ความคิดเห็นที่ 1 จะชื่นชมทักษิณก็ชื่นชมไปเถอะครับ แต่จะมาโมเมว่าไม่มีความผิด หาว่าถูกกลั่นแกล้ง ประท้วงไล่ ไม่เขินอายบ้างเลยหรือไง ------------------------------------------------------------- ไม่อายครับ เพราะมันคือความจริงครับ เกรียนมันออกมาไล่จนมีรัฐประหาร ทำไมต้องอายครับ??? จากคุณ : The Zombie เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 00:50:35 A:125.25.229.90 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ... จากคุณ : เกลอเก่า เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 00:54:02 A:125.24.222.144 X:

ความคิดเห็นที่ 3 จะฟ้องไม่ฟ้องมันเรื่องของเขา  ไปยุ่งอะไรกับเขาครับ ?? แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 00:58:28 จากคุณ : The Zombie เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 00:57:25 A:125.25.229.90 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คุณก็ลองไปเฝ้าหน้าศาลสิครับ ถ้าเห็นเค้ามาจะได้ไม่ต้องมาถามในนี้ หรือเค้าอาจจะยื่นไปแล้ว แต่นักข่าวไม่เห็น เลยไม่มีข่าว โอเคไหม? จากคุณ : อ๋องHWN เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 01:03:09 A:124.121.79.58 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ทักษิน เล่นหุ้นอะไรเหรอ ถึงต้องเสียภาษี แต่ที่ลุงเล่น ไม่เห็นเสียภาษีเลย...งง ไม่รู้แบบเดียวกันป่าว อิอิ จากคุณ : ลุงเอเจ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 01:20:24 A:124.157.187.142 X:

ความคิดเห็นที่ 6 >แต่ถ้าไม่ฟ้อง ก็เลิกพูดเสียที เรื่องขายหุ้น(ที่ถือในนามนิติบุคคล)ไม่ต้องเสียภาษี แล้วกองทุนหรือสถาบันต่างๆ ที่ทำการซื้อขายหุ้นในตลาดต้องเสียภาษีหรือครับ? ขอนอกเรื่องครับ จริงๆแล้ว ถ้าคิดจะโกงหรือหลีกเลี่ยงการเสียภาษีกำไรหุ้น ก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรเลย 1. ให้ แอมเปิลริช ขายหุ้นราคา 49.25  ก็จะทำให้กำไรส่วนต่างเป็น 0 2. ถ้าจะให้ดูเป็นขาดทุน แอมเปิลริชก็ขายหุ้น ที่ราคา 100 บาท/หุ้น แค่นี้  ส่วนต่างราคา ก็เป็นการขาดทุนแล้ว ขาดทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี 3. เท่าที่ฟังการชี้แจงของ อ.สุวรรณ ก็เป็นการขายในตลาด ซึ่งไม่มีใครเสียภาษีอยู่แล้ว สรุป ผมว่า  ทางตระกูลชินวัตร น่าจะลองเปลี่ยนทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายให้มีความรอบคอบมากกว่านี้ครับ  เท่าที่ผ่านมาเกิดจากการหลุดหรือเปิดช่องให้โดนเล่นงาน ข้อกฎหมายมันดิ้นได้ อยู่ที่คนตีความเข้าข้างไหน แก้ไขข้อความให้ชัดเจนครับ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 01:24:30 จากคุณ : unok เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 01:20:43 A:125.25.247.211 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ผมไม่ได้รักคุณทักษิณ  แต่ชื่นชอบ ที่น่าจะรักกว่า คือ ลูกสาวท่านครับ....น่ารักจริง ๆ ปล.  ไม่เกรียน  ห้ามด่า  มาขำ ๆ (ยังไงก็รักแฟนของกระผมมากกว่าน้องแกนั่นแหละ แหะ ๆ ๆ ) จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 01:32:11 A:58.136.219.190 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ศาลปกครองกลางให้ ธ.ไทยพาณิชย์ ปฏิบัติตามคำสั่ง คตส. พร้อมถอนคำสั่งสรรพากรที่ต้องการเก็บภาษีการซื้อ-ขายหุ้น 1.2 หมื่นล้าน ด้านฝ่าย กม.ไทยพาณิชย์ พร้อมทำตามคำสั่งจนกว่าจะได้รับการเปลี่ยนแปลง           เมื่อ วันที่ 30 กันยายน นายจรวย หนูคง หัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ตุลาการเจ้าของสำนวน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา กรณีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ฟ้องต่อศาลว่า ควรปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานใด ระหว่างการอายัดเงินในบัญชีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส.) กับคำสั่งอายัดเงินของกรมสรรพากร เพื่อเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร วงเงิน 12,000 ล้านบาท           ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาแล้วว่า คตส. มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบุคคลทั้ง 2 ในการเป็นกรรมการของบริษัท แอมเพิลริช ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น ให้กับบริษัท เทมาเส็ก ซึ่งเป็นการดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย และคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2550 ด้วยให้อายัดเงินในบัญชีต่าง ๆ ที่ฝากไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นคำสั่งที่เกิดขึ้นก่อนคำสั่งของกรมสรรพากร แม้ว่า คตส.จะยุติบทบาทและถ่ายโอนอำนาจต่าง ๆ ไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงใด ๆ นับว่าเป็นการดำเนินการก่อนคำสั่งอายัดเงินของกรมสรรพากร เพื่อเก็บภาษีเป็นเวลาถึง 5 เดือน และเห็นว่าทั้ง 2 องค์กร มีเจตนาอายัดเงิน เพื่อให้เป็นของแผ่นดิน           ดังนั้น ศาลจึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของกรมสรรพากร เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์ปฏิบัติตามคำสั่งของ คตส. ต่อไป           ด้านนาย นิยม วานิชวัฒนรำลึก ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการด้านกฎหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาแล้ว ทำให้ธนาคารมีความชัดเจนในการดำเนินการตามคำสั่งของ คตส. และจะอายัดเงินในบัญชีต่าง ๆ ของบุคคลทั้ง 2 ไปจนกว่าคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าวจะสิ้นสุด หรือมีคำเปลี่ยนแปลงของ ป.ป.ช --------------------------------------------------------------------------- ก็ในเมื่อถ้าเด็กมันจะผิดจริง.. ไม่ว่าผิดเพราะเจตนา หรือ ผิดเพราะไม่เจตนา.. เมื่อศาลตัดสินคดีเป็นที่สุดแล้ว ถ้าจะต้องปรับก็ต้องปรับ ซึ่ง เด็กมันต้องยอมอยู่แล้ว ในฐานะของบุคคลที่ต้องทำตามคำพิพากษา.. แต่กาลปรากฎว่า คตส. ที่ทำเรื่องอายัดทรัพย์ในกรณีนี้ ไม่ยอม ถอนอายัด แล้วเด็กมันจะเอาที่ไหนมาจ่ายค่าภาษีรวมค่าปรับให้ สรรพากร.. แถมยังมีบางคน เปิดประเด็น ไล่ให้ไปฟ้องศาลภาษี เข้าไปอีก.. ให้มันยุ่งอีรุงตุงนังกันเข้าไปใหญ่.. มันยังไม่เท่านั้น.. เมื่อครบกำหนดไม่ได้การฟ้องศาลภาษี ทีนี้ สรรพากร มีหน้าที่ต้องเรียกเก็บค่าภาษีรวมค่าปรับ.. ถ้าเด็กมันไม่มีให้เนื่องจากทรัพย์ถูกอายัดอยู่ จะทำยังไงกับมันต่อไป.. ยังไม่ชำระ..ค่าปรับมันมิเดินไม่หยุดหรือนี่.. เมื่อถึงเวลานี้ ควรหรือยังที่ คตส.หรือหน่วยงานที่รับมอบงานมาจาก คตส. จะเพิกถอนการอายัดทรัพย์กับคนทั้งสอง.. คดีที่ท่านทำน่ะสิ้นสุดแล้ว จำเลย ยอมรับในความผิดและพร้อม ที่จะปฎิบัติตามคำพิพากษา.. หากท่านละเลย มองได้ไหมว่า นี่คือการเจตนากลั่นแกล้ง..!! แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 02:14:55 จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 02:00:12 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าวกลับมาแล้วรึ ป้อม   แสดงว่าชาวงนี้ไม่มีตังเลยตังโพส เง้อ เอาเป็นว่าผมเห็นใจนะ รับจ้างโพสก็อย่างนี้แหละ อ่อ ไม่ต้องลามนะว่าผมทำอาชีพแะไร เอาเป็นว่า ผมเป็นสถาปนิก แล้วคุณทำการทำงานไรบ้างป่าว โอเคมะ ป้อม จากคุณ : golf_archi เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 03:21:46 A:125.24.228.203 X:

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะไปจ้องเล่นงานเขาคนเดียวน่ะสิ ทั้งๆที่เขาก็ทำเหมือนๆกับนักธุรกิจที่ไปสยบเท้าอำมาตย์ทำและทำมาก่อนมากมาย จากคุณ : ยายมี ยายมา เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 04:32:09 A:124.121.18.177 X:

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจว่าเขาไม่ยอมจ่าย แล้วคุณก็ต้องไปฟ้องเอาจากเขามากกว่ามั้ง จากคุณ : DangDame เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 05:01:59 A:124.121.7.139 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าอดีตนายก ฯ ไม่มีปัญหากับสนธิ ลิ้มทองกุล  เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นไหม ? จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 05:37:30 A:58.8.169.9 X:

ความคิดเห็นที่ 13 โธ่เอ๊ย ไอ้มะขามป้อม จะเกลียดเค้าอะไรกะนักกะหนา....ฮ๊า. จากคุณ : candleman เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 07:34:42 A:112.142.136.247 X:

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ : golf_archi   ตื่นมาก็ขอตอบคุณคนแรก มาหาว่าผมรับจ้างโพส แล้วหายหน้าไป แถมคุยว่าเป็นสถาปนิก ถามว่าผมทำอาชีพอะไร เรื่องรับจ้างโพสนี่ปกติคนในราชดำเนินหลังๆนี่ไม่มีใครกล้ากล่าวหาผมง่ายๆ ผมเคยให้ตรรกง่ายๆว่าอย่างน้อยคนรับจ้างโพสควรมีองค์ประกอบคือ ๑.เป็นสมาชิกในช่วงไม่เกิน ๕ ปีนี้ ๒.เชียร์อยู่ข้างเดียว ๓.มีเวลาโพสกลางวัน วันทำงาน ซึ่งผมขาดองค์ประกอบทั้ง ๓ ข้อ เป็นสมาชิกมายาวนาน ไม่ได้ฝักฝ่ายใดข้างเดียว ไม่มีเวลาโพสกลางวัน จะดูหลักฐานก็ได้ ในคลังกระทู้เก่า http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/P2451579/P2451579.html **อัปยศสุด ๆ!! มติครม.ที่อนุมัติให้คลังสั่งธนาคารออมสินอุ้มธ.ทหารไทยที่มีพานทองแท้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่** กระทู้นี้อยู่ในคลังกระทู้หน้าสุดท้ายในราชดำเนิน ส่วนถามว่าผมอาชีพอะไร ผมไม่ตอบหรอกครับ ในราชดำเนินมันเป็นโลกเสมือน แล้วถ้าจะให้ผมตอบจริงๆก็ตอบยาก ถ้าอาชีพคืองานที่เราต้องใช้เวลากับมันมากที่สุดก็คำตอบหนึ่ง ถ้าอาชีพคืองานที่ทำให้เรามีรายได้หลักก็อีกคำตอบหนึ่ง ถ้าอาชีพคืองานที่เรารักอยากทำก็อีกคำตอบหนึ่ง แต่คุณเป็นสถาปนิก ผมบอกใบ้ให้ ว่างานหนึ่งของผมนั้น ไม่ใช่สถาปนิก แต่มีลูกน้องเป็นสถาปนิก ส่วนถามว่าผมหายไปไหน ไม่สำเหนียกจริงๆหรือครับ ว่ามีเหตุการณ์อะไรช่วงนี้ โดยส่วนตัว ผมว่าบางเรื่องถ้าเลิกไม่ได้ ก็ต้องลด จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 07:42:45 A:124.120.226.51 X:

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ : sao..เหลือ..noi   ถ้าสนธิไม่มีปัญหากับทักษิณ อะไรจะเกิดขึ้น มันก็คงไม่ต่างกับเสื้อแดงตอนถูกปฎิวัติใหม่ๆหรอกครับ ไม่มีแกนนำก็ยังไม่สามารถรวมพลัง แต่พลังมันสะสมไว้ รอการปลดปล่อย ผมว่าตอนภริยาทักษิญประมูลที่ดินรัชดา ทักษิณเอื้อชิน คนชั้นกลางรับได้ แต่ตอนลูกทักษิณถูกสรรพากรอุ้มเรื่องภาษี ไม่มีใครรับได้ ไม่มีสนธิ โดยธรรมชาติสุดท้ายแล้วมันก็จะมีคนออกมาเป็นแกนนำเอง จะด้วยบริสุทธิ์ใจ หรือเป็นศัตรูทักษิณ มันไม่สำคัญหรอกครับ คนที่รอตามประท้วงมีมาก ไม่ต่างกับสามเกลอทุกวันนี้ เสื้อแดงหลายคนก็ไม่ได้ชอบเท่าไร แต่ก็ยอมให้เป็นแกนนำ ดีกว่าไม่มี จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:12:39 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : Vee&Cat   กรณีคดีร่ำรวยผิดปกติ ถ้าคตส.เชื่อว่าทักษิณผิด จะให้ คตส. ไปถอนอายัดไม่ได้ แต่กรณีภาษีนี้คุณเข้าใจผิด มันยังไม่ถึงศาลนะครับ ยังอยู่แค่กรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ถ้าลูกทักษิณไม่ฟ้องศาลภาษี เรื่องก็ไม่มีทางถึงศาล หมายถึงยอมรับตามคำคัดสิน แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปมันคงซับซ้อน ต้องดูผลคดี คตส. ถ้าออกมาว่าลูกทักษิณเป็นนอมินี ผมว่าภาระภาษีนี้น่าจะตกอยู่ที่ทักษิณมากกว่า แต่ถ้าลูกทักษิณไม่เป็นนอมินี ก็ต้องได้เงินที่อายัดทั้งหมดคืน เอาส่วนหนึ่งมาจ่ายภาษี ว่าแต่ว่าแน่ใจแล้วหรือครับว่าลูกทักษิณไม่สู้ต่อในชั้นศาลภาษี จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:29:01 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 17 เสื้อแดงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะถูกหาว่าผิดไปหมด เสื้อเหลืองต่อให้พูดแต่เรื่องโกหก ก็ยังเชื่อเป็นตุเป็นตะ พูดถูกไปซะทุกอย่าง อย่าหาว่าเบี่ยงเบนประเด็นเลยนะครับ แต่คุณเชื่อมั๊ยครับว่าราคาของงาช้างไม่เกิน 3000 บาท ถ้าพูดถึงเรื่องอย่างนี้ มันทำให้ผมนึกถึงภาพนี้ครับ จากคุณ : Jump Master เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:29:06 A:58.9.147.203 X:

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ : candleman   ผมนะเกลียดวิธีการต่อสู้ของทักษิณ ไม่เคยดูตัวเองว่าผิดอะไร ถ้าศาลตัดสินว่าผิด ก็ว่าศาลไม่เป็นธรรม ถ้าจุดยืนของทักษิณมันเป็นแบบนี้ ประเทศถึงทางตัน ทางออกดีๆกว่านี้มีมาก ผมว่าถ้าเอากันจริงๆ คดีทุกคดีที่ คตส.ฟ้องเอง จะออกกฎหมายยกเลิกเสียตอนนี้ ก็เป็นไปได้ คดีที่ศาลตัดสินไปแล้ว เป็นฮีโร่เดินเข้าคุกสักไม่กี่วัน ผมก็เชื่อว่าได้ออกมา อยากเป็นฮีโร่น้อยหน่อย ทำเรื่องนอนโรงพยาบาลแทนนอนคุกก็ยังได้ แต่ทั้งหมดนี้ภายใต้หลายๆปัจจัย โดยข้อแรกคือทักษิณต้องดูตัวเองก่อน แล้วก็ต้องแยกตัวจากพวกแดงสายจักรภพให้ชัด ไม่ใช่แทงกั๊ก แล้วมาด่าศาลข้ามโลก ปั่นม็อบมาต่อสู้ เอาจิ๋วไปยุ่งกับเขมร คิดหรือว่าทำแบบนี้เรื่องจะจบ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:38:43 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 19 เล่นหุ้นเหมือนกัน ลุงเอเจ ไม่เคยเสียภาษีจากเงินที่ได้ซักบาท คิดบ้องตื้น ไม่มีใครเก็บภาษีอยู่แล้ว คนเล่นทุกคนก็รู้ เพราะการเล่นหุ้น มันเสี่ยง ทำไม คนชอบดูแต่ขายได้กำไร เท่านั้น เท่านี้ ทำไมไม่จ่ายภาษี ทำไม ไม่หันไปแลตอนที่เขา หนีตาย เททิ้ง ขาดทุนยับมั่งว้า? เพราะ มันมีทั้งได้เงิน และเสียเงิน รัฐจึงไม่เก็บภาษี ไปคอยแต่อิจฉาคนที่เขา ได้กำไร อยู่นั่นแหละ อย่ามาตะแบงอีกล่ะ ว่าเล่นพนัน แล้วยังอยากนอนเตียง หุ หุ จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:43:21 A:115.87.12.22 X:

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ : Jump Master   อภิสิทธิ์นะ ผมเคยเขียนในราชดำเนินในกรณีงาช้างแล้ว ว่าถ้าไม่ผิดมาตรา ๑๐๓ เพราะรีบเอาไปคืน ถ้าทำผิดอีกก็น่าจะปลดเพราะความโง่ ไม่รู้ราคางาช้าง เจอกรณีแหวนหนึ่งสลึง ผมยิ่งว่าต้องรีบปลด ปัญหามันมีอยู่ว่า ปชป.มันมีคนฉลาดกว่านี้หรือเปล่า เจอรมต.สาทิตย์ออกมาบอกว่าซื้อมาตอนบาทละ ๔๐๐ ไม่ผิด ผมว่าน่าจะปลดทั้งคู่ บ้านเมืองทุกวันนี้มันดูตีบตันไปหมด ไร้ทางออก จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:43:48 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส   เคยเล่นหุ้นในนามนิติบุคคลไหมครับ เสียภาษีไหม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:44:51 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ : ยายมี ยายมา   คนเล่นหุ้นในนามนิติบุคคลในไทย เสียภาษีทุกคนครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:46:34 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ : archparty   น้องเอม นี่ผมเคยโต้กระทู้แทนเธอ ตอนที่ถูกด่าเรื่องย้ายคณะ เป็นประวัติศาสตร์ของกระทู้ราชดำเนินยุคนั้น ที่โต้กันเป็นร้อยความเห็น ข้ามอาทิตย์ ผมถูกรุมด่า แล้วสุดท้ายถูกลบทั้งกระทู้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:50:06 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ทักกี้ขายหุ้นเสียหรือไม่เสียภาษีก็ยังต้องพิสูจน์กันต่อไป ณ วันนี้คดีก็ยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้นซักที ถ้ามันผิดเข้าข้อกฎหมายชัดเจนจริง ๆ ทำไมคดีมันจบยากจัง ?????? คุณป้อม..วิเคราะห์เก่ง ช่วยตอบให้หายข้องใจหน่อยซิ อะไร...ที่ทำให้ยืดเยื้อขนาดนี้ เพราะคน เพราะข้อกฎหมาย หรือเพราะอะไร ????? จากคุณ : มีสติ__ก็คิดได้ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:57:09 A:125.27.25.188 X:

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ : unok   กองทุน มันมีกฎหมายแยกอยู่แล้ว หุ้นถ้าไปภือในนามบริษัท มันก็คือสมบัติชิ้นหนึ่งของบริษัท ซื้อมาขายไป ได้กำไร ถือเป็นรายได้ กรณีให้แอมเพิลริชขายราคาจริงให้เทมาเสก ปัญหามันก็มีง่ายๆว่า ๑.เทมาเสกจะซื้อไหม ๒.การที่ผู้ถือหุ้นเอาปันผลจากแอมเพิลริชเข้าประเทศเสียภาษีไหม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:57:50 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ : มีสติ__ก็คิดได้   มันจบยาก เพราะ ๑. ถ้าทักษิณผิด สรรพากรก็ผิดด้วย ๒. เรื่องมันซับซ้อน เคสแบบนี้เป็นเคสแรก ๓. ดันมีเรื่องร่ำรวยผิดปกติเข้ามาอีก ซึ่งมันขัดแย้งกันเอง ถ้าลูกนายกเป็นนอมินี ก็ไม่ควรเสียภาษี จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:07:43 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 25     คุณ : unok   กองทุน มันมีกฎหมายแยกอยู่แล้ว หุ้นถ้าไปภือในนามบริษัท มันก็คือสมบัติชิ้นหนึ่งของบริษัท ซื้อมาขายไป ได้กำไร ถือเป็นรายได้ กรณีให้แอมเพิลริชขายราคาจริงให้เทมาเสก ปัญหามันก็มีง่ายๆว่า ๑.เทมาเสกจะซื้อไหม ๒.การที่ผู้ถือหุ้นเอาปันผลจากแอมเพิลริชเข้าประเทศเสียภาษีไหม จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 08:57:50 A:124.120.229.240 X:     ผมอ่านแล้วก็มีคำถามครับ ถ้ามันต้องเสียภาษี และเรื่องจริงคือ ทักษิณไม่เสียภาษี ผมว่า มันก็จบได้ ภายใน สามวินาทีนะครับ แต่นี้ สามปี ยังไม่จบ อะไรคือความยาก ในการทุบโต๊ะ บอกว่า  ทักษิณผิดครับ จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:10:12 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ : The Zombie   ถ้าลูกนายกไม่ฟ้อง ก็คือยอมรับผิด การที่คนออกมาประท้วงนายกเรื่องนี้ ย่อมถือว่าทำถูกต้อง จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:10:14 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 29 21 เข้าใจ................ อันนี้ เป็นกรณีเดียวกับที่ มีการถามไปกรมกรมสรรพากรใช่ไหมว่า ต้องเสียภาษีไหม? แล้วกรมฯ บอกว่าไม่เสีย แล้วตอนหลังกลับลำ จึงต้องฟ้อง? สรุปว่า ถ้าเป็นนิติบุคคล ซื้อขาย ต้องเสียภาษี คือถือเป็นเงินได้ของบุุคคลธรรมดา ถ้าไม่ได้กำไร ก็ไม่ต้องเสีย เข้าใจ เข้าใจ แต่มันแปลกๆ จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:11:11 A:115.87.12.22 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 26     คุณ : มีสติ__ก็คิดได้   มันจบยาก เพราะ ๑. ถ้าทักษิณผิด สรรพากรก็ผิดด้วย ๒. เรื่องมันซับซ้อน เคสแบบนี้เป็นเคสแรก ๓. ดันมีเรื่องร่ำรวยผิดปกติเข้ามาอีก ซึ่งมันขัดแย้งกันเอง ถ้าลูกนายกเป็นนอมินี ก็ไม่ควรเสียภาษี จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:07:43 A:124.120.229.240 X:   ผมจำได้ว่า ทักษิณไม่มีหุ้นนะครับ ตอนเป็นนายก จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:11:40 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 28     คุณ : The Zombie   ถ้าลูกนายกไม่ฟ้อง ก็คือยอมรับผิด การที่คนออกมาประท้วงนายกเรื่องนี้ ย่อมถือว่าทำถูกต้อง จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:10:14 A:124.120.229.240 X งั้น การที่ เปรม ไม่ฟ้องทักษิณ กล่าวหาว่าเขาอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ ก็แสดงว่า เปรมทำจริง การทีคนเสื้อแดงออกมาด่า ก็ถือว่าทำถูกต้องแล้ว จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:13:01 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : ธนูไฟ   สรรพากรยุคนั้นบอกทำนองว่า แอมเพิลริชขายหุ้น ๑ บาท ธุรกรรมเกิดในต่างประเทศ คนซื้อไม่มีภาระภาษี ส่วนแอมเพิลริชเป็นบริษัทต่างชาติ ทางการไทยตามไปเช็คบิลไม่ได้ แม้ว่ากรรมการเป็นคนไทย เจอแบบนี้เข้า คนที่จะเก็บภาษีก็ต้องหาหลักฐานสู้ ว่า ธุรกรรมเกิดในไทย หุ้นเป็นแบบไม่ใช้ใบหุ้น  คนซื้อมีภาระภาษีเพราะซื้อในฐานะกรรมการ ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 09:33:17 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:15:10 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ความเกลียดชังทำให้มือคติ อคติทำให้จิตมืดบอด จิตมืดบอดทำให้เห็นผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ..ผิดน้อยก็กลายเป็นผิดมาก ผิดมากก็กลายเป็นผิดน้อย ยอมเผาบ้านทั้งหลังเพื่อฆ่าหนูตัวเดียว.. ..++เวรกรรม-ประเทศไทย++ จากคุณ : stockmachine เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:18:42 A:58.64.58.210 X:

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : ธนูไฟ   คนมาด่า หรือใส่ความเรา มีคนสัก ๑ ในพันคนมังครับ ที่ฟ้องศาล แต่สัก ๑ ในหมื่นจะต่อยปากคนด่า แต่สัก ๑ ใน ล้าน จะหาทางลงโทษคนด่าอย่างสาสม มากกว่าต่อยปาก แต่ถ้าต้องเสียเงินสักหมื่นล้าน คิดว่าถูกไม่ฟ้องศาล ปกติมีไหมครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:19:17 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ : stockmachine   แต่ตอนนี้ที่เห็นก็มีหนูหลายตัววิ่งพล่านนะครับ ที่แอบๆซ่อนๆไว้ก็ทยอยเปิดตัวออกมาหมด จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:20:48 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 36 คุณปอม แล้วถ้า บริษัท ขายให้คนในของตัวเอง ได้ใช่ไหม? แล้วคนใน เอาไปทำกำไรอีกต่อ ได้ใช่ไหม? ตรงนี้กระมัง ที่เห็นว่า สองพี่น้อง เป็นกรรมการ จึงไม่น่าเสีย แบบนี้ กรมสรรพากร น่าจะรับแบ่งความผิดไปด้วย โทษฐาน แปลกฎหมายภาษีบกพร่อง หุ หุ จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:21:52 A:115.87.12.22 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ลุงเอเจ ลองหัดเล่นหุ้นในนามนิติบุคคลซิครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:22:20 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 38 "ผมเคยเขียนในราชดำเนินในกรณีงาช้างแล้ว ว่าถ้าไม่ผิดมาตรา ๑๐๓ เพราะรีบเอาไปคืน" ทีอย่างนี้ทำผิดไปแล้ว จะมาแกล้งหลับตาไปข้างนึง ...วันนึง คุณโดนโจรปล้นบ้านโจรถูกจับได้และโจรรีบคืนของให้คุณแล้ว ถือว่าจบๆกันไป? คุณทำผิดแล้วพึ่งมารู้ว่าผิดเลยรีบเอาไปคืน? ถือว่าไม่ผิด ตรรกะอย่างนี้แหล่ะเสื้อเหลืองก็ใช้ประจำ สนธิ ชาบูชาบู หรือในเรื่องคดีเนวิน กล้ายาง หวยบนดิน หรือยุบพรรคที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่ใช้เป็นเหตุผลปฏิวัติ ทำไม๊คะแนนการตัดสินมันหลุดออกมาได้ในมือทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง แบบเป๊ะๆๆ ไม่ต้องกลับตัวเลข แถมจู่ๆคนฟ้องดั๊นไปเป็นพยานให้จำเลยอีก นี่ขนาดแค่เรื่องคะแนนนะ แล้วเรื่องอื่นๆที่มันลับกว่านี้ ไม่ได้หลุดออกมา มันจะมีความถูกต้องจะให้คนเชื่อถือได้ยังไง แม้แต่การตัดสินคดีความอาญา ยังให้ถือมีความผิดย้อนหลัง เป็นที่แรกในโลก ถามจริงๆครับ ถ้ามีการแข่งบอลนัดนึงแล้วรู้ๆว่ากรรมการเขาล็อกผลการแข่งขันไว้ แล้วคุณจะเข้าร่วมไหม? ถ้าไอ้คนมันศรัทธาระบบยุติธรรมจะไปเคลื่อนไหวปฏิวัติทำไมครับ มันเหมือนไม่ใช่ลูกผู้ชาย แล้วตอนร่างรัฐธรรมนูญทำในช่วง รัฐบาลทหาร คุณคิดว่าเขาไม่ได้คิดเล่นงานทักษิณเหรอ? ไม่กลัวทักษิณจะเอาคืนเหรอ ถ้าผมเป็น คมช.ผมต้องทำไว้อยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 09:25:58 จากคุณ : subzero เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:23:24 A:58.8.192.4 X:

ความคิดเห็นที่ 39 เล่นของตัวเองก็หน้ามืดแล้วคุณปอม นี่ไปแบกของหุ้นส่วนอีก นั่นต้องมือโปรแล้ว ไม่ได้ถาม แต่อยากตอบ จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:25:29 A:115.87.12.22 X:

ความคิดเห็นที่ 40 คุณลองสมมตินะว่า สมมติฐาน ถ้ามีการแทรกแซงกระบวนยุติธรรม หรือ องค์กรอิสระ ตั้งแต่ตอนปฏิวัติ เพื่อเล่นงานคุณ คุณจะยังเดินหน้าให้เขาเล่นตามเกมส์เขาหรือคับ ในเมื่อเขาวางพล็อตไว้ว่า 1.คุณโดนจำคุก 2 ปี คดี xxx 2.คุณโดนจำคุก x ปี คดี xxx 3.คุณโดนจำคุก x ปี คดี xxx คุณจะกลับมาไหม? พูดมากก็หาว่าหมิ่นศาล ทำไมตอนปฏิวัติต้องให้ นายจรัญ ภักดีธนากุล ได้ตำแหน่งประธาน ตุลาการรัฐธรรมนูญ ทำไมในหลายๆตำแหน่งของกระทรวงยุติธรรม กกต คตส ปปช หรือองค์กรศาล มีการโยกย้ายในช่วงรัฐบาลทหาร แล้วคนที่ได้ยึดตำแหน่งสำคัญๆ ก็เป็นพวกต่อต้าน(ศัตรู)ทักษิณมาก่อนทั้งนั้น? บางคนเคยขึ้นเวที พธม.ด้วยซ้ำ ถ้าตอนปฏิวัติคุณมั่นใจว่าคุณศรัทธายุติธรรมคุณก็หาคนเป็นกลาง มาตัดสินที่ทุกคนยอมรับได้สิ ไม่ใช่เอาศัตรูมาตัดสินคุณ จะได้ไม่มีข้ออ้าง ....... จากคุณ : subzero เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:36:00 A:58.8.192.4 X:

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อให้เรื่องขายหุ้นผิดจริง  โทษก็แค่ปรับ แต่การทำรัฐประหาร โทษถึงประหารชีวิต การยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ความผิดและความเสียหายก็มากมายกว่าเหลือคณานับ คุณแยกแยะไม่ออกหรือครับ? ..ถึงเห็นเรื่องขายหุ้นไม่เสียภาษีเป็นเรื่องใหญ่ แล้วหลับตาทำมองไม่เห็น กับโทษมหันต์ของการทำรัฐประหาร การยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ที่ผมพูดนี่ไม่ได้หมายความว่าให้ละเลยกับการทำผิดเล็กน้อยนะครับ แต่แค่ไม่เข้าใจ ที่คุณเอาเป็นเอาตายกับความผิดเล็กน้อยของคนหนึ่ง ในขณะที่เพิกเฉยกับความผิดร้ายแรงของอีกคน อีกกลุ่ม ผมว่านี่คือ อคติล้วนๆ จากคุณ : stockmachine เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:40:32 A:58.64.58.210 X:

ความคิดเห็นที่ 42 รูปใน #17 น่ากลัวจัง เกิดมาไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้ จากคุณ : แสนเบื่อ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:44:19 A:220.245.97.120 X:

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 26     คุณ : มีสติ__ก็คิดได้   มันจบยาก เพราะ ๑. ถ้าทักษิณผิด สรรพากรก็ผิดด้วย ๒. เรื่องมันซับซ้อน เคสแบบนี้เป็นเคสแรก ๓. ดันมีเรื่องร่ำรวยผิดปกติเข้ามาอีก ซึ่งมันขัดแย้งกันเอง ถ้าลูกนายกเป็นนอมินี ก็ไม่ควรเสียภาษี จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:07:43 A:124.120.229.240 X:     - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - คุณป้อมครับ 1. ถ้างั้นทำไมไม่ฟ้องที่สรรพกรก่อน แล้วทำให้ธุรกรรมนั้นเป็นโมฆียะละครับ ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า ทักกี้ไม่ใช่ซิ ลูก ๆ ทักกี้ ทำธุรกรรมเพราะได้คำตอบจากสรรพกรเช่นนั้น !!! 2. มันจะซับซ้อนได้งัยครับ ในเมื่อคุณป้อมเองยังยกกฎหมายมาฟันธงได้เลยว่า ขายหุ้นในนามนิติฯ ต้องเสียภาษี กรุณาบอกเหตุอันซับซ้อนได้มั้ยครับ 3. อย่าได้โยงเรื่องร่ำรวยผิดปกติเลยครับ ผมทำธุรกิจแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเป็นธุรกิจใหญ่โตมหาศาล กำไรแค่ 4-5 ปีติดต่อกัน ก็คงได้เป็นหมื่น ๆ ล้านแล้วครับ ส่วนการซุกหุ้น ผมขอพูดซักนิดเถอะ ผมเห็นว่าโดยสุจริตชนแล้วย่อมละทิ้งหุ้นทั้งหมดเพื่อเข้าเล่นการเมือง แต่...คงไม่ละทิ้งธุรกิจของตนเองที่ทำมากับมือหรอกครับ ผมจึงเห็นเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะโอนหุ้น ขายหุ้น ให้กับใครก็ได้ ซึ่งเป็นสิทธิของเขาอย่างที่ใครคนอื่นก็ได้แต่อิจฉามองตาปริบ ๆ ทำไรไม่ได้ เห็นเป็นเช่นไรครับ ???? จากคุณ : มีสติ__ก็คิดได้ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:45:30 A:125.27.25.188 X:

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ : subzero   ถ้าศาลสั่งได้จริง คุณว่าเขาจะสั่งยังไงครับ ตุลาการ  ๙ คน นี้มาจากการเลือกตั้งของตุลาการด้วยกัน ต้องสั่งตุลาการศาลฎีกาเป็นร้อยคน ให้เลือกคนที่สั่งได้หรือ กรณีกล้ายาง คตส.เขาถูกฝ่ายจำเลยใช้คำสั่งศาลให้เป็นพยานนะครับ ศาลสั่งให้ไปนี่ไม่ไปติดคุกเอาง่ายๆนะครับ เรื่องความผิดย้อนหลังนี่พูดกันจัง ศาลเขาต้องตัดสินตามกฎหมาย กรณีนี้คำสั่งคณะปฎิวัติเป็นกฎหมาย ซึ่งกรณีเว้นวรรค ๕ ปีนี้ มันจะตีความว่าเป็นการลงโทษย้อนหลังก็ได้ หรือเป็นการกำหนดคุณสมบัติ สส.เพิ่มเติมก็ได้ แล้วแต่มุมมอง เออ ถ้าออกกฎหมายว่าลงโทษติดคุก อย่างนี้ซิถึงถือว่าลงโทษย้อนหลัง อย่างสมมุติวันนี้ ใครจะแก้กฎหมาย ว่าคุณสมบัติ สส. ต้องไม่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบ จากย้อนหลัง ๕ ปี เป็น ๑๐ ปี แบบนี้จะตีความว่าลงโทษย้อนหลังก็ได้ หรือตีความว่าเป็นการแก้ไขคุณสมบัติ สส.ก็ได้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:49:36 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องของเรื่อง การซื้อขายไม่ได้กระทำใน ประเทศไทย จากคุณ : Turk14857 เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:51:40 A:222.123.117.191 X:

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ : subzero   กรณีทักษิณติดคุก ๒ ปี มันตัดสินในยุคหลังปฏิวัตินะครับ ประธานก็ไม่ใช่คุณจรัล เข้าใจว่าเป็นคุณทองหล่อ เรื่องนี้ความผิดตามกฎหมาย วัดกันอยู่แค่ กองทุนฟื้นฟูอยู่ในสถานะใด ถ้าอยู่ในกำกับดูแลของนายก ทักษิณก็ไม่รอดคุก ถ้าไม่สำนึกผิด ซึ่งในแง่ฝ่ายที่มองว่านายกกำกับดูแล เพราะ นายกตั้ง รมต. คลัง รมต.คลังตั้งกรรมการกองทุน จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:54:45 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ : Turk14857   นิติกรรมตอนโอนความเป็นเจ้าของ ทำที่ศูนย์ฝากหลักทรัพย์ในไทยครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:56:02 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ : มีสติ__ก็คิดได้   หน่วยราชการแนะนำคุณผิด คุณทำผิดกฎหมาย คุณอาจนำเรื่องนี้ขอหย่อนลดโทษได้ หรือฟ้องกลับก็ได้ แต่มันต้องเป็นตามขั้นตอน อย่างเรื่องนี้เขาให้เสียภาษีก็ต้องเสีย ส่วนจะฟ้องกลับเอามากกว่าที่เสียก็ยังได้ถ้าหลักฐานชัดเจน ซึ่งตรงนี้ต้องดูข้อเท็จจริง ที่มันซับซ้อน เพราะนิติบุคคลนี้ไม่ใช่สัญชาติไทย แต่เป็นสัญชาติในหมู่เกาะฟอกเงิน ส่วนคำว่าร่ำรวยผิดปกติมันภาษากฎหมายครับ ภาษาชาวบ้านคือ ทักษิณถูกกล่าวหาว่า ใช้ลูกเป็นนอมินีถือหุ้นชินขณะเป็นนายก แล้วใช้อำนาจนายกเอื้อประโยชน์ชิน เช่น ลดภาษีมือถือ ดาวเทียม ปล่อยกู้พม่าให้จ้างชิน  เอื้อแอร์เอเซีย เอื้อไอทีวี จนถึงแก้กฎหมายต่างชาติถือครองสื่อสาร เพื่อทำให้ชินได้ประโยชน์ นายกได้ประโยชน์ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 10:08:41 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:05:14 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นความเห็นข้างบนแล้ว ขอลบนะ ควรให้อภัย? ขอโทษ...รับไม่ได้ มาตราวัดของคุณมันแปลกไปแล้ว เอาสองเรื่อง มาชั่งน้ำหนักได้อย่างไร? คิดแปลกๆ ขอลา แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 10:25:10 จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:20:42 A:115.87.12.22 X:

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส   ถ้าขายให้ชาวบ้านทั่วไป เรื่องนี้ยังเถียงกันไม่จบมาเกือบ ๔๐ ปีแล้วครับ ว่าใครควรเสียภาษี ตอนนั้นยุคที่มีการชิงโชคใหม่ๆ ส่งฝากล่องอะไรไปชิงโชค คนสรรพากรออกมาลงข่าวนสพ.หน้าหนึ่งว่า ถ้าไม่อยากให้คนได้รางวัลเสียภาษี ให้ขายให้คนได้รางวัล ๑ บาท ต่อมาในวงวิชาการ อาจารย์ออกมาโต้ว่า คนได้รางวัลต้องเสียภาษี ถือว่าซื้อของถูกในกรณีพิเศษถือเป็นรายได้ แต่กรณีนี้สรรพากรตีความว่ากรรมการซื้อของถูก ถือเป็นรายได้ในฐานะกรรมการ ไม่ต้องตีความประเด็นนี้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:23:48 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส   มันง่ายอย่างงั้น บ้านเมืองก็คงไม่ยุ่งยังงี้ แต่ถามว่าจะให้เขาจ่ายง่ายๆก็ต้องเห็นใจเขา เพราะถ้าสรรพากรไม่ตอบยังงั้น มันมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว เช่น ใช้วิธีผู้มีรายได้ในต่างประเทศ อยู่ในต่างประเทศมากกว่า ๑๘๐ วัน ประเด็นนี้ถ้าทักษิณเป็นนักธุรกิจ แล้วสรรพากรตอบมาแบบนั้น เป็นเรื่องน่าเห็นใจมาก จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:27:38 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส   เมืองไทยมันรอดมาถึงทุกวันนี้ และถ้าจะรอดต่อไปก็เพราะคำว่า ให้อภัย นี่ละครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:29:06 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 54 คุณปอม พูดมากไปก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก คนที่นี่ก็ไม่รู้คิดจะฟังรึเปล่า เอาง่ายๆ ไปตั้งแอมเปิลริชทำไมตั้งแต่แรก เป็นนายกกลัวเสียภาษี? อืม......... จากคุณ : Toey84 เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:41:15 A:202.232.97.210 X:

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ : Toey84   ผมว่ายุคนี้มันต้องพยายามสื่อสารข้อมูลกันทั้งสองฝ่ายครับ แล้วพยายามที่จะเข้าใจอีกฝ่ายให้มากที่สุด ซึ่งถ้าแต่ละฝ่าย เข้าใจกันมากขึ้น มันก็น่าจะดีกว่าทุกวันนี้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:44:38 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 56 ความเห็นที่ 16  คุณ Pom.com ผมก็ยังไม่แน่ใจหรอกครับว่า เด็กทั้งสองคนจะฟ้องศาลภาษีหรือไม่.. แต่หาก คตส.หรือหน่วยงานที่รับมอบ ยังยืนยันไม่ถอนอายัด.. เด็กก็คงต้องฟ้อง.. เพราะถ้าไม่ฟ้อง เมื่อยอมรับคำตัดสิน ก็ต้องจ่าย.. แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ??? .. มันก็กลายเป็นฟ้องดึงเวลาให้ยืดเยื้อกันไป หรือ กลายเป็นประเด็นที่ สามารถเอามาใช้กล่าวหา กันได้ต่อไป เมื่อเวลาที่ต้องการจะบอกว่า ทักษิณผิด  ง่ายๆก็คือ เก็บไว้เป็นประเด็นโจมตีกันทางการเมืองต่อไปได้นั่นเอง.. และนี่คือที่มาของการ "เจตนากลั่นแกล้ง" ตามความเห็นของผม.. -------------------------------------------------------------------------- "กรณีคดีร่ำรวยผิดปกติ ถ้าคตส.เชื่อว่าทักษิณผิด จะให้ คตส. ไปถอนอายัดไม่ได้" ตกลงคดีนี้จริงแล้วใครเป็นคนผิด ???  จะเอาผิดที่ใครดี.. ยิ่งตีความยิ่งเห็นความไม่เป็นธรรม.. พานทองแท้ พิณทองทา บรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ..สามารถทำนิติกรรมใดๆเองได้ โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมใด้จาก ผู้ปกครอง.. ความผิดในฐานหลีกเลี่ยงภาษี จึงเป็นความผิดส่วนตนโดยแท้... แต่ คตส. ดันมองว่า ลูกผิดเพราะเป็น นอมินี พ่อ.. แบบนี้ คตส.ตีความยังไง เกี่ยวกับความผิด ของบุคคล..   หรือเป็นเพียงเพราะ จะเอาผิดพ่อให้ได้ จึง เอานิติกรรมส่วนตัวของลูกมาโยงกัน ตามความนึกคิดเอาเอง โดยไม่ได้มองถึง สิทธิของบุคคลเลย.. ถ้าจะถือ บรรทัดฐาน เอาจากเรื่องนี้ ต่อไป คงต้องแก้กฎหมายกันใหม่หมดในแง่ของ .. สิทธิของบุคคลตามกฎหมาย .. การตัดสิน คดีใดๆ หากไม่ยึดหลักการของกฎหมาย แต่ ยึดหลักจากคำว่า "เชื่อได้ว่า"  แบบนี้ไม่จำเป็นต้อง ตรากฎหมายขึ้นมาหรอก.. ตั้งโต๊ะขึ้นมาตัวนึง ตัดสินคดีในป่า แล้วบอกเชื่อได้ว่าผิด จับยิงทิ้งกลางป่าได้เลย เป็นอันว่าคดีจบ.. กรณี ทักษิณ กับ กรณี ของเด็กทั้งสองคน .. หากไม่แยกกันพิจารณา ฐานความผิดของแต่ละบุคคล.. เรื่องนี้ไม่มีทางจบ.. ลูกผิดเพราะเป็นนอมินีพ่อ พ่อผิดเพราะเป็นนอมินีลูก.. เล่นกันอยู่แบบนั้น.. ไม่คนตัดสินก็จำเลย ล่ะครับ มีตายจากกันไปก่อนไม่ข้างใดข้างนึง ค่อนข้างแน่นอน..!! จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:45:48 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ : Vee&Cat   การสอบว่าลูกเป็นนอมินีพ่อไหม มันต้องสอบพฤติกรรม ประจักษ์พยาน หลักฐานครับ ก็คงโดนสอบกันหมดละครับ จะเป็นคุณอนุทินกับคุณชวรัตน์ก็คงโดนสอบเหมือนกัน แต่คุณอนุทินผมว่าจะได้เปรียบคุณพานทองแท้อยู่หลายเท่าตัว จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:55:09 A:124.120.229.240 X:

ความคิดเห็นที่ 58 *** กรณี ขายหุ้นชินคอร์ป *** 1. กรณีที่หนึ่ง ดร.ทักษิณและภรรยามีหุ้นชินคอร์ปฯ 49% ตั้งบริษัทเอง 22 ปีก่อน เข้าตลาดหุ้น 15 ปีก่อน หุ้นทั้งหมดนี้หากขายให้ลูก คือ พาน/พิณ ทั้งหมด 49% ในตลาดหุ้น จะไม่มีภาษี (เหมือนคนครึ่งล้านที่ลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ทุกวัน) เมื่อพาน/พิณขายต่อให้ใคร ก็ไม่มีภาษีอีกเช่นกัน เพราะฉะนั้น เป็นสิทธิ์พื้นฐานที่มีอยู่แล้วของดร.ทักษิณและลูก คือนักลงทุนบุคคลไม่มีภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหุ้น * ดังนั้น ดร.ทักษิณไม่จำเป็นต้องทำอะไรซับซ้อนเพื่อเลี่ยงภาษี (เช่นแอมเพิลริช) เพราะไม่มีภาษีให้ลด * ที่ดร.ทักษิณทำแอมเพิลริชในปี 42 เพราะจะเอาชินคอร์ปฯเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ (มีหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ตอนหลังตลาดหุ้นสหรัฐตกมาก เลยหยุดแผน (ดู ข่าวชินคอร์ประงับเข้าตลาดแนสแดค) แต่หุ้นชินคอร์ปฯ 11% ก็อยู่ที่แอมเพิลริชไปเรื่อยๆ ปลายปี 43 ก่อนเป็นนายกฯ ดร. ทักษิณก็ขายโอนแอมเพิลริชให้ลูก 2. กรณีที่สอง ต้นปี 49 ที่จริงพาน/พิณสามารถขายแอมเพิลริช (ที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯอยู่) ให้ผู้ซื้อในต่างประเทศได้เลย ไม่มีภาษี เป็นสิทธิพื้นฐานเช่นกัน แต่เงินจะอยู่นอกประเทศ (อาจโดนว่าเก็บเงินนอกประเทศ) 3. กรณีที่สาม ดังนั้น เพื่อจะขายให้เงินอยู่ในประเทศ พาน/พิณ ในฐานะเจ้าของแอมเพิลริช ทำการโอนหุ้นชินคอร์ปฯที่แอมเพิลริชถืออยู่ มาถือเองโดยตรง และเมื่อขายให้ผู้อื่นในตลาดหุ้น ทั้งส่วน 38% แรกที่ถือตรงอยู่แล้ว บวกกับอีก 11% ที่มาถือตอนหลังโอนมาจากแอมเพิลริช (คืนสู่เหย้า)รวม 49% ก็ไม่มีภาษี * ปรากฏว่า ส่วนแอมเพิลริช 11% ถูกกล่าวหาว่าหนีภาษี ทั้งที่เป็นสิทธิ์แต่เดิมที่ไม่มีภาษี หากขายแอมเพิลริชในต่างประเทศเหมือนในกรณีที่สอง หรือหากถือตรงมาตลอดโดยไม่มีแอมเพิลริชเหมือนในกรณีที่หนึ่ง --- สรุป --- กรณีที่ 1 หาก พาน / พิณ ถือหุ้นชิน โดยตรง 49% มาตลอด​(ไม่มีแอมเพิลริช) แล้วขายในตลาดหุ้น​ภาษี = 0 เป็นสิทธิ์พื้นฐาน กรณีที่ 2 หาก พาน / พิณ ขายแอมเพิลริชในต่างประเทศเลย (หุ้นชิน​ส่วน 11% ติดไป) ภาษี = 0 (แต่เงินจะอยู่​นอกไทย) กรณีที่ 3 พาน / พิณ ซื้อหุ้นชิน ส่วน 11% คืนกลับจากแอมเพิลริช (เจ้าของเดียวกัน) แล้วขายในตลาดหุ้นภาษี​ = 0 (เพื่อให้เงินอยู่ในไทย) *** ไม่จำเป็นต้องเลือกเอากรณี ใดกรณีหนึ่ง เพื่อลดภาษี​เพราะทั้ง 3 กรณีไม่มีภาษีอยู่แล้ว 4. ข้อกล่าวหาคือ การที่แอมเพิลริชโอนหุ้นชินคอร์ปฯให้ พาน/พิณ ที่ราคาพาร์ 1 บาท ทั้งคู่ต้องเสียภาษีเพราะมีเงินได้เพิ่ม (ได้มา 1 บาท ขาย 49 บาท เป็นกำไร 48 บาทที่ต้องเสียภาษี) หรือจะเป็นเหมือนกรณีบริษัทออกหุ้นจูงใจพนักงานในราคาถูกพิเศษ (สต็อกออปชั่น หรือ ESOP) ว่า ต้องเสียภาษีส่วนต่างระหว่างราคาหุ้นชินคอร์ปฯที่ ซื้อขายในตลาดกับราคาที่ได้มา (ได้มา 1 บาท ในวันที่หุ้นชินคอร์ปฯราคา 42 บาท เป็นกำไร 41 บาท ซึ่งหากจะเสียภาษีต้องจ่ายวันที่ซื้อ ไม่ใช่วันที่ขายที่ 49 บาทไม่มีภาษีเพราะได้เป็นเจ้าของหุ้นนั้นแล้ว) 5. ข้อกล่าวหานี้ เป็นการตีความคนละหลักการ * เพราะทั้ง พาน/พิณ เป็นเจ้าของแอมเพิลริช ก็ถือว่าเป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ปฯ 11% นี้อยู่แล้ว เป็นบุคคลเดียวกันดังที่รายงานตลาดหุ้นมาตลอด ดังนั้น การที่แอมเพิลริชโอนหุ้นชินคอร์ปฯ 11% ที่ถืออยู่ ให้พาน/พิณ ถือเองโดยตรงในราคาพาร์ ไม่ทำให้ พาน/พิณ มีรายได้เพิ่ม เพราะเป็นหุ้นและต้นทุนของตนแต่เดิม * เป็นคนละกรณีกับ นายจ้างจ่ายผลตอบแทนลูกจ้างด้วยการออกหุ้นใหม่ขายให้ในราคาพิเศษ หรือ การให้รางวัลจับสลาก หรือ การขายตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีส่วนลดหน้าตั๋ว ล้วนทำให้ผู้ซื้อมีรายได้เพิ่ม ต้องเสียภาษี * ประเด็นนี้หารือกับสรรพากรแล้ว สรรพากรก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ถูกต้อง แต่ก็ไม่ฟังกัน กล่าวหาว่าลูก นายกฯ หนีภาษี นายกฯไม่มีจริยธรรม สรรพากร ผิดจรรยาบรรณ เพราะตีความเข้าข้างรับใช้นายกฯ เครคิต โดย เสาวณิต อังคะทายาท ----------------------------------------------------------------------------- ยกมาให้อ่าน เพื่อการพิจารณาในอีกแง่มุมนึง ซึ่งไม่ใช่การแก้ข้อกล่าวหาใดๆ ความคิดเห็นที่ 57 ผมก็ถึงได้บอกว่า เรื่องนี้ การพิจารณาใดๆ ต้อง แยกประเด็นให้ชัดเจน.. ใครผิด ใครจะต้องรับผิดชอบมูลค่าภาษี ในกรณีไหน.. จะทำอย่างไรให้คดีจบเป็นประเด็นๆไป เด็กสองคนผิด เด็กยอมรับ พร้อมจ่าย.. แล้วไฉน ไม่คืนเงินเด็กไปเพื่อ นำไปชำระภาษีรวมค่าปรับให้เรียบร้อย.. แล้วจะมาเล่นต่อในประเด็น นอมินี ก็เอา.. แต่.. ต้องอย่าลืมว่า หากมีฐานความผิดของพ่อ จะมาโยงรวมเหมาเอาลูกว่าผิดไปด้วย คงไม่ได้.. การตัดสิน กล่าวหา คดีใดๆ ต้องยึดหลักแห่งกฎหมายเป็นที่ตั้งครับ.. จะมาใช้ ความรู้สึกความเชื่อ มาตัดสิน มันไม่ถูกต้อง.. หากไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิด จริยธรรม ก็ต้องไปดูว่า เมื่อผิดจริยธรรม แล้วมีความผิดอย่างไร ฐานความผิดแค่ไหน.. ตัดสินว่า พ่อผิดจริยธรรม กลายเป็นว่า ลูกๆต้องผิดจริยธรรมไปด้วย .. โดยไม่แยกแยะประเด็น ไม่แยกแยะบุคคล.. เป็นใคร ใครก็ต้องบอกว่า นี่คือความไม่เป็นธรรม..!! จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 11:19:59 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าเป็นผม ผมไม่ฟ้องอะไรทั้งนั้นแล้วครับ กับศาลไทย ผมว่าเสียเวลา เสียเงินเปล่า  ฟ้องไปก็ไม่มีทางชนะ ตัดสินออกมา รับไม่ได้เอาเหตุผลบ้าบออะไรมารองรับก็ไม่รู้ งง ครับ อย่างพจนานุกรม อย่างไม่ส่งฟ้องเพราะกลัวสังคมแตกแยก อย่างที่ดินรัชดา อย่างกรณียุบพรรค กรณีกล้ายาง(โจทย์ไปเป็นพยานให้จำเลย มีที่ไหนฟะ) ในเมื่อฟ้องยังไงก็แพ้ จะฟ้องทำไม แถมพอแพ้แบบงงๆ ก็จะมีคนออกมาพูดว่านี่ไง ศาลตัดสินแล้ว แต่คุณไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล เดี๋ยวก็มาแนวนี้อีก น่าเบื่อครับ รื้อกันใหม่ให้หมดก่อนดีกว่ามั้ง แล้วค่อยว่ากัน ไม่งั้น ก็ไปเจอกันในศาลของประเทศอื่นน่าจะดีกว่า จากคุณ : megaxx เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 11:55:59 A:110.164.124.70 X:

ความคิดเห็นที่ 60 คุณปอมพยายามจะชี้ว่าต้องเสียภาษี แล้วทำไมในกรณีของการซื้อขายตอนปรส ทำไมไม่ต้องเสียภาษี กรณีนิติบุคคลซื้อหุ้นไม่ต้องเสียภาษีเป็นกฎหมายที่ทางปชป ออกมาเองไม่ใช่หรือ งั้นช่วยชี้แจงกรณีของเทเลนอร์ตอนซื้อหุ้นของดีแทคหน่อยสิ นี่มันเคสเดียวกันเลย ทำไมเคสนี้เงียบ อีกอย่างนะ กรณีของคุณทักษินเค้ามีการถ่ายเทหุ้นเนื่องจากเค้าต้องเข้ามารับตำแหน่งนายก การถ่ายเทหุ้นของเค้าผมว่ามันก็ชอบธรรมแล้ว อีกอย่างถ้าคนที่จะต้องมาเป็นนายก เจอกรณีแบบนี้ใครมันจะมาเป็น ที่สำคัญที่สุด สรรพากรมีหนังสือยืนยันมาแล้วว่าไม่ต้องเสีย กรณีแบบนี้ใครผิด งั้นต่อไปผมจะทำธุรกรรมใดๆ จะสอบถามไปยังหน่วยงานนั้นๆ แล้วผมจะเชื่อได้อย่างไร ว่าผมจะไม่ผิด จะเล่นทักษิน ผมว่าต้องเล่นหน่วยงานนั้นก่อนดีกว่าไม๊ เหมือนกรณีกองทุนฟื้นฟูของที่ดินรัชดาก็เหมือนกัน อธิบายข้อนี้ก่อนสิ เหมือนกับหลอกให้คนอื่นติดคุกชัดๆ จากคุณ : megaxx เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 12:09:33 A:110.164.124.70 X:

ความคิดเห็นที่ 61 ความคิดเห็นที่ 32     คุณ : ธนูไฟ   สรรพากรยุคนั้นบอกทำนองว่า แอมเพิลริชขายหุ้น ๑ บาท ธุรกรรมเกิดในต่างประเทศ คนซื้อไม่มีภาระภาษี ส่วนแอมเพิลริชเป็นบริษัทต่างชาติ ทางการไทยตามไปเช็คบิลไม่ได้ แม้ว่ากรรมการเป็นคนไทย เจอแบบนี้เข้า คนที่จะเก็บภาษีก็ต้องหาหลักฐานสู้ ว่า ธุรกรรมเกิดในไทย หุ้นเป็นแบบไม่ใช้ใบหุ้น  คนซื้อมีภาระภาษีเพราะซื้อในฐานะกรรมการ ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 09:33:17 จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 09:15:10 A:124.120.229.240 X:     ยังคงคำถามเดิมครับ  สามปีแล้ว ยังหาหลักฐานไม่ได้หรือ ว่าทำใน หรือ นอก อีกอย่าง กรณีี้ ข้างเห็นข้างบนก็ชี้แจงไปแล้ว อีกประเด็นคือ ส่วนคำว่าร่ำรวยผิดปกติมันภาษากฎหมายครับ ภาษาชาวบ้านคือ ทักษิณถูกกล่าวหาว่า ใช้ลูกเป็นนอมินีถือหุ้นชินขณะเป็นนายก แล้วใช้อำนาจนายกเอื้อประโยชน์ชิน เช่น ลดภาษีมือถือ ดาวเทียม ปล่อยกู้พม่าให้จ้างชิน  เอื้อแอร์เอเซีย เอื้อไอทีวี จนถึงแก้กฎหมายต่างชาติถือครองสื่อสาร เพื่อทำให้ชินได้ประโยชน์ นายกได้ประโยชน์ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 10:08:41 จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 10:05:14 A:124.120.229.240 X:     พ่อ ไม่ยกสมบัติให้ลูก แล้วจะให้ยกให้ใครครับ  เปรมหรอ หรือยกให้คุณ สำคัญ ก็เราไปเขียนกฏหมายกันเองใช่มั้ย ว่ามาทำงานการเมือง ห้ามมีหุ้น ในเมือเขามีหุ้น เขาก็ต้องจัดการโอนย้ายเพื่อให้ถูกกฏหมาย ส่วนจะให้ใครผมว่า มันเรืองของเขานะครับ แม้จะโอนให้ขอทานข้างถนนก็ตาม จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 12:11:50 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 62 สำหรับประเด็นเรื่องพม่า ผมถามจริงๆ จะให้พม่า ซื้อดาวเทียม จากดีแทกหรือครับ  หรือ ซื้อกระทรู สำคัญ เงินที่ซื้อของจาก บริษัททักษิณ เทียบเป็น% แล้วกระจิ๊ดริดเองนะครับ ประเทศไหนๆ เขาให้กู้ เขาก็ให้ใช้บริการบริษัทในประเทศผู้กู้ทั้งนั้น หรือแม้แต่คำว่า ลูกเป็นนอมินี  คือ เรามาคุยกันแบบชีวิตจริงๆดีมั้ย ผมเนี่ย ก็รับการสืบทอดกิจการมาจากพ่อผม ทุกวันนี้ผมทำงาน หาลูกค้า จ่ายเช็ค ก็ด้วยตัวผม เวลามีงานใหญ่ๆ งานสำคัญ  ผมก็คุยกะพ่อผม พ่อผมก็ให้คำแนะนำ  แบบนี้ ผมคือนอมินีของพ่อหรือเปล่าครับ ผมว่า ทักษิณ ก็ไม่พ้นรูปแบบนี้  ใครๆ ก็ไม่พ้นรูปแบบนี้ จริงๆประเด้นเรื่องหุ้น ผมว่า ไม่ซ้บซ้อนเลย ต้องเสียภาษี ก็คือต้องเสียภาษี ตามไม่ได้ เพราะเป็นบริษัทต่างชาติ  ก็คือตามไม่ได้ จบครับ มันยากตรงไหนอะ จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 12:16:46 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 63 คตส. กับบทบาทและหน้าที่ ในกรณีนี้.. ถามว่าการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานของ คตส. ยึดอะไรเป็นหลักการ..?? คตส. ชี้มูลความผิดของคน โดยอาศัยหลักการแห่งกฎหมายเป็นที่ตั้งหรือไม่.. หรือ ใช้เพียงแค่ความคิดเห็นของตนเป็นที่ตั้ง..?? คตส. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ที่ตนกล่าวหาเองหรือเปล่า..?? คตส. ย่อมไม่ใช่ ผู้พิพากษา แต่ทำไมด้วยเหตุใด คตส.จึงมีอำนาจ อายัดทรัพย์บุคคลได้..?? คตส. คำนึงถึง "สิทธิของบุคคลที่พึงกระทำได้ตามกฎหมาย" หรือไม่..?? คตส. เมื่อสามารถชี้มูลถึงความผิดของบุคคลได้ แต่ทำไมไม่ต้องรับผิดชอบในกรณี หากชี้มูลผิด เป็นผลให้ผู้อื่นเสียหาย..?? คณะกรรมการ คตส. เป็น เทพ หรือคน ธรรมดา..?? ถ้าบอกว่า คตส.เป็นหน่วยงานที่ถูกต้องและได้รับการแต่งตั้งมาจากคณะรัฐประหาร.. การชี้มูลใดๆไม่สามารถเอาผิด คตส. ได้เนื่องจาก รัฐธรรมนูญที่คณะรัฐประหาร บัญญัติไว้ว่าอย่างนั้น.. ก็คงจบ เลิกสงสัยและคงต้องเลิกโต้แย้ง..เพราะ.. ตรายางของคณะรัฐประหารที่ปั๊ม ลงบน หน้าผาก ของ คตส.แต่ละคน เป็นสัญลักษณ์ซึ่งการันตีไว้ว่า ไม่ว่า คตส. จะไปทำอะไร ให้ร้ายอะไรกับใคร ก็เอาผิดไม่ได้.. ชี้มูลความผิด เหมาเข่ง ไม่แยกแยะ บุคคล.. ไม่แยกแยะเรื่องราว.. เพื่อเอาไว้เป็นประเด็นโจมตีทำลายฝ่ายตรงข้าม..ให้มันไม่รู้จักจบจักสิ้น..ไม่ต้องรับผิดชอบ แถมกักทรัพย์เค้าไว้ ไม้ให้เอาออกไปชำระหนี้ตามกฎหมาย.. อักต่างหาก.. แปลกกกกก..ที่ยังมีคนเอามา ปรบมือ เฮอา ชอบใจ.. อดไม่ได้ที่จะต้องเอาผลงาน คตส.มาอวด..มาชื่นชม.. ซ้ำร้ายกว่า กระบวนการยุติธรรม ยังดันไปเออออห่อหมก พยักหน้ารับหงึกๆ รับลูกมาเล่น กันเป็นที่สนุกสนาน.. งามไส้ ละครับ กับประเทศ ที่มีกระบวนการยุติธรรมไว้กำจัดศัตรูทางการเมือง.. !! จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 12:39:52 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 64 rep 58 กำลังเอามาแปะพอดี ขอบคุณมากครับ... ความคิดเห็นที่ 54     คุณปอม พูดมากไปก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก คนที่นี่ก็ไม่รู้คิดจะฟังรึเปล่า เอาง่ายๆ ไปตั้งแอมเปิลริชทำไมตั้งแต่แรก เป็นนายกกลัวเสียภาษี? อืม......... จากคุณ : Toey84 ---------------------------------------- เขาตั้งปีไหนครับคุณ ??? ความคิดเห็นที่ 48     คุณ : มีสติ__ก็คิดได้   หน่วยราชการแนะนำคุณผิด คุณทำผิดกฎหมาย คุณอาจนำเรื่องนี้ขอหย่อนลดโทษได้ หรือฟ้องกลับก็ได้ แต่มันต้องเป็นตามขั้นตอน อย่างเรื่องนี้เขาให้เสียภาษีก็ต้องเสีย ส่วนจะฟ้องกลับเอามากกว่าที่เสียก็ยังได้ถ้าหลักฐานชัดเจน ซึ่งตรงนี้ต้องดูข้อเท็จจริง ที่มันซับซ้อน เพราะนิติบุคคลนี้ไม่ใช่สัญชาติไทย แต่เป็นสัญชาติในหมู่เกาะฟอกเงิน ส่วนคำว่าร่ำรวยผิดปกติมันภาษากฎหมายครับ ภาษาชาวบ้านคือ ทักษิณถูกกล่าวหาว่า ใช้ลูกเป็นนอมินีถือหุ้นชินขณะเป็นนายก แล้วใช้อำนาจนายกเอื้อประโยชน์ชิน เช่น ลดภาษีมือถือ ดาวเทียม ปล่อยกู้พม่าให้จ้างชิน  เอื้อแอร์เอเซีย เอื้อไอทีวี จนถึงแก้กฎหมายต่างชาติถือครองสื่อสาร เพื่อทำให้ชินได้ประโยชน์ นายกได้ประโยชน์ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 10:08:41 จากคุณ : Pom.com ---------------------------------------- ไปเช็คดีๆ มันมีคดี " ร่ำรวยผิดปกติ " จริงๆ และเป้าหมายของคดีนี้คือ ต้องการยึด 7.6 หมื่นล้านทั้งหมด จนกว่า ทักษิณ จะแสดงที่มาของเงินทั้งหมด ( เหมือนคดีบิ๊กจ๊อด ) คดีทุจริต คดีเอื้อประโยชน์ ก็ส่วนหนึ่ง แต่ คดีร่ำรวยผิดปกติ ก็อีกส่วนหนึ่ง ไม่มีภาษาชาวบ้าน ภาษากฎหมาย มันภาษาเดียวกันครับ... อย่ามั่ว จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 12:42:15 A:124.120.17.112 X:

ความคิดเห็นที่ 65 เฮ้อ ไม่นึกว่า คุณ Pom.com จะเผยไต๋กันง่ายๆ ว่า การปิดสนามบินของเหลือง โดนบีบบังคับ สมควรให้อภัย โดยยกการปิดถนนของแดงมาเป็นตัวแถม ไม่ได้ดูเลยนะครับว่า ความเสียหายจากการปิดสนามบิน มันมากมายมหาศาลแค่ไหน คุณเองก็อยู่ในวงการวิศวกรรม น่าจะรู้จักเพื่อนๆที่ทำงานในโรงงาน ธุรกิจการส่งออกต่างๆดูได้ แล้วจะรู้ว่า ผลกระทบมันมากมายมหาศาล มากกว่าเงินที่คุณว่าทักกี้ทำผิดต้องจ่ายภาษีเสียอีก ว่ากันเป็นตัวเลขจริงๆ มีหน่วยงานรัฐทำตัวเลขออกมาแล้วครับ ปิดสนามบินสองแสนเก้าหมื่นล้าน คือตัวเลขที่เสียหายจริงๆไปแล้วยังไม่นับค่าเสียโอกาส ส่วนปิดถนนสงกรานต์ถ้าจำไม่ผิดอยู่ระดับพันล้านโดยที่เป็นแค่ตัวเลขการสูญเีสียโอกาส(คือยังไม่ได้เสียหายเป็นตัวเงินจริงๆ) ผมไม่ได้บอกว่าอีกฝ่ายไม่ผิด แต่จะมาเปรียบเทียบกัน ก็ต้องยกให้ชัดเจน ว่าใครทำผิดร้ายแรงมากกว่า จะมาเหมามั่วให้อภัยรวมๆักันไม่ได้หรอกครับ พนักงานโรงงานที่ผมรู้จักนับพันคน ที่โดนเอาออกเเพิ่มเพราะการปิดสนามบิน เขาไม่มีทางเห็นด้วยได้แน่นอน จะมาเอาเด็กขโมยขนมกิน มาเปรียบกับโจรปล้นฆ่า ว่าผิดเท่าๆกัน คงทุเรศไปครับ เรื่องสรรพากร กับการออกการรับรอง ผมว่าก็ทุเรศดี จริงอยู่เราอาจจะคิดในแง่ร้ายว่า มีการเตี้ยมกันกับเจ้าหน้าที่ ให้ออกหนังสือตอบรับรองความถูกต้องไป เพื่อไม่ต้องเสียภาษี แต่ผมไม่เห็นการเชื่อมโยง หรือหลักฐานใดๆ ที่บ่งบอกว่ามีการกระทำเช่นนั้นจริงๆในคำพิพากษาเลย นอกจากคำว่า "เชื่อได้ว่า" ลอยๆ ของคนไม่กี่คนที่ปราศจากหลักฐานสนับสนุน ก็มาตัดสินแล้วว่าคนนี้ต้องเตี้ยมกันเพื่อโกงแน่ๆ ทั้งๆที่ความจริงอาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือ ความผิดพลาดในการตีความจริงๆ หรือแม้แต่จริงๆมันไม่ควรจะตีความอย่างที่ตัดสินด้วยซ้ำ ซึ่งมันไม่น่าจะทำให้ต้องตัดสินลงโทษจำคุกถึุง 2 ปีเลยจริงๆ ผมเคยพูดแล้ว บางอย่างอาจผิดจริงแต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ไอ้การลงโทษและบิดเบือนให้มันกลายเป็นการลงโทษที่ร้ายแรง คุณเชื่อหรือว่ามันเป็นธรรมจริงๆ? ในขณะที่ปี้มาร์ค ก็ทำผิดเล็กๆน้อยๆซ้ำซาก คุณกลับแค่พูดตำหนิเบาๆเท่านั้นเอง? ญาติๆผมก็บ่นเหมือนกันว่า ต่อไปนี้จะสั่งสอนนักศึกษากฎหมายได้อย่างไร ถ้ามันบิดเ้บือนกันได้อย่างทุเรศๆโดยคนระดับบนของคันชั่งเสียเอง? ผมไม่ได้บอกทักกี้ทำถูกทุกอย่างหรอก แต่ไอ้การบิดเบือนกระบวนการ บิดเบือนโครงสร้าง รวมไปถึงทำลายประเทศ(ปิดสนามบิน/รัฐประหาร) เพื่อเอาผิดทักกี้ให้รุนแรงที่สุด ผมว่ามันแย่กว่าครับ ไม่ต่างจากคุณไป ไล่ Tyrant เพื่อเอา Tyrant ตัวพ่อมาแทนนั่นแหละ คือมันรับไม่ได้เลยจริงๆกับข้ออ้างแบบนี้ครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 13:15:22 A:113.53.135.70 X:

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ : Vee&Cat   กรณีที่คุณยกมาที่อ้างว่าเป็นหุ้นดั้งเดิม มันคนละเรื่องครับ คนที่เขามีหุ้นดั้งเดิมในฐานะก่อตั้งบริษัทมหาชนก่อนเข้าตลาดมีเป็นหมื่นคน ใครถือไว้ในฐานะบุคคลธรรมดา ขายในตลาดเมื่อไรก็ไม่เสียภาษี แต่ถ้าเมื่อไรเอาไปถือในนามนิติบุคคล ขายให้บริษัทตัวเอง มันก็ถือว่าหมดสิทธิ์ยกเว้นภาษีแล้ว เพราะได้ประโยชน์อื่นมาแทน ส่วนการที่สรรพากรจะเก็บภาษีลูก ขณะที่พ่อโดนข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ตอนนี้มันยังไม่ได้สรุปว่าศาลตัดสินอย่างไร กรณีร่ำรวยผิดปกติ สรรพากรจะทำอย่างอื่นไม่ได้หรอกครับ นอกจากยังถือว่าลูกเป็นเจ้าของหุ้น ก็ต้องทวงภาษี จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:06:58 A:124.121.211.190 X:

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ megaxx   ตอนคุณบุญชัยขายดีแทค เขาถือหุ้นดีแทคในฐานะบุคคลธรรมดามาตลอดไม่ใช่หรือครับ การถ่ายเทหุ้นมันถ่ายให้ลูกได้ครับ ถ้าไม่เป็นนอมินี แล้วไปเอื้อประโยชน์ให้อีก กรณีคุณปรึกษาหน่วยงานรัฐ แล้วแนะนำผิดๆ คุณสามารถสู้ในศาลได้ในระดับหนึ่ง แต่ในกรณีภาษี ผมว่าสู้เต็มที่ก็ตรงค่าปรับ แต่จะไม่ให้เสียเลยคงยาก ไม่งั้นต่อไปคงมีการจ้างเจ้าหน้าที่รัฐออกหนังสือตอบผิดๆ แต่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องสรรพากรเรียกค่าเสียหายจากการตอบผิดๆ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปดู ว่าใครถาม ใครตอบอย่างไร ข้อมูลครบถ้วนไหมตอนถาม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:14:08 A:124.122.99.237 X:

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ : ธนูไฟ   เรื่องภาษีเขาสอบจนจบไปแล้วครับ สรรพากรเรียกเก็บภาษีพร้อมค่าปรับหมื่นกว่าล้าน ลูกทักษิณอุทธรณ์ ๑ เดือนที่แล้ว กรรมการอุทธรณ์ตัดสินให้เสียภาษีและค่าปรับ ถ้าเมื่อวานนี้ลูกทักษิณไม่ฟ้องศาลภาษี ถือว่ายอมรับคำตัดสิน ส่วนหุ้นโอนให้ลูกได้ เอื้อผลประโยชน์รัฐให้ก็ได้ ตราบใดยกให้จริงๆ ไม่ใช่หลอกว่ายกให้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:17:45 A:124.122.99.237 X:

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ : ธนูไฟ   เรื่องภาษี สรรพากรเขาสรุปว่านิติกรรมเกิดในไทย ลูกนายกมีรายได้ในไทย ส่วนที่คุณว่าพ่อยกบริษัทให้คุณ สมมุติพ่อคุณเป็นนายก จะเอื้อประโยชน์รัฐให้บริษัทคุณ มันก็คงไม่ผิด ถ้าการเอื้อประโยชน์มันมีเหตุผลพอควร แต่ถ้าพ่อยกบริษัทให้คุณแต่ในนาม ดีลสำคัญพ่อคุณไปเจรจาเอง เงินเกือบทั้งหมดที่ได้มาจากธุรกิจคุณเอาคืนพ่อคุณ แบบนี้ก็อาจเข้าข่าย ร่ำรวยผิดปกติ ใช้อำนาจหน้าที่ เอื้อประโยชน์ตัวเอง จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:24:04 A:124.120.216.114 X:

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ : Vee&Cat   ผมพูดมานานแล้ว ใครบอกว่า คตส.เป็นกลางก็บ้าแล้ว แต่ผมยังเชื่อมั่นในศาลซึ่งเป็นคนตัดสิน และผมขอบอกอีกครั้ง ว่าถ้าทักษิณสำนึกผิด ทำในสิ่งที่ถูก เรื่องนี้จบไม่ยาก คดีไหนที่ คตส.เป็นคนฟ้อง สามารถยกเลิกได้ แต่อันไหนที่อัยการฟ้อง ก็หาทางออกแบบไทยๆ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:28:12 A:124.120.216.114 X:

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ : ....4จุด   ถ้าไม่ให้อภัย คุณคิดว่าประเทศนี้จะจบลงยังไง คุณจะเอาตั้วติดคุก อีกฝ่ายก็จะเอาอริสมันต์ติดคุกเหมือนกัน แต่ก่อนสมัยคอมมูนิสต์รบกับทหาร ตายกันไม่รู้เท่าไร ถ้าไม่ให้อภัยจะมีวันนี้หรือ กรณีที่ดินรัชดา ถ้าคุณลองมองอีกมุม ว่าผู้พิพากษา ๕ คน เข้าใจว่ากองทุนเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐจริงๆ สามารถเล่นงานทางกฎหมายได้ คุณจะลงโทษอย่างไร ถ้าทักษิณไม่คิดว่าตัวเองผิด ขณะที่มีข้อผิดปกติมากมาย ไม่มีราคากลาง เพิ่มเงินประกันเป็น ๑๐๐ ล้าน จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:40:34 A:124.122.99.35 X:

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ : SaVor   ผมอ่านคำฟ้องคดีร่ำรวยผิดปกติ มันก็เรื่องเอื้อประโยชน์ให้นอมินีอยู่ดีละครับ .... ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีหนังสือถึงอัยการสูงสุดแจ้งว่า คตส. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบไต่สวนและมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกกล่าวหา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2544-มีนาคม 2548 ได้ปกปิดการถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,149,490,150 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดโดยที่ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง แต่ใช้ชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ถือหุ้นแทน 458,550,000 หุ้น, น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว ถือหุ้นแทน 604,600,000 หุ้น , น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ถือหุ้นแทน 20,000,000 หุ้น และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน ถือหุ้นแทน 336,340,150 หุ้น โดยที่บริษัท ชินคอร์ป เป็นบริษัทได้รับสัมปทานกิจการโทรคมนาจากรัฐ ซึ่งเป็นการฝ่าผืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540, พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 และ พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.พ.ศ.2542 ม.32, 33 และ 100 ซึ่งมีความผิดอาญา ม.119 และ 122 และ ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ สั่งการ มอบนโยบาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐภายใต้บังคับบัญชา หรือกำกับดูแลของผู้ถูกกล่าวหากระทำการที่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัท ชินคอร์ปฯ และบริษัทในเครือเป็นจำนวนมาก คือ .......... ท้ายคำร้อง อัยการสูงสุดขอให้ศาลออกหมายเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ มาพิจารณาพิพากษายึดทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ จำนวน 1,419,490,150 หุ้น ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ของประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัท ซีดาร์โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสแพนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งนิติบุคคลต่างด้าว เป็นผู้ซื้อ เป็นจำนวนเงินสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว รวม 69,722,880932.05 บาท และเงินปันผลตามหุ้นจำนวนดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งหมด 6,898,722,129 รวมเงินที่ได้รับเนื่องจากหุ้นดังกล่าวทั้งหมด 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผลให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติและมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ ศาลรับคำร้องไว้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 15:47:58 A:124.122.99.35 X:

ความคิดเห็นที่ 73 คุณนี่เวลามั่วข้อมูลแล้วชอบแถออกทะเลไปอยู่เรื่อยเลย... คดีร่ำรวยผิดปกติ > ทักษิณ โอ๊ค เอม ฯลฯ มีหน้าที่พิสูจน์ที่มาของเงิน 7.6 หมื่นล้าน ตามข้อกล่าวหา ( ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน ) พิสูจน์ได้เท่าไหร่ ก็เอาคืนไปเท่านั้น ที่เหลือยึด แต่ถ้าพิสูจน์ได้หมดก็เอาคืนหมด คดีเอื้อประโยชน์ สัมปทานหุ้นชินฯ หวยบนดิน Exim Bank ฯลฯ > อัยการผู้ยื่นฟ้องมีหน้าที่พิสูจน์ว่า คดีดังกล่าวเป็นจริงตามแต่ละคดี ฝ่ายทักษิณมีหน้าที่แก้ต่างตามหลักฐาน ถ้าผิดก็ตัดสินแยกกัน มันคนละคดีกันเลย... วิธีการพิจารณาคดีก็คนละแบบ เข้าใจ๋ ปล. rep อื่นๆ ของคุณผมมีคำตอบในใจแล้ว แต่เห็นคุณโพสต์ตอบสมาชิกท่านอื่น ก็เอาเป็นว่ารอเขามาตอบดีกว่าครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 16:35:34 A:124.121.248.134 X:

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ : SaVor   คดีร่ำรวยผิดปกติแบบที่คุณว่า เขาฟ้องทักษิณซะเมื่อไร ๗ หมื่นกว่าล้านจากการขายหุ้นชินมันจะต้องไปพิสูจน์อะไร หุ้นมันก็หุ้นเดิม มูลค่าเพิ่มขึ้น ก็ขาย ถ้าสมมุติเป็นเงินไปซุกไว้ทำเหมืองเพชรแบบนี้ซิ ถึงจะเข้าข่าย ส่วนคดีที่ผมว่า เขาลงท้ายคำฟ้องว่า เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติและมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ คุณจะเรียกอะไร ข่าวส่วนใหญ่เขาก็ใช้คดีร่ำรวยผิดปกติทั้งนั้น จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 17:51:04 A:124.120.229.179 X:

ความคิดเห็นที่ 75 ได้ความรู้ครับ กระทู้นี้     ขอถามแทรกนะครับ พอดีหาข้อมูลไม่เก่ง     คือว่าการซื้อขายที่เป็นปัญหาอยู่เนี่ยซื้อขาย ในตลาด หรือว่า นอกตลาด ครับ แล้วจะมีผลแตกต่างกันอย่างไร จากคุณ : เฮียแจ็ค เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:25:25 A:125.27.205.90 X:

ความคิดเห็นที่ 76 คุณ : เฮียแจ็ค   ปกติบุคคลธรรมดานี่จะยกเว้นภาษีถ้าขายหุ้นในตลาด กรณีนี้ลูกทักษิณก็ขายหุ้นในตลาด ธุรกรรมตรงนี้ไม่มีภาษี ที่มีปัญหา ก็ตอนที่ซื้อจากแอมเพิลริช นอกตลาด ในราคาบาทเดียว ธุรกรรมตรงนี้ที่สรรพากรถือว่ามีรายได้ส่วนต่างจากราคาตลาด จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 18:42:46 A:124.120.221.88 X:

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณที่ตอบครับ คุณ Pom.com    ตกลงคุณพานทองแท้ขายหุ้นในตลาดงั้นรึครับ เหมือนเคยอ่านเจอในเว็บบอร์ดราชดำเนินนี่เองว่าคุณพานทองแท้เขาว่าเขาติ๊กผิด จริงๆเป็นขายนอกตลาด อีกนิดนึงนะครับ    แต่เรื่องส่วนต่างนี่ผมยังงงอยู่เลย แล้วคำว่า "รายได้ส่วนต่างจากราคาตลาด" มันหมายถึงยังไงครับ สรรพากรไม่ได้คิดภาษีจากราคาขายจริงหรอกรึ จากคุณ : เฮียแจ็ค เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 19:31:20 A:125.27.205.90 X:

ความคิดเห็นที่ 78 โอย... ตายๆๆๆๆ แบบนี้ มันเริ่มมาจากประโยคนี้... " ส่วนคำว่าร่ำรวยผิดปกติมันภาษากฎหมายครับ ภาษาชาวบ้านคือ ทักษิณถูกกล่าวหาว่า ใช้ลูกเป็นนอมินีถือหุ้นชินขณะเป็นนายก แล้วใช้อำนาจนายกเอื้อประโยชน์ชิน เช่น ลดภาษีมือถือ ดาวเทียม ปล่อยกู้พม่าให้จ้างชิน  เอื้อแอร์เอเซีย เอื้อไอทีวี จนถึงแก้กฎหมายต่างชาติถือครองสื่อสาร เพื่อทำให้ชินได้ประโยชน์ นายกได้ประโยชน์ " ผมก็บอกว่า ไอ้คดีร่ำรวยผิดปกติจะยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านมันก็คดีหนึ่ง ส่วนไอ้คดีที่คุณยกตัวอย่างมา ไม่ว่าจะ ลดภาษีมือถือ , Exim Bank , ใช้อำนาจมิชอบ ฯลฯ มันก็อีกคดีหนึ่ง ตัดสินแยกกันไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่ว่ารวบไอ้คดีทั้งหมดนั่นมาเป็น ร่ำรวยผิดปกติ อย่างเดียว ตามภาษากฎหมายอะไรของคุณ แบบนี้ไม่ใช่ เข้าใจไหม ? ไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วล่ะ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 19:40:14 A:124.121.248.134 X:

ความคิดเห็นที่ 79 แล้วที่ โอ๊ค + เอม ขายหุ้นจาก แอมเพิล ริช มาให้ตัวเอง มันจะถือว่า " มีรายได้ " ได้อย่างไร ??? ก็หุ้นมันก็ของ โอ๊ค + เอม แอมเพิล ริช มันก็ของ โอ๊ค + เอม ผมสมมติ โอ๊ค + เอม ไม่ขายหุ้นให้ เทมาเสค นะ แสดงว่า การโอนจาก แอมเพิล ริช มาให้ตัวเอง ต้องเสียภาษีกินเปล่าให้สรรพากร 1 หมื่นกว่าล้านงั้นสิ ? แล้วสมมติอีกที ถ้าโอนกลับไอ แอมเพิล ริช แล้วโอนกลับมาเหมือนเดิม ทำแบบนี้ก็จะเสียภาษีทบไปเรื่อยๆงั้นเหรอ ? แล้วรายได้คือตรงไหน ? ผมสมมติว่า ผมเป็นเจ้าของบริษัทหนึ่ง วันดีคืนดี ผมก็ตั้งบริษัทลูกมา แล้วบริษัทลูกจู่ๆก็เจ๊ง ผมก็เลยโอนทรัพย์สินกลับมาเป็นของผมทั้งหมด แบบนี้... ผมซึ่งเป็นเจ้าของทั้ง 2 บริษัทถือว่า " มีรายได้ " งั้นเหรอ ??? จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 19:53:58 A:124.121.248.134 X:

ความคิดเห็นที่ 80 มีบริษัท ทักษิน เท่านั้นที่ทำแบบนี้หรือครับ ไม่ทราบว่าบริษัทอื่นมีบ้างไหม หรือว่าถ้าเป็นของทักษินแล้วจะต้องผิดหมด ที่อื่นช่างหัวมันไม่ต้องตรวจสอบคิดว่าถ้าจะตรวจสอบกันจริงๆคงโดนกันระนาวเหมือนกันแทบทุกบริษัทคิดว่ามีเทคนิคในการหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว เอากันแบบจริงๆเลยใครหน้าไหนละที่จะซื่อตรงไปทุกๆเรื่อง อย่ามาอ้างเลย อย่าเอาดีใส่ตัวแล้วเอาชั่วไปให้คนอื่นละ..อย่าให้เป็นถ้าไม่ใช่พวกข้าละผิดหมดที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้จะให้พูดหรืออธิบายอย่างไรก็คงจะไม่เข้าใจกันหรอกเพราะมันมองกันคนละด้านแนวความคิดก็ไม่เหมือนกันต่างคนก็มองว่าของตัวเองถูกเถียงกันไปก็ไม่รู้จักจบสิ้น คงต้องปล่อยไปตามกรรมของมันแล้วละ. จากคุณ : กระสุนไม้ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:09:08 A:125.25.146.94 X:

ความคิดเห็นที่ 81 #71 สมัยคอมฯอัีนนั้นคงหาจุดเริ่มไม่ได้ว่าใครเริ่มก่อน เพราะชาวบ้านที่ไปเข้ากับคอมฯ ก็ไปเพราะโดนทางการกดขี่ข่มเหงทั้งนั้น รวมไปถึงนักศึกษาที่หนีตายจาก 6 ต.ค.19 ด้วย แถมพอนิรโทษกันทุกฝ่าย ดันแอบเหมารวมเคสไล่ฆ่าน.ศ.ที่ยังไม่ทันได้เป็นคอมฯ ตายเข้าไปด้วยเสียอีก (แต่คุณเคยพูดว่า เชื่อว่า น.ศ.ทุกคนที่โดนฆ่าตายเป็นคอมฯมาก่อนแล้วใช่ไหม) แต่จริงๆที่คุณพูดมา ผมนึกถึงหนังเรื่อง Brave Heart นะครับ ผมคิดว่าคุณน่าจะเคยผ่านตามาบ้าง ที่อังกฤษออกกฎแปลกๆ กดขี่ชาวบ้านด้วยการบังคับให้ส่ง เจ้าสาวมาให้ข้าหลวงข่มขืนก่อนเข้าหอกับเจ้าบ่าว พอชาวบ้านโดนบีบคั้นมากๆ ทนไม่ไหว ก็จับอาวุธขึ้นสู้ แล้วตัวแทนข้าหลวงใหญ่ ก็ออกมาปราบโดยบอกว่า ให้หยุดการใช้กำลังซะ เพื่อความสมานฉันท์ และรักษากฎหมาย ให้เลิกแล้วต่อกัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?!?!?!? กลับมาเรื่องเหลืองแดง ต้องถามว่าใครเริ่มก่อน แล้วแต่ละคนได้รับการเยียวยาไหม โรงงานนับพันแห่ง คนงานนับล้านคน เขาได้รับการเยียวยาจากการปิดสนามบินไหม?(รัฐไม่มีปัญญาจ่าย) จริงๆผมอยากเห็นการลงโทษแต่ละฝั่งอย่างยุิติธรรมมากกว่า เหลืองทำผิดก็ว่าไปตามผิด แดงทำผิดก็ว่าไปตามผิด ลงโทษไปตามฐานความผิดจริงๆ แบบนี้ยอมรับกันได้ทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าว่าจู่ๆให้เลิกแล้วต่อกัน โดยที่อีกฝ่ายเหมือนโดนข่มขืนฝ่ายเดียว ได้ตอบโต้แค่นิดเดียว มันไม่มีทางดับไฟในใจของแต่ละคนได้หรอกครับ ดังคำพูดของใครสักคนที่ว่า ความยุติธรรมไม่มี สามัคคีก็ไม่เกิดครับ จะมาอ้างให้หยุดทุกฝ่ายเพื่อสมานฉันท์โดยที่ฝั่งนึงเอาเปรียบได้เปรียบไปก่อนแล้ว เหมือนกับข้าหลวงที่่ข่มขืนชาวบ้านเรียกร้องให้ชาวบ้านหยุดต่อต้านโดยที่กฎเรื่องข่มขืนยังมีต่อไป มันก็เป็นไปไม่ได้นั่นแล ส่วนเรื่องถ้า ศาลเห็นว่าผิด แต่ทักกี้ไม่สำนึกผิดเลยต้องลงโทษแรงๆ แล้วถามว่า มูลความผิดมันร้ายแรงจริงๆน่ะหรือครับ? เด็กขโมยขนม จับได้ก็ไม่ยอมรับ(เพราะเด็กมันไม่ได้ตั้งใจจะขโมยนี่นา ถามคนขายก่อนแล้วว่าเอาไปได้ไหม คนขายบอกได้ แต่วันดีคืนดี บอกไม่ให้แล้วหาว่าขโมยไปซะงั้น?) จะลงโทษเท่าๆกับ โจรปล้นฆ่าข่มขืนได้ไหม? ยิ่งเคสทักกี้เซ็นชื่อให้เมีย โดยที่สอบถามหน่วยงานก่อนแล้วว่าทำได้ จะมามองว่าทักกี้ไม่สำนึกผิดได้อย่างไร ในเมื่อเจตนาของทักกี้ไม่ได้คิดจะทำผิดตั้งแต่แรก(ถ้าตั้งใจคงไม่สอบถามอย่างเปิดเผยไปก่อน ใช้นอมินีก็จบแล้ว)? ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากกว่า ว่าทำไมถึงตีความเจตนาว่าไม่สำนึกผิด ทั้งๆที่มันเป็นข้อผิดพลาดเรื่องเทคนิค(ผิดพลาดจริงๆหรือตั้งใจตีความให้มันผิด?) ยิ่งกับเคสลงโทษคุณอ้อ เรื่องภาษีจากการโอนให้พี่ชายยิ่งตลกใหญ่ ไม่มีการพิสูจน์การเชื่อมโยงว่าคนตอบหนังสือสรรพากร เขาเตี้ยมกับคุณอ้อได้อย่างไร กลับเชื่อได้ว่า มีเจตนาโกงไปซะงั้น มันบ่งบอกอะไรเป็นนัยๆอยู่แล้ว กับการตัดสินที่มีข้อกังขามากมายครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:13:39 A:113.53.135.70 X:

ความคิดเห็นที่ 82 ความคิดเห็นที่ 74     คุณ : SaVor   คดีร่ำรวยผิดปกติแบบที่คุณว่า เขาฟ้องทักษิณซะเมื่อไร ๗ หมื่นกว่าล้านจากการขายหุ้นชินมันจะต้องไปพิสูจน์อะไร หุ้นมันก็หุ้นเดิม มูลค่าเพิ่มขึ้น ก็ขาย ถ้าสมมุติเป็นเงินไปซุกไว้ทำเหมืองเพชรแบบนี้ซิ ถึงจะเข้าข่าย ส่วนคดีที่ผมว่า เขาลงท้ายคำฟ้องว่า เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติและมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ คุณจะเรียกอะไร ข่าวส่วนใหญ่เขาก็ใช้คดีร่ำรวยผิดปกติทั้งนั้น จากคุณ : Pom.com   เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 17:51:04 A:124.120.229.179 X:     อ้าว แล้วเราไปอายึดเงิน เจ็ดหมื่นกว่าล้านของเขาไว้ทำไมครับ ถ้าถามว่า ผลประโยชย์ทับซ้อน หรือ เอื้อ หรือ ใช้อำนาจ ผมว่ายิ่งตลก เพราะหุ้น ปชป  ดีทุกตัว หุ้นใครๆก็ดีทุกตัว  มันขึ้นทั้งกระดาษ เงินเจ็ดหมื่นล้าน ก็เห็ฯว่ามันมาจากไหน  ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจอะครับพี่ปอม จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:16:16 A:114.128.189.251 X:

ความคิดเห็นที่ 83 ความคิดเห็นที่ 70.. ก็นั่นไงครับคุณป้อม.. ผมก็มั่นใจอยู่แล้วว่า ถึงจะอย่างไร คุณก็มีใจเป็นธรรมอยู่บ้าง..คุณเองยังเชื่อเลยว่า คตส. ไม่เป็นกลาง.. คุณมั่นใจในศาล.. ผมมั่นใจด้วยก็ได้ ถ้าพิสูจน์ให้ผมเห็นประจักษ์.. เมื่อ สองพี่น้องตระกูลชินวัตร ไม่มีมีใคร ดำเนินการเรื่องฟ้องศาลภาษี..ก็ถือว่ายอมรับ ในคำสั่งกรมสรรพากร และพร้อมชดใช้ ภาษีรวมค่าปรับ หมื่นกว่าล้าน.. ก็เป็นอันว่า คดีนี้ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่.. เงินในบัญชีของ นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ยังไม่ได้รับการถอนอายัดนะครับ.. ล่าสุดก็ตามที่ผมเอามาแสดงไว้ใน ความคิดเห็นที่ 8.. ศาลปกครองกลาง ให้ยืนคำสั่งอายัดไว้ ตามคำสั่ง คตส. (ซึ่งไม่เป็นกลางตามที่คุณบอกว่า คตส.เป็นกลางก็บ้าแล้ว) แล้ว เมื่อไหร่ ปปช. ที่รับโอนเรื่องมาจาก คตส. จะแจ้งถอนอายัด ล่ะครับนี่.. งานแบบนี้ เชื่อได้ว่า มีการโยนลูกกันไปมาอีกยาว.. ทีนี้ คดี สิ้นสุด เด็กๆมันต้องเอาเงิน ออกมาชำระภาษีแล้ว แต่ เอาออกมาไม่ได้ .. และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ จะทำยังไงกันล่ะครับนี่.. จริงๆเรื่องนี้ เมื่อถึงเวลานี้ ใครมีอำนาจอายัดทรัพย์เค้า ก็ ถอนได้แล้ว เสียตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไวด้วย เพราะกรมสรรพากร จะได้เร่งนำเงินค่าภาษีค่าปรับ หมื่นกว่าล้าน ส่งคลังหลวงคืนกับบ้านเมืองเสียที.. ต่อไป จะได้ไม่มีใครเอามาว่า เอามาอ้างได้ว่า ครอบครัวชินวัตร ไม่เสียภาษีตามจริง..!! จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 20:41:28 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 84 คุณ : เฮียแจ็ค   กรณีส่วนต่างราคาตลาด กรรมการซื้อหุ้นถูก กรณีนี้ตามมาตรา ๔๐(๒) เงินได้เนื่องจาก ... เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 22:55:11 A:124.122.100.107 X:

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ : SaVor   เรื่องร่ำรวยผิดปกติ กรณีให้พิสูจน์ที่มาของรายได้ ผมว่ายังไม่มีการฟ้องแน่นอน จะฟ้องทำไม มันก็เห็นอยู่ทนโท่ ว่าราคาหุ้นมันขึ้นมาเป็น ๗ หมื่นกว่าล้าน เวลาคุณเปิดบริษัท คุณโอนสมบัติส่วนตัวคุณไปไว้ในบริษัท ในทางบัญชีคือบริษัทซื้อสมบัติคุณ พอสมบัติมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คุณจะเปลี่ยนใจโอนสมบัติดังกล่าวกลับมาเป็นของส่วนตัวโดยไม่เสียภาษีได้ง่ายๆไหม จะหลบไปทางไหน ไม่บริษัท ก็ตัวคุณเอง ต้องเสียภาษีให้รัฐ จะเป็นที่ดิน จะเป็นหุ้น ถ้าทำตรงไปตรงมาหนีพ้นยาก ต่อให้บริษัทเจ๊ง จะดึงสมบัติที่เหลือกลับ ถ้าไม่อยากมีปัญหา ก็ต้องขายคืนตัวเองราคาตลาด แล้วเอาไปชำระบัญชีบริษัท มันไม่ใช่โอนคืนกันง่ายๆ แบบย้ายเงินกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวาหรอกครับ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 23:10:46 A:124.120.222.247 X:

ความคิดเห็นที่ 86 คุณ : กระสุนไม้   การที่กรรมการซื้อสมบัติบริษัท (จะเป็นหุ้น ที่ดิน รถยนต์...) ถูกกว่าราคาตลาด จากบริษัทตัวเองเพื่อเลี่ยงภาษีเล็กๆน้อยๆทำกันทั้งนั้น เพราะราคาตลาดไม่ไม่ตายตัว ราคาหุ้นวันหนึ่งก็วิ่งขึ้นลง ที่ดินราคาตลาดก็ไม่ใช่ราคาประเมินกรมที่ดินตายตัว แต่การขายในราคาถูกกว่าตลาด ๕๐ เท่า ไม่มีใครทำ ทำไปยังไงก็ต้องเข้ามาตรา ๔๐(๒) จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 23:20:37 A:124.120.222.247 X:

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ : ....4จุด   กรณีจะลงโทษทุกฝ่าย คุณว่าเสื้อแดงจะโดนเบากว่าเสื้อเหลืองหรือครับ กรณีพยายามทำร้ายนายก และเลขาในรถ ตลอดจนเผารถเมล์ ขู่ด้วยรถแก๊ส ถัวงแก๊ส นี่ผมว่าเอากันจริงๆน่าจะหนักพอดู เรื่องที่ดินรัชดา คำว่าสำนึกผิด มันไม่ใช่แค่ตอนซื้อเข้าใจว่าผิดหรือถูกกฎหมาย แต่ทักษิณ ณ เวลาขึ้นศาล สำนึกผิดบ้างไหมว่าอาจทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งโดยความเชื่อของศาล เชื่อว่าเป็นไปได้ที่คู่แข่งอาจแข่งขันไม่เต็มที่ เมื่อรู้ว่าต้องแข่งกับนายก ซึ่งอาจจะเป็นทั้งเกรงใจ หรือกลัวว่าอาจถูกกลั่นแกล้ง ทักษิณซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ทำมาค้าขายกับรัฐมาก่อน จะไม่มีประสบการณ์แบบนี้เลยหรือ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 23:44:58 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 23:31:24 A:124.120.222.215 X:

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ : ธนูไฟ   ถ้าไม่มีการลดภาษีมือถือ ดาวเทียม ไม่มีการปล่อยกู้พม่า ไม่มีการให้มีการบินเสรีทับเส้นทางการบินไทยที่มีกำไร ไม่มีการแก้สัญญาไอทีวี ไม่มีการแก้กฎหมายสัดส่วนต่างชาติถือครองสื่อสาร หุ้นชินจะขายได้เกือบ ๕๐ บาทให้เทมาเสกไหม ซึ่งตรงนี้ถ้าทักษิณไม่เป็นเจ้าของหุ้นชินก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ คตส.เขาเชื่อว่าที่ทักษิณโอนให้ลูกเป็นนิติกรรมอำพราง แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 23:49:07 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 23:36:27 A:124.120.222.215 X:

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ : Vee&Cat   เรื่องนี้ ถ้าลูกทักษิณแสดงเจตจำนงค์ให้ชัดว่ายินดีจ่ายภาษีและค่าปรับ และไม่มีปัญญาจะหาเงินอื่นมาจ่าย จะถอนหรือไม่ถอนอายัดก็ไม่น่ามีปัญหาหรอกครับ แต่จะถอนอายัดตอนนี้ไม่ได้ เพราะคดีร่ำรวยผิดปกติขึ้นสู่ศาลแล้ว แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 52 23:52:36 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 23:39:37 A:124.120.222.215 X:

ความคิดเห็นที่ 90 rep 85 เขาฟ้องไปแล้ว... ตามข่าวหน่อย ข่าวที่โด่งดังในวงกว้างล่าสุดของคดีนี้ก็เรื่อง ทักษิณ จะขอวีดีโอลิงค์เปิดคดี ศาลฎีกาฯยกคำร้องแม้วขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ศาลฎีกาฯไม่รับคำร้อง แม้ว ขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ บอกให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนพิจารณา 15 วัน นัดไต่สวนพยานครั้งแรก 16 ก.ค. ทักษิณ ส่งทนายฟ้อง รมว.ตปท.-เอเอสทีวี หมื่นประมาท กล่าวหาต้องการเป็นปธน. ล้มสถาบัน ไม่มีหตุผลอันควรศาลฎีกาฯยกคำร้องแม้วขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ผ่านวิดีโอ ทักษิณ ฟ้องหมิ่นฯกษิต-เอเอสทีวี ศาลฎีกาฯชี้ยังไม่มีเหตุผลอันควรยกคำร้อง แม้ว ขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นัดคู่ความ 2 ฝ่ายอีกครั้ง 28 พ.ค.พร้อมไต่สวนพยานครั้งแรก 16 ก.ค. ทักษิณ ส่งทนายฟ้อง รมว.ตปท.-เอเอสทีวี หมื่นประมาท กล่าวหาต้องการเป็นปธน. ล้มสถาบัน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มีนาคม เพื่อตรวจพยานหลักฐาน และฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ 14/2551 ที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 76,627,603,061.05 บาท พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนเรื่อง แอมเพิล ริช ผมถามว่า " รายได้มันอยู่ตรงไหน ? " เพราะ โอ๊ค + เอม ได้บริษัทนี้มาพร้อมหุ้นเลย ในทางบัญชี แอมเพิล ริช ของ โอ๊ค + เอม ไม่เคยซื้อหุ้นชิน แล้วรายได้มันจะมาจากไหน ??? ไม่มีรายได้ คุณเอาอะไรไปเก็บภาษี ??? ผมถึงถามต่อว่า " แล้วถ้าโอนกลับไปกลับมา แบบนี้เสียทบต้นเหรอ ? " แบบนี้ก็แย่แล้วล่ะ... เพราะคุณไม่ได้ตีความโดยวัดจาก ผลประโยชน์ หรือ รายได้ เลย... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 00:08:02 A:124.121.248.134 X:

ความคิดเห็นที่ 91 ความคิดเห็นที่ 89 คุณ Pom.com "เรื่องนี้ ถ้าลูกทักษิณแสดงเจตจำนงค์ให้ชัดว่ายินดีจ่ายภาษีและค่าปรับ และไม่มีปัญญาจะหาเงินอื่นมาจ่าย จะถอนหรือไม่ถอนอายัดก็ไม่น่ามีปัญหาหรอกครับ" อ้าววว มีสิครับปัญหาน่ะ.. เงินในบัญชีธนาคารที่ถูกอายัดของ นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา.. ไม่ได้มีอยู่แค่ที่จะเอามาเสียภาษีให้ถูกต้องน่ะสิครับ.. ท่านเล่น อายัดเอาไว้หมด เด็กมันจะเอาอะไรไปทำมาหากิน ไปใช้จ่ายล่ะครับ.. เงินในบัญชีเป็นทรัพย์ของเค้า มีที่มาที่ไป ชัดเจน ตรงไหนไม่ถูกต้องก็เอาไปจ่ายให้ถูกต้องเสีย ก็จบครับ.. แล้วตกลง คดีร่ำรวยผิดปกตินี่ ฟ้องใครครับนี่ ทักษิณ ชินวัตร หรือ พานทองแท้ หรือ พิณทองทา ชินวัตร.. นี่กะจะเอากัน 7 ชั่วโครตโดยการฟ้องเอาผิดคนๆเดียว เลยกระมังครับ.. คุณลองมองด้วยใจที่เป็น ธรรม ของคุณดูสิครับ.. ใช่แบบนั้นหรือไม่.. ถ้าจะเอาแง่กฎหมายว่า สมรู้ร่วมคิดร่วมกระทำผิด ตั้งข้อกล่าวหาเค้าหรือเปล่า กฎหมายข้อไหน มาตราไหน..?? หรือ ตั้งเฉพาะพ่อในฐานะผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมือง เลยเหมารวมไปเอาลูก เข้าไปด้วย.. ทำผิดคนเดียว ต้องประหาร หมดตระกูล เค้าเลิกกันไปนานขนาดไหนแล้วครับนี่.. แย่ครับ..กระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ยอมมอง สิทธิของแต่ละบุคคลเลย.. ไม่ได้มาเรียกร้องอะไรหรอกครับ แค่บ่นให้ฟัง และหารือประเด็นที่สงสัยแค่นั้น.. ถ้า..จะเอาบรรทัดฐาน กันแบบนี้ ก็เอากันไป.. ถึงคราวตัวเอง อย่ามาร้องเรียกขอความเห็นใจก็แล้วกัน.. จริงมั๊ยครับคุณป้อม..หึหึ..!! จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 01:33:20 A:110.164.16.70 X:

ความคิดเห็นที่ 92 คุณ : SaVor   ที่เขาฟ้องมันก็คดีเดียวกับที่ผมบอกในความเห็น ๗๒ พื้นฐานมันก็คือรายได้จากการขายหุ้นชิน ที่คตส. ว่าทักษิณให้ลูกเป็นนอมินี แล้วเอื้อประโยชน์ มันคนละเรื่องกับกรณีข้าราชการร่ำรวยผิดปกติ ที่ต้องมาอธิบายว่าได้ทรัพย์สินมาอย่างไร ส่วนเรื่องโอนกลับไปกลับมา ระหว่างบริษัทกับเจ้าของ ถ้าสมบัติชิ้นนั้นจะเป็นหุ้น หรือเพชรพลอย ราคามันไม่เพิ่มสูงขึ้น มันไม่มีปัญหาเรื่องภาษี แต่ถ้าเมื่อไร ราคามันเพิ่มสูงขึ้น ยังไงก็ต้องเสียภาษีสักทาง ขายคืนในราคาถูกกว่าราคาตลาด ก็ต้องถือว่าเป็นรายได้ของกรรมการตาม ๔๐(๒) เอาไปเสียบุคคลธรรมดา ขายคืนเจ้าของในราคาตลาด บริษัทก็มีรายได้ในส่วนนี้ ส่วนเสียภาษีเท่าไรก็คิดภาษีโดยรวมกับธุรกรรมอื่นๆตามปกติ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 01:59:26 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 01:47:20 A:124.120.222.215 X:

ความคิดเห็นที่ 93 คุณ : Vee&Cat   คดีร่ำรวยผิดปกตินี่ฟ้องทักษิณครับ แต่อายัดเงินที่ลูกทักษิณถือไว้ เพราะคตส. เขาว่านั่นเป็นเงินทักษิณ ที่ให้ลูกเป็นนอมินี จะเป็นธรรมหรือไม่มันก็แล้วแต่มุมมอง ถ้าทักษิณเป็นเจ้าของหุ้นชินตัวจริง คุณว่าเป็นธรรมไหมที่ทักษิณเป็นนายกแล้วเอื้อชิน เช่น ลดภาษี แก้สัญญา แก้กฎหมาย ให้เงินกู้ ให้สัมปทาน ฯลฯ ถ้าตรงนี้คุณว่าเป็นธรรม มันก็ไม่ต้องเถียงต่อ แต่ถ้าคุณว่าไม่เป็นธรรม มันก็ต้องมาดูว่าลูกทักษิณเป็นนอมินีไหม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 01:56:40 A:124.120.222.215 X:

ความคิดเห็นที่ 94 คุณไม่เข้าใจหรือว่า ทั้งบริษัทแอมเพิล ริช ทั้งลูกทักษิณ มันคือ " บุคคลเดียวกัน " ครับ... ทีนี้เงินได้ มันจะนับได้อย่างไรครับ... ตอบให้ตรงประเด็นหน่อย... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 02:41:50 A:124.121.248.134 X:

ความคิดเห็นที่ 95 คุณ : SaVor   บริษัทกับตัวเจ้าของมันจะเป็นบุคคลเดียวกันร้อยเปอร์เซนต์ไม่ได้หรอกครับ ไม่ต้องพูดเรื่องประเด็นอื่น เอาเฉพาะประเด็นสินทรัพย์ การโอนสินทรัพย์เข้าออกบริษัท มันก็ต้องซื้อขายระหว่างคุณกับบริษัท โดยทั่วไปก็ต้องใช้ราคาตลาด ลองบริษัทขายคืนคุณต่ำกว่าราคาตลาด สรรพากรก็ต้องตีความว่าคุณได้รายได้ในฐานะกรรมการ ตาม ๔๐(๒) ว่าไปแล้วมาตราทำนองนี้ในอเมริกา ก็พึ่งเป็นเรื่องฉาวโฉ่ จนทีมงานกระทรวงการคลังของโอบามาต้องถอนตัว แค่ใช้รถตำแหน่งบริษัท เขายังมาคิดว่าเอาไปใช้ส่วนตัว ๑ ใน ๓ ตรงนั้นต้องถือว่ามีรายได้เป็นค่าใช้จ่ายรถ ๑ ใน ๓ บ้านเราตรงนี้ยังหลีกเลี่ยงภาษีแบบนี้อีกมาก เพราะราคาตลาดสินทรัพย์มันไม่มี เป็นช่องโหว่ ให้มีช่องเลี่ยงภาษี โดยอาจมีการร่วมทุจริตกับสรรพากรในบางครั้ง เมืองไทยอาจมีแก้ลำตรงที่ดิน เพราะคิดภาษีจากราคาประเมิน ไม่ใช่ราคาซื้อขาย แต่สินทรัพย์อื่นยังมีช่องโหว่ เพราะราคากลางมันไม่ชัดเจน แต่กรณีของหุ้น ราคาตลาดแม้จะไม่ชัดเจน แต่มันก็ประมาณได้ในระดับหนึ่ง เอากันง่ายๆว่าซื้อในราคาต่ำสุดของวันนั้น แถมลดลงไปอีก ๓๐ เปอร์เซนต์ผมว่าสรรพากรยังขี้เกียจแตะ ปล่อยผ่าน เพราะมันยังมีข้ออ้างอีกเยอะ เรื่องปริมาณการซื้อ... แต่ไม่ใช่ลดลงไป ๕๐ เท่า ๕๐๐๐ เปอร์เซนต์ ว่าไปแล้วผมว่าการที่สรรพากรเอาราคาที่ลูกนายกขาย(๔๙.๒๕)ลบราคาซื้อ(๑ บาท) ก็ไม่ถูกต้องนัก จริงๆต้องเอาราคาตลาดในวันที่ลูกนายกซื้อมาตั้ง แต่ราคานั้นมันหาไม่ได้ ก็เลยเอาราคาขายมาแทน คุณอาจจะมองว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าของ ทำไมคุณไม่มองความเป็นธรรมของรัฐและประชาชนอื่นบ้าง คุณตัดสินใจเปิดบริษัท เอาสินทรัพย์มาลงทุน สินทรัพย์มีราคาสูงขึ้น ถ้าขายบริษัทมีกำไร ต้องเสียภาษี คุณจะบอกว่าเป็นสินทรัพย์เดิมของคุณ ขอคืนหน้าตาเฉย ไม่ต้องเสียภาษีอย่างนั้นหรือ ยิ่งกรณีหุ้น ถ้าคุณถือไว้ในมือส่วนตัว ถ้าราคาหุ้นตก ขายไปคุณก็ได้เท่าราคาหุ้น แต่พอคุณถือในนามบริษัท ซื้อแพง ขายถูก ลงบัญชีหักลบแล้วมันก็เหมือนเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท เอาไปลดภาษีกำไรส่วนอื่นของบริษัท ไม่นับผลประโยชน์อื่นๆในการเอาหุ้นมาเป็นสินทรัพย์บริษัท ซึ่งต่างกันออกไป คุณได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้ไปแล้ว ซึ่งถ้าคุณคิดจะใช้แล้วไม่ได้ใช้ก็ช่วยไม่ได้ แบบกรณีทักษิณที่พูดว่าวางแผนจะเข้าแนสแดก แล้วไม่ได้ทำ แต่การที่เศรษฐีมีสินทรัพย์สำรองในต่างประเทศ ผมถือว่าได้ใช้ประโยชน์ไปแล้ว จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 09:55:12 A:124.121.212.133 X:

ความคิดเห็นที่ 96 #87 ศาลใช้คำว่า"เชื่อได้ว่า" นะครับ ไม่ได้พิสูจน์เจตนาจนปราศจากข้อสงสัย ว่าทักษิณคิดจะทำให้รัฐเสียหายจริงๆสักหน่อย อย่างที่บอกไปแล้ว ทักษิณมีการสอบถามหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงทั้งหมดอยู่ก่อน ไม่ได้มีข้อมูลหลักฐานใดๆที่บ่งบอกว่าเป็นการเตี้ยมกันระหว่างทักษิณกับหน่วยงานรัฐ หรือมีการสั่งการใดๆเป็นการพิเศษ ย้ำว่าศาลใช้คำว่า "เชื่อได้ว่า" นั่นแสดงว่าศาลเชื่อแบบนั้น แต่ไม่ได้มีหลักฐานสนับสนุนใดๆเลย จริงอยู่ถ้าตีความตามข้อกฎหมายก็อาจจะผิดในแง่ของการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจมีผลต่อคู่แข่ง(ย้ำว่าอาจ) แต่ถ้ามองในแง่ของเจตนา ไม่มีการพิสูจน์เจตนาว่าจะมีการใช้อิทธิพลเลยจริงๆ นั่นหมายถึงว่า ศาลไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ทักษิณมีเจตนาในการใช้ิิือิทธิพลเลยสักนิด แค่พูดถึงว่าอาจผิดในข้อกฎหมายเท่านั้น ฉะนั้นจะอ้างได้อย่างไรว่า ทักษิณไม่สำนึกผิด เลยต้องลงโทษสูงสุดแรงๆ? ทั้งๆที่ถ้ามองจริงๆ ต้องเีรียกว่าทักษิณผิดข้อกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ เพราะการตีความที่ต่างกัน เีรียกว่าทำผิดพลาดทางเทคนิคนั่นแหละ ขนาดคนทำผิดกฎจราจร แบบไม่ตั้งใจกับแบบตั้งใจ ยังโดนปรับไม่เท่ากัน แล้วนี่ไหงคุณถึงเห็นด้วยที่จะเอาผิดขั้นสูงสุดกับคนที่ไม่ได้ตั้งใจ(เพราะศาลไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าตั้งใจจะทำผิด)ได้อย่างไร? ส่วนเรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดง ใครจะโดนแรงกว่าผมไม่คิดมากหรอก ขอให้โดนบนพื้นฐานของความยุติธรรมจริงๆ เสื้อแดงทำลายทรัพย์สินก็ว่าไป ทำร้ายร่างกายก็ว่าไป(อย่าสมมติว่าเป็นพยายามฆ่ามั่วๆล่ะ เพราะการใช้อาวุธมีไม่ถึงขั้น  นั้น ใช้แค่ไม้กับกระถางต้นไม่ ไม่ถือเป็นพยายามฆ่านะครับถ้าเปรียบเทียบกับคดีตะลุมบอนทั่วๆไป) แต่เสื้อเหลืองน่ะสิต้องคิดหนัก เพราะก่อการร้ายสากลเอย(กรุณาอย่าแถว่า ไม่ได้ปิดสนามบินแต่การท่าปิดเองนะครับ)  พยายามฆ่าเอย(เอาธงปักตำรวจ กับถอยรถเหยียบซ้ำ รวมไปถึงถือปืนไล่ยิงชาวบ้านที่วิภาวดี) หรือแม้แต่ก่อวินาศกรรม(หากรื้อคดีสารวัตรจ๊าบต่อ) ยังไม่ต้องมองถึงคดีแพ่ง ที่เสียหายนับแสนล้านบาท จนไม่รู้จะไปฟ้องกับใครจากการปิดสนามบินเลยครับ(ผู้บริหารโรงงานที่ผมรู้จัก บอกว่าฟ้องใครไม่ได้ เพราะบางบ.ที่ฟ้องก็เงียบหายหมดเรื่องไม่เดินเลย) ผมก็ยังแปลกใจว่า คุณคิดว่าถ้าดำเนินการอย่างเป็นธรรมแล้ว แดงจะโดนมากกว่าเหลืองได้อย่างไรจริงๆ? /* เพิ่มเติม*/ อย่าลืมว่าคดีนี้ ศาลตัดสินโดยตีัความกฎหมายขัดแย้งกับความเห็นของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง นั่นหมายความว่า ทักษิณไม่ได้ตั้งใจทำผิดตั้งแต่แรก เพราะได้สอบถามไปก่อนว่าทำได้เลยทำ ฉะนั้นจะมองยังไงว่าทักษิณตั้งใจทำผิดล่ะครับ ในเมื่อไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่ามันผิดมาก่อน ไม่มีใครตีความกฎหมายว่ามันผิดมาก่อนเลยสักคน? แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 11:43:09 จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 11:27:31 A:113.53.135.60 X:

ความคิดเห็นที่ 97 คุณ : ....4จุด   ผมบอกแล้วว่าถ้าไม่ให้อภัยเรื่องไม่จบ แต่ละฝ่ายก็จะบอกว่าความผิดตัวเองเล็กน้อย กรณีรถนายก หรือเลขานายก คุณจะเรียกว่าอะไรก็ตาม ถ้าเป็นอเมริกา ผมว่าคนที่ใช้ไม้ทุบรถนายก หรือคนที่ทำร้ายเลขานายกจนซี่โครงร้าว ถูกยิงตายไปแล้ว ไม่นับแกนนำที่พังประตู โรงแรมที่พัทยาบุกเข้าไป จนภริยาผู้นำต่างชาติร้องไห้ คุณจะเรียกว่าอะไร ผมก็ว่ามีสิทธิ์ถูกยิงตายเหมือนกัน กรณีรถก๊าซก็เหมือนกัน ถ้าวันนั้นระเบิดขึ้นมา คุณจะเรียกว่าคดีอะไร ส่วนกรณีพันธมิตรปะทะกับตำรวจ ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วนะครับ ว่าแก๊สน้ำตาทำให้ผู้ประท้วงส่วนใหญ่บาดเจ็บ ซึ่งเป็นผลจากการที่แก๊สน้ำตาเสื่อมอายุ แต่ไม่หมดอายุ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องดูองค์ประกอบการจลาจล ส่วนเรื่องสนามบิน ความผิดระดับไหนมันก็ต้องว่ากันไป แต่ระดับผู้ก่อการร้ายนี่มันไม่เวอร์ไปหน่อยรึครับ ในอังกฤษประท้วงปิดรันเวย์เป็นวัน เขายังไม่ตั้งข้อหาแบบนั้น เรื่องที่ดินรัชดา ผมพูดอีกที เพราะคุณดูยังไม่เข้าใจความหมายที่ผมสื่อ ผมกับคุณเห็นตรงกันว่าทักษิณไม่ตั้งใจทำผิดกฎหมาย ตีความสถานะของกองทุนฟื้นฟูต่างจากตุลาการ ๖ คน ใน ๙ คน แต่ประเด็นคือทักษิณมีเจตนาอย่างไร และสำนึกผิดไหม การที่ภริยานายกจะประมูลซื้อที่ดินของรัฐ แข่งกับเอกชน อาจ ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ ในการสู้ราคา ว่าคู่แข่งอาจไม่สู้ราคาสูง เช่น  เพราะอาจเกรงว่าจะพัฒนาที่ดินนั้นลำบากในอนาคต ข่าวเรื่องแก้กฎให้สร้างคอนโดสูงมีมานานแล้ว แต่ยังไม่ออก ถ้าประมูลชนะอาจถูกเปลี่ยนแผนก็ได้ หรืออาจถูกกลั่นแกล้งเรื่องอื่น ตรงนี้จะเป็นศาล จะเป็นนักธุรกิจจำนวนมาก เห็นตรงกัน ผมก็เห็นด้วย ไม่รู้คุณเห็นด้วยไหม ราคาที่ดิน มันขึ้นกับข่าวทั้งนั้น ผมมีที่ดินหลายแปลง พอมีข่าวรถไฟฟ้า คนก็วิ่งมาขอซื้อให้ราคาสูง แต่เจอแบบนี้ มูลค่าที่ดินรัชดาในเชิงข่าวมันเลยกั๊กอยู่ สมมุติวันที่ประมูล ทักษิณซึ่งเป็นนักธุรกิจเคยทำสัมปทานกับรัฐ เข้าหาผู้มีอำนาจมาตลอด แถมตอนเป็นนายก ก็รู้ดีว่ามีอำนาจเหนือนักธุรกิจอย่างไร จะบอกว่าลืมนึกไป วันที่ขึ้นศาล จนถึงวันนี้ สำนึกไหม ถ้าไม่สำนึก คุณจะให้ศาลลงโทษอย่างไร แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 52 12:36:41 จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 12:03:15 A:124.121.212.133 X:

ความคิดเห็นที่ 98 5555 กลับมาวนลูปอีกรอบที่เคยถกเถียงกันไปในกระทู้ก่อนๆอีกแล้ว ผมบอกแล้วไงครับ ใครทำผิดก็เอาผิดไป แต่ต้องดูมูลฐานความผิดจริงๆ ถ้าคุณ POM.com เคยอ่านคำพิพากษามาบ้าง ก็น่าจะทราบดีว่า เคสไหนคือการทำร้ายร่างกาย เคสไหนคือพยายามฆ่า ใช้ความสำคัญของตัวบุคคลตัดสินอย่างเดียวไม่ได้เลยครับ ต้องดูองค์ประกอบของเจตนา อาวุธที่ใช้และจำนวนคน ยิ่งกับฝ่ายบอดี้การ์ดของVIP มีอาวุธครบมือ(มียิงปืนกลสั้นโชว์ด้วย) อีกฝ่ายมีแต่ไม้ กระถางต้นไม้ จริงอยู่ว่าการปกป้องผู้นำอาจต้องใช้การปกป้องด้วยชีวิต แต่ถ้าผ่านมาได้แล้ว ก็ต้องดูจริงๆ ว่าแต่ละฝ่ายใช้อาวุธอะไร ถึงตายได้ไหม มีเจตนาฆ่าจริงๆหรือเปล่า ไม่ใช่ใช้แค่ความรู้สึกเฮๆ กันอย่างเดียวครับ อันนี้ลองไปดูเคสตะลุมบอนกันจริงๆ ต่อให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส แต่ถ้าไม่ได้ใช้อาวุธหนัก มันก็ยังไม่ใช้เจตนาฆ่าครับ เรื่องรถแก็ส ถามว่าจับใครได้บ้างหรือยัง? เจ้าของอ้างรถโดนจี้ คนขับรถก็ปรากฎในภาพถ่ายชัดเจน ฝ่ายทหารตำรวจพยานบุคคลเป็นร้อย แต่ไหงกลับจับไม่ได้เลยล่ะ ทีปาไข่ หรือขว้างไม้ใส่รถนายก ยังจับได้กันมากมาย? เรื่องบุกพังโรงแรมไป ถามว่าได้บุกเข้าไปถึงส่วนไหน? ที่เห็นคือบุกเข้าส่วนหน้าไปได้ แต่ไม่ผ่านไปถึงตัว VIP ผมกับคุณก็คงเห็นภาพข่าวชัดๆ ตอนบอดี้การ์ด ชักปืนออกมาขู่ผู้ชุมนุม เพื่อห้ามไม่ให้รุกเข้าไปมากกว่านั้น ซึ่งผู้ชุมนุมก็ยอมสยบแต่โดยดี ส่วนผู้บาดเจ็บจากแก็สน้ำตา ถามว่าใครสรุปล่ะครับ? เห็นคนสรุปมาแบบไม่มีข้อมูลหรือการทดลองรองรับเลยสักนิด คุณ POM อยู่ในวงการวิศวกรรม คงไม่คิดว่า การทดสอบยิงแก็สน้ำตาใส่เสาโกลล์บุบ ใส่กระสอบไหม้ จะสามารถสรุปได้ว่าเมื่อโดนคนแล้วจะทำให้มือขาด ขาขาด หรือแม้แต่ตายด้วยแรงอัดมหาศาลได้หรอกนะครับ ผมเอาไม้ทุบเสาโกลล์ก็บุบเช่นกัน แต่ทุบขาคนถามว่ามันจะขาดเป็นริ้วๆแบบบาดแผลที่เกิดขึ้นไหม? แล้วทำไมตัดการทดสอบระเบิดแสวงเครื่องดัดแปลง(ปิงปอง)ที่พบในที่เกิดเหตุทีหลังออกไปล่ะ?  เอกสารสรุปผลของกก.สิทธิฯ มีข้อขัดแย้งและคลุมเครือมากมาย จนไม่อยากจะให้ใช้คำว่าเป็นข้อสรุปเลยครับ เอาง่ายๆแค่สถิติการใช้ less than lethal weapon ทั่วโลก ก็ไม่เคยมีใคร ขาขาด แขนขาด ตายเพราะแผลเหวอะหวะอย่างบ้านเราเลยครับ หรือจะโทษจีนเป็นแพะดี? และที่สำคัญ ต่อให้ผู้บาดเจ็บเกิดจากแก็สน้ำตา(?)จริงๆ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับการ ก่อวินาศกรรมโดยcarbomb รถจี๊ปของสารวัตรจ๊าบ การขับรถไล่เหยียบแถมถอยรถมาเหยียบซ้ำ การใช้ปืน ด้ามธง ไล่แทงตำรวจเลยนะครับ เอาจริงๆ ถ้าเทียบระหว่าง 7 ต.ค. กับ 13เม.ษ. จำนวนผู้บาดเจ็บของฝ่ายที่เข้าปราบปราม เป็นตัวบ่งชี่ได้อย่างดีว่าฝ่ายผู้ชุมนุใช้ความรุนแรงแค่ไหน ทำไมผมเห็นภาพข่าวผู้ชุมนุมเม.ษ. ใช้ระเบิดเพลิงปาไป แต่ก็ปาไม่ถึง ไม่โดนคน ไม่มีทหารบาดเจ็บเพราะไฟลวกทั้งตัวเจียนตาย เหมือนกับที่ตร.โดนแทง โดนรถทับจนสาหัสบ้างล่ะครับ? ส่วนเรื่องปิดสนามบิน ต้องดูสิครับว่าตปท.เขาปิดยังไง เราปิดแบบไหน ตปท.เขาชุมนุมโดยสงบ ไม่มีการตั้งป้อมค่าย ไม่มีการใช้อาวุธกับคนในสนามบิน และปิดแค่ชั่วคราวไม่กี่ชั่วโมง แต่ของเราล่ะ ตั้งค่ายกองโจร มีอาวุธเต็มที่ ใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ตร. และรปภ.สนามบิน แถมปิดเป็นสัปดาห์ จนเจ้าของเครื่องบินต้องลอบนำเครื่องบินออก โดย take off แบบไม่เปิดไฟเครื่องบิน(อันตรายสุดๆ) ไม่มีทางที่จะมองเทียบกันได้เลยครับ กลับมาเรื่องทักษิณ คุณเองก็ยอมรับใช่ไหม ว่าการซื้อที่ดินของรัฐเป็นความผิด เนื่องจากการตีความของตลก. เท่านั้น นั่นแปลว่า ก่อนหน้านั้นไม่มีใครทราบว่าเป็นความผิด ไม่ได้มีเจตนาทำผิดแล้วจะให้สำนึกผิดอะไรล่ะครับ เหมือนผมเซ็นเอกสารที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ลงนาม แล้วพบว่าภายหลังมันขัดกฎหมาย(เพิ่งตีความกฎหมายใหม่) เลยต้องยกเลิกไปแล้วเซ็นใหม่ ถามว่าผมต้องสำนึกผิดไหมที่ทำเอกสารขัดข้อกฎหมาย? ที่คุณพูดมันขัดแย้งกันเองนะครับ คุณบอกว่าทักษิณไม่ตั้งใจทำผิดกฎหมาย แต่ดันบอกว่าทักษิณไม่สำนึกผิด อ้าวก็ไม่ได้ตั้งใจทำผิด แล้วจะให้สำนึกอะไรล่ะ? ส่วนเรื่องว่าใช้อิทธิพลทำให้เกิดการแข่งขันลำบาก เป็นสิ่งที่คุณและตลก. เชื่อนะครับ แต่ไม่มีหลักฐานใดๆยืนยันว่ามีการใช้อิทธิพลนั้นจริงๆ หรือมีคู่แข่งไม่กล้าสู้จริงๆ ย้ำว่าไม่มีหลักฐานอะไรเลย นอกจากคำว่า"เชื่อได้ว่า" ตรงนี้คุณยอมรับใช่ไหมครับ? จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 16:28:59 A:113.53.135.60 X:

ความคิดเห็นที่ 99 ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเท่าไหร่... - ตอนแรกทักษิณเขาทำแบบนี้ครับ... ที่ SH 063/2542 11 มิถุนายน 2542 เรื่อง ขอชี้แจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ตามแบบ 246-2 ที่ผู้ถือหุ้นได้แจ้งให้สำนักงาน กลต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบแล้วนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อให้ทราบดังนี้ เดิม ใหม่ 1. นางพจมาน ชินวัตร 25.00% 25.00% 2. พ.ต.ท.ดร. คุณทักษิณ ชินวัตร 23.75% 11.88% 3. Ample Rich Investments Limited 0% 11.87% (ถือหุ้นโดย พ.ต.ท. คุณทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมด 100 %) 48.75% 48.75% การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคือ พ.ต.ท. ดร. คุณทักษิณ ชินวัตร ได้โอนหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 11.87% ให้กับ Ample Rich Investments Limited ซึ่งผู้ถือหุ้นถือเป็นบุคคลเดียวกันกับเจ้าของเดิม แสดงให้เห็นว่ามิได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่มีผลต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นทั้งทางด้านส่วนตัวและบริษัทฯ โดยเฉพาะในส่วนของการบริหารงานบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของการบริหารงานบริษัทฯ ยังคงเป็นเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม เพื่อชี้แจงให้เห็นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่า เป็นการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการที่บริษัทฯ มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนจากต่างประเทศ ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาขยายการลงทุนด้านโทรคมนาคมในประเทศไทย ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2542 ตามหนังสือเลขที่ SH 61/2542 แล้วนั้น เพื่อให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนจากต่างประเทศดังกล่าว บริษัทฯ มีความจำเป็นที่ต้องสำรองหุ้นบางส่วนจากผู้ถือหุ้นปัจจุบันทั้งรายใหญ่และรายย่อย เพื่อทดสอบความสำเร็จและสภาพคล่องของ ADR Level I ก่อนนำหุ้นที่เพิ่มทุนเข้าสู่ ADR Level III หรือจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายบุญคลี ปลั่งศิริ) กรรมการ บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ ทำแบบนี้ไม่เสียภาษีใช่ไหมครับ... - ต่อมาก็ได้โอนบริษัทให้ลูกที่บรรลุนิติภาวะ 2 คน คือ โอ๊ค + เอม ตรงนี้ก็ไม่เสียภาษีนะครับ... เนื่องจากเป็นการให้ในกรอบของการอุปการะ หรือให้ในโอกาสพิเศษ ฯลฯ ก็ว่ากันไป - จากนั้นทั้ง โอ๊ค + เอม ก็ทำกลับกระบวนการขั้นแรก แล้วค่อยขายหุ้นให้เทมาเสค ถามว่า " แล้วภาษีมาจากไหน ? " รายได้ที่คุณพูดถึง ความจริงมันไม่ใช่รายได้นะครับ มันอยู่ในส่วนของ " ทุน " ต่างหาก... คุณจะมาเก็บภาษีจากส่วนที่เป็นทุนของเขาได้อย่างไรครับ... ทีนี้ถามว่าทำไมต้อง 1 บาท ? ก็ 1 บาทเป็น ราคาพาร์ ของหุ้นชินฯ ครับ... เป็นราคาทุนที่ แอมเพิล ริช รับมาสมัยยังเป็นของทักษิณ เมื่อโอนกลับก็จึงใช้ราคาทุนเช่นกัน ไม่ใช่ราคาถูกลง 5000% อะไรต่างๆอย่างที่คุณพยายามบิดเบือน สรุปว่า เขาโอนมา 1 บาท โอนกลับไปก็ 1 บาท ไม่มีกำไรให้เห็น จะเสียภาษีตรงไหนครับ ??? หรือจะให้ แอมเพิล ริช ขายที่ 42 บาท ราคาตลาดวันนั้น เพื่อทำกำไรกับตัวเองครับ ??? ผมว่าทำแบบนั้นเสียสตินะครับ - - แล้วย่อหน้าสุดท้าย ผมว่าคุณกำลังมั่ว... เพราะเขากรณีที่กล่าวหา โอ๊ค + เอม มันคือ " การซื้อขายหุ้นที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด นอกตลาด " แต่กรณีที่คุณว่ามา มันคือ " การซื้อขายหุ้นด้วยนิติบุคคลในตลาด " ดังนั้นตรงนี้มั่วทั้งดุ้นนะครับ... แอมเพิล ริช ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดีลของ เทมาเสค แม้แต่ประเด็นเดียว แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่มั่วอยากจะแถประเด็นนี้ต่อ ก็ตามสบายนะครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 16:29:12 A:124.120.0.218 X:

ความคิดเห็นที่ 100 เห็นมีเรื่องที่ดินรัชดา ผมก็เคยบอกไปแล้วว่า ยังไงๆมันก็ต้องมี 2 ประเด็น คือ... - หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การควบคุม - สัญญาที่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเพื่อเอื้อประโยชน์ได้ หน่วยงานอยู่ภายใต้การควบคุมหรือไม่ ? ก็ไม่ชัดเจน การทำสัญญา คณะตลก ก็ฟันเปรี้ยงไปเลยว่า " สัญญาทุกประเภทที่ทำกับรัฐ " สรุปแล้วไม่ชัดเจนซักเรื่องครับ... แล้วแบบนี้จะมาเอาคนเข้าคุก ผมก็คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากว่า " ธง " มาแบบนี้ล่ะ... ส่วนไอ้ข้อกังขาว่า จะโดนกลั่นแกล้ง หรือผู้ประมูลไม่กล้าสู้ราคาเนี่ย... มันตกไปตั้งแต่ขั้นตอนพิจารณาแล้ว เพราะ ผังเมืองก็คุมโดย กทม. ผู้ว่า กทม. ก็ชื่อ อภิรักษ์ แถมมีสภาผังเมืองอีก ผู้เข้าร่วมประมูล ผมก็ไม่เห็นว่า สาน จะเรียก เสี่ยอนันต์ มาให้การซักที ข้อกล่าวหาตรงนี้จึงต้องยกเลิกทั้งหมด เพราะมันไม่มีมูลแม้แต่น้อย อย่าหลอกตัวเองเลยครับ... คดีนี้มันไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างที่คุณว่าไว้หรอก... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 16:41:00 A:124.120.0.218 X:

ความคิดเห็นที่ 101 คุณ : SaVor   มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไงครับ กระบวนการที่ลูกนายกทำคือการพยายามพลิกแพลงหุ้นในมือนิติบุคคล เป็นหุ้นในมือบุคคลธรรมดา เพื่อใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีขายในตลาด สมมุติให้ง่ายไม่ให้งง สมมุติว่าทักษิณไม่โอนหุ้นให้ลูก เอาแบบแฟร์ๆเลย สมมุติอีกว่าทักษิณขายชินให้แอมเพิลริชเท่าราคาตลาดตอนนั้น ๒๐ บาท ลงบัญชีติดหนี้ทักษิณค่าหุ้นไว้ (ไม่อยากใช้ ๑ บาท ปกติไม่มีใครทำกัน) เวลาผ่านมา ชินมีราคาตลาดเป็น ๕๐ บาท ทักษิณอยากขายชิน เพื่อเป็นธรรมต่อสังคม ชินควรขายตรงไปตรงมา ๕๐ บาท บริษัทมีกำไร หักหนี้ เหลือ ๓๐ บาท จะปิดบริษัท หรือจะปันผลก็แล้วแต่ สุดท้ายทักษิณหรือบริษัทมีรายได้ไปเสียภาษี นั่นมันคือสิ่งที่ควรจะเป็น และคนอื่นเขาทำกัน ถ้าคุณเลือกที่จะเอาหุ้นไปขายบริษัทตัวเองแต่แรก (ผมพยายามไม่ใช้คำว่าโอน ซึ่งฟังแล้วเหมือนให้ฟรีๆซึ่งทางบัญชีทำไม่ได้) มีใครเขาสามารถขายชินคืนเจ้าของในราคา ๒๐ บาท ขณะที่ราคาตลาด ๕๐ บาท โดยรัฐไม่ได้ภาษีกันบ้าง สมบัติบริษัทกับสมบัติส่วนตัว มันจะขายคืน ในทุนเดิมไม่ได้  มันต้องขายที่ราคาตลาด ไม่ยังงั้นคือการโกงภาษี ในเชิงการต่อสู้คดีตอนเป็นข่าว ถึงออกมาด้วยซ้ำว่าการที่ขายให้ลูกนายกเป็นการขายคืนบุคคลทั่วไป ไม่ใช่ในฐานะกรรมการ เพราะถ้าในฐานะกรรมการ ก็เข้าข่าย ๔๐(๒) ทันที ซึ่งภาระภาษีตกอยู่ที่กรรมการแน่นอน แต่ถ้าตีเป็นขายบุคคลทั่วไป สรรพากรยุคนั้นบอกว่าเหมือนขายของลดราคาตามห้าง ผู้ซื้อไม่เสียภาษี ซึ่งอาจารย์จุฬาที่สอนเรื่องภาษีออกมาค้าน ถ้าคุณยังคิดว่าบริษัทขายหุ้นเดิมคืนเจ้าของในราคาเดิม ไม่ใช่ราคาตลาดได้จริง ลองหาหลักฐานมาซิครับ แบบนี้คนเล่นหุ้นไม่เล่นในนามบริษัทกันเต็มเมืองหรือครับ ซื้อหุ้นในนามบุคคลธรรมดา แล้วขายต่อบริษัทเท่าทุนทันที หุ้นตัวไหนขึ้น ก็ขายคืนเจ้าของราคาทุน ไปขายต่อในตลาด ฐานะบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี หุ้นตัวไหนตก ก็ขายในนามบริษัท เอาไว้หักรายได้บริษัท ลดภาษีที่บริษัทควรจะเสียจริง จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 17:27:45 A:124.120.225.73 X:

ความคิดเห็นที่ 102 คุณ : SaVor   เรื่องสถานะกองทุนฟื้นฟู ตุลาการให้ ๖ ต่อ ๓ รวมทั้งตุลาการที่ใช้เหตุผลอื่นว่าทักษิณไม่ผิดด้วย ผลถึงเป็น ๕ ต่อ ๔ ถ้ามีธง จะทำอะไรให้มันซับซ้อนขนาดนั้น ผมคงไม่อยากเถียงซ้ำซาก เพราะมันมองกันคนละมุม  ขนาดศาลยัง ๖ ต่อ ๓ แน่นอนครับว่าไม่มีใครรู้ใจคู่แข่งภริยาทักษิณ ว่าเกรงใจ กลัว นายกหรือเปล่า แต่คุณกับผม ใครหลอกตัวเอง ผมว่ารู้แก่ใจดี คุณทำใจให้เชื่อได้จริงๆหรือครับ ว่าเมืองไทย ภายใต้ทักษิณ พ่อค้าจะไม่เกรงใจหรือกลัว ดูวิถีที่คู่แข่งแต่ละคนเคยโดนซิครับ จำกรณี คุณภูษณได้ไหม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 17:42:48 A:124.122.163.209 X:

ความคิดเห็นที่ 103 เอาง่ายๆ คุณไปหาหลักฐานมาก่อนว่า... ตอนแรกที่ ทักษิณ ขายโอนไป แอมเพิล ริช หุ้นละ 1 บาท รวมๆแล้วก็ประมาณ 500 กว่าล้าน หามาว่า " ล็อตนี้ต้องเสียภาษีด้วย " เพราะถ้าคิดแบบคุณ 500 ล้านคือ " เงินได้ " ของทักษิณ ต้องเสียภาษีร้อยละ 37 หามาครับ... ประเด็นผมมันเคลียร์อยู่แล้ว... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 17:48:00 A:124.120.0.218 X:

ความคิดเห็นที่ 104 การทำให้ไม่ต้องเสียภาษีจากการขายหุ้นชินฯ ทำง่ายกว่าที่คุณบอกไว้เยอะมากครับ... แค่ โอ๊ค + เอม ขายหุ้นชินฯ ทั้งหมดพร้อมบริษัทให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศเลย แค่นี้เองครับ... ไม่ต้องเสียภาษี อาจเสียแค่ค่าธรรมเนียมเวลาโอนเงินเข้าประเทศ และ... โอ๊ค ก็ได้ปรึกษากับสรรพากรมาเป็นเวลานานแล้ว ว่าทำวิธีนี้ได้ไม่เสียภาษี ตรงนี้สรุปว่าเป็นความผิดของ โอ๊ค หรือ สรรพากร ครับ ??? แล้วลองคิดเล่นๆว่า สมมติต้องจ่ายภาษี + ค่าปรับจริงๆ โอ๊ค จะฟ้องเรียกค่าเสียหายสรรพากรได้กี่หมื่นล้านครับ ? ในข้อหาที่การแนะนำของสรรพากรทำให้ต้องเสียทรัพย์สิน กรณีนี้น่ะ... เขาไม่ได้หลบเลี่ยงภาษี เพราะวิธีที่ไม่ต้องจ่ายภาษีแบบโต้งๆมันก็มีเห็นๆอยู่แล้ว... แต่พวกคุณพยายามจะ " เล่นคำ " เพื่อหาช่องเล่นงานเขา ถามว่า ทำแบบนี้สมควรแล้วเหรอ ? เพื่อจะเล่นงานคนๆเดียว ถึงกับยอมรับได้กับการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม ตีความแบบศรีธนนชัย จนมันล้มเหลวอย่างทุกวันนี้น่ะ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 17:58:05 A:124.120.0.218 X:

ความคิดเห็นที่ 105 เรื่องที่ดินรัชดา ตกลงต่อไปนี้คุณรับได้นะครับว่า นายก รองนายก ทำสัญญาอะไรกับรัฐไม่ได้เลย ขอน้ำ ขอไฟ ขอโทรศัพท์ ไม่ได้... เพราะคณะตลกได้ตีความคำว่า " สัญญา " ที่ระบุไว้ในกฎหมาย ปปช. มาตรา 100 ว่า " หมายถึง สัญญาทุกประเภท " แล้วกฎหมายนี้มันมีความยุติธรรมในการบังคับใช้อยู่ตรงไหน... จะเขียนขึ้นมาทำไม... เพราะกฎหมายไม่ใช่ " กฎ gu " ที่ประกาศแล้วทุกผู้ทุกนามต้องยอมรับนะครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 18:02:33 A:124.120.0.218 X:

ความคิดเห็นที่ 106 คุณ : SaVor   ถ้าคุณคิดตื้นๆว่าเป็นการรังแกทักษิณ ไปคิดใหม่ได้ครับ เรื่องกรณีขายหุ้น ๑ บาทนี้ จากนิติบุคคล มาบุคคลธรรมดา แล้วไปขายต่อในตลาด ในวงการหุ้นนะ เขาเป็นเรื่องโจ๊กกันมานาน พอๆกับที่สรรพากร ๓๐ ปีที่แล้ว ลงข่าวหน้าหนึ่งว่า ใครชิงโชคได้รางวัลเป็นล้าน แล้วต้องเสียภาษี แก้ง่ายนิดเดียว ให้ซื้อรางวัล ๑ บาท ซึ่งโจ๊กทั้งสองเรื่องไม่มีใครทำจริง จนกระทั่งวีรบุรุษชื่อทักษิณนี่ละครับ ถ้ากรณีนี้ทำได้จริง ผมว่ายุบสรรพากรไปได้แล้ว ส่วนคำแนะนำของสรรพากร ใครแนะนำไปก็ต้องรับผิดละครับ ถ้าโดนทักษิณฟ้องกลับ แต่เท่าที่ฟังเขาก็จะสู้ว่าให้ข้อมูลไม่ตรงความจริงตอนถาม ส่วนการที่ทักษิณขายหุ้นถูก ให้แอมเพิลริช คนที่มีรายได้คือแอมเพิลริชครับ ไม่ใช่ทักษิณ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 18:16:22 A:124.122.163.209 X:

ความคิดเห็นที่ 107 คุณ : SaVor   การตีความกฎหมาย เขาจะตีความตามเจตนารมณ์ของกฎหมายครับ คู่สัญญากับรัฐ มันควรเป็นเรื่องทางธุรกิจกับรัฐ ไม่ใช่เรื่องสาธารณูปโภคที่ใครก็ขอได้ แต่ตรงนี้ผมก็ขอเตือนให้ระมัดระวัง สาธารณูปโภคบ้านเรามันบางครั้งก็ขอยาก และมีค่าใช้จ่ายสูงที่รัฐต้องลงทุนในจุดใหม่ๆ อาจตีความเข้าข่ายได้ ต้องดูว่ามีผลประโยชน์มากกว่าปกติไหม จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 18:22:16 A:124.122.163.209 X:

ความคิดเห็นที่ 108 ขอปาดหน่อยย.. ตกลงเข้าใจกันหรือยังครับ ทั้ง 2 ท่าน.. 555++ 2 หนุ่ม 2 มุม .. แต่เต็มไปด้วย มารยาทอันดีงาม .. .. คุณภาพของแท้ครับ.. ถ้ายังไม่จบ หายปวดหัว จะลงมาเล่นต่อนะครับ 555++ จากคุณ : Vee&Cat เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 52 23:52:09 A:110.164.16.70 X: