Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แถลงการณ์ของนายนพดล ปัทมะ กรณีการชี้มูลของ ปปช  

แถลงการณ์ของนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

1. ผมขอแสดงความดีใจต่อข้าราชการ และรัฐมนตรีที่ ปปช ยกคำร้องทุกคน  แม้ว่าในการดำเนินการเรื่องนี้ ได้ร่วมคิด ร่วมทำด้วยกันมาตลอด

2. ผมขอยืนยันว่า ในขณะเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผมได้ปกป้องดินแดนไทย ปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร จนเป็นผลสำเร็จ  สิ่งที่ได้รับในวันนี้ คือผลของการทำงานเพื่อชาติ  เรื่องนี้จะเป็นตำนานของการทำคุณบูชาโทษไปอีกนาน

3. ในตอนแรกก่อนผมเป็นรัฐมนตรี กัมพูชาขอขึ้นทะเบียน ทั้ง 1) ตัวปราสาทพระวิหาร และ 2) พื้นที่ทับซ้อน  เป็นมรดกโลก  ผมเจรจาสำเร็จจนกัมพูชายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และยอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร  ถ้าไม่ใช่การเจรจาของผม  กัมพูชาเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกไปแล้ว เราจะเสียพื้นที่ทับซ้อน ไปแล้ว

4. กระทรวงการต่างประเทศและกองทัพไทย ตลอดจนเพื่อนข้าราชการที่รักชาติ รักแผ่นดินได้กระทำการเจรจาเพื่อไม่ให้กัมพูชานำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์   แต่มาสำเร็จตอนผมเป็นรัฐมนตรี โดยได้ทำคำแถลงการณ์ร่วมขึ้น  ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ  และคณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยกันหมด  ตามลำดับ แม้ในขณะนี้คำแถลงการณ์ร่วมสิ้นผลไปแล้ว แต่มันเป็นเอกสารชิ้นเดียวที่เขมรยอมรับว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทั้งๆที่ไม่เคยยอมรับมาก่อน    

5. ในเรื่องนี้ฝุ่นกำลังจางลง และผู้คนเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่ได้ทำไปในคำแถลงการณ์ร่วมเป็นการปกป้องดินแดน และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ผมขอยกความดีให้ทุกคน  แม้ในขณะนี้ผมขอรับผิดชอบและพร้อมรับแรงกดดันคนเดียว  ผมภูมิใจว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมได้ทำเพื่อชาติ

6. ผมผิดหวังกับการตัดสินของ ปปช ในวันนี้  ผมเคยตั้งความหวังที่จะเห็นมาตรฐานในการพิจารณา ผมอยากจะห็นความเป็นกลาง ผมอยากจะเห็นความเป็นธรรม แต่วันนี้ไม่ใช่วันของผม และผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าผู้ที่ทำงานกับอดีตนายกรัฐมนตรี พตท ทักษิณ ชินวัตร จะเผชิญกับสิ่งเหล่านี้

7. การตัดสินชี้มูลของ ปปช ในวันนี้เป็นการตัดสินที่ผิด เพราะ
7.1 ปปช  ชี้มูลในวันนี้ โดยอ้างและอาศัยคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 8 กรกฎาคม  2551 ที่ว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ถุกต้อง เพราะ ประการแรก  คำแถลงการณ์ร่วม ไม่เป็นหนังสือสัญญา และกัมพูชาก็มีหนังสือยืนยันว่าไม่เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย  กระทรวงต่างประเทศก็เห็นว่าไม่เป็นหนังสือสัญญา  ประการที่สอง  คำแถลงการณ์ร่วมไม่มีบทบัญญัติเปลี่ยนแปลงอาณาเขต เพราะไม่ใช่การยกแผ่นดินให้กัมพูชา แต่เป็นการห้ามไม่ให้กัมพูชาฮุบเอาแผ่นดินไทย   แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับตัดสินว่าแม้คำแถลงการณ์ร่วมไม่มีบทบัญญัติเปลี่ยนแปลงอาณาเขต แต่อาจมีบทบัญญัติเปลี่ยนแปลงอาณาเขต ซึ่งการเพิ่มคำว่า “อาจ” เข้าไปในมาตรา 190    ถือว่าเป็นการเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยศาล  พิพากษาเกินรัฐธรรมนูญ
7.2 นอกจากนั้น  ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า ครม  จงใจ ฝ่าฝืนมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปี 50 หรือไม่ ขอยืนยันว่า ผมไม่จงใจฝ่าฝืน เพราะนอกจากเหตุผลที่กล่าวในข้อ 7.1 ข้างต้นแล้ว   มาตรา 190 ไม่มีความชัดเจน คลุมเครือ ไม่เคยมีมาก่อน  มาตรานี้เป็นปัญหาจนมีการเสนอขอแก้ไขในขณะนี้ และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย  กระทรวงการต่างประเทศ ก็มีบันทึกยืนยันกับผมว่าคำแถลงการณ์ร่วมไม่เป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา 190
7.3 การจะผิดมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบนั้น ผู้กระทำต้องมีเจตนาพิเศษ คือการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด  ผมขอยืนยันว่า ผมได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ เพื่อปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นการกระทำเพื่อปกป้องดินแดน ไทย  และผมไม่เคยมีเจตนาทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด การดำเนินการกระทำเป็นขั้นเป็นตอน ข้าราชการ กองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และครม เห็นชอบด้วย  ไม่มีการปิดบังอำพรางหรือเมีเจตนาอื่นแอบแฝง  การตัดสินของ ปปช ในวันนี้จึงไม่ถูกต้อง  ไม่เป็นธรรม มิชอบด้วยข้อเท็จจริง     และข้อกฎหมาย การรับฟังพยานมีข้อพิรุธเพราะให้น้ำหนักกับพยานของผู้เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเ ช่น astv และพันธมิตร มาปรักปรำอีกฝ่ายหนึ่ง

8. ผมขอเรียนให้พี่น้องคนไทยได้ทราบว่า ตั้งแต่มีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549  บ้านเมืองเราไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง  รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ได้สร้างระบอบละม้ายประชาธิปไตยขึ้น เรามีการใช้บังคับกฎหมายกับบุคคลกลุ่มต่างๆ ไม่เท่าเทียมกัน  เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ทำให้ผมเชื่อว่า  เราไม่มี ระบบนิติรัฐ  เรามีแต่ระบบ อคติรัฐ   หลายกรณีหลักนิติธรรม ถูกแทนที่โดยหลัก “กูจะทำ”

9. การชี้มูลของ ปปช ในวันนี้เป็นเพียงชี้ว่าคดีมีมูลเบื้องต้นเท่านั้น หลายคดีที่ปปช ชี้มูล และไปยังศาล ศาลก็ยกฟ้อง ผมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม ในทุกกระบวนการ  ทุกเวลาและทุกโอกาส  ไม่ว่าฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย ผมจะหาความยุติธรรมให้เจอ ผมยังมีกำลังใจที่ดีจากพี่น้องมากมายที่รักผม และจะขอร่วมต่อสู้เพื่อให้บ้านเมืองมีประชาธิปไตย ความเป็นธรรม และความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง

             ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ยัดเยียดข้อหา และความทุกข์ให้กับผม  ผมขอแผ่เมตตาให้ท่านเหล่านั้น  เวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่ต้องท้อแท้  แต่เป็นเวลาที่ต้องทุ่มเท   เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องสิ้นหวัง แต่เป็นเวลาที่หวังจะขจัดความอยุติธรรมให้สิ้น   แม้วันนี้จะเหมือนเป็นคืนเดือนมืด แต่อรุณรุ่งแห่งความจริง และพลังแห่งความเป็นธรรมจะมาเยือน นับแต่นี้ไปผมขออุทิศเวลาและกายใจ ร่วมต่อสู้กับพี่น้องคนไทยที่ต้องการประชาธิปไตย และความเป็นธรรมทุกคน และขอทำงานเป็นข้าพระบาทและข้าแผ่นดินจนกว่ากว่าชีวิตจะหาไม่

                                                                           นพดล  ปัทมะ

จากคุณ : dmng
เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 15:34:18 A:125.25.29.164 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com