ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังคนด่ารัฐบาลกับพธม.ครับ 555 จากคุณ : Benrx060 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:31:53 A:110.164.231.184 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ฟังไม่ได้ศัพท์ อย่าพึ่งจับไปกระเดียด..!!!!!!!!! จากคุณ : กิจ กังวาน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:38:18 A:118.172.207.38 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ผมไม่ชอบรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่ชอบพธม.  ถ้าเป็นจริงผมก็ไม่ชอบข้อเสนอนี้ บอกก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ  เช่นกันกับข้อเสนอของมาเลที่รัฐบาลตอบรับว่าเห็นด้วยในการให้เป็นเขตปกครองตัวเองของสามจังหวัดชายแดนใต้ ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ   ในเมื่อสามจังหวัดอยู่ในประเทศไทยก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทยเหมือนกัน  ความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาไม่ใช่เหตุที่จะทำให้มีการแยกตัวออกไปได้เลย  เมื่ออาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยก็ควรจะเคารพและยอมรับให้ตัวเองอยู่ภายใต้กฎหมายไทยด้วยสิครับ  ขืนปล่อยให้ทำเป็นตัวอย่างอีกหน่อยแต่ละจังหวัดไม่หาข้ออ้างแยกตัวกันไปหมดหรือครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 07:40:50 จากคุณ : Namtao08 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:40:22 A:125.24.137.138 X:

ความคิดเห็นที่ 4 กฏหมายประเทศไทย ไม่มีอะไรน่าเกลียด ทำไมต้องแบ่งแยก หากไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนไทย ก้ ย้ายไปที่อื่น ไม่ใช่มาอาศัยแผ่นดินไทยแล้วมา ดื้อดึง จะแบ่งเขตการปกครอง แนวคิดแบบนี้ รัฐบาล ไม่ควรเห็นด้วย เด็ดขาด จากคุณ : คุณชายเหตุผล เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 07:57:40 A:58.9.173.198 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเป็นห่วงนะ ถ้าประชาสัมพันธ์ไม่ดี สื่อสารกันไม่เข้าใจ สื่อหลักพร้อมใจกันบิดเบือนข้อเท็จจริงหละก็ จิ๋วอาจถึงขั้น โดนกล่าวหาว่าเป็นแกนนำแยกประเทศ ไอ้พรรคการเมืองปากโสมม แบบนั้น ไปไว้ใจมันได้งัย วางกลยุทธ สงครามข่าวสารให้ดีเถอะครับ จะให้อำนาจแค่ไหน จะทำอย่างไร มีผลดีผลเสียอย่างไร ขนาดส่งคนไปตะโกนในโรงหนัง จนปรีดี ต้องตายในต่างแดน ยังได้ผลมาแล้ว อย่าคิดว่าคนในประเทศนี้ฉลาดเท่าทันกันทุกคนนะครับ ไม่งั้นพันธมิตรไม่เกิดหรอก จากคุณ : Hug Bakery เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:02:09 A:118.173.254.210 X:

ความคิดเห็นที่ 6 รูปแบบการบริหารงานของ กทม. กับเมืองพัทยา ถือเป็นการแบ่งแยกดินแดนหรือเปล่า ถ้าไม่รู้หาตำรามาอ่านซะ อย่าโชว์โง่ จากคุณ : ช้างหางชี้ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:12:40 A:58.9.204.202 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นแนวทางเดียวกับจีนที่ใช้ 1ประเทศ2ระบบ ผมว่ามันเข้าท่าดี ถ้าสิ่งนี้จะทำให้พี่น้อง3จังหวัดชายแดนและจังหวัดใกล้เคียง อยู่กันได้อย่างสันติสุขและมีความปลอดภัยในชีวิตตัวเองและครอบครัว จากคุณ : เวลาที่หายไป เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:20:31 A:124.121.135.10 X:

ความคิดเห็นที่ 8 มันเป็นแนวคิดเดียวกับนครเชียงใหม่ไม่ใช้เหรอ คือนครปัตตานี ทำไมเชียงใหม่ยังเป็นนครเชียงใหม่ได้แล้วจังหวัดอื่นๆถึงจะเป็นไม่ได้ คิดมากไปปล่าว จากคุณ : tui111113 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:32:54 A:125.27.220.48 X:

ความคิดเห็นที่ 9 แนวความคิด วัฒนธรรม แตกต่าง แต่ไม่ควรแตกแยก ... สามจังหวัดชายแดนใต้ หลายคนดูว่ามันรุนแรง และควบคุมไม่ได้ .. แต่รุนแรงเพราะอะไร คนที่เคยลงไปทำงานหรือคลุกคลีปัญหาจะรู้ดี หากได้แก้ไขตาม บิ๊ก จิ๋ว พูด บรรดาพวกที่ก่อปัญหาจะไม่มีข้ออ้างทางศาสนา และความแตกต่างทางวัฒนธรรมอีก เพราะพวกตนได้ดูแลกันเองภายใต้กฏหมายลูกที่อิงกับหลักศาสนา ... เหมือนประเทศอิสลามที่เอาหลักศาสนามาตั้งเป็นกฏหมาย แต่ทั้งหมด ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน กฏหมายหลักเดียวกัน มีในหลวงทรงเป็นพระประมุของค์เดียวกัน อยู่ภายใต้ธงไตรรงค์ผืนเดียวกัน เพียงแต่มีหลักการปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีข้อปลีกย่อยแตกต่างกันได้บ้าง ... ในอนาคต รธน. ควรเขียนให้ครอบคลุมถึงเรื่องนี้ด้วย สิ่งเหล่านี้ ต้องมีการทำความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์กันอีกเยอะมาก กลัวว่า แนวความคิดแบบนี้ จะกลายเป็นหอกกลับไปทิ่มตัว บิ๊ก จิ๋ว เอง ... ปชป และ พธม เก่งในเรื่องแปลงสารมาก ทำอะไรต้องระวังตัว การเสนอขึ้นมาลอยๆ แล้วไม่ชัดเจน หรือพูดๆ หยุดๆ ตามกระแส ผลร้ายจะตกกับ บิ๊ก จิ๋ว และพรรคเพื่อไทย ในที่สุด ... ระวังจะเข้าทางพวกนั้นก็แล้วกัน จากคุณ : คนไทยใจกว้าง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:43:53 A:210.246.192.52 X:

ความคิดเห็นที่ 10 งั่งเอ้ย    นครเชียงใหม่ก็เป็นแล้ว   นครหาดใหญ่ ก็เป็น จะเพิ่ม นครปัตตานีไม่ได้ก็รู้ไป จากคุณ : ป้าติ๊ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:43:59 A:124.157.235.209 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เคยเรียนหนังสือเลยเหรอ จขกท. กทม. พัทยา ก็เป็นเขตปกครองพิเศษ เพื่อให้มีการดูแลเขตของตัวเองได้ ถ้าจะทำคล้ายๆกันในพื้นที่ที่ทางรัฐแก้ปัญหาไม่ทันท่วงที จะผิดอะไร จากคุณ : สมชายตลอดมา เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 08:55:18 A:124.122.169.252 X:

ความคิดเห็นที่ 12 นอกจากจะไม่ค่อยสนใจการเมืองแล้ว ยังไม่ค่อยสนใจเรียนหนังสือด้วยนะเรานะ ผมตกข่าวหรือป่าว พัทยา โดนแบ่งไปแล้วหรือ...! จากคุณ : ภารโรงอาวุโส (ปลอมตัวมา) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 09:10:43 A:125.24.239.105 X:

ความคิดเห็นที่ 13 กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ กรุงเทพมหานครเป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศไทย (เช่นเดียวกับเมืองพัทยา) โดยมิได้มีสถานะเป็นจังหวัด ซึ่งคำว่า กรุงเทพมหานคร นั้น ยังใช้เป็นคำเรียกสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ปัจจุบันกรุงเทพมหานครใช้วิธีการเลือกตั้งผู้บริหารแบบ การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรง ผู้ว่าราชการกรุงเทพคนปัจจุบัน คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และปลัดกรุงเทพมหานครคนปัจจุบันคือ นายพงศักติฐ์ เสมสันต์ นายกเมืองพัทยา นาย อิธิพล คุณปลื้ม พัทยา หรือ เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษเขตหนึ่งที่ตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ฉบับ วันที่ 29 พฤจิกายน พ.ศ. 2521 (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จขกท กรุณาหาข้อมูลก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็อ่านข่าวให้ละเอียดกว่านี้หน่อยนะค่ะ Google ช่วยคุณค่ะ ลองหาข้อมูลก่อน จากคุณ : ตังเมย์เหนียว เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 09:14:56 A:119.42.68.238 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ปัญหาเรื่องการแบ่งดินแดนยะลา-ปัตตานี-นราํธิวาสไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง ๑.สมัยต้นรัตนโกสินทร์เรายังไม่มีประเทศไทยแบบทุกวันนี้  แต่มีเมืองใหญ่ๆเรียกว่า"นครรัฐ"อยู่ทั่วไป ๒."นครรัฐ"ใดมีกำลังกล้าแข็ง มีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ก็จัดกำลังทหารไปโจมตีนครรัฐอื่นหากชนะก็ยึดเป็นเมืองขึ้น บางเมืองที่ห่างไกลก็ให้เจ้าผู้ครองนครเดิมปกครองต่อไปแต่ให้"ส่งส่วย"   ส่วนนครรัฐใดที่อยู่ใกล้และอุดมสมบูรณ์ ก็ส่งลูก-หลานของเจ้าผู้ครองที่ชนะไปปกครอง นครรัฐแบบนี้เรียกว่าเมืองลูกหลวง-เมืองหลานหลวง เราจึงได้ยินชื่อพระราชวงศ์ตั้งพระนาม"กินเมือง"นครรัฐอื่นมาตั้งแต่โบราณ เช่น กรมหลวงจันทบุรีดิเรกฤทธ์ กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ กรมหลวงสงขลานครินทร์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แม้ยุคสมัยนี้ก็มี กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ฯลฯ เป็นพระนามแสดงการครอบครองนครรัฐเมืองขึ้นทั้งสิ้นครับ!! ๓.วันดี-คืนดี"นครรัฐ"ใดมีกำลังกล้าแข็งหรือมี Sponsor ดีประกอบกับเจ้าผู้ครองนครรัฐที่เป็นผู้ปกครองอ่อนแอลง  นครรัฐที่เป็นเมืองขึ้นก็แข็งข้อประกาศอิสรภาพ  นครรัฐที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องจัดกองทัพไปปราบ หากปราบได้ก็มีการลงโทษและเปลี่ยนเจ้าเมืองใหม่  หากปราบไม่ได้ก็แล้วกันไป ระบอบวิธีการปกครองยุคโน้นเป็นอย่างนี้กันทั่วทั้งโลก เช่นเดียวกับในแผ่นดินแหลมทองนี้เหมือนกัน  โดยยุค 500-600ปีก่อนละแวกนี้ก็มีนครรัฐดังๆ เช่น กรุงศรีอยุธยา นครศรีธรรมราช เชียงใหม่  พิษณุโลกสองแคว ปัตตานี หงสาวดี ตองอู ฯลฯ ที่ดังรองลงมาก็มีอีกมากมาย แต่ละนครรัฐก็ยกทัพไปโจมตีกันจนวุ่นวายเพื่อขยายอาณาเขตและแสวงหาเมืองขึ้น     ยกเว้นแต่"นครรัฐเชียงใหม่"ที่ไม่ได้เป็นนักรบ ต้องตกเป็นประเทศราชของนครรัฐอื่นมาตลอด เช่น อยู่ใต้การปกครองของนครรัฐหลวงพระบาง  นครรัฐหงสาวดี  นครรัฐกรุงศรีอยุธยา นครรัฐกรุงเทพ จนถึงทุกวันนี้ ๔.