ความคิดเห็นที่ 1 เพราะ ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสถานีโทรทัศน์ ยึดสนามบิน อันเป็นทรัพย์สินราชการ ก็ยังไม่ผิดอะไรเลยนีดรับ จากคุณ : เสื้อแดง (cnbc) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 07:16:53 A:58.11.78.163 X:

ความคิดเห็นที่ 2 งงอ่ะ ทำไมทู้นี้ กับทู้โน้น ตั้งชื่อทู้เหมือนกันเลย แล้ว grandmom จขกท. โน้น ก็ชื่อ เหมือน grandmom ในทู้นี้ -_-'  หมายถึงอะไรเหรอ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 07:27:10 A:110.169.15.195 X:

ความคิดเห็นที่ 3 1.ก่อนจะเข้าประมูล ก็ได้สอบถามไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ว่าสามารถทำได้ แต่ปรากฏว่าทำแล้วผิด...ต่อไปผมจะทำยังไงล่ะครับ ขนาดถามไอ้ที่ว่ารู้เรื่องดีที่สุดแล้วยังผิดได้อีก สงสัยจะทำนิติกรรมอะไรกับรัฐต้องส่งศาลท่านตีความให้ก่อนสถานเดียว 2.ตั้งแต่เรียนกฏหมายมาก็เพิ่งเจอนี่และครับ ตัดสินตามกฏหมายใหม่เกี่ยวกับความผิดย้อนหลังในทางที่เป็นโทษต่อจำเลย...นิติปรัชญาแนวใหม่ หาอ่านได้จากเมืองไทยที่เดียวในโลก 3.ทั้งผู้สอบสวนความผิด ทั้งผู้ตัดสิน คัดมาแล้วเฉพาะที่เกลียดขี้หน้าจำเลยทั้งนั้น ต่อให้ผิดจริงๆ ตัดสินอย่างถูกต้องมันก็ผิดต่อนิติปรัชญาครับ ปกติถ้าศาลท่านคิดว่าเกี่ยวข้องกับจำเลยแม้เพียงเล็กน้อย แม้จะไม่มีใครรู้เลยว่าท่านมีข้อบาดหมางใดๆกับจำเลย ท่านก็จะขอถอนตัวทันที...นี่เค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง 4.ไม่ต้องยกข้อกฏหมายมาพิจารณา คิดแบบชาวบ้านทั่วไป เมืยซื้อไม่ผิด...แต่ผัวเซ็นต์ยินยอม ติดคุก คิดอีกกี่ตลบก็งงครับ นี่เอาความผิดปกติเฉพาะคดีนี้แล้วกันนะครับ ไม่อยากลากคดีอื่นมาอีก มันนอกประเด็นของท่าน จขกท. จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 07:35:22 A:114.128.26.128 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ขอเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงนะครับ เห็นมีการกล่าวถึงรัฐธรรมนูญ อยากให้บรรดาท่านๆเสือเหลืองได้ดูให้จบนะครับ เพราะมันคือความจริงที่เกิดขึ้นอย่างนั้นจริงๆ แล้วคุณยังจะเชื่อพวกเค้า(แกนนำ) อยู่อีกเหรอครับ http://www.youtube.com/watch?v=DqR9eU3Coeg&feature=related คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 07:40:06 จากคุณ : เสียดาย (Meteorash) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 07:39:41 A:123.243.86.213 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ศาลตัดสินตามใบสั่ง จากคุณ : จอมยุทธจนๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:01:04 A:124.121.2.38 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้เสียหายก้อคือประเทศไม่ใช่เหรอ จากคุณ : Perfect Day : P-Blur เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:30:41 A:124.121.57.151 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นหล้กปฎิบ้ติทั่วๆไปในการซื้อขายที่ดิน ที่ให้คู๋สมรสรับรู้ในผลประโยชน์ร่วมกัน จากคุณ : tada504 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:33:44 A:125.25.186.110 X:

ความคิดเห็นที่ 8 คดีอาญาทุกประทศมีผู้เสียหายอยู่แล้วครับ บางคดีเอกชนเป็นผู้เสียหาย บางคดีรัฐเป็นผู้เสียหาย บางคดีทั้งเอกชนและรัฐเป็นผู้เสียหาย... ผมยกตัวอย่างถึงคดีพาอาวูธปืน ถามว่าใครเสียหาย ไม่มีเอกชนรายใดเสียหายเลย แต่รัฐเป็นผู้เสียหายเพราะ รัฐมีหน้าที่คุ้มครองและปกป้องให้สังคมเกิดความสงบสุข จึงมีการห้ามพกพาอาวุธปืน หากมีการฝ่าฝืนรัฐย่อมได้รับ ความเสียหาย รัฐจึงเป็นผู้เสียหาย คดีลักทรัพย์ รัฐมีหน้าที่คุ้มครองปกป้องสังคม การไปลักทรัพย์ ย่อมทำให้รัฐได้รับความเสียหาย รัฐจึงเป็นผู้เสียหาย และนอกจากรัฐแล้วเอกชนที่ถูกคนร้ายลักทรัพย์ไป ก็ย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย... ด้วยตรรกกะเดียวกันนี้ น่าจะพอเดาได้แล้วนะครับว่า คดีที่ดินที่ดินรัชดา ใครเป็นผู้เสียหาย ..................... นายก เข้าไปกำกับดูแล กองทุนฟื้นฟูได้ โดยผ่านรมต.คลัง ประเด็นนี้ศาลมีคำวินิจฉัยไปแล้วครับ อีกทั้งธปท.ก็ไม่ใช่องค์กรอิสระ ไปเปิดรธน.ดูได้ นอกจากนี้ ตามพรบ.ธปท. ยังกำหนดให้ ธปท. อยู่ภายในกำกับดูแลของรมต. ............................. ถามกฤษฎีกา คุณต้องตอบคำถามนี้ก่อนว่ากฤษฎีกา คือใคร คือที่ปรึกษากฎหมาย ของรัฐบาล คำตอบของกฤษฎีกา มีฐานะเป็นแค่ความเห็น ซึ่งจะถูกหรือผิดก็ไป และกรณีทีดิน รัชดา ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ความเห็นของกฤษฎีกา ไม่สอดคล้อง กับคำพิพากษาของศาล .... ....................................... สำหรับเรื่องที่ชอบพูดกันว่า เมียซื้อไม่ผิด ผัวเซ็นต์ยินยอมผิด เรื่องนี้ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว แต่ผมเชื่อว่าคนที่พูดแบบนี้ ไม่เคยอ่านกฎหมายปปช.เลย น่าจะไปอ่านกฎหมายปปช.ก่อน ถ้าได้อ่านแล้ว เรื่องนี้อาจไม่เป็นประเด็นให้ต้องกเถียงกันเลย... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:38:13 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบแบบนี้สบายใจก็ตอบไปเหอะ ขี้เกียจรับฟังเหมือนกัน แต่มันขัดสายตาชาวโลกเข้าใจไหม กฏหมายไทยน่ะ จากคุณ : ห้องสีขาว เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:43:13 A:119.31.44.202 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ว่า เอากฎหมายย้อนหลังมาตัดสิน เป็นโทษแก่จำเลย ช่วยขยายความให้ชัดเจนหน่อยครับ เพราะเท่าที่ได้อ่าน คำพิพากษาคดีที่ดินรัชดา ไม่มีปัญหานี้หนิครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:45:17 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าความเห็น ลุงม้วน ก็ OK เหมือนก้นนะครับ....กฎหมายนี่เป็นภาษาที่ดิ้นได้....เล่นกับกฎหมายเหมือนเดินอยู่บนดาบสองคม....มีสิทธถูก เท่าๆ กับมีสิทธผิด.....อย่างนี้ก็อยู่ที่ผู้ตัดสินกระมังครับ.....แล้วเราจะเชื่อถือผู้ตัดสินอย่างไรได้ครับ??????? กฤษฎีกา...นี่ก็เหมือนกัน...ผมก็ว่า ถ้ากฤษฎีกาว่าถูก ...ก็น่าจะถูกแล้วนะครับ มิฉะนั้น จะมีไปทำไม???? ทีนี้ผมสงสัย..กฎหมาย ปปช...มีมาได้อย่างไร??? และมีเมื่อไหร่ ครับ ลุงม้วน?????ช่วยตอบข้อข้องใจหน่อยครับ..ผม?????? จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:49:25 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ที่มาของ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พศ.2542 (มาจากรธน.40 ดูหมายเหตุท้าย พรบ.ครับ) """""""""''''''''''''''''''''''''''''''' หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๓๐๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไต่สวนข้อเท็จจริงและทำความเห็นในกรณีที่มีการร้องขอให้ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งในระดับสูงออกจากตำแหน่ง หรือดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และไต่สวนวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยมาตรา ๓๒๙ บัญญัติให้ตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภายในสองปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งมาตรา ๓๓๑ บัญญัติให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นการร่ำรวยผิดปกติและการทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกล่าวหา ตลอดจนโทษที่ประธานกรรมการหรือกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจะได้รับในกรณีที่กระทำการโดยขาดความเที่ยงธรรม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ประกอบกับมาตรา ๓๐๒ บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยงานธุรการที่มีอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ......................................... ศาลไม่ปรึกษา  รับวินิจฉัยเฉพาะข้อพิพาท หากแค่ขอคำปรึกษา ก็กฤษฏีกาครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 09:08:17 จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:05:31 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนเรื่องที่จะเชื่อผู้ตัดสินได้อย่างไร ประเด็นนี้ ถ้าเราเห็นว่าผู้ตัดสินมีอคติต่อเราโดยมีเหตุที่ควรเชื่อได้ เราก็ขอคัดค้านผู้ตัดสิน หรือเปลี่ยนตัวผู้ตัดสินได้ครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:15:51 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 14 rep 8 ถ้าสมมติผมปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โอเค... ไม่จำเป็นต้องการันตีว่าถูกต้อง แต่ไอ้การโดนโทษแรงถึงขนาดเข้าคุกนี่มันคนละเรื่องนะครับ... เพราะการตัดสินตามกฎหมายจะต้องดูที่ " เจตนา " แบบนี้สื่อถึงเจตนาว่า ต้องการทุจริต ต้องการเอาเปรียบรัฐ หรือ ? เขาถึงมีบอกว่า ต่อไปนี้จะปรึกษาหน่วยงานอื่นไปทำไม... ถ้าปรึกษาแล้วไม่ตรงกับความเห็นศาล ดันมีสิทธิ์โดนจับเข้าคุก ??? ส่วนเรื่องประโยคที่ว่า " เซ็นชื่อให้เมีย แล้วติดคุก " เนี่ย... ผมอยากถามหน่อยครับ ถ้าวันนั้น ทักษิณ ไม่ได้เซ็นชื่อให้เมีย จะด้วยว่ากองทุนเปลี่ยนวิธีการโอนที่เป็นแบบไม่ต้องทำสัญญาซื้อขาย หรือ พจมาน เปลี่ยนใจ ทักษิณ จะผิดหรือไม่ครับ ? อ่านกฎหมาย ปปช. ดีๆแล้วค่อยมาตอบนะครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:16:18 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 15 มันอยู่ที่อคติคนครับที่เป็นผู้พิพาทษาด้วยครับ 1. ดร. ตีเมียตายทำไมถึงแค่ลงอาญา อันนี้วงในเขารู้กันว่าเกิดอะไรขึ้น 2. รอ.ธรรมรัตน์ เหล่า สห.ทบ. ตุ๋ยแล้วฆ่า ดร. หลักฐานแน่นหนา แต่กลับหลุดอีก มาเปิดบริษัทลิอีเกิ้ลที่มีปัญหากับชาวบ้านคลองเตยอยู่ขณะนี้อย่างไม่เกรงกลัว เพราะอดีตตอนจบมาใหม่ๆ เคยเป็นนายทหารประจำ............ 3. คดีอองซาน ซูจี ซึ่งก็โดนศาลพม่าตัดสิน ซึ่งเป็นกระบวนการยุธิธรรมของพม่า ทำไมคนไทยก็ไม่ยอมรับ 4. คดีทักษิณเกิดหลังกระบวนการรัฐประหาร ที่ คมช. ได้วางคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณในองค์กรต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว นี้แหละที่ทำไมคนเสื้อแดงถึงคาใจระบบยุติธรรม ไม่นับรวมถึงการชุมนุมของเสื้อเหลืองที่จะอย่างไรก็ไม่เคยผิดเลย  แต่กลับชาวไร่ชาวนา ประชาชนผู้เดือดร้อนจริง ๆ มาปิดถนนประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมกลับติดคุก   แล้วคุณคิดว่าการปฏิวัติมันผิดกฏหมายไหมละ แล้วทำไมเรายังยอมรับมันอยู่ จากคุณ : ข้าราชการจนๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:26:07 A:125.24.129.194 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ผมอยากถามหน่อยครับ ถ้าวันนั้น ทักษิณ ไม่ได้เซ็นชื่อให้เมีย จะด้วยว่ากองทุนเปลี่ยนวิธีการโอนที่เป็นแบบไม่ต้องทำสัญญาซื้อขาย หรือ พจมาน เปลี่ยนใจ ทักษิณ จะผิดหรือไม่ครับ ? ........................................ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่การที่ ทักษิณ ลงชื่อ หรือไม่ได้ลงชื่อ กฎหมายไม่ได้เอาผิดตรงนั้น กฎหมายเอาผิดตรงที่รู้เห็นยินยอม หรือไม่...(มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่) คุณทักษิณ มีหน้าที่เพียงพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเองไม่ได้รู้เห็น ในการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน หากพิสูจน์ได้ก็ไม่ผิด แต่นี่คุณทักษิณ ไม่พิสูจน์นี่ครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:29:21 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ เกี่ยวซิครับ... ผมบอกแล้วว่าให้ไปอ่านกฎหมายดีๆ กฎหมายบอกไว้ว่า " ห้ามเป็นคู่สัญญา " และให้นำบทบัญญัติไปใช้บังคับกับคู่สมรสด้วย โดยให้ถือว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐผู้นั้นเอง ยกเว้นจะพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น ถ้ากองทุนเปลี่ยนวิธีการโอนที่ หรือ พจมาน เปลี่ยนใจ แล้วจะมี การทำสัญญา เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ ??? ผมให้โอกาสไปอ่านกฎหมาย ปปช. ใหม่อีกรอบครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:34:31 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ครับ...ตอนนี้กำลังเข้มข้น...คำตอบของ ลุงม้วน กับ พี่ Savor...ถือได้ว่าเป็นผู้รู้ทางกฎหมายอย่างแท้จริง....พวกเราตาสีตาสา..ที่ไม่สันทัดทางกฎหมาย..คอยฟังดูแล้วสรุปเอาภายหลัง จะได้จำไว้สอนลูกสอนหลาน...สำหรับผม..."เจตนา"..นี่ก็เป็นเรื่องใหญ่นะครับ....มิฉะนั้น..ศาลที่ต่างประเทศ ก่อนที่จะหาความผิด ต้องดู Motive..ก่อนเสมอ...motivation ในการกระทำความผิดนั้น สำคัญครับ....รอดูว่า บทสรุปของผู้รอบรู้ท่านอื่น จะเป็นอย่างไรครับ????? จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:45:51 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 19 อ้าว...ไหนบอกว่าถ้าเปลี่ยนวิธีการโอน หรือพจมานเปลี่ยนใจ แบบนี่แสดงว่ามีสัญญาเกิดขึ้นแล้วนะครับ... แต่เรื่องนีคงเถียงกันไม่จบ เดี๋ยวคงมีการอ้างเรื่องสัญญาซื้อขาย ต้องทำเป็นหนังสือตามปพพ.อีก และผมว่าผมเคยอ่านกระทู้ ที่คุณถกเรื่องเป็นสัญญา กับ สมาชิกท่านอื่นมาแล้ว เถียงกันยาว แต่ก็ไม่ได้ข้อยุติอะไร... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:48:42 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 20 เพราะว่ามีการตรวจสอบกับผู้ขายแล้วว่าสามารถซื้อได้ โดยการประมูล ผู้ขายก็รับเงินไปโอนกันเรียบร้อย ในเมื่อเห็นว่าผิดมันก็ผิดทั้งผู้ซื้อและผู้ขายแต่ทำไม สามีผู้ซื้อถึงผิดอยู่คนเดียว โดยตรรกะแล้วไม่น่าเป็นอย่างนี้ ถ้าซื้อกันไม่ได้ก็ถือว่าสัญญาซื้อขายโมฆะแต่ต้น เสมือนหนึ่งไม่มีรายการนี้เกิดขึ้นผู้ซื้อคืนที่ดิน ผู้ขายคืนเงิน+ค่าเสียโอกาส มันชัดเจนจริงๆ ไม่ต้องอธิบายมากทุกอย่างโมฆะ แต่ทำไมต้องมีคนรับโทษ นี่มันอะไรกันเห็นๆ กันอยู่ ในประเทศพัฒนาเค้าไม่ทำกันอย่างนี้หรอก นี่คงเป็นความต้องการทำลายล้างทางการเมืองที่ไม่ยอมก้มหัวให้คนเคยมีอำนาจมากกว่า จากคุณ : คนเจริญ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:48:57 A:124.120.71.179 X:

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ  Savor  ไม่เบื่อลุงมั่วเลยนะครับ จากคุณ : ตระกองขวัญ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:49:24 A:118.172.76.200 X:

ความคิดเห็นที่ 22 อ้อ...ขออีกเรื่องครับ..ลุงม้วน.. ทักษิณ..มีโอกาสขอเปลี่ยนตัวผู้ตัดสินหรือครับ?????ก่อนที่มีการตัดสิน ผมจำได้ว่า ใครๆก็ร้องเรื่องนี้..แต่ไม่มีใครสามารถกระทำได้...นั่นหมายความว่าอย่างไรครับ???? และ..ถ้า..สมมุติว่า ทักษิณมีโอกาสกลับมา แล้วเปิดคดีต่อสู้ใหม่.(ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม).และสามารถพลิกเป็นผู้ไม่มีความผิด...ผู้ตัดสินนั้น จะโดนโทษอะไรบ้างครับ????? จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:50:13 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 23 rep 19 งั้นผมแนะนำให้ไปอ่านกระทู้เก่าอีกรอบหนึ่งครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:53:47 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าว่ากันเรื่องเจตนา... ผมไม่อ้างคุณทักษิณนะครับ ถ้ามีนายก ชื่อนาย ก. มีการกระทำเหมือนคุณทักษิณทุกอย่างเลย เอาเหมือนกรณีที่ดินรัชดาเปี๊ยบเลย แต่ จิตใจภายในของนาย ก. ต้องการซื้อที่ราคาถูกทำผิดกฎหมายแน่ๆ แบบนี้ศาลจะลงโทษได้มั๊ยครับ .... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:54:37 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 25 rep 21 ผมเบื่อคนตัดแปะกฎหมาย แต่อ่านไม่แตก ตีความไม่ถึงแก่นครับ สุดท้ายก็คงต้องพึ่ง ท่านศาสดาลิ้ม ช่วยย่อยให้อยู่ดีครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:55:21 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 26 rep 24 คุณจะเอาสิ่งที่ไม่มีทางรู้อย่าง " จิตใจ " มาตัดสินคดีได้อย่างไรครับ ? มันต้องตัดสินที่ " การกระทำ " สิครับ... หรือว่า ผู้พิพากษาเมืองไทย มีความสามารถพิเศษในการอ่านใจคนได้ ??? ซึ่งผมก็บอกไปแล้วว่า เจตนา มันก็ออกมาจากการกระทำก่อนหน้านั่นแหละ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:00:01 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 27 การเปลี่ยนตัวผู้ตัดสินก็ต้องมีอันสมควรละครับ ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงเปลี่ยน มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ มิฉะนั้นอาจมีตีรวนการเปลี่ยนตัว จนไม่มีผู้ตัดสินก็ได้ จำคดีที่ศาลล้มละลายได้มั๊ยครับ จำเลยขอเปลี่ยนผู้พิพากษาทั้งศาลเลย ซึ่งศาลก็ไม่อนุญาต จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:00:20 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 28 ใครเป็นผู้เสียหาย เสียหายอย่างไร  และเพราะอะไร ตอบหน่อย จากคุณ : หล่อจางเว่ย เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:00:59 A:61.90.110.200 X:

ความคิดเห็นที่ 29 zผมเอง ไม่แน่ใจว่า ทักษิณผิดไหม ในคดีนี้????? เพราะจะว่าผิดก็ได้..ไม่ผิดก็ได้...แล้วแต่เหตุผล...และผู้ตัดสิน...แต่ถ้าผิด..ผมว่า..ไม่น่าจะถึง ติดคุก 2ปี...น่าจะมีทางออกที่อลุ้มอล่วยสวยกว่านี้...เพราะเหตุผล ของ 1.องกรอิสสระ 2.ศาลที่ใช้ตัดสิน 3.ผู้ตัดสิน 4.เวลาของการชำระคดี ทั้งหมด..ล้วนสร้างความแคลงใจผู้คนอยู่นะครับ...ใครสามารถให้คำอธิบายที่แจ่มแจ้งแป็นธรรมได้บ้างครับ???? จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:02:21 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 30 #26 จากหลักกฎหมายที่ว่า  กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา  งัยครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:03:19 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 31 จขกท..ผมขอตอบแบบเข้าใจง่ายๆเลยนะ....  เพราะ ถึงไม่มีลายเซ็นท่านทักษิณก็ซื้อขายโอนได้ถูกต้องตามกฏหมายอยู่แล้ว นั่นแปลว่า ลายเซ็นท่านไม่ได้ช่วยในการซื้อขายครั้งนี้เลย แต่เจตนาที่ท่านทักษิณเซ็นก็เพราะเข้าใจว่า การซื้อที่และการรับโอนที่ต้องให้สามัเซ็นรับรองความเป็นสามีภรรยาด้วยก็เลยเซ็นไปก็เท่านั้น ซึ่งภายหลัง กรมที่ดินเขตห้วยขวางได้ออกมาบอกว่า ถึงไม่เซ็นยินยอมก้รับโอนฉโหนดที่ดินได้ และถ้าเมื่อกฏหมายเค้าให้ดูที่เจตนาคดีนี้ต้องยกฟ้อง และที่สำคัญไม่มีการทุจริตไม่มีฝ่ายไหนเสียหาย...และผมเชื่อ100%ถ้าคดีนี้ไม่ใช่ท่านทักษิณ ผมว่ายกฟ้องไปแล้ว ..แล้วคุณเทียบคดี สปก.4-01ดิ นั่นศาลตัดสินว่าผิดจริงมีการทุจริตจริง ให้เอาที่คืนหลวง แต่แปลกไหม คนที่เป็นเจ้ากระทรวงซึ่งออกนโยบายแจกที่ดินจนทำให้รัฐเสียหายกลับไม่โดนตัดสินลงโทษอะไรเลย...แปลกไหมเล่า นี่ไงความยุติธรรมเฮ็งซวยบ้านเราในขณะนี้.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:06:57 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:05:34 A:125.24.60.106 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ผมก็อยากให้ ลุงม้วน oK. อธิบายเรื่องเขายายเที่ยงด้วยครับ อันผมเห็นว่าเป็นเจตนาที่เห็น ๆ และรัฐเสียหายเห็น ๆ ลุงอธิบายให้ผมฟังได้ไหมครับ จากคุณ : ข้าราชการจนๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:05:45 A:125.24.129.194 X:

ความคิดเห็นที่ 33 การเซ็นต์ชื่อของคุณทักษิณ มันเป็นพยานหลักฐานที่มัดตัว คุณทักษิณว่า รู้เห็นยินยอมในการกระทำของคุณหญิงงัยครับ (กฎหมายเอาผิดตรงไปรู้เห็นยินยอมนี่ล่ะ) จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:09:21 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องเขายายเที่ยง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:12:22 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ลุงม้วน อย่าลืมเขายายเที่ยงผมด้วยครับ จากคุณ : ข้าราชการจนๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:13:02 A:125.24.129.194 X:

ความคิดเห็นที่ 36 ดูเหมือนจะมั่วกันไปใหญ่แล้ว... ความคิดเห็นที่ 24     ถ้าว่ากันเรื่องเจตนา... ผมไม่อ้างคุณทักษิณนะครับ ถ้ามีนายก ชื่อนาย ก. มีการกระทำเหมือนคุณทักษิณทุกอย่างเลย เอาเหมือนกรณีที่ดินรัชดาเปี๊ยบเลย แต่ จิตใจภายในของนาย ก. ต้องการซื้อที่ราคาถูกทำผิดกฎหมายแน่ๆ แบบนี้ศาลจะลงโทษได้มั๊ยครับ .... จากคุณ : ลุงม้วน ok. ตรงตัวหนาจะรู้ได้อย่างไรครับ... หรืออย่างที่ผมบอก ศาลอ่านใจคนได้ ตามหลักแล้ว " ผู้ต้องสงสัยจะต้องถูกตีความว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดจริงนะครับ " ต่อให้เขาคิดจะทำทุจริตจริงๆ แต่คุณหาเครื่องบ่งชี้เจตนาของเขาไม่ได้ คุณจะตัดสินว่าเขาผิดได้หรือ... ( แต่ศาลไทยทำได้ อันนี้ต้องยอม ) จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:13:17 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 37 คห33..ใช่ครับรู้เห็นยินยอม แล้วไง รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายถูกต้องนี่นะผิด เออถ้าซื้อขายไม่ถูกต้องมีการทุจริตดิแบบนี้ให้ถือว่าร่วมกันทุจริต แต่นี้ไม่ทุจริตแล้วจะอะไร /ส่วนไอ้ที่ทุจริตเอาที่ไปแจกดันลอยนวล คุณตะแบงไปเถอะ คนเค้าไม่เชื่อหลอก แล้วยิ่งผู้พิพากษาออกมาบอกว่า"ศาลใช้2มาตรฐานตัดสินจริง"ยิ่งเป็นครื่องยืนยันความเสื่อมของศาลเลยละทีนี้ ...ไม่มีใครเค้าเชื่อถือแล้ว ลุง แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:16:36 จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:14:08 A:125.24.60.106 X:

ความคิดเห็นที่ 38 สรุปกฏหมายใช้กับทักษิน ส่วนเขายายเที่ยง ที่ป่าสงวนชัดๆ แต่ไม่เป็นไรเพื่อนกันคมช. หุหุ จากคุณ : ร้อยเมตรหมื่นไมล์ในใจเรา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:15:20 A:115.67.60.248 X:

ความคิดเห็นที่ 39 นายก มีอำนาจควบคุมตรงไหน http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8521731/P8521731.html ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการขอเปลี่ยนได้ด้วยเหรอ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:16:40 จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:16:01 A:124.121.179.176 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ประมวลจากผู้ตอบ.... ลุงม้วน..ล้วนยึดมั่นในตัวหนังสือของกฎหมาย อย่างตรงเผง ไม่ยอมบิด ไม่ยอมงอ...ส่วนท่าน Savor และท่านอื่นๆ เห็นได้ชัดว่า จัดเจนในกฎหมาย(สงสัยเป็นทนาย มั๊งครับ) และใช้ความสามรถ+ ความรู้สึก แยกแยะ ความผิด ความถูก ความที่น่าจะเป็นไปได้...พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ได้อย่างดีมาก ซึ่ง ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ฟังแล้ว ก็ถูกทุกท่านนะครับ....ยังรอสรุปว่า แล้ว อะไรล่ะ ที่มันควรจะเป็น???????คน...ก็ถูกสังคมประนามไปแล้ว...แต่ความถูกต้อง ยังต้องถามหาครับ............ จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:23:43 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 41 1.เมื่อกฤษฎีกาบอกว่าไม่ผิด กองทุนฟื้นฟูผู้ขายก็ไม่คัดค้านคุณสมบัติ ก็เป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะรู้ว่าผิด 2.ถ้ายึดหลักความโปร่งใสเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน ก็ยอมรับว่าขัดกัน เพราะเพียงกระทำก็ผิดแล้ว ไม่ว่าจะเจตนาหรือทุจริตหรือไม่ก็ตาม แต่หลักการนี้ใช้ไม่ทั่วถึง ไม่ทั่วไป จากอดีตถึงปัจจุบันเชื่อว่ายังมีกรณีทำนองนี้อีกมากแต่ไม่มีใครเอาเรื่องเช่นทหารอยู่บ้านหลวง ใช้ของหลวง มีเรื่องผลประโยชน์ขัดกันหรือไม่ ไม่มีใครตรวจสอบ จึงเหมือนเป็นการเลือกปฎิบัติ หากผิดก็ควรรอลงอาญา 3.หลักเรื่องการตีความกฎหมายที่เป็นคุณต่อจำเลย คำว่าคู่สัญญากับรัฐควรจะเป็นสัญญาสัมปทานรับเหมาจัดซื้อจัดการมากกว่า การซื้อที่ดินซึ่งเบ็จเสร็จแล้ว จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:23:54 A:61.19.66.159 X:

ความคิดเห็นที่ 42 1.ขอบพระคุณคุณลุงม้วนครับ ที่แนะนำกฏหมาย ปปช.ให้ผมได้ความรู้เพิ่ม แม้ผมจะเคารพคำตัดสินของศาลว่าท่านตัดสินได้ถูกต้อง แต่ กฏหมายบ้านเราต้องอาศัยการ"ตีความ"เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ผมจึงคิดว่าองค์คณะผู้พิจารณาคดีจึงต้องปลอดจาก อคติ4 ไม่อย่างนั้นจะเชื่อได้อย่างไรว่า ท่านตีความโดยยุติธรรมจริงๆ 2.ส่วนเรื่อง เมียไม่ผิด แต่ผัวเซ็นต์มีความผิดนี่ ผมทราบครับว่า มันเป็นไปได้จากกระบวนพิจารณาคดี แต่ อาจารย์ผมสอนว่า กฏหมายควรมีผลที่เข้าใจง่ายในแง่ความยุติธรรม ให้คนในสังคม รู้สึกว่า คนผิดก็ต้องได้รับโทษ ตัวการ ผู้ใช้ ผู้จ้างวาน ผิดด้วยกันหมดนี่เข้าใจง่ายครับ แต่ผิดเป็นบางคนนี่ แม้ศาลท่านจะตัดสินได้ถูกต้อง คนทั่วไปก็กังขาอยู่ดี ลองเอาคนไม่รู้กฏหมาย ที่ไม่ได้เกลียดคุณทักษิณมาถามสิครับ ว่า เค้าเห็นด้วยกับผล โดยไม่สงสัยติดใจอะไรเลยหรือ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:27:01 A:222.123.164.121 X:

ความคิดเห็นที่ 43 เอานี่ดีกว่า"ในหลวงทรงตรัสกับคณะผู้พิพากษาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ว่า อย่าตัดสินอะไรให้เป็นที่สงสัย" ...แล้วมาดูคดีนี้กัน เป็นไงครับ คนเค้าสงสัยเคลือบแคลงทั้งในและนอกประเทศ...คือตัดสินไม่เคลียร์ไง มันผิดธรรมชาติจรรยาของพื้นฐานคำว่า"ศาลท่านมีความเมตาธรรม"ซึ่งจากอดีตเท่าที่ผมทราบมา โดยปรกติแล้วถ้าคดีไหนหรือข้อกล่าวหาไหนไม่มีหลักฐานชัดเจน และหรือ มีคนเห็นค้านจำนวนไม่น้อย หรือดูแล้วเจตนาของจำเลยไม่ตรงกับที่ผู้กล่าวหาร้อง ศาลท่านจะเมตตาโดยตัดสินให้เป็นผลบวกกับจำเลยเสมอมา...นี่คือธรรมชาติของ ตุลาการโดยปรกติ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:34:08 A:125.24.60.106 X:

ความคิดเห็นที่ 44 พยานทุกปาก ผู้ว่าปธท แม้กระทั่งชวนเอง ก็ให้ปากคำว่าไม่มีอำนาจควบคุมกองทุนฟื้นฟู... แต่ผลคำตัดสินกลับไปเป็นอีกทางนึง..ก็ไม่รู้็จะว่าอย่างไรครับ.. เชื่อได้ว่าอาจจะ เป็นคำที่เอามาใช้บ่อยเกินไปหรือปล่าว.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:40:31 จากคุณ : T_Romance เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:38:37 A:124.120.159.171 X:

ความคิดเห็นที่ 45 คห44..เห็นด้วยครับ นี่ก็เป้นอีก1จุด ที่เป็นที่เคลือบแคลง หลายฝ่ายเค้าออกมายืนยัน  แล้วผลก็ไม่ขาดลอย คือ5ต่อ4 ...คือ ผมก็ไม่ได้ตะแบงอะไร แต่มันแหม่งๆพิกลๆยังไงก็ไม่รู้ มันมีข้อให้จับได้ถึงความไม่โปรงใส คือไม่ใส ไม่ชัดเจน คลุมเคลือ หลายจุดครับ คดีนี้ จากคุณ : เธอ...ลำเอียง (ความเท่าเทียม) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:43:02 A:125.24.60.106 X:

ความคิดเห็นที่ 46 -36 เจตนาเป็นเรื่องที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัว หากรอให้ผู้กระทำบอกว่าตนมีเจตนา หรือไม่อย่างไร คงยาก ที่จะเอาผิดผู้กระทำความผิดได้ กฎหมายถึงได้มีหลัก กรรม(การกระทำ)เป็นเครื่องชี้เจตนา งัยครับ ยกตัวอย่างง่ายๆถ้าใช้ปืนยิงไปที่หัว จะบอกว่าไม่มีเจตนา หรือมีเจตนาแค่ทำร้ายไม่ได้ เพราะการกระทำที่ใช้ปืนยิงจ้อง ไปที่หัวคนทั่วไปเขาถือว่ามีเจตนาฆ่าแล้วครับ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:49:49 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 47 ลุงม้วนครับ เขายายเทียงนี้เจตนาไหมครับ จากคุณ : ข้าราชการจนๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:53:29 A:125.24.129.194 X:

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วทำไมต้องเขียน ม.309  แนบท้ายด้วย ก็กลัวความผิดเหมือนกัน เพราะทุกวันนี้ปัญหาความขัดแย้งยังไม่ยุติ ไอ้คนที่ก่อการปฎิวัติมันเคยรับผิดชอบอะไรมั๊ย จากคุณ : s.kaya เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:57:09 A:124.157.141.75 X:

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 44     พยานทุกปาก ผู้ว่าปธท แม้กระทั่งชวนเอง ก็ให้ปากคำว่าไม่มีอำนาจควบคุมกองทุนฟื้นฟู... แต่ผลคำตัดสินกลับไปเป็นอีกทางนึง..ก็ไม่รู้็จะว่าอย่างไรครับ.. เชื่อได้ว่าอาจจะ เป็นคำที่เอามาใช้บ่อยเกินไปหรือปล่าว.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:40:31 จากคุณ : T_Romance     เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:38:37 A:124.120.159.171 X:      ................................................ มิได้เป็นเช่นนั้นครับ ลองไปหาอ่านคำพิพากษาดู จะยกมาให้ดู ก็เกรงข้อหาตัดแปะอีก...555 จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:57:44 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 50 ผมเพิ่งเห็น..กระทู้เดียวกันนี้ โพสโดย คุณ grandmom....ต้องขอโทษด้วยครับ..ที่กระทูมีความหมายเดียวกัน และที่นั่น ก็มีผู้ให้ความเห็นมากมาย ล้วนน่าฟังทั้งนั้น ใครลองเข้าไปดูนะครับ หัวข้อ จะโพสก่อนผมประมาณ 4-5 หัวข้อครับ...นี่แสดงว่า..หัวข้อนี้ เป็นที่สนใจกันอย่างกว้างขวาง ผู้ที่ตอบกระทู้ ของคุณ grandmom ไม่ใช่ผู้ที่ ตอบกระทู้ของผม.....ซึ่งยิ่งแสดงว่า ..เหตุการณืนี้...น่าสนใจ..และควรที่จะแสดงความเห็นมากๆ..จะได้เป็น.....อะไรบางอย่างสำหรับผู้ที่ทำให้เกิดขึ้น.....หรือ..อาจจะเป็นข้อมูลใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้...ในการเรียกร้องความยุติธรรม.ให้เกิดขึ้น... ในโอกาสหน้าก็เป็นได้ จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:59:20 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 51 rep 46 คุณอย่าแถมั่วซิครับ... คุณอ้างมาครั้งก่อนเรื่อง " เจตนา " แล้วก็ยกประโยคนี้มา " ถ้ามีนายก ชื่อนาย ก. มีการกระทำเหมือนคุณทักษิณทุกอย่างเลย เอาเหมือนกรณีที่ดินรัชดาเปี๊ยบเลย แต่ จิตใจภายในของนาย ก. " ถ้าเอาเหมือนทักษิณ คือคุณหาเจตนาทุจริตไม่ได้ คุณหาความเชื่อมโยงส่วนตัวระหว่างทักษิณกับกรรมการกองทุนไม่ได้ คุณหาความเกี่ยวข้องระหว่างผู้เข้าประมูลไม่ได้ เช่นนี้คุณจะตัดสินได้อย่างไรครับว่า นาย ก. มีเจตนาจะเอาเปรียบรัฐ ??? ต่อให้คิดทำจริงๆก็เถอะ... งั้นตอบผมมาหน่อยซิครับ... จากการพิสูจน์ทั้งหมดของศาล คุณตัดสินเอาจากตรงไหนว่า คุณทักษิณ มีเจตนาเอาเปรียบรัฐ ??? ในเมื่อศาลยังเล่นตรงนี้ไม่ได้เลย ไปดูแค่ตรงเซ็นชื่อให้เมีย และเลี่ยงไปใช้คำว่า " อาจ น่าจะ " กับบริบทที่อื่นแทน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 11:06:48 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 11:06:01 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:02:35 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 52 46..ลุงม้วน ครับ ..ผมไม่เห็นด้วยในข้อนี้....ใช่ เจตนา..อยู่ในใจ..กรรม..คือการกระทำ...ทักษิณ กระทำอย่างไรครับ???? กระทำการเซ็นต์ชื่อ ยินยอมหรือครับ?????หลายๆท่าน ก็ บอกแล้วว่า จะเซนต์ หรือไม่ การซื้อขายก็กระทำได้...และเจตนาที่เซนต์ ก็มีบางท่านแจ้งแล้วว่า เซนต์เพื่อรับรู้....แล้วหลายๆอย่างที่ประกอปกัน...โดยเฉพาะกฤษฎีกา..ก็บอกว่าไม่ผิด....อย่างนี้..ทำไมยังตัดสินชี้ขาดได้ขนาดนี้ครับ.....การตัดสินแบบนี้ ถือว่า ..กรรม..คือการกระทำที่เกินกว่าเหตุ..อย่างนั้นใช่ไหมครับ???? ตามพื้นฐานแล้ว...เทียบกันไม่ได้เลย กับคดี สปก 4-01...หรือ คดี ปรส.....ลองเปรียบเทียบดูสิครับ...จะเห็น กรรม..คือการกระทำ???อะไร??เกิดขึ้น จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:09:46 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 49   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   ความคิดเห็นที่ 44     พยานทุกปาก ผู้ว่าปธท แม้กระทั่งชวนเอง ก็ให้ปากคำว่าไม่มีอำนาจควบคุมกองทุนฟื้นฟู... แต่ผลคำตัดสินกลับไปเป็นอีกทางนึง..ก็ไม่รู้็จะว่าอย่างไรครับ.. เชื่อได้ว่าอาจจะ เป็นคำที่เอามาใช้บ่อยเกินไปหรือปล่าว.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 10:40:31 จากคุณ : T_Romance     เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:38:37 A:124.120.159.171 X:   ................................................ มิได้เป็นเช่นนั้นครับ ลองไปหาอ่านคำพิพากษาดู จะยกมาให้ดู ก็เกรงข้อหาตัดแปะอีก...555 จากคุณ : ลุงม้วน ok. ^ ^ ^ ยังแถกเรื่องนี้ไม่จบอีก กระทู้เก่าก็ยังอยู่ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8521731/P8521731.html ความคิดเห็นที่ 11   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คห.9 ที่คุณบอกว่า พยานทุกปากบอกว่านายก ไม่มีอำนาจควบคุม นั้น ผมว่าคุณบิดเบือนนะ... .................................................................................... นาย สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เบิกความว่า รัฐบาลออกพันธบัตรมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน          นายไพโรจน์ เฮงสกุล อดีตผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เบิกความว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน อยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย โครงสร้างการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นไปตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน          คณะกรรมการ และคณะกรรมการอื่น เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รัฐมนตรีจะขอหรือสั่งการให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ดำเนินการในเรื่องใดเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีได้ ภายหลังเกิดวิกฤตปี 2540 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีหนี้มาก หนี้เหล่านี้มาจากการขายพันธบัตรเพื่อเอาเงินมาช่วยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงิน และมีดอกเบี้ยซึ่งเป็นภาระรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณมาจ่าย          การจัดการของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน คณะกรรมการจัดการกองทุนทำได้เอง แต่บางเรื่อง เช่น การเพิ่มทุน หรือลดทุน ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรี          นางสว่างจิต จัยวัฒน์ อดีตผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เบิกความว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ เพื่อแก้ไขสถาบันการเงินโดยช่วยเหลือผู้ฝากเงิน คือเป็นหลักประกันว่า ในกรณีที่สถาบันการเงินมีปัญหา ผู้ฝากเงินจะได้รับเงินคืนครบถ้วน          และนายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เบิกความว่า ขณะเกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2527 รัฐบาลหรือธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีเครื่องมือช่วยสภาพคล่องสถาบันการเงิน ดังนั้นจึงตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินขึ้นมา โดยมีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย การที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จ่ายเงินไปเพื่อช่วยสถาบันการเงินที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง หรือเรื่องความอยู่รอด หรือล้มละลายของสถาบันการเงิน หากสถาบันการเงินมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องและล้มละลาย ก็จะจ่ายเงินให้ไม่ได้ เพราะจะไม่ได้เงินกลับคืน ถ้าไม่ได้กลับคืนมาก็จะต้องหาเงินมาใส่ การเอาเงินมาใส่ก็เอามาจากภาษีอากร คือโยกเงินมาจากรัฐบาลมาใส่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย          ฉะนั้น การจะให้สภาพคล่องต่อสถาบันการเงินจึงต้องมีการตัดสินใจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง          คำเบิกความของพยานดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ในทางปฏิบัติของการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เคยใช้อำนาจดังกล่าวกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการ เงิน โดยผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามลำดับชั้น แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 52 10:09:55 จากคุณ : ลุงม้วน ok. ความคิดเห็นที่ 17 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน อยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย โครงสร้างการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นไปตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประธาน   ธนาคารแห่งประเทศไทย  จัดเป็นองค์กรณ์อิสระ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้ออกนอกกฎ โดยทำตามนโยบายรัฐ การจะให้สภาพคล่องต่อสถาบันการเงินจึงต้องมีการตัดสินใจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง   อดีตปลัดกระทรวงการคลัง   เบิกความตรงไหน ว่านายกมีอำนาจกำกับดูแลตรงไหน    เค้าบอกแค่ เอากรณีเดียว ที่เงินไม่พอ แล้วรมต.คลัง สั่งให้เอาเงินเข้าไป ถือว่ากำกับดูแลโดยขั้นตอนเหรอ "คำเบิกความของพยานดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ในทางปฏิบัติของการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เคยใช้อำนาจดังกล่าวกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการ เงิน โดยผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามลำดับชั้น" อ่านให้แตก นี่คือคำสรุปผู้ตัดสินว่าเห็นว่า รมต.คลัง  และธนาคารแห่งประเทศไทย  เคยสั่งให้เอาเงินเข้ากองทุน  เลยถือว่า มีอำนาจควบคุม ไม่มีการกระทำที่นายกสั่งงานกองทุนเลย นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง  บอกตรงไหนว่านายก มีอำนาจควบคุม ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากเล่าประวัติการเกิด และวิธีดำเนินงานแล้ว นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง  บอกตรงไหนว่านายก มีอำนาจควบคุม ผมบิดเบือนตรงไหน หรือคุณอ่านไม่แตกเอง ใส่ความกันรึเปล่า ตอบหน่อย ความคิดเห็นที่ 21   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   การจะให้สภาพคล่องต่อสถาบันการเงินจึงต้องมีการตัดสินใจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ^ ^ ^ แปลง่ายๆ แค่ถ้าเค้าขอเงิน จะให้หรือไม่ให้ ควบคุมตรงไหนจ๊ะ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:12:51 A:124.121.179.176 X:

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 30     #26 จากหลักกฎหมายที่ว่า  กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา  งัยครับ **************** ถ้าคุณยอมรับว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา  การที่ปรึกษากฤษฎีกา  ผู้รู้กฎหมายก่อน   เท่ากับแสดงเจตนาว่า  ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย  มิใช่หรือ  ดังนั้นถ้าพิจารณาอย่างเป็นธรรม  อย่างน้อยที่สุดก็ควรรอลงอาญา  ไม่ใช่ลงโทษเต็มที่แบบนี้  มันสะท้อนให้เห็นธงครับ จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:12:57 A:124.120.93.55 X:

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 23   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   นอกจากเล่าประวัติการเกิด และวิธีดำเนินงานเล่ารายละเอียดแล้ว มีพยานปากไหน บอกตรงไหนว่านายก มีอำนาจควบคุม ผมบิดเบือนตรงไหน หรือคุณอ่านไม่แตกเอง ใส่ความกันรึเปล่า ตอบหน่อย ศาลสรุปจากประวัติ พยานไม่ได้พูด จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:13:45 A:124.121.179.176 X:

ความคิดเห็นที่ 56 ก็ยังมีคนตอบว่า "คนเสียหายคือประเทศ" ( คห.6 )   คิดได้เน๊อะ.....เสียหายตรงไหน  ฟังใครเขามา รายงานด้วย อย่าพูดลอยๆสิครับ....น่าเบื่อ จากคุณ : dirtylism เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:16:41 A:58.8.169.134 X:

ความคิดเห็นที่ 57 ในคดีอาญา ต้องสัณนิฐาณไว่ก่อนว่าจำเลยบริสุทธิ์ หากมีข้อสงสัย ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย คดีนี้ศาลตัดสินด้วยคะแนน ๕ต่อ๔ แสดงว่า มีผู้พิพากษา ๔ ท่านเห็นว่าจำเลยบริสุทธิ์ ซึ่งเทียบกับ ๕ ท่านที่เห็นต่างแล้ว ต้องถือว่าใกล้เคียงกันมาก น่าสงสัย ฉะนั้น ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย คือศาลนี่จะตัดสินอย่างไรก็ได้ เพราะมีกฏหมายปิดปากผู้อื่น ใครคัดค้านก็โดนข้อหาหมิ่นศาล ไปติดคุก แต่ผู้พิพากษาก็ต้องตระหนักไว้ด้วยว่า ท่านปิดปากกผู้อื่นได้ แต่ไม่สามารถปิดกั้นความรู้สึกรักความยุติธรรมในใจของผู้อื่นได้ จากคุณ : bleed เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:20:36 A:61.19.65.109 X:

ความคิดเห็นที่ 58 51 ,52 ถ้าจะว่ากัน ด้วยกฎหมายปปช.ม.100จริงๆแล้ว กฎหมายไม่สนด้วยซ้ำว่าจะมีเจตนาโกงหรือไม่ ถ้าใครไปกระทำ หรือที่กฎหมายถือว่ากระทำ (อย่างในกรณีของคุณทักษิณ) ก็ผิดแล้ว จริงๆไม่น่าเอาเรื่องเจตนาหรือไม่เจตนา มาเป็นประเด็นเลย .................................. 53 คดีอาญาหลายๆคดี พยานเค้าก็มาเล่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ศาล ฟังทั้งนั้นแหละครับ และศาลก็เป็นผู้ปรับเข้ากับข้อกฎหมายเอง ก็ทำนองเดียวกับคดีที่ดินรัชดา เมื่อพยานเบิกความว่ามีกรณีอย่าง นี้ แบบนี้ ศาลก็มาปรับแล้ววินิจฉัยว่า มีอำนาจกำกับดูแล ไม่เห็นแปลก ตรงไหนนี่ครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:36:16 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 59 สำหรับผม ไม่มีความทางกฏหมาย แต่ ผม บอกได้ว่า  โกง คืออะไร คิดไม่ดีคืออะไร กรณีทีดิน ถ้าทักษิณจะโกง ก็ให้ผมไปซื้อแทนก็ได้ ก็ให้คนใช้ไปซื้อแทนก็ได้ ก็ให้เพื่อนฟูงที่ทำธุรกิจด้วยกัน ซื้อแทนก็ได้ คือ อะไรก็ได้ ที่ ไม่ได้ออกหน้าเอง แล้วผ่านไป สองสามปี ก็ค่อยทำเป็นซื้อต่ออีกทอด หรืออะไรก็ได้ คนโกง ไม่มีใครเอาตัวเองไปออกหน้า คนโกง ไม่มีใครเอาครอบครัวตัวเองไปออกหน้า ถ้าพูดกันเรื่องโกง ทักษิณ กับ ชวน ผมยังคิดว่า ชวน น่าจะโกงมากกว่า เพราะชวนแต่งงาน ไม่จดทะเบียน ถามว่าทำไมไม่จด มีเจตนาอะไรหรือเปล่า ผมคิดของผม ง่ายๆ แบบนี้แหละ ทุกอย่าง มันมาจากพื้นฐานทั้งนั้นและครับ จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:40:10 A:112.142.147.13 X:

ความคิดเห็นที่ 60 ถาม 56 ขับรถผ่าไฟแดง พกปืนไปเดินเที่ยว ใครเป็นผู้เสียหาย... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:40:21 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 61 นี่เขามาซื้อชองนะครับ ไม่ใช่ มารับงานของหลวง และคณะกรรมการที่เปิดซองพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้ายื่นซองประมูลเขาพิจารณาให้ผ่านด้านคุณสมบัติไม่มีความผิดได้อย่างไร เหมือนที่ท่านพระโพยมซื้อที่ดินแล้วกินแห้วเป็นยังไง เสียเงินซื้อที่ดินแล้วยังต้องไปขึ้นศาลพ้องร้องอีก นี่แหละท่านผู้พิพากษาที่ทรงความยุติธรรม. จากคุณ : ต.สมบูรณ์ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:41:13 A:113.53.209.207 X:

ความคิดเห็นที่ 62 นายก เข้าไปกำกับดูแล กองทุนฟื้นฟูได้ โดยผ่านรมต.คลัง ประเด็นนี้ศาลมีคำวินิจฉัยไปแล้วครับ อีกทั้งธปท.ก็ไม่ใช่องค์กรอิสระ ไปเปิดรธน.ดูได้ นอกจากนี้ ตามพรบ.ธปท. ยังกำหนดให้ ธปท. อยู่ภายในกำกับดูแลของรมต. ลุงม้วนครับ แล้วทำไมคดี นายกชวน ศาลท่านบอก นายก ไม่มีอำนาจกับกับดูแล และครับท่าน ตกลง นายกมีอำนาจ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวันนั้นของศาลท่านหรือครับ จากคุณ : ธนูไฟ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:42:17 A:112.142.147.13 X:

ความคิดเห็นที่ 63 rep 58 ไม่ต้องพิสูจน์ว่าเจตนาทุจริต ถูกต้องครับ... แต่เจตนาว่าที่เซ็นชื่อไปต้องการเอาเปรียบรัฐหรือไม่ อันนี้มันก็คนละเรื่องกันอีกครับ... เช่น นาย ก. เซ็นไปเพราะเข้าใจผิด มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทำผิด ฯลฯ ถามว่าโทษต้องขนาดเข้าคุกเลยหรือ... อันนี้มันก็เกี่ยวกับเจตนาอยู่เหมือนกัน... ส่วนเรื่องอำนาจกำกับดูแล มันก็ไม่ผิดที่ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ แต่การวินิจฉัยนั้น ต้องอยู่ในกรอบครับ... ไม่ใช่เขาบอกว่า ต้องมีเรื่องสู่ ครม. แล้วนายกจึงยื่นเรื่องให้กับ ครม. แล้วมีอำนาจสั่งได้อีกที แบบนี้คุณก็ต้อง assume ไปว่า ถ้าในกรณีที่ดินรัชดา นายกจะสั่งการกองทุนจะทำอย่างไร ? เป็นไปได้หรือไม่ที่จะทุจริตจากกรณีนี้ ? ( เพราะมันเป็นกฎหมายป้องกันทุจริต ) ไม่ใช่มาบอก นี่ไง... สั่งได้แล้ว... แต่จะสั่งได้ในกรณีไหนช่างหัวมัน... แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 11:46:02 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:44:57 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 64 คุณุ62 ประเด็นคุณชวน คุณมีข้อมูล ขนาดไหน ช่วยบอกหน่อยสิครับ ว่า ใครฟ้อง ฟ้องข้อหาอะไร ตามพรบ.อะไร ประเด็นที่ตัดสินเป็น กรณีเดียวกับคุณทักษิณหรือไม่ และตัดสินว่ายังงัย ถ้าขี้เกียจพิมพ์ก็ช่วยตัดแปะ หรือวางลิงค์ให้หน่อยจะขอบคุณมากครับ คุณ 63 ก็ไม่เป็นไรอำนาจกำกับดูแลจะมีหรือไม่คุณเห็นต่างได้ แม้แต่ศาล เองยังเห็นต่างกัน 6 ต่อ 3 เลยครับ เพียงแต่ว่าเสียงข้างมาก ของผู้มีหน้าที่โดยตรงเขาเห็นว่ามีอำนาจกำกับดูแล เราก็ต้องยอมรับ ไม่งั้นไม่จบครับ ... ส่วนเรื่องเซ็นต์ชื่อของคุณทักษิณ มันสำคัญแค่พิสูจน์ว่าคุณทักษิณ รู้เห็นยินยอมในการกระทำของคุณหญิงพจมานครับ ถ้าจะสู้เรื่องเจตนา ก็ต้องบอกว่า ตนไม่ได้รู้เห็นยินยอม ลงชื่อโดยไม่มีสติสมบูรณ์ ไม่มีเจตนายินยอมให้คุณหญิงซื้อที่ดิน อะไรประมาณนี้แหละครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 12:07:11 จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:01:39 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 58     51 ,52 ถ้าจะว่ากัน ด้วยกฎหมายปปช.ม.100จริงๆแล้ว กฎหมายไม่สนด้วยซ้ำว่าจะมีเจตนาโกงหรือไม่ ถ้าใครไปกระทำ หรือที่กฎหมายถือว่ากระทำ (อย่างในกรณีของคุณทักษิณ) ก็ผิดแล้ว *************** ไม่จริงครับ   ตามหลักกฎหมาย  แม้ในกฎหมายอื่นที่มาตรานั้นๆจะไม่กล่าวถึงเจตนา  แต่ในการตีความกฎหมาย  ผู้พิพากษาต้องนำหลักเจตนามาประกอบเสมอ  เพราะเป็นหลักการตีความครับ  กฏหมายไม่ใช่อ่านแค่ตามตัวอักษร ---------------------------------- ความคิดเห็นที่ 60     ถาม 56 ขับรถผ่าไฟแดง พกปืนไปเดินเที่ยว ใครเป็นผู้เสียหาย... **************** ไม่มีผู้เสียหายครับ  เพราะในส่วนการลงโทษตามกฎหมายอาญา กฎหมายจะมี 2 ประเภท คือ กฎหมายอาญา  และ กฎหมายที่มีโทษทางอาญา ขับรถผ่าไฟแดง พกปืนไปเดินเที่ยว เล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ เป็นกฎหมายที่มีโทษทางอาญา ครับ เจตนาการออกกฎหมายเพียงเพื่อควบคุมการกระทำบางอย่างของประชาชนให้เป็นไปในทางที่รัฐต้องการ  ผู้ที่ฝ่าฝืนจึงไม่ใช่อาชญากร  และการลงโทษจะเป็นการตักเตือนเพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยหรือพฤติกรรม  มากกว่าที่จะลงโทษอย่างจริงจัง   กรณีที่ดินรัชดา  การที่ลงโทษสูงสุด  โดยไม่รอลงอาญา จึงขัดกับความประสงค์ของการออกกฎหมาย จากคุณ : เติ้ง1234 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:46:35 A:124.120.93.55 X:

ความคิดเห็นที่ 66 rep 64 ศาลมิใช่ผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงครับ... แต่เป็นผู้วินิจฉัยกฎหมายเท่านั้น ถ้าวินิจฉัยมาอย่างมีความน่ากังขา แบบนี้ครับ เรื่องจะไม่จบ... ศาลไม่ใช่พระเจ้าครับ... ที่เราจะต้องยอมเชื่อฟังทุกคำสั่ง มันก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า " ถ้าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงบอกว่าไม่ผิด ทำได้ แล้วศาลดันมาบอกว่าผิด แบบนี้ผมติดคุก " แบบนี้มันยุติธรรมหรือ... ในเมื่อขั้นตอนต่างๆ ศาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย อย่างนี้ก่อนจะทำอะไร ไม่ต้องยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัยหมดเหรอ... เรื่อง เจตนา คุณก็ยังแถมาผิดๆอีก เจตนาที่ว่าก็คือ " เจตนาตั้งใจทำผิดกฎหมายหรือไม่... " ซึ่งเมื่อดูก็คือ คุณทักษิณถามทางกองทุนที่มีอำนาจโดยตรงไป และก็ไม่ได้มีเจตนาในการทุจริต ไม่ได้มีเจตนาเลี่ยงกฎหมาย ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อเลี่ยงกฎหมาย อาจเป็นเพียงความเข้าใจกฎหมายผิด และผู้มีหน้าที่ก็เข้าใจผิดตรงนี้เช่นกัน ( ซึ่งผมว่าไม่ได้เข้าใจผิดหรอก... เสียง 5 เสียงที่บอกว่าผิดนั่นแหละ ตามธงแบบผิดๆ ) เมื่อดูจาก " เจตนา " ตรงนี้แล้ว สมควรที่จะเอาเข้าคุกทันทีเลยเหรอ ??? ส่วนเรื่องลงชื่อโดยไม่มีสตินั้นไม่ได้พิสูจน์เรื่องเจตนานะครับ... มันเกี่ยวกับ " การรู้เห็น " ต่างหาก ถ้ามีข้อนี้เกี่ยว หมายถึงจำเลยบริสุทธิ์ ยกฟ้อง ทันที ซึ่งคนละเรื่องกับ " เจตนา " หวังว่าคงเข้าใจไม่แถอีกนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 13:01:07 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:00:33 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 67 การลงชื่อมันพิสูจน์ว่ารู้เห็นอย่างที่คุณว่านั่นแหละครับ การที่จะบอกว่าไม่รู้เห็น ก็ต้องตอบให้ได้ว่า ลงชื่อไปโดยไม่รู้ ไม่มีเจตนาในการลงชื่อรู้เห็นยินยอมงัยครับ... ส่วนเรื่อง...เจ้าหน้าที่โดยตรงบอกว่าไม่ผิด ลองคิดดูนะ  ถ้าเราปรึกษาลูกน้องเรา คำตอบที่ได้อาจจะเอาใจเราก็ได้ แล้วเราจะเอาคำตอบนี้ไปใช้ยัน กับบุคคลภายนอกได้หรือ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:24:22 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 68 เพื่อลายทักษิณทุกอย่างเลยเละเทะไปหมดก็ยอม จากคุณ : tnmcfc เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:27:25 A:112.142.29.87 X:

ความคิดเห็นที่ 69 rep 67 หมายถึงเจตนาลงชื่อ รู้เห็นในธุรกรรม แต่เพราะเข้าใจว่าการกระทำนั้นทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ครับคุณ ต้องให้แปลไทยเป็นไทยอีก เฮ้อ... แล้วเรื่องที่สอง เผอิญไอ้นั่นมันไม่ใช่ลูกน้องเราครับ มันเป็นคนที่มีหน้าที่ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐครับ... มันถึงมีปัญหาไงว่า ถ้าถามเจ้าหน้าที่แล้ว... บอกว่าทำได้ ศาลดันมาบอกให้ติดคุก แบบนี้จะมีเจ้าหน้าที่ไว้ทำอะไร... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:57:01 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 69     แต่เพราะเข้าใจว่าการกระทำนั้นทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ครับคุณ ............ ถ้าเข้าใจว่า การโกงเงินรัฐไม่ผิดกฎหมาย แล้วคุณจะทำงัย จะบอกว่าไม่ผิด เพราะเขาเข้าใจว่ามีอำนาจโกงได้หรือครับ .............. เรื่องที่สอง นายกรัฐมนตรี คือหัวหน้าฝ่ายบริหาร ครับ ลองยกตัวอย่าง ถ้าผมเป็นผู้บริหาร ผมจะซื้อที่ดินของบริษัท แต่ผมไม่มั่นใจว่ามีข้อห้ามผู้บริหารซื้อหรือไม่ ผมก็อาจจะถามไป ที่แผนกกฎหมายเอง หรือ บอกให้แผนกที่จะขายไปปรึกษาฝ่าย กฏหมาย ถ้าเป็นแบบนี้คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่า คำปรึกษาที่ได้มา จะไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ เราจะเชื่อแต่ความเห็นของที่ปรึกษา ที่ให้คำปรึกษาแบบประจบเจ้านาย แล้วถือเป็นยุติตามนั้นไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 14:17:15 A:125.27.128.63 X:

ความคิดเห็นที่ 71 rep 70 อย่านอกประเด็นซิครับ... เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดแบบเห็นๆ ต้องตีความ ผมสมมติง่ายๆว่า เป็นศาล 4 ใน 9 คนที่วินิจฉัยทำบ้าง เช่นนี้ถือว่าเจตนาทำผิดกฎหมาย ต้องติดคุกโดยการตีความของ 5 คนที่เหลือเลยเหรอ... มันผิดตั้งแต่คุณตีความว่า กรรมการต้องเอาใจนายก กฤษฎีกาต้องเอาใจนายกแล้วล่ะครับ... ถ้าคิดเช่นนั้นจริงๆ ต่อไปจากนี้ นายก จะรับคำปรึกษาจากใครได้ ? หรือว่าต้องยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาอย่างเดียว... แล้วการที่เขาปรึกษานี่ไม่ใช่การแสดง " เจตนา " หรือครับ ว่าผมไม่ได้ต้องการทำผิดกฎหมายนะ ถ้าพูดถึงเรื่องเจตนาน่ะ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 14:42:43 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 72 วันนี้....พี่ Savor กับ ลุงม้วน...สู้กันแบบ แมนนี่ ปาเกียวเลยนะ...ยก 12แล้วยังหยุดไม่ได้ กรรมการกำลังให้ เวลานอกอยู่.....ดีครับ..ยังไงๆก็อย่าเป็นศัตรูกัน....ช่วยกันใช้มันสมอง ตีแผ่ความจริงที่ คาใจชาวบ้านมานานอยู่ในขณะนี้...เพราะงานนี้ ผมเชื่อว่า ทักษิณ ต้องกลับมาและต่อสู้คดี ต่อ ถึงแม้จะตัดสินไปแล้วก็ตาม...จะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่...เพราะการอภัยโทษยังสามารถทำได้ พร้อมๆกับ ชำระความให้เรียบร้อย เพื่อแสดงความโปร่งใส ให่แก่ประชาชน มิฉะนั้น ทักษิณ ก็จะยังไม่สามารถยืน อยู่ในสังคมไทยได้อีกต่อไป...เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น.....เพราะท่านโดนหนักมาก..ผิผไม่ผิด ก็ว่ากัน ในยกต่อไปครับ จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:50:35 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ Perfect Day : P-Blur " ผู้เสียหายก้อคือประเทศไม่ใช่เหรอ " - ประเทศไทยเสียหายอะไร ? จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:57:04 A:124.122.5.252 X:

ความคิดเห็นที่ 75 คุณลุงม้วน ok. (ต่อ) " อีกทั้งธปท.ก็ไม่ใช่องค์กรอิสระ ไปเปิดรธน.ดูได้ " - รธน.มาตราไหนช่วยระบุด้วย หรือช่วยนำข้อมูลนี้มาให้ดูที " สำหรับเรื่องที่ชอบพูดกันว่า เมียซื้อไม่ผิด ผัวเซ็นต์ยินยอมผิด เรื่องนี้ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว แต่ผมเชื่อว่าคนที่พูดแบบนี้ ไม่เคยอ่านกฎหมายปปช.เลย น่าจะไปอ่านกฎหมายปปช.ก่อน ถ้าได้อ่านแล้ว เรื่องนี้อาจไม่เป็นประเด็นให้ต้องกเถียงกันเลย..." - ถ้าเช่นนั้นชวนก็คงจะไม่ได้อ่านกฎหมายปปช. เพราะชวนบอกนายกไม่มีอำนาจควบคุมสั่งการกองทุน ดังนั้น กรณีนี้จะผิดตามปปช.ม.100 ก็แปลกอยู่ กรณีที่ดินรัชดา คนที่เขามองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมีกรณีดังนี้คือ 1. การประมูลหรือซื้อขายที่ดิน ไม่มีการกระทำที่เป็นการทุจริตหรือมีความผิดใดๆ ทั้งในส่วนของผู้ซื้อ(ผู้เข้าประมูล)และผู้ขาย(ผู้เปิดประมูล) แต่คู่สมรสของผู้ซื้อที่ต้องเซ็นรับรองตามกฎหมายเพื่อโอน...กลับผิด 2. ที่บอกว่าผิดมาตรา 100 ตามกฎหมายปปช.นั้น เนื้อหามาตรานี้ระบุว่า... มาตรา 100 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้ (1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจ กำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี (2) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญา กับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี (3) รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญา กับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว (4) เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ ของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ของรัฐผู้นั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการ ดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ................................................................. จะเห็นได้ว่า กรณีที่ดินรัชดาไม่มีข้อไหนที่จะเข้าข่ายเอาผิดได้เลย ข้อ 2-4 ไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ในขณะที่ข้อ 1 ทั้งชวน บรรหาร ในฐานะอดีตนายก รวมถึงหม่อมอุ๋ย(อดีต)ประธานกองทุนฟื้นฟูฯ ให้การกับศาลบอกประมาณว่า กองทุนฟื้นฟูเป็นองค์กรอิสระไม่อยู่ในการกำกับดูแลของนายก ดังนั้น เมื่อมีการชี้โทษประเด็นนี้ขึ้นมาจึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แต่เป็นในทางที่ไม่เห็นด้วยเสียมากกว่า 3. กรณีการลงมติของผู้พิพากษา ผลออกมา 5-4 โดย 5 เสียงให้ผิด จึงมีความกังขาว่าเป็นไปตามบทบัญญัติทางกฎหมายหรือไม่ ? ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลักษณะ3 คำพิพากษาและคำสั่ง มาตรา 184 ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ อธิบดีผู้พิพากษา ข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้น หรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็น สุดท้าย การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้าง มากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอม เห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า http://203.157.114.10/homepage/mwdho/Vi%20Criminal%20182-192.htm ................................................................. หมายความว่า มติที่ดินรัชดา จริงๆ แล้ว 5 เสียงควรจะเป็นมติที่ให้ทักษิณไม่ผิดมากกว่า เพราะหากดำเนินการตามกฎหมาย แสดงว่าผู้พิพากษา 8 คน(ไม่รวมประธาน) ลงมติเป็น 4(ผิด) - 4(ไม่ผิด) ดังนั้น ประธานจะต้องไปลงคะแนนให้กับ 4 คนที่เห็นว่าไม่ผิด เพราะกฎหมายระบุชัดเจนว่า หาก 8 คนแรกออกเสียงมาเท่ากัน 4-4 ประธานจะต้องเห็นด้วยกับ 4 เสียงที่เห็นว่าจำเลยไม่ผิดหรือโทษน้อยกว่าที่อีก 4 เสียงระบุว่าต้องลงโทษหนัก เหล่านี้คือข้อกังขาส่วนหนึ่งของฝ่ายที่เขามองว่า ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:59:04 A:124.122.5.252 X:

ความคิดเห็นที่ 76 คุณลุงม้วน ok. (ต่อ) ชวน-บรรหารยืนยันไม่มีอำนาจสั่งการกองทุนฯ 'ชวน-บรรหาร' แจงคดีที่ดินรัชดา เมื่อ เวลา 09.30 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายทองหล่อ โฉมงาม รองประธานศาลฎีกา ในฐานะเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน นัดสืบพยานโจทก์นัดแรก ในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ กรณีการประมูลซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาฯ จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาตรา 4, 100 และ 102 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 86, 91, 152 และ 157 โดยนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะอัยการโจทก์ นำพยานขึ้นเบิกความจำนวน 4 ปาก คือนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชัน (คปต.) และ น.ส.กัลยาณี รุทระกาญจน์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ ทั้งนี้ นายบรรหาร และนายชวน ได้ขึ้นเบิกความในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีไปในทำนองเดียวกันว่า ระหว่างที่ทั้งสองดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยมีอำนาจสั่งการไปยังกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ตั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับดูแลคณะรัฐมนตรีอีกทอดหนึ่งเท่านั้น จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 16:00:35 A:124.122.5.252 X:

ความคิดเห็นที่ 77 71 หามิได้ ผมไม่เคยบอกว่ากฤษฎีกาจะต้องตีความเอาใจนายก การจะตีความเอาใจหรือไม่เอาใจมันเป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นเรื่อง ลูกน้องกับเจ้านาย ผมถึงบอกว่าจะเอาการตีความของลูกน้อง มาเป็นข้อยุติไม่ได้ ควรจะต้องมีการตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง สมมตินะครับหากในอนาคต มีนายก คนหนึ่งสั่งให้ลูกน้องตีความ ว่าสามารถเอาเงินหลวงไปใช้ส่วนตัวได้ นายก จึงเอาไปใช้ส่วนตัว พอมีเรื่องขึ้นมา คุณจะยอมให้นายก บอกว่า ไม่มีเจตนา ถามลูกน้อง แล้ว ลูกน้องบอกว่าเอาไปใช้ได้ คุณอยากให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นเหรอ ...ไปออกกำลังก่อนครับ... จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 16:23:57 A:125.27.133.198 X:

ความคิดเห็นที่ 78 4.ไม่ต้องยกข้อกฏหมายมาพิจารณา คิดแบบชาวบ้านทั่วไป เมืยซื้อไม่ผิด...แต่ผัวเซ็นต์ยินยอม ติดคุก คิดอีกกี่ตลบก็งงครับ ...ไอ้ตรงนี้ล่ะที่มันแสนจะรันทดใจในความยุติทำของบ้านเรา จากคุณ : anubhan9 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 16:37:40 A:117.47.182.86 X:

ความคิดเห็นที่ 79 ลุงม้วน...ไป จ๊อกกิ้งที่ไหนครับ?????? เสร็จแล้วกลับมาต่อนะครับ....เดี๋ยวโดนถล่มไม่ยั้งนะครับ...อิอิ..แมนนี้ ขนะไปแล้ว น๊อค ยก 12...55555 จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 16:42:11 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 80 rep 77 ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องภายในบริษัท ลูกน้องผิด เจ้าหน้าที่ผิด ไม่มีเรื่องอะไรครับ... แต่ลูกน้องที่คุณบอกนี่มันก็คือ เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่โดยตรงคนหนึ่ง ( ซึ่งประเด็นว่าเป็นลูกน้องหรือไม่... นี่ก็ปัญหาอีก ) ถ้าตรงนี้แสดงถึงเจตนาอะไรไม่ได้เลย... และต้องติดคุก ผมก็สงสัยว่า มันจะอะไรให้น่าเชื่อถืออีก เพราะศาลคงไม่รับตีความในทุกกรณี กลายเป็นเอาคนติดคุกโดยการตีความ แบบไม่โปร่งใสด้วย... หรือถ้านายกมีเอี่ยวกับ ผู้มีหน้าที่ จริงๆ คุณหาความเชื่อมโยงตรงนี้ได้ไม่ยากครับ... พิสูจน์เลยว่า " ตีความผิดอย่างไร... " " ฮั้วกันยังไง... " และก็ต้องเอาผิดด้วยกันทั้งคู่ สมมติถ้าเป็นกรณีเงินหลวงอย่างที่คุณว่า ประเด็นนี้จะมาเพิ่มความโปร่งใสในการตัดสิน และลบข้อแก้ต่างว่าไม่มีเจตนา เองครับ... ไม่ใช่มาบอก คนขายไม่ผิด คนซื้อไม่ผิด หาอะไรผิดไม่ได้เลย แต่พอดีไอ้ 9 คนนั้น มันดันมีคนบอกว่าผิดเยอะกว่า... มันก็เลยผิด... สมมติเปลี่ยนจากไอ้ 9 คนนั่นไปซัก 1 - 2 คน ก็อาจกลายเป็นว่า ไม่ผิด ไม่ติดคุก ประหลาดดีมั้ยครับ... เช่นนี้แล้ว มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม อยู่ตรงไหนกันครับ... หรือแค่เพียงว่า " คำตัดสิน " ถือเป็นสิ้นสุด... นี่คงไม่ต่างอะไรกับระบอบทาสเลยครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 16:58:02 A:124.120.16.92 X:

ความคิดเห็นที่ 81 แล้วทำไมผู้ขายถึงไม่ได้รับโทษ  ถ้าผู้ซื้อผิด จากคุณ : คนเจริญ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:20:42 A:124.120.77.164 X:

ความคิดเห็นที่ 82 ผ่านมา 1 วัน...จากการประมวลความเห็นทั้งหมด ที่หลากหลาย ทำให้ได้ข้อสรุปดังนี้ 1. ทักษิณ ก่อนการซื้อขาย..ได้ตรวจสอบก้บ กฤษฎีกา แล้ว ว่า สามารถกระทำได้ เพราะ กองทุนฟื้นฟู ไม่ได้อยู่ในอำนาจการดูแลของ นายก..นายกไม่มีสิทธ ที่จะให้คุณให้โทษได้(ถ้าเชื่อ กฤษฎีกาไม่ได้ ก็ปิด สำนักงานนี้เสีย เพราะไม่มีประโยชน์ ที่จะให้คำปรึกษากับรัฐบาล) 2.ก่อนการซื้อขาย..กองทุนฟื้นฟู ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จะเข้าประมูลแล้ว และ เห็นว่า ไม่มีความผิดทางกฎหมายใดๆ จึงให้มีการประมูลเกิดขึ้นได้(ในกรณีนี้ ถ้าทักษิณผิด กองทุนฟื้นฟูต้องผิดก่อน) 3. การประมูล..ผลประมูล คุณหญิง ได้ให้ราคาสูงสุด จากราคากลาง จากผู้ร่วมประมูล 3 ราย..จึงเป็นการสมบูรณ์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีผู้ใดเสียประโยชน์ 4.สนง.ที่ดิน ให้ความเห็นว่า ทักษิณ ไม่เซนต์ยินยอม ..การซื้อขายก็สามารถกระทำได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย 5. เมื่อมีการชี้มูลความผิด....องกรที่เป็นผู้ตักสิน เกิดขึ้นมาหลังจากการซื้อขายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทำให้มองได้ว่า เป็นการแต่งตั้งบุคคล มาดำเนินเรื่องนี้อย่างโดยเฉพาะเจาะจง 6.ได้มีการทักท้วง จากคู่กรณีถึงความไม่ชอบมาพากลของเหตุจาก ข้อ 5..แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ 7.ศาลที่เกิดขึ้น..เป็น ศาลเดียวที่ไม่มี อุทรณ์..ฎีกา..ใดๆ ทำให้ผู้เสียหายไม่มีสิทธฺ แสดงความบริสุทธ์..หรือแก้ตัวใดๆ ซึ่งขัดต่อ ความยุติธรรม ทั่วๆไปในสากลโลก 8.การตัดสิน ขัดต่อสายตา และความรับรู้ของประชาชนทั่วไป...ที่ ผู้ซื้อ-ผู้ขาย..ไม่มีความผิด..แต่ผู้เซ็นต์ยินยอม ในฐานะสามี เกิดความผิด แต่ผู้เดียว และต้องรับโทษ ทางอาญา 2ปี เมื่อการตัดสิน ได้ผ่านพ้นไปแล้ว...เรา-ท่านก็ต้องยอมรับคำพิพากษานั้น..แต่ประชาชนส่วนมาก(ไม่แน่ใจ) ยังคงความแคลงใจ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเบื้องต้น...จึงได้เกิดข้อกังขาวิพากษ์กันอยู่ทั่วไป......นี่คือความรู้เบื้องต้นให้บรรดาผู้ที่ไม่ทราบข้อมูลที่ ลงลึกในรายละเอียด...ได้ทราบและเป็นความรู้ที่น่าศึกษาว่า...เหตุเกิดอย่างไร??และจบได้อย่างไร??? ส่วนจะจบแน่นอนหรือไม่..ต้องคอยติดตามครับ จากคุณ : chongcob เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 07:43:53 A:110.164.31.154 X:

ความคิดเห็นที่ 83 ตกลงเลยยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณลุงม้วน ok. ที่ว่า... " อีกทั้งธปท.ก็ไม่ใช่องค์กรอิสระ ไปเปิดรธน.ดูได้ " - รธน.มาตราไหนช่วยระบุด้วย หรือช่วยนำข้อมูลนี้มาให้ดูที จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 18:29:41 A:124.121.40.87 X:

ความคิดเห็นที่ 84 83... คุณจะเอาตัวบทเกี่ยวกับเรื่อง การใช้เสียงข้างมากตัดสิน ผมก็หาให้คุณแล้ว นี่จะให้หากฎหมาย มายืนยันว่าธปท.ไม่ใช่องค์กรอิสระอีก ... จริงๆแล้วผมคิดว่าคุณมีเจตนาจะเอาชนะเท่านั้น ไม่ได้ต้องการความรู้ สักเท่าไหร่หรอก และผมก็ไม่อยากจะไปหักหาญอะไรกับคุณ จึงทำเป็น มองไม่เห็นซะ แต่เมื่อคุณทวงมา ก็ขอตอบละกัน... ตามรธน.กำหนดให้มีองค์กรอิสระ เพียงสี่องค์กร เท่านั้นส่วนจะเป็นองค์กร อะไรบ้างคุณไปหาอ่านเอาเองละกัน และตามพรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย หมวด 8 การกำกับดูแล ม.49 กำหนดให้ รมต.มีอำนาจกำกับดูแล... ส่วนเรื่องผู้เสียหาย ก็เหมือนกันคุณยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ แต่ผมไม่อยากจะอธิบายมากเดี๋ยวคุณก็เถียงมาอีก ยังงัยถ้าคุณSavor ถ้าได้อ่านโพสนี้จะช่วยอธิบายแทนก็จะดีมากเลยครับ เพราะดูท่าคุณTSC จะเชื่อถือคุณ SaVor มากกว่าผมนะ จากคุณ : ลุงม้วน ok. เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 20:41:34 A:125.27.128.130 X:

ความคิดเห็นที่ 87 ขอลงเป็นรูปแล้วกัน ติดกรองคำ จากคุณ : TSC เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 17:46:12 A:124.122.3.31 X: