 |
ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ระหว่าง "หงา คาราวาน - แอ๊ด คาราบาว วิสา คัญทัพ" คุณชอบบทบาทการต่อสู้ของใครมากที่สุด
|
|
|  | | หงา คาราวาน (3 คน) |
|
| | |  | | แอ๊ด คาราบาว (5 คน) |
|
| | |  | | วิสา คัญทัพ (82 คน) |
|
| |
| | | | | หงา คาราวาน (3 คน) | | | | แอ๊ด คาราบาว (5 คน) | | | | วิสา คัญทัพ (82 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 90 คน |
ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ระหว่าง "หงา คาราวาน - แอ๊ด คาราบาว วิสา คัญทัพ" คุณชอบบทบาทการต่อสู้ทางการเมืองของใครมากที่สุด ???
>>> ประวัติ หงา คาราวาน
สุรชัย จันทิมาธร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ หงา คาราวาน เป็นนักร้องนำและหนึ่งในผู้ก่อตั้งวงคาราวาน สุรชัยเป็นนักแต่งเพลงชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของวงการเพลงไทย ผู้คนในวงการเพลงเพื่อชีวิตมักเรียกเขาอย่างนับถือว่า น้าหงา หรือ พี่หงา และได้รับฉายาว่า อาจารย์ใหญ่แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต
สุรชัยเกิดที่อำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2491 เป็นบุตรชายคนที่ 4 ของนายยุทธและนางเล็ก จันทินมาธร บิดารับราชการเป็นครูใหญ่โรงเรียนเทศบาล ดังนั้นจึงเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านของสุรชัยมาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่เมื่อโตขึ้นมาได้เข้ากรุงเทพ ฯ เพื่อเรียนต่อในด้านศิลปะที่วิทยาลัยช่างศิลป์ และได้รู้จักกับนักคิด นักเขียนคนอื่น ๆ ที่ต่อมากลายมาเป็นนักเขียนชั้นแนวหน้าคนอื่น ๆ ของประเทศ เช่น สุวรรณี สุคนธา, สุจิตต์ วงษ์เทศ เป็นต้น ซึ่ง การเป็นนักเขียนของสุรชัยเริ่มต้นขึ้นที่นี่
ในปี พ.ศ. 2516 สุรชัยได้ร่วมกับ วีระศักดิ์ สุนทรศรี (แดง) ก่อตั้งวงท.เสนและสัญจร ขึ้น และเมื่อปี พ.ศ. 2517 ได้รวมกับวงบังคลาเทศ แบนด์ ของมงคล อุทก (หว่อง) และทองกราน ทานา เปลี่ยนเป็นวงคาราวาน สุรชัยได้แต่งเพลงเพื่ออุทิศให้กับบุคคลสำคัญของไทยหลายคน เช่น จิตร ภูมิศักดิ์, ปรีดี พนมยงค์, สืบ นาคะเสถียร และ รงค์ วงษ์สวรรค์
หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา สุรชัยและพรรคพวกบางส่วนได้หลบหนีเข้าป่าไปอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเฉกเช่นนักศึกษาและปัญญาชนคนอื่น ๆ โดยสุรชัยทำหน้าที่คอยให้ความบันเทิง ร้องเพลง โดยมีชื่อจัดตั้งว่า "สหายพันตา"
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองสงบลง สุรชัยและพรรคพวกได้เดินทางออกจากป่า และได้แต่งเพลงซึ่งเป็นเพลงอมตะของคาราวานและสุรชัย บอกเล่าถึงสภาพจิตใจที่ออกจากป่ามาสู่เมือง คือเพลง คืนรังซึ่งเป็นเพลงที่แต่งก่อนขึ้นแสดงดนตรีเพื่อการกุศลของยูนิเซฟ โดยใช้เวลาแต่งเพียง 5 นาที แต่ได้ชื่อว่าเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเพลงหนึ่งเลยทีเดียว [แก้] ชีวิตส่วนตัว
สุรชัยมีภรรยาสองคนและบุตรชาย 2 คน ภรรยาคนแรกชื่อ จิราพร จันทิมาธร มีบุตรชายคือ คณิน จันทิมาธรส่วนภรรยาคนที่สอง พิสดา จันทิมาธร มีบุตรชายชื่อพิฆเณศร์ จันทิมาธร(กันตรึม) เกิด พ.ศ. 2538 ผลงานหนังสือ สุรชัย จันทิมาธร
เรื่องสั้น "มาจากที่ราบสูง", "เดินไปสู่หนไหน", "ความบ้ามาเยือน", "ข้างถนน" และรวมเล่มเป็น "ก่อนเคลื่อนคาราวาน" รวมเรื่องสั้น "ดวงตะวันสีแดง", "ดอกอะไรก็ไม่รู้" (รวมเรื่องสั้นคัดสรรเน้นฉากเมือง) บทกวี "จารึกบนหนังเสือ", "เมดอินเจแปน" และ "เนื้อนัย (เพลง)" นวนิยายเล่มเดียว "ก่อนฟ้าสาง" บันทึกและความเรียง "จากราวไพร สู่ป่าคอนกรีต", "คือคนลำเค็ญ ดนตรีคาราวาน" และ "ผ่านตา พันใจ" ผลงานเพลงเด่นๆ "กุลา", "สานแสงทอง", "คนกับ:-)" (สมคิด สิงสง, วิสา คัญทัพ), เปิบข้าว (จิตร ภูมิศักดิ์), "นกสีเหลือง" (วินัย อุกฤษณ์), "ความแค้นของแม่", "บ้านนาสะเทือน", "คนตีเหล็ก", "ดอกไม้ให้คุณ"
* รางวัลศรีบูรพา ประจำปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบสำหรับศิลปิน นักคิดนักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ ผู้มีผลงานอันทรงคุณค่ามีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง มาทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2531
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%A3
>>> ประวัติ แอ๊ด คาราบาว
ยืนยง โอภากุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ แอ๊ด คาราบาว เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497 ที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน (บิดา-มนัส โอภากุล แซ่โอ มารดา-จงจิน แซ่ตั้ง) ยืนยง เดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อศึกษาต่อเหมือนเด็กต่างจังหวัดทั่วไป โดยเข้าเรียนใน สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย(โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย) และต่อในระดับปริญญาตรี สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว ประเทศฟิลิปปินส์ ยืนยงได้พบกับเพื่อนคนไทยที่ไปเรียนหนังสือที่นั้น คือ สานิตย์ ลิ่มศิลา หรือ ไข่ และ กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร หรือ เขียว ทั้ง 3 จึงร่วมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คาราบาว" เป็นวงดนตรีที่เล่นดนตรีในเนื้อหาที่สะท้อนสภาพปัญหาและความเป็นจริงของสังคม
เมื่อกลับมาเมืองไทย ไข่ ได้แยกตัวออกไป แอ๊ดและเขียวยังคงเล่นดนตรีต่อไป ในเวลากลางคืน โดยกลางวันแอ๊ดทำงานอยู่ที่การเคหะแห่งชาติ ส่วนเขียวทำงานอยู่กับบริษัทของฟิลิปปินส์ที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย
จุดเปลี่ยนของชีวิตยืนยง โอภากุล อยู่ที่การรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มชุดแรกให้กับวงแฮมเมอร์ ในปี พ.ศ. 2522 ซึ่งประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา เป็นแรงดลบันดาลใจให้กับยืนยงว่า ถ้าจะออกอัลบั้มของตัวเอง คงจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน จึงร่วมกับเขียว ออกอัลบั้มชุดแรกของวงคาราบาวในชื่อชุด "ขี้เมา" ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
คาราบาว มาประสบความสำเร็จในอัลบั้มชุดที่ 5 ของวง คือ ชุด "เมด อิน ไทยแลนด์" ที่ออกในปลายปี พ.ศ. 2527 ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงถึง 5 ล้านตลับ และนับตั้งแต่นั้น ชื่อของ แอ๊ด คาราบาว ก็เป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย
โดย ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวง เป็นผู้มีบุคคลิกเป็นตัวของตัวเองสูง กล้าพูดกล้าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมอย่างแรงและตรงไปตรงมา โดยสะท้อนออกมาในผลงานเพลง ที่เจ้าตัวจะเป็นผู้เขียนและร้องเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีออกมามากมายทั้งอัลบั้มในนามของวงและอัลบั้มเดี่ยวของตนเอง จนถึงวันนี้ไม่ต่ำกว่า 900 เพลง รวมถึงการแสดงออกในทางอื่น ๆ ด้วย ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ชอบและไม่ชอบ โดยผู้ที่ไม่ชอบคิดเห็นว่า เป็นการแสดงออกที่ก้าวร้าว รวมถึงตั้งข้อสังเกตด้วยถึงเรื่องการกระทำของตัวยืนยงเอง
ยืนยง โอภากุล ไม่จำกัดตัวเองแต่ในบทบาทของศิลปินเพลงเท่านั้น แต่ยังได้มีผลงานเขียนหนังสือและแสดงละคร ภาพยนตร์ต่าง ๆ ด้วย อาทิ เช่น เรื่องพรางชมพู กะเทยประจัญบาน (พ.ศ. 2545) ละครเรื่อง เขี้ยวเสือไฟ ทางช่อง 9 (พ.ศ. 2544) ลูกผู้ชายหัวใจเพชร ทางช่อง 7 (พ.ศ. 2546) เป็นต้น รวมถึงการทำงานภาคสังคมและมูลนิธิต่าง ๆ และยังได้แต่งเพลงประกอบโฆษณาหรือโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐในแต่ละโอกาสด้วย
ในปลายปี พ.ศ. 2545 ยืนยง โอภากุล ได้เปลี่ยนบทบาทของตัวเองอย่างสำคัญอีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นหุ้นส่วนสำคัญคนหนึ่งของเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อ "คาราบาวแดง" โดยใช้ชื่อวงดนตรีของตัวเองมาเป็นจุดขาย ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างในสังคมว่า สมควรหรือไม่ กับผู้ที่เคยสู้เพื่ออุดมการณ์มาตลอด มาเป็นนายทุนเสียเอง
ชีวิตส่วนตัว ยืนยง โอภากุล มีชื่อเป็นภาษาจีนกลางว่า "หูฉุนฉาง" แปลว่า "เกิดบนดิน" ชอบเลี้ยงไก่ชนซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ และมีฟาร์มไก่ชนเป็นของตัวเอง นอกจากคาราบาวแดงแล้ว ยังมีกิจการทางดนตรีอีก คือ มีห้องอัดเสียงที่บ้านของตัวเอง ชื่อ เซ็นเตอร์ สเตจ สตูดิโอ ซึ่งเป็นสตูดิโอระดับชั้นแนวหน้าแห่งหนึ่งของเมืองไทย และมีบริษัทเพลงชื่อ มองโกล เรคคอร์ด สมรสกับนางลินจง โอภากุล หญิงชาวบุรีรัมย์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็นหญิง 2 คน คือ ณิชา (เซน) และ ณัชชา (ซิน) โอภากุล และชาย 1 คน คือ วรมันต์ โอภากุล (โซโล)
หมายเหตุ
* ยืนยง โอภากุล มีพี่ชายฝาแฝดอีก 1 คน เป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิตเหมือนกัน คือ ยิ่งยง โอภากุล ชื่อเล่น "อี๊ด" และเคยออกอัลบั้มร่วมกัน 1 อัลบั้ม คือ อัลบั้ม พฤษภา ในปี พ.ศ. 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ * ซูซู เคยแต่งเพลงเพื่อยกย่องยืนยง ชื่อเพลง ราชาสามช่า ในปี พ.ศ. 2534
* 1 อัลบั้มเดี่ยว * 2 ผลงานละคร * 3 ผลงานภาพยนตร์ * 4 พิธีกร * 5 ดูเพิ่ม * 6 แหล่งข้อมูลอื่น
อัลบั้มเดี่ยว
* กัมพูชา (พ.ศ. 2527) * ทำมือ (พ.ศ. 2532) * ก้นบึ้ง (พ.ศ. 2533) * โนพลอมแพลม (พ.ศ. 2533) * เวิลด์ โฟล์ค เซน (พ.ศ. 2534) * พฤษภา (พ.ศ. 2535) * รอยคำรณ (พ.ศ. 2537) * รวงข้าวสีทอง (พ.ศ. 2538) * เดอะ แมน ซิตี้ ไลอ้อน (พ.ศ. 2539) * ใต้ดิน (พ.ศ. 2539) * เหลืองหางขาว (พ.ศ. 2543) * คนไทยหรือเปล่า (พ.ศ. 2544) * ไม่ต้องร้องไห้ (พ.ศ. 2545) * โอท็อป (พ.ศ. 2547) * ซึม เศร้า เหงา แฮงก์ (พ.ศ. 2548) * แมง ฟอร์ซ วัน (พ.ศ. 2549) * ตะวันตกดิน (พ.ศ. 2549) * ยืนยงตั้งวงเล่า (พ.ศ. 2549) * คนกับเมาท์ (พ.ศ. 2551) * สาว สาว สาว (พ.ศ. 2552)
ผลงานละคร
* เขี้ยวเสือไฟ * ส่วย * ลูกผู้ชายหัวใจเพชร * มหาราชกู้แผ่นดิน * เพื่อนรักเพื่อนร้าย
ผลงานภาพยนตร์
* เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ (พ.ศ. 2528) * คนเลี้ยงช้าง (พ.ศ. 2533) * พรางชมพู กะเทยประจัญบาน (พ.ศ. 2545) * ว้อ หมาบ้ามหาสนุก (ดารารับเชิญ) (พ.ศ. 2551) * สาระแน ห้าวเป้ง!! (พ.ศ. 2552)
พิธีกร
* สำรวจธรรมชาติ On The World (ช่อง 5)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%87_%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5
>>> ประวัติ วิสา คัญทัพ
วิสา คัญทัพ เป็นนักคิดนักเขียน กวี ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต อิสระ อดีตเคยเป็น 1 ใน 9 นักศึกษาที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพจนถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เกิดการเดินขบวนครั้งใหญ่ในวันที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ. 2516 อันเป็นชนวนนำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญจากจอมพลถนอม กิตติขจรและจอมพลประภาส จารุเสถียรจนถูกจับเป็น 1 ใน 13 กบฎรัฐธรรมนูญ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 [แก้] ประวัติ
วิสา คัญทัพ เกิดที่ ลพบุรี เติบโตในยุคเผด็จการครองเมือง เรียนจบชั้นเตรียมอุดมศึกษาจาก โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา แล้วเข้าศึกษาต่อที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้นำนักศึกษาทำกิจกรรมก้าวหน้าในมหาวิทยาลัย จนถูกอธิการบดีในสมัยนั้นสั่งลบชื่อเขาและเพื่อนรวม 9 คน จนเกิดกรณีชุมนุมใหญ่ต่อต้านการลิดรอนสิทธิเสรีภาพนักศึกษาเมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ. 2516 จากนั้นวิสา คัญทัพเข้าร่วมกับเพื่อนตั้ง "กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ" เพื่อเคลื่อนไหวให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย จนถูกจับกุมคุมขังเป็น 1 ใน 13 กบฎรัฐธรรมนูญ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516
วิสาเป็นนักคิด นักเขียน เป็นกวี เป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิต เข้าสู่วงการหนังสือโดยเริ่มต้นร่วมกับเพื่อนจัดทำหนังสือ "วรรณกรรมเพื่อชีวิต" ต่อมาเริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเป็นเพลงแนวที่เรียกว่า "เพื่อชีวิต" เพลงแรกร่วมกับ สมคิด สิงสง และ สุรชัย จันทิมาธร เขียนเพลง "คนกับ:-)" เพลงที่สองเขียนเนื้อร้องเพลง "คนภูเขา" ให้สุรชัย จันทิมาธรใส่ทำนอง เพลงที่สามร่วมกับ ประเสริฐ จันดำ เขียนเพลง "จดหมายชาวนา" เพลงที่สี่เขียนคำร้องทำนองด้วยตัวเองเป็นเพลงสุดท้าย ขณะเกิดเหตุการณ์ลอบฆ่าลอบสังหารผู้นำฝ่ายประชาชนจำนวนมาก ชื่อเพลง "น้ำท่วมฟ้าปลากินดาว" ให้วงคาราวาน โดยมีเนื้อร้องตอนหนึ่งว่า "น้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว นกเหินหาวสู่สายชล คนดีถูกฆ่ากลางถนน คนชั่วขึ้นนั่งบัลลังก์บน ฟ้าฝนจึงไม่ตกมา"
วิสาเข้าป่าหนีการปราบปรามจากอำนาจรัฐ ใช้ชื่อ "สหายตะวัน" ขณะอยู่ทางภาคเหนือ และ "สหายไพรำ" เมื่ออยู่ทางภาคอีสาน เข้าร่วมต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ร่วมกับเพื่อน อดิศร เพียงเกษ "สหายศรชัย" จัดตั้งวงดนตรีและเริ่มร้องเพลงเอง บันทึกเสียงส่งเพลงออกอากาศทางสถานีวิทยุคลื่นสั้น "เสียงประชาชนแห่งประเทศไทย" มีผลงานเด่น ๆ อาทิ บินหลา, เจ็ดสิงหาสู้บนทางปืน, รำวง 1 ธันวา, ลุงสินป้าไสว, มาลำเลียงเด้อสหาย ฯลฯ
ปลายปี พ.ศ. 2523 ออกจากป่า เริ่มเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์และเพลงเพื่อชีวิตทั่วไป มีเพลงเด่น ๆ ที่เป็นอมตะมากมายเช่น ร้อยบุปผา, รอยอดีต, กำลังใจ, แรงเทียน, ออนซอนเด, เพลงพิณ, รักที่อยากลืม, กลกามแห่งความรัก, สวรรค์ชั้นเจ็ด ฯลฯ ปัจจุบันวิสา คัญทัพ ยังคงเขียนหนังสือ เขียนเพลง ร้องเพลง และสร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางที่ตนเองเชื่อมั่นและศรัทธา เหมือนตอนหนึ่งในเพลง "กำลังใจ" ที่เขาแต่ง "ชีวิตที่ผ่านพบ มีลบย่อมมีเพิ่ม ขอเพียงให้เหมือนเดิน... กำลังใจ"
"ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"
เป็นบทกวีวรรคทองของวิสา คัญทัพ เขาเขียนภายหลังได้รับอิสรภาพจากการจับกุมคุมขังหลัง 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ด้วยความประทับใจในพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนบนถนนราชดำเนิน
"หยาดน้ำตาประชาไทยในวันนี้ ไหลเกือบท่วมปฐพีแล้วพี่เอ๋ย ถ้าความจริงสามารถอ้างเหมือนอย่างเคย ก็จะเอ่ยและจะอ้างอย่างไม่กลัว นี่มีปากก็ถูกปิดจนมิดเม้ม มันแทะเล็ม:-)รดและกดหัว ปัญหาต่างๆนั้นก็พันพัว ไม่อยากโทษใครชั่วเพราะกลัวตาย ถ้าขอได้จะขอกันในวันนี้ ขอให้สิทธิ์เสรีอย่าสูญหาย ถ้าเลือดไทยจะหลั่งโลมจนโทรมกาย ก็ขอตายด้วยศักดิ์ศรีเสรีชน"
วิสาเขียนบทกวีบทนี้ลงตีพิมพ์ใน ประชาธิปไตยรายวัน ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2516 และบทนี้เป็นข้อความในโปสเตอร์ต่อต้านเผด็จการในครั้งนั้น
วิสา ปัจจุบันยังคงยืนหยัด แสดงจุดยืนชัดเจน "ต่อต้านรัฐประหาร ต่อต้านเผด็จการ" เหมือนวัยหนุ่มที่ผ่านมา โดยเข้าร่วมกับนปช.ซึ่่งสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนามหลวง เขาแต่งเพลง "สัญญาใจขับไล่เผด็จการ" ขึ้นเวทีร้องเพลงนี้กับไพจิตร อักษรณรงค์ และเมื่อต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2550 เขาออกรายการ "ตัวจริงชัดเจน" ทางสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ร่วมกับแอ๊ด คาราบาว ในฐานะศิลปินเพลงเพื่อชีวิต วิสายืนอยู่ตรงข้ามกับแอ๊ด คาราบาวโดยสิ้นเชิง ขณะแอ๊ดเห็นด้วยกับทหาร เทิดทูน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แต่วิสาต้านการยึดอำนาจของทหาร คัดค้านรัฐประหาร ปรารถนาให้ใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แสดงทัศนะเชื่อมั่นในพลังของภาคประชาชน ดังจะเห็นได้จากเนื้อเพลง "สัญญาใจขับไล่เผด็จการ" ที่วิสาได้ประพันธ์เอาไว้
มา..พวกเรามา ตามสัญญาใจผูกพัน ร่วมพลังฟาดฟัน ใจมุ่งมั่นประชาธิปไตย เมื่อใดที่เผด็จการ รัฐประหาร ปล้นชาติไทย พวกเราจะก้าวออกไป ร่วมกันขับไล่โค่นล้มมันลง เผด็จการต้องออกไป ประชาธิปไตย จงเจริญ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2_%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 18:48:02
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 52 18:44:05
จากคุณ |
:
BANGKOK THAILAND 2007
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 52 18:29:59
A:58.8.94.113 X:
|
|
|
|  |