ความคิดเห็นที่ 11 |
ไม่เชื่อ ร้อยเปอร์เซ็นต์...ขอให้เหตุผลโดยใช้ความคิดเห็นที่ได้แสดงไว้แล้ว ที่ได้ข้อมูลตัวเลขจากกรมบัญชีกลาง ที่แสดงสถานะทางการเงิน ให้ภาพเศรษฐกิจได้ภาพชัด โดยแก้ไขเล็กน้อยเรื่องภาระดอกเบี้ยของไทย ให้ตรง กับสภาพความเป็นจริงมากขึ้น สามารถแสดงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลนี้ได้ชัดเจนดี ว่าห่วยอย่างไร
ใครจะเลือกรัฐบาลนี้อีก...ก็สุดจะเข้าใจ
-----------------------------------------------------------------
ขอบคุณ...เจ้าของกระทู้ และคุณ พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลางมาก ได้ประโยชน์มากครับ
" อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโครงการลงทุนไทยเข้มแข็งดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นศรษฐกิจไทยได้ แต่ขณะเดียวกัน ก็จะเห็นว่า จะยิ่งส่งผลทำให้ฐานะของภาคการคลังอ่อนแอลง เป็นผลจากการเร่งรัดการใช้จ่ายเงิน และ กู้เงิน อย่างมหาศาล ซึ่งจะส่งผลทำให้หนี้สาธารณะปรับสูงขึ้นถึง 60% ของจีดีพี ประกอบกับ การที่รัฐบาลจะต้อง จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลอย่างต่อเนื่อง หรือเฉลี่ยแต่ละปีอยู่ที่ 7% ของจีดีพี รวมไปถึง มีดอกเบี้ยจากการกู้ เงินลงทุนโครงการไทยเข้มแข็งที่รัฐบาลจะต้องจ่ายปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท และ รัฐบาลยังมีภาระเกี่ยวกับงบชำระ ดอกเบี้ยอีกประมาณปีละ 1.5 แสนล้านบาท ดังนั้น จึงเห็นภาระที่จะเกิดขึ้นนี้จะทำให้รัฐบาลกลับเข้าสู่ภาวะงบ ประมาณแบบสมดุลได้ยาก "
ข้อความนี้ดี...เป็นตัวเลขสามารถนำมาคิดวิดคราะห์กันต่อ เก็บไว้ใช้พิสูจน์กันในวันหน้าได้ดี คุณ พงษ์ภาณุ...ให้ ภาพชัด ให้แนวคิดไม่ควรประมาทในการใช้เงิน และให้ข้อมูลโดยนัยยะว่าประเทศไทยเรากำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงมาก
- เรื่องดอกเบี้ยปีละ 2-3 หมื่นล้านบาทที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดรวมดอกเบี้ยคือ 1.8 แสนล้านบาทต่อปี คือหัวใจหลักที่ เข้าใจง่ายกับคนส่วนใหญ่ ( * ส่วนนี้ได้แก้ไขใหม่รวมดอกเบี้ยทั้งสิ้นต่อปี ) เกือบ 2 แสนล้านบาททำรถไฟฟ้าได้สัก ห้าสิบกิโลเมตร เกือบหนึ่งในสี่ของโครงการรวม คงจำกันได้ว่าสามปีมานี้ซื้ออาวุธกันไปหลายแสนล้านบาทเช่นกัน งบทหารเติบโตแบบก้าวกระโดด แปดหมื่นล้านบาท เป็นหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาทภายในสองปี ปัจจุบันเกือบ 2 แสน ล้านบาท ดูไทยเราใช้เงินกัน ดอก+ทหาร ประมาณ 4 แสนล้านบาท งบปัจจุบันประมาณ 2 ล้านล้านบาท เข้มแข็งป๋ามันอีก 1.4 ล้านล้านบาท รวมใช้ปีที่จะถึงนี้ 3.4 ล้านล้านบาท มากมายมหาศาลกันอย่างไร ซึ่งปกติไม่มีองค์กรใดจะใช้เงินเพิ่ม เป็นร้อยเปอร์เซนต์ได้ เพราะเพิ่มทรัพยากร คน ของ เครื่องจักรไม่ทัน ดังนั้นงบที่เพิ่มจึงต้องมาซื้อเป็นส่วนใหญ่-มองออกหรือยัง ปชป.กินค่าคอมครั้งนี้อย่างเดียว ก็รวยเละ แต่ไม่เท่านั้น ค่อยๆดูกันไป
- หนี้สาธารณะปรับสูงขึ้นถึง 60% ของจีดีพี อันนี้หนักมาก หมายถึงจ่ายดอกมากอย่างไร ถ้ากู้ไม่มากเกินไป พอสมฐานะก็ไม่ไเป็นไร แต่ 60% ของจีดีพีคือตัวเลขสูงสุดระดับโลก ( ใครที่ว่ามีบางประเทศสูงกว่านี้...โกหก - ข้อมูลดร.พิชิต ) หมายถึงไทยเราไม่มีก๊อกสองไว้เผื่อเลย พลาดเป็นพัง น้ำมันหมด กลางทาง ทางสายเปลี่ยวด้วย
- ถึงแม้ว่าโครงการลงทุนไทยเข้มแข็งดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นศรษฐกิจไทยได้...ได้แต่ก็ไม่มาก นี่คือหัวใจหลักที่ คุณ พงษ์ภาณุ...ไม่ได้ให้ข้อมูลนี้ เพราะภาคเอกชนและประชาชนใหญ่ 80% ของจีดีพี ภาครัฐเพียง 20% ของจีดีพี อัดเงินอย่างไร้ยุทธศาสตร์ต้องการเห็นอะไรก็ไม่รู้ เหมือนคนตาบอดซื้อล็อตตารี่ ผสมเตี้ยอุ้มค่อม ( รัฐบาลโง่เตี้ย และตาบอด ภาคเอกชนใหญ่แต่ก็แย่อยู่ เป็นคนหลังค่อมตามสภาวะโลก จะเสียหายกันหมด จะไปกันใหญ่ ก็มีคน ตาดีขี้โกงขายล็อตตารี่ลิ้ม-ปชป.เท่านั้นที่ได้ ) แม้รัฐจะใช้จ่ายลงเอกชน แต่รัฐเล็ก เอกชนใหญ่ ไม้ซีกก็งัดไม้ซุงไม่ไหว คงพอเข้าใจ คงได้ไอเดียคิดต่อได้แล้ว
- เมื่อผสมกับการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมโหฬาร ที่มีมูลจริง จากโครงการพอเพียงไล่สข.ปชป.พ้นสภาพสมาชิก เครื่องมือแพทย์ที่ปรึกษาสธ.ลาออกยกชุด เลขาอาชีวะลาออกพร้อมพูดว่าโกงมาที่สุด ที่คุณ พงษ์ภาณุ...ไม่มี หน้าที่พูด เพราะเป็นข้าราชการ ฝ่ายตรวจสอบทั้งฝ่ายค้าน สื่อสารมวลชน และภาคประชาชนมีหน้าที่ที่สำคัญนี้
ชักเห็นแววบรรลัยของชาติชัดขึ้นหรือยัง บอกแล้วว่าไม่มั่ว คนมั่วคือรัฐบาล มองให้ออกกันสักที เศรษฐกิจมันจะดี ได้อย่างไร โปรดได้พิจรณาความคิดเห็นนี้ด้วยใจที่เป็นธรรม จับเนื้อหาสาระให้ออก จับประเด็นให้ได้ จับได้แล้วช่วย สื่อสารบอกไปในวงกว้างด้วยภาษาที่เข้าใจได้ เพื่อความรับรู้ของคนส่วนใหญ่ และในที่สุดมาหาทางแก้ไขกัน...
นี่...ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว เคยบอกแล้วว่าเห็นอะไรก่อนใคร ชอบคิดอะไรล่วงหน้าเป็นนิสัย ไทยกำลังร่วงจริงๆ คนรุ่นใหม่จะฉลาดขึ้น แต่ความกินอยู่จะแย่ลง สงสารลูกหลาน หาทางแก้ไขไว้ สื่อสารออกไปในวงกว้าง โดยเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้ก่อน โกง-ใช้เงินมั่ว-ไม่มีสำรอง-ดอกเพียบ...ประเทศล้าหลังหมดความน่าเชื่อถือ ( เน้นสั้นๆ...กลับทางให้อีกที จะได้ข้าใจชัดๆง่ายๆ )
นี่คือการแสดงออกถึงหน้าที่ตรวจสอบ...ไม่ใช่รักใครๆ รักใครก็ไม่นำมาใช้คิดเรื่องอย่างนี้ แยกออก...คิดเป็นมานาน สำหรับสื่อฯโง่บางคนที่พูดดูถูกน้ำใจมา ว่าการกระทำนี้เพราะรักทักษิณ...อย่าโง่ อย่าได้ดูถูกกันอีก อ่านแล้วใช้ สมองคิด คิดให้เป็นสักที การโง่ไม่ทำให้ชีวิตน่าเบื่อหรือไง คิดอะไรก็กันผิดทั้งชีวิตอย่างไม่รู้ตัว เรียกว่าพูดอีกก็ผิดอีก ได้พิสูจน์ตนเองมานาน จึงขอพูดส่งไปให้คนคนเดียว สื่อฯโง่คนนั้นที่ดูถูกน้ำใจมา คงรู้ตัว และนี่ก็ไม่ใช่การมั่วด่าสุ่ม อธิบายได้อย่างไร้ข้อสงสัย ถ้าถามมา หวังในความเข้าใจเป็นสำคัญ กรุณาคิดพิจรณาอย่างใช้สติปัญญาสักที
ไม่บังคับให้เชื่ออย่างแน่นอน...นี่คือทัศนคติหลักประจำใจ บังคับให้คนฉลาดเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ คนโง่เปิดใจอาจดีขึ้น เป็นเรื่องธรรมชาติที่ซับซ้อนเล็กๆ ภาษาที่นุ่มนวลกว่านี้คือ...นี้คือความคิดเห็นส่วนตน อาจผิดได้ตามปกติชนคนธรรมดา ใช้ภาษาวิธีสื่อสารแก้เบื่อ เปลี่ยนมุมบ้าง แรงสลับเบา...อาจเข้าใจดีกกว่า ทางเดียว คงมองออก เห็นกันมานาน
ความคิดเห็นนี้จะทำหน้าที่พิสูจน์ความจริงอย่างที่ความคิดเห็นก่อนหน้านี้นับสิบปีทำมา...ด้วยไมตรีที่ส่งถึงทุกท่านเหมือนเดิม
จากคุณ |
:
SS
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ต.ค. 52 09:18:57
A:58.8.118.191 X:
|
|
|
|