ไทยรัฐ รายงาน“จาตุรนต์”ถาม“เมืองไทย”ทำไม“บิ๊กทหารเผด็จการมือเปื้อนเลือด”ไม่ถูกถอดยศแต่“นายกฯ”ที่มาจาก“ประชาชน”จะถูกถอดยศ

"จาตุรนต์" ชี้ "ทักษิณ" เหยื่อการเมือง :

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การถอดยศและริบเครื่องราชฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประเด็นทางนโยบายไม่ใช่ประเด็นทางกฎหมาย การจะถอดยศใครต้องเป็นผู้ทำความเสียหายให้แก่ประเทศร้ายแรง ที่ผ่านมาตำรวจทหารกระทำความผิดร้ายแรง ถึงขั้นถูกพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็ยังไม่ได้ถูกถอดยศ กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณถึงแม้จะมีคำพิพากษาถึง ที่สุดแล้ว แต่ถ้าเทียบกันแล้วก็แตกต่างกันกับกรณีที่ร้ายแรงเหล่านั้น อีกอย่างหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินความผิดที่มาจากการไต่สวนของคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำให้ พ.ต.ท. ทักษิณเป็นเหยื่อของการรัฐประหาร รัฐบาลกำลังดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนผู้ร่วมทำรัฐประหารทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จจำนวนมาก กลับไม่ถูกถอดยศ เนื่องจากผู้ ที่ทำรัฐประหารสำเร็จก็จะนิรโทษตัวเอง และทำให้ตัวเองเป็นผู้ปกครองประเทศไป ปัญหาจึงมีว่าคนไทยจะเอาอย่างไรกับกรณีที่แตกต่างกันอย่างนี้ คนที่รัฐประหาร ทำความเลวร้ายต่อประเทศไทย ยังมียศถาบรรดาศักดิ์ไม่ถูกถอดยศ ขณะที่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ถูกล้ม ถูกยึดอำนาจ กลับถูกถอดยศถูกตัดสินโดยกระบวนการแทรกแซงจากคณะรัฐประหาร แบบนี้ขัดต่อหลักการความถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย


เตือนคนเสื้อแดงให้อดทนและใช้สติ :

ผู้สื่อข่าวถามว่าการถอดยศและริบเครื่องราชฯ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังมากขึ้นหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า คิดว่าจะมีปัญหาแต่ ก็ไม่อยากให้เกิด ซึ่งฝ่ายคนที่ไม่พอใจในเรื่องนี้จะมีมากขึ้น และมีความไม่พอใจอย่างมาก ดังนั้นอยากให้คนที่ไม่พอใจใช้ความอดทน และใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามต้องพิสูจน์กันว่า ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาลที่กลับหัวกลับหาง ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งนี้หรือไม่ สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา คิดว่ารัฐบาลควรศึกษากรณีที่ผ่านมาว่า คนที่ทำร้ายประเทศให้เสียหายยับเยิน แล้วเขาแก้ปัญหาอย่างไรโดยไม่ถูกถอดยศ ทำอย่างไรคนเหล่านั้นยังอยู่ในสังคมไทยและกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบ้านเมืองได้ อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่เรียกร้องอะไรกับกรณีนี้ แต่อยากให้รัฐบาลคิดให้ดีถ้ารัฐบาลยังอยากจะทำก็ทำ และคิดว่าหากมีการนำเรื่องนี้ให้ พ.ต.ท. ทักษิณเสียชื่อเสียง หรือดิสเครดิตทางการเมือง ผลจะกลับไปในทางตรงกันข้าม ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากเกิดกรณีการถอดยศและริบเครื่องราชฯ ได้มีการติดต่อทาง พ.ต.ท. ทักษิณหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบเพียงสั้นๆว่า ไม่ได้ติดต่อแต่อย่างใด


อ้างรัฐบาลพยายามเปิดเกมรุกกลับ :

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช. แถลงภายหลังประชุมแกนนำ ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมถอดยศและริบเครื่องราชฯของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า รัฐบาลพยายามเปิดเกมรุกกลับ หลังจากต้องเป็นฝ่ายตั้งรับมาโดยตลอด เป็นเรื่องที่พยายามกู้หน้าหรือเปลี่ยนประเด็นการเมืองใหม่ เพื่อปกปิดรอยบอบช้ำ เพราะสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มีการคืนยศให้จอมพลถนอม กิตติขจร รวมทั้งสิทธิ์ทางราชการให้ ทั้งๆที่ประวัติศาสตร์สรุปว่าบุคคลท่านนี้เป็น:-)และผู้นำทหารเผด็จการมือเปื้อนเลือด มาวันนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีความพยายาม ที่จะถอดยศและริบเครื่องราชฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มาจากการเลือกตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ฝักใฝ่กับเผด็จการหรือไม่ ตอนนี้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำกับทักษิณสั่งปลด แต่คืนยศ:-) อย่างไร ก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องการถอดยศและริบเครื่องราชฯ พ.ต.ท. ทักษิณ แม้จะมีผลต่ออารมณ์ของผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ก็คงไม่ไปส่งผลให้ต่อการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของคนเสื้อแดงแน่ เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการเพิ่มพลังในการต่อสู้ ไม่ถือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา การชุมนุมคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหว ด้วยจังหวะและยุทธวิธีที่ตั้งไว้ โดยไม่ ไปเกี่ยวกับการถอดยศ


แฉ "อภิสิทธิ์" ปลอมแปลงใบสมัคร ปชป. :

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นโฆษก นปช.ยังนำเอกสารที่อ้างว่า เป็นเอกสารการสมัครเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีรูปและลายเซ็นของนายอภิสิทธิ์มาแสดง พร้อมระบุว่าคนที่จะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีความสง่างามและจะไม่สามารถทำในตำแหน่งนายกฯได้อีก เหตุเพราะหลักฐานที่ได้มานั้นตรวจสอบพบว่า นายอภิสิทธิ์ได้แจ้งข้อมูลเข้าข่ายเป็นเท็จต่อ กกต. กรณีสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 35 แต่นายอภิสิทธิ์เป็น ส.ส.สมัยแรกเดือน มี.ค.2535 รัฐธรรมนูญปี 34 บัญญัติชัดว่า ผู้ที่มีสิทธิลงสมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียว ดังนั้นเมื่อหลักฐานที่แจ้งต่อ กกต.เป็นแบบนี้ ก็เท่ากับว่านายอภิสิทธิ์สมัคร ส.ส.ก่อนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เหตุนี้ทำให้คุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ขาดลงทันที และเมื่อไม่มีคุณสมบัติเป็น ส.ส.ก็ไม่มีสิทธิ์เดินมาถึงเก้าอี้นายกฯได้ ทั้งต้องถูกดำเนินคดีข้อหาใช้หลักฐานเท็จต่อเจ้าพนักงาน

"พรรคประชาธิปัตย์ทำเอกสารชี้แจง กกต.ว่า เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ถามว่าแล้วนายอภิสิทธิ์เซ็นลายมือตัวเองได้อย่างไร และเอกสารชิ้นนี้เจ้าตัวจะอธิบายว่าอย่างไร ถึงอย่างไรนายอภิสิทธิ์ก็จะต้องมีความผิดจากกรณีนี้ ตอนนั้นเสียสติหรืออย่างไร และอยากฟังคำชี้แจงด้วย" โฆษก นปช.กล่าว



(ที่มา ไทยรัฐ , 30 ตุลาคม 2552)

จากคุณ	: จำปีเขียว
เขียนเมื่อ	: 31 ต.ค. 52 18:38:12 A:125.25.25.171 X: