ความคิดเห็นที่ 1 ทำผิดกฎหมาย ยังจะมาแถ รอคำพิพากษา เถอะ จากคุณ : ขอร้องอย่าชม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 01:33:45 A:192.168.1.50 X:118.172.241.222

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ กฎหมายที่มีผู้บังคับใช้เฮงซวยแบบนี้ คงไม่ต่างอะไรกับ พวกล่าพ่อมด แม่มด สมัยศาสนจักร หรอกครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 01:45:01 A:124.121.248.27 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เอาอย่างนี้นะ จขกท....ตามความเข้าใจของเรา  แบบง่ายๆนะ เนื่องจากบริเวณที่ถูกเรียกว่า" พื้นที่ทับซ้อน"  จริงๆแล้ว  มัน "ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน"  ตรงนี้ คุณยอมรับไหม หากไทยเรายอมให้หนังสือร่วมที่ว่าตามเจตนารมณ์ของคุณนพดลนั้นเป็นผล  จะเป็นการแสดงว่า พื้นที่นั้น "เป็นพื้นที่ทับซ้อน" อย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมา ไทยเราไม่เคยยอมรับ (และไทยเรามีสิทธิ์จะทำแบบนั้น)  เพราะเป็นพื้นที่ของไทยเราจริงๆ ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดเลย.. จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:05:28 A:61.90.85.184 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ขอแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมนะคะ ที่เราได้อ่านๆมา  พบว่า มักมีการเข้าใจผิด     ศาลโลกไม่เคยมีคำตัดสินว่าแผนที่ฝรั่งเศสฉบับนั้นถูกต้อง  ศาลโลกไม่ได้ให้การยอมรับแผนที่นั้น เพราะจัดทำขึ้นโดยขัดต่อสนธิสัญญาหลักที่ให้ยึดสันปันน้ำ ศาล โลกตัดสินให้เฉพาะตัวประสาทเขาพระวิหารเป็นของเขมรเท่านั้น ไม่ใช่ เพราะแผนที่แต่เพราะพฤติกรรมแวดล้อมหลายๆอย่างของฝ่ายไทยในอดีต ไม่ มีการประกาศอย่างเป้นทางการใดๆว่าแผนที่ฝรั่งเศสฉบับนั้นมีแนวเขตที่ถูกต้อง สัญญา ที่นพพดลงเซ็น มีการยกพื้นที่ทางเหนือและตะวันตกคือ N3ให้เป็นพื้นที่จัดการ่วมกัน ....ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นของไทย ไทยไม่สามารถจะยกให้คนอื่นเข้ามาจัดการได้ คุณนพดลมักอ้างว่า  joint communique ทำให้ไทยได้พื้นที่จากเขมรมา(N3) โดยอ้างว่าเป็นการทำให้แผนที่ฝรั่งเศสที่เขมรยึดถือหมดน้ำหนักไป เพราะ N3เดิมอยู่ในเขตเขมรตามแผนที่ฝรั่งเศส แต่แผนที่ฝรั่งเศสก็ไม่เคยมีน้ำหนักอยู่แล้ว เรื่อง พื้นที่ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนระหว่างประเทศ ไม่ใช่นึกจะท้วงก็จะท้วง กันได้ เพียงแต่ในการทำสัญญาใดๆ อย่างเช่นที่คุณนพดลทำไปนั้น  จำเป็นที่ ต้องถูกทำให้ไม่เป็นผล  เพราะสิ่งที่ไทยทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ค้อ   ไทยต้อง ไม่ไปเซ็นสัญญาที่มีลักษณะเสียเปรียบทางกฎหมายเพิ่มเติมอีก   การค้าน ของปชป.ตอนนั้นถูกต้องแล้ว  แต่การทวงพื้นที่คืนโดยพธม. นั้น  เราว่า แรงมากเกินไปจริงๆ และ ถ้าโชคไม่ดี อาจก่อปัญหาระว่างประเทศได้ (credit ==> คุณ thyrocyte) แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 02:26:21 จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:24:07 A:61.90.85.184 X:

ความคิดเห็นที่ 5 เวรกรรม เขาไม่ได้บอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่เซ็นเพื่อไม่ให้เอาพื้นที่ทับซ้อนเสนอรวมกับปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ต่างหาก แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 02:29:11 จากคุณ : rio410 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:27:56 A:58.64.51.85 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ความเห็น 5 ลองอ่านลิงค์นี้ให้ละเอียด http://www.finearts.cmu.ac.th/artarticle/article51006.php หรืออันนี้ก็ดี  มีหัวข้ออืนๆที่เกียวข้องด้วย http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=2254&username=phavihan แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 02:38:28 จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:33:06 A:61.90.85.184 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ก็รัฐบาลคุณสมัครคัดด้านการขึ้นทะเบียนโดยรวมที่ทับซ้อน (เพราะไทยกับเขมรต่างก็อ้างสิทธิ์) ให้ขึ้นได้เฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเขมรอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขมรได้ตัดถนนผ่านที่ทับซ้อน เข้ามายังปราสาทเขาพระวิหารแล้ว และรัฐบาล กับกองทัพไทย ไม่เห็นมีปฎิกิยาใดๆเลย มิหนำซ้ำเขมรยังขู่อีกด้วยว่า ถ้าล้ำเข้าไปโดนยิงแน่ พธม ที่อวดเก่งกับคนชาติเดียวกัน ยังหงอเลย ยิ่งรัฐบาล กับกองทัพไทยที่เก่งในการปราบปรามประชาชนคนไทย ไม่เห็นมีใครพูดอะไรสักแอะเดียวหงอกันไปหมด ไหนล่ะพวกที่บอกว่าเป็นพื้นที่ของไทย หายไปไหนกันหมด รัฐบาล ปชป ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนถึง 3 ครั้งแล้วนะ ครั้งแรกเสียปราสาทเขาพระวิหาร ครั้งที่ 2 สมัยนายชวนก็ไปทำสัญญากับเขมรโดยใช้แผนที่ของผรั่งเศษ ครั้งที่ 3 ก็สดๆร้อนๆ รัฐบาลเด็กโง่ ไร้วุฒิภาวะที่ทำให้เราต้องเสียดินแดน 4.6 ตร.กิโลเมตร หรือจะมีใครเถึยงว่ายังไม่เสีย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 02:45:52 จากคุณ : ลมตะเภา เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:42:05 A:125.25.92.46 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ผมขออนุญาตจขกท....จะเอาไปทำห่าเหวอะไร..กะเศษอิฐเศษดิน มันเสียดินแดนตั้งแต่แพ้ศาลโลกแล้ว....ชาวบ้านนะคิดถึงใจเขาบ้าง ..ไอพวกแอสทีวี.. ถึงวันนึง..ต้องทำสงครามกับเขมร..คิดว่าต้องฆ่าพวกเองก่องฟะ เพราะว่าพอศาสดาเองสมประโยชน์..มันก็พูดให้ทุกอย่างดูดี... ....จำเอาไว้สิ่งที่เองทำ...ไอโกเตก...คนคิดกิโยติน..ได้ใช้..กิโยติน จากคุณ : six sauer เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 02:53:03 A:124.121.31.151 X:

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ stand with a fist พื้นที่ติดต่อเขตแดน ที่ต่างฝ่ายต่างก็อ้างสิทธิการเป็นเจ้าของ ก็ต้องเรียกว่า "พื้นที่มีปัญหา" เขมรเขาก็อ้างว่าของเขา เราก็อ้างว่าของเรา จะเรียก "พื้นที่ทับซ้อน"หรือเรียก "แผ่นดินไทย" มันก็คือ "พื้นที่ทีี่่มีปัญหา" พื้นที่"ปัญหา" มันเพิ่งเป็นปัญหาในสมัยสมัครหรือเปล่า? ก่อนหน้านั้นเป็นของไทยโดยที่เขมรยอมรับหรือ? อ่านนี้ดูบ้างครับ http://www.prachatai.com/journal/2009/07/24955 ผมสงสัยท่าที่ คุณอธิสิทธิ์ตอนที่แกอภิปรายในสภา กับตอนที่แกรับผิดชอบตอนนี้ ทำไมมันดูเหมือนหนังคนละม้วน คนแสดงคนละคนอ่ะครับ ดูเหมือนแกพยายามจะทำให้คนลืมเรื่องนี้ไปยังไงก็ไม่รู้นะครับ จากคุณ : bancherd เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 03:17:52 A:113.53.4.233 X:

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อผลของการลงมติให้เขมรขึ้นประสาทเขาเพราะวิหาร สมัยสมัคเป็นโมฆะ ก็แสดงว่ามตินั้นไม่มีผลแล้วจะมาโทษ นพดลกับสมัครได้ยังไง และผลของการคัดแย้งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ... มาร์คต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ทำอะไรไปบ้างแล้วละรัฐมนตรีต่างประเทศ หายหัวไปไหน จากคุณ : แมงหวี่น้ำ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 03:34:53 A:125.27.236.232 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะคุณ   : bancherd ที่คุณถามว่า "......พื้นที่"ปัญหา" มันเพิ่งเป็นปัญหาในสมัยสมัครหรือเปล่า? ก่อนหน้านั้นเป็นของไทยโดยที่เขมรยอมรับหรือ?...." ^  ^   ^  ^^  ^ ไม่มีใครบอกว่า เพิ่งเป็นปัญหาสมัยสมัคร  คุณอ่านละเอียดหรือเปล่า  เราถึงได้บอกในคห.4ไงคะว่า "เพราะสิ่งที่ไทยทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ค้อ   ไทยต้องไม่ไปเซ็นสัญญาที่มีลักษณะเสียเปรียบทางกฎหมายเพิ่มเติมอีก " ที่กล่าวว่า "ผิด"นั้น หมายถึง การไปลงนามร่วมทำหนังสือซึ่งจะไปก่อให้เกิดการยอมรับโดยปริยายว่า  พื้นที่ที่ยังเป็นปัญหานั้น  จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะมันจะเป็นพื้นที่"ทับซ้อน " ไม่ใช่พื้นที่"ของเรา "  ซึ่งที่ผ่านมา  ไทยเราไม่เคยจะไปทำอะไรที่แสดงความเพลี่ยงพล้ำในลักษณะนี้ จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 03:36:19 A:61.90.85.184 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ฝั่งประชาธิปัตย์  ก็บอก   ต้องโทษสมัคร  นพดล ฝั่งไทยรักไทยก็บอก  ต้องโทษชวน กับสุขุมพันธ์ แทนที่จะช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏ มัวแต่เกี่ยงกัน ทะเลาะกัน  เพื่อนบ้านเขาไปถึงไหนแล้ว อ่ะจ๊า .. จากคุณ : ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 03:41:36 A:110.164.97.251 X:

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท. เขมรเต็มขั้น   เขายกเลิก  สัญญาของนพดล  แล้วมันหมายความว่า  เขมร ได้ทียึด พีนที่ทับช้อนหรือไง   การที่คุณไปเซ้นให้เขา  หมายความว่า  เขาจะยอมขึ้นประสาทที  หน้าผาหรือ  เขาก็มาขึ้นในพท. ทับซ้อนอยู่ดี    ถ้าเราไม่มีการต่อต้าน          ลูกคู่ไม่ต้องวิจารณ์ความเห็นผม  นะ  ไม่เข้าหู  พวกเสื้อแดง  ชาติเขมรหลอก จากคุณ : fado เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 04:55:03 A:115.67.29.92 X:

ความคิดเห็นที่ 14 รัฐบาลสมัครน่ะเขาทำถูกแล้ว ตัวปราสาทเรายอมรับว่า เป็นของกัมพูชา ตามคำตัดสินของศาลโลก พื้นที่ทับซ้อนพัฒนาร่วมกัน ส่วนเรื่องการปักปันเขตแดน ค่อยๆ เจรจากันไป นี่คือสิ่งที่ รัฐบาลสมัคร และ คุณนพดล ไปเจรจา ผมอยากจะถามหน่อยว่า ไม่เจรจา อย่างนี้ แล้วจะให้เจรจาอย่างไร มีใครสามารถเจรจา ให้ได้ข้อตกลงที่ดีกว่านี้ ? ทุกวันนี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ไปเจรจาภายใต้ข้อตกลงแบบนี้เหมือนกัน พันธมิตร พูดเหมือนกับว่า ตัวปราสาท ก็เป็นของเรา พื้นที่ทับซ้อนก็จะเอาหมด ไปเจรจา ใช้ท่าที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ คิดว่า กัมพูชาจะยอม ? ผมไม่เข้าใจพันธมิตร ไปขัดขวางกัมพูชาขึ้นทะเบียนตัวปราสาทเป็นมรดกโลก ทำไม ตัวปราสาท เป็นมรดกโลก มันก็ดีแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้มาท่องเที่ยว พื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา ก็ช่วยกันพัฒนาให้มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปสิครับ ทำอย่างนี้ประชาชน ทั้งสองประเทศ ต่างก็ได้ประโยชน์ ทำมาหากินกันได้ จากคุณ : ขาจร...ขอแจม เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 05:19:39 A:58.8.176.18 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ต้องขอขมาแล้ว มันหาแพะให้แล้ว รอติดคุกข้อหาให้ไทยเสียดินแดนพื้นที่ทับซ้อนเถอะน้าทั้งสอง นี่แหละเมืองไทย  พวกมากลากไป ค่าของคน(ไทย) อยู่ที่คนของใคร จากคุณ : สิงห์สองล้อ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 05:50:47 A:124.121.80.84 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ตามความเข้าใจของผม หนังสือข้อตกลงร่วมฯ ที่นพดลไปลงนามไว้ไม่มีข้อไหนที่ไปยอมยกพื้นที่ให้กำพูชา ที่แน่ๆมันก็คือข้อกำหนดว่าให้กำพูชาขึ้นทะเบียญแค่ตัวปราสาทพื้นที่โดยรอบไม่เกี่ยว เมื่อกำพูชายอมลงนาม ก็เท่ากับว่ากำพูชายอมรับว่าพื้นที4.6ตรงนั้นเป็นพื้นที่มีปัญหาเป็นพื้นที่ทับซ้อน และไทยจะได้เปรียบเมื่อเกิดข้อพิพาทในกรณีนี้ ซึ่งจากแต่ก่อนไทยไม่เคยมี หลักฐานอะไรเลยที่จะอ้างว่าบริเวณ4.6เป็นพื้นที่ของเรา และเขมรไม่เคยยอมรับ ด้วยว่าพื้นที่4.6นั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งถ้ามีปัญหาพิพาทกันแล้วขึ้นศาลโลก กำพูชาจะเอาผลตัดสินของศาลโลกที่ไทยไปแพ้มาอ้างได้เพราะศาลโลกใช้ แผนที่ของฝรั่งเศสในการตัดสินซึ่งแผนที่นั้นกินเนื้อที่4.6ที่เป็นปัญหาในตอนนี้ แต่เมื่อศาลโลกตัดสินมาแค่กรณีของปราสาทไทยจึงตัดแบ่งพื้นที่ให้เพียงแต่ตัว ปราสาท ซึ่งตอนนั้นกำพูชาก็ต้องจำใจยอมเพราะต้องพึ่งพาไทยอยู่มาก แต่ หนังสือสัญญาที่นพดลไปลงนามนั้น เป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่แสดงว่ากัมพูชายอม รับว่าพื้นที่4.6นั้นเป็นพื้นที่ "มีปัญหา" หรือ "พื้นที่ทับซ้อน" แต่เมื่อมันถูกยกเลิก ไปแล้ว ผลก็คือคนไทยเข้าไปในบริเวณนั้นได้มั้ยครับตอนนี้ถามหน่อยเถอะ ทำไมเขมรเข้ามาทำถนมได้อย่างสบายใจเลยล่ะครับ ในเมื่อคิดว่าไทยนสงวน สิทธิไว้อยู่ทำหนังสือประท้วงไปสิครับรัฐบาลมาร์ค เงียบทำไมหรือกลัวเค้าจะเอาเรื่องขึ้นศาลโลก  ถ้าไทยมีหลักฐานเด็ดป่านนี้พื้นที่4.6ตรงนั้นคงไม่เป็นพื้นที่มี ปัญหาจนทุกวันนี้หรอก ตอนไทย - เขมรอยู่กันอย่างพึ่งพากัน ก็ดันไปปลุก กระแสคลั่งชาติ เพียงเพื่อต้องการจะล้มรัฐบาลก่อนหน้าเพื่อให้ตัวเองได้มาเสวย สุข ควรจะละอายบ้าง ไม่เห็นจะปากดีอย่างตอนที่เป็นฝ่ายค้านเลย จากคุณ : เวลาที่หายไป เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 06:27:56 A:124.121.140.173 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 13     จขกท. เขมรเต็มขั้น   เขายกเลิก  สัญญาของนพดล  แล้วมันหมายความว่า  เขมร ได้ทียึด พีนที่ทับช้อนหรือไง   การที่คุณไปเซ้นให้เขา  หมายความว่า  เขาจะยอมขึ้นประสาทที  หน้าผาหรือ  เขาก็มาขึ้นในพท. ทับซ้อนอยู่ดี    ถ้าเราไม่มีการต่อต้าน         ลูกคู่ไม่ต้องวิจารณ์ความเห็นผม  นะ  ไม่เข้าหู  พวกเสื้อแดง  ชาติเขมรหลอก จากคุณ : fado ************************************************************* ใช่ครับ  หนังสือร่วมฉบับนั้น ถ้ายังมีผลอยู่ เราสามารถนำไปแย้งที่ใดก็ได้เช่นศาลโลก หรือ สหประชาชาติ เพราะเนื้อหาที่ระบุไว้ว่า กำพูชาจะขึ้นทะเบียนได้เฉพาะตัวปราสาท ไม่รวมพื้นที่ทับซ้อน ถ้ากำพูชาดำเนินกิจกรรมใดๆในพื้นที่ทับซ้อน เราก็เอาหนังสือร่วมนี้ไปโต้แย้งได้เลยว่าในเมื่อกำพูชายอมรับร่วมกันว่ามันเป็นพื้นที่ทับซ้อนการจะเข้าไปทำอะไรควรได้รับความเห็นชอบจากไทยด้วย   ต่างจากปัจจุบันที่ทางกำพูชามีท่าทีแข็งกร้าว แถมยังบอกพื้นที่ตรงนั้นก็ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นของกำพูชาเองทั้งหมด ถ้ามีคนไทยคนใดรุกล้ำเข้าไปเขาสั่งทหารยิงได้ทันที นี่แหละ สัญญาที่พวกคุณบอกว่าขายชาติ ส่วนจะมาแถว่า ทำให้เสียดินแดนตรงปราสาทพระวิหารนั้น มันความคิดของพวกคลั่งชาติ เสียประสาทสัมผัสด้านการรับรู้ เชื่อแต่ พ่อลิ้ม และ ASSTV อย่างเดียว อย่างที่บอก ศาลโลกเขาตัดสินไปตั้ง 50 ปีแล้วถ้าคุณจะโทษก็ต้องโทษศาลโลก และคนไทยที่ไปสู้คดีแล้วแพ้กลับมา  ปากก็บอกเคารพศาล แต่มาบอกว่าปราสาทพระวิหารเป็นของไทย พาพวกไปทวงคืน โดนหมายศาลยึดบ้านไปแล้ว จะไปทวงคืนกับเจ้าของบ้านใหม่ได้เหรอ 55555 *********************************************************** กลับมาดูอีกที ขำความคิดพวก พธม.ชักศึกเข้าบ้าน คงเป็นพม่าปลอมตัวมาทำให้คนไทยแท้ๆต้องเดือดร้อน ไปขี้ไว้ให้ชาวบ้านภูมิสรอล ต้องรับกรรม กระสุนปืน ค. ปืนใหญ่ มันวิ่งมาไม่ถึงกรุงเทพหรอก มีแต่ชาวบ้านแถบนั้นที่พวกคุณไปไล่ตีเขานั่นแหละต้องรับกรรม เหยียบกับระเบิดขาขาดบ้างล่ะ ถูกปล้นสะดมบ้างล่ะ ไอ้พวกที่ไปขี้ทิ้งไว้มันก็มานั่งดูผลงานของมันทางทีวี ไม่ได้ไปตายแบบ ทหาร และ ชาวบ้านภูมิสรอลสักหน่อย คนไทยจริงๆเขาไม่ทำกับเพื่อนร่วมชาติอย่างที่ พธม.ทำหรอกครับ จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 06:35:44 A:118.172.81.99 X:

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาฮา ข้อมูล ASTV ได้ผลแฮะ ว่ากันตามที่ ASTV ว่ามาเปี๊ยบเลย ถามสแตนอโลน ว่าถึงนพดลจะไปเซ็นต์หรือไม่เซ็นต์ยินยอม ไม่มีผลอะไรอยู่แล้วเขมรมันคิดว่าเป็นของเขมรอยู่ดี แต่หนังสือร่วมเขมรยังยอมให้พัฒนาร่วมกันก็ไม่เสียหายเลย ยังมีการปลุกระดมให้เกลียดชังคุณนพดล บอกเป็นคนขายชาติอีก มันเจ็บแสบนะครับโดนเอาข้อหาขายชาติไปยัดเยียดให้คนอื่นนะครับ ทำแบบนี้ไปทำไมกันครับเหล่าแกนนำเหลืองทั้งหลาย ไม่แฟร์เลย จากคุณ : โฟโต้แมน007 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 07:28:26 A:118.172.218.107 X:

ความคิดเห็นที่ 19 .               การเยือนกัมพูชาของนายมาร์ค เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2009 ไปทำข้อตกลงชั่วคราวระหว่างไทย-กัมพูชา อะไรกันไว้เกี่ยวกับหลักหมุดที่ 73 ซึ่งอยู่ที่บ้านหาดเล็ก จ.ตราด ที่เขมรนำไปยือนต่อ UNESCO และ พิกัดในทะเลอ่าวไทย ที่ทำให้นายกฮุนเซ็นเอาไปขยายผลเมื่อเดินทางไปเยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ ทำให้การให้สัมปทานของกำพูชากับคู่สัญญาเป็นที่ยอมรับทางสากล               คนไทยไม่ได้เป็นทาสอณานิคมทางความคิดให้พวกพันธมิตรและพรรคแมงสาปทุกคนนะครับ จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 07:44:33 A:114.128.5.62 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 19     .              การเยือนกัมพูชาของนายมาร์ค เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2009 ไปทำข้อตกลงชั่วคราวระหว่างไทย-กัมพูชา อะไรกันไว้เกี่ยวกับหลักหมุดที่ 73 ซึ่งอยู่ที่บ้านหาดเล็ก จ.ตราด ที่เขมรนำไปยือนต่อ UNESCO และ พิกัดในทะเลอ่าวไทย ที่ทำให้นายกฮุนเซ็นเอาไปขยายผลเมื่อเดินทางไปเยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ ทำให้การให้สัมปทานของกำพูชากับคู่สัญญาเป็นที่ยอมรับทางสากล              คนไทยไม่ได้เป็นทาสอณานิคมทางความคิดให้พวกพันธมิตรและพรรคแมงสาปทุกคนนะครับ จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก ขอรายละเอียดเพิ่มหน่อยครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 08:19:49 จากคุณ : โคราชธานีี (seq1) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:19:12 A:203.144.153.131 X:

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างน้อย ปปช.กลุ่มคนคิดมาก    ก็คิดไปได้ว่าการแถลงการร่วมไทยกัมพูชาเป็นการหาเสียงให้กับพรรคการเมืองของฮุนเซน   แล้วมันเกิดผลเสียต่อประเทศอย่างไร  ทำไมต้องเอาผิดกับสมัครกับนพดล  หรือแถลงการแล้วไทยเสียดินแดน 4.6 ตารางก.ม. จากคุณ : เฒ่าเทคโน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:36:37 A:203.185.146.6 X:

ความคิดเห็นที่ 22 แทนที่จะรอสงวนสิทธิกันไปเรื่อยๆ หรือทึกทักกันไปเองว่า ใช่ ไม่ใช่พื้นที่ของใคร รัฐบาลไทยน่าพิจารณา filing case เข้ากระบวนการฟ้องร้องต่อศาลโลก ให้ชี้ชัดถึงกรรมสิทธิระหว่างไทย-กัมพูชาไปเลยมิดีกว่าหรือ ในเมื่อต่างคนต่างอ้างกรรมสิทธิ จนเกือบรบพุ่งกัน ใกล้เป็นกรณีพาทระหว่างประเทศแล้ว แต่ยังสงสัยอยู่ว่า ศาลโลกจะใช้หลักเกณฑ์ใดมาพิจารณาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว หากใช้หลักเดียวกับตอนตัดสินตัวปราสาทในปี พศ 2505 เราคงเสียดินแดน 4.6 ตร.กม ที่ว่าไปค่อนข้างแน่ แต่หากกระบวนการไตร่สวน ยินยอมไปรื้อฟื้นสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสที่ใช้สันปันน้ำมาเป็นตัวแบ่งเขตมาช่วยใช้พิจารณาเพื่อความเป็นธรรม เผลอๆดัวปราสาทอาจกลับมาเป็นของไทยอีกครั้ง หากคุณๆที่กำลังถกเถียงกัน เป็นคณะลูกขุนของศาลโลก คุณควรให้คะแนนไปทางใดครับ? จากคุณ : ads เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:40:17 A:125.25.59.248 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ภูมิปัญญาคนพวกเราที่อยู่ในเวปนี้ เทียบกับระดับผู้พิพากษา และ ปปช.คงยากมาก แล้วเอาภูมิปัญญาส่วนไหนไปคิดว่า ไม่ตรงตามคำชี้ของ ศาลและ ปปช.ละครับ จากคุณ : มัสแตง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:43:35 A:222.123.182.233 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ใครมันชั่วช้าไม่รักประเทศชาติ  ไม่รักในหลวง เอาแผ่นดินไปให้เขมร ขอให้มันวิบัติ  คนไม่รักชาติบ้านเกิดเมืองนอน  มันจะต้องได้รับกรรม จากคุณ : เต่ากินผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:46:59 A:58.8.197.6 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ได้เห็นคนไทย หัวใจเขมรเยอะจัง กระทู้นี้ จากคุณ : หนอนข้าวโพดอ่อน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:16:01 A:58.97.35.135 X:

ความคิดเห็นที่ 26 #23 ก็คงเป็นภูมิปัญญาแบบเดียวกับที่กรมแผนที่ทหาร และกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศบอกว่าไม่เสียดินแดนละครับ ผมว่าน่าเชื่อกว่ามืออาชีพทางกม.ที่สะเออะทำเป็นรู้ดีกว่ามืออาชีพทางแผนที่ตั้งเยอะ #25 เจออีกแล้ว ไอ้พวกไส้ศึกเขมร จากคุณ : Number 31 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:47:14 A:124.121.248.113 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่า ไม่มีใครอยากให้ พท นั้นให้ใครไปหรอก Stand ไม่สฃว่า คุณ จะ เรียกอบ่างไร ว่า เรา มีสิทธิ บน พท ทับซ้อน นั้น หรือ เราไม่เคย ยอมรับว่ามี พท ทับซ้อนนั้น เพราะ พท นั้นเป็น ของเรา แล้ว เรา Take Action อะไรบ้างล่ะ กับ พท ทับซ้อน นั้น สมัย นพดล ทำโดย การเจรจาทางการทูต สมัย มารค ทำโดย อะไร ????????????????????? ไม่ทำอะไรเลย ถ้าจะรบ ก็รบ ก็ จบ จะได้รู้ไปว่า รบ เพราะ รัฐบาล คิดแบบ ไม่เจรจา ต้อง เอามาเป็นของเรา แต่ เขมร บอก ให้ชาวโลกได้ยิน ว่า ถ้ามีใคร บุกเข้ามา ในดินแดน นี้ 4.6 ตร กม เขาจะยิง ไม่ว่าจะทหาร หรือ ประชาชนไทย คุณ เป็น รัฐบาล งอมืองอขา ไม่ทำอะไรเลย อยู่ มัน ผิด คือ จะทำมันต้องทำ ไม่ใช่บอกว่า กลัวไปตกหลุมเขา คือ เขาประกาศไปทั่วโลก แล้ว ว่า พท นี้เป็นของเขา แต่ รบ ไทย มาบอกกับสื่อไทยว่า ใจเย็นๆ มันหมายความว่าไงหว่า จากคุณ : พ่อต่างแดน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:49:35 A:110.164.113.122 X:

ความคิดเห็นที่ 28 แทนที่จะรอสงวนสิทธิกันไปเรื่อยๆ หรือทึกทักกันไปเองว่า ใช่ ไม่ใช่พื้นที่ของใคร รัฐบาลไทยน่าพิจารณา filing case เข้ากระบวนการฟ้องร้องต่อศาลโลก ให้ชี้ชัดถึงกรรมสิทธิระหว่างไทย-กัมพูชาไปเลยมิดีกว่าหรือ ในเมื่อต่างคนต่างอ้างกรรมสิทธิ จนเกือบรบพุ่งกัน ใกล้เป็นกรณีพาทระหว่างประเทศแล้ว แต่ยังสงสัยอยู่ว่า ศาลโลกจะใช้หลักเกณฑ์ใดมาพิจารณาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว หากใช้หลักเดียวกับตอนตัดสินตัวปราสาทในปี พศ 2505 เราคงเสียดินแดน 4.6 ตร.กม ที่ว่าไปค่อนข้างแน่ แต่หากกระบวนการไตร่สวน ยินยอมไปรื้อฟื้นสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสที่ใช้สันปันน้ำมาเป็นตัวแบ่งเขตมาช่วยใช้พิจารณาเพื่อความเป็นธรรม เผลอๆดัวปราสาทอาจกลับมาเป็นของไทยอีกครั้ง หากคุณๆที่กำลังถกเถียงกัน เป็นคณะลูกขุนของศาลโลก คุณควรให้คะแนนไปทางใดครับ? จากคุณ : ads     เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:40:17 A:125.25.59.248 X:   ผมมองว่า ขึ้นศาลโลกเมื่อใด ไทยก็จะเสียเปรียบแน่นอนครับ และที่แน่นอนยิ่งกว่าคือ ประเทศไทยจะไม่ยอมขึ้นศาลโลกในประเด็นนี้แน่ ครับ สังเกตุจากปฏิกริยาของไทยก็รู้ ในทางกลับกัน ถึงเวลานี้ เขมรเองกลับต้องการให้เกิดความขัดแย้งบานปลายเพราะ เชื่อว่า เมื่อเข้าสู่ เวทีโลก เขาได้เปรียบครับ  ทุกวันนี้ที่เราได้เปรียบประเด็นเดียวคือเป็นประเทศใหญ่กว่า เท่านั้น ถ้าถามผมว่า ศาลโลก จะใช้ประเด็นใดตัดสินหากขึ้นศาลใหม่ เดาว่าก็คงใช้ หลักที่ว่า ไทยยอมรับแผนที่ฝรังเศษ โดยปริยายครับ แล้วเอาแผนที่ฝรั่งเศสมากาง......... ปล. ไม่มีหรอกครับ คนไทยหัวใจ เขมร   แต่ความคลั่งชาติกลับทำให้ เสียในสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ จากคุณ : รสกร เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:55:05 A:10.2.7.9 X:115.31.143.71

ความคิดเห็นที่ 29 ภูมิปัญญาคนพวกเราที่อยู่ในเวปนี้ เทียบกับระดับผู้พิพากษา และ ปปช.คงยากมาก แล้วเอาภูมิปัญญาส่วนไหนไปคิดว่า ไม่ตรงตามคำชี้ของ ศาลและ ปปช.ละครับ จากคุณ : มัสแตง   ........................................................................... พูดผิดพูดใหม่ก็ได้นะ คุณ มัสแตง ... ใช้คำว่า "ภูมิปัญญา" ของคนในนี้ไม่เทียบเท่าบรรดาผู้พิพากษา กับ ปปช. แบบนี้ ไม่เป็นการดูถูกกันไปหน่อยหรือ ... หากใช้คำว่า ความเชี่ยวชาญด้านกฏหมาย อะไรก็ว่าไปอย่าง แต่ประทานโทษ ปัจจุบัน บุคคลที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ หลายคน ต่างก็เอาวิชาความรู้และอำนาจหน้าที่ของตัวเองมาใช้ในทางที่ผิด เป็นการใช้เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม ไม่มีการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมเพราะมุ่งเน้นการขจัดกวาดล้างพวกที่ไม่เห็นด้วย .. นอกจากจะทำลายความน่าเชื่อถือของวิชาชีพนั้นๆ แล้ว ยังเป็นการตอกลิ่มให้ร่องรอยความแตกแยกในหมู่คนไทยถ่างออกไปเรื่อยๆ สมัยนี้ บรรดาข้าราชการ หรือนักวิชาการต่างๆ จะคิดว่า เก่ง วิเศษ เป็นบุคคลอีกชนชั้นในสังคมไม่ได้แล้ว ... ประชาชนแม้การศึกษาจะไม่สูงเทียบชั้น แต่กระบวนการทางความคิดมันไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ในความรู้สึกของผม ... การปิดกั้น การบิดเบือนสิ่งต่างๆ มันกระทำได้ไม่ง่ายอีกต่อไป เพราะคนไทยมีความกระตือรือร้นในเรื่องสิทธิ์ของตนเองมากขึ้น ประกอบกับการศึกษาได้ขยายตัวสู่ภาคประชาชนทั่วไปมากขึ้น ฉะนั้น อย่ามาดูถูกกันอีกต่อไปเลย อีกอย่าง คุณ มัสแตงรู้ได้ไงว่า ไม่มีระดับ ผู้พิพากษา หรือคนที่มีการศึกษาสูงมากๆ ในหลากหลายสาขาอาชีพ เข้ามาเล่นใน รดน ... และที่สำคัญ หลายคนที่กล่าวก็เป็นฝ่ายที่คิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาลและบรรดาขุนน้ำขุนนางบรรดศักดิ์ที่เถลิงอำนาจกันอยู่ในตอนนี้ด้วย จากคุณ : คนไทยใจกว้าง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:55:15 A:142.176.253.230 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ผู้พิพากษา ถูกไล่ออก (กต) มามากแล้วครับ ความดีเลวไม่ได้วัดกันที่อาชีพ ในอดีต ผมก็เคยคิดว่า ผู้พิพากษา ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมสูงกว่าคนอื่น และยึดหลัก นิติรัฐ นิติธรรม ปราศจากอคติ ... แต่พอถึง ยุค ตุลาการภิวัฒน์ ...ทำให้ผมกลับมาเห็นธรรมชาติของคนมากขึ้น .......ครับ จากคุณ : รสกร เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 09:59:26 A:10.2.7.9 X:115.31.143.71

ความคิดเห็นที่ 31 หนี้มันเอง ยังไม่มีปัญญาใช้ แพ้ความล้มละลายอยู่ ดันจะไปเชื่อเรื่องกม.จากทีวีขายชาติของพวกันอีก รอบนี้ คงไม่แค่พท.ทับซ้อนหรอก เจ๊งทั้งจังหวัดแน่ เชื่อกันอยู่ได้ ข้อมูลจากทีวีผลาญชาติ เสร็จกิจแล้วชิ่งนี่ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 10:30:50 A:192.168.20.112 X:58.136.81.16

ความคิดเห็นที่ 32 ศาลโลกตัดสินแปลเป็นไทยได้ว่า"เชื่อได้ว่าซากปรักหักพังนั้นได้ตั้งอยู่ในดินแดนกัมพูชา" เค้าไม่ได้บอกว่าปราสาทตกเป็นของใครแต่เค้าบอกว่าปราสาทตั้งอยู่ในดินแดนเขมร ผมว่าวิธีแก้ปัญหาก็เอาคำตัดสินแบับจริงมาให้ดูพร้อมทั้งแปลเป็นไทยเลย จะได้ทำตัวกันถูก มันเหมือนเวลาเราเป็นคดีความถ้าทนายบอกชนะแบเบอร์เราก็จะทำตัวแข็งกับคู่ความ แต่ถ้าทนายบอกว่าไม่ค่อยดี 50-50น๊ะหรือ60-40น๊ะ เราก็จะประนีประนอมกับคู่ความอาจเข้าขบวนการไกล่เกลี่ยให้เสียหายน้อยที่สุด มันไม่เกี่ยวกับใจเขมรหรือไม่ ถ้าหน้าไพ่เราเป็นรองเรายิ่งแข็งก็ยิ่งเสียหาย สิ่งที่เราต้องการรู้คือข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยไม่เจอความคิดเห็นส่วนตัว จากคุณ : ขาไม่ประจำ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 10:46:32 A:124.120.132.148 X:

ความคิดเห็นที่ 33 โทษ คมช. ที่เขียนรัฐธรรมนูญผูกจนบริหารงานต้องผ่านสภาทุกอย่าง จากคุณ : P4BRISBANE เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 10:54:14 A:58.136.74.135 X:

ความคิดเห็นที่ 34 หัวกระทู้ ยังมีคนคิดอีกว่าการเสียพื้นที่ทับซ้อนเป็นความผิดของสมัครกับนพดล     ..... ..... ..... กลายเป็นว่า หนังสือที่เป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้เราเสียดินแดน ถูกกลุ่มพวกไม่เอาทักษิณนี่แหละเป็นคนทำลายเอง แล้วยังงี้ จะทำเป็นไปทวงคืน ว่างๆก็ทำพานพุ่มไปขอขมา ท่านสมัคร กับคุณ นพดลด้วยนะ แล้วฝากไล่ไอ้คนขายชาติที่มันทำ ให้หนังสือภูมิคุ้มกันการเสียดินแดนของเราเป็นโมฆะด้วยนะ พ่อพันธมิตรผู้รักชาติทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 00:59:00 จากคุณ : sanchai0045   เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 00:57:50 A:118.172.81.99 X: ----------------------------------------------------------------------------- 1. หนังสือนั้นเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้ไทยเสียดินแดนได้อย่างไร ในเมื่อมีเขมรเป็นผู้ยื่นหนังสือนั้นฝ่ายเดียว กับยูเนสโก การลงนามหนังสือนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ไทยเป็นผู้ร่วมยื่นกับเขมร แต่ในหนังสือนั้น มีการรวม พื้นที่ในเขตพื้นแผ่นดินไทย ไปกับการยื่นมรดกโลกโดยเขมรฝ่ายเดียว แม้พื้นที่นั้นจะไม่ใช่พื้นที่มรดกโลก จริงก็ตาม คือเป็นเพียงพื้นที่ประกอบบริเวณของมรดกโลกก็ตาม แต่ก็มีปรากฏเป็นหลักฐานเอกสาร ระหว่างประเทศว่าจะมีการบริหารจัดการในพื้นที่ประกอบเหล่านี้ ทั้งๆที่เป็นพื้นที่ในเขตแดนของไทย 2. คนเสื้อแดงมักอ้างว่า เพราะใน joint comminique ระบุไว้ว่า ไทยและเขมรจะร่วมบริหารจัดการร่วมกันใน เขตN3 ทำให้คนเสื้อแดงตีความว่า joint comminique ระบุให้ไทยได้เปรียบและเป็นการแสดงว่า เขมรยอมรับ สิทธิของไทยเหนือพื้นที่ N3 ซึ่งไม่ใช่เลย เพราะจะอย่างไร เขมรก็ยังดึงดันใช้แผนที่ฝรั่งเศสที่กินพื้นที่เข้ามา ในเขตแดนไทยมากมายอยู่ดี แต่การที่เขมรเป็นผู้ยื่นมรดกโลกต่อยูเนสโก เขมรสามารถระบุได้ว่า ยินดีให้ประ เทศใดบ้างเข้ามาบริหารจัดการร่วม ในเขตมรดกโลกนี้ เป็นความยินยอมจากฝ่ายเขมรที่ได้เป็นผู้ยื่นมรดกโลก ไม่ได้ทำให้ไทยสามารถอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ดังกล่าวได้เลย เขมรสามารถอ้างได้ว่า พื้นที่ทั้งหมด ทั้ง N1 N2 และ N3 เป็นของเขมร ดังแผนที่ฝรั่งเศสที่เขมรยึดถือ แต่ เขมร เองที่เป็นฝ่ายยินยอมให้ไทยและประเทศอื่นๆ อีกเข้ามาร่วมบริหารจัดการใน management zone นั้น เพื่อการพัฒนามรดกโลกในบริเวณนี้ เหมือนกับเจ้าของพื้นที่แสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่นั้น โดยยินดีให้ผู้อื่นเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยพัฒนาปรับ ปรุงพื้นที่นั้น ดังนั้น เมื่อนำ joint comminique ไปประกอบกับการยื่นขอเป็นมรดกโลกโดยเขมร เขมรจะได้เปรียบ ต่างกับไทย ที่ไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ยื่นมรดกโลกของพื้นที่ดังกล่าวเลย แต่จู่ๆก็จะมีประเทศอื่นเข้ามาบริหารจัดการ เหนือเขตอธิปไตยของไทย และจุดนี้จะเป็นข้ออ่อนหากมีการต่อสู้ในศาลระหว่างประเทศ เรื่องนี้เทียบได้คล้ายกับ การครอบครองโดยปรปักษ์ หากเจ้าของพื้นที่หนึ่งๆ แสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่นั้น ต่อสาธารณหรือต่อผู้อื่น ว่าได้ยอมให้บุคคลเข้าพื้นที่นั้นเพื่อใช้ในกิจการหนึ่งๆ จะอย่างไรพื้นที่นั้นก็จะไม่มีวันเป็น ของผู้อื่นที่เข้ามาใช้พื้นที่นั้นได้ เพราะเจ้าของพื้นที่ได้แสดงความเป็นเจ้าของไว้แล้ว เช่นเดียวกับเขมรที่แสดง ความเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยนำพื้นที่นี้ยื่นแสดงประกอบในเอกสารต่อยูเนสโก และแสดงความยินยอมอย่าง เป็นทางการให้ไทยและประเทศอื่นเข้ามาร่วมบริหารจัดการในพื้นที่ ......นั้น คือ เขมรได้ - แสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ - แสดงความยินยอมให้ประจักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ว่าตนเองยอมให้ผู้อื่นเข้ามาร่วมบริหารจัดการ เพื่อการ พัฒนาพื้นที่ ไม่ใช่เพื่อการอื่น หรือเพื่อยกพื้นท่นั้นให้ไทย หรือเพื่อแสดงว่าพื้นที่นั้นเป็นของไทย แต่ไทยไม่ใช่ผู้ยื่นการครอบครองมรดกโลกและไม่ใช่ผู้ยื่นเอกสารประกอบมรดกโลก ไม่ใช่ผู้ที่แสดงตนเป็น เจ้าของพื้นที่นี้ต่อนานาประเทศ หากไทยเป็นเจ้าของพื้นที่จริง ไทยต้องสามารถยื่นเสนอพื้นที่นี้ต่อยูเนสโก ได้ หรือร่วมกับเขมรยื่นเสนอพื้นที่นี้ต่อยูเนสโกได้ ไม่ใช่ปล่อยให้เขมรยื่นเอาแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งการที่เขมรสามารถ เสนอบริเวณมรดกโลกและพื้นที่ใกล้เคียงแต่ฝ่ายเดียวต่อยูเนสโก โดยไทยไม่สามารถเป็นผู้เสนอร่วม แม้ไทยจะไป ลงนาม joint comminique ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เขมรสามารถตีความว่า พื้นที่นั้นเป็นของเขมร เขมรเป็นผู้ ยื่นเอกสารต่อยูเนสโก และเขมรยินยอมให้ไทยเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่นี้เอง เหมือนกับเจ้าของที่แสดงความเป็น เจ้าของที่ และแสดงความยินยอมให้ผู้อื่นเข้ามา ก็เท่านั้น จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 12:02:17 A:203.147.40.3 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 3     เอาอย่างนี้นะ จขกท....ตามความเข้าใจของเรา  แบบง่ายๆนะ เนื่องจากบริเวณที่ถูกเรียกว่า" พื้นที่ทับซ้อน"  จริงๆแล้ว  มัน "ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน"  ตรงนี้ คุณยอมรับไหม หากไทยเรายอมให้หนังสือร่วมที่ว่าตามเจตนารมณ์ของคุณนพดลนั้นเป็นผล  จะเป็นการแสดงว่า พื้นที่นั้น "เป็นพื้นที่ทับซ้อน" อย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมา ไทยเราไม่เคยยอมรับ (และไทยเรามีสิทธิ์จะทำแบบนั้น)  เพราะเป็นพื้นที่ของไทยเราจริงๆ ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดเลย.. ................... ถ้าไม่ใช่ทำไมไม่ส่งทหารไปล้อมรั้วซะเลยล่ะครับ แนะนำให้นายอภิสิทธิ์ลงไปตอกเสาเข็มคนแรกเลยครับ จากคุณ : betterg2521 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 12:25:23 A:203.144.184.4 X:

ความคิดเห็นที่ 36 กรรมการ 7 ชาติ ร่วมบริหารจัดการ "พื้นที่กันชน" ไม่ใช่ "พื้นที่ทับซ้อน" http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6796904/P6796904.html ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม...ชนวนเหตุทำไทยเสียเปรียบ http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6827568/P6827568.html P6857672 ควรก๊อปกระทู้นี้สักหมื่นชุด [การเมือง] [ 3 ส.ค. 51 14:40:59 A:118.173.104.206 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6857672/P6857672.html P6861374 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เซ็นต์เอกสารปักปันเขตแดน ปี 43 มีปัญหาจริงหรือ{แตกประเด็นจาก P6857672} http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6861374/P6861374.html P6873299แฉ! เอกสารลับ “สุขุมพันธ์” ทำไทยเสียดินแดนตัวจริง? [ 4 ส.ค. 51 19:08:51 A:203.147.40.3 X: ] http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/08/P6873299/P6873299.html รูปประกอบจาก เอกสาร 3 แหล่ง เอกสาร 01/02/2006  Preah_Vihear_French.pdf http://www.mediafire.com/?qmnw5phgtxm เอกสาร 09/06/2008 http://www.bangkokbiznews.com/attachfile/TheLocationOfTheTemple.pdf -- สมุดปกขาว กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก กระทรวงต่างประเทศของไทย--- http://www.mfa.go.th/internet/information/20154.pdf . จากคุณ : mcu51 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 12:59:29 A:124.121.245.176 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณคุณรสกร คคห 29 และคุณขาไม่ประจำ คคห 32 มากครับ ที่ผมอยากจะสื่อ กับผู้คนที่กำลังถกเถียง ก็คือประเด็นตรงนี้ครับผม เมื่อต่างคนต่างกล่าวอ้างเหตุและผลกันอย่างเข้มข้น แต่อยากให้คนในสังคมลองหยุดลองคิด ชั่งใจกันยาวๆดู .... หากสุดท้าย เมื่อต้องมีคนกลางเข้ามาตัดสิน คนเหล่านั้นจะมีแนวโน้มตัดสินกันอย่างไร อันนี้จะเป็นตัวกำหนดท่าทีของคนในชาติเราได้ดีที่สุดครับ ส่วนตัวผม ก็กังวลเช่นคุณรสกรครับ ผมเชื่อว่าศาลโลกคงไม่ใช้เหตุผลและหลักการที่จะขัดแย้งกับสิ่งที่ตนเองเคยตัดสินมาใช้ค่อนข้างแน่นอนครับ เถียงกันให้ฝุ่นตลบ บาดหมางกันไปทั้งชาติ สุดท้ายขึ้นศาลแล้วมีโอกาสแพ้สูง สิ่งนี้มันบอกอะไรเป็นนัยอยู่แล้วว่า หมดเวลามองต่างในเรื่องนี้แล้วครับ !! จากคุณ : ads เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 13:06:54 A:125.25.32.20 X:

ความคิดเห็นที่ 38 #34 thyrocyte ก่อนอื่น thyrocyte ต้องยอมรับก่อนนะว่าความเห็นที่  thyrocyte แสดงเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวที่ยังไม่ได้รับความเชื่อถือใดๆว่าถูกต้อง ฉะนั้นลองไปดูความเห็นของคอลัมนิสต์และข่าวที่เกี่ยวข้องดูบ้างแล้วกัน 1. หนังสือนั้นเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้ไทยเสียดินแดนได้อย่างไร ในเมื่อมีเขมรเป็นผู้ยื่นหนังสือนั้นฝ่ายเดียวกับยูเนสโก --> ขอยกความคิดเห็นของคอลัมนิสต์คนหนึ่งมาเป็นตัวอย่างประกอบ เมื่อประเด็นเขาพระวิหารร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง ก็มาดูกันชัดๆอีกครั้งว่า ใครกันหนา ที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน ปัญหา พิพาทเขตแดน เขมร-ไทย กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร เมื่อรัฐบาลกัมพูชาของนายกฯฮุน เซน ยื่นเรื่องร้องเรียนไปถึงยูเอ็นว่าถูกประเทศไทยบุกรุกคุกคามอธิปไตย ล่า สุด คณะมนตรีความมั่นคงซึ่งมี 5 ชาติพี่เบิ้ม อเมริกา รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เป็นหัวขบวน ก็เตรียมประชุมฉุกเฉินเพื่อสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็ว!! นี่คือลีลาการทูตของกัมพูชาที่ต้องการ ดึงองค์กรระหว่างประเทศให้เข้ามาช่วยกดดันประเทศไทย สร้างภาพให้กัมพูชาเป็นฝ่ายถูกข่มเหงรังแก ป้ายขี้ให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ร้ายในเวทีโลกไปเต็มๆ!! แค่ นี้ยังไม่พอ ยังเตรียมยื่นฟ้องศาล โลกให้ตัดสินปัญหาเขตพื้นที่ทับซ้อนรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ว่าอยู่ในเขต แดนกัมพูชา? หรือเป็นดินแดนของไทย? โดยใช้คำพิพากษาศาลโลกเมื่อปี 2505 ที่ตัดสินให้เขมรชนะคดีปราสาทพระวิหารเป็นหลักฐานสำคัญ แสบริดสีดวงทวารมั้ยล่ะพวกเรา?? ถามว่า ไทยมีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ ต่อศาลโลกว่าพื้นที่รอบเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม.อยู่ในเขตแดนของไทย?? หลักฐานสำคัญก็คือ แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ “นพดล ปัทมะ” อดีต รมว. ต่างประเทศ ไปลงนามที่ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้มีข้อความระบุชัดเจนว่า กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนมรดกโลก “เฉพาะตัวปราสาทอย่างเดียว” โดยไม่ ล่วงล้ำดินแดนไทย และไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้จัดทำหลักเขตแดนอย่างเป็นทางการ นี่คือหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ไม่ได้เป็นของเขมรแน่นอน!! เพราะถ้าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. อยู่ใน เขตกัมพูชาจริง กัมพูชาคงไม่ขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะแค่ตัวปราสาทอย่างเดียว แต่ต้องรวมพื้นที่รอบตัวปราสาททั้งกระบิขึ้นเป็นมรดกโลกพร้อมกัน!! น่าเสียดาย ที่แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับนี้ ต้องเป็น “โมฆะ” ไม่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ก็เท่ากับไทยสูญเสียหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะใช้สู้คดี และถ้าหากประวัติศาสตร์ซํ้ารอย ไทยต้องเสียดินแดนแถมให้เขมรอีก 4.6 ตร.กม.ฟรีๆ จะเจ็บปวดแค่ไหนโปรดใช้สะดือตรอง?? ความจริงปัญหาเขาพระวิหารอาจไม่ บานปลาย ถ้าไม่ถูกเอาไปขยายผลเป็นประเด็นการเมือง แต่เมื่อประเด็นปราสาทพระวิหารกลาย เป็นปัญหาระดับอินเตอร์ ไทยกับกัมพูชาในฐานะคู่กรณีก็ต้องสู้กันยิบตา ล่าสุด กัมพูชาพลิกลิ้นไม่ยอมรับว่าบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. เป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย โกหกหน้าด้านๆ ว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็นของเขมรฝ่ายเดียว!! “แม่ลูกจันทร์” เป็นห่วงว่าเมื่อต้องสู้กันเรื่องเขตแดนทีไร ไทยมักเสียเหลี่ยมเขมรทุกที เพราะเขมรอ้างแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม แต่ไทยอ้างแผนที่แอล 7017 ของ อเมริกา ใน บันทึกข้อตกลงปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2543 ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมช.ต่างประเทศ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ได้ระบุว่าการจัดทำหลักเขตแดนให้ยึดตามแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม (คศ.1904) เป็นแนวทาง แต่ไม่ได้ระบุแผนที่แอล 7017 ของอเมริกาที่ไทยใช้อ้างอิง!! ก็เท่ากับเราไปยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสของเขมรฝ่ายเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ ไทยก็เสียเปรียบเขมรตามเคย. แม่ลูกจันทร์ ----------------------------------------------------------------------------------- 2. ....ดังนั้น เมื่อนำ joint comminique ไปประกอบกับการยื่นขอเป็นมรดกโลกโดยเขมร เขมรจะได้เปรียบต่างกับไทย ที่ไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ยื่นมรดกโลกของพื้นที่ดังกล่าวเลย... เขมรสามารถตีความว่า พื้นที่นั้นเป็นของเขมร เขมรเป็นผู้ยื่นเอกสารต่อยูเนสโก และเขมรยินยอมให้ไทยเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่นี้เอง เหมือนกับเจ้าของที่แสดงความเป็นเจ้าของที่ และแสดงความยินยอมให้ผู้อื่นเข้ามา ก็เท่านั้น ---> โปรดสังเกตข้อ 3 และ 5 ของข่าวนี้ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนฝ่ายไทยประกอบด้วยนายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนจากส่วนราชการภายในกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งนายธนะ ดวงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และผู้แทนจากสำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำยูเนสโก พบปะกับนายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมบุคคลระดับสูงจากรัฐบาลกัมพูชา เพื่อหารือเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีนาง Francoise Riviere ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก และคณะเข้าร่วมด้วย         การประชุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง รัฐมนตรีว่าการฯ กับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 ที่ จังหวัดเกาะกง กัมพูชา ที่เห็นชอบร่วมกันให้มีการประชุมหารือระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ และมีฝ่ายยูเนสโกเข้าร่วมด้วย         ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2551 ณ กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้         1. การหารือเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ฉันมิตร และสร้างสรรค์ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้แทนจากยูเนสโกในการจัดการประชุม และทุกฝ่ายต่างพยายามแสดงความเข้าใจในท่าทีของแต่ละฝ่าย ซึ่งยืนยันถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่ดีและแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับ กัมพูชา ซึ่งยังเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันอีกด้วย         2. ผลการประชุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จและความคืบหน้าครั้งสำคัญ กล่าวคือ กัมพูชายอมรับเปลี่ยนแปลงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยจะขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเป็นมรดกโลก และได้ให้คำมั่นว่าจะส่งแผนที่ใหม่แสดงขอบเขตขอบตัวปราสาทพระวิหารที่จะขึ้น ทะเบียนมาให้ฝ่ายไทยและฝ่ายยูเนสโกพิจารณาภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2551         3. การขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทจะช่วยให้ไม่มีปัญหาเรื่องการขอขึ้นทะเบียน พื้นที่ที่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเป็นมรดกโลก ทำให้ไม่มีการเสียผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และไทยสามารถรักษาสิทธิทางเขตแดนไว้ได้อย่างสมบูรณ์         4. ฝ่ายไทยได้ยืนยันในการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ โดยจะต้องพิจารณาจากแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาจะผลิตขึ้นใหม่ด้วยเพื่อใช้แทน แผนที่เดิมที่เคยใช้ประกอบในคำขอขึ้นทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2551 ด้วย         5. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในครั้ง นี้ จะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของแต่ละฝ่ายในการจัดทำหลักเขตแดนร่วมกันในบริเวณดัง กล่าวในอนาคต         6. การเห็นพ้องกันดังกล่าวได้รับการบันทึกไว้เป็นร่างคำแถลงการณ์ร่วม หรือ Joint Communique ซึ่งได้ตกลงกันอย่างชัดเจนว่าแต่ละฝ่ายจะต้องนำกลับไปเพื่อขอความเห็นชอบจาก รัฐบาลของตนก่อน และจะต้องพิจารณาดูว่าแผนที่ที่ได้รับการแก้ไขนั้นมีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ เพียงใด         7. ผู้แทนจากยูเนสโกได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการอำนวยความสะดวกในการ จัดการประชุมในครั้งนี้ และได้แสดงความเข้าใจเป็นอย่างดีในท่าทีของไทย         กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th ปล.ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะ อย่าลืมล่ะว่าเป็นแค่ความคิดเห็น แต่ของจริงตอนนี้เป็นอย่างนี้ไปแล้ว  "ฮุนเซนเหิมสั่งยิง 'คนไทย' ที่ล่วงล้ำดินแดน ....ข่าวไทยรัฐ..ออนไลน์ " จากคุณ : kit_108 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 13:37:58 A:119.46.55.74 X:

ความคิดเห็นที่ 39 การที่นพดลยอมลงนามในตอนนั้นก็แสดงความเห็นด้วยแล้วครับ เขาต่อสู้เรื่องนี้มาหลายปี อยู่ๆนพดลมาเซ็นชื่อยกให้เขาเฉย เรื่องง่ายๆจะคิดให้ยากทำไม จากคุณ : papafun เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 14:48:52 A:58.8.12.220 X:

ความคิดเห็นที่ 40 rep 4 คุณ stand with a fist ถ้าคิดว่า แผนที่ฝรั่งเศส ไม่มีน้ำหนักจริงๆ ลองให้เรื่องขึ้นสู่ศาลโลกสิครับ... จะได้รู้กันว่า L7017 ของเรา หรือ แผนที่ฝรั่งเศส อย่างไหนจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 14:59:24 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 14:59:07 A:192.168.1.17 X:124.120.19.31

ความคิดเห็นที่ 41 ^  ^  ^ ยังไม่เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะค่ะ คุณ Savor   ยังไม่ถึงวลาที่ไทยเราจะมีเปรียบค่ะ    คิดว่า ทำไดเดีที่สุด ก็คือ ควรสงวนสิทธิ์ไว้ก่อนค่ะ เรื่องแพ้ชนะโดยศาลโลกนี้   ไม่ใฃ่แค่ปัจจัยด้านหลักฐานอย่างเดียว    คุณคงทราบดี  แล้วมาท้าทายกันทำไมคะ  กลัวไทยเราชนะหรือไงคะ จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:28:05 A:58.9.179.226 X:

ความคิดเห็นที่ 42 ใครล่ะที่ทำให้หนังสือฉบับนั้นเป็นโมฆะ และที่ร้ายกว่านั้นคือปปช.กลับเอาผิดคนที่ทำให้ไทยไม่เสียดินแดน และที่น่าทุเรศที่สุดคือไม่เอาผิดครม.และข้าราชการประจำกระทรวงต่างประเทศ เพราะถ้านพดลไปเจรจาลงนามตามข้อตกลงนพดลทำคนเดียวไม่ได้ ข้าราชการต้องชงเรื่องให้และมติครม.เห็นร่วมกันทำไมไม่ร่วมรับผิดชอบ บ้าเป่าเด็กอมมือมันก็รู้ว่านี่คือการรังแกกันเห็นๆ และยังงี้จะเรียกร้องให้ท่านทักษิณมาติดคุกก็สรุปกันอย่างนี้ใครรับได้ จากคุณ : Okata เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:32:55 A:10.36.1.56 X:10.1.5.21, 58.137.129.220

ความคิดเห็นที่ 43 ปกติปัญหาดินแดนทับซ้อนส่วนใหญ่มักก่อให้เกิดสงครามหรือข้อพิพาท จึงเป็นการเลี่ยงเปลี่ยนจากความขัดแย้ง เป็นการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยว ให้เป็น WIN  WIN ทั้งสองฝ่าย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา สมัยคุณทักษิณ ยังดีอยู่ จนกระทั่งมาถึง ความต้องการทำลายล้างของ พันธมิตร จึงเกิดกรณีนี้ขึ้น  ซึ่งทุกๆ ฝ่าย ควรยอมรับเถอะ ไม่ว่าจะสู้โดยทางไหน ด้วยความสามารถของนายกรัฐมนตรีไทย ปัจจุบัน กับ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งอันทรงเกียรติ ทั้งสองนี้ สามารถนำพาไทยให้ไปสู้การเสียดินแดนได้ อย่างแน่นอน ต่อจากนั้น การที่ เขมร มี ฝรั่งเศส และจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย หนุนหลังอยู่ คิดหรือ ไทย จะสู้ได้ ไม่มี มิตร ใหญ่ใดๆ ที่จะให้ความช่วยเหลือ นักเลงโตที่ปิดสนามบิน และเด็กน้อยผู้ด้อยความสามารถ เก่งแต่ในประเทศ อย่าคาดหวัง และจงตั้งไว้เลยว่า  สุดท้ายแล้ว ไทย เสียดินแดนแน่ๆ อย่ามาบอกว่า เป็นคนไทยหัวใจเขมร อีก เบื่อ!!!! เอาความเป็นจริง ความน่าจะเป็นดีกว่า ย้อนกลับไป ใครเซ็น ทุกคนก็เห็นอยู่ การจะแก้ไขปัญหาระดับนี้ ต้องคนเก่ง และฉลาด นอกจากนี้ ต้องมีความเฉลียว มี คอนเนคชั่น ที่แน่นหนา ไม่งั้นก็ เสร็จแน่ๆ กับหลักฐานที่ผ่านมา แต่ถ้าใช้วิธีทางการทูต ต่อหน้า และลับหลัง ด้วยความเป็นคนไทยอย่างแท้จริง ที่ไม่ต้องการสูญเสียพื้นที่ตรงนี้ไปล่ะก็ สู้กับเขาไปเลย เอาอาวุธ เครื่องบินรบ ส่งไป ตามที่พันธมิตรแนะนำ เอาผู้นำพันธมิตรไปด้วยนะ อ้อ อย่าลืม ผู้นำเหล่าทัพ ที่เก่งกาจกันนักหนา ที่กล้าออกทีวีพร้อมกันเพื่อสั่งให้ อดีตนายกฯ ลาออก ให้คนเก่งกล้าทั้งหลายเหล่านี้ พร้อมใจกัน ออกรบ เอาดินแดนคืนมาให้ได้ มีเงินซื้ออาวุธ มีความกล้าหาญ ที่จะไปทวงคืน ก็ลุยเลย สนับสนุนเต็มที่ ขอบคุณล่วงหน้าด้วย สำหรับทุกคนที่จะเอาพื้นที่พร้อมกับปราสาท คืนให้ได้ เอาใจช่วยด้วย ปล. อย่าลืมย้อนกลับไปหาความเป็นจริงที่เริ่มต้นของคดีนี้ด้วยนะ เผื่อจะมีสติ มีปัญหา และเรียนรู้ถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อ คนที่เซ็นให้มีปัญหา กลับกลายเป็น มรว. ไป ไม่รู้ใช้สมองส่วนใดคิด ปล.2 รักประเทศกันอย่างมาก ก็ตายเพื่อประเทศไทย ไปแล้วกัน จากคุณ : องุ่นทอง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:38:23 A:58.10.84.43 X:

ความคิดเห็นที่ 44 rep 41 ก็เห็นคุณบอกอย่างมั่นใจว่า " พื้นที่ตรงนั้นไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นของไทยแน่นอน " ทำไมถึงไม่กล้าขึ้นศาล แบบนี้แปลกไหมครับ ??? แล้วผมจะบอกให้ ไอ้พื้นที่ตรงนั้นน่ะ มัน " ทับซ้อน " เพราะ ไทยก็อ้างว่าเป็นของไทย เขมรก็อ้างเป็นของเขมร ครับ... แบบนี้มันเลย " ทับซ้อน " ไม่ใช่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายยอมรับว่ามันทับซ้อน และการจะบอกว่า " ยังไม่ถึงเวลา " นั้น เป็นเหมือนข้ออ้างผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆครับ ไม่ต่างอะไรกับที่ หม่อมเสนีย์ หรือ จอมพลสฤษฎิ์ อ้างว่า " เราขอสงวนสิทธิ์ทวงคืนตัวปราสาท " ( แล้วจน 2 คนนี่สิ้นชีพไปแล้ว ก็ยังไม่เคยขอสงวนสิทธิ์ ) ผมจะบอกให้เลยว่า " ต่อให้ขึ้นศาลโลกวันนี้ หรืออีก 35 ปีข้างหน้า เราก็เสียเปรียบอยู่ดีครับ " ดังนั้นเรื่องที่จะต้องทำคือ ดึงคู่กรณี คือ เขมร เข้ามาเจรจากันตัวต่อตัว ไม่ให้เรื่องบานปลายไปถึงระดับนานาชาติอย่างเด็ดขาด ทำได้ตรงนี้ให้เร็วที่สุดก่อน แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน มิใช่ขอ สงวนสิทธิ์ ขอผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ หวังให้เวลารักษาบาดแผลตัวเอง อย่างที่รัฐบาลนี้อยากจะทำอยู่ เพราะเขมรเขาไม่ได้ยอมรับการสงวนสิทธิ์ของคุณด้วย และจะพยายามดึงให้เป็นเกมระดับนานาชาติตลอดเวลา สุดท้ายแล้ว ต้องบอกว่า ผมไม่อยากให้เรื่องนี้จบแบบ " ฝันเฟื่อง " เหมือนเช่นสมัยจอมพลสฤษฎิ์ และ หม่อมเสนีย์ จริงๆเลยครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:50:56 A:192.168.1.17 X:124.120.19.31

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับคุณ Savor ที่ว่า. "เรื่องที่จะต้องทำคือ ดึงคู่กรณี คือ เขมร เข้ามาเจรจากันตัวต่อตัว ไม่ให้เรื่องบานปลายไปถึงระดับนานาชาติอย่างเด็ดขาด ทำได้ตรงนี้ให้เร็วที่สุดก่อน แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากัน.." ขอบคุณค่ะ จากคุณ : stand with a fist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:59:37 A:58.9.179.226 X:

ความคิดเห็นที่ 46 ข้อมูลเทียมเจอข้อมูลแท้ก็เงียบเป็นเป่าสาก แต่มีโอกาสเมื่อไรก็นำเสนอข้อมูลเทียม ๆ อีกทุกทีไป ก็แปลกดี คห.40  ครับ ถึงศาลเมื่อไรเสร็จเขมรเมื่อนั้นครับ ใน คห.19  คุณบุรุษหน้าเหล็กตั้งประเด็นไว้นั้น เชิญนักข้อมูลเทียมแย้งให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 17:03:38 A:125.26.232.108 X:

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 23   ภูมิปัญญาคนพวกเราที่อยู่ในเวปนี้ เทียบกับระดับผู้พิพากษา และ ปปช.คงยากมาก แล้วเอาภูมิปัญญาส่วนไหนไปคิดว่า ไม่ตรงตามคำชี้ของ ศาลและ ปปช.ละครับ จากคุณ : มัสแตง   เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 08:43:35 A:222.123.182.233 X:   ถูกใจ : kobkradad **************************************************************** คุณรู้ได้ยังไง ว่าคนที่โพสต์กันอยู่้นี้  จะไม่ใช่คนระดับเดียวกับปปช. หรือ ผู้พิพากษา เท่าที่ดิฉันทราบน่ะ  มีนะคะ  ที่ระดับเดียวกัน...อย่าดูถูกเพื่อนสมาชิก จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:16:26 A:58.8.169.25 X:

ความคิดเห็นที่ 48 ... ขอแก้ไขรูปใหม่ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 21:26:05 จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:24:25 A:124.122.205.68 X:

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ stand with a fist ขออนุญาตถกด้วยนะ ^_^ " เนื่องจากบริเวณที่ถูกเรียกว่า" พื้นที่ทับซ้อน"  จริงๆแล้ว  มัน "ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน"  ตรงนี้ คุณยอมรับไหม " - จริงๆ แล้ว พื้นที่ 4.6 ฝ่ายไทยก็อ้างจากแผนที่ L7017 ว่าเป็นของไทย เขมรก็อ้างจากแผนที่ฝรั่งเศสว่าเป็นของเขมร นั่นคือต่างฝ่ายต่างอ้างว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นของตัวเอง ภาษากึ่งทางการจึงใช้คำว่า "พื้นที่ทับซ้อน" หมายถึงพื้นที่ที่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าประเทศใดเป็นเจ้าของที่แท้จริง " หากไทยเรายอมให้หนังสือร่วมที่ว่าตามเจตนารมณ์ของคุณนพดลนั้นเป็นผล  จะเป็นการแสดงว่า พื้นที่นั้น "เป็นพื้นที่ทับซ้อน" อย่างเป็นทางการ " - ในแถลงการณ์ร่วมจะไม่มีคำว่า "พื้นที่ทับซ้อน" แต่เขาใช้ทิศกำหนดพื้นที่ เช่น ทิศที่อยู่ทางเหนือและตะวันตกของปราสาท คือพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการตาม JBC ซึ่งจะมีการพัฒนาร่วมกัน (ตาม MOU 2543 หรือสนธิสัญญาที่รัฐบาลชวน 2 ไปลงนามร่วมกับเขมร) เพื่อรอขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันในอนาคต ตามนี้...      4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010 " ศาลโลกไม่เคยมีคำตัดสินว่าแผนที่ฝรั่งเศสฉบับนั้นถูกต้อง  ศาลโลกไม่ได้ให้การยอมรับแผนที่นั้น เพราะจัดทำขึ้นโดยขัดต่อสนธิสัญญาหลักที่ให้ยึดสันปันน้ำ " - ศาลโลกไม่ได้ตัดสินเรื่องแผนที่...ถูกต้อง นั่นเพราะไม่มีการยื่นฟ้องในเรื่องนี้ แต่ที่ว่าศาลโลกไม่ยอมรับแผนที่...ไม่น่าจะใช่ เพราะที่เขมรชนะคดีก็เพราะศาลโลกพิจารณาจากแผนที่ฝรั่งเศส จึงตัดสินว่า ปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา " สัญญา ที่นพพดลงเซ็น มีการยกพื้นที่ทางเหนือและตะวันตกคือ N3ให้เป็นพื้นที่จัดการ่วมกัน ....ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นของไทย ไทยไม่สามารถจะยกให้คนอื่นเข้ามาจัดการได้ คุณนพดลมักอ้างว่า  joint communique ทำให้ไทยได้พื้นที่จากเขมรมา(N3) " - กรณีนี้เป็นไปตามข้อตกลงตามสนธิสัญญาหรือ MOU 2543 ที่รัฐบาลชวน 2 ไปทำร่วมกับเขมรอยู่แล้ว โดยพื้นที่ 4.6 จะให้คณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา(JBC) เป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่บริเวณนี้ นั่นคือเป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างไทย-เขมร จนกว่าจะมีการปักปันเขตแดนเสร็จ ( MOU 2543 ดูตามรูป) ซึ่งเรื่อง MOU 2543 นี้ มาร์คเองเพิ่งพูดเมื่อช่วงที่มีข่าวว่าพธม.จะไปพระวิหารตอน 19 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะยึดตาม MOU 2543 ซึ่งก็เหมือนกับที่รัฐบาลสมัครโดยนพดลยึดถือเช่นกัน " เพราะสิ่งที่ไทยทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ค้อ   ไทยต้องไม่ไปเซ็นสัญญาที่มีลักษณะเสียเปรียบทางกฎหมายเพิ่มเติมอีก " - แถลงการณ์ร่วมไม่ได้ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่ได้เปรียบต่างหาก เพราะสามารถบีบให้เขมรยอมรับพื้นที่ตัวเองจริงๆ แค่บริเวณปราสาทเท่านั้น เพราะเดิมเขมรจะเอาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ไปขึ้นทะเบียนด้วย แต่นพดลเจรจาจนเขายอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท นั่นเท่ากับเป็นการทำให้เขมรยอมรับกลายๆ ว่าพื้นที่ 4.6 ไม่ใช่ของเขาๆ จึงนำไปขึ้นทะเบียนไม่ได้ จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:26:49 A:124.122.205.68 X:

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ fado " เขายกเลิก  สัญญาของนพดล  แล้วมันหมายความว่า  เขมร ได้ทียึด พีนที่ทับช้อนหรือไง " - ถูกต้อง การไปยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ทำให้เขมรได้ทีรีบบุกยึดพื้นที่ทับซ้อน เพราะเขมรรู้ไต๋ไทยแล้ว ว่าหลอกให้เขมรยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ไม่ใช่ของเขา " การที่คุณไปเซ้นให้เขา  หมายความว่า  เขาจะยอมขึ้นประสาทที  หน้าผาหรือ  เขาก็มาขึ้นในพท. ทับซ้อนอยู่ดี    ถ้าเราไม่มีการต่อต้าน " - เข้าใจผิดแล้ว เพราะแถลงการณ์ระบุให้ขึ้นทะเบียนฯ เฉพาะตัวปราสาท ตามนี้...     2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท ประโยคที่ขีดเส้นใต้ก็คือพื้นที่ทับซ้อน 4.6 นั่นเอง จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:27:16 A:124.122.205.68 X:

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ thyrocyte 1. หนังสือนั้นเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้ไทยเสียดินแดนได้อย่างไร ในเมื่อมีเขมรเป็นผู้ยื่นหนังสือนั้นฝ่ายเดียว กับยูเนสโก การลงนามหนังสือนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ไทยเป็นผู้ร่วมยื่นกับเขมร - เข้าใจว่าแถลงการณ์ฯ มีอยู่ 3 ฉบับ ฉบับหนึ่งไทยเก็บไว้ ฉบับที่ 2 เขมรเก็บไว้ และฉบับที่ 3 สำหรับยื่นให้ unesco เพราะเป็นการลงนามทั้ง 3 ฝ่าย ไทย , เขมร , unesco ซึ่งในวันขึ้นทะเบียน คณะกรรมการมรดกโลกประกาศให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฯ ในที่ประชุมก่อนจะขึ้นทะเบียนให้ปราสาทพระวิหาร เนื่องจากคำสั่งของศาลไทย ตามนี้...      5.  รับรอง ว่าคำแถลงการณ์ร่วมฉบับเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2008 โดยผู้แทนของรัฐบาลแห่งกัมพูชาและไทย กับยูเนสโก รวมทั้งร่างคำแถลงการณ์ร่วมซึ่งได้อ้างผิดว่าได้ลงนามเมื่อวันที่ 22 และ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ในเอกสาร WHC 08/32.COM/INF.8B1.Add.2 ต้องไม่ใช้ ตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ระงับผลของแถลงการณ์ร่วม ภายหลังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองไทยในเรื่องนี้ " ในหนังสือนั้น มีการรวม พื้นที่ในเขตพื้นแผ่นดินไทย ไปกับการยื่นมรดกโลกโดยเขมรฝ่ายเดียว " - กรณีนี้เป็นการยื่นเอกสารของฝ่ายเขมรในครั้งแรกสมัยรัฐบาลสุรยุทธ ก.ต่างประเทศรู้ถึงได้รีบคัดค้านและนำมาสู่การเจรจาและทำแถลงการณ์ร่วมให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทนี่ไง " แต่การที่เขมรเป็นผู้ยื่นมรดกโลกต่อยูเนสโก เขมรสามารถระบุได้ว่า ยินดีให้ประ เทศใดบ้างเข้ามาบริหารจัดการร่วม ในเขตมรดกโลกนี้ เป็นความยินยอมจากฝ่ายเขมรที่ได้เป็นผู้ยื่นมรดกโลก ไม่ได้ทำให้ไทยสามารถอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ดังกล่าวได้เลย " - คุณระบุเองว่าในเขตมรดกโลก ในเมื่อปราสาทพระวิหารเป็นเขตมรดกโลก คณะกรรมการที่เข้ามาบริหารก็อยู่แค่ในเขตปราสาทหรือบริเวณเขตของเขมรเท่านั้น ซึ่งในแถลงการณ์ร่วมฯ(หากมีผล)ก็บอกให้ขึ้นทะเบียนแค่ปราสาทอยู่แล้ว จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:33:19 A:124.122.205.68 X:

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ papafun " การที่นพดลยอมลงนามในตอนนั้นก็แสดงความเห็นด้วยแล้วครับ เขาต่อสู้เรื่องนี้มาหลายปี อยู่ๆนพดลมาเซ็นชื่อยกให้เขาเฉย " - เข้าใจผิดแล้ว นพดลแค่เดินตามแนวทางที่รัฐบาลสุรยุทธไปเจรจาเอาไว้เบื้องต้น นั่นคือ หากเขมรยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหาร ไทยก็จะสนับสนุน ตามนี้...      2. ได้รับบันทึกข้อความตามแถลงการณ์ของประธานคณะกรรมการองค์การมรดกโลกซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้แทนประเทศกัมพูชาและคณะผู้แทนประเทศไทย รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยเห็นชอบร่วมกันอย่างเต็มที่ว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ปราสาทพระวิหารนั้นทรงคุณค่าอันโดดเด่นอย่างเป็นสากลและต้องได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามที่ประเทศกัมพูชาและประเทศไทยมีความเห็นชอบร่วมกันว่า ประเทศกัมพูชาจะเสนอสถานที่ดังกล่าวให้ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการในบัญชีมรดกโลก ในวาระการประชุมครั้งที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2008 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าสถานที่แห่งนี้ควรได้รับการเอาใจใส่อย่างเร่งด่วนและต้องการความช่วยเหลือในระดับประเทศทางด้านการเงินและผู้เชี่ยวชาญและการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงเพิ่มเติมว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมให้มีการเจรจาและการจัดการ ณ สถานที่แห่งนั้น รวมถึงแผนการจะดำเนินการพัฒนาอย่างเหมาะสม ดังความประสงค์ตามย่อหน้าที่ 108 ใน Operation Guidelines ที่จะรับประกันการปกป้องสถานที่แห่งนี้ในอนาคต จากการประชุมหารือร่วมกันขององค์การมรดกโลก ทั้งสองประเทศมีความเข้าใจว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการช่วยเหลือทางด้านการเงินและผู้เชี่ยวชาญสำหรับแผนดำเนินการพัฒนาผ่านทางโปรแกรมการช่วยเหลือระดับชาติขององค์การมรดกโลก http://whc.unesco.org/archive/2007/whc07-31com-24e.pdf จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 21:38:47 A:124.122.205.68 X:

ความคิดเห็นที่ 53 เรื่องนี้  มันอยู่ที่คุณจะเชื่อเหตุผลของใคร  ระหว่างอดีตรมต.นพดล  ที่ต้องรวมข้าราชการ กระทรวงต่างประเทศ กับฝ่ายทหารเข้าไปด้วย   กับฝ่ายต่อต้าน   ฝ่ายไหนมีเหตุผลน่าเชื่อถือกว่ากัน อ่านคคห.ของฝ่ายต่อต้านคุณนพดลแล้ว  หลาย ๆ คนลงคคห.ว่ากลุ่มของคุึณนพดลเป็นคนไทย หัวใจเขมร  เมื่อไม่คิดว่าเขาเป็นคนที่รักชาติบ้านเมืองแล้ว  เขาทำอะไร  ก็ต้องผิดไปหมด  เพราะ ไปเชื่อตามเหตุผลที่  พธม.และ ปชป.รวมทุกองค์กรที่เป็นศัตรูของคุณนพดลเพราะเขาเป็นลูกน้อง อดีตนายกทักษิณ ฯ   เรื่องจบอยู่แค่นี้แหละ   ผลเสียหายที่ตามมาในขณะนี้  ไม่เห็นมีใครกล้ารับ เลยว่า ต้นเหตุมาจากเรื่องแถลงการณ์ฉบับนั้น ขอคาระวะมายังทุกท่านที่ยังยึดมั่น ถือมั่นว่าที่ยกเลิกแถลงการณนั้นถูกต้อง   รวมไปถึงการรับโทษ ของ คุณสมัคร และ คุณนพดล  เป็นสิ่งที่สมควรได้รับ  อคติ  และความอาฆาตแค้น  คุณทักษิณ นั้น  มันบดบังความถูกต้อง  และเหตุผลที่รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ  และ คุณสมัครได้ดำเนินการไป ทั้งหมด....นี่แหละประเทศไทยในปี 2552 จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 05:34:43 A:58.8.170.41 X:

ความคิดเห็นที่ 54 อคติ  และความอาฆาตแค้น  คุณทักษิณ เห็นด้วยค่ะ และอยากเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้เสียดินแดน พื้นที่ปัญหาทับซ้อนได้อย่างง่ายดาย โดยที่พวกเราได้แต่มองตาปริบๆ เพราะ นายกฯ เด็กๆ ได้จัดการให้เป็นแบบนี้ แล้วเราจะโทษใครได้???? จากคุณ : องุ่นทอง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:12:41 A:58.10.84.43 X:

ความคิดเห็นที่ 55 คำก็ขอสงวนสิทธิ สองคำก็ขอสงวนสิทธิ ผมว่าสิทธิที่เค้าพูดนี่น่าจะตายไปพร้อมกับคนพูดแล้วล่ะ ขนาดคนพูดยังตายไปแล้วเท่ากับว่าเราเสียสิทธิแล้วสิ บ้านโดนศาลสั่งยึดไปแล้ว จะมานั่งทวงเอากับเจ้าของใหม่ไปเรื่อยๆรึไง ทำไมไม่ไปสู้ใหม่ในศาลล่ะ รึกลัวแพ้เขาอีก จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 21:06:17 A:118.174.50.228 X: