศ  เช่น การพึ่งพาการส่งออก  การพึ่งพาพลังงานนำเข้าสูง  และระบบการศึกษาขาดคุณภาพ  นอกจากนี้  ยังควรทำนโนบายในเชิงกลยุทธ์และจัดทำให้เป็นแพ็กเกจ หรือมาตรการเพื่อให้เกิดพลัง  และควรคิดกลไกในการขับเคลื่อน  ติดตาม  และตรวจสอบการใช้เงิน  โดยใช้กลไกในท้องถิ่นเข้ามาช่วย


             คัดจากคอลัมภ์ เศรษฐกิจ
                   จาก นสพ.  ความจริงวันนี้   ฉบับวันที่  11 – 14  กันยายน 2552

.

จากคุณ : hollowpig
เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 52 23:07:04 A:118.174.34.7 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com