Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ระลึก "รวี โดมพระจันทร์" *** ใช้พระธรรมซับน้ำตาประชาชน***  

“รวี  โดมพระจันทร์” คือใคร  
    "รวี  โดมพระจันทร์" เป็นนามปากกาของคุณยุทธพงศ์  ภูริสัมบรรณ     กวี นักคิด นักเขียน  ถ้าเขามีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ เขาจะมีอายุย่างเข้า 62 ปีแล้ว  แต่เขาล่วงลับไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2532 เมื่อยี่สิบปีก่อน  
    แม้คนที่จดจำเขาได้จะค่อยๆ ล่วงลับไปทีละคน แต่จวบจนทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นที่ประทับใจของผู้คนมากมายซึ่งเคยสัมผัสตัวตนแท้จริงของเขา  เพราะเขาเป็นลูกที่ดีเลิศ  เป็นพ่อที่ประเสริฐ  เป็นสามีที่ดีงาม  เป็นพี่น้องที่อบอุ่น เป็นเพื่อนแท้ของผู้คนมากมาย เป็นนักอุดมคติที่ยิ่งใหญ่  มีความกล้าหาญ เสียสละ ซื่อสัตย์จริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน จิตใจกว้างใหญ่ไพศาล รักความเป็นธรรม รักชาติรักประชาชน เป็นนักต่อสู้เพื่อผู้ยากไร้ เป็นคนดีที่หายาก เป็นคนที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง
    เขาเคยเป็นผู้นำนักศึกษาวางพวงหรีดประท้วงการรัฐประหารตนเองของจอมพลถนอม กิตติขจร  จากนั้นไม่นาน บทกวี “ตื่นเถิดเสรีชน” ก็เกิดขึ้น  เป็นบทกวีที่ทั้งทรงพลังและกินใจผู้คนร่วมสมัย  ต่อมาบทกวีนี้ได้ทำหน้าที่ปลุกเร้าผู้คนให้ลุกตื่นขึ้นมาและกระหึ่มไปทั่วเมื่อกระแสการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของขบวนนักศึกษาประชาชนได้กลายเป็นขบวน 14 ตุลาที่ยิ่งใหญ่
    ตรงกันข้ามบทกวีที่กล้าหาญทรงพลัง   ยุทธพงศ์ ภูริสัมบรรณ นิ่งและสงบเสมอ แม้เมื่ออยู่ในช่วงที่นามปากกา “รวี โดมพระจันทร์”เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เขาก็ยังคงถ่อมตัว เสมอต้นเสมอปลาย ในขณะที่ใครต่อใครพากันอยากรู้จักตัวจริงของ “รวี”  ครั้นถึงคราวที่เลี่ยงไม่ได้จำต้องพูดถึง ยุทธพงศ์เลือกที่จะเขียนบอกกล่าวผู้คนเหล่านี้ว่า
    “หากจะมีใครต้องการรู้ว่า “รวี โดมพระจันทร์” คือใคร ก็ขอให้ท่านทั้งหลายรับรู้เถิดว่า “รวี โดมพระจันทร์” คือคนทุกๆ คนที่รักความเป็นธรรม รักชาติ รักประชาธิปไตย ซึ่งก็คือ ตัวท่านทั้งมวลนั่นแหละ”

    วันนี้ ดิฉันจึงอยากขอใช้พื้นที่ตรงนี้ สื่อถึงพี่ชายผู้ล่วงลับไปแล้วนาม "รวี โดมพระจันทร์" เพราะเมื่อวันครบรอบในการเสียชีวิตของเขาเวียนมาถึง ดิฉันก็อดรำลึกถึงเขาไม่ได้ และถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ดิฉันคงมีเรื่องมากมายที่จะแลกเปลี่ยนกับเขา รวมทั้งจะบอกเขาดังนี้

.....“เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
ขอน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน”(จิตร ภูมิศักดิ์)

    คิดถึงกลอนไพเราะเสนาะจิต
อันตรึงติดตราใจไม่สับสน
นับแต่แรกได้ยินกินกมล
อุทิศตนมิรู้ลืมด้วยปลื้มใจ
    แม้บัดนี้กลอนก็ยังกังวานหวาน
ยังซึมซ่านแรงการุณสุนทรใส
แต่เดินทางค่อนชีวิตเห็นพิษภัย
เริ่มไม่อยากเกิดใหม่มาหลายปี
    ได้เห็นทุกข์รู้ทุกข์เทวศยิ่ง
ได้เห็นสิ่งต่างต่างอย่างถ้วนถี่
ได้เบื่อหน่ายคลายกำหนัดตัดฤดี
ได้ก้าวสู่วิถีบรรพชา
    ได้พบสุขจากสละละกิเลส
ได้เห็นเหตุปัจจัยการไล่ล่า
เห็นวงจรซ้อนซับนับคณา
ก่อเป็นบ่วงลวงตานานัปการ
    เลิกลิ้มรสกำศรดเศร้าใจเบาว่าง
จากหม่นหมางสู่ผ่องใสในทุกสถาน
จากว้าวุ่นสู่ฉ่ำเย็นเช่นสายธาร
เพียงปล่อยผ่านกิเลสไปไม่คบมัน
    เพราะพระธรรมคำสอนพระโคดม
อันอุดมและลึกซึ้งเข้าถึงขั้น
ตัดถึงรากดับกองไฟในปัจจุบัน
โดยการรู้เท่าทันและปล่อยวาง
    พิสูจน์ได้โดยตนการพ้นทุกข์
สู่ความสุขละเอียดอ่อนแบบต่างต่าง
หอมกลิ่นศีลพัดรำเพยมิเคยจาง
เป็นฐานสร้างความนิ่งใสในกมล
    จึงเจริญสติได้ในชีวิต
ทีละนิดเนื่องไปไม่สับสน
สมาธิก่อรูปใหม่ในใจตน
บรรลุผลเกิดปัญญาพาชื่นบาน
    ยังคงคิดถึงกลอนตอนยังรุ่น
ความใฝ่ฝันอันละมุนยังแว่วหวาน
ยังอยากลบคราบน้ำตาประชาชาญ
หากโดยการเผยแผ่ธรรมนำชีวัน
    ขอลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
ตราบหมดชาติสิ้นภพจบรูปขันธ์
แม้ยังมีชาติหน้ามาพบกัน
จะยังคงสร้างสรรค์สันติธรรม
    ขอลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
แม้นหมดชาติเพียงชาตินี้ที่ย่างย่ำ
โดยต่อสู้กับกิเลสเหตุแห่งกรรม
ใช้พระธรรมซับน้ำตาประชาชน

แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 52 22:46:54

จากคุณ : oDaineo
เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 52 22:43:29 A:124.120.89.221 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com