สมัยกรุงธนบุรี พระเจ้าตากสามารถรบชนะนครรัฐอื่นๆและก๊กเหล่าอิสระต่างๆ เช่น นครรัฐจันทบุรี รวมทั้งยึดนครรัฐกรุงศรีอยุธยาคืนจากนครรัฐหงสาวดี  เมื่อแตกขยายมาเป็นนครรัฐกรุงเทพก็ไปรบชนะได้นครรัฐเชียงใหม่ นครรัฐปัตตานี นครรัฐหลวงพระบาง ฯลฯ มาเป็นรัฐในอารักขาเพิ่มขึ้น      นครรัฐอื่นๆยกเว้นนครรัฐปัตตานีต่างก็มีศาสนา ความเชื่อ วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันสามารถกลืนกลายกันได้     แต่นครรัฐปัตตานีนับถือศาสนาอิสลามและพูดภาษายาวีจึงไม่สามารถกลืนกลายกับนครรัฐกรุงเทพและนครรัฐอื่นๆ   จึงเป็นนครรัฐที่มีลักษณะเป็นการเฉพาะตัวทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของตัวเองตลอดมา    ๕.สมัยรัชกาลที่ 5 อิทธิพลของนักล่าเมืองขึ้นชาติอังกฤษ-ฝรั่งเศส-ฮอลันดา-โปรตุเกส มาไล่ล่านครรัฐต่างๆในละแวกนี้เป็นเมืองขึ้นเพื่อขยายการค้าและแสวงหาวัตถุดิบ     ชาตินักล่าเมืองขึ้นเหล่านั้นมีการรวมนครรัฐเข้าเป็นราชอาณาจักรเรียกว่า"ประเทศ" มีอาณาเขตชัดเจน  มีแผนที่ระบุขอบข่าย  เพื่อความทันยุคสมัยและป้องกันนครรัฐกรุงเทพและดินแดนในการครอบครอง    สมัย ร.๕ จึงได้มีการทำแผนที่รวบรวมนครรัฐต่างๆเข้ามาอยู่ในดินแดนกรุงเทพ      โดยเรียกชื่อรวมๆว่าราชอาณาจักรสยาม     (คนที่เปลี่ยนชื่อประเทศจาก"สยาม"ให้มาใช้ชื่อว่า"ไทย"น่าจะระลึกได้ว่าได้เอาชื่อคนเผ่าเดียวมาเป็นชื่อประเทศ  ทำให้คนเชื้อสายอื่นเพียงเป็นผู้อยู่อาศัยเท่านั้น  เช่นเดียวกันหากผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกาเรียกชื่อว่า"ประเทศอังกฤษ ๒" คนเชื้อสายอื่นจะยินยอมไหม---ตอบด้วย???)      การรวบรวมดินแดนเข้าเป็นประเทศและจัดทำเส้นเขตแดนนี้เราต้องเผชิญ ๒ ปัญหาจนถึงทุกวันนี้ คือ-      ๕.๑ เส้นเขตแดนด้านเขมรที่เราต้องเสียเขาพระวิหารไปและพื้นที่พรมแดนยังมั่วๆจนทุกวันนี้      ๕.๒ นครรัฐปัตตานีและเมืองบริวารไม่สามารถกลืนกลายเข้ากับกรุงเทพ หรือเรียกชื่อใหม่ว่าราชอาณาจักรสยามได้      เพราะชาวนครรัฐปัตตานีและเมืองบริวารยังเชื่อว่าตัวเองเป็นประชากรของนครรัฐปัตตานีอยู่จนถึงปัจจุบัน     การก่อการร้าย การทำสงครามประชาชนต่างๆ  ชาวนครรัฐปัตตานีเหล่านั้นความเชื่อว่าเป็นการทำสงครามกู้เอกราช เป็นการรบจีฮาดเพื่อรักษาศาสนาอิสลาม       สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เราอพยพคนอีสานลงไปอยู่ในจังหวัดปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส มากมายเพื่อให้กลืนกลาย โดยมีการจัดตั้งเป็นสหกรณ์นิคมอยู่ทั่วทั้งสอง-สามจังหวัดแต่ปริมาณยังไม่มากพอจนมีนัยะสำคัญ!!     สมัยนั้นเรากลัวคนเชื้อสายจีนจะยึดประเทศไทยมากกว่าคนนับถืออิสลาม เพราะคนจีนมีฐานะเศรษฐกิจดี  มีอัตลักษณ์ระดับเดียวกับปัตตานีแต่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่รบชนะนักล่าเมืองขึ้นและรัฐบาลจีนเจียง ไค เช็ค ที่อเมริกาหนุนหลัง      ช่วงนั้นรัฐบาลไทยมุ่งกีดกันคนเชื้อสายจีนมากกว่า เช่น ห้ามคนที่พ่อ-แม่เป็นต่างด้าวรับราชการทหาร/ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง  ห้ามเปิดโรงเรียนสอบภาษาจีน ไม่อำนวยความสดวกแก่คนใช้ชื่อ/ชื่อสกุล/ชื่อยี่ห้อเป็นภาษาจีน ฯลฯ อิทธิพลของนโยบายกลืนกลายคนจีนของไทยนี้ได้ผลมากกว่าทุกๆชาติในละแวกนี้  เพราะจนถึงปัจจุบันลูกจีนส่วนใหญ่ไม่ภูมิใจในการมีเชื้อสายจีนของตน พูดภาษาจีนไม่ได้ อ่านไม่ออก ไม่ใช้ชื่อ/ชื่อสกุลภาษาจีนแต่ไปใช้เป็นภาษาบาลี/สันสกฤตตามแบบคนไทยแทน (แนวคิดแบบนี้มาเลเซียสมัย ดร.มหาเธ มฮัมหมัดเป็นนายกฯก็นำมาใช้เรียกว่านโยบาย"ภูมิบุตร(Phumi Buttra)" ห้ามข้าราชการที่ไม่ใช่เชื้อสายมาเลย์เป็นระดับปลัดกระทรวงหรือระดับนายพล ให้คนเชื้อสายมาเลย์ถือครองที่ดินได้มากกว่า ให้มหาวิทยาลัยของรัฐสงวนที่เรียนแก่คนเชื้อสายมาเลย์มากกว่า ฯลฯ)     ในทางกลับกันพลเมืองของนครรัฐปัตตานียังเปิดโรงเรียนปอเนาะสอนศาสนาอิสลามได้(มีบางช่วงรัฐบาลก็ห้ามเช่นกัน) ไม่นิยมเปลี่ยนชื่อ/สกุล  ไม่พูด-ไม่เรียนภาษาไทยกลางจนถึงปัจจุบัน   เขาจึงยังมีอัตลักษณ์ของตัวเองเหมือนยุคบรรพบุรุษ ที่สำคัญยังเชื่อว่าปัตตานียังเป็นนครรัฐของพวกเขาเหมือนเช่นเดิม        (สังเกตุได้ว่าชาวปัตตานีเดิมและใกล้เคียงที่ถูกกวาดต้อนมาอยู่กรุงเทพ-พระนครศรีอยุธยาเมื่อคราวที่แพ้สงคราม   ปัจจุบันถูกกลืนกลายเหมือนคนเชื้อสายจีนไปเกือบหมด เช่น พูดภาษายาวีไม่ได้  ใช้ชื่อ-สกุลเป็นภาษาบาลี/สันสกฤต ความเชื่อหลักทางสังคมเหมือนคนไทย-คนเชื้อสายจีนในสังคมที่ตัวอยู่อาศัย    ดูตัวอย่างจาก พล.อ.สนธิ บุณยรัตนกลิน และครอบครัว นายดำรง พุดตาล   นางนาตยา แดงบุหงา-สส.ปชป. ก็ได้    พวกท่านเหล่านี้หากเป็นภาษาคอมมิวนิสต์เขาเรียกว่าพวกปัตตานี้ลัทธิแก้...ฮา)    โดยสรุปการแก้ไขปัญหาปัตตานีไม่มีวันสำเร็จหากไม่เข้าใจความเป็นมาหรือไปมองด้วยแว่นอำนาจนิยมของคนกรุงเทพและแว่นของอำนาจทหาร     เพราะการที่เขากู้เอกราชตามที่พวกเขาเชื่อก็ต้องยอมรับว่าเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิของเขา อัดทหารลงไปกี่แสนคนสงครามกู้ชาติของเราก็ยังคงมี  เพราะแม้แต่ในชาติที่มีภาษา-ศาสนา-ความเชื่อเหมือนกัน เช่น อาเจ๊ะ ก็ยังกู้เอกราชจากอินโดเนเซียเหมือนกัน!!!        หากรัฐเชื่อว่ากองกำลังปัตตานีคือปลา  ประชาชนชาวปัตตานีคือน้ำที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน        บางทีการเปลี่ยนน้ำใหม่โดยใช้วิธีการเพิ่มน้ำจากที่อื่นเข้าไปจนเป็นน้ำใหม่ระดับ ๗๐-๘๐% ตามแนวคิดของจอมพลสฤษดิ์ก็น่าจะเป็นวธีการที่ค่อยเป็นค่อยไปและสันติแต่ได้ผล        เราเสียเงินไปกว่าแสน-สองแสนล้านแล้วยังไม่ได้อะไร นอกจากได้ทหาร"ตัวอ้วนๆ"เพิ่มขึ้นเท่านั้น       หากจะเสียเงินและเปลี่ยนวิธีการอาจจะได้ผลก็ได้ เช่น ซื้อที่ดินในปัตตานีให้คนก่อร่างสร้างตัวจากพะเยา-หนองคาย-อุบลฯ-อุทัยธานี ฯลฯ ไปอยู่อาศัยพร้อมเงินทุนครอบครัวละห้าแสนบาท      ซื้อที่ดินที่เชียงรายพร้อมให้คนปัตตานีที่เบื่อสงครามไปอยู่อาศัยพร้อมเงินทุนเช่นกัน เรียกว่าวิธีการ Relocated ที่อาจจะได้ผลดีบ้าง!!          ท่านทราบไหมว่าปัจจุบันนี้คนมุสลิมฐานะดีของปัตตานีและใกล้เคียงที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับปัญหาวุ่นวายนี้เขาทำอย่างไรกัน??          เขาเหล่านั้นได้ Relocated ไปอยู่ที่ จ.กระบี่ มาหลายปีแล้ว  จนจังหวัดกระบี่เริ่มมีประชากรมุสลิมในจังหวัดถึง ๖๐% แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 13:52:39 จากคุณ : พาชื่น เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 09:18:29 A:124.120.72.240 X:

ความคิดเห็นที่ 15 จริงๆน่ะ เราไม่ควรไปยุ่งเรื่อง ติมอร์ตะวันออก ดาบนั้นเลยคืนสนอง เสียดายนะ พรรคการเมืองพรรคนี้ นโยบายต่างประเทศ ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ห่วยสิ้นดี จากคุณ : นายตุลย์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:05:48 A:112.142.225.76 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญไทยน่ะครับ เป็นรูปแบบหนึ่งของการปกครองส่วนท้องถิ่น คล้ายๆ เมืองพัทยา ที่อำนาจการตัดสินใจในบางส่วนมาจากภายในไม่ใช่รัฐบาลกลาง แต่หลักนิติรัฐทุกอย่างยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญไทยครับ อย่าไปเชื่อพวกสื่อรัฐเสี้ยมมาก ช่วยศึกษา + อ่านให้มากกว่ากว่านี้ ก่อนจะโพสต์เอาสนุกนะครับ ข้อกล่าวหาที่ท่านโพสต์มันรุนแรงมากครับ จากคุณ : talkshowhost เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:07:39 A:203.152.19.194 X:

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วย กับ จขกท. เอาเวลาไปรักษา อัลไซเมอร์ ก่อนดีกว่า 5555555 จากคุณ : oodusp เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:39:06 A:110.164.102.151 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ได้ยินชัดเจนกันหรือไม่ว่า คำพูดพล่อยๆกำกวมของ  บิ๊ก( ขงเบ้ง) จิ๋ว ทำให้ ประชาชนคนไทยตีความกันไปได้คนละทางสองทาง             มีใครบางท่าน เคยบอกให้ท่านบิ๊กจิ๋วสำรวมวาจา  จึงค่อนข้างจะเห็นด้วยอย่างยิ่ง  ความ " หวานเจี๊ยบ"  ของท่านขงเบ้งจิ๋ว วัยนี้ ( วัย...ครับ   ไม่ใช่...วัน...นี้ )  บางครั้งมันเสี่ยงต่ออันตรายของประเทศมากทีเดียว จากคุณ : วอน (วอน) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 11:40:11 A:125.27.245.176 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ผมได้ยินมาตั้งแต่เมื่อวาน ข่าวเมื่อเช้าด้วย (ก็ได้ยินจากข่าวช่องนั้น ช่องนี้น่ะแระ) และไม่มีเวลานั่งหารายละเอียดขนาดนั้นน่ะครับ ก็เอาความเข้าใจเบื้องต้น (ผมว่าคนทั่วๆ ไป ก็คงเข้าใจแค่ผิวเผิน) ผมก็มาตั้งกระทู้ห้องนี้ เพื่อให้ได้รายละเอียดนี่ไงครับ (ยอมโดนด่านะเนี้ย) แต่ยังไงผมก็ว่า น่าจะ focus ไปที่ต้นเหตุมากกว่า เืรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ น่าจะนำเสนอให้ระมัดระวังนิดนึงครับ และผมคิดว่า ดำเนินการยาก เพราะเป็นข้อเสนอของฝ่ายค้านด้วย นอกจาก รัฐบาลจะดีจริงๆ ซึ่งมันคงไม่มีอยู่แล้วในนักการเมือง จากคุณ : MachineGun เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:59:11 A:202.151.6.29 X: