ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยครับ จากคุณ : คนบางรัก (sengw) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 17:27:16 A:58.8.19.34 X:

ความคิดเห็นที่ 2 จะบ้ากันไปใหญ่...นะครับ จากคุณ : สุทธิสาร เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 17:29:48 A:58.8.101.219 X:

ความคิดเห็นที่ 3 โหวตให้ค่ะ จากคุณ : sgampy เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 17:32:06 A:113.53.10.45 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ tyrocyte , คนชาย, และพวกครับ ขอความเห็นและข้อมูลดีๆมาหักล้าง แบบตรงประเด็น และไม่เถหน่อยครับ จากคุณ : dirtylism เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 17:35:21 A:58.8.176.192 X:

ความคิดเห็นที่ 5 หลายครั้งที่เหลืองเน้นว่าผิดอย่างแน่นอน ผมก็ขอให้เอาข้อเท็จจริงมาประกอบยอมรับได้ ข้อหาทีใช้คือผิดจริยธรรม ซึ่งผมรับไม่ได้กับคำตัดสินนี้ จึงขอแจ้งผ่านมาทางนี้เลยว่า ผู้มีอำนาจ คุณหลอกไม่ได้หมดทุกคน จะอย่างไรก็รับไม่ได้ คุณ มีอำนาจเท่าที่คุณ จะดำรงค์ซึ่งสังขารเท่านั้น เรารอได้ จากคุณ : supart4 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 17:42:42 A:112.142.43.45 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ความผิด ในมาตรา 100  ไม่ใช่ผิดเพราะโกง หรือทุจริต แต่ผิดที่ไปทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามไม่ให้ทำ กฎหมายห้าม เฉพาะการทำสัญญากับหน่วยงานที่นายกฯมีส่วนกำกับดูแล กองทุนฟื้นฟูหรืออะไรนี่..ธนาคารแห่งประเทศไทย เขาก็ยืนยันแล้วว่า ..นายกฯไม่เกี่ยว...ไม่ได้กำกับดูแล....แต่คนชี้ขาดตัดสินไม่เชื่อ... ผลจึงเป็นเช่นนี้แล... จากคุณ : cellar เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:15:06 A:125.25.97.139 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยครับ สรุป การซื้อขายมันจบไปแล้ว คุณหญิงซื้อได้แล้ว  ต่อมาขั้นตอนการโอนที่ ท่านทักษิณจึงเซ็นชื่อยืนยันการเป็นสามีภรรยา..ผมก็ว่าแล้วมันทุจริตยังไง มันมั่วใส่ร้าย แบบหน้าด้านจริงๆ ม.100ก็ไม่เข้าข่ายเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 18:17:09 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:15:42 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ใครจะมาแก้ตัวให้ เห็นอยู่แถวๆนี้ไปไหนกันหมด จากคุณ : komsonton เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:27:20 A:124.157.222.113 X:

ความคิดเห็นที่ 9 มาดูความเป็นมาของคดีนี้ http://chaimai.com/index.php?topic=2892.0 จากคุณ : honeymon เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:31:08 A:125.26.140.229 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับคุณ SaVor ตีความนั่นแหละครับ ถ้าเป็นเรื่องขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ ทางรอดก็มีสองทาง 1. ไม่ใช่หน่วยงานที่กำักับดูแล เช่น รัฐมนตรีกระทรวงอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำไฟ ยังไงก็ขอได้ ไม่ผิด 2. ถ้าเป็นนายก อันนี้ก็ยากหน่อย เพราะศาลเค้าถือว่าคุมทุกกระทรวงเป็นทอด ๆ แต่ถ้าอ้างเจตนารมณ์ของกฏหมาย ว่าในบริบทนี้พูดถึงการเอื้อประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม ว่าสัญญานั้นมีช่องทางการเอื้อประโยชน์หรือไม่ ขอน้ำ ขอไฟ มันจะเอื้อประโยชน์ได้อย่างไร? ผมมองไม่เห็นทางเลยครับ (แต่ถ้าประมูลที่ดิน คุณ pom.com ก็เคยตั้งข้อสังเกตแล้วว่า อาจเอื้อได้ในขั้นตอนการประมูล พวกเงื่อนไขอะไรต่าง ๆ ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ และผมก็ให้ความเห็นแล้วว่า เป็นขั้นตอนต่อเนื่องกับการทำสัญญา) 3. ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ เป็นสิทธิการเข้าถึงบริการพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญครับ ไม่ว่าเจอกฎหมายข้อไหนมาัยันแบบที่คุณ SaVor บอก มาเจอข้อนี้ก็ตายอยู่ดี (แพ้เห็น ๆ) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:49:12 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 11 ผมไม่ได้ว่า คนตัดสินนะ แต่ผมว่า ตัวหนังสือ ในปักกะตืน ของประเทศสารขัณฑ์ สารขาด จากคุณ : กระเป๋าเดินทาง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:51:00 A:111.235.71.20 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 10 เรื่อง นายก ทำสัญญาเอื้อประโยชน์ 1. คนมีอำนาจ คือ นายกในอดีต ทั้งชวน ทั้งบรรหาร ล้วนแต่บอกว่าตัวเองสั่งการไม่ได้ คือ คนที่มีอำนาจไม่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจ แล้วจะไปสั่งการเพื่อให้เอื้อประโยชน์ตนเองได้อย่างไร 2. คนรับคำสั่ง คือ ผู้ว่าแบงค์ชาติ ผจก กองทุน บอกนายก ไม่มีอำนาจสั่งการ คือ ถึงนายกสั่งมา ก็ไม่ทำตาม เพราะคิดว่า นายกไม่มีอำนาจมาสั่งการพวกเขา แล้วแบบนี้เอื้อประโยชน์ได้อย่างไร (เพิ่มเติมอีกหน่อยละกันเผื่อไม่เข้าใจ ว่า"รู้" กับ "ไม่รู้" มันมีผลยังไง สมมุติ ห้าง ก มีการจัดรายการจับฉลากชิงรางวัล โดยระบุในเงื่อนไขว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางห้าง ห้ามเข้าร่วม ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกะทางห้างเลย ก็เลยไปรับจับฉลากด้วย โชคดี ได้รับรางวัลมา ต่อมามีคนประท้วง เพราะไปสืบมาได้ว่า เมียผม ถือหุ้นห้างนี้อยู่ด้วย 100 หุ้น ไอ่ผมก็ไม่รู้หรอกว่า เมียที่เล่นหุ้นอยู่ทุกวัน มันซื้อขายอะไรบ้าง กรณีแบบนี้ ผมกับพนักงานมีโอกาสร่วมมือกันโกงไม๊? เอื้อประโยชน์ผมได้ไม๊? ที่แย่กว่านั้น เขาไม่ได้ปรับให้การจับรางวัลเป็นโมฆะ แต่ดันจับผมเข้าคุก ข้อหาไร้จริยธรรม) 3. ถ้าทำสัญญาเวรคืนที่ดินล่ะ? อ วรเจตน์ เคยให้ความเห็นไว้ หากมีการเวรคืนที่ดิน ดันไปโดนที่ดินนายก หรือ เมียนายกเข้า เซ็นปุ๊บ ติดคุกปั๊บ อย่างนั้นหรือครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 19:22:47 จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 19:06:09 A:110.164.21.54 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็เห็นตรงกับจขกทในประเด็นที่ว่า ความผิดนี้ผิดตรงเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ ผิดข้อที่กฏหมาย ปปช.ห้ามไว้จริง ก็ในเมื่อผิดจริง ศาลก็มีคำพิพากษาออกมาตามนั้น ส่วนอื่นๆที่ว่าจะแทรกแซงไหม อัยการไม่ได้ส่งฟ้องตรง ประเด็นนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลจะวินิจฉัย จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:11:10 A:124.121.32.104 X:

ความคิดเห็นที่ 14 เอาง่ายๆเลยนะครับ กฎหมายบอกว่าแม้ตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้เข้าเป็นคู่สัญญาเอง แต่คู่สมรสเข้าไปเป็นคู่สัญญา ก็ให้ถือว่าเป็นการกระทำของคู่สมรสด้วย โดยเจ้าหน้าที่รัฐ จะไม่มีความผิดก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าตนไม่ได้รู้เห็นยินยอม กับการกระทำของคู่สมรสนั้น คดีทักษิณ ...ศาลบอกว่าการที่คุณหญิงอ้อเข้าไปเป็นคู่สัญญา ก็ถือว่าเป็นการกระทำของพตท.ทักษิณด้วย (ตามม.101 (1)วรรคสาม) และจะถือว่าพตท.ทักษิณไม่มีความผิด ก็ต่อเมื่อพตท.ทักษิณ พิสูจน์ได้ว่าตนไม่รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของคุณหญิงอ้อ (ตามม.122 วรรคสอง) ซึ่งศาลก็เห็นว่าพตท.ทักษิณ รู้เห็นยินยอม เนื่องจากพตท.ให้บัตรประจำตัวนายก และลงชื่อยินยอมให้คุณหญิงอ้อ ทำสัญญาซื้อขาย และพตท.ทักษิณก็ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตนเอง ไม่ได้รู้เห็นยินยอมในการทำสัญญา ดังนั้นก็ต้องถือว่าเป็นความผิด ตามกฎหมายปปช.ม.100 (1) วรรคสาม และม.122 ลองไปอ่านกฎหมายม.ดังกล่าวดูแล้วจะเข้าใจเองครับ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:16:14 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ผิดเพราะ เป็นนายกชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เป็นข้อสรุปที่ชัดเจน  ที่ชาวไทยเชื่อแล้วอย่ามาหลอกประชาชนเพราะคนไทยฉลาด อ่านหนังสือออกทุกคนและรู้ดีว่าเหตุมาจากไหน ใครเป็นผู้สั่ง ใครตั้งธง คนบ้านไกลกลางทุ่งนาบน ดอยสูงรู้ดี จากคุณ : Umpawa01 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:24:57 A:118.172.79.204 X:

ความคิดเห็นที่ 16 นั่นดิ  มีแค่:-)แลนด์แห่งนี้เท่านั้น จากคุณ : accarapol1970 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:31:09 A:118.172.171.193 X:

ความคิดเห็นที่ 17 อ่อ อย่างนี้นี่เอง ถ้ามันถูกต้องจริงก็จะไปอธิบายให้แฟนฟัง เพราะคุณ เธอเข้าใจและไปเสพข้อมูลมาจากไหนไม่ทราบว่า "ถ้าซื้อที่ตรงนี้ สามารถสร้างตึกสูงได้" จากคุณ : pumee_23 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:39:09 A:222.123.59.70 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ผมก็เห็นตรงกับจขกทในประเด็นที่ว่า ความผิดนี้ผิดตรงเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ ผิดข้อที่กฏหมาย ปปช.ห้ามไว้จริง ก็ในเมื่อผิดจริง ศาลก็มีคำพิพากษาออกมาตามนั้น ส่วนอื่นๆที่ว่าจะแทรกแซงไหม อัยการไม่ได้ส่งฟ้องตรง ประเด็นนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลจะวินิจฉัย จากคุณ : thyrocyte   เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:11:10 A:124.121.32.104 X:        ........................................... คุณ thyrocyte  อย่าพูดแค่ ..ความผิดนี้ผิดตรงเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ ผิดข้อที่กฏหมาย ปปช.ห้ามไว้จริง เอาให้จบมาตรา 100 สิครับ...ว่า เป็นคู่สัญญาแบบไหน (1) เป็นคู่สัญญา ที่มีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้น...มีอำนาจกำกับ ดูแล.. ....นายก มีอำนาจกำกับดูแล กองทุน นี้หรือครับ... ตอบตรงนี้ก่อนครับ  ว่า มีอำนาจกำกับ ดูแล หรือ ไม่.. อย่า เอาแค่ คำว่า..ผิดตรงที่ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งรวมถึง ภริยา.... มาแค่นี้สิครับ .... จากคุณ : นครชุม เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:39:51 A:114.128.83.96 X:

ความคิดเห็นที่ 19 thyrocyte #13 เดจาวูอีกแล้ว คู่สัญญากับหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจกำกับดูแล ด้วยสิครับ อย่าแกล้งลืม เสียชื่อเหลืองระดับมันสมองหมด จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:39:57 A:110.49.22.179 X:

ความคิดเห็นที่ 20 rep 10 แหม่ๆ คุณเล่นเถียงแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่เถียงเรื่องที่ดินรัชดากับ นาย ไลท์ เซเบอร์ เลยนะครับ ( พูดตามตรง ตอนที่เคยคุยกับคุณครั้งแรกในกระทู้ " ประโยชน์ทับซ้อน " ผมนึกว่าคุณจะมีอะไรๆ มากกว่านี้ซะอีก ) อย่างแรกผมต้องบอกย้ำเลยว่า " สัญญา " ตรงนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นขั้นตอนต่อเนื่อง คือไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ อันนี้ยอมรับไหมครับ... ส่วนเรื่องที่ว่า ขอน้ำ ขอไฟ เป็นสิทธิตาม รธน. ยังไงครับ ? ตามมาตราไหน ? สิทธิตาม รธน. ยังไงครับ... มีชาวบ้านเป็นพันเป็นหมื่นครัวเรือน ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และน้ำประปายังเข้าไม่ถึง... ( นี่ยังไม่รวมโทรศัพท์ ที่มีเสาแบบเห็นๆเลย แต่ขอไม่ได้ก็ยังมีนะครับ ) แล้วถ้าคุณจะแย้งตรงนี้จริงๆ ผมขอให้คุณไปอ่าน รธน. มาตรา 31 ครับ... " บุคคลผู้เป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรของรัฐ ย่อมมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จำกัดไว้ในกฎหมายหรือกฎที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม " นี่หมายถึงว่า ถ้าคุณเป็น จนท. รัฐ สิทธิพื้นฐานบางอย่างอาจถูกจำกัดโดยระเบียบหรือกฎหมายได้ โดยมิสามารถโต้แย้งได้ด้วย สิทธิเสรีภาพ ตาม รธน. ผมตอบคุณ เหมือนกับที่ตอบ นาย ไลท์ เซเบอร์ เป๊ะๆ เลยครับ... หวังว่าคุณคงเข้าใจครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:41:26 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 21 คห17..จริงดิ แฟนคุณเข้าใจแบบนั้นจริงๆเหรอ ...อืม ผมก็เคยได้ยินแว่วๆนะ แต่ยังไม่เคยเจอใครมาพูดให้ได้ยินแบบจะๆหูไม่งั้นคงต้องมานั่งจับเข่าคุยกันให้เคลียร์สักหน่อย จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:43:17 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 22 คห.18    คห.19    ครับ ไม่มีอะไรจะพูดครับ     ผมปวดตับ             จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:47:23 A:125.26.239.233 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คห.21 ครับ เชื่อจริงๆครับ แฟนไปฟังจากช่องฟรีทีวีที่นำเสนอ มา (3 5 7 9 11 นั่นแหละ) ไอ้เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เจอบทความ นี้ ก็ว่าจะให้คุณเธอมาอ่านให้กระจ่าง จากคุณ : pumee_23 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:48:34 A:222.123.59.70 X:

ความคิดเห็นที่ 24 เอาไปคืนเหมือนงาช้าง ก็น่าจะไม่ผิด จะยกโทษให้เหมือนกันมั๊ย มาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า จากคุณ : เทพดีดี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:50:13 A:110.164.91.93 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ผมมีความเห็นในเรื่องนี้แค่นี้แหละครับ หากคุณเห็นต่างไปจากนี้ ก็น่าจะพิมพ์หนังสือวิจารณ์การพิจารณาคดี นี้ไปเลยครับ ว่าคุณเห็นต่างไปอย่างไร มีอะไรที่ไมถูกต้องไม่ชอบมาพากล ผมจะรอซื้อรออ่านนะครับ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:57:07 A:124.121.32.104 X:

ความคิดเห็นที่ 26 นายก มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนหรือไม่... มีครับ ศาลให้เหตุผลว่า มีผ่านรมต.คลัง ผ่านปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการกองทุน สำหรับคำวินิจฉัยตรงนี้แม้จะมีผู้ไม่เห็นด้วยก็ไม่แปลกหรอก เพราะคณะตุลาการเองก็ยังมีความเห็นแตกต่างกันโดย 6 เสียง บอกว่ามีอำนาจกำกับดูแลกองทุน ส่วนอีก 3 บอกว่าไม่มี แต่เมื่อเสียงข้างมากของผู้มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยออกมาเช่นนั้น ก็ควรที่ต้องยอมรับกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 21:02:51 จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:01:32 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 27 คห26.5ต่อ4ครับไม่ใช่6ต่อ3/////   งั้นผมถามให้คุณเดาเล่นๆนะว่า ตลก.ทำไมไม่ตัดสินให้รอลงอาญา เพราะในเมื่อ ไม่มีผู้ใดเสียหาย รัฐก็ไม่เสียหายซื้อขายก็ถูกต้อง ความผิดแค่นั้นมันร้ายแรงมากกว่าการขับรถชนคนตายของนายศรรามเหรอ นายศรรามยังให้รอลงอาญาเลย.....    ผมถามให้คุณเดาใจศาลเล่นๆนะครับ ไม่มีอะไร ผมเองก็พยายามเดาเหมือนกันว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ศาลขาดความเมตาธรรมถึงขั้นไม่รอลงอาญากับผู้ทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดินอย่างมากมาย จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:15:35 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 28 คห.26   ลุงม้วนครับ ถ้าคำตัดสินมันไม่มีที่เคลือบแคลง  มันก็ไม่ก่อให้เกิดการไม่ยอมรับหรอกครับ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่อง "บุคคล" นะครับ  แต่มันคือเรื่อง "หลักของบ้านเมือง" ลองคิดทบทวนดูนะครับ การที่จะบอกว่า  เมื่อผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินมายังงั้นก็ต้องยอมรับ  มัน "ควร" และ "ถูก" หรือไม่ "ธรรม" คืออำนาจครับ    ไม่ใช่ "อำนาจ" คือธรรม จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:20:35 A:125.26.239.233 X:

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้วอยากร้องไห้ครับ  ไม่ใช่อะไรนะครับที่อยากร้องไห้เพราะกิ๊ฟหมดอยากให้ใจแทบขาด  และกับความเห็นที่ 28 คุณ ตระกองขวัญ  ผมชอบบรรทัดสุดท้ายของคุณมากครับ   ได้ใจครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 21:21:43 จากคุณ : Namtao08 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:20:45 A:125.24.140.133 X:

ความคิดเห็นที่ 30 5 ต่อ 4 ก็ 5 ต่อ 4 ครับ ขอบคุณที่ช่วยแก้ให้... ศาลคงดูเจตนาเป็นหลัก เทียบกับคดีศรรามไม่ได้หรอก คดีศรรามเป็นเรื่องของความประมาท หากพตท.ทักษิณ ขับรถชนคนตาย ผมว่าศาลก็รอลงอาญาให้เหมือนกันครับ เอแต่ว่า ถ้าเป็นพตท.ทักษิณจริงๆ คดีอาจมาไม่ถึงศาลก็ได้มั๊งครับ (ล้อเล่นนะ 555) จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:29:12 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 31 คุณตระกองขวัญครับ... การตัดสินคดีของศาลเป็นไปได้ยากที่จะให้ถูกใจทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชนะมักบอกว่าศาลยุติธรรม ฝ่ายแพ้ก็บอกว่าศาลลำเอียง ถ้าเราไม่เคารพกติกาการตัดสินของศาลมันก็หาข้อยุติลำบากครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:33:03 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 32 คห30...ความหมายที่ผมเทียบกับศรราม ประเดนคือ"ความสูญเสียที่นับค่าไม่ได้นั่นคือชีวิตคน"มันร้ายแรงนะครับ แต่กับแค่ลายเซ็นท่านทักษิณแล้วมันก็ไม่มีใครเสียหายหรือสูญเสีย แต่ไม่รอลงอาญา ไม่รู้ซิผมรู้สึกว่ามันค้านๆกับที่ผมเคยรู้มาว่า"ศาลท่านมีความเมตา"แต่กับท่านทักษิณ มันแหม่งๆไง และเรื่อง 5ต่อ4 ผมได้ยินนักกฏหมายเค้าคุยกันว่า ปรกติหลักปฏิบัติกันมาของการตัดสินของศาล หากคะแนนออกมาเท่ากัน คนให้คะแนนคนสุดท้ายคือหัวหน้าคณะผู้พิพากษา จะโหวดให้เป็นคุณกับจำเลย แปลว่ายกฟ้อง...อันนี้ก็แปลกๆแหม่งๆนะครับ กับการตัดสินคดีท่านทักษิณ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:35:40 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ที่ไม่รอลงอาญา เพราะศาลเห็นว่า เป็นนายกต้องมีจริยธรรมเป็นแบบอย่าง การซื้อที่ดินที่ ไม่มีใคร นอกจาก ศาล ที่รู้ว่านายกมีอำนาจกำกับดูแล ไม่มีจริยธรรมอย่างไร?????????? จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:38:42 A:110.164.21.54 X:

ความคิดเห็นที่ 34 การทำคำพิพากษาจะต้องยึดหลักเสียงข้างมาก แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ถือตามความเห็นที่เป็นผลร้าย กับจำเลยน้อยกว่า จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:45:40 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 35 คห31..อันนี้ผมก็ขอแย้งอีกนั่นแระ จำคดี 9ปปช.ที่ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองได้ไหม นั่นน่ะเจตนาเลยนะคุณ แต่ศาลตัดสินว่างไง ศาลตัดสินประมาณนี้ว่า "จำเลย เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง และเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญ จึงให้รอลงอาญา) ...เออ คุณว่า มาตรฐานศาลมันแปลกไหมละ       แล้วไม่ให้คนเค้าสงสัยได้ไงก็ในเมื่อความเป็นจริง ตัวศาลนั่นแระที่ทำ2มาตราฐานให้เห็นเองเค้าก็เอาตรงนี้มาสงสัยไม่ได้เอามาจากไหนเลยคุณ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 21:50:16 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:46:45 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 36 คห34..คุณเอามาจากไหน ทีผมได้ยินมาก็จากปาก อดีตประธานศาลฏีกานะคุณ 555 ใครน่าเชื่อถือกว่ากันละ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:48:11 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 37 ตห.31    ลุงม้วนครับ ก็เพราะการ "ยาก" ในการยอมรับนั่นแหละครับ เขาถึงมีหลักในการพิจารณาคดี  ตัดสินคดีไว้ว่า  ต้องกระจ่าง และเป็นธรรมที่สุด เคลือบแคลงนิด  ยกประโยชน์ให้จำเลยไป เพื่ออะไร ?    ก็เพื่อป้องกันข้อครหาที่จะเกิดขึ้นต่อศาล ขอพูดแค่นี้ครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:50:58 A:125.26.239.233 X:

ความคิดเห็นที่ 38 คห.35 ครับ... คุณจะเทียบกรณีปปช. กับคดีที่ดินรัชดาไม่ได้หรอกครับ เป็นคดีคนละประเภทกัน และข้อเท็จจริงก็ต่างกัน ผมเชื่อว่าถ้าพตท.เป็นหนึ่งใน ปปช.ชุดนั้น ศาลก็คงรอลงอาญา ให้เหมือนกัน และก็กลับกัน หากหนึ่งในปปช.ชุดนั้น มาอยู่ในฐานะ เดียวกับ พตท.ทักษิณ ศาลก็คงไม่รอลงอาญาเหมือนกัน. จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:52:29 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 39 #38 โอ้ว คนดังมาอยู่ในราชดำเนินด้วย เพิ่งรู้ว่า ลุงม้วนฯ คือ ศาล มิน่ารู้ไปหมดว่า ศาล จะตัดสินยังไง เหอะๆ ๆ ๆ แล้วดดี อาจารย์นิด้า ตีเมียตาย ให้รอลงอาญานี่ คิดว่าไงครับ เทียบกันได้มั๊ยคับ ? แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 21:58:44 จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:57:46 A:110.49.22.179 X:

ความคิดเห็นที่ 40 คห38...แปลว่า ศาลไม่มีมาตรฐานหรือหลักในการพิจารณาใช่ไหม คือ ตกลงเอาไงแน่ พอผมยกตัวอย่างคุณศรราม ที่มีความสูญเสียร้ายแรง คุณบอกให้ดูที่เจตนา พอผมยก คดีที่เจตนาชัดเจน คุณก็มาไหลไปอย่างอื่น...ผมว่าคุณมั่วแล้ว ถ้าศาลตอบแบบคุณผมก็จะบอกกับศาลทันทีว่า...คุณหมดความน่าเชื่อถือ ... การจะตัดสินมันมีผลต่อคนในสังคมวงกว้างนะครับ จะมาทำแบบไม่มีหลักไม่มีฐานนี่ผมว่า มันเด็กๆนะคับ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:58:01 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 41 คห.36 อดีตประธานศาลฎีกาท่านไหนล่ะ (ตอนนี้เป็นองคมนตรีอยู่หรือป่าว) หากผมมีโอกาสจะได้ไปเรียนถามท่านอีกครั้ง... แต่ตอนนี้ผมว่าคุณไปเปิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 184 ก่อน เดี๋ยวเอาไว้ผมว่างจะค้น พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และระเบียบ ศาลฎีกาให้ว่ามีบัญญัติแตกต่างไปจาก ป.วิอาญา มาตรา 184 หรือไม่ หากไม่มีบัญญัติเป็นพิเศษก็ต้องยึดตามม.184 นั่นแหละครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:00:59 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 42 ทำสัญญา ขอมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผิดไหมครับ รัฐวิสาหกิจก็เป็นหน่วยงานของรัฐเหมือนกัน จากคุณ : หิมพานต์ เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:03:38 A:222.123.19.75 X:

ความคิดเห็นที่ 43 คห41..ท่านอาจารณ์ มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ครับ เป็นหัวหน้าคณะผู้พิพากษาด้วยครับ ... เอางี้ ถ้าศาลที่ตัดสินท่านทักษิณ จะตัดสินแบบ 9ปปช.มันจะเป้นไรไหม"เนื่องด้วยจำเลยทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากมาย และเป้นผู้มีตำแหน่งสำคัญ อีกทั้งคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย จึงให้รอลงอาญา"  มันจะเป็นไรไม๊ มันจะผิดกฏหมายอะไรไม๊.....ไหนคุณลองแย้งให้ผมฟังหน่อยซิครับ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:09:00 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 44 คห.39... ไม่ต้องประชดกันขนาดนั้นก็ได้ครับ... คดีดร.นิด้า ถ้าว่ากันตามหลักทัณฑวิทยา แล้วการลงโทษต่อ ผู้กระทำความผิดต้องคำนึงถึงภูมิหลังและพฤติกรรมของผู้กระทำ ความผิดด้วย คือดูว่าเป็นคนชั่วร้ายโดยสันดานมีความโหดร้ายทารุณ หรือทำไปด้วยความพลั้งพลาดหรืออารมณ์ชั่ววูบ การปฎิบัติต่อบุคคล เหล่านี้ต้องแตกต่างกัน คนชั่วร้ายโดยสันดานต้องลงโทษให้หนักหรือกัน ออกจากสังคมให้นาน แต่สำหรับพวกที่ทำผิดเพราะพลั้งพลาดควรให้ โอกาสในการกลับตัวและลงโทษไปตามรูปคดี หากไม่ต้องลงโทษจำคุก ได้ ก็จะดี เพราะโดยปกติแล้วคนที่ทำผิดประเภทนี้มักจะไม่กลับมา กระทำความผิดอีก ผมไม่อยากขยายความรายละเอียดของคดี อ.นิด้านี้มากนัก แต่ก็รู้สึก ว่าคำพิพากษาในคดีนี้คลาสิคทีเดียวเป็นการอธิบายการตัดสินตามหลัก ทัณฑวิทยาได้ดีทีเดียว จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:17:39 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 45 คห.43 ครับ อ.มานิตย์ เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีศาลอาญาด้วยครับ การกล่าวว่าพตท.ทักษิณเป็นผู้ทำประโยชน์แก่บ้านเมืองยังไม่ใช่ ข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยุติ เพราะยังมีประชาชนอีกบางกลุ่ม โดยเฉพาะ คณะคมช.และพวกเสื้อเหลือง ไม่คิดเช่นนั้น ศาลคงไม่กล้าเอาข้อเท็จจริงที่ยังถกเถียงกันเช่นนี้มาเขียนไว้ใน คำพิพากษาแล้วรอการลงโทษให้พตท.ทักษิณหรอกครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:27:03 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 46 อ้าว ลุงม้วน  หลับเหรอ...ก๊อก ก๊อก ก๊อก  ตื่น ตื่น 555555 ผมรอฟังอยู่ ถ้าไม่ตอบ(หรือหาเหตุผลไหลๆไม่ได้)ผมจะไปอาบน้ำดูหนังนอนแล้ว....อิอิอิ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:28:33 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คห45..ลุง โห ขอพูดจากใจเลยนะ โทษที ..ไหลโคตรๆเลยครับ ..แค่30 บาทรักษาทุกโรคเรื่องเดียว ไอ้9ปปช.ที่บอกว่าทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองยังสู้ไม่ได้เลยคุณ และผมก็ไม่เคยเจอเหลืองคนไหนบอกว่า 30บาทไม่มีประโยชน์ สักคน ลุงมั่วนิ่มจริง เหมาะอยู่กับ พรรค แมงสาป ปชป. หรือ พรรคปลาไหลของบรรหาร นะเนี่ย เอาละ ผมไม่ถามแล้ว คำตอบไหลๆแบบนี้ฟังไม่ขึ้นไหลไปเรื่อยลุง     ผมสรุปเลย "ความยุติธรรมเฮ็งซวย"เสื่อม ตกต่ำ ครับ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:33:00 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 48 คห45..ขออีกนิดนึงลุง....แปลว่า 9ปปช.ศาลเห้นว่าทำคุณประโยชน์จริง แล้วศาลเค้าพิสูจน์ยังไงเหรอ ไม่เห้นพูดเรื่องนี้ในคำตัดสินเลย อย่างน้อยน่าจะบอกหน่อยว่า"ศาลได้ทำสำรวจตรวจสอบแล้วว่า 9ปปช.ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองจริงและไม่มีผู้ใดเห็นแย้งดังต่อไปนี้..1 2 3 ว่ากันไป แต่นี้กลับไม่มีในคำพิพากษา แล้วผมจะเชื่อคำพูดลุงได้ไง ...คิดเองนี่ลุง555555 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:41:47 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 49 ลุงม้วน ok. ตอบคำถาม rep 42 หน่อยครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:44:06 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 50 49... ผมยังไม่ได้ศึกษากฎหมายปปช.อย่างจริงจัง ทั้งกรณีศาลก็ยังไม่เคยวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน เลยยังขอไม่ตอบในตอนนี้ครับ แล้วคุณละเห็นว่าผิดหรือไม่ โปรดตอบด้วยนะครับ รออ่านอยู่... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:51:37 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ แล้วคุณมาเถียงอะไรเป็นวรรคเป็นเวรล่ะครับ เนื้อหากระทู้นี้กล่าวถึง การตีความคำว่า " สัญญา " ตามกฎหมาย ปปช. 100 นะครับ ดังนั้น สัญญา จะแบ่งได้ก็คือ สัญญาทั่วไป กับ สัญญาที่มีผลผูกมัด ซึ่งตามเนื้อหากระทู้ผม ก็บอกไปแล้วว่า " สัญญาจากการประมูลที่ดิน เป็นสัญญาซื้อขายธรรมดา ทำเหมือนกันทุกๆคน แถมจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ( เพราะก็มีวิธีโอนที่ได้เหมือนกัน ) " แต่ในเมื่อ คดีที่ดินรัชดา ถูกตัดสินว่า " ผิด " กรณีนี้จะเป็น " บรรทัดฐาน " ครับ หมายถึงว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่ง นายก ต่อไปจะทำสัญญาอะไรกับรัฐไม่ได้เลย แม้แต่ขอน้ำ ขอไฟ เพราะสัญญาที่ระบุไว้ มีคดีตัวอย่าง คือ คดีที่ดินรัชดา เป็นแนวทางให้แล้วว่า หมายถึง สัญญาทุกประเภท การตีความโหลยโท่ยแบบนี้ " เหมาะสม " หรือไม่... ไปคิดเอาเองนะครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 22:59:10 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 52 ถึงลุงม้วน..... จากการที่ผมสนทนากับลุง ผมเค้าใจว่าลุงกำลังปกป้องศาล ผมเองก็ไม่อยากกล่าวหาศาลเช่นนั้นหรอกครับ ความจริงผมเป็นคนเคารพศาลมาตั้งแต่จำความได้รู้อะไรเป็นอะไร แต่อยากบอกให้ลุงรับทราบไว้อย่างว่า การปกป้องศาลของลุงก็เปรียบกับการเลี้ยงลุกไม่ถูกทาง เช่นถ้าลูกลุงไปมีเรื่องกับเพื่อนบ้านแล้วลุงรู้อยู่แก่ใจว่าลูกผิด แต่แทนทีลุงจะหัดให้เด็กยอมรับผิดแบบลูกผู้ชาย หรือสอนให้เค้ารู้จักคำว่า "รับผิดชอบ กล้าทำต้องกล้ารับ"แต่ลุงกลับปกป้องให้ท้าย แบบนี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อลูกลุงในอนาคตข้างหน้าเด็กก้จะได้ใจ นิสัยเกเรก็จะแก้ไม่หาย ผมก็ไม่อยากให้ลุงให้ท้ายกับความไม่ถูกต้อง หากลุงมีใจเป็นคนดีมีความยุติธรรมลุงเห็นสิ่งไม่ถูกต้องลุงต้องแย้ง ลุงต้องท้วงติงไม่ใช่ให้ท้าย เพราะเท่ากับลุงรักลูกไม่ถูกทางหรือให้ท้ายคนแบบผิดๆ ปัญหามันจะแก้ไขไม่ได้ เหมือนครั้งหนึง ที่มีคนให้ท้าย พธม.แล้วเป้นไง พธม.ได้ใจ ไม่หยุดทำสิ่งไม่ดี ในที่สุดก็สายเกินเยียวยา   ผมก้อยากบอกลุงแค่นี้แระ ส่วนตัวผมไม่รู้เป็นไงนิสัยมันเกลียดความไม่ยุติธรรม เห็นเป็นไม่ได้ มันแอนตี้อะลุง แม้แต่คนใกล้ตัวผมเอง ทำไม่ถูกผมก็ไม่เคยเข้าข้าง  ตรงกันข้าม ถ้าคนใกล้ตัวผมผิดแล้วไม่ไปขอโทษเค้า ผมพร้อมตัดขาดเลิกคบได้ทันทีโดยไม่ลังเล คือสันดานมันเป้นคนแบบนี้อะลุง  และถ้าผมพูดจาล่วงเกินลุงไปผมก็ต้องขออภัยด้วยนะลุง ใจลึกๆผมก็รู้สึกไม่ดีที่ใช้คำแรงไปนิดนึง ก็กราบขออภัยลุงด้วยนะถ้าลุงเป้นคนรุ่นลุงจริงอย่างชื่อ.....เท่านี้แระลุงบายครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 23:09:08 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:06:06 A:125.24.5.60 X:

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 26   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   นายก มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนหรือไม่... มีครับ ศาลให้เหตุผลว่า มีผ่านรมต.คลัง ผ่านปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการกองทุน สำหรับคำวินิจฉัยตรงนี้แม้จะมีผู้ไม่เห็นด้วยก็ไม่แปลกหรอก เพราะคณะตุลาการเองก็ยังมีความเห็นแตกต่างกันโดย 6 เสียง บอกว่ามีอำนาจกำกับดูแลกองทุน ส่วนอีก 3 บอกว่าไม่มี แต่เมื่อเสียงข้างมากของผู้มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยออกมาเช่นนั้น ก็ควรที่ต้องยอมรับกันนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 21:02:51 จากคุณ : ลุงม้วน ok. ^ ^ ^ เถียงมาได้ตั้งนาน มาหมดราคาเอาตรงนี้แหละ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:15:49 A:124.121.177.204 X:

ความคิดเห็นที่ 54 rep 20 บอกตามตรง ผมจำไม่ได้แล้วละครับว่ากระทู้เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคืออันไหน (แหะ ๆ) ประโยคนี้ก่อน "อย่างแรกผมต้องบอกย้ำเลยว่า " สัญญา " ตรงนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นขั้นตอนต่อเนื่อง คือไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ อันนี้ยอมรับไหมครับ..." อันนี้ผมเถียงไปในกระทู้ที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนแตกประเด็นว่า ผมไม่ยอมรับครับ คือไม่ว่าอย่างไร ก็ถือว่าเป็นคู่สัญญา (ฅนละความหมายกับคำว่า ทำสัญญา) ส่วนเรื่องสิทธิขอน้ำขอไฟ อันนี้อยู่ในหมวดความเสมอภาคตามกฏหมายครับ (แปลว่าถ้าฅนธรรมดาได้รับสิทธิใด ๆ เจ้าหน้าที่ก็ต้องได้รับด้วย) มาตรา ๓๐ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน แม้กระทั่ง มาตรา 31 ที่คุณยกมา " บุคคลผู้เป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กรของรัฐ ย่อมมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จำกัดไว้ในกฎหมายหรือกฎที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมาย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม " อ่านท้ายประโยคให้ดี ๆ สิครับ "เกี่ยวกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม " การขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ มันขัดกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรมอย่างไรละครับ ^_^ (แต่ประมูลที่ดินนี่น่าจะขัดนะครับ) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:16:47 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 55 ว้าต่อไปศาลต้องทำคดี จนท รัฐทำสัญญากับการไฟฟ้า การประปา ด้วยซิ คดีความคงเยอะน่ะ ขำๆ ครับ จากคุณ : Pakpow เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:17:48 A:110.164.163.227 X:

ความคิดเห็นที่ 56 52... ไปค้นมาแล้วครับ การตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ใช้เสียงข้างมากเป็นไปตามรธน.ม.278 ครับ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:22:05 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 57 ออกตัวก่อนนะครับผมยังไม่ได้ศึกษากฎหมาย ปปช.โดยละเอียด แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว การขอน้ำ ขอไฟ ไม่น่าจะผิดกฎหมาย นะครับ ใครเห็นว่าผิดแนะนำให้ไปร้องให้ ปปช. ดำเนินคดีเลยครับผมเอง ก็อยากรู้เหมือนกันว่าผลจะออกมาอย่างไร การมานั่งเถียงกันแบบนี้คงไม่ได้คำตอบหรอกครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:27:27 A:125.27.129.125 X:

ความคิดเห็นที่ 58 สนับสนุน ด้านบนเรื่องขอไฟน้ำ ประปาครับ เอาไปอ่านเอาเอง อย่าเอียงตีความล่ะ จะได้เลิกคุยเรื่องขอน้ำไฟ สงสารศาลท่านงานตัดสินคนชั่วมีอีกเยอะ พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 133   เจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 100 ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญา กับรัฐหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญา ในลักษณะดังกล่าว ถ้าได้รับสัมปทานหรือเป็นคู่สัญญาหรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าวอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้คงถือไว้ซึ่งสัมปทาน หรือเป็นคู่สัญญาหรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว นั้นได้ต่อไปจนกว่าจะครบอายุสัมปทานหรือครบอายุสัญญา จากคุณ : Pakpow เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:36:25 A:110.164.163.227 X:

ความคิดเห็นที่ 59 rep 54 เรื่อง " คู่สัญญา " ผมแปะไว้ในกระทู้เดิมแล้วครับ ไปอ่านด้วย... ต่อมาเรื่อง ขอน้ำ ขอไฟ ขอสาธารณูปโภค มันไม่ใช่สิทธิพื้นฐานตาม รธน. นะครับ... คุณไม่มีเงินจ่าย เขาก็ไม่ติดให้ครับ คุณอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เขาก็ไม่ติดให้ครับ ( ไม่คิดจะพยายามหาทางช่วยด้วยซ้ำ ) หรือถ้าคุณจะดึงดัน เอาให้เป็น สิทธิพื้นฐานตาม รธน. ให้ได้ กฎหมาย ปปช. เป็นกฎหมายเชิง " จริยธรรม " ครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:37:55 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดเห็นที่ 58     สนับสนุน ด้านบนเรื่องขอไฟน้ำ ประปาครับ เอาไปอ่านเอาเอง อย่าเอียงตีความล่ะ จะได้เลิกคุยเรื่องขอน้ำไฟ สงสารศาลท่านงานตัดสินคนชั่วมีอีกเยอะ พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 133   เจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 100 ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญา กับรัฐหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญา ในลักษณะดังกล่าว ถ้าได้รับสัมปทานหรือเป็นคู่สัญญาหรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าวอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้คงถือไว้ซึ่งสัมปทาน หรือเป็นคู่สัญญาหรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว นั้นได้ต่อไปจนกว่าจะครบอายุสัมปทานหรือครบอายุสัญญา จากคุณ : Pakpow หมายถึง ถ้ามีน้ำอยู่แล้ว มีไฟอยู่แล้ว ก็ให้มีต่อไป แต่ถ้าขอใหม่ จะผิดตาม ปปช. 100 ใช่ไหม ? ความคิดคุณนี่ตลกดีนะครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:39:51 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 62 สงสัยคุณ SaVor ต้องแตกประเด็น ปรับความเข้าใจเรื่อง "สิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ" อีกกระทู้ซะแล้วมั้งครับ จากคุณ : Caesar. เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:53:44 A:110.49.22.179 X:

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าไม่เทียบกะขอน้ำไฟ เทียบกะ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประมูลป้ายทะเบียนรถละกัน ตอนนั้นเป็น รมต คมนาคม ด้วย กรมขนส่งทางบกอยู่ใต้บังคับบัญชา เต็มๆ จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 23:54:02 A:110.164.21.54 X:

ความคิดเห็นที่ 64 โอย พิมพ์ไปแล้ว แต่ไม่ติด ตอบใหม่สั้น ๆ นะครับ ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ ถ้าเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย (เป็นพลเมืองไทย มีตังค์จ่าย) ก็ต้องได้รับสิทธินั้น (อยู่ในส่วนความเสมอภาคของรธน.ครับ) ส่วนที่บอกว่า กฏหมายปปช. อยู่ในหมวดจริยธรรม และจะมากั้นสิทธินั้น ถามซ้ำอีกครั้งว่า ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ มันผิดจริยธรรมตรงไหนครับ? ส่วนเรื่องประมูลของรัฐ ทั้งทีุ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อันนี้ก็ conflict of interest ธรรมดา ไม่มีอะไรยุ่งยาก (สงสัยต้ัองแตกประเด็นใหม่ ปรับความเข้าใจเรื่องคำว่า กฎหมายจริยธรรมแล้วกระมังครับ) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:11:59 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 65 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8495492/P8495492.html แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 00:14:39 จากคุณ : วษณ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:13:11 A:58.8.141.200 X:

ความคิดเห็นที่ 66 rep 63 เปรียบเทียบ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ประมูลป้ายทะเบียนรถ อันนี้เห็นด้วยครับว่าถ้าฟ้อง ก็น่าหวาดเสียวว่าศาลจะตัดสินให้ผิดเหมือนกัน ซึ่งผมเคยแสดงความเห็นไปแล้วสองประเด็นครับ - ในทางปฏิบัติ มีใครฟ้องรึเปล่า? ถ้าไม่มีฅนฟ้องก็เอาผิดไม่ได้อยู่ดี (แม้จะเห็น ๆ ว่าผิดกฎหมาย) - รูปแบบของสัญญามีช่องทางให้เจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์รึเปล่า? ถ้าอิงตามความเห็นแบบคุณ pom.com มีเงื่อนไขอะไรนอกเหนือไปจาก 'ฅนให้ราคาดีสุด ก็ได้ไป' รึเปล่า? ถ้าไม่มี ก็อาจจะยากหน่อย แต่ถ้ามี (เหมือนที่ดินรัชดา ที่มีช่องกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลได้) อันนี้ก็มีลุ้น จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:15:36 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดผมคงตลก และขำๆ ตลอดแหละครับ จะได้สบายๆ ไม่เครียด ไม่อคติ นั่งดูบอลไปพลางนั่งขำกระทู้ใน 1000 tip พลางก็ดีเหมือนกัน แต่อย่าเครียดมากน่ะครับ รักษาสุขภาพบ้าง ทำใจร่มๆ บ้าง 555555 จากคุณ : Pakpow เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:22:14 A:110.164.163.227 X:

ความคิดเห็นที่ 68 rep 64 ถ้าจะดึงดันเอาเป็นสิทธิพื้นฐาน ซึ่งผมก็ไม่รู้มันสิทธิยังไง ( ที่แน่ๆมีคนพยายามให้เป็นสิทธิพื้นฐานตอน 50 แต่มันยังไม่สำเร็จ ) งั้นก็มาว่ากันต่อ ไอ้ conflict of interest ของคุณเนี่ย มันต้องถูกระบุไว้ในกฎหมายด้วยนะครับ ถึงจะเอาผิดได้ เช่น ไอ้โอ๊ค ซื้อที่แทน พจมาน อันนี้ก็มีเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนครับ แต่เอาผิดอะไรไม่ได้ คุณอย่าคิดเอาเองสิครับ ว่าอันนั้น อันนี้ ผิดจริยธรรม มันผิดตามที่ระเบียบหรือกฎหมายบัญญัติครับ... ไม่ใช่อยู่ดีๆบอก " ขอน้ำ ขอไฟ ไม่ผิดจริยธรรมหรอก " คุณเป็นมนุษย์มาตรฐานมาจากไหนครับ ? ผมถึงต้องเชื่อคุณ... จริยธรรมของผม จำเป็นต้องเหมือนของคุณหรือไม่ ? แล้วถ้าจะดึงดันตะแบงไป ผมว่าเรื่อง " นายก ขอน้ำ ขอไฟ " สามารถพลิกกลับให้เป็นเรื่องจริยธรรมได้ไม่ยากเลยครับ... แล้วตัวกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามประมูลครับ แต่ห้ามเป็นคู่สัญญา ขอน้ำ ขอไฟ ต้องทำสัญญา ทำสัญญาซื้อขาย ก็คือทำสัญญา คุณอย่าบิดเบือนให้หลงประเด็น เทียบตามกฎหมายคือ " การทำสัญญาซื้อขาย " เทียบกับ " ขอน้ำ ขอไฟ " มิใช่การประมูล แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 01:00:16 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:36:19 A:124.120.10.87 X:

ความคิดเห็นที่ 69 ศาลตีความ ขัดแย้งกันเอง ในหลายๆส่วนของคดี 1.ตีความว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ 2.ตีความว่า กองทุนฟื้นฟูเป็นหน่วยงานอิสระเช่นกัน 3.ตีความว่า กรรมการกองทุนฟื้นฟู ไม่เป็นอิสระ เพราะเป็นข้าราชประจำ 4.ยอมรับว่า นายกไม่เคยเข้าไปแทรกแซง การทำงานของกรรมการกองทุน 5.ยอมรับว่า ขั้นตอนการประมูล จนรู้ผลการประมูล นายกไม่มีหลักฐานว่า นายกรู้เห็น เรื่องการประมูล 6.ตัดสินว่า การทำสัญญา ซื้อขายที่ดิน เป็นไปโดยปกติ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 7.ตัดสินว่า การเซ็นยินยอมให้ ซื้อขายที่ดิน เป็นการกระทำผิดกฏหมายใน ฐานะคู่สัญญากับรัฐ ตามกฎหมาย ปปช. ม.100 ถ้าดูเนื้อหาคำพิพากษา ศาลยอมรับว่ากระบวนการ ทั้งหมดถูกกฎหมายหมด และยอมรับว่า หน่วยงานเป็นอิสระหมด ขณะที่กฎหมายกำหนดไว้ที่หน่วยงาน แต่ศาลดันไปชี้มูล ที่ตัวบุคคล  เพราะไปเอาผิดตรงข้อ หน่วยงานไม่ได้ ซึ่งมันเหมือน พยายามลากให้เอาผิดให้ได้ การทำงานของ คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู เขามีกฎหมายบังคับไว้แล้ว ต้องรอให้มีหลักฐานว่านายกเข้าไปแทรกแซง กรรมการโดยใช้อำนาจ โดยมิชอบ ในคดีที่ดินรัชดา ก่อนถึงจะเอามาเป็นข้อเท็จจริงได้ว่า นายกรัฐมนตรี กำกับตัวคณะกรรมการกองทุน การใช้คำว่า อาจจะ กำกับ มันเหมือน ถึงวันนี้ เอ็งไม่ทำ วันหน้าก็อาจจะทำผิด เลยลงโทษซะก่อนตั้งแต่ว้นนี้ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 01:02:35 จากคุณ : คนชอบเขียน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 01:01:53 A:118.172.48.75 X:

ความคิดเห็นที่ 70 จขกท. คุณ SaVor  น่าเสียดายว่าพื้นที่แสดงกระทู้ในเว็บบอร์ดพันทิปราชดำเนินนี้เคลื่อนตัวเร็ว เผลอหน่อยเดียว ไปอยู่ตอนท้ายๆซึ่งไม่ค่อยมีใครอ่านหรือเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ความจริงกระทู้นี้มีเนื้อหาสาระประโยชน์ เพราะเป็นกรณีพิเศษและเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ สำคัญถึงขนาดผู้ที่เกลียดคุณทักษิณภูมิใจและสะใจที่กระทำสำเร็จคือการตัดสินว่าผิดจริยธรรม ต้องโทษจำคุก 2 ปี มีความสุขพอใจในการเรียกนช.ทักษิณ ในความคิดของคนพวกนี้..คุณทักษิณผิดมาก่อนหน้าจะรัฐประหารแล้ว คำพิพากษาที่นำมาวิเคราะห์กันนี้เป็นแค่เหตุผลที่ทำให้ดูดี ดูเป็นหลักนิติธรรม จริยธรรม คุณธรรม หรือสัพเพเหระธรรม แต่ผมเรียกกรูจะธรรม คือธรรมตามใจกรู ปฏิญญาอัพปรีย์เฮ้าส์ การประชุมของตัวแทนคณะผู้ก่อการรัฐประหาร เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นผิวน้ำ ทุกอย่างมันผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มก่อการครั้งนั้นแล้ว คือรัฐประหารมันผิดเพราะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไป หลังจากนั้นมันก็ผิดต่อเนื่องกันมาตลอด รวมถึงกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระเถื่อนทั้งหมด ผมว่าข้อกฏหมายที่จะถกเถียงโต้แย้งกันนั้น..มันก็ดีนะครับ แต่ก็ควรจะรู้วัตถุประสงค์ในการตรากฎหมายด้วยว่าเพื่ออะไร บ้านเรา..ใครถ่มน้ำลายลงพื้นถนนในที่สาธารณะไม่ผิด แต่ในสิงคโปร์จะผิดเพราะมีบทบัญญัติกฎหมายเรื่องนี้ เราโต้เถียงกันเป็นวรรคเป็นเวรในรายละเอียดแง่มุมทางกฎหมาย ผมอ่านได้ แต่ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ แม้จะเคารพกฎหมาย เคารพกฎเกณฑ์ แต่ก็รำคาญในบางครั้งที่มันหยุมหยิมและไร้สาระเสียเลอะเทอะ เพราะผมว่านักกฎหมายพยายามใช้ประโยชน์ทางกฎหมายในการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น อำมาตยาธิปัตย์ต้องการกำจัดคุณทักษิณด้วยการใช้กฎหมายและแง่มุมทุกอย่างในกระบวนการยุติธรรมเพื่อเล่นงาน และต้องทำให้สำเร็จ ผมอยากจะลองเปลี่ยนตัวแปรจากคุณทักษิณเป็นใครดีล่ะ...คุณ thyrocyte ละกัน หรือคุณคนชาย โดยสมมุติว่าผมทำรัฐประหารสำเร็จ และผมต้องการเล่นงานใครก็ได้ที่ผมต้องการกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลก โดยวิธีให้ดูดีมีนิติธรรมแบบเดียวกันนี้ ด้วยข้อหาที่พอจะสมเหตุสมผล เช่นเป็นพวกก่อการให้เกิดความแตกแยกในสังคมอันอาจจะทำให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน คุณ thyrocyte ก็ไม่รอดเงื้อมมือผมหรอก รับประกันได้ว่าจะมีคนเรียกนช.thyrocyte นช.คนชาย จะมีใครหน้าไหนปฏิเสธไหมว่าผมทำไม่ได้ ในฐานะผู้ถือครองอำนาจรัฐาธิปัตย์ ผมสามารถทำอะไรๆได้อยู่แล้ว จะกล่าวหาใครผิดใครถูกก็ทำได้ ใครก็ตามที่โดนกระทำแบบคุณทักษิณ ร้อยทั้งร้อยต้องคิดว่าโดนแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งนั้น แปลกดี..ที่บางคนไม่เคยรู้สำนึกถึงความเป็นธรรมในขณะเป็นผู้ไล่ล่า สนุกสนาน สะใจ แต่จะรู้สึกถึงความเป็นธรรมความและยุติธรรมขึ้นมาจับจิตขณะเป็นฝ่ายถูกไล่ล่า ผมกำลังพูดถึงความเป็นธรรม ที่เรียก Justice for All แม้กลับทั้งสองข้างสลับกัน ก็ยังเป็นธรรมอยู่ เท่านี้จริงๆ ไม่เห็นจะซับซ้อนตรงไหน ง่ายๆตรงๆ ความเป็นธรรมจึงจะยอมรับเป็นข้อยุติได้ นั้นแหละคือความยุติธรรม ทุกวันนี้มันไม่มีความเป็นธรรมไง มันถึงได้ยุ่งเรือหาย หาข้อยุติกันไม่ได้ จากคุณ : อภิวัฒน์ (Apiwatmnp) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 03:49:22 A:124.121.90.46 X:

ความคิดเห็นที่ 71 rep 68 ผมว่าคุยไปคุยมาชักจะวนในอ่างแล้วละครับ เรื่องความเห็นผมก็แสดงไปหลายรอบแล้วครับ จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ ก็แล้วแต่คุณ แต่ก็ถือได้ว่าอย่างน้อย ๆ ก็มาแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่องขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์เป็นการทำสัญญาครับ ผมไม่เถียง แต่ผมคิดว่าไม่เข้าข้อกฎหมายที่จะเอาผิดได้ เหตุผลก็พูดไปแล้วตั้งแต่ คห. 10 สรุปว่าไม่มีประเด็นอะไรใหม่ในคห.นี้ครับ อ้อ มีประโยคนึงที่ผมชอบครับ "คุณเป็นมนุษย์มาตรฐานมาจากไหนครับ ? ผมถึงต้องเชื่อคุณ..." เห็นด้วยมาก ๆ ครับ จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:52:18 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 72 ได้ยินจากข่าวของสื่อต่างๆมาว่า ท่านอธิบดีกรมที่ดิน บอกว่า ไม่จำเป็นที่สามีต้องเซ็นยินยอมให้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงนี้ก็ได้ จริงเท็จไม่แน่ใจ   ก้อไม่เข้าใจว่า ท่านทักษิณ ที่เชี่ยวชาญ ชำนาญกฎหมาย ต้องใช้ สำเนาบัตร ประจำตัวนายก รัฐมนตรี แทนบัตรประชาชน และไปลงชื่อรับรองให้คุณหญิงทำสัญญาไปทำไมกัน     และเรื่อง ผังเมือง เป็น พรบ. ซึ่งอต้องมาจาก มติครม.    ไม่ใช่ กทม. จึงไม่เข้าใจว่า จขกท. โยงเรื่อง ไปถึง BRT. ทำไมกัน  และมติ ครม. ก็มีหลังจากการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ในวันเปิดทำการ( ที่ได้มีมติครม. เลื่อนวันหยุดไป )เรียบร้อยแล้ว ( ตามข่าวหนังสือพิมพ์ ครับ )   เนื่องจากปีถัดไป อัตราภาษี การซื้อขายที่ดิน มันสูงขึ้น น่ะขอรับ   จึงเป็นเหตุจำเป็นต้องรีบโอน ( ก็ไม่ได้ว่ากระไร เพราะใครๆก็ทำกันเป็นปกติวิสัยคน  ไม่มีใครอยากจ่ายมากโดยไม่จำเป็น )      กฎหมายที่ศาลอ้างอิง เข้าใจว่า ได้ตราไว้ก่อนรัฐบาลทักษิณ  ไม่ทราบว่า เป็นความจริงเพียงใด จขกท. ที่เชี่ยวชาญกฏหมายคงทราบวัตถุประสงค์ ของการตรากฎหมายฉบับนี้ได้ดี ว่า ทำไม และ ต้องการป้องกันอะไร ?           ที่ยกประเด็นเก่าๆขึ้นมานี้   เพื่ออะไรกัน ก็ไม่ทราบ  ศาลที่พิจารณาตามตัวบท กฎหมาย  ควร "อดสู" หรือคนไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย "ควรอดสู"             การตัดสินของศาล   จะผิด จะถูก (ใจ ! !) เป็นเรื่องของศาล  ไม่มีความรู้กฎหมายดีพอ จึงไม่ขอวิจารณ์ ขอรับ   มีความเห็นแย้งมานิดๆ   เพื่อให้เห็นว่า  ยังมีคนที่พลิกเหรียญอีกด้านมาดูได้เท่านั้นเอง    ส่วนใครจะดูด้วยหรือไม่ดูด้วย   ก็ตามแต่สติของแต่ละท่าน   ลัทธิประชาธิปไตย ก้อ เช่นนี้เอง ขอรับ จากคุณ : วอน (วอน) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:01:42 A:125.27.245.52 X:

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 64   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   โอย พิมพ์ไปแล้ว แต่ไม่ติด ตอบใหม่สั้น ๆ นะครับ ขอ น้ำขอไฟขอโทรศัพท์ ถ้าเข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย (เป็นพลเมืองไทย มีตังค์จ่าย) ก็ต้องได้รับสิทธินั้น (อยู่ในส่วนความเสมอภาคของรธน.ครับ) ส่วนที่บอกว่า กฏหมายปปช. อยู่ในหมวดจริยธรรม และจะมากั้นสิทธินั้น ถาม ซ้ำอีกครั้งว่า ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ มันผิดจริยธรรมตรงไหนครับ? ส่วนเรื่องประมูลของรัฐ ทั้งทีุ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อันนี้ก็ conflict of interest ธรรมดา ไม่มีอะไรยุ่งยาก (สงสัยต้ัองแตกประเด็นใหม่ ปรับความเข้าใจเรื่องคำว่า กฎหมายจริยธรรมแล้วกระมังครับ) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) ^ ^ ^ น่าสนครับ อยากรู้ความเห็นเหมือนกับ การเลือกปฏิบัติ  ผู้ตัดสินก็ผิดกรณีเดียวกับที่ที่ตัดสินคนอื่นไปแล้วอย่างนายกสมัคร ว่า  กฎหมายจริยธรรม  เป็นยังไง จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:23:23 A:124.121.177.204 X:

ความคิดเห็นที่ 74 เจ้าของกระทู้ตามผมให้มาแสดงความเห็น ก็มาแล้วครับ ๑. เรื่องเซ็นชื่อมันเป็นแค่หลักฐานครับ ว่าทักษิณรับรู้ยินยอมในการทำสัญญาของภริยา ซึ่งให้ถือว่าเสมือนตนเป็นผู้เซ็นสัญญาเอง สุดท้ายนี้หลักฐานนี้ไม่ได้เอามาใช้ในการโต้แย้งเสียด้วยซ้ำ เพราะทักษิณไม่เคยสู้คดีว่าไม่รับรู้ยินยอมในการทำสัญญาของภริยา ต่อให้ไม่มีหลักฐานชิ้นนี้ ผมว่าทักษิณก็คงไม่ด้านพอ ว่าไม่เคยรับรู้ยินยอมในการที่ภริยาทำสัญญาแน่นอน เรื่องเซ็นชื่อถึงผิด เลิกเอามาบิดเบือนได้แล้ว ๒. ที่ผิดตามมาตรา ๑๐๐ เพราะภริยาเป็นคู่สัญญากับรัฐ คุณบิดเบือนอีกแล้วครับ ศาลไม่เคยพูดว่าเป็นคู่สัญญากับรัฐในทุกกรณีถือว่าผิดมาตรา ๑๐๐ เจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ หมายถึงสัญญาที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถเอื้อประโยชน์ทับซ้อนให้กับตนเอง ทั้งในขั้นตอนได้มาของสัญญา และการดำเนินการตามสัญญา ซึ่งถ้าไม่แถ ก็มีแค่ สัญญาซื้อของจากรัฐ สัญญาขายของให้รัฐ สัญญาทำงานให้รัฐ และสัญญาถือสัมปทาน ไม่รวมถึงสัญญาสาธารณูปโภค เรื่องสัญญานี้ทักษิณยังไม่เอามาสู้คดีเลยครับ ว่าไม่รวมการซื้อของจากรัฐ ดร.วรเจตต์เคยเอามาอ้าง ผมเชื่อว่าท่านไม่มีประสบการณ์ ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองได้ในการออกทีโออาร์ และในกรณีนี้ยังตอนตัดสินผู้ชนะอีก เพราะผู้ให้ราคาสูงสุดก็อาจไม่ชนะ เพราะไม่มีราคากลางให้เห็น ถ้าต่ำกว่าราคาในใจกองทุน ก็ไม่ชนะ ๓. การที่บอกว่าถ้ากองทุนเปิดประมูล แล้วขายที่ให้ โดยไม่ทำสัญญา มาตรา ๑๐๐ ก็ทำอะไรไม่ได้ ใช่ครับ แต่คุณจะสื่ออะไร จะบอกว่าทักษิณจะหน้าด้านทำ กฎหมายก็เอื้อมไม่ถึง อย่างนั้นหรือ ที่ประมูลครั้งแรก มีราคากลาง มีเงินประกัน ๑๐ ล้าน พอครั้งที่ ๒ ไม่มีราคากลาง ใครประมูลสูงสุดก็อาจไม่ชนะถ้าต่ำกว่าราคาในใจของกองทุน และพิ่มเงินประกันเป็นเงินสด ๑๐๐ ล้าน มันก็คลางแคลงใจอยู่แล้ว ๔. สำหรับคุณ : อภิวัฒน์ (Apiwatmnp) ผมว่าคุณจะบอกว่าคดีนี้เป็นคดีที่จ้องเอามาหาความผิดทักษิณ ซึ่งกรณีแบบนี้จะเกิดกับใครก็ได้ในราชดำเนิน ถ้าจ้องหาความผิด ผมว่ามันต่างกันนะครับ ผมหรือคุณไม่ใช่นายก ทักษิณทำเหตุเหล่านี้ตอนเป็นนายก ให้สังคมกังขา ไม่ว่า กรณีที่ดินรัชดา หรือกรณีขายหุ้นชินไม่เสียภาษี หรือกรณีนอมินี แต่คดีเหล่านี้ไม่เคยขึ้นสู่ศาลถ้าไม่ปฏิวัติ ผมยอมรับว่ากระบวนการเอาคดีนี้ขึ้นสู่ศาลมันทุเรศ คือต้องปฏิวัติ แต่คุณเรียกร้องความเป็นธรรมสำหรับทุกคน คุณว่าการที่เรื่องเหล่านี้ไม่เคยขึ้นสู่ศาลในภาวะปกติมันเป็นธรรมไหมครับ กับคนที่ต้องแข่งขันทางธุรกิจโดยไม่มีเส้นสาย กับคนที่ถูกสรรพากรรีดภาษีอยู่ทุกวัน พอคดีเหล่านี้ขึ้นสู่ศาล ถ้าศาลตัดสินว่าทักษิณผิด ก็ถูกสรุปทันที ว่าศาลไม่เป็นธรรม ถูกสั่งได้ ผมว่าเรื่องกล่าวหาศาลนี้ทุเรศไม่แพ้การปฏิวัติ ศาลมีเรื่องให้พิจารณาเขาก็ต้องพิจารณา การตัดสินก็มีเหตุผลประกอบพอสมควร การกล่าวหาศาล โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำลายสถาบันศาล และลามปามไปถึงใครต่อใครที่อ้างว่าสั่งศาลได้ มาแบบนี้จะให้ใครถอยให้คงยาก ใครที่เคยเข้าข้างทักษิณก็ย้ายข้างไม่น้อย ทักษิณอยากจบเรื่องนี้ ผมว่าย้อนดูตัวเองก่อนเถอะครับ กรณีที่ดินรัชดา ไม่ได้สั่งการ แต่มีใครเลียจนเป็นเรื่อง ก็ต้องย้อนคิด สังคมไทยผมว่าตอนนี้ก็อยากให้เรื่องนี้จบแบบไทยๆ แต่ถ้าด่าศาลและใครต่อใครอยู่ทุกวัน ไม่มีทางจบ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:24:03 A:124.121.212.14 X:

ความคิดเห็นที่ 75 rep 71 ที่ผมต้องถามแบบนั้น เพราะมันมาจากความเห็นของคุณตรงนี้นะครับ... " ถามซ้ำอีกครั้งว่า ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์ มันผิดจริยธรรมตรงไหนครับ? ส่วนเรื่องประมูลของรัฐ ทั้งทีุ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อันนี้ก็ conflict of interest ธรรมดา ไม่มีอะไรยุ่งยาก " เรื่องจริยธรรมให้ 100 คนมาตัดสินมันก็ไม่เหมือนกัน... คุณเอาอะไรมาวัดว่า ขอน้ำ ขอไฟ ไม่ผิดจริยธรรม ครับ ? แต่ที่แน่ๆ กฎหมาย ปปช. เขาห้าม จนท. รัฐ เป็น " คู่สัญญา " กับรัฐ เพราะผิดจริยธรรม เพราะ conflict of interest ในข้อห้าม เขากำหนดไว้ที่ การเป็นคู่สัญญา ไม่ใช่ การประมูลที่ เข้าใจนะครับ... กระทู้นี้ถกเถียงกันด้วยเหตุผล และมีหลักฐานรองรับครับ ไม่ใช่เถียงกันด้วยความคิดตัวเอง เถียงกันด้วยความคิดที่ว่า เรื่องแบบนี้ผมว่าไม่ผิดนะ ดังนั้นมันก็คงไม่ผิดหรอก ถ้าคุณจะยืนหลักแบบนี้ ก็คงเหมือนเจ้าของกระทู้ที่ผมแตกมาล่ะครับ ใช้แต่หลักคิดเองเออเอง ทำแบบนี้ไม่ผิดหรอก แบบนี้ใครเขาไม่ทำกัน มั่วอย่างเดียว สุดท้ายพอเจอคนที่รู้จริง รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด ก็เละครับ อย่างเรื่องที่คุณคิดว่า ขอน้ำ ขอไฟ ไม่ผิดจริยธรรม อันนี้มีอะไรรองรับครับ ? ถ้าเทียบกับ ประมูลที่ดิน ตามกฎหมาย มันก็ไม่ได้ห้ามทั้งคู่นั่นแหละ... แค่นี้ล่ะครับ... หวังว่าคงเข้าใจ... แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 10:35:50 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:34:51 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 76 rep 74 คุณนี่มันสุดๆจริง Pom.com มั่วตลอด มั่วดิบ ไม่มีข้อมูลอะไรซักเรื่อง อาศัยหลัก gu เถียงอย่างเดียว พูดจริงๆ คุณนี่มันระดับเดียวกับ นายกระป๋อง ชัดๆเลย... ผมคิดคำด่าไม่ออกแล้วล่ะ เอาเป็นว่า ใครคิดคำด่าให้ผมได้ ผมให้ 1 give ครับ Pom.com คุณนี่มัน... สุดๆจริงๆ ๑. เรื่องเซ็นชื่อมันเป็นแค่หลักฐานครับ ว่าทักษิณรับรู้ยินยอมในการทำสัญญาของภริยา ซึ่งให้ถือว่าเสมือนตนเป็นผู้เซ็นสัญญาเอง สุดท้ายนี้หลักฐานนี้ไม่ได้เอามาใช้ในการโต้แย้งเสียด้วยซ้ำ เพราะทักษิณไม่เคยสู้คดีว่าไม่รับรู้ยินยอมในการทำสัญญาของภริยา ต่อให้ไม่มีหลักฐานชิ้นนี้ ผมว่าทักษิณก็คงไม่ด้านพอ ว่าไม่เคยรับรู้ยินยอมในการที่ภริยาทำสัญญาแน่นอน เรื่องเซ็นชื่อถึงผิด เลิกเอามาบิดเบือนได้แล้ว >>> จากคำพิพากษาของศาล " เมื่อปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ให้บัตรประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลงนามยินยอมให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายที่ดินย่อมถือได้ว่า เป็นการเข้าทำสัญญาด้วยตัวเอง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 100 (1) วรรคสาม ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการลงชื่อยินยอมเป็นเพียงทำตามระเบียบราชการ แต่จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีหลักฐานมาแสดงให้เห็นได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการซื้อขาย องค์คณะจึงมีมติ 5 ต่อ 4 เห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 100 (1) วรรคสาม และต้องรับโทษตาม มาตรา 122 ขอต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น " ๒. ที่ผิดตามมาตรา ๑๐๐ เพราะภริยาเป็นคู่สัญญากับรัฐ คุณบิดเบือนอีกแล้วครับ ศาลไม่เคยพูดว่าเป็นคู่สัญญากับรัฐในทุกกรณีถือว่าผิดมาตรา ๑๐๐ เจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ หมายถึงสัญญาที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถเอื้อประโยชน์ทับซ้อนให้กับตนเอง ทั้งในขั้นตอนได้มาของสัญญา และการดำเนินการตามสัญญา ซึ่งถ้าไม่แถ ก็มีแค่ สัญญาซื้อของจากรัฐ สัญญาขายของให้รัฐ สัญญาทำงานให้รัฐ และสัญญาถือสัมปทาน ไม่รวมถึงสัญญาสาธารณูปโภค เรื่องสัญญานี้ทักษิณยังไม่เอามาสู้คดีเลยครับ ว่าไม่รวมการซื้อของจากรัฐ ดร.วรเจตต์เคยเอามาอ้าง ผมเชื่อว่าท่านไม่มีประสบการณ์ ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ตัวเองได้ในการออกทีโออาร์ และในกรณีนี้ยังตอนตัดสินผู้ชนะอีก เพราะผู้ให้ราคาสูงสุดก็อาจไม่ชนะ เพราะไม่มีราคากลางให้เห็น ถ้าต่ำกว่าราคาในใจกองทุน ก็ไม่ชนะ >>> จากคำให้การของฝ่ายทักษิณ " ข้อ 8. กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัมนาระบบสถาบันการเงิน มีอำนาจหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ในการประกาศขายที่ดิน ทำสัญญาซื้อ ขายที่ดิน ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินโดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เปรียบเทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 4655/2533 ระหว่าง นางลาวัณย์ ดิลคณารักษ์ โจทก์ กระทรวงการคลังกับพวก จำเลย วินิจฉัยไว้ว่า “กองทุนเพื่อการพื้นฟูฯ เป็น นิติบุคคลต่างหากจากกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยมีสิทธิและหน้าที่ต่างๆ ตามบทบัญญัติทั้งปวงแห่ง กฎหมายภายในของวัตถุประสงค์ของตน” และแม้จะอ้างว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินมีฐานะเป็นรัฐ วิสาหกิจ แต่จะนำเอาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบรามการทุจริต พ.ศ 2542 หมวด 9 ว่าด้วย การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลปละประโยชน์ส่วนรวมตามมาตรา 100 (1) มาบังคับใช้ไม่ได้ เพราะบทบัญญัติในมาตรา 100 (1) มิได้บัญญัติหน่วยงานของรัฐประเภท “รัฐวิสหกิจ” ไว้เช่นกันกับบทบัญญัติในมาตรา 100 (3) และสัญญาซื้อขายระหว่าง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ มิใช่ “สัญญาสัมปทาน” ข้อ 9. สัญญาซื้อขายที่ดินที่จัดให้มี “การประกวดราคา” ไม่เป็นเรื่องประโยชน์ส่วนบุคคลขัดแย่งกับประโยชน์ส่วนรวม มิได้ลิด รอนผลประโยชน์ของประชาชน ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมประมูลในการประกวดราคาตามประกาศของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ได้ การกระทำของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ผู้ขายและ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ผู้ซื้อ กระทำโดยสุจริต เปิดเผย มีการแข่งขันราคาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีการศึกษา และตรวจสอบแล้วว่า ผู้ซื้อและผู้ขายไม่ต้องห้ามในการทำสัญญาซื้อ ขายที่ดิน การจำหน่ายที่ดินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การประมูลขายที่ดินและการขายที่ดินเป็นไปโดยชอบด้วย กฎหมาย และเป็นไปตามข้อบังคับและเป็นไปตามมติของคณะกรรมการจัดการกองทุน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2485 มาตรา 29 เตรส " ๓. การที่บอกว่าถ้ากองทุนเปิดประมูล แล้วขายที่ให้ โดยไม่ทำสัญญา มาตรา ๑๐๐ ก็ทำอะไรไม่ได้ ใช่ครับ แต่คุณจะสื่ออะไร จะบอกว่าทักษิณจะหน้าด้านทำ กฎหมายก็เอื้อมไม่ถึง อย่างนั้นหรือ ที่ประมูลครั้งแรก มีราคากลาง มีเงินประกัน ๑๐ ล้าน พอครั้งที่ ๒ ไม่มีราคากลาง ใครประมูลสูงสุดก็อาจไม่ชนะถ้าต่ำกว่าราคาในใจของกองทุน และพิ่มเงินประกันเป็นเงินสด ๑๐๐ ล้าน มันก็คลางแคลงใจอยู่แล้ว >>> มันหมายถึงต้องแยกเป็นกรณี ประมูล กับ ทำสัญญา ไม่จำเป็นที่จะต้องผูกไปด้วยกัน เพราะสัญญาคือ " สัญญาซื้อขาย " ธรรมดา และกฎหมายมาตรานี้ เขาเน้นที่ " ตัวสัญญา " มิใช่การประมูลหรืออะไรอย่างที่คุณเข้าใจ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 10:51:57 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:50:54 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 77 คุณ : SaVor   มีตรงไหนครับที่ทักษิณ บอกว่าไม่รับรู้ยินยอมในการทำสัญญา ส่วนการที่ทักษิณจะสู้ว่าการทำสัญญาซื้อที่ดินไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในศาลผมอาจตกไป ไม่คิดว่าจะเอาเรื่องแบบนี้มาสู้ให้แพ้ง่ายๆ แต่สุดท้ายคุณยอมรับไหมว่าขั้นตอนได้มาของสัญญา ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน เช่น การเพิ่มเงินประกันจากเงินสด ๑๐ ล้าน เป็น ๑๐๐ ล้าน ตัดคู่แข่งลงไปมาก คุณจะแยกการประมูลออกจากการทำสัญญาได้ยังไง ถ้าการประมูลมีประโยชน์ทับซ้อน สัญญานั้นก็มีประโยชน์ทับซ้อนด้วย จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:59:18 A:124.121.212.14 X:

ความคิดเห็นที่ 78 " ที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าการลงชื่อยินยอมเป็นเพียงทำตามระเบียบราชการ " นี่ไงครับ... ความหมายมันก็สมบูรณ์อยู่แล้ว เขาแก้ต่างว่า ผมไม่ได้ต้องการที่นะ เมียเข้าประมูลเอง ผมไม่ได้สั่งนะ แต่เมื่อถึงเวลาโอนที่ มันทำสัญญาซื้อขายไม่ได้ เลยต้องมาเซ็นเพื่อให้ถูกกฎหมาย คุณนี่เข้าใจอะไรยากนะครับ... ผมก็บอกไปแล้วว่า กฎหมายกำหนดแค่ " ตัวสัญญา " เวลาพิจารณานี่มันก็คือ สัญญาซื้อขายธรรมดาๆ ทำเหมือนกันทุกคน ไอ้เรื่องที่พิจารณาย้อนหลังไป 3 โลกนั่นน่ะ มันเกี่ยวกับทำสัญญาตรงไหน ในเมื่อมันก็มีวิธีที่ไม่ต้องทำสัญญาเหมือนกัน การประมูลก็ส่วนการประมูล สัญญาก็ส่วนสัญญา การประมูลจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรืออย่างไรก็ว่าไป... แต่มิใช่มาตัดสินเขาผิดด้วยตัวสัญญา ( ซึ่งไม่มีอะไรพิเศษ ธรรมดาๆทำเหมือนกันทุกคน ) จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 11:38:38 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 79 Pom.com นี่มันมั่วได้ใจจริงๆ จากคุณ : ดาวเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 11:52:37 A:110.164.21.54 X:

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ : SaVor   ผมว่าทักษิณนี่ เจอคุณแถยังพูดไม่ออกเลยครับ ทักษิณเขารู้แก่ใจดี ว่ายังไงโดยข้อเท็จจริงจะปฏิเสธว่าไม่รับรู้ยินยอมคงเป็นไปไม่ได้ จะสร้างบ้านให้สมฐานะในกรุงเทพฯ เป็นพันล้าน มันต้องพูดคุยกัน ในฐานะครอบครัวที่ดี ไหนจะเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งภริยาก็คงไม่ทะเล่อทะล่า ให้สามีเดือดร้อน ยังไงก็ต้องให้สามีช่วยตรวจสอบ ส่วนจะให้การก็ต้องไว้เชิงหน่อย เท่านั้นเอง ไม่รับตรงๆ แต่ไม่มีหรอกครับ ที่จะหน้าด้านว่าไม่รับรู้ยินยอม แบบที่คุณตีความ แล้วคุณมาแถนี่ ถ้าเกิดทักษิณไม่เซ็นจริงๆ คุณคิดว่าทักษิณจะด้านพอที่จะพูดหรือครับ ว่าภริยาทำไปลับหลังตนเอง การตีความว่าการประมูล แยกจากสัญญา ไม่เกี่ยวกัน ผมว่าใครสู้คดีแบบนั้น ผมว่าฮาแตก ให้ออกทีโออาร์เอื้อประโยชน์สุดๆ เห็นกันชัดๆ มัดจำเจ็ดร้อยล้านไปเลย ผลประโยชน์ทับซ้อนมหาศาล หมดคู่แข่ง คุณว่าไม่เกี่ยวกับสัญญา เพราะประมูลก็คือประมูล ทำสัญญาก็คือทำสัญญา ผมว่าตีความกฎหมายเป็นนกแก้วนกขุนทองแบบนั้น ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอกครับ แน่จริงไปถาม ดร.วรเจตต์เลยครับ เห็นชอบอ้างกันนัก จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:05:33 A:124.122.99.227 X:

ความคิดเห็นที่ 81 อันนี้ขอเสริมน่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าหลักการปฏิบัติเหมือนกันหรือเปล่า ปกติการประมูล หรือการยื่นประกวดราคา เอกสารทุกอย่างต้องครบ และต้องลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจกำกับทุกครั้งทุกหน้าเอกสาร ซึ่งในซองเอกสารการประมูลก็จะมีสัญญาแนบอยู่ด้วยแล้ว ซึ่งเวลาเรายื่นประมูลก็ยื่นซองเดียวที่มีเอกสารทั้งหมด ตามระเบียบพัสดุ อันนี้ถ้าไม่ถูกก็ขอเป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะครับ จากคุณ : Pakpow เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:14:48 A:110.164.106.126 X:

ความคิดเห็นที่ 82 rep 75 อย่างเรื่องที่คุณคิดว่า ขอน้ำ ขอไฟ ไม่ผิดจริยธรรม อันนี้มีอะไรรองรับครับ ? ถ้าเทียบกับ ประมูลที่ดิน ตามกฎหมาย มันก็ไม่ได้ห้ามทั้งคู่นั่นแหละ... >>> โอ เรื่องขอน้ำขอไฟไม่ผิดจริยธรรมนี่มันสามัญสำนึกครับ ผมคิดว่ามันชัดเจนเสียจนไม่ต้องอธิบาย อธิบายสั้น ๆ ก็ได้ครับ หลักจริยธรรม ก็คือพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ว่าจะขัดกับผลประโยชน์ของชาติ ประมูลนี่ก็ชัด ว่ารัฐอยากให้ราคาสูงสุด แต่ฅนซื้ออยากได้ราคาต่ำสุด นี่ผลประโยชน์สวนทางชัดเจน หรือเรื่องการถือหุ้น ก็ชัดว่าอาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ซึ่งจะไม่เป็นธรรมต่อเอกชนอื่น ๆ ได้ ส่วนขอน้ำขอไฟ มันไม่มีราคาสูงสุดต่ำสุดนี่ครับ ครั้นจะไปเอื้อเอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษได้ มันก็ไม่มี ถ้าคุณจะบิดเอาให้ได้ว่า ขอน้ำขอไฟขอโทรศัพท์มันผิดจริยธรรม ก็ช่วยบิดให้ดูหน่อยก็ได้ครับ ว่าจะผิดได้อย่างไร *** ส่วนเรื่องหลักคิดเองเออเอง ไม่รู้สึกว่าตัวคุณเองก็เป็นหรือครับ? เรื่องประมูลอ่านตามตัวอักษรเป๊ะ ๆ เลยว่า รัฐห้ามเป็นคู่สัญญา ไม่ได้ห้ามประมูล (แถมบอกอีกว่า ถ้าประมูลโดยที่ไม่ทำสัญญา ก็ไม่ผิด ทั้ง ๆ ที่กฎหมายใช้คำว่า คู่สัญญา ไม่ได้ใช้คำว่าทำสัญญา....เปลี่ยนคำในกฎหมายเอาเองเสียอีก) แต่พอเรื่องสัญญา คุณกลับไปตีความเพิ่มเติมว่า สัญญาต้้องเป็นสัญญาที่ใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ (แถมบอกว่าศาลตีความรวมถึงสัญญาทุกประเภท เป็นการตีความที่ผิดอีก) หลักคิดเองเออเองเนี่ย ต้องระวังเหมือนกันนะครับ จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:19:43 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 83 ความคิดเห็นที่ 77   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คุณ : SaVor   มีตรงไหนครับที่ทักษิณ บอกว่าไม่รับรู้ยินยอมในการทำสัญญา ส่วน การที่ทักษิณจะสู้ว่าการทำสัญญาซื้อที่ดินไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในศาลผมอาจ ตกไป ไม่คิดว่าจะเอาเรื่องแบบนี้มาสู้ให้แพ้ง่ายๆ แต่สุดท้ายคุณยอมรับไหมว่าขั้นตอนได้มาของสัญญา ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน เช่น การเพิ่มเงินประกันจากเงินสด ๑๐ ล้าน เป็น ๑๐๐ ล้าน ตัดคู่แข่งลงไปมาก คุณจะแยกการประมูลออกจากการทำสัญญาได้ยังไง ถ้าการประมูลมีประโยชน์ทับซ้อน สัญญานั้นก็มีประโยชน์ทับซ้อนด้วย จากคุณ : Pom.com ู^ ^ ^ อ้าวพ่อเศรษฐี หนีมามั่วอยู่นี่เอง ยังหน้าด้านเล่นประเด็นนี้อยู่อีกเหรอ "แต่สุดท้ายคุณยอมรับไหมว่าขั้นตอนได้มาของสัญญา ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน เช่น การเพิ่มเงินประกันจากเงินสด ๑๐ ล้าน เป็น ๑๐๐ ล้าน ตัดคู่แข่งลงไปมาก" ไม่มีหลักฐานซักอย่าง แม้แต่การลงโทษจนท.รัฐในกรณีนี้ คุณอย่าเอาประเด็นคิดเองเออเองมามั่ว ใส่ร้ายชาวบ้าน ทุเรศ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาหรือไม่  ถ้าเค้าไม่ได้กำกับดูแลกองทุน ก็ไม่เข้ากม.ข้อนี้ เค้ากำกับดูแลไหม ทั้งที่ชวน อุ๋ย ธาริน บอกไม่กำกับ ทำไมจึงตัดสินว่ากำกับจึงผิด ทำไม นายกสมัคร ที่ออกรายการ เอาเงินเป็นหมื่นได้บริจาคให้มูลนิธิหมาแมวหมด เพราะการกระทำที่ถือว่า เป็นการทำบุญ บำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือสังคม มันไม่เข้าข่ายรับเงินเองตามกม.แรงงานไงล่ะ ถึงต้องโดนการเล่นกล โดยเอาเงินสินน้ำใจที่คนขับรถเอาได้ค่าน้ำมันมาเล่นโดยเปิดพจนานุกรม บอกว่า ทุกอย่างถือเป็นค่าจ้าง เพราะคนขบ ขับให้นายกจึงได้เงิน นายกจึงถือว่ารับค่าจ้าง ต้องออก แต่ ทุกอย่างถือเป็นค่าจ้าง แล้วทำไม สอนหนังสือ รับเงินเองตรงๆ ไม่เป็นลูกจ้างฟระ แค่นี้ เค้าก็รู้หมดแ้ล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร กับตัวบุคคลเหล่านี้ การพูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ก็เพื่อดิสเครดิสเท่านั้น ว่านายกกดดันกองทุนได้ ถือว่า มีอำนาจกำกับดูแล แต่ในทางความจริง พิสูจน์ได้ไหม ว่ามีการกดดันจริง นอกจากเพ้อเจ้อ คิดเองเออเองไปวันๆ กดดันจริง ทำไมข้าราชการไม่ผิด ไม่อบสวน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไม การซื้อถูกต้อง คู่แข่งสองคนเดิม ยังเข้าประมูล เพิ่มคุณหญิงอีกคนเป็นสามคน ไปตัดใครคนไหน ปัญญาอ่อนมากนัก ประมูลไม่มีมัดจำให้คนมายื่นซองเล่นแล้วไม่เอาหนีไปเฉยๆเลยดีไหม เพ้อเจ้อ ใส่ความคนอื่นเรื่องมั่วๆ สนุกนักรึไง หน้าด้านเล่นเรื่องนี้ เพ้อเจ้ออยู่ได้ ไปดูกระทู้เก่าแล้วตอบด้วย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 12:49:58 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 12:37:22 จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:20:19 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 80   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คุณ : SaVor   ผมว่าทักษิณนี่ เจอคุณแถยังพูดไม่ออกเลยครับ ทักษิณเขารู้แก่ใจดี ว่ายังไงโดยข้อเท็จจริงจะปฏิเสธว่าไม่รับรู้ยินยอมคงเป็นไปไม่ได้ จะสร้างบ้านให้สมฐานะในกรุงเทพฯ เป็นพันล้าน มันต้องพูดคุยกัน ในฐานะครอบครัวที่ดี ไหนจะเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งภริยาก็คงไม่ทะเล่อทะล่า ให้สามีเดือดร้อน ยังไงก็ต้องให้สามีช่วยตรวจสอบ ส่วนจะให้การก็ต้องไว้เชิงหน่อย เท่านั้นเอง ไม่รับตรงๆ แต่ไม่มีหรอกครับ ที่จะหน้าด้านว่าไม่รับรู้ยินยอม แบบที่คุณตีความ แล้วคุณมาแถนี่ ถ้าเกิดทักษิณไม่เซ็นจริงๆ คุณคิดว่าทักษิณจะด้านพอที่จะพูดหรือครับ ว่าภริยาทำไปลับหลังตนเอง การตีความว่าการประมูล แยกจากสัญญา ไม่เกี่ยวกัน ผมว่าใครสู้คดีแบบนั้น ผมว่าฮาแตก ให้ออกทีโออาร์เอื้อประโยชน์สุดๆ เห็นกันชัดๆ มัดจำเจ็ดร้อยล้านไปเลย ผลประโยชน์ทับซ้อนมหาศาล หมดคู่แข่ง คุณว่าไม่เกี่ยวกับสัญญา เพราะประมูลก็คือประมูล ทำสัญญาก็คือทำสัญญา ผมว่าตีความกฎหมายเป็นนกแก้วนกขุนทองแบบนั้น ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอกครับ แน่จริงไปถาม ดร.วรเจตต์เลยครับ เห็นชอบอ้างกันนัก จากคุณ : Pom.com ^ ^ ^ เพ้ออีกแระ เรื่องนี้ นึกว่าแน่เหรอ หาเรื่องประเด็นแถมาเล่นงานเค้าได้เรื่อยๆ "ให้ออกทีโออาร์เอื้อประโยชน์สุดๆ เห็นกันชัดๆ มัดจำเจ็ดร้อยล้านไปเลย" ถ้าคุณไม่มีหลักฐานว่านายกสั่ง อย่ามาเห่าใส่ความเค้า ไม่มีการสอบสวนสำนวนเรื่องนี้ ไม่มีข้าราชการ ถูกลงโทษเรื่องนี้ การประมูลรอบแรก ก็มีคนสองคนประมูล ไม่ได้ราคา รอบสอง สองคนเดิมกบคุณหญิงก็เข้า รอบแรกสิบล้าน ไม่มีปัญญาเข้าประมูล คนมีปัญญาเข้าประมูลไม่โวย ยาจกไม่มีตังค์ ดันสะเออะมาโวย จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:26:01 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 85 พอคดีเหล่านี้ขึ้นสู่ศาล ถ้าศาลตัดสินว่าทักษิณผิด ก็ถูกสรุปทันที ว่าศาลไม่เป็นธรรม ถูกสั่งได้ ผมว่าเรื่องกล่าวหาศาลนี้ทุเรศไม่แพ้การปฏิวัติ ศาลมีเรื่องให้พิจารณาเขาก็ต้องพิจารณา การตัดสินก็มีเหตุผลประกอบพอสมควร การกล่าวหาศาล โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำลายสถาบันศาล และลามปามไปถึงใครต่อใครที่อ้างว่าสั่งศาลได้ มาแบบนี้จะให้ใครถอยให้คงยาก ใครที่เคยเข้าข้างทักษิณก็ย้ายข้างไม่น้อย ทักษิณอยากจบเรื่องนี้ ผมว่าย้อนดูตัวเองก่อนเถอะครับ กรณีที่ดินรัชดา ไม่ได้สั่งการ แต่มีใครเลียจนเป็นเรื่อง ก็ต้องย้อนคิด สังคมไทยผมว่าตอนนี้ก็อยากให้เรื่องนี้จบแบบไทยๆ แต่ถ้าด่าศาลและใครต่อใครอยู่ทุกวัน ไม่มีทางจบ จากคุณ : Pom.com ^ ^ ^ เพ้ออะไรครับ ใครบอกว่าสรุปทันทีวาศาลไม่เป็นธรรม คุณตาถั่วเหรอ เค้าเอาข้อกม.มานั่งดูแล้วรู้สึกว่ามันผิดปรกติ ไม่ใช่สรุปทันที ตอนนี้ เปลี่ยนมุกแล้วเหรอ จากนายกสั่ง เป็นคนอื่นเลีย คนอื่นทำให้เอง อ้าว อย่างงี้ ผมเถียงๆอยู่ คุณเถียงสู้ไม่ได้ แล้วมีคนชอบคุณดันมารู้ที่อยู่ผม เอาปืนมายิงผม คุณผิดด้วยหรือเปล่า แถกไปทุกอย่าง เพ้อเจ้อในฝัน คิดเอาเองว่า เค้าต้องทำ เค้าต้องรู้ เค้าต้องผิด รู้จักบาปมั่งไหม จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:33:23 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 86 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8492563/P8492563.html เอ้า กระทู้เก่า พ่อเศรษฐีเงินกู้ ไปแถกหน่อย กำลังสนุก ไหงทิ้งกระทู้หนีมาล่ะ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:34:26 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ : ดีไม่ห่างเหิน   ตอนที่มัดจำ ๑๐ ล้าน เขามีราคากลาง ๘๐๐ กว่าล้าน ไม่มีใครเสนอราคาซักคนครับ รวมทั้ง ๒ รายที่เสนอในรอบที่ ๒ พอไม่มีราคากลาง รู้ได้อย่างไรว่าถ้ามัดจำ ๑๐ ล้าน เหมือนเดิม ไม่เพิ่มเป็น ๑๐๐ ล้าน นักธุรกิจกระจอกในสายตาคุณเขาจะไม่เสนอราคา ซึ่งแน่นอนแม้ต่ำกว่าราคากลางคราวแรก แต่ใครจะไปรู้ เขาอาจให้ราคาดีกว่าทักษิณก็ได้ ส่วนถ้าคุณสับสนว่าทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน คนที่ปรับราคามัดจำต้องผิด มันคนละเรื่องครับ ถ้าไม่มีข้อมูลอื่น ต้องถือว่าเขาปรับราคาโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีใครสั่ง แต่ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน ตัดคู่แข่งกระจอกออกไป ทักษิณเข้าประมูล ทำสัญญาซื้อขาย ผิดคนเดียวตาม มาตรา ๑๐๐ จะลากใครไปด้วยไม่ได้หรอกครับ ส่วนเรื่องกำกับดูแล ศาลตัดสินประเด็นนี้ ๖ ต่อ ๓ ตามหลักกำกับดูแล ตั้งกรรมการกองทุนตามสายงาน กรรมการไม่ได้มาจากการเลือกของสภาแบบองค์กรอิสระหลายแห่ง ไม่เถียงซ้ำซากแล้ว จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 12:50:18 A:124.120.229.28 X:

ความคิดเห็นที่ 88 ความคิดเห็นที่ 87   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คุณ : ดีไม่ห่างเหิน   ตอนที่มัดจำ ๑๐ ล้าน เขามีราคากลาง ๘๐๐ กว่าล้าน ไม่มีใครเสนอราคาซักคนครับ รวมทั้ง ๒ รายที่เสนอในรอบที่ ๒ พอ ไม่มีราคากลาง รู้ได้อย่างไรว่าถ้ามัดจำ ๑๐ ล้าน เหมือนเดิม ไม่เพิ่มเป็น ๑๐๐ ล้าน นักธุรกิจกระจอกในสายตาคุณเขาจะไม่เสนอราคา ซึ่งแน่นอนแม้ต่ำกว่าราคากลางคราวแรก แต่ใครจะไปรู้ เขาอาจให้ราคาดีกว่าทักษิณก็ได้ ส่วนถ้าคุณสับสนว่าทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน คนที่ปรับราคามัดจำต้องผิด มันคนละเรื่องครับ ถ้าไม่มีข้อมูลอื่น ต้องถือว่าเขาปรับราคาโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีใครสั่ง แต่ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน ตัดคู่แข่งกระจอกออกไป ทักษิณเข้าประมูล ทำสัญญาซื้อขาย ผิดคนเดียวตาม มาตรา ๑๐๐ จะลากใครไปด้วยไม่ได้หรอกครับ ส่วน เรื่องกำกับดูแล ศาลตัดสินประเด็นนี้ ๖ ต่อ ๓ ตามหลักกำกับดูแล ตั้งกรรมการกองทุนตามสายงาน กรรมการไม่ได้มาจากการเลือกของสภาแบบองค์กรอิสระหลายแห่ง ไม่เถียงซ้ำซากแล้ว จากคุณ : Pom.com ^ ^ ^ 55555555555555555 พัฒนาขึ้นเว้ยเฮ้ย จาก อาจจะ คงจะ   เพิ่ม    แต่ใครจะไปรู้ มาอีกอย่าง แล้วมีหลักฐานไหม ว่าเค้าทำโดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องการตัดคู่แข่ง ไม่มีหลักฐาน เค้าต้องยกประโยชน์ให้จำเลย ไม่ใช่หน้าด้านใส่ร้ายคนอื่นอย่างคุณ การประมูลที่ มีผลประโยชน์ทับซ้อนตรงไหน บอกหน่อย ให้เงินเยอะกว่าคนอื่น ก็ได้ของ แล้วนักฐุรกิจเงินสิบล้านปัญญาอ่อนคุณน่ะ  แค่เงินมัดจำร้อยล้านซึ่งประมูลไม่ได้ก็คืน ไม่มีปัญญาหาเหรอ  จะประมูลที่ราคาหกเจ็ดร้อยล้านเนี่ยอ่ะน่ะ ไม่มีปัญญาหาเงินร้อยล้านมามัดจำ เพ้อเจ้อ ไปดูกระทู้เก่าเลย ตอบไว้หมดแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ไร้สาระ   การทำธุรกิจ มันต้องมีข้อแม้ที่เหมาะสม ไม่ใช่ให้นายหมานายแมวที่ไหนมานั่งยื่นซองเล่น พอบอกว่า กำกับดูแลตรงไหน ดันบอก กำกับดูแลตามสายงาน อภิโถ ที่ชวนปล่อยเงินกู้ ปรส. บรส. ไม่ผิด บอกไม่มีอำนาจโดยตรง ทักษิณ บอกเค้าตามหลักกำกับดูแล ตั้งกรรมการกองทุนตามสายงาน ทีมงานเดียวกับสอนหนังสือใช่ไหม แพ้แล้วก็หัดยอมรับบ้าง อย่าแถก ถ้าทักษิณผิด วนที่อนุมติเงินรัฐให้ปรส. บรส.เนี่ย ติดคุกก่อนเลย มันถึงได้มีการให้ปากคำว่า กองทุนเป็นองค์กรอิสระ นายกไม่มีอำนาจควบคุมไง ขนาดนายกทำประโยชน์ เอาเงินให้หมาแมว ยังตีความลูกจ้างเอาผิดเค้าได้ แต่ตัวเองสอนหนังสือไม่ผิด มาบอกว่า กำกับตามสายงาน ถ้าคนเห็นว่าเป็นธรรม ฎีกาจะมีชื่อตั้งสี่ห้าล้านเหรอ "ถ้าไม่มีข้อมูลอื่น ต้องถือว่าเขาปรับราคาโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีใครสั่ง แต่ทักษิณมีประโยชน์ทับซ้อน ตัดคู่แข่งกระจอกออกไป" อ้อ ....................... เลิกบ้าได้แล้ว ความหมายของ ถ้าเค้าปรับโดยบริสุทธิใจ แสดงว่า ไม่มีการกดดัน แล้วทักษิณ ผิดตรงไหน พิมพ์นี่ ให้มันเป็นภาษาคนคุยกันบ้าง บอร์ดเค้ามีไว้หาความรู้ ไม่ใช่มั่วใส่ความ เพ้อเจ้อ เชื่อได้ว่า อาจจะ คงจะ น่าจะ กม. เอาผิดคน ต้องผิดจริง ถ้าน่าสงสัยต้องยกประโยชน์ให้จำเลย ไม่ใช่ไม่ผิด แต่บอกว่า อาจจะผิด เลยลงโทษ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 13:13:01 จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:08:53 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ pom.com ครับ     ผมรอฟังคุณชี้แจงนะครับ  หลังจากผิดหวัง กับ คุณลุง...tyrocyte...และราดหน้า......  แต่ผมขอหลักฐานสนับสนุนปึ๊กๆ แบบคุณ savor นะครับ   .....กระทู้นี้ได้ประโยชน์มากครับ จากคุณ : dirtylism เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:15:19 A:58.8.176.114 X:

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 153   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   ความคิดเห็นที่ 152   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คุณ : ....4จุด   จะพิสูจน์ได้ยังไงครับ เรื่องแบบนี้ ถ้าทำจริง ไม่มีใครสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรหรอกครับ ผมเองยังไม่คิดว่ามีการสั่งการด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเจ้าหน้าที่เอาใจก็เป็นไปได้ ส่วนกรณีที่คุณเข้าใจผิด เป็นการให้ข่าวของฝ่ายทักษิณตอนมีเรื่องใหม่ๆ แต่ไม่ได้นำไปใช้ในศาล จากคุณ : Pom.com ^ ^ ^ สรุป ไม่มีหลักฐาน คุณเองยังคิดว่า ไม่มีการสั่งการ คิดไปเอง หรือคนอื่นเอาใจ ไม่มีใบเสร็จ(สำนวนคุ้นๆ) แล้วเอาเรื่องตามความคิดตัวเองใส่ความเค้า อย่าชั่วนักสิครับ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน ^ ^ ^ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8492563/P8492563.html#153 เอามาจากกระทู้โน้น จบครับ  ออกมาบอกแ้ล้ว ว่าคิดไปเอง เพ้อเจ้อไปเอง จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:17:27 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 91 แถกไม่ออก ตัน จบข่าว จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:18:34 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 92 คุณ : ดีไม่ห่างเหิน   ผมถึงบอกไงครับ ให้ไปทำความเข้าใจเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขาห้ามเจ้าหน้าที่รัฐที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทำสัญญา ถ้าตรงนี้ไม่เข้าใจ จะเข้าใจกรณีนอมินีมีผลประโยชน์ทับซ้อนไหมนี่ การออกกฎของรัฐ อาจมีเหตุผลที่เหมาะสม แต่คุณเป็นคนกำกับดูแลการออกกฎ คุณจะมารับผลประโยชน์เป็นการเฉพาะจากกฎนี้ไม่ได้ มัดจำ ๑๐ ล้าน เป็น ๑๐๐ ล้าน กันนักธุรกิจกระจอกในสายตาคุณ แต่ก็ลดคู่แข่งทักษิณ แบบนี้มันไม่ทุจริตข้ออื่น ยกเว้นมาตรา ๑๐๐ เรื่องกำกับดูแล ไม่ซ้ำซากแล้ว ว่างๆไปถามตุลาการเสียงข้างน้อย ๑ ใน ๔ ซิครับ ว่าทำไมถึงอยู่ใน ๑ ใน ๖ เฉพาะประเด็นนี้ จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:44:44 A:124.120.221.145 X:

ความคิดเห็นที่ 93 rep 82 ไอ้เรื่องจะบิดขอน้ำ ขอไฟ ให้ผิดจริยธรรมง่ายมากเลยครับ คุณเห็นมั้ยครับ ถ้านายกไปขอน้ำ ขอไฟ ประชาชนคนอื่นๆต้องรอคิวเพิ่มอีก หนำซ้ำอาจเป็นไปได้ว่า เจ้าพนักงานอาจกระทำการเพื่อเอาใจนายก โดยการลัดคิวให้บริการ ทำให้ประชาชนคนอื่นเสียประโยชน์เดือดร้อน เห็นมั้ยครับ... นี่ผมเอามาจากสำนวนของ Pom.com เลย แต่ไอ้การจะตีความเพื่อเอาคนเข้าคุก มันไม่ได้ใช้ " สามัญสำนึก " นะครับ สามัญสำนึก คุณก็มี ผมก็มี ชาวบ้านทุกคนก็มี แต่ที่ต้องยอมรับคือ ทุกคนมี " ไม่เท่ากัน " แล้วคุณจะให้ไอ้สิ่งที่มีไม่เท่ากันเนี่ย เป็นหลักยึดในการตีความทางกฎหมายได้อย่างไร... หา... ส่วนไอ้เรื่องคู่สัญญาเนี่ย ผมตอบไปแล้วตั้งแต่กระทู้เก่า ผมว่าคุณควรกลับไปอ่านหน่อยนะครับ ผมก็เคยบอกไปแล้วว่าให้กลับไปอ่าน ไม่ใช่เอาเหตุผลข้อเดิมที่เขาแย้งไปแล้ว มาเถียงเรื่อยๆ ประหลาดคนนะครับ... คุณ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:46:59 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 94 ความคิดเห็นที่ 80     คุณ : SaVor   ผมว่าทักษิณนี่ เจอคุณแถยังพูดไม่ออกเลยครับ ทักษิณเขารู้แก่ใจดี ว่ายังไงโดยข้อเท็จจริงจะปฏิเสธว่าไม่รับรู้ยินยอมคงเป็นไปไม่ได้ จะสร้างบ้านให้สมฐานะในกรุงเทพฯ เป็นพันล้าน มันต้องพูดคุยกัน ในฐานะครอบครัวที่ดี ไหนจะเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งภริยาก็คงไม่ทะเล่อทะล่า ให้สามีเดือดร้อน ยังไงก็ต้องให้สามีช่วยตรวจสอบ ส่วนจะให้การก็ต้องไว้เชิงหน่อย เท่านั้นเอง ไม่รับตรงๆ แต่ไม่มีหรอกครับ ที่จะหน้าด้านว่าไม่รับรู้ยินยอม แบบที่คุณตีความ แล้วคุณมาแถนี่ ถ้าเกิดทักษิณไม่เซ็นจริงๆ คุณคิดว่าทักษิณจะด้านพอที่จะพูดหรือครับ ว่าภริยาทำไปลับหลังตนเอง การตีความว่าการประมูล แยกจากสัญญา ไม่เกี่ยวกัน ผมว่าใครสู้คดีแบบนั้น ผมว่าฮาแตก ให้ออกทีโออาร์เอื้อประโยชน์สุดๆ เห็นกันชัดๆ มัดจำเจ็ดร้อยล้านไปเลย ผลประโยชน์ทับซ้อนมหาศาล หมดคู่แข่ง คุณว่าไม่เกี่ยวกับสัญญา เพราะประมูลก็คือประมูล ทำสัญญาก็คือทำสัญญา ผมว่าตีความกฎหมายเป็นนกแก้วนกขุนทองแบบนั้น ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอกครับ แน่จริงไปถาม ดร.วรเจตต์เลยครับ เห็นชอบอ้างกันนัก จากคุณ : Pom.com ------------------------------------------------- ผมถึงถามไงว่า... " ถ้าพจมานทำเหมือนเดิมทุกอย่างเลย แต่ขั้นตอนการโอนที่ไม่ต้องทำสัญญา จะผิดหรือไม่ ? " คุณตอบมาให้ตรงๆดีกว่าครับ... เห็นบิดไปเรื่อยไม่ตรงประเด็นซักที... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:55:29 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 95 คุณ : SaVor   ตอบแทนศาลไม่ได้หรอกครับ คู่สัญญา ต้องตีความ แต่อย่าคิดเลยครับ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเปลืองตัวขนาดนั้น เผลอๆจะผิด ๑๕๗ ถึง ไหนต่อไหน จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:59:28 A:124.120.221.145 X:

ความคิดเห็นที่ 96 ความคิดเห็นที่ 92 [ถูกใจ] [แจ้งลบ]   คุณ : ดีไม่ห่างเหิน   ผมถึงบอกไงครับ ให้ไปทำความเข้าใจเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เขาห้ามเจ้าหน้าที่รัฐที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทำสัญญา ถ้าตรงนี้ไม่เข้าใจ จะเข้าใจกรณีนอมินีมีผลประโยชน์ทับซ้อนไหมนี่ การออกกฎของรัฐ อาจมีเหตุผลที่เหมาะสม แต่คุณเป็นคนกำกับดูแลการออกกฎ คุณจะมารับผลประโยชน์เป็นการเฉพาะจากกฎนี้ไม่ได้ มัดจำ ๑๐ ล้าน เป็น ๑๐๐ ล้าน กันนักธุรกิจกระจอกในสายตาคุณ แต่ก็ลดคู่แข่งทักษิณ แบบนี้มันไม่ทุจริตข้ออื่น ยกเว้นมาตรา ๑๐๐ เรื่องกำกับดูแล ไม่ซ้ำซากแล้ว ว่างๆไปถามตุลาการเสียงข้างน้อย ๑ ใน ๔ ซิครับ ว่าทำไมถึงอยู่ใน ๑ ใน ๖ เฉพาะประเด็นนี้ จากคุณ : Pom.com ^ ^ ^ กม.ครึ่งๆกลางๆ อย่าเอามามั่ว กม.ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทำสัญญา ระบุว่า ห้ามผู้ที่กำกับควบคุม แล้วมีหลักฐานอะไรไหมว่าได้ประโยชน์ มีใครร้องเรียนไหม ถ้ามีไอ้ที่เคยประมูลตั้งแต่รอบแรกมาโวย หรือไม่มาประมูลเพราะไม่มีเงินก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ สองรายเดิมก็เข้าประมูล ไม่มีคนร้องเรียนเรื่องเงินมัดจำตอนนั้น ก็เพราะไม่มีผู้เข้าประมูลรายอื่น ตั้งแต่รอบแรกที่มัดจำถูกแล้ว แล้วมีข้อมูลหลักฐานตรงไหนกับคำนี้   แต่คุณเป็นคนกำกับดูแลการออกกฎ บอกแล้วไง คิดเองเออเอง ไม่มีใครว่า แต่คิดเองเออเองแล้วมาใส่ร้ายเค้าโดยไม่มีหลักฐาน ชั่วครับ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 14:01:46 A:124.121.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 97 rep 95 ถ้าไม่มีสัญญาเกิดขึ้น แล้ว " คู่สัญญา " จะโผล่มาจากไหนครับ ? หรือคุณจะเอาเป็นว่า คู่สัญญา ที่ไม่มีแบบแผนก็นับว่าเป็นสัญญาด้วย ??? คุณจะเอาสิ่งที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน มาตัดสินคดีความ เอาจริงๆผมว่ามัน " หลักลอย " มากๆ ทีนี้ศาลก็จะมีหน้าที่เพิ่มอีกหน้าที่หนึ่งก็คือ " ตีความว่าการกระทำแบบไหน... ถือว่าเป็นคู่สัญญา " ( เพราะสำหรับคุณ คู่สัญญา ที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนก็ถือว่าเป็น คู่สัญญา ) แบบนี้ตายครับ... นี่ยังไม่รวมกรณีประหลาดๆที่จะเพิ่มขึ้นมา เช่น รมต. คมนาคม ห้ามจ่ายค่าผ่านทางขึ้นทางด่วน , นายก ซื้อแสตมป์จากกรมไปรษณีย์ไม่ได้ แน่ใจนะครับ ว่าจะแถแบบนี้ แล้วก็เลิกเสียทีครับ... คำพูดชุ่ยๆประเภท ไม่มีใครเขาทำหรอก... เขาไม่นิยมกัน... กฎหมายต้องถูกบังคับใช้ในทุกกรณีอย่างเสมอกันครับ ไม่ใช่ว่า อย่างนี้เขาไม่นิยมทำกัน ปล่อยมันไปเหอะ คนเรียน นิติศาสตร์ คงจะร้องไห้นะครับ... ถ้ามีประโยคอุบาทว์ๆแบบนี้ปรากฏขึ้นมาในตำรากฎหมาย จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 14:16:04 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 98 คุณ : ดีไม่ห่างเหิน   หมูจะหาม ใครเขาจะเอาคานไปสอด คนที่พร้อมจะยื่นประมูล ถ้าประกันซอง ๑๐ ล้าน คุณรู้ยังไงครับว่าไม่มี สถานะการณ์เศรษฐกิจมันเปลี่ยนจากครั้งแรกมากในช่วง ๖ เดือน จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:45:13 A:124.122.101.129 X:

ความคิดเห็นที่ 99 คุณ : SaVor   คุณนะซิครับชุ่ย อย่าโยนใส่คนอื่นเลย ถ้าเลิกแถเพื่อทักษิณ คุณก็จะตาสว่าง เอาสัญญาสัมปทาน สัญญาซื้อที่รัฐ สัญญาจ้างทำงาน สัญญาขายของให้รัฐ ไปเทียบกับการขอน้ำไฟ คนอื่นเขาไม่เออออด้วย ก็มาว่าเขาชุ่ย ทำใจให้เป็นกลางเถอะครับ แล้วก็สมมุติในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ว่าซื้อที่ ๗๐๐ ล้าน ไม่ทำสัญญาจะเป็นอย่างไร ผมก็ตามใจ ตอบเรื่องที่ไม่มีทางเป็นจริงให้ ตอบตามความเห็นว่าศาลเขาก็คงดูเจตนา  คำว่าคู่สัญญามันครอบคลุมกรณีนี้ไหม อย่างน้อยตอนโอนที่ดิน มันต้องเขียนบนโฉนดว่าใครซื้อจากใคร จะถือเป็นคู่สัญญาไหม ก็ไม่พอใจ จะให้ตอบตรงใจตัวเอง ถ้าอย่างนั้นผมว่าคุณเขียนไปเลยครับ ว่ากระทู้ที่คุณตั้ง ห้ามเห็นแย้ง แบบนี้ผมกลับกระทู้ผมดีกว่า จากคุณ : Pom.com เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:53:24 A:124.122.101.129 X:

ความคิดเห็นที่ 100 rep 99 คุณเถียงด้วย ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่มีอะไรรองรับ ไม่มีหลักกฎหมายรองรับ ไม่มีกรณีตัวอย่าง ไม่มีหลักอะไรให้ยึดเลยครับ อาศัยแต่ " หลักลอย " กะ " หลัก gu " เถียงมาทุเรศๆแบบนี้ จะให้คนอื่นเขายอมรับความเห็นก็บ้าแล้วครับ... ผมก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่า " กฎหมายต้องมีสภาพบังคับใช้เสมอกันในทุกกรณี " คุณมาบอกกรณีเกิดขึ้นยาก กรณีนี้เขาไม่ทำกัน ทางกฎหมายฟังไม่ขึ้นครับ แบบนี้เขาเรียก " แถ " ครับ... ไม่มีใครเขาว่าคุณครับ... ถ้าเพียงแค่คุณเถียงตามสภาพจริง ไม่ใช่ อาจนู่น อาจนี่ เขาไม่ทำกัน มั่วไปเรื่อยแบบนี้ แล้วคิดดูเอานะครับ ระหว่างผมที่ยกเหตุผลมาประกอบ ยกหลักฐานมาอ้างแย้ง หรือคุณที่นั่งเทียนเถียงล้วนๆ แต่พอเขาแย้งว่า คุณเถียงแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะมันเป็นแค่ความเห็นของตัวคุณเอง มันใช้ไม่ได้ แล้วคุณก็มาฟาดงวงฟาดงา งอนจะกลับกระทู้ตัวเอง เออ... ตลกดีนะครับ คนเรา ผมนั่งอ่านที่คุณแถมาตั้งนาน มาพิมพ์แก้ให้ตลอด ยังไม่บ่นเลย... พูดจริงๆ ผมเถียงกับคุณเหมือนเถียงกับเด็กไม่รู้จักแพ้น่ะ ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลยจริงๆ ให้ตายสิ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 21:46:56 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 101 เพราะ เงื่อนไขสภาพเศรษฐกิจมันเ้ปลี่ยนไง เลยต้องเพิ่มเงินประกัน เป็น 100 ล้าน นอกจากนี้กองทุน ยังรวมโฉนดให้ ตัดส่วนที่เป็นที่สาธารณะออกไป ทำให้เหลือ แต่ที่ส่วนที่ใช้ประโยชน์ได้จริง ถึงไม่ตั้งราคากลางเอาไว้ ก็ยังมีีราคาประเมิน ของกรมที่ดินไว้ประมาณ 5 หมื่นบาท/ตารางวา ซึ่งคงไม่มีใครให้ต่ำกว่าราคาประเมิน การตั้งเงินประกัน เพื่อให้ได้คนที่้พร้อมจะทำสัญญาจริงๆ เรื่องของ ประมูล และสัญญา ซื้อขาย แยกจากกันครับ เพราะ ผู้ยื่นซองประมูล ไม่ใช่คุณหญิงพจมาน แต่คุณหญิงเข้ามาทำสัญญา ซื้อขายแทนผู้ที่ชนะการประมูล ซึ่งหมายความว่า หากคุณหญิงไม่เข้ามาทำสัญญา ปล่อยให้โดนยึดเงินประกันไป ก็จะไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ปปช. มาตรา 100 เพราะขั้นตอนการประมูล ไม่มีชื่อคุณหญิงเข้าไปเกี่ยวข้อง จากคุณ : คนชอบเขียน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 22:29:12 A:118.172.52.136 X:

ความคิดเห็นที่ 102 ทั้งหมดข้างต้น รวมทั้งที่กระทู้ที่แตกประเด็นไป http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8495492/P8495492.html#39 เป็นเพียงตัวอย่างเสี้ยวเล็กๆ ของช่องโหว่และความพิกลพิการที่มีอยู่มากมาย เพราะว่า จากคุณ : วษณ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 22:35:52 A:58.8.135.68 X:

ความคิดเห็นที่ 103 คห101 คุณหญิงพจมานไม่ได้ประมูลแล้วใครประมูลละครับ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 23:09:57 A:125.27.132.200 X:

ความคิดเห็นที่ 104 ^ ^ ในการประมูลครั้งที่ 2 มีผู้ยื่นซองเพื่อเข้าร่วมยื่นซองประกวดราคา จำนวน 4 รายคือ 1. บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 2. นายสมบูรณ์ คุปติมนัส ( ตัวแทนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ) 3. บมจ.โนเบิล ดิวลลอปเม้นท์ 4. บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ท้ายสุด บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ทำผิดหลักเกณฑ์ของกองทุน เลยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประมูล ก็จึงเหลือ 3 รายอย่างที่ทราบกัน... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 23:30:02 A:124.120.0.100 X:

ความคิดเห็นที่ 105 จากข่าว นายสมบูรณ์ คุปติมนัส ทนายความของคุณหญิง รับมอบอำนาจ ให้ซื้อซอง และเข้าประมูลแทน ชื่อของ คุณหญิงพจมาน มาปรากฎ ก็ตอนที่ชนะการประมูลแล้ว และต้องเข้ามาทำสัญญา จากคุณ : คนชอบเขียน เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 23:39:42 A:118.172.52.136 X:

ความคิดเห็นที่ 106 ตัวแทนก็ทำแทนตัวการ ดังนั้นจะปฎิเสธว่าคุณหญิงพจมานไม่เข้าประมูลไม่ได้หรอกครับ ................................................................................. เรียนถาม จขกท. นะครับ กรูณาตอบโดยไม่ต้องอ้างศาลหรือใครทั้งนั้น คือผมอยากรู้ว่าในความคิดของคุณการขอน้ำ ขอไฟ จ่ายค่าทางด่วน ซื้อแสตมป์ มันเป็นกรณีเดียวกับการซื้อที่ดินรัชดาหรือ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 23:44:02 A:125.27.132.200 X: