Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทความเลอค่า อมตะ เกี่ยวกับ "เปรม" [Reseed]  

จากประโยคที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงกันมากในตอนนี้
"ก่อนไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นการกระทำที่เป็นการทรยศต่อชาติ"
เห็นหลายคนสังสัยเหลือเกินว่า ทำไมพลเอก เปรม จึงพูดแบบนั้น คิดแบบนั้น จะต้องเป็นสมาชิกพรรคที่ป๋าเชียร์ใช่มั๊ย จึงจะเป็นการไม่ทรยศชาติ แบบนี้เรียกว่าเป็นกลางทางการเมืองหรือเปล่า ?
ผมจึงอยากให้ทุกท่านได้ลองอ่าน บทความนี้ ซึ่งเป็นบทความที่เขียนขึ้นมา กว่า 22 ปี แต่มีความเป็นอมตะ เนื้อหายังทันสมัยอย่างกับว่า เพิ่งเขียนขึ้นเมื่อวานนี้เอง

อ่านแล้วท่านจะเข้าใจเองว่าทำไม พลเอกเปรมจึงพูดแบบนั้น

______________________________________________________

***************************************
คอลัมน์ซอยสวนพลู
หนังสือพิมพ์รายวันสยามรัฐ
ฉบับประจำวันที่ 11 มีนาคม 2530
***************************************

ความ จริงผมไม่อยากจะเขียนเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เลย แต่เมื่อได้พิจารณาดูโดยรอบคอบแล้ว เห็นว่า จำเป็นต้องเขียนเพราะถ้าไม่เขียนแล้วอาจเกิดผลเสียหายใหญ่โตต่อไปได้จะ กระเทือนใครบ้างผมก็ไม่สนใจละครับ เพราะผมคิดเสียว่า ถ้าผมกระเทือนใครคนนั้นเป็นคนควรกระเทือนหรือ กระเทือนอยู่แล้ว

มี ข่าวออกมาว่า ในหลวงมีพระราชดำรัสกับคนหนังสือพิมพ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในทำนองว่าระบอประชาธิปไตยในเมืองไทยนั้นยุ่งยากเพราะเราต้องลอกแบบฝรั่งเอา มาใช้ ถ้าทำแบบไทยๆ ก็คงจะยุ่งยากน้อยลง

พระราชดำรัสนี้มีขึ้นใน โต๊ะเสวย ขณะที่มีพระราชปฏิสันถารกับคนหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นธรรมดาของพระราชดำรัสในโต๊ะเสวยก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ หรือคนหนังสือพิมพ์กราบบังคมทูลถามอย่างใดอย่าง หนึ่งหรือหลายอย่าง และเมื่อมีพระราชกระแสที่เป็นข่าวนี้แล้ว ก็จะต้องมีพระราชกระแสอื่นๆ ต่อไปอีก

การที่จะนำพระ ราชกระแสในโต๊ะเสวยมาบอกเล่าให้คนนอกทราบนั้น ก็ไม่บังควรอย่างยิ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกเล่า ก็ควรจะบอกให้หมดว่า พระราชกระแสก่อนนั้นมีมาอย่างไร และพระราชกระแสต่อไปมีอย่างไร การที่รัฐบาลจงใจเชิญพระราชกระแสมาแต่ประโยคเดียว แล้วสั่งให้เผยแพร่ต่อไป นั้น เป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง แม้จะเป็นคำพูดของคนอื่นก็ไม่ควร เพราะไม่เป็นธรรมแก่ผู้พูด

ความจริง คนหนังสือพิมพ์ที่เฝ้าฯอยู่ในโต๊ะเสวยนั้น มีอยู่หลายคน ไปจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ แต่มีอยู่เพียงฉบับเดียวหรือสองฉบับเท่านั้นที่ได้นำมาลงเป็นข่าว แต่ก็เป็นข่าวเล็กๆ มิได้ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่นั้นมิได้เอ่ยถึงเลย

ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์ไทยนั้นถึงจะจ้วงจาบ ใครต่อใครให้เกิดโทสะ เคียดแค้นได้อยู่เสมอ แต่ก็รู้ที่ต่ำที่สูง บูชาคนที่ควรบูชาและมีความ จงรักภักดีอันมั่นคงแข็งแรงอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ หนังสือพิมพ์ไทยยังเป็นผู้ดีอยู่ไม่กำเริบ ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ จึงได้ตื่นเต้นถึงกับบอกคณะรัฐมนตรีให้ช่วยกันเผยแพร่ข่าวนี้ให้สะพัดออกไป และย้ำแล้ว ย้ำอีกว่า อยากให้คนรู้กันทั่ว

ที่คุณเปรมอ้างว่าจงรักภักดีต่อพระกรุณายิ่งกว่าใครนั้น น่าจะต้องเอามาผ่านห้องทดลองเพื่อวิเคราะห์กันใหม่เสียแล้วกระมัง? สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องคิดก็คือ คำว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้น หมายความว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความหมายของคำนี้ในขณะที่มีพระราชดำรัสนั้นเป็น อย่างไร เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ผมเองก็ไม่รู้

คุณเปรมเป็นอะไรมาจึงจะเข้าไปหยั่งรู้ในพระราชหฤทัยได้? เพียงแต่คิดว่าตัวรู้ก็ออกจะเป็นคนไม่น่าติดต่อด้วยเสียแล้ว

เรื่อง ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นี้ ผมได้ยินพูดกันมาช้านานแล้วคนโน้นพูดบ้างคนนี้พูดบ้าง ฟังดูก็เห็นตรงกันแต่ศัพท์ที่ใช้เรียก ส่วนวิธีการที่อ้างว่าเป็นวิธีการแบบไทยๆ นั้น ไม่เห็นตรงกันสักราย เมื่อต่างคนต่างคิดในเรื่องเดียวกันนี้ ต่างคนต่างก็มีวิธีการของตนแตกต่างกันไป บ้าบ้าง บอบ้าง บิ่นบ้าง หาอะไรเป็นแก่นสารและเอาเป็นที่ยุติไม่ได้

เมื่อคุณเปรม ตื่นเต้นในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ อย่างนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า คุณเปรมเองก็ต้องการและมีวิธีการของระบอบประชาธิปไตย แบบไทยๆ ของตนเอง

หมายถึง การเป็นนายกฯโดยไม่ต้องสมัครผู้แทนฯให้เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ใช่ไหม?

หมายถึงการที่เป็นนายกฯ คนเดียวตลอดไปใช่ไหม?

หมายถึงนายกฯ คนที่ชื่อเปรมนั้นไม่ต้องรับผิดในสิ่งใดและต่อใครใช่ไหม?

หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมจะต้องอยู่เหนือคำวิพากษ์วิจารณ์ ใครแตะต้องไม่ได้ ใช่ไหม?

หมายถึง ความเป็นนายกฯนั้นมีแต่เสวยสุข ไม่มีทุกข์กับใคร ใช่ไหม?

ได้อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำหลวง ไฟหลวง ใช่ไหม?

จะไปไหนก็ใช้รถหลวง เรือหลวง หรือหลวงออกค่าโดยสารเครื่องบินให้ยกโขยงกันไปเที่ยวต่างประเทศได้ ใช่ไหม?

จะไปไหนก็มีคนมาเรียงรายคอยต้อนรับ บางแห่งถึงกับก้มลงกราบกับพื้นดิน ใช่ไหม?

ความ คิดเหล่านี้ก่อให้เกิดตัณหาอุปาทาน อันเป็นต้นเหตุของอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ โลภะ ทำให้เกิดความอยากเห็นความคิดของตนเป็นผล จริงจังขึ้นมา เพื่อทุกอย่างที่ตนปรารถนาจะให้เกิดขึ้นจะได้เกิดขึ้น และเห็นจะเป็นเพราะความอยากนั้นเองที่ทำให้คนเหมาเอาคำว่า ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ในพระราชดำรัสนั้นตรงกับความ หมายที่ตนคิดไว้ ถึงกับดีอกดีใจสั่งให้เผยแพร่ต่อๆ ไป เป็นการตู่พระราชดำรัสโดยแท้ ในหลวงนั้น ทรงเป็นล้นพ้นในทุกกรณี ไม่ควรที่ใครจะไปเหมาเอาว่า พระราชดำริใดๆ ตรงกับความคิดของตนเองได้

เพราะ ฉะนั้นต่อ ไปนี้ หากคุณเปรมหรือรัฐบาลคุณเปรม ไม่ว่าจะเป็นเปรม 5 เปรม 6 ไปจนถึงเปรม 432 จนกระทำสิ่งใดโดยอ้างว่า เพื่อเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ แล้ว จะต้องถือว่าการกระทำนั้นเป็นความคิดของคุณเปรมเองแต่ผู้เดียว ไม่ใช่ตามความหมายในพระราชดำรัส ใครไม่เห็นด้วยก็อาจแย้งได้ คุณเปรม ไม่มีสิทธิ์ที่จะอ้างว่า ทำไปตามพระราชดำรัสเพื่อปกป้องคุ้มกันตนเอง เมื่อมีอะไรเสียหายเกิดขึ้นคุณเปรม จะต้องรับผิดด้วยตนเอง จะไปซัดความผิดให้แก่ใครไม่ได้ จะอ้างว่าทำไปด้วยความจงรักภักดีก็ไม่ได้เด็ดขาด คุณสมัคร สุนทรเวช ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน แต่แทนที่ใครจะได้สติ คุณสมัครกลับถูกโจมตีมากมายทางวิทยุและทางอื่นๆ

ผม ได้อ่านคำชี้แจงของคุณสมัครในหนังสือพิมพ์เดลิมิเลอร์ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสมัครถูกโจมตีนี้แล้ว รู้สึก จับใจในความรู้จักประมาณตนของคุณสมัครมาก ไม่เสียทีที่คุณสมัครเกิดมาในตระกูลข้าราชสำนัก มีบรรพบุรุษเคยใกล้ชิดพระองค์มาก่อน รู้ต่ำรู้สูง รู้สิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควร

คึกฤทธิ์ ปราโมช
******************************************

จากคุณ : Caesar.
เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 10:31:52 A:124.122.247.171 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com