Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
“จอม เพชรประดับ”เขียนถึง“ความเมาอำนาจ”ของ“นักการเมือง”และ“ความเน่าเฟะ”ของ“สมาคมสื่อ” !  

“สมาคมวิชาชีพสื่อ”กับ “การแก้วิกฤตชาติ”


โดย จอม เพชรประดับ  


การสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2552 ทางวิทยุ 100.5 อสมท.ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้คำตอบที่ชัดเจนทั้งเรื่องความไม่เป็นธรรม ปัญหาสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไทย ปัญหาสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย ที่กำลังเป็นปัญหาหนักหนา และร้ายแรงไม่แพ้ปัญหาอื่นๆ และกำลังทำให้บ้านเมืองไทยวิกฤตอยู่ในขณะนี้  
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนคาดไม่ถึง นั่นก็คือ บทบาทองค์กรวีชาชีพสื่อทั้งสองสมาคมคือ สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  

แม้จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนทั่วไปอยู่บ้างว่า สมาคมวิชาชีพทั้งสองนี้ สองมาตรฐาน หรือมาตรฐานเดียวคือ มาตรฐานที่ตั้งอยู่บนอคติ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง และไม่เป็นกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร แต่คิดเพียงว่า เป็นเพราะสภาพสังคมไทยอยู่ในสภาพแตกเป็นขั้ว แตกเป็นฝ่ายอย่างรุนแรง  ประชาชนจึงอาจตั้งความหวังกับสมาคมวิชาชีพไว้สูงเกินไป

แต่คำวิพากษ์วิจารณ์นี้กลับเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ  หลังจากที่ผู้เขียนถูกแทรกแซงการทำงานที่วิทยุ 100.5 อสมท. จนนำไปสู่การต้องตัดสินใจยุติการทำรายการในเวลาต่อมา

เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผู้เขียนได้รายงานเรื่องนี้ (ทางโทรศัพท์) ให้กับนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย คำพูดแรกที่ได้รับ คือการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผู้เขียนว่า ยังทำการบ้านเพื่อซักถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ดีพอ ไม่มีข้อมูลมากพอที่จะต้อนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนไปกับข้อมูล

ผู้เขียนเองก็ยอมรับ และพยายามกับอธิบายกลับไปว่า เพราะไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า รวมทั้งผู้เขียนเป็นนักข่าว ไม่ใช่ทนายความ ที่จะคาดคั้น กดดัน โดยการตั้งคำถามกับแหล่งข่าว จนทำให้แหล่งข่าวต้องไปจนอยู่ในมุมใดมุมหนึ่ง และยืนยันไปด้วยว่า ได้ตั้งคำถามที่รัฐบาล และคนไทยส่วนใหญ่มีข้อสงสัยและมีคำถามต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่แล้ว (อ่านคำถาม และคำตอบ คำต่อคำ ในเว็บไซต์ประชาไท )

อย่างไรก็ตาม ยังได้รับความกรุณาจากนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยที่ให้เขียนบันทึกขึ้นไป และได้อ่านบทความของนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยในเวลาต่อมาในหนังสือพิมพ์มติชนที่ท้วงติงการแทรกแซงสื่อของรัฐบาล

ด้าน สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสได้พบกับนายกสมาคมฯ โดยบังเอิญในอีก 2 วันต่อมา สิ่งที่นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยพูดกับผู้เขียนก็คือ “ไม่เห็นมีอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล อสมท. จะต้องเข้าไปตรวจสอบเมื่อมีการปฎิบัติขัดแย้งกับนโยบาย (ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญก็ระบุชัดว่า ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 46 และทั้งสองสมาคมวิชาชีพ ก็หยิบประเด็นนี้มาเคลื่อนไหว เรียกร้องต่อรัฐบาลทุกครั้งเมื่อมีการแทรกแซงสื่อ)

ผู้เขียนก็แสดงความคิดเห็นไปว่า นั่นหมายความว่า สมาคมฯ จะเห็นเป็นเรื่องผิดปกติ ก็ต่อเมื่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้มีการโยกย้าย หรือสับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือสอบสวนเอาผิดกับผู้บริหารใน อสมท.ก่อน ถึงจะเป็นเรื่องผิดปกติในสายตาของนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์กระนั้นหรือ

นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศไทย มีท่าทียอมรับ ข้าพเจ้าก็ย้อนถามกลับไปว่า  ข้าพเจ้าเป็นใคร ก็เป็นคนที่ทำงานข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ มานานกว่า 20 ปี และถูกแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่มาโดยตลอด (เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก)  แต่ทำไม นายกสมาคมฯ มองเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างนี้นี่เองที่เรียกว่า การเลือกปฎิบัติ หรือสองมาตรฐาน (หากเทียบกับกรณีของอดีตผู้อำนวยการ อสมท. คนล่าสุด หรือกรณีนักข่าวคนอื่น ที่มีปัญหากับรัฐบาลที่ผ่านมา สมาคมฯ จะออกมาเคลื่อนไหว และออกแถลงการณ์เกือบทันทีที่เกิดปัญหาขึ้น )

นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยก็บ่ายเบี่ยงไปว่า นายกสมาคมฯ คนเดียวตัดสินใจเองไม่ได้ แม้จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ต้องนำเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ ก่อนเพื่อจะสรุปออกมาเป็นมติ ซึ่งตอนนี้ คณะกรรมการแต่ละคนก็ติดธุระไปต่างจังหวัดบ้าง ติดภาระงานกันอยู่บ้าง  อย่างไรก็ตามก็เป็นการถกเถียงกันด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร เพราะพวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องในวิชาชีพเดียวกัน

ผู้เขียนเองพยายามวิเคราะห์ และพิจารณาตัวเองว่า ตั้งแต่ปี 2528 ที่เริ่มเข้าสู่วิชาชีพสื่อสารมวลชน ได้ปฎิบัติหน้าที่ หรือปฎิบัติตนอย่างไร จึงถูกมองเหมือนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมวิชาชีพสื่อ อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่ออกจากหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อปี 2539 แล้วเข้าสู่วงการโทรทัศน์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ได้กลายเป็นสื่อมวลชนของรัฐ แม้จะพักอาชีพไปชั่วคราวเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นเจ้าของ ไอทีวี. แต่เมื่อกลับมา ก็มาทำข่าวโทรทัศน์ของรัฐบาลอยู่ดี ซึ่งก็แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ไม่ใช่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

หากแต่สมาคมวิชาชีพฯ ได้ใช้หัวใจที่เป็นธรรม พิจารณาการทำงานของผู้เขียนในช่วงการทำข่าวโทรทัศน์กับฝากรัฐบาลในแต่ละยุคแต่ละสมัยที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (1 ปีก่อนรัฐประหาร) ผู้เขียนก็พยายามให้ความเป็นธรรม กับฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เช่น ในรายการ “คนวงใน”  ผู้เขียนได้เดินทางไปสัมภาษณ์ บุคคลที่ฝ่ายกองบรรณาธิการข่าวไอทีวี.ขณะนั้นมองว่าอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับ เจ้าของไอทีวี.  ไม่ว่าจะเป็น  กษิต ภิรมย์ สุริยะใส กตะสิลา วิชา มหาคุณ สมเกียรติ ตั้งกิจวณิชย์ สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ สมาคมสิทธิเสรีภาพ ฯลฯ หรือแม้แต่คุณเสริมสุข (ไม่ทราบนามสกุล) นักข่าวของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ( บก.ข่าวการเมืองทีวีไทยปัจจุบัน) ที่โดน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เล่นงาน เพราะเปิดโปงการทุจริตที่สนามบินสุวรรณภูมิ

จนผู้เขียนได้รับการตักเตือนด้วยคำพูดจากผู้บริหารสถานี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งที่ถูกเชิญไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพิษณุโลก ร่วมกับคณะผู้บริหารไอทีวี.โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พูดขึ้นบนโต๊ะอาหารว่า “รายการของคุณจอม ผมเห็นเอาคนที่พูดแบบแผ่นเสียงตกร่องมาออกอยู่บ่อย ๆ ผมไม่สนใจฟังหรอกคนพวกนั้น” ซึ่งก็แค่นั้น ไม่มีการมาขู่เข็ญ บังคับตามมาอีก

หากสมาคมวิชาชีพ จะพิจารณาอย่างเป็นธรรมและอยู่บนหลักการที่ถูกต้องแห่งวิชาชีพ เมื่อครั้งเกิดรัฐประหาร ผู้เขียนได้สัมภาษณ์ คุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ที่สละชีวิต ขับรถเข้าชนรถถัง ต่อมาก็ได้ตัดสินใจผูกคอตายที่สะพานลอยหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผู้เขียนก็ถูกสั่งห้ามจาก คมช.สมัยนั้น ไม่ให้นำเสนอข่าวนี้อย่างเด็ดขาด มีคำสั่งทั้งโทรศัพท์เข้ามาเตือน และส่งทหารพร้อมอาวุธเข้ามาประจำการอยู่หน้าสถานีโทรทัศน์ไอทีวี.ตลอดจนหมดยุค คมช.

สมาคมวิชาชีพสื่อทั้งสองฯ ก็ยังคงมองเป็นเรื่องปกติ และดูเหมือนจะเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร โดยปล่อยให้มีการถูกแทรกแซง และยอมที่จะถูกลิดรอนเสรีภาพของสื่อเอง ทั้งๆ ที่ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องในสิ่งเหล่านี้อย่างหนักหน่วง และเอาจริงเอาจังก่อนหน้านั้น

(ต่อ คห.1)

จากคุณ : จำปีเขียว
เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:50:39 A:118.172.193.245 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com