 |
ความคิดเห็นที่ 16 |
เท่าที่ทราบมาการประมูลาคราวนี้จะเป็นการประมูลคลื่นย่าน 2100 หรือ IMT-2000 ที่จะใช้รองรับ โทรศัพท์ในระบบ 3 จีได้ โดยในการประมูลจะแบ่งคลื่นออกเป็น 9 ชุด โดยใช้คลื่นความถี่ตั้งแต่ย่าน 2110-2155 (downlink) และ 1920-1965 (uplink) จะแบ่งใช้ช่องสัญญาณทีละ 5MHz เช่นจากข้อมูล ข้างบน ซึ่งคาดว่าจะแบ่งประมูลเป็น (ข้มูลต่อไปนี้ มาจากการคาดคะเน ไม่ยืนยันในความถูกต้องนะครับ)
1. downlink 2110-2115 MHz , uplink 1920-1925 MHz 2. downlink 2116-2120 MHz , uplink 1926-1930 MHz 3. downlink 2121-2125 MHz , uplink 1931-1935 MHz 4. downlink 2126-2130 MHz , uplink 1936-1940 MHz 5. downlink 2131-2135 MHz , uplink 1941-1945 MHz 6. downlink 2136-2140 MHz , uplink 1946-1950 MHz 7. downlink 2141-2145 MHz , uplink 1951-1955 MHz 8. downlink 2146-2150 MHz , uplink 1956-1960 MHz 9. downlink 2151-2155 MHz , uplink 1961-1965 MHz
แต่ละช่วงคลื่น จะมีบริษัทที่ได้ไปบริษัทเดียวเท่านั้น เพราะไม่สามารถจะให้บริษัทสองบริษัทใช้ช่วงคลื่น เดียวกันได้ สัญญาญจะตีกันนะครับ และไม่สามารถจะเป็นสัญญาณโทรศัพท์ที่ใช้งานได้นะครับ แต่ละ ช่วงคลื่นจะมีเอกชนเพียงรายเดียวที่จะได้รับสัมปทานไป บริหารจัดการและหาผลประโยชน์นะครับ
เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติหรือทางเทคนิค ที่จะปล่อยให้ใครมาใช้ช่วงคลื่นใดๆโดยไม่ควบคุมเพราะคลื่นมัน จะตีกัน อย่างในปัจจุบัน ความถี่วิทยุสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้มีอยู่ในย่านความถี่ 470 MHz, 900 MHz, 1800 MHz และ 1900 MHz ให้บริการในระบบต่างๆ เช่น GSM และ CDMA ฯลฯ จะไม่ปะปนกัน
(มีข่าวออกมาว่าจะให้ใบอนุญาต 4 ใบ เป็นชุด 3 ช่วงคลื่น, 2 ช่วงคลื่น, 2 ช่วงคลื่น และ 2 ช่วงคลื่น)
ข้อมูลจาก
http://www.ntc.or.th/index.php?option=com_content&task=view&id=5209&Itemid=27
http://blognone.com/node/13280
แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 52 17:18:13
จากคุณ |
:
thyrocyte
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ต.ค. 52 17:14:58
A:203.147.40.3 X:
|
|
|
|
 |