ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยค่ะ ฝ่าย นพดล =ช่วยรักษาพื้นที่ 4.6 แต่ให้เขมรขึ้นฝ่ายเดียว ข้อต่อต้าน = ควรจะขึุ้้นสองฝ่าย และ พื้นที่ 4.6 จะได้ถูกบริหารจัดการ เพื่อไทย และ เขมร ร่วมกัน ฝ่าย ต่อต้าน=ไม่ยอมให้เขมรขึ้นฝ่ายเดียว (ซึ่งน่าจะไม่ทันแล้ว) ข้อต่อต้าน = ในเมื่อเขมรขึ้นฝ่ายเดียวแล้ว อย่างน้อย น่าจะ เก็บ 4.6 ไว้แบบ นพดล ว่า ต่อต้านไป ก็เสียหมดทุกอย่างไม่คุ้ม คำถาม?? 1. หากเขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว พื้นที่ 4.6 ที่จะถูกบริหารจัดการโดย ยูเนสโก้  ก็ย่อมบริหารจัดการเพื่อเขมรเท่านั้น????? 2. ในขณะที่เราดำเนินการเรื่องการปักหมุดเขตแดนอยู่ และพื้นที่เป็นพื้นที่ๆยังไม่ตัดสินใจสองฝ่าย เหตุใด เขมร และ ยูเนสโก้ ถึงสมประโยชน์ ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร โดยไม่สนใจคำทักท้วงจากไทย??? ปล. ความจริง คือ "ควรขึ้นทะิเบียนร่วมกันหรือไม่์?" ถ้าใช่ทำไมจึงไม่เป็นเช่นนั้น ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:26:14 A:58.10.155.185 X:

ความคิดเห็นที่ 2 กลับไปดู  คห.นั้นถูกลบทิ้งไปแล้ว  แต่มีคนก๊อปไว้ จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:30:10 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 3 อือคุณนพดลบอกการลงนามว่าพื้นที่ทับซ้อนต้องใช้ร่วมกันกับเขมร เป็นบันทึก แต่ ปชป+พธม บอกเป็นสัญญา ไปฟ้องศาลปกครอง ทำให้มีคำสั่งว่า"อาจจะเสียดินแดน ให้นพดลไปยกเลิก อือ พอมันกลับพลิกเป็นรัฐบาล เขมรตัดถนนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน ทหารทำหนังสือแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ กลับเงียบเฉย ด้วยเกรงว่าฮุนเซ็นจะไม่มาประชุมอาเซียน ประชุมเสร็จถึงทำหนังสือไป ปรากฎว่าถนนเสร็จแล้ว ทหารเขมรเต็มพื้นที่ สร้างวัด สร้างชุมชน แล้วนี้ เสียดินแดนจริงๆแล้ว จากคุณ : สุขชัย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:36:41 A:202.44.7.81 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ดิฉันเคย  Capture ความเห็นของ UN  ต่อการทักท้วงของ ปชป.+ พธม. ไว้ แต่หาไม่เจอ  ใครมีช่วยเอามาแปะให้ คุณ jezebel ดูหน่อย แต่พอจะจำได้ราง ๆ ว่า   การขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร เขาขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งก็เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลโลก  เมื่อครั้งกระโน้น ในการลงนามร่วมของคุณนพดลซึ่งมีเนื้อหาให้เขมรและไทยปกครองพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันนั้น พอมีการทักท้วง  UN ก็ให้เป็นโมฆะ จำได้ประมาณนี้ใครมีอะไรเพิ่มเติม  เชิญค่ะ จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:38:43 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 5 รัฐบาลท่านนายกสมัคร  ปกป้องดินแดนส่วนนี้ไว้ตลอด  แล้ว ปชป.ทำอะไร  8 เดือนนี้ จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:44:50 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 6 อีกไม่นานเราก็คงรู้ว่าใครขายชาติ  หากใครขายชาติแลกกับผลประโยชน์ก็ขอให้เป็นไปดังคําสาปแช่งของคนโบราณที่ปกป้องแผ่นดินไทยมาก่อน0 จากคุณ : civilwar1906 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:46:28 A:125.24.144.215 X:

ความคิดเห็นที่ 7 พูดออกไปจะโดนรุมด่าซะละมัง ผมมองว่าเขาพระวิหารมันเป็นของเขมรไปตามคำตัดสินของศาลโลกแหละครับ ยิ่งสู้ยิ่งแพ้ เพราะเหตุนี้ไทยถึงไม่พยายามนำเรื่องพื้นที่ทับซ้อนขึ้นสู่ศาลโลก ส่วเขมรก็พยายามนำขึ้นจัง เพราะรู้ดีว่าด้วยตรรกะทั้งปวง บัดนี้ถ้าขึ้นสู่ศาลโลก พื้นที่ทั้งหมดจะตกเป็นของเขมรค่อนข้างแน่นอน ศาลโลกคราวที่แล้วตัดสินว่าตัวปราสาทเป้นของเขมร เพราะคุ้กรณีขอให้ตัดสินว่าปราสาทเป็นของใคร ศาลก็ตัดสินแค่ในส่วนที่ขอ ไม่ได้พูดถึงที่ดินที่ปราสาทตั้งอยู่ว่าเป็นของใคร ไทยก็เลยบอกว่าศาลติดสินตัวปราสาทก็แสดงว่าที่ดินที่ปราสาทตั้งอยู่ข้างบนเป้นของไทย....ถ้าคิดเช่นนั้นลองเสนอใหม่สิ ว่าที่ดินตรงนั้นเป้นของใคร ผมว่าทุกคนรู้แก่ใจว่าเพราะอะไร ในสายตาคนภายนอกเขามองว่าไทยกะล่อนนะครับ......จะมีคนด่าว่าขายชาติไหมเนี่ย ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากการที่เราดันไปถือแผนที่คนละฉบับ ดูจากภูมิประเทศแล้วถ้าตามแผนที่ ๆ เราถือ แนวสันปันน้ำ มันต้องเป็นของเรา แต่ศาลโลกเขาถือตามแผนที่ฝรั่งเศส ซึ่งเราจะต้องเสีย 4.6 ตารางตรงนั้นไปด้วย ดีที่คราวที่แล้วให้ตัดสินว่าตัวปราสาทเป้นของใคร  ถ้าจะบอกว่าอย่าไปยอมรับแผนที่ของฝรั่งเศส ก็แนะนำให้ไปตกลกับลาวใหม่ ในเรื่องเส้นแบ่งเขตแม่น้ำโขงด้วยเลย เพราะคล้ายกัน มีแต่เขายึกกลางแม่น้ำเป้นเกณฑ์ แต่สนธิสัญญาที่ตกลงกับฝรั่งเศส ดันยึดล่องน้ำลึก ซึ่งส่วนใหญ่ดันมาอยู่ใกล้ฝั่งไทย ผมว่าเรื่องนี้ร้ายกว่าเขาพระวิหารอีก....แต่ถ้าอยากแก้ไขก็ต้องยกลงสนธิสัญญาเดิมที่ทำไว้ ประเทศไทยคงจะหมดสภาพในสายตาโลกไปเลย รบมานกะทั้งลาว ทั้งเขมร สนุกกันใหญ่ 555.... จากคุณ : ohh_no เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:53:01 A:58.9.176.116 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ...จขกท ช่วยอธิบายหน่อยครับ ...ว่า การยอมให้ นพดล ปัทมะ ลงนามยอมรับ ว่าปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก "แต่เพียงผู้เดียว" ...มันจะทำให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นั้นเป็นของไทย และเขมรจะไม่มีสิทธิ์บุกรุกเข้ามา ได้อย่างไร ?? ...ผมว่ามันจะยิ่งเข้าทาง เขมร เข้าไปอีกนะครับ ...เอาเป็นคำให้สัมภาษณ์ของฮุนเซน หรือเอกสารเป็นทางการของทางเขมร หรือ เอกสารของ ยูเนสโก ก็ได้ ...ว่าถ้าจดทะเบียนได้ จะยกดินแดนดังกล่าวให้ไทย !! ...แต่คำพูดแบบคิดเอาเองฝ่ายเดียว หรือเอกสารทำเองของของ นพดล ขอไม่รับฟังนะครับ ...เพราะเห็นแต่ตอนนั้น ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่เลย ว่าการจดทะเบียนมรดกโลก เค้าต้องรวมพื้นที่ตั้งเข้าไปด้วย ...และในประวัติศาสตร์ ก็ยังไม่มี มรดกโลกที่ไหน ที่จดทะเบียนแค่ตัวอาคารอย่างเดียว โดยไม่รวมที่ตั้ง หรือถ้ามีกรณีพิพาทระหว่าง 2 ประเทศแบบไทย เค้าก็แก้ปัญหาด้วยการวิธีจดทะเบียนร่วมกัน 2 ประเทศกันทั้งนั้น ครับ จากคุณ : sungod เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:53:53 A:125.24.245.190 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าหากวันนั้น  พธม.และ ปชป.ยอมให้คุณนพดล ปัทมะ  ดำเนินการลงนามร่วมกับเขมร ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อนบ้าน  จะเกิดขึ้นไหม ^ ^ กระบวนการ นี้ ไม่ใช่กระบวนการทางการเมือง แต่เป็น กรบวนการการตรวจสอบปกติ ไม่ว่ารัฐบาลกระทำการใด ก็ต้องทำภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย อยากให้แยกเรื่องนี้ออกจากกัน ไม่อยากให้มั่ว นพดล จะทำดี ก็ชม  แต่ ถ้าที่ทำกฎหมายไม่อนุญาต ก็ต้องหยุด จะทำใหม่ให้ถูกต้องก็ทำ คนไทย มั่วซั่วกันมากเรื่องนี้   ทำดี ไม่ว่า  แต่ต้องดีให้ถูก เหมือน ปราบยาบ้า  "ดีๆ  ยาบ้าหาย" แต่ไม่ใช่ ไปวิสามัญ ผิดกฎหมาย เอาทีละเรื่องค่ะ  กลับมาคุยกัน 1. เขมรขึ้นทะเบียนแล้ว   = จริง 2. นพดล บอกว่าขึ้นไป แต่ 4.6 ต้องได้ประโยชน์ ร่วม = จริง 3. นพดล และ ครม สมัคร ทำผิดกฎหมายรึเปล่า  = รอฟังคำตัดสิน ปล. ถ้าคิดจะตัดสินทุกอย่างตามใจไม่ฟังใคร ก็จบ ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 10:54:51 A:58.10.155.185 X:

ความคิดเห็นที่ 10 P6796904 กรรมการ 7 ชาติ ร่วมบริหารจัดการ "พื้นที่กันชน" ไม่ใช่ "พื้นที่ทับซ้อน" [ 14 ก.ค. 51 16:06:08 A:64.62.138.72 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6796904/P6796904.html P6827568 ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม...ชนวนเหตุทำไทยเสียเปรียบ [ 24 ก.ค. 51 16:18:14 A:64.62.138.72 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6827568/P6827568.html P6878874 คุณ thyrocyte งานเข้าแล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ สารภาพแล้วว่า ยอมรับแผนที่ของกัมพูชาจริงๆ{แตกประเด็นจาก P6873384}[ 10 ส.ค. 51 20:59:18 A:58.8.181.128 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6878874/P6878874.html P6857672 ควรก๊อปกระทู้นี้สักหมื่นชุด [การเมือง] [ 3 ส.ค. 51 14:40:59 A:118.173.104.206 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6857672/P6857672.html P6861374 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เซ็นต์เอกสารปักปันเขตแดน ปี 43 มีปัญหาจริงหรือ{แตกประเด็นจาก P6857672} http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6861374/P6861374.html P6873299แฉ! เอกสารลับ &#8220;สุขุมพันธ์&#8221; ทำไทยเสียดินแดนตัวจริง? [ 4 ส.ค. 51 19:08:51 A:203.147.40.3 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6873299/P6873299.html P6873384 "โฆษกเงา" แถก "รมต.กต.เงา" เอาสีข้างเข้าประชุม "ครม.เงา" เล่นเอา "นายกฯเงา" ถลอกปอกเปลือก{แตกประเด็นจาก P6861374} [ 8 ส.ค. 51 15:22:28 A:58.8.184.248 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6873384/P6873384.html P6856663 หลักฐานลายเซ็น สุขุมพันธ์ ลงนาม 14 มิ.ย. 2543 [ 3 ส.ค. 51 01:33:47 A:118.172.173.216 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6856663/P6856663.html P7504789 คุณ thyrocyte ช่วยไปตอบคำถาม ของคุณ TSC ด้วยครับ  [ 8 ก.พ. 52 12:59:03 A:58.8.101.232 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/02/P7504789/P7504789.html <<< ข้อเท็จจริงที่กำลังถูกบิดเบือนกรณีเขาพระวิหาร >>> http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/02/P7520507/P7520507.html คกก. มรดกโลกยูเนสโก มีมติให้เขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6776014/P6776014.html -- พระ ราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่ ในท้องที่ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน ตำบลโคกสะอาด กิ่งอำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และป่าเขาพระวิหาร ในท้องที่ตำบลเสาธงชัย ตำบลภูผาหมอก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2541/A/014/5.PDF เอกสารขอขึ้นทะเบียน ปราสาทเขาพระวิหาร http://www.mediafire.com/?tmfmmybmocx ---- ข้อเท็จจริง ในพื้นที่ ---- http://www.citiservice.net/forum/index.php?action=printpage;topic=19365.0 สัมภาษณ์สด นายปองพล อดิเรกสาร 07/07/2008 4:00 จาก ควิเบก ประเทศ แคนาดา เรื่องการขอขึ้นมรดกโลก ประสาทพระวิหาร http://www.mediafire.com/?um0stecmgcc ทูต USA ประจำกัมพูชา เยี่ยมชมปราสาทพระวิหาร และให้การสนับสนุนอย่างเต็ม หลังจากเลื่อนขึ้นทะเบียนปี 2550 http://cambodia.usembassy.gov/preah_vihear_visit.html http://photos.state.gov/galleries/cambodia/30486/preah_vihear_visit/6.html ------------ ไฟล์เสียง ทำนอง"พื้นดินใต้ปราสาทยังเป็นของไทย" โดย หัวหน้าพรรค ปชป 2551 Cut000.wma (1.55 MB) 13 นาที http://www.mediafire.com/?i2nzjv2drjq คลิปภาพ+เสียง 60 นาที (25-06-2008T16.asf (62.32 MB)) http://www.mediafire.com/?mkwetnowwqm แนบ ไฟล์เสียง(P7462091-15.wma) 1.57 นาที http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/01/P7462091/P7462091-15.wma . แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 11:08:41 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 11:04:57 จากคุณ : mcu51 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:00:12 A:124.120.16.104 X:

ความคิดเห็นที่ 11 และในประวัติศาสตร์ ก็ยังไม่มี มรดกโลกที่ไหน ที่จดทะเบียนแค่ตัวอาคารอย่างเดียว โดยไม่รวมที่ตั้ง หรือถ้ามีกรณีพิพาทระหว่าง 2 ประเทศแบบไทย เค้าก็แก้ปัญหาด้วยการวิธีจดทะเบียนร่วมกัน 2 ประเทศกันทั้งนั้น ครับ ู^ ^ เราก็ยึดมั่นแนวทางนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ คนไทย ทุกสี ได้ประโยชน์ที่สุด กฎ กติกา การขึ้นทะเบียน มันมีอยู่ชัดว่า   "ควรจดทะเบียนร่วม" แต่ ไม่ว่ากัน เขายื่นไปแล้ว  เราก็มาคุย มาเลือกว่าจะทำอย่างไรต่อ จะยอมให้ ชาติตะวันตก มาชี้นก เป็นก ไม้เป็นไม้ ดื้อๆ ไม่ได้ คนไทยต้องร่วมกันหาทางออกดีที่สุด นี่ต่างหากที่ต้องเสียเวลาคุยกัน ที่ต้อง  ร่วมมือกัน ทุกสี  กดดัน รัฐบาลให้ทำอะไร ซักอย่าง P6796904 กรรมการ 7 ชาติ ร่วมบริหารจัดการ "พื้นที่กันชน" ไม่ใช่ "พื้นที่ทับซ้อน" [ 14 ก.ค. 51 16:06:08 A:64.62.138.72 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6796904/P6796904.html   ขอบคุณ mcu51 ค่ะ กระทู้นี้ น่าจะให้แนวทางดีมากๆ ปล. แต่อย่างน้อยเราก็เห็นด้วยที่จะบ่นรัฐบาลนี้ ว่าไม่ทำอะไร ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 11:12:26 จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:01:44 A:58.10.155.185 X:

ความคิดเห็นที่ 12 สาระสำคัญของบันทึกข้อตกลงร่วมของนพดลคือ 1.ไทยยินยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร(จากการประชุมทีมงานเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างประเทศลงความเห็นว่ายับยั้งอย่างไร็ไม่ได้จะกระเทือนความสัมพันธุ์) 2.พื้นที่ทับซ้อนสงวนสิทธิ์ใช้พัฒนาร่วมกัน ตอนนั้นเขมรอยากขึ้นทะเบียนจัดก็มาเซ็นร่วมซึ่งจะเป็นหลักฐานว่าเขมรก็ยอมรับเรื่องพื้นที่ทับซ้อน อันนี้เป็นเชิงทนายในการสร้างหลักฐาน แต่ศาลไทยไม่เข้าใจเลยให้เป็นโมฆะ ตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานเลย ตอนนี้ขึ้นศาลโลกก็แพ้เขา จากคุณ : ขาไม่ประจำ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:11:58 A:124.120.132.123 X:

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ jezebel ถ้าคิดว่า กม.คือสิ่งที่ถูกต้องทุกอย่าง   คนก็ต้องรับใช้กฎหมายไป  ไม่ใช่กฎหมายเป็นเครื่องมือของการอยู่ร่วมกันของสังคมแล้วล่ะค่ะ กรณีนี้เป็นตัวอย่าง  คนทำดี  สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ  คือคนที่ผิด ถ้ารอให้ถูกต้อง  ก็ต้องเสียเปรียบเขาร่ำไป  เขมรเขาไม่รอเราหรอกค่ะเรื่องนี้ ในคดีแพ่งและอาญา  ยังไม่มีกฎหมายแบบตัดสินทุกเรื่องได้เบ็ดเสร็จ ยังต้องใช้คำพิพากษาฎีกาที่ผ่านมาเป็นแนวในการตัดสินคดีได้ แต่เรื่องนี้  ดิฉันมองว่าเป็นเรื่องเข็ญฆ่ากันทางการเมืองล้วน ๆ ขอบอก ใครจะไร้เดียงสาทำไม่รู้ ประเทศชาติมาทีหลัง ก็สุดแต่ใจ ---------------------------------------------------------------------------------- เข้ามาแก้ไข  เพราะ... แคลงใจคำว่า "สมประโยชน์ของตัวเอง" ของ  คห.ที่ 16  (ข้างล่าง) จะดึงไปประเด็นไหนกันคะ  เรากำลังถกเรื่องผลประโยชน์ของชาติอยู่ไม่ใช่หรือ อย่าใช้ภาษา  พาลงเหวค่ะ  คุณจิซาเบล... แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 14:56:25 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 14:54:45 จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:15:18 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 14 ประเด็นมันอยู่ที่ เมื่อเวลา พรรคประชาธิปัตย์หรือเสื่อเหลือง ปลุกระดม บอกคนือื่นไปเจรจากับเขมรเป็นพวกขายชาติ  ต้องใช้กำลังขับไล่กลับไป แต่เมื่อมีอำนาจ เป็นรัฐบาล เป็น รมต ต่างประเทศ พวกนี้ก็ทำเหมือนรัฐบาล ยุดก่อนๆ คือเจรจา  ที่ผ่านๆมาจึงเป็นการพูดเพื่อประโยชน์ทางการเมือง เมื่อออกข่าว ปลุกระดม ต้องเอาพื้นที่เป็นของเรา  ต้องไม่ให้เขมร ขึ้นทะเบียน เป็นการพูดเอง เออเอง ไม่คิดว่าเขมร เขาไม่คิดเช่นนั้น เขาก็มีคนคอยช่วย ถ้าจะเอากันจริงๆ ก็ต้องรบกัน แต่ทหารไทย ก็ยังไม่เอาเลย เพราะฉะนั้น พวกที่บอกว่าจะรบ แต่ตัวเองไม่ไป ไม่ได้อาศัยในพื้นที่อย่าออกมาพูดดีกว่า จากคุณ : โรงเรียนวัด เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:18:39 A:125.25.96.255 X:

ความคิดเห็นที่ 15 คำถาม?? จากการที่ไปอ่าน กระทู้ของmcu51 เราตอบคำถามสองข้อที่คาใจได้ในเป็นที่เรียบร้อย 1. หากเขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว พื้นที่ 4.6 ที่จะถูกบริหารจัดการโดย ยูเนสโก้  ก็ย่อมบริหารจัดการเพื่อเขมรเท่านั้น????? คำตอบ= ไม่ พื้นที่ส่วนนี้จะถูกบริหารจัดการร่วมกันระหว่างไทยเขมร 2. ในขณะที่เราดำเนินการเรื่องการปักหมุดเขตแดนอยู่ และพื้นที่เป็นพื้นที่ๆยังไม่ตัดสินใจสองฝ่าย เหตุใด เขมร และ ยูเนสโก้ ถึงสมประโยชน์ ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร โดยไม่สนใจคำทักท้วงจากไทย??? คำตอบ= มีพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ยังเป็นส่วนที่ ไทย และเขมร จะตั้งคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อ จัดทำแผนที่ใหม่ไปเลย ลืมเรื่องปักหมุดไป ข้อมูลอ้างอิง จาก กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ของกระทรวงต่างประเทศ ปล. สบายใจขึ้น หลายส่วน ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:25:18 A:58.10.155.185 X:

ความคิดเห็นที่ 16 แต่เรื่องนี้  ดิฉันมองว่าเป็นเรื่องเข็ญฆ่ากันทางการเมืองล้วน ๆ ขอบอก ใครจะไร้เดียงสาทำไม่รู้ ประเทศชาติมาทีหลัง ก็สุดแต่ใจ จากคุณ : Jampoo ^ ^ ฝ่ายค้าน และ รัฐบาล ต่างเห็นร่วมกัน ว่าต้องแก้ กฎหมายประเด็นนี้ ชี้ให้ชัดว่า ขอบเขต อยู่แค่ไหน   ไม่ใช่เรา ที่คิดว่า ต้องทำตามกฎหมาย นักการเมืองเขาเห็นว่ามันแย่ ก็กำลังแก้  แต่ กฎหมายก็คือกฎหมาย แก้กฎหมายถ้าทำถูกก็ทำได้ แต่ให้ ครม ทำผิดกฎหมาย แล้ว บอกว่าหยวนๆ มันดูแปลกๆ ถ้าพูดแบบ Jampoon มัน Double standardค่ะ เลือกยอมรับกฎหมายเวลาสมประโยชน์ตัวเอง ปล.  ไร้เดียงสานะพวกเราๆ แต่ คณะรัฐมนตรีไร้เีดียงสาไม่ได้ ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:30:47 A:58.10.155.185 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ปราสาทเอาไปที่ดินไม่ให้ นี่คือปัญหา มันเป็นไปได้หรือ แต่เิอาเถิด เมื่อเป็นข้ออ้างที่พอเอาสีข้างเข้าถู เพราะเราคือคนไทย เรื่องไรจะไปพูดให้เขมรได้เปรียบ จะอ้างสิทธิ ก็เถียงกันไปบนกระดาษ อย่าให้ชาวบ้านเดือดร้อน การร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งทองเทียว ไทยได้เปรียบเพราะเป็นทางผ่าน ถ้าจะทะเลาะเขาก็ต้องพร้อมที่จะรบให้ชนะ เพราะที่นั่นคือศักดิ์ศรีของชาติขอม เขาไม่ยอมง่ายๆ จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:30:53 A:61.19.66.70 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ลงนามร่วม ?   เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ ที่ผ่านมามีแต่ฝ่ายกัมพูชาต้องการขึ้นทะเบียน ฝ่ายเดียวเท่านั้น  และเพิ่งมามีผลในยุครัฐบาล ของนายสมัคร  ซึ่งมีนายนพดลเป็นรมต.ต่าง ประเทศนี่เอง  ก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาลพลเอก สุรยุทธ  ได้มีการคัดค้านเรื่องการขอขึ้นทะเบียน ฝ่ายเดียว  จนระง้บไปในที่สุด                                  ................ "ถ้าหากวันนั้น  พธม.และ ปชป.ยอมให้คุณนพดล ปัทมะ  ดำเนินการลงนามร่วมกับเขมร ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อนบ้าน  จะเกิดขึ้นไหม" จากประโยคข้างต้นนี้  แปลความหมายเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่า  สาเหตุ ที่ฝ่ายกัมพูชาได้เข้ามารุกล้ำนั้น  ก็เพราะพธม. และ ปชปช.ไม่ยอมให้นาย นพดล  ได้ลงนามกับฝ่ายกัมพูชา   จขกท.ไม่ทราบเลยจริง ๆ หรือว่า  ฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชน บ้านเรือนตลอดจนวัดวาอารามนั้น  มิใช่เป็นการเริ่มต้นมาเป็นเวลาเนิ่น นานแล้วเกือบทศวรรษ  แต่เพิ่งเข้ามาภายหลังจากที่เข้าใจเอาเองว่า "เพราะพธม.และปชป. ไม่ยินยอมให้นายนพดล  ลงนามกับกัมพูชา" ถ้าเข้าใจเอาเองดังนี้  ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีความคิดเห็นว่า  พื้นที่ จำนวน 4.6 ตรกม.เป็น "พื้นที่ทับซ้อน"  อยู่  ตามข้อเท็จจริงแล้วมิใช่ พื้นที่ทับซ้อนอันใดเลย  เป็นพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยมาโดยตลอด แม้แต่คำตัดสินของศาลโลก ปี  2505  ก็มิได้พิพากษาตัดสินมากไปกว่า ให้ฝ่ายกัมพูชามีกรรมสิทธิ์ "เฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร"  เท่านั้น  หาได้ ระบุกินพื้นที่นอกจากที่กล่าวมาแล้วไม่  แม้ผบทบ.พลเอกอนุพงษ์ เอง ก็ออกมายอมรับ  โดยให้ข่าวในเรื่องนี้ว่า  มิใช่เป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่อย่าง ใด  เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี้เอง แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 11:36:26 จากคุณ : TuMan เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:32:37 A:111.84.76.72 X:

ความคิดเห็นที่ 19 http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6796904/P6796904.html#45 ตามข่าวของกระทู้นี้ อ้างจากรูปประกอบ คคห http://www.bangkokbiznews.com/home/news/politics/politics/2009/02/12/news_15604.php 1.ถ้าร่วมแบบ เลข 2 ก็จะเหมือนกับ ที่นพดลทำและรัฐบาลก่อนหน้านี้ทำ -หรือ- ก็พยายามทำ ในเวลาอันจำกัด +จากเหตุรัฐประหาร 19/09/2549 2.ถ้าร่วมแบบ เลข 1 ตามการบิดเบือน โดย ปชป+พธม ที่ว่า "ปราสาทเป็นของกัมพูชา พื้นดินเป็นของไทย" 3.ถ้าร่วมแบบ เลข 1+2 อันนี้คือ การหลอก คนทั้งประเทศอีก โดย ปชป(พธม) ที่บิดเบือนไว้ - ไฟล์เสียง+ภาพ ทำนอง"พื้นดินใต้ปราสาทยังเป็นของไทย" โดย หัวหน้าพรรค ปชป 2551 มีเรื่องเกียวกับเส้นเขตแดนด้วย -อย่างสั้น- ไฟล์เสียง(P7462091-15.wma) 1.57 นาที http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7462091/P7462091-15.wma -อย่างกลาง- Cut000.wma (1.55 MB) 13 นาที http://www.mediafire.com/?i2nzjv2drjq http://upload.gangza.com/view.aspx?ItemID=98019d96-9eeb-dd11-a411-00e08127749e -Full- คลิปภาพ+เสียง 60 นาที (25-06-2008T16.asf (62.32 MB)) http://www.mediafire.com/?mkwetnowwqm ------------ พระ ราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าฝั่งซ้ายลำโดมใหญ่ ในท้องที่ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน ตำบลโคกสะอาด กิ่งอำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และป่าเขาพระวิหาร ในท้องที่ตำบลเสาธงชัย ตำบลภูผาหมอก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2541/A/014/5.PDF สัมภาษณ์สด นายปองพล อดิเรกสาร 07/07/2008 4:00 จาก ควิเบก ประเทศ แคนาดา เรื่องการขอขึ้นมรดกโลก ปราสาทพระวิหาร http://www.mediafire.com/?um0stecmgcc . จากคุณ : mcu51 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:35:13 A:124.120.16.104 X:

ความคิดเห็นที่ 20 คนชาย  คิดเห็นเป็นแบบนี้  ต้องย้อนถามล่ะว่า พธม.ทำเรื่องที่ถูกต้องใช่ไหม   ตรงไหนคะที่ดิฉันยอมรับว่าพื้นที่นี้เป็นของเขมร การบริหารร่วมกัน  ตีความแบบไหนที่บอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:36:12 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ TuMan  คห.18 ถ้าคุณอ้างเรื่องปัญหาชาวบ้านรุกล้ำดินแดนในยุคก่อน ๆ ที่ผ่านมา ไม่ได้หมายถึงกรณีเขมรสร้างทางรุกล้ำขณะนี้ ปัญหานี้ มีอยู่ทุกชายแดนไม่ใช่แต่เฉพาะชายแดนเขมรค่ะ   ท่านแม่ทัพท่านก็เคยออกมาพูด เป็นเรื่องที่รัฐบาลทั้งสองฝ่าย   ไม่ได้คิดจะให้ชาวบ้านทำแบบนั้น ในส่วนของทางราชการ  ก็ต้องดูแลกันไป  ใครเสียเปรียบก็ต้องทำเรื่องร้องเรียนทางการทูตกันไป แต่จะรุกล้ำแบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องของฝูงชนที่บ้าคลั่งเกินจะควบคุม  ไปก่อเรื่องทำการแทนอย่างเมื่อวันที่ 19 จริงไหม จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:47:48 A:127.0.0.1 X:125.27.206.81

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านอย่างรวดเร็ว แบบเป็นธรรม เราพอจะช่วย สรุปย่อ ให้เพื่อนสมาชิกฟังได้ดังนี้ 1. สิ่งที่ นพดลทำ มิได้เป็นการทำให้ พื้นที่ส่วน4.6 แต่จะสูญเสียพื้นที่ 2.5 ประมาณ 1500 ไร่(Development Zone) แทน "ซึ่งส่วนนี้ เป็นพื้นที่ไทยชัดเจน" (ใครมีข้อมูลอื่้นกรุณแก้ไขค่ะ) 2. สิ่งที่ นพดลทำ เป็นการตัดสิทธิ์เราจากการร้องของการจดทะเบียนร่วม(ไม่รู็พอจะมีหวังหรือเปล่า แต่คิดว่าคงหมดหวัง100%) 3. ส่ิงที่ นพดลทำ ผ่าน ครม มีแนวโน้มว่าจะผิดกฎหมาย (รอผลกันอยู่) แค่นี้  ง่ายๆ ส่วนใครจะเห็นว่า การกระทำของ นพดล และ ครม ผิดถูก ก็ใช้วิจารญาณเอาเองค่ะ ปล. รบกวน mcu51 อธิบายเรื่อง ที่ 2.5 ทางตะวันตกให้หน่อยค่ะ ว่า Development Zone นี้ เรื่องจริงไม่จริง ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 11:53:42 จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:49:30 A:58.10.155.224 X:

ความคิดเห็นที่ 23 - จะ ถก เรื่องนี้ ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่มา  -เพ้อเจ้อ- ด้วยการบรรเลงตัวอักษร เพราะเรื่องนี้ -ใช้เพื่อ ล้มรัฐบาล- ไปหาคำิอภิปราย มิถุนายน 2551 ของ ปชป หรือ นักวิชาการ พธม ที่เนื้อตัวอักษรมากกว่า 20-50 บรรทัด(ต่อเนีือง) หรือ เทปเสียง ที่ความยาว5-10 นาที--ต่อเนีื่อง- ที่พูดถึงพื้นที่ทัำบซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร มาเป็นหลักฐานก่อน ดีกว่า ที่ จะบรรเลงอักษร อย่าง  -เพ้อเจ้อ- . จากคุณ : mcu51 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:54:34 A:124.120.16.104 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ รบกวน mcu51 อธิบายเรื่อง ที่ 2.5 ทางตะวันตกให้หน่อยค่ะ ว่า Development Zone นี้ เรื่องจริงไม่จริง ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน??? จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:56:57 A:58.10.155.168 X:

ความคิดเห็นที่ 25 บ้านเมืองนี้ มันวิปริต ขาดสติ คนทำดี กลายเป็นจำเลยสังคม คนทำชั่ว กลับได้ดี ถิ่นกาขาว แท้ๆ ผู้คน หลงกับคำ รักชาติ จนกลายเป็น คลั่ชาติ ไม่สนใจข้อเท็จ ในขณะที่ ประชาคมโลก เขามองเราอย่างไร? คิดว่า ประเด็น พื้นที่ทับซ้อน เอาไปฟ้องศาลโลกอีกที ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ยิ่งมีเรื่องความรุนแรงมาเกี่ยวข้อง ผมบอกตรงๆเลยนะ "เราแพ้แน่" แล้วก็จะมีคนมาด่าผมว่า "ไม่รักชาติ" ก็เป็นซะแบบนี้ จากคุณ : yod_envi เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 11:57:55 A:210.1.59.100 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 21 "ถ้าหากวันนั้น  พธม.และ ปชป.ยอมให้คุณนพดล ปัทมะ  ดำเนินการลงนามร่วมกับเขมร ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อนบ้าน  จะเกิดขึ้นไหม" จขกท.เองเป็นผู้นำข้อความนี้มากล่าว  จึงต้องถามกลับไปว่า  ถ้าพธม.และ ปชป. ยอมให้นายนพดล ดำเนินการลงนามกับฝ่ายกัมพูชา (ตามที่ตัวเอง เข้าใจ)แล้ว  ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อน บ้านจะไม่เกิดขึ้นใช่ไหม? ทั้งที่การรุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  ตลอดจนวัดวาอารามนั้น เกิดขึ้นมาก่อนหน้าที่นายนพดล จะไปร่วมลงนามแล้ว  แต่ตามข้อความจขกท.จะตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่า  เพราะพธม.และปชป.เป็น ฝ่ายขัดขวางการลงนามกับกัมพูชา  จึงทำให้เกิดปัญหาการรุกล้ำขึ้นมา ดังนี้  เข้าใจผิดไปจากที่ตีความอย่างไรหรือครับ ? จากคุณ : TuMan เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:01:12 A:119.31.67.236 X:

ความคิดเห็นที่ 27 #19  คุณ mcu51 เก็บข้อมูลดีมาก นับถือครับ ใครที่พูดว่า ปราสาทเป็นของเขมร แต่ดินแดนใต้ปราสาทเป็นของไทย เฮ้อ..ไม่รู้ว่าเอาอะไรคิด อีกอย่างให้บริเวณปราสาทเป็นของเขมร ให้ดินแดนโดยรอบเป็นของไทย แบบนี้เท่ากับปิดทางขึ้นลง ไม่เหลือที่ ที่จะให้ตั้งสำนักงาน เหมือนบ้านเสาเดียว ขึ้นโดยกระเช้าอย่างเดียว ก็ลองคิดถึงอกเขาอกเราบ้าง พื้นที่โดยรอบ สมัย รมว.นพดล ที่ตกลงว่าจะพัฒนาร่วมกัน อันนี้ถูกต้องแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ชาวเขมรอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน ขณะที่ชาวบ้านไทยไม่มีเลย คงมีเฉพาะกำลังทหารอยู่เท่านั้น เรื่องนี้ต้องเจรจากัน ถ้าคิดว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน การพูดคุยกันก็โอเค แต่ถ้าตั้งแง่ไม่ยอมกันบ้างก็จะเป็นอย่างนี้แหละ จากคุณ : เกียรติมุข เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:01:57 A:192.168.22.177 X:202.29.20.22

ความคิดเห็นที่ 28 #24 ไม่ฉลาดหรอก คิดจะ พลิกด้วย 108 คำถาม ให้ link ไว้ อ่านจริงศึกษาจริง คงไม่น้อยกว่า 3-4 ชั่วโมง ไม่มาตั้งคำถาม 108 ด้วยความรวดเร็ว ------------ ้แสดงให้ถึง ความ --เพ้อเจ้อ-- โดยการสร้าง คำถาม108 กลับ ตาม -ถนัด- ------------ จากคุณ : mcu51 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:04:05 A:124.120.16.104 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ เอาเฉพาะส่วนนี้ หาอ่านไม่เจอค่ะ ส่วนอื่น เราเข้าใจครบถ้วนหมดแล้ว คำถาม108  ที่เราสงสัย ก็ได้คำตอบไปทั้งตามที่สรุปแล้ว เหลือแต่เรื่องนี้แหละ  ไม่เคยได้ยินคนพูดถึงมาก่อน ปล. บอกใบ้หน่อยก็ยังดี ว่าเรื่อง 2.5 นี่ มันจริงไม่จริง เราไปหาอ่านต่อเองก็ได้  ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 12:11:37 จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:10:25 A:58.10.155.168 X:

ความคิดเห็นที่ 30 โอเค ไปคุ้มเองมาเรียบร้อยค่ะ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=279731 http://www.thaiworld.org/th/include/answer_search.php?question_id=769 เรื่องนี้ ชัดเจนว่า "จริง" ในการยื่นเรื่อง เขมร ได้ ระบุพื้นที่ๆเรียกว่า Development Zone เข้ามาในแผ่นดินไทย -_-'  ไม่เข้าใจ ทำไม ไม่มีคนพูดถึงประเด็นนี้ เพราะนี้เป็นส่วนที่เสียอธิปไตยจริงๆ  หรือว่ามีข้อมูลเป็นอื่น??? เรื่องนี้ นพดล หรือ พันธมิตร หรือ ปชป ไม่เคยพูดถึงเลย ปล. คำถาม เพ้อเจ้อ108 ที่ต้องการคำตอบ ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:29:34 A:58.10.155.198 X:

ความคิดเห็นที่ 31 เท่าที่รู้ ในตอนแรก เขมรยื่นแผนที่แนบท้ายแบบนี้ (รวมพื้นที่ทับซ้อน) จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:30:47 A:222.123.91.225 X:

ความคิดเห็นที่ 32 แต่คุณนพดล ได้ไปเจรจาแก้ไขให้ "เปลี่ยน" แผนที่แนบท้าย มิฉะนั้นทางไทยจะไม่สนับสนุน ทางกัมพูชาจึงเปลี่ยนแผนที่ "แนบท้าย" เป็นแบบนี้ (คือไม่รวมพท้นที่ทับซ้อน) จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:32:33 A:222.123.91.225 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ 2500 ไร่เนี่ย เป็นส่วนเหลื่อมล้ำกันระหว่าง L7017 กับ แผนที่ฝรั่งเศสครับ ซึ่งถ้าขึ้นศาลโลกด้วยกรณีเขตแดน ก็คือ " เสียหมด " ครับ เผลอๆจะเกิน 2500 ไร่ด้วย เพราะแผนที่ L7017 ในสายตาระดับนานาประเทศนั้นไม่มีคุณค่าอะไรเลย เป็นเพียงแผนที่ที่ไทยอุปโลกน์ขึ้นมาเองเท่านั้น ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือ... กัมพูชาเขาจะขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทก็ปล่อยเขาไป ส่วนเรื่องปักปันเขตแดนให้เป็นเรื่องของ กรรมการปักปันเขตแดน JBC ถ้าจะมีปัญหาอะไรก็ให้เป็นเรื่องภายใน อย่าไปเดินตามเกมของกัมพูชาที่จะให้กลายเป็นปัญหาระดับองค์กรนานาชาติ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเราฮุบเหยื่อเขาเต็มเปา และจะเสียดินแดนที่ทับซ้อนระหว่าง L7017 กับ แผนที่ฝรั่งเศส ทั้งหมดแน่นอน... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:41:07 A:124.120.8.180 X:

ความคิดเห็นที่ 34 พื้นที่ทับซ้อน ไม่มีตัวตน มาตั้งแต่ปี 2505 เพราะหลังจากตัดสิน ฝ่ายไทยได้ไปกั้นลวดหนามตามแนวที่ขีดเอง โดยฝ่ายกัมพูชาได้ประท้วงไปยังศาลโลกว่า ฝ่ายไทยไม่ได้ปฏิบัติตามคำตัดสิน และกั้นแนวลวดหนามมาบนทางขึ้นปราสาทบริเวณบันไดสิงห์ต่อบันไดนาค จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:41:55 A:222.123.91.225 X:

ความคิดเห็นที่ 35 เกี่ยวกับเรื่องการจดทะเบียบเขาพระวิหาร กัมพูชาได้มีการพูดคุยกันตั้งสมัยรัฐบาลสุรยุทธ ตอนที่ประชุมยูเนสโกที่นิวซีแลนด์ ซึ่งตอนนั้นทางไทยได้มีที่ท่ายอมรับ ตามนี้ครับ “The State Party of Cambodia and the State Party of Thailand are in full agreement that the Sacred Site of the Temple of Preah Vihear has Outstanding Universal Value and must be inscribed on the World Heritage List as soon as possible. Accordingly, Cambodia and Thailand agree that Cambodia will propose the site for formal inscription on the World Heritage List at the 32nd Session of the World Heritage Committee in 2008 with the active support of Thailand.” จาก http://bangkokpundit.blogspot.com/2008/06/icj-preah-vihear-and-thai-government.html เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลไทยในยุคสุรยุทธได้ให้คำมั่นว่าในการประชุมครั้งที่ 32 ว่า จะสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก(ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ แทนที่จะมัวมาหวังของที่เป็นของคนอื่นไปแล้ว อย่างไร้ความหวัง สู้ให้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วช่วยกันพัฒนาดีกว่า และผมก็ยอมรับที่รัฐบาลสุรยุทธจำเป็นต้องยอมให้กัมพูชาไป เพราะตอนนี้เป็นรัฐบาลทหาร ภาพในสายตาชาวโลกไม่ค่อยดี ถ้าต้องถกกันขึ้นมาจริงๆ ฝั่งตะวันตกน่าจะอยู่ฝั่งกัมพูชา ถึงตอนนั้นกัมพูชาจะมีไพ่ต่อรองเหนือกว่าไทยเยอะ ซึ่งจะส่งผลถึงพื้นที่ตรงอื่นด้วย) ตรงนี้นพดลไม่มีสิทธิ์เลี่ยงครับ เพราะได้ทำข้อตกลงไว้ในที่ประชุมแล้ว ที่นพดลทำได้ดีที่สุดคือทำความชัดเจนว่าที่จดทะเบียนไปคือแค่ตรงที่เขาพระวิหาร ที่อื่นไม่เกี่ยว ส่วนที่ใครว่าทำไมไม่จดทะเบียนร่วม คุณต้องดูด้วยว่ากัมพูชาเขายอมรึเปล่า ลองนึกนะครับ ถ้าคุณเป็นกัมพูชาคุณจะยอมรึไม่ อยู่ดีๆก็จะมาขอแบ่งผลประโยชน์เขาดื้อๆเนี่ย คำตอบก็ชัดเจน ไม่ ปัญหาสำคัญคือเราไม่มีเพาเวอร์จะไปต่อรองกัมพูชาได้ คำรับรองจากรัฐบาลก่อนก็มีอยู่ (ซึ่งเรื่องนี้กัมพูชาเดินเกมทางการฑูตอย่างชาญฉลาด เลือกเอาเรื่องนี้มาเล่นสมัยรัฐบาลทหาร ซึ่งไทยไม่มีฐานะพอจะไปคัดง้างได้) คำตัดสินเดิมของศาลโลกก็มีอยู่ การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรมา 60 กว่าปีก็เป็นการแสดงออกกลายๆว่ายอมรับอยู่แล้ว  การเมืองในประเทศก็วุ่นวาย อำนาจต่อรองก็ไม่มี จะยื้อเวลาก็ไม่ได้เพราะสัญญาจากการประชุมครัง้ก่อนก็ยังมีอยู่ ผมว่านพดลทำดีที่สุดแล้วครับ จากคุณ : Number 31 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:54:18 A:124.121.246.29 X:

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อฝ่ายไทยเป็นผู้เขียน "แผนที่"เขาพระวิหารเองและส่งให้ศาลโลกรับทราบ และศาลโลกก็ไม่ได้ตัดสินแผนที่ฝรั่งเศส กับ L 7017 (เกิดในปี 1975โดยอเมริกา) ว่าของใครถูก จึงเป็นเรื่องราวของการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศมาตลอด 50 ปี ที่จะมาเจรจาบนผลประโยชน์ร่วมกัน ของพื้นที่ทับซ้อนระหว่างแผนที่ การทับซ้อนบนแผนที่ยังไม่ได้ตัดสิน และไม่มีใครมาตัดสิน ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา จึงมีสิทธิอ้างการเป็นเจ้าของ และการทับซ้อนโดย "กายภาพ" หรือการครอบครองจริง ฝ่ายไทยก็ยึดตาเมือนธมในพื้นที่ทับซ้อน ฝ่ายกัมพูชาก็ยึดพื้นที่ด้านข้างของเขาพระวิหาร การจะยุติต้อง "เจรจา" โดยเป็นลำดับ เพราะถึงมี "สงคราม" ก็ไม่ทำให้ฝ่ายใดชนะเด็ดขาด เพราะเมื่อมีสงคราม ก็จะมีองค์กรนานาชาติเข้ามาเกี่ยว ทั้งอาเซียน และ ยูเอ็น ซึ่งหากฝ่ายไทยเป็นฝ่ายก่อสงคราม ก็แน่นอนว่า ทั่วโลกจะเข้ามายึดพื้นที่ทับซ้อนอย่างยาวนาน และผลประโยชน์ของไทยก็จะหายไปแบบไม่มีวันกลับ ปัญหาวันนี้อยู่ที่ เรายังคิด "เอง" ว่า เราเป็นเจ้าของ 4.6 ตารางกิโลเมตร ตามสนธิสัญญาแผนที่ 1904-7 แต่ฝ่ายกัมพูชาก็คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของ 4.6 เช่นกัน ตามแผนที่ฝรั่งเศสที่ยื่นให้กับศาลโลกทั้ง 7 ระวาง ยันมาถึงเกาะกูด สรุป คุณนพดลไม่ได้ "ขายชาติ" แต่ได้ทำให้กัมพูชารู้ว่า มีสิทธิเพียงรอบเขตเขาพระวิหารตามความยินยอมของไทยเมื่อปี 2505 เท่านั้น ส่วนอคติและข้อหาจากอีกฝ่าย ก็ไม่เกี่ยวกัน แต่เอาแพะมาผสมแกะ หลอกว่าจะไปทวง 4.6 แต่ สัมมนาว่า ใต้ปราสาทเป็นของไทย จะอุธรณ์ฟ้องศาลโน้นศาลนี้ ซึ่งหากฟ้อง ก็จะเสียยาวไปถึงเกาะกูด เพราะเมื่อสมัยจอมพลป. เรา "ก่อสงคราม" จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:55:59 A:222.123.91.225 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ วรณัยค่ะ ยิ่งถามยิ่งได้คำตอบชัดขึ้นๆ อ่านคำตอบของ Nubmer31  และ  savor ด้วยแล้ว ก็ได้ข้อสรุปต่อมาว่า ทางออกของ นพดล ทำลงไปครั้งนั้น ไม่ได้เป็นการขายชาติ อย่างไร้เหตุผล   ที่หลายๆคนกล่าวหา แต่ได้พยายาม ต่อรอง ไปตามเงื่อนไข ที่ ทางไทย พอจะรักษาผลประโยชน์ ไว้ได้มากที่สุด ในกรอบที่คิดว่า "ไทย ไม่มีโอกาสขึ้นทะเบียนร่วมแน่ๆ" สิ่งสุดท้าย ที่จะ ทำให้ นพดล หลุดจากข้อ ครหา ทั้งปวงก็คือ (คำถาม 108 เพ้อเจ้อ ชุดต่อไป) 1. ไทย มี โอกาส  % ในการจะยับยั้ง ถอดถอน การขึ้นทะเบียน ฝ่ายเดียว ของเขมร ในเวลานั้น??  ถ้าไม่มีโอกาสแล้ว คำครหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็ต้องตกไป 2. การกระทำของ ครม และ นพดล ผิด หรือ ถูก กฎหมาย ปล. ทุกคนจะได้รับความจริงซะที ว่าคนไทย ควรปรับความคิดอย่างไรค่ะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 13:01:01 จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:58:16 A:58.10.155.168 X:

ความคิดเห็นที่ 38 กรรมการ 7 ชาติ ร่วมบริหารจัดการ "พื้นที่กันชน" ไม่ใช่ "พื้นที่ทับซ้อน" http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6796904/P6796904.html ต้องเข้าใจว่า ในเมื่อไทยก็อ้างว่าเป็นของไทย ส่วนกัมพูชาก็อ้างเป็นของกัมพูชา ดังนั้นมันเลย " ทับซ้อน " ถ้าจะเชื่อพวกคลั่งชาติว่า " มันเป็นของไทยแน่นอน ให้คณะกรรมการมาจัดการทำไม " แบบนี้ก็เชิญไปซื้อดาวอยู่คนเดียว เพราะขนาด กัมพูชา ก็คิดว่าทั้งหมดเป็นของเขาเหมือนกัน ( แถมหลักฐานเขาดีกว่าด้วย ) เขายังไม่ทำเช่นนี้เลย... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:58:38 A:124.120.8.180 X:

ความคิดเห็นที่ 39 rep 37 1. ตอบไม่ได้... แต่น่าจะน้อยกว่า โอกาสที่ไม่สามารถยับยั้งได้ ซึ่งส่วนนี้การทำงานของข้าราชการจะยึดหลักความเสี่ยงน้อยที่สุดอยู่แล้ว ไม่ใช่คัดค้าน แล้วไปวัดเอาดาบหน้า เกิดดาบหน้ามันจามลงหัวเรา แบบนี้ก็ตายกันพอดี 2. ตรงนี้ผมว่ามีเขียนไว้ใน รธน. แน่ชัดว่า " การกระทำที่ทำให้เสียดินแดน " แต่ศาลเองบัญญัติคำใหม่ขึ้นมาว่า " อาจทำให้เสียดินแดน " อันนี้คิดเองเออเองครับ... เพราะการกระทำที่ทำให้เสียดินแดนมันชัดเจนอยู่แล้ว เช่น ผมไปยกเกาะช้างให้เขมร แบบนี้ทำให้เสียดินแดนแน่นอน แล้วถามว่า ตรงนั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน ต่างฝ่ายต่างก็อ้างเป็นของตัวเอง ศาลใช้อะไรมาตัดสินว่า " อาจทำให้เสียดินแดน " เพราะดินแดนที่แน่ชัดมันอยู่ตรงไหน ถามใครก็ตอบไม่เหมือนกัน ตรงนี้อ่านความเห็นของ อ.วรเจตน์ น่าจะชัดเจนที่สุดครับ... http://www.vcharkarn.com/vcafe/149444 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 13:09:03 A:124.120.8.180 X:

ความคิดเห็นที่ 41 #37 1.ถามว่ามีโอกาสไหม ผมก็ตอบไม่ได้ครับ แต่ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่ามีอะไรที่มันแน่นอน 100 % ครับ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นพดลไม่ได้เดินดุ่มๆไปทำคนเดียวนะครับ แต่เรื่องนี้ได้มีการปรึกษาทั้งฝ่ายกลาโหม ฝ่ายกรมแผนที่ทหาร ฝ่ายกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ จนได้ข้อสรุปออกมาเยี่ยงนี้ ผมเชื่อว่านั่นคือหนทางที่กลั่นกรองมาแล้วจากทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายราชการ ฝ่ายทหาร เพื่อให้ประเทศได้ผลประโยชน์สูงสุด 2.คุณต้องดูนะครับ ว่านพดลถูกตัดสินข้อหาอะไร ไม่ใช่คดีว่าเขาขายชาติรึเปล่า แต่เป็นกรณี ม.190 ที่กำลังร่ำๆจะแก้กันอยู่เนี่ย เป็นคดีที่ว่าหนังสือสัญญาลักษณะฉบับนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่นพดลไปตกลงกับเขาในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เลยโดนเล่นงาน ที่นี้ประเด็นมันเลยกลายเป็นปัญหาจนถึงทุกวันนี้ว่า ขอบเขตสัญญาที่ไปตกลงได้มันอยู่แค่ไหน เห็นไหมละครับ ทุกวันนี้รัฐบาลเองก็ยอมรับว่าเป็นอุปสรรค์ต่อการบริหาร จนต้องมาพยายามแก้กันอยู่เนี่ย เพราะสานดันทะลึ่งเติมคำว่า"อาจจะ"ลงไปในรัฐธรรมนูญเอง ทีนี้ใครจะไปรู้ครับ ว่าไอ้"อาจจะ"ของสานเนี่ยมันไปถึงไหน ขนาดนพดลมีกรมแผนที่ทหารยืนเคียงข้างว่าไม่เสียดินแดน สานยังเก่งกว่ากรมแผนที่ทหาร ตีความไปว่า "อาจจะ" เสียดินแดนได้ แม้แต่ผู้เชียวชาญเฉพาะด้าน ยังไม่อาจเหนือกว่าการตีความของสาน แล้วใครมันจะไปกล้าทำสัญญาอะไรอีกละครับ ใครจะไปรู้สานจะบ้าจี้ตีความให้มันทะลุรัฐธรรมนูญอีกรึเปล่า อนึ่ง กรณีข้อครหาของนพดล กับคดีที่เขาโดน ไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย ถ้าให้พูดคือคดีของนพดลคือกระทำการผิดขึ้นตอนทางกม.(ไม่เอาข้อตกลงผ่านสภา) แต่ที่ไปด่ากันคือนพดลไปขายชาติ แล้วก็เอาคำตัดสินของสานมาอ้างว่า ขนาดสานตัดสินว่าขายชาติจริง ทั้งๆที่มันไม่เกียวกันเลย จากคุณ : Number 31 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:25:26 A:124.121.246.29 X:

ความคิดเห็นที่ 42 อ้อ ส่วนเรื่องที่ว่าแล้วทำยังไงต่อดี ผมเห็นด้วยกับ #33 ของคุณ SaVor นะครับ แทนที่จะเป็นจะตายว่าเป็นของใคร ก็ให้เขาขึ้นทะเบียนไปเถอะครับ ยังไงมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเราแพ้คดีมาตั้ง 60 กว่าปีแล้ว จะมาโวยวายเอาตอนนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนอะไรได้ แถมไม่ได้ประโยชน์อะไรอีกต่างหาก สู้ให้เขาจดทะเบียนไปเถอะ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ประโยชน์ ดีกว่าเอาทหารไปจ้องหน้ากันตั้งเยอะ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนก็ให้ตกลงกันเป็นการภายใน อย่าให้เรื่องมันบานปลาย อย่างเอาคนบุกเข้าไปเนี่ย ถ้าสหประชาชาติยื่นมือเข้ามา เราเสียเปรียบเห็นๆ นั่นก็เข้าทางกัมพูชาเลย ส่วนตัวแล้วผมยังเชื่อว่าอำนาจต่อรองเรายังเหนือกว่ากัมพูชา การต่อรองเรื่องเขตแดนยังไงเราก็ไม่น่าเสียเปรียบ ยังไงก็ย้ายประเทศหนีกันไปไหนไม่ได้ อะไรที่คุยกันได้ก็คุยกันดีกว่าครับ จากคุณ : Number 31 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 14:35:23 A:124.121.246.29 X:

ความคิดเห็นที่ 43 สรุปได้โดยง่าย บนเวทีโลก เราเสียเปรียไปแล้ว จะเสี่ยงขอจดทะเบียนร่วม ก็ต้อง ดูทิศทางลมว่า เขมร เขาจะเอาด้วยไหม ไม่เช่นนั้นอาจจะลุกลามใหญ่โต แต่อย่างไรก็ตาม มองดูแบบเป็นเหตุเป็นผล "การขึ้นทะเบียนร่วม ย่อม ส่งผลดีที่สุดต่อทั้งสองประเทศ"  เพราะ บริบทโดยรอบตัวปราสาท ย่อมส่งเสริมให้ตัวพื้นที่ครบครันไปกว่าการกระทำครึ่งๆกลางๆ ในพื้นที่ๆสุ่มเสี่ยงนั่นเอง อย่างน้อยที่สุดที่เรามองเห็นตอนนี้ก็คือ "นพดล และ ครม สมัคร ลงมือทำอะไร" ถูกผิด ไม่นานเราก็จะรู้  ส่วน กษิต และ ครม มารค์II จะลงมือทำอะไรบ้างไหม  มารอดูกัน ปล. ขอบคุณสมาชิกหลายๆคน ที่สละเวลาเอาข้อมูลมาแจกแจงกันค่ะ(เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้)  ^_^ จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:10:23 A:58.10.155.198 X:

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้ามีอคติเป็นที่ตั้งแล้ว วิจารณญาณก็จะลดน้อยลงไป เพ้อเจ้อก็ว่าแย่แล้ว ถ้ายังสรุปมั่วซั่วอีกก็คงไม่ดีนัก ต้องขออภัยที่ติชมด้วยคำรุนแรง ตอบคำถาม #37 ด้วยคำถาม 1. ไทย มี โอกาส  % ในการจะยับยั้ง ถอดถอน การขึ้นทะเบียน ฝ่ายเดียว ของเขมร ในเวลานั้น?? ตอบด้วยคำถาม ที่ดินผืนนี้เป็นของผม คุณคิดว่ามีโอกาสกี่ % ที่จะยับยั้ง ถอดถอน ถ้าผมจะไปทำการจดทะเบียนขออนุญาตปักหมุดรังวัดพื้นที่ คุณคิดว่าปราสาทพระวิหารเป็นของใคร เรายังสงวนสิทธิไว้ได้อีกหรือไม่ ทำไมสงวนสิทธิไว้นานจัง นอกจากขอปักหมุดในพื้นที่ของผมเองแล้ว ยังมีพื้นที่บางส่วน ที่คุณกับผม ไม่ชัดเจนว่าเป็น ของใคร ผมรู้ว่า คุณไม่อยากฟ้องร้อง ขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะผมมีโอกาสที่จะชนะคดีมากกว่า คุณบอกว่า ให้ถอดคำร้องปักหมุดพื้นที่ที่ไม่ชัดเจนออกมาก่อนได้ไหม มาคุยกันก่อน ผมตอบตกลง คุณคิดว่าตัวคุณเองทำถูกต้องไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง คุณคิดว่าจะทำอย่างไร 2. การกระทำของ ครม และ นพดล ผิด หรือ ถูก กฎหมาย ตอบคำถามด้วยคำถาม จากเหตุการณ์ที่ผมสมมติตามข้อหนึ่ง ผมจะไปทำการยื่นขอรังวัดพื้นที่พิพาทภายในอาทิตย์หน้าแล้ว คุณมารู้ภายหลังและมีเวลาจำกัด ถ้าคุณรอปรึกษาลูกเมีย พ่อแม่พี่น้อง ก็จะช้าเกินไป คุณจึงตัดสินใจทำโดยเลี่ยง ไม่ให้เป็นข้อสัญญาแต่เป็นการตกลงระหว่างคุณกับผม คุณว่าคุณทำถูกไหม และถ้าคุณทำตามที่ผมกล่าวมา คุณรู้ไหมว่าในอนาคต พื้นที่พิพาทของคุณกับผมจะเป็นของใคร และถ้าคุณไม่ทำอย่างที่สมมติ อนาคตพื้นที่พิพาทจะเป็นของใคร ถ้าคุณทำแล้ว อนาคตคุณได้พื้นที่นั้นคุณจะดีใจไหม แล้วถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย เกิดผมฮุบไปได้คุณเสียใจไหม ผมยกมาหนึ่งประโยคในความเห็น #37 "ทางออกของ นพดล ทำลงไปครั้งนั้น ไม่ได้เป็นการขายชาติอย่างไร้เหตุผล" คำถามด้านล่างนี่ทดสอบอคติ ประโยคด้านบนสมมูลกับประโยคใดด้านล่างต่อไปนี้ 1. ทางออกของคุณนพดล ที่ทำลงไปครั้งนั้นเป็นการรักษาสมบัติของชาติ โดยยึดหลักของเหตุผล 2. ทางออกของคุณนพดล ที่ทำลงไปครั้งนั้น เป็นการขายชาติ แต่มีเหตุผลที่รับฟังได้ คำตอบของคุณคือข้อไหนครับ ตอบคำถามด้วยคำถาม ถ้าตอบทุกข้อก็จะดีมากครับ ผมอยากเข้าใจว่าคนที่ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไร และสถานการณ์แบบนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคืออะไร ก็ให้เสนอมา ไม่ใช่ท่อง ... ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ ... ... ผิด ผิด ผิด ... ... ขายชาติ ขายชาติ ... สิทธิที่ดินยังเป็นของคุณแน่ใจหรือเปล่า พิสูจน์ให้ได้ ถ้าได้จริงก็ฟ้องร้องเอาจากผม ถ้าไม่ใช่ ไม่แน่ใจ คุยกับผมดีๆ ดีกว่าไหม ผมสมมติเอานะครับ ในความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย จงหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของทั้งคู่ การเอารัดเอาเปรียบไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดครับ จากคุณ : Chaiyohohew เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 15:56:37 A:119.46.59.226 X:

ความคิดเห็นที่ 45 1. ทางออกของคุณนพดล ที่ทำลงไปครั้งนั้นเป็นการรักษาสมบัติของชาติ โดยยึดหลักของเหตุผล 2. ทางออกของคุณนพดล ที่ทำลงไปครั้งนั้น เป็นการขายชาติ แต่มีเหตุผลที่รับฟังได้ ^ ^ ทางออกของ นพดล ทำอยู่ในกรอบที่ว่า "ไทยหมดสิทธิ์ทวงถาม ในการขึ้นทะเบียนร่วมแล้ว" การสรุปว่า นพดล ขาย หรือ ไม่ขายชาติ จึงทำไมได้ละค่ะ "แล้วแต่ผลลัพทธ์" ถ้า จู่ๆ เราสามารถขึ้นทะเบียนร่วมได้การกระทำของนพดล ก็เท่ากับชายชาติ ถ้า ไม่สามารถ ขึ้นทะเบียนร่วมได้ การกระทำของนพดล ก็นับว่าช่วยเหลือชาติ ฝ่ายสนับสนุนนพดล ก็คงคิดว่า "เราหมดสิทธิ์ 100%" (จากศาลโลกที่เขมรชนะ) ฝ่ายไม่สนับสนุนนพดล ก็คงคิดว่า "เรายังมีสิทธิ์" (ภายใต้กรอบการขึ้นทะเบียน) ส่วน กฎหมายก็เป็นไปตามกฎหมาย  ทำดี แต่ ผิดกฎหมาย ก็ผิดวันยังค่ำ ที่สำคัญ  "ไม่มีใครรู้อนาคต" ก็ต้องเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง อีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่า เขาทำผิดหรือถูก ก็ได้แต่รอ ผู้มีอำนาจหน้าที่ ตัดสิน ปล. ไม่ต้องขออภัยค่ะติชมได้ตามสะดวก เราไม่เคยคิดถือสา ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 52 16:42:07 จากคุณ : jezebel เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 16:40:54 A:58.10.155.198 X:

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 26     ความคิดเห็นที่ 21 "ถ้าหากวันนั้น  พธม.และ ปชป.ยอมให้คุณนพดล ปัทมะ  ดำเนินการลงนามร่วมกับเขมร ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อนบ้าน  จะเกิดขึ้นไหม" จขกท.เองเป็นผู้นำข้อความนี้มากล่าว  จึงต้องถามกลับไปว่า  ถ้าพธม.และ ปชป. ยอมให้นายนพดล ดำเนินการลงนามกับฝ่ายกัมพูชา (ตามที่ตัวเอง เข้าใจ)แล้ว  ปัญหาการรุกล้ำดินแดนแบบไม่เกรงใจกันของประเทศเพื่อน บ้านจะไม่เกิดขึ้นใช่ไหม? ทั้งที่การรุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  ตลอดจนวัดวาอารามนั้น เกิดขึ้นมาก่อนหน้าที่นายนพดล จะไปร่วมลงนามแล้ว  แต่ตามข้อความจขกท.จะตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่า  เพราะพธม.และปชป.เป็น ฝ่ายขัดขวางการลงนามกับกัมพูชา  จึงทำให้เกิดปัญหาการรุกล้ำขึ้นมา ดังนี้  เข้าใจผิดไปจากที่ตีความอย่างไรหรือครับ ? จากคุณ : TuMan     เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 12:01:12 A:119.31.67.236 X:   -------------------------------------------------------------------------- ขอโทษด้วยเมื่อตอนกลางวันทำงานยุ่ง ๆ  อ่านไม่ทั่วกระทู้  จึงไม่เห็น คห.นี้ของคุณ   คำว่า "ไม่เกรงใจกัน"  ดิฉันไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์เรื้อรังที่มีมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก่อน  ถ้ามากเกินไป  เราก็ต้องเจรจาทางการทูตใช่ไหมคะ   มันไม่ใช่แต่เขารุกล้ำเรา  เราก็รุกล้ำเขาเหมือนกัน  ว่ากันไปว่ากันมาเนิ่นนานแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้  เขาเมินความสัมพันธ์ทางการทูตของเราค่ะ สังเกตจากเหตุการณ์ปะทะกัน  เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เขากราดยิงทหารไทยที่รุกล้ำดินแดนเขา  จนบาดเจ็บสาหัส มันไม่มีการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันแล้ว สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ทางการทูตที่ล้มเหลว   ต่อให้เราร้องไปเรื่องอื่น ๆ คิดหรือว่าเขาจะใยดี นี่เขาเรียกว่า  "ไม่เกรงใจกันแล้ว" จะโทษใครล่ะ  วานบอก... ข่าวจาก http://www.webindexthai.com/news/?p=846 หนึ่งในความล้มเหลว ( ของใครกัน ) เอามาให้อ่านเป็นตัวอย่าง จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 18:44:33 A:125.27.219.145 X:

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 46 คำว่าเจรจากันนั้น  ถ้าฝ่ายหนึ่งอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบเช่น ตามข้อเท็จจริงนี้ก็คือฝ่ายกัมพูชา  ซึ่งได้ครอบครองพื้นที่ มาตลอด  ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งความจริงแล้วเป็นเจ้าของ พื้นที่ด้วยซ้ำคือฝ่ายไทย  ซึ่งถูกแย่งการครอบครองเอาไป เช่นนี้  การเจรจาที่ว่าจะเกิดมรรคผลอันใดขึ้นมาหรือ ?  และ ถ้าใช้เวลาในการเจรจายี่สิบสามสิบปี  โดยสถานะยังเป็นอย่าง เช่นวันนี้คือฝ่ายกัมพูชาก็ยังคงครอบครองพื้นที่อยู่  แน่ใจได้ อย่างไรว่า  จะไม่ถูกนำเรื่องการครอบครองมาเป็นข้ออ้างใน ทางนิตินัยคือ "การครอบครองปรปักษ์"  ในที่สุด   ถ้ามีใจเป็นธรรมเพียงพอแล้ว  ทำไมถึงไม่ปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่ซึ่งปราศจากการถือครองของฝ่ายใดทั้งสิ้น  กรณีอย่างนี้ จะไม่เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายหรืออย่างไร  อย่าได้พร่ำคำว่าเจรจา ซ้ำ ๆ ซาก  โดยไม่ปรากฏให้เห็นในเรื่องที่เป็นรูปธรรมขึ้นมา แต่อย่างใดเลย  จริงอยู่ในเวลาปัจจุบันนี้เราท่านอาจจะยังไม่ เห็นผลของการนี้  แต่แน่ใจได้อย่างไรว่า  เมื่อถึงสมัยของลูก หลานในภายภาคหน้า  จะไม่ต้องมารับความขมขื่นในเรื่องที่คน รุ่นปัจจุบันนี้ได้ผ่องถ่ายไปให้แก่เขาเหล่านั้นครับ จากคุณ : TuMan เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 52 19:10:51 A:118.174.27.38 X:

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ jezebel " หากเขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว พื้นที่ 4.6 ที่จะถูกบริหารจัดการโดย ยูเนสโก้  ก็ย่อมบริหารจัดการเพื่อเขมรเท่านั้น????? " - unesco มายุ่งกับพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ได้ยังไง ก็เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น และพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ก็ไม่ได้เอาไปขึ้นทะเบียนด้วย " ในขณะที่เราดำเนินการเรื่องการปักหมุดเขตแดนอยู่ และพื้นที่เป็นพื้นที่ๆยังไม่ตัดสินใจสองฝ่าย เหตุใด เขมร และ ยูเนสโก้ ถึงสมประโยชน์ ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร โดยไม่สนใจคำทักท้วงจากไทย??? " - เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหาร ที่อยู่ในเขตของเขา เราประท้วงไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว อ้อ! แล้วเรื่องปักหมุดเป็นบริเวณชายแดนตลอดแนวประเทศไทย-กัมพูชา เป็นการร่วมมือของไทย-กัมพูชา ไม่ใช่ไทยปักหมุดฝ่ายเดียว " นพดล บอกว่าขึ้นไป แต่ 4.6 ต้องได้ประโยชน์ ร่วม = จริง " - นพดลไม่ได้บอกให้ขึ้นไป แต่แค่ขอให้เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ส่วนพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ให้เป็นไปตามคณะกรรมการปักปันเขตแดน (JBC) ตามสนธิสัญญา 2543 ที่รัฐบาลชวนไปซ็นไว้กับเขมร " สิ่งที่ นพดลทำ เป็นการตัดสิทธิ์เราจากการร้องของการจดทะเบียนร่วม(ไม่รูพอจะมีหวังหรือเปล่า แต่คิดว่าคงหมดหวัง100%) " - ตัดสิทธิ์ยังไงไม่เข้าใจ ก็เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทซึ่งเป็นของเขา แต่พื้นที่ทับซ้อนยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ถ้าจะขึ้นร่วมกันก็คงส่วนนี้ " ส่งที่ นพดลทำ ผ่าน ครม มีแนวโน้มว่าจะผิดกฎหมาย (รอผลกันอยู่) " - ก่อนรอผล อยากให้คุณช่วยแสดงความเห็นดูก่อนว่า จะผิดกฎหมายยังไง ^_^ จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 00:17:49 A:124.121.40.57 X:

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ sungod " ช่วยอธิบายหน่อยครับ ...ว่า การยอมให้ นพดล ปัทมะ ลงนามยอมรับ ว่าปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก "แต่เพียงผู้เดียว" ...มันจะทำให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร นั้นเป็นของไทย และเขมรจะไม่มีสิทธิ์บุกรุกเข้ามา ได้อย่างไร ?? " - เดิมเขมรจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วย เพราะเขมรอ้างว่าเป็นของตนแน่นอน แต่ในแถลงการณ์ระบุชัดว่าให้เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อน แต่พื้นที่ทับซ้อนให้เป็นไปตาม MOU 2543 (ที่ชวน 2 ไปเซ็นไว้กับเขมร) หมายความว่า แถลงการณ์ให้เขมรยอมรับพื้นที่ของเขาแค่บริเวณปราสาทเท่านั้น ไม่รวมพื้นที่อื่นๆ (บนเขาพระวิหาร) ที่ปรากฎเป็นของเขมรในแผนที่ของกัมพูชา ซึ่งหากอนาคตมีกรณีพิพาทจนถึงศาลโลก ไทยเราสามารถนำแถลงการณ์นี้ไปเป็นหลักฐานได้ว่า เขมรยอมรับว่าดินแดนตัวเองมีแค่บริเวณปราสาทเท่านั้น " ...เพราะเห็นแต่ตอนนั้น ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่เลย ว่าการจดทะเบียนมรดกโลก เค้าต้องรวมพื้นที่ตั้งเข้าไปด้วย " - มรดกโลกจะมีเกณฑ์อยู่ 5 ข้อ(ถ้าจำไม่ผิด) แต่ที่เขมรได้ขึ้นทะเบียนเพราะเข้าเกณฑ์เพียงข้อเดียว เพราะมีเฉพาะตัวปราสาท ซึ่ง unesco ก็ยอมขึ้นให้ " ...และในประวัติศาสตร์ ก็ยังไม่มี มรดกโลกที่ไหน ที่จดทะเบียนแค่ตัวอาคารอย่างเดียว โดยไม่รวมที่ตั้ง " - ก็มีแล้วนี่ไง ปราสาทพระวิหาร ที่ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท :P นี่คือบันทึกการประชุมมรดกโลกในวันขึ้นทะเบียนปราสาท (ยกมา 3 ข้อที่เกี่ยวกับเกณฑ์การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ ที่เขมรได้รับการยกเว้นไม่ต้องครบเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อ)... ข้อมติที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ นครควิเบก แคนาดา รับรองเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551 เรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ข้อมติ:    32 COM 8 B. 102 คณะกรรมการมรดกโลก 7.  ตัดสิน บนพื้นฐานการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้รับ ในกระบวนการพหุภาคีซึ่งไปสู่การจัดทำรายงานขยายความเสริมซึ่งเสนอเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 โดยรัฐภาคีกัมพูชา ตามคำขอของคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ข้อมูลส่งโดยรัฐภาคีนั้นภายหลังกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในวรรค148 ของแนวปฏิบัติดำเนินการ 12.  ขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหาร กัมพูชา ในบัญชีมรดกโลกในเกณฑ์ 1 13.  ออก คำแถลงของเกี่ยวกับคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ดังต่อไปนี้       ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นกลุ่มสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะเฉพาะของชุดอาคารที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบทางเดินและบันไดเป็นแนวแกนยาว 800 เมตร เป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของสถาปัตยกรรมเขมร ในเรื่องของผัง การตกแต่ง และความสัมพันธ์กับภูมิทัศน์แวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ       เกณฑ์ 1: พระวิหารเป็นศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของสถาปัตยกรรมเขมร ซึ่งมีความบริสุทธิ์อย่างยิ่งทั้งในเรื่องผังและในรายละเอียดของการตกแต่ง       ความถูกต้องแท้จริงได้รับการยอมรับ ในลักษณะที่อาคารและวัสดุได้แสดงคุณค่าของทรัพย์สินเป็นอย่างดี ข้อเด่นของทรัพย์สิน ประกอบด้วยกลุ่มปราสาท บูรณภาพของทรัพย์สินถูกทำให้เสียไปส่วนหนึ่งเพราะส่วนของชะง่อนเขาไม่ได้รวมไว้ในขอบเขตของทรัพย์สิน  มาตรการป้องกันปราสาทในทางกฎหมายถือว่าเพียงพอ และความคืบหน้าในกำหนดแนวทางของแผนบริหารจัดการ ต้องได้รับการพัฒนาเป็นแผนบริหารจัดการเต็มรูปแบบที่ได้รับการรับรอง http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=20276 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 00:26:37 จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 00:20:30 A:124.121.40.57 X:

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ sungod (ต่อ) " ถ้ามีกรณีพิพาทระหว่าง 2 ประเทศแบบไทย เค้าก็แก้ปัญหาด้วยการวิธีจดทะเบียนร่วมกัน 2 ประเทศกันทั้งนั้น ครับ " - จริงๆ สมัยทักษิณมีการตั้งคณะกรรมการร่วมศึกษาเพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลกเขาพระวิหารร่วมกันอยู่แล้ว แต่พอทักษิณโดนยึดอำนาจ เขมรก็หนีไปพึ่งชาติมหาอำนาจเพื่อจะขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว ก.ต่างประเทศสมัยสุรยุทธรู้ว่าเขมรกำลังจะนำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วย ทางรมต.กต.สมัยนั้นก็ไปเจรจาเพื่อขอขึ้นทะเบียนร่วมกัน แต่เขมรปฏิเสธ ประกอบกับชาติตะวันตกไม่สนับสนุนให้เขมรเจรจากับรัฐบาลทหารของไทย ทำให้ฝ่ายไทยทำได้แค่ขอให้เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท และถ้าเขมรยอมตามคำขอนี้ไทยก็จะสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียน ซึ่งนี่คือที่มาของแถลงการณ์ร่วมฯ พอสมัยสมัคร นพดลก็ไปเจรจาขอขึ้นทะเบียนร่วมอีกครั้ง แต่เขมรอ้างว่าเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางเขาไม่ได้แล้ว ก็คือปฏิเสธนั่นแหละ และทาง unesco ก็ให้เวลาแค่ 1 ปี(นับจากสมัยสุรยุทธ) ซึ่งตอนนั้นเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งปี ทำให้นพดลต้องสานต่อการเจรจาสมัยสุรยุทธ นั่นคือให้เขมรขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทแล้วไทยจะสนับสนุน ซึ่งเขมรก็ยอมและมีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกัน นี่คือบันทึกการประชุมเรื่องคณะกรรมการร่วมศึกษาเพื่อขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารร่วมกันในสมัยทักษิณ... ....................................................... กันยายน พ.ศ. 2546 รัฐบาล 2 ประเทศ ประชุมร่วม มีมติร่วม ครม. ไทย-กัมพูชา เห็นชอบตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาปราสาทพระวิหาร ไทยและกัมพูชา มีนาคม พ.ศ. 2547 คณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาปราสาทพระวิหาร ไทยและกัมพูชา โดยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ประชุมร่วมกับนาย ซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กรุงเทพฯ ทำข้อตกลงการร่วมพัฒนาปราสาทพระวิหารและกำหนดให้มีการดำเนินการเสนอเขาพระวิหาร “เป็นมรดกโลกร่วมกัน” (25 มีนาคม 2547) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือข้อราชการกับนายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเป็นประธานการประชุมร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการพัฒนาร่วมเขาพระวิหาร ที่กระทรวงการต่างประเทศ ภูมิหลังการพัฒนาร่วม เขาพระวิหาร เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชา เมื่อ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2546 ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบในหลักการให้ร่วมมือกันพัฒนาเขาพระวิหารเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การศึกษาทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี การพัฒนาพื้นที่ในปริมณฑลรอบปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อยกสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเพื่อให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างไทยและกัมพูชา หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-กัมพูชาดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและกัมพูชาต่างได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยในส่วนของฝ่ายไทย คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาเขาพระวิหาร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ โดยภายใต้กรรมการดังกล่าว ยังมีอนุกรรมการอีก 2 ชุด คือ (1) คณะอนุกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์ ปราสาทเขาพระวิหาร มีนายเตช บุนนาค เป็นประธาน และ (2) คณะอนุกรรมการวางแผนพัฒนาร่วมเขา พระวิหาร มีนายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการทั้งสองดังกล่าวได้ดำเนินการตามความรับผิดชอบ เพื่อศึกษาแนวทางและนำเสนอข้อมูลสำหรับการพัฒนาเขาพระวิหารให้บรรลุผลตามความมุ่งหมาย การดำเนินงานมีความคืบหน้ามาตามลำดับ ในส่วนของกัมพูชาได้จัดตั้ง “คณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อพัฒนาพื้นที่ตาเฒ่าและปราสาทเขาพระวิหาร” มีนายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาเขาพระวิหาร (ฝ่ายไทย) เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาร่วมเขาพระวิหารและปริมณฑลต่อไป ผลการประชุมทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันในเรื่องสำคัญ ๆ ได้แก่ 1. ให้การพัฒนาร่วมเขาพระวิหารเป็นโครงการความร่วมมือที่เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันที่แท้จริง 2. ดำเนินการเพื่ออนุรักษ์ปราสาทเขาพระวิหารให้คงคุณค่าด้านความงาม ศิลปะ ประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพื่อเป็นมรดกของมนุษยชาติสืบไป โดยเป็นการดำเนินการร่วมกับองค์การ UNESCO หลังจากที่ มีการจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว 3. ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะที่มีผลกระทบต่อสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองฝ่าย เช่น สิ่งแวดล้อม การเก็บกู้กับระเบิด ฯลฯ 4. ดำเนินการให้โครงการพัฒนาร่วมนี้ เกื้อหนุนและสอดคล้องกับโครงการพัฒนาอื่น ๆ อาทิ ACMECS สามเหลี่ยมมรกต ฯลฯ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย 5. ยินดีต้อนรับการเข้ามีส่วนร่วมให้การช่วยเหลือและร่วมมือของประเทศที่สาม องค์การระว่างประเทศ และภาคเอกชน ในการร่วมพัฒนาเขาพระวิหาร 6. เกี่ยวกับเรื่องเส้นเขตแดน ได้ตกลงกันในหลักการที่จะให้มีการสำรวจสภาพภูมิประเทศร่วมกัน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการปักปันหลักเขตแดนในอนาคต โดยจะไม่ให้ปัญหาด้านเขตแดนมาเป็นอุปสรรคต่อโครงการร่วมพัฒนานี้ ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามหลักการดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในการกำหนดแผนพัฒนาเขาพระวิหารอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ/คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง และอาจจำเป็นต้องตั้งขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกัน และเสนอแนวความคิดและแนวทางดำเนินการให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายให้ความความเห็นชอบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยที่นายสก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รับผิดชอบหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ในการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้หารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีในเรื่องอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อการพัฒนา ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา อาทิ ในเรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในกรอบคณะกรรมการร่วมสมาคมวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา และการ พัฒนาเส้นทางหมายเลข 67 (สะงำ-อันลองเวง-เสียมราฐ) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการติดต่อไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน รวมทั้งได้หารือกันเกี่ยวกับโครงการที่จะมีส่วนช่วยเชื่อมโยงด้านคมนาคมในภูมิภาค ได้แก่ โครงการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 48(เกาะกง-สแรอัมเบิล) โดยความช่วยเหลือของรัฐบาลไทยด้วย การประชุมและการหารือข้อราชการที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นไปในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและความร่วมมือที่ใกล้ชิด ด้วยความจริงใจและเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน สะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและอบอุ่นระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 00:29:12 A:124.121.40.57 X:

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ TuMan " ก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาลพลเอก สุรยุทธ  ได้มีการคัดค้านเรื่องการขอขึ้นทะเบียน ฝ่ายเดียว  จนระง้บไปในที่สุด " - เข้าใจผิดแล้ว ไม่ได้มีการระงับการขึ้นฝ่ายเดียวแต่อย่างใด และที่ไทยคัดค้านตอนนั้น เพราะเขมรจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นด้วย ไทยเลยคัดค้านเรื่องนี้ และเจรจาขอขึ้นร่วม แต่เขมรปฏิเสธ สาเหตุเพราะอะไรอ่านได้จากความคิดเห็นที่ 49-50 ที่เราตอบคุณ sungod พูดง่ายๆ สมัยสุรยุทธนี่แหละที่เป็นที่มาของแถลงการณ์ร่วม แต่ยังเจรจาไม่เสร็จเพราะเขมรบ่ายเบี่ยง เลื่อนการเจรจามาเรื่อย เห็นว่าได้คุยกันแค่ 2 ครั้งเอง " จขกท.ไม่ทราบเลยจริง ๆ หรือว่า  ฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชน บ้านเรือนตลอดจนวัดวาอารามนั้น  มิใช่เป็นการเริ่มต้นมาเป็นเวลาเนิ่น นานแล้วเกือบทศวรรษ  แต่เพิ่งเข้ามาภายหลังจากที่เข้าใจเอาเองว่า "เพราะพธม.และปชป. ไม่ยินยอมให้นายนพดล  ลงนามกับกัมพูชา" " - คุณไม่เห็นที่วีระ สมฯ ฟ้องรัฐบาลตั้งแต่ปี 41 เหรอ เพราะรัฐบาลตั้งแต่สมัยนั้นปล่อยให้ชาวเขมรเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน จนมาถึงชวน 2 มีชาวเขมรเข้ามามากขึ้น ทหารก็แจ้งให้รัฐบาลชวนรู้เพื่อให้ขับไล่ แต่รัฐบาลชวนไม่ไล่เพราะเกรงบานปลายแต่เลือกเจรจา จึงเป็นที่มาของสนธิสัญญาหรือ MOU 2543 รวมถึงการตั้งคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดน (JBC) นั่นคือจะไม่มีการไล่ชาวบ้านของทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ทับซ้อน จนกว่าจะปักปันเขตแดนเสร็จ ตามรูปคือ MOU 2543 ที่สุขุมพันธ์ รมช.กต.ไปลงนามไว้กับเขมรสมัยชวน 2 แทนการไล่ชาวเขมรออกนอกพื้นที่ (เครดิตรูป คุณ mcu51) " ตามข้อเท็จจริงแล้วมิใช่ พื้นที่ทับซ้อนอันใดเลย  เป็นพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยมาโดยตลอด แม้แต่คำตัดสินของศาลโลก ปี  2505  ก็มิได้พิพากษาตัดสินมากไปกว่า ให้ฝ่ายกัมพูชามีกรรมสิทธิ์ "เฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร"  เท่านั้น " - คู่กรณีสมัยนั้นไม่มีใครยื่นให้ศาลโลกพิจารณาในเรื่องอื่นๆ นอกจากเรื่องตัวปราสาทเท่านั้น แล้วจะให้ศาลพิจารณาเกินคำฟ้องได้ยังไง " แม้ผบทบ.พลเอกอนุพงษ์ เอง ก็ออกมายอมรับ  โดยให้ข่าวในเรื่องนี้ว่า  มิใช่เป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่อย่าง ใด  เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานี้เอง " - ถ้าคุณฟังไม่ผิด อนุพงษ์ก็พูดผิด คุณช่วยนำข่าวที่อนุพงษ์พูดเรื่องนี้มาลงให้ดูที อยากรู้ว่าเขาพูดถึงอะไรกันแน่ " ถ้ามีใจเป็นธรรมเพียงพอแล้ว  ทำไมถึงไม่ปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่ซึ่งปราศจากการถือครองของฝ่ายใดทั้งสิ้น " - มันเริ่มจากการเจรจาสมัยชวน 2 ที่ไม่อยากมีเรื่องกันทั้งสองฝ่าย เลยไม่ขับไล่คนของทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ทับซ้อนจนกว่าจะปักปันเขตแดนแล้วเสร็จ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 52 00:41:50 จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 00:41:01 A:124.121.40.57 X:

ความคิดเห็นที่ 52 โปรดยอมรับความจริง ก่อนใช้วิจารณญาณ ในการอ่านกระทู้ดีๆเช่นนี้ จากคุณ : สุกี้นายกอง เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 06:00:17 A:222.123.220.245 X